หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปกับงานเลขาส่วนตัวของอัคคี เขายังไม่ให้เธอติดตามออกนอกสถานที่ไปไหน และยังไม่ได้ให้เธอจัดแจงเรื่องส่วนตัวของเขามากนัก งานหลักของเธอตอนนี้คือศึกษางานของบริษัททุกซอกทุกมุมอย่างละเอียดจากวิลาวรรณ เธอทำมันได้ดีและสนุกมากที่ได้เรียนรู้งานจากเลขาเก่าแก่คนเก่งของเขา
บริษัทนี้มีผลิตภัณฑ์มากมายให้เธอได้ทำความรู้จัก แถมวิลาวรรณก็คุยเก่งใจดีและเป็นคนละเอียดรอบคอบ สมกับเป็นเลขามืออาชีพ ตอนนี้วิลาวรรณให้เธอศึกษาผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ที่บริษัทกำลังจะเปิดตัว นั่นก็คือไวน์องุ่นระดับพรีเมียม ภารกิจต่อจากนี้คือในเรื่องของการทำโฆษณาพร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งทางบริษัทได้ข้อสรุปเรื่องพรีเซ็นเตอร์แล้ว นั่นคือนางเอกแนวหน้าตัวท็อปของเมืองไทย โรส โรสิตา เธอสวยสง่าราวนางหงส์ พรีเมียมเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์นี้เป็นที่สุด
อัคคีเป็นผู้บุกเบิกที่จะทำไวน์ระดับพรีเมียมขาย เขาเสนอโครงการนี้กับบิดาเมื่อหลายปีก่อนและได้รับการอนุมัติ จึงได้เริ่มลงมือผลิตหมักบ่มตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ในตอนนี้ไวน์ที่เขาผลิตไว้พร้อมสำหรับการขายแล้ว ยังคงเหลือเพียงขั้นตอนสุดท้ายคือการทำโฆษณาเท่านั้น ซึ่งทุกอย่างก็ได้เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว เหลือเพียงขั้นตอนการถ่ายทำ ตัดต่อ ออกอากาศและจัดงานเปิดตัวสินค้าพร้อมพรีเซ็นเตอร์เท่านั้น
ตอนนี้ แม่กับพี่ชายเธอ รู้แล้วว่าเธอเปลี่ยนงาน พวกเขาไม่ได้ว่าอะไรเพราะงานใหม่นี้เงินเดือนดีกว่าเดิมเป็นเท่าตัว แต่จะติดนิดหน่อยตรงที่ต้องบังคับให้ย้ายมาอยู่คอนโดเดียวกันกับเจ้านายถึงแม้จะอยู่คนละห้องคนละชั้นกันก็ตาม แต่พี่ชายที่หวงน้องสาวมากๆอย่าง พิชญะ หรือ น้ำเหนือ สูตินรีแพทย์หนุ่มอนาคตไกล ก็อดห่วงน้องน้อยของเขาไม่ได้
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ และเป็นวันแรกที่เพชรน้ำผึ้งย้ายเข้ามาอยู่คอนโดสวัสดิการของบริษัท พิชญะไม่ได้เข้าเวรจึงมาช่วยน้องสาวขนย้ายของและจัดห้องใหม่แต่เช้า และตามด้วยการเสนอตัวนอนเป็นเพื่อนน้องสาวหนึ่งคืน เธอกับแม่เคยชินกับอาการแบบนี้ของเขาแล้วจึงไม่ขัด
หมอหนุ่มกังวลเรื่องความปลอดภัย ทั้งจากคนอื่นและจากเจ้านายหนุ่มหล่อคาสโนวา ใจจริงเขาไม่ไว้ใจไอ้เจ้านายหน้าหล่อของน้องสาวสักเท่าไหร่ แต่ในเมื่อเธอยืนยันว่าไม่มีอะไรน่ากลัว เขาไม่ได้เข้ามายุ่มย่ามวุ่นวายเรื่องส่วนตัวกับเธอ และอีกเหตุผลคือ เพชรน้ำผึ้งโตแล้ว ไม่ได้เป็นน้องน้อยๆที่เขาจะต้องคอยกางปีกปกป้องในทุกๆเรื่องอีกต่อไป เขาเป็นพี่ก็ต้องให้โอกาสน้องได้เลือกเส้นทางชีวิตและเรียนรู้ผิดถูกด้วยตนเอง แม้จะห่วงแค่ไหนก็ทำได้แค่อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ
ภายในล็อบบี้คอนโดมิเนียมหรูใจกลางเมือง ดวงตาคู่คมดำสนิทจ้องมองชายหญิงคู่หนึ่งที่เดินโอบไหล่หยอกล้อกันขึ้นลิฟต์ไป ฝ่ายชายเขาไม่รู้จัก แต่ฝ่ายหญิงเขารู้จักดี ก็แม่เพชรน้ำผึ้ง เมียมโน ผู้หญิงที่เกือบฟันเขาแล้วทิ้ง และรั้งตำแหน่งเลขานุการส่วนตัวของเขานั่นเอง
ชายหนุ่มกัดฟันข่มอารมณ์จนสันกรามนูนเด่นขึ้นมา เขากำมือแน่น ดวงตาเป็นประกายไฟลุกโชนสมชื่อเจ้าตัว
“นั่นใคร”
“เอ่อ คุณน้ำผึ้งไงครับ”
“ฉันรู้แล้ว แต่ไอ้ผู้ชายคนนั้น มันเป็นใคร”
“ผมไม่ทราบครับ งั้นเดี๋ยวผมขึ้นไปถามเธอให้”
“ไม่ต้อง เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจัดการเอง ย้ายเข้าคอนโดวันแรก ก็เอาผู้ชายมานอนด้วยเหยียบจมูกฉันถึงที่ เธอแน่มากน้ำผึ้ง”
“คุณน้ำผึ้ง เข้ามาพบผมด้วยครับ”
น้ำเสียงเยือกเย็นดังออกมาตามสายโทรศัพท์
หญิงสาวเคาะประตูขออนุญาต แล้วเดินไปหยุดยืนที่หน้าโต๊ะเจ้านายเพื่อรอรับคำสั่ง
“ท่านประธานมีอะไรให้รับใช้คะ”
“มีแน่ครับ”
ว่าพลางลุกขึ้นเดินไปหยุดด้านหลังหญิงสาว แล้วเดินหน้าต้อนเธอให้ถอยร่นไปจนชนกับขอบโต๊ะหมดหนทางหนี
“ผมสั่งคุณแล้ว ทำไมคุณถึงดื้อไม่ทำตาม ผมห้ามคุณมีแฟน ทำไมคุณยังมี แถมเอาไปนอนเหยียบจมูกถึงคอนโดของผม”
เพชรน้ำผึ้งมึนงง เธอไปมีแฟนตอนไหน แล้วเอาผู้ชายขึ้นคอนโดตอนไหน อ๋อ เธอนึกออกแล้ว ต้องเป็นพิชญะ พี่ชายของเธอแน่ที่เขาหมายถึง ดีล่ะ ในเมื่อเข้าใจผิดว่าเธอมีแฟนและนอนด้วยกันแล้วแบบนี้ก็ดี เขาจะได้ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับเธอตลอดไป เธอจะได้ไม่ต้องคอยกังวลว่าเขาจะทำตามสัญญาจริงๆไหม
“ดิฉันว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ ที่ไม่ว่าใครก็ไม่ควรมาวุ่นวายหรือมาบีบบังคับกันนะคะ ดิฉันจะมีแฟนหรือไม่มี มันก็ไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของดิฉันลดลง ดิฉันยังคงทุ่มเทเวลาให้กับงานได้อย่างเต็มที่”
“คุณจะแน่ใจได้ยังไง คุณเอาอะไรมารับประกันว่ามันจะไม่เกิดปัญหาต่องานของผม ถ้าคุณต้องเดินทางไปต่างประเทศกับผมเพื่อประชุมงานสักสองอาทิตย์ แฟนคุณจะยินยอมและไม่มีปัญหาหึงหวง จนทะเลาะกัน แล้วทำให้คุณไม่มีสมาธิในการทำงานหรือ คุณอาจทำงานผิดๆ ถูกๆ จนทำให้บริษัทเสียหายเป็นมูลค่าที่คุณกับแฟนของคุณคาดไม่ถึงก็ได้”
“ท่านประธานนี่รอบคอบจังเลยนะคะ แล้วก็จินตนาการเก่งด้วย เหตุการณ์ยังมาไม่ถึงจะรู้ได้อย่างไรว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้ ดิฉันขอยืนยันว่าดิฉันมีความเป็นมืออาชีพพอค่ะ จะไม่มีอะไรมาทำให้ดิฉันทำงานเสียหายแล้วกระทบต่อบริษัทแน่นอนค่ะ”
“ทำไมคุณถึงดื้อนัก คุณรักมันมากเลยหรือไง”
ชายหนุ่มขบกรามแน่น
“ค่ะ ดิฉันรักเขามาก”
เธอตอบพร้อมกับจ้องตาคมดุสีดำสนิทอย่างแน่วแน่ ก็ต้องจริงอย่างเธอว่า เธอไม่ได้โกหกเขาสักนิด เธอรักผู้ชายคนนั้นมากเท่าชีวิต เพราะเขาเป็นพี่ชายที่คลานตามกันมา
“ไปเลิกกับมันซะ”
ชายหนุ่มขบกรามข่มอารมณ์ยากขึ้นทุกที
“ไม่ค่ะ ดิฉันยอมท่านประธานในสัญญาทาสเรื่องอื่นๆหมดแล้ว แต่เรื่องนี้ดิฉันไม่มีวันยอม ดิฉันไม่เลิก”
เธอเชิดหน้าขึ้นตอบอย่างถือดี
ความอดทนของเขาถึงขีดจำกัด แขนแกร่งกระชากร่างบางมาปะทะอกแล้วกอดรัดเธอแน่น พร้อมทั้งบดจูบเธออย่างรุนแรงราวกับจะทำโทษที่เธอดื้อกับเขา มืออีกข้างสอดเข้าท้ายทอยแล้วล็อกคอเธอไม่ให้หันหน้าหนีไปไหนได้ เธอพยายามดิ้นรนให้ออกจากการกอดกุมของร่างแกร่ง แต่ยิ่งดิ้นเขาก็ยิ่งรัดจนเธอปวดร้าวไปทั้งร่าง จึงต้องหยุดอยู่นิ่งๆ ปล่อยให้เขากระทำกับร่างกายเธอให้สาสมใจ
เมื่อสัมผัสได้ว่าเธอหยุดดิ้นรนขัดขืนแล้ว เขาก็คลายอ้อมกอดที่รัดแน่นลง จากที่ตะโบมจูบเธออย่างรุนแรงเพื่อทำโทษ ก็กลับกลายเป็นจูบที่นิ่มนวล เนิบนาบ หนักหน่วงและร้อนแรงเร้าอารมณ์ให้เธอเคลิบเคลิ้มตาม เธอเริ่มจูบตอบเขา เรียกเสียงครางต่ำอย่างพึงพอใจในลำคอชายหนุ่ม มืออีกข้างคลายการกอดรัดแล้วขยับลากเลื่อนมากอบกุมอกอวบของเธอพร้อมทั้งนวดคลึงลูบคลำขยำขยี้จนเธอทนต่อความเสียวซ่านไม่ไหว ส่งเสียงครางเบาๆ ออกมาให้ชายหนุ่มได้ฮึกเหิม
หนุ่มสาวยืนกอดรัดกันนัวเนีย แลกจูบหวานซึ้งเนิ่นนาน จนร่างบางอ่อนปวกเปียกราวเทียนไขถูกไฟรน ชายหนุ่มจึงค่อยๆ ถอนจูบออกมา เขาจ้องตาเธอด้วยแววตาหวานเยิ้ม นิ้วหัวแม่มือใหญ่ลูบไล้ริมฝีปากอิ่มสวยที่บวมเจ่อจากการกระทำของเขาอย่างหลงใหล
“คุณเป็นของผม น้ำผึ้ง ผมไม่ยอมยกคุณให้ใครแน่”
เสียงโทรศัพท์ในห้อง เรียกให้หนุ่มสาวตื่นจากภวังค์หวาม
“ท่านประธานคะ คุณโรสขอเข้าพบค่ะ”
“ให้เธอเข้ามาได้”
สิ้นคำพูดชายหนุ่ม เพชรน้ำผึ้งก็รีบจัดแต่งเสื้อผ้าของตนให้เข้าที่เข้าทาง ทันเวลาที่ โรสิตา เปิดประตูห้องชายหนุ่มเข้ามา
หญิงสาวสวยจัดในชุดเดรสสั้นสีแดงสดขับผิวขาวผ่อง รูปร่างเพรียวบางแต่หน้าอกหน้าใจอวบอัดจนแทบล้นออกชุด เธอแต่งหน้าค่อนข้างจัด แต่งแต้มริมฝีปากอวบอิ่มด้วยลิปสติกสีเดียวกันกับสีชุด เธอส่งยิ้มหวานหยดแล้วตรงดิ่งเข้ามาหาเขาทันที
“สวัสดีค่ะ คุณไฟ”
ดาราสาวสาวส่งยิ้มหวานหยดให้ชายหนุ่มคนเดียวในห้อง
“เอ่อ น้ำผึ้ง คุณออกไปก่อนนะครับ ฝากบอกคุณวิด้วยว่าช่วยเอาน้ำมาเสิร์ฟแขกหน่อย”
เขาหันมาพูดกับหญิงสาวหน้าหวาน ที่ยังแทบเรียกสติกลับมาไม่เต็มที่
“ค่ะ ท่านประธาน”
เธอตอบรับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แล้วรีบเดินออกมา ในจังหวะที่เดินผ่านหญิงสาวเปรี้ยวจี๊ดเข็ดฟันอีกคนในห้อง ทั้งสองสาวได้มองสบตากันด้วยความรู้สึกที่ต่างกันออกไป
หนึ่งสาวหน้าหวาน รู้สึกได้ว่า เธอถูกสายตาอำมหิตจากนางเอกโรสิตานี่ หล่อนจ้องมองมายังเธอไม่วางตา สาเหตุคงเพราะเธออยู่ใกล้ชิดกับเขา จากการคาดเดา โรสิตากับอัคคี ต้องมีอะไรบางอย่างต่อกันแน่นอน แค่คิดก็ให้รู้สึกวูบโหวงในอก ผู้หญิงข้างกายเขามีมากมาย ทั้งดารา นางแบบ นางเอกแถวหน้า เธอก็แค่คนธรรมดาไม่ได้สวยอะไร มีหรือจะไปสู้สาวๆพวกนั้น แล้วเขาจะมายุ่งวุ่นวายกับเธอทำไมกัน ในเมื่อเขามีตัวจริงอยู่แล้ว คนที่จะได้เคียงข้างเขาในอนาคตก็คงไม่แคล้วสาวสวยดีกรีดาราดังคนนี้เป็นแน่
ส่วนอีกหนึ่งสาวเปรี้ยวจี๊ด ดีกรีนางเอกอันดับหนึ่งจ้องมองเลขาสาวสวยหน้าหวานเขม็ง ผู้หญิงคนนี้ยิ่งมองยิ่งสวย ดวงตากลมโตหวานหยด รูปร่างบางสวยสมส่วน หล่อนสวยเกินไปที่จะทำงานใกล้ชิดกับคาสโนวาตัวพ่อ ชายที่เธอแอบชอบและแม่ของเธอก็พูดกรอกหูทุกวันให้จับเขาให้อยู่หมัด ผู้ชายที่ทั้งหล่อ ทั้งรวย ทั้งเก่งและมีเสน่ห์ขนาดนี้ ใครได้ไปโชคดีไปทั้งชาติ เธอแอบหมายปองเขามานาน จนวันที่ได้มีโอกาสมาทำงานร่วมกัน เธอก็ตั้งใจแน่วแน่ที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เขามาครอบครอง
เรดาร์เธอเริ่มทำงาน เธอรู้สึกได้ถึงความผิดปกติของหนุ่มสาวทั้งสองคน จะต้องมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นแน่ๆ ก่อนที่เธอจะเข้ามาในห้องนี้ ทั้งคู่ต้องไม่ใช่แค่เจ้านายกับลูกน้องกันธรรมดาๆ แต่จะเป็นอะไรก็ช่าง เธอจะไม่มีวันให้ผู้หญิงหน้าไหนมาแย่งเขาไปจากเธอแน่นอน
“คุณโรสมีอะไรกับผมหรือเปล่าครับ มาหาถึงนี่”
“แหม ถ้าไม่มีอะไร โรสมาหาไม่ได้หรอคะ พอดีโรสมาคุยงานแถวนี้เลยแวะมาหาน่ะค่ะ อยากมาคุยเรื่องที่เราจะไปถ่ายโฆษณากันที่ไร่องุ่น โรสอยากได้รายละเอียดเล็กๆน้อยๆ จริงๆโรสไม่ได้อยากมากวนเวลาทำงานของคุณไฟหรอกนะคะ แต่โรสไปหาคุณป้าที่บ้านออกบ่อยไม่เคยได้พบคุณไฟเลย ไม่งั้นเราคงได้คุยกันที่บ้านแล้ว อีกอย่างก็อยากมาชวนคุณไฟไปทานข้าวเที่ยงด้วย ทานไปคุยไป ดีไหมคะ”
ชายหนุ่มไม่อาจเสียมารยาทกับพรีเซ็นเตอร์คนสำคัญของทางบริษัทและยังเป็นลูกสาวเพื่อนรักของคุณแม่ได้ จึงตกปากรับคำไปทานข้าวกับหญิงสาวทันที
เขาออกจากห้องทำงานมาโดยมีสาวสวยระดับประเทศเดินควงแขนเขาอย่างแนบชิดแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของอย่างเต็มที่
“ผมออกไปทานข้าวเที่ยงกับคุณโรสนะ คงไม่กลับเข้ามาแล้ว มีอะไรด่วนก็โทรมานะครับคุณวิ”
ชายหนุ่มหันมาสั่งงานเลขาหน้าห้อง แล้วเหลือบสายตาไปมองแม่สาวหน้าหวาน ทันได้เห็นเธอมองเขาอยู่ก่อนแล้ว ก่อนที่จะเธอหลบสายตากลับไปจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์เหมือนว่างานที่หน้าจอนั่นมันน่าสนใจหนักหนา
ทุกการกระทำของทั้งเขาและเลขาหน้าหวาน ตกอยู่ในสายตาของโรสิตาตลอดเวลา เธอยิ่งแน่ใจมากขึ้นว่ามันต้องมีอะไรในกอไผ่ ไม่ได้การละ เธอจะทะนงตนว่าเป็นนางเอกดังและยังเป็นลูกสาวเพื่อนรักของแม่เขาไม่ได้เสียแล้ว ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าอย่างไรเสียเธอกับเขาก็ต้องได้เจอกันสักวันและเขาคงตกหลุมเสน่ห์เธอไม่ยาก อีกทั้งผู้ใหญ่ก็เชียร์อย่างออกนอกหน้า เขาจะหนีเธอพ้นได้อย่างไร แต่ตอนนี้เธอรออะไรไม่ได้แล้ว เธอจะต้องเป็นฝ่ายเข้าหาเขาและวิ่งตามไขว่คว้าเขาเอง เพราะถ้าเธอไม่ทำอะไรสักอย่าง เธอได้เสียเขาไปให้แม่เลขานั่นแน่นอน และคนอย่างโรสิตา เธอไม่มีวันยอม เธออยากได้อะไรไม่ว่าสิ่งนั้นจะยากเย็นเพียงใด เธอต้องได้มันมาครอบครอง
“นี่ผมมีเลขาเป็นปลาทูแม่กลอง หน้างอคอหักไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันครับ” ชายหนุ่มพูดหยอกเย้าขณะขับรถพาเธอไปดูโลเคชันที่สาม ที่สุดท้ายที่เขาแพลนเอาไว้ว่าจะมาดูสถานที่สำหรับถ่ายทำโฆษณา ซึ่งตลอดเส้นทางที่เธอนั่งโดยสารมากับรถยนต์คันหรูของเขา เธอก็ทำหน้าตาบึ้งตึง ไม่ยอมพูดจากับเขาสักคำ เหตุเพราะความเอาแต่ใจของเขา ที่อดทนอดกลั้นไม่ไหว ไปทำมิดีมิร้ายเธอในลำธารใสแจ๋ว แถมตอนแรกๆเธอยังไม่ยินยอมพร้อมใจไปกับเขาอีกต่างหาก แต่เขาก็ใช้ประสบการณ์ที่สั่งสมมานาน เล้าโลมจนเธอโอนอ่อนผ่อนตามไปกับเขาได้ในที่สุดอย่าว่าแต่เธอไม่ยอมพูดยอมจากับเขาในรถคันนี้เลย พอเขาทำอะไรเธอและบังคับอาบน้ำด้วยมือของเขาให้เธอเสร็จเรียบร้อย เธอก็สะบัดตัวลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าแล้วเดินหนีเขาออกมาจากป่าเลย จนเขาแทบจะคว้าสัมภาระแล้ววิ่งตามเธอไม่ทัน ผู้หญิงเวลาโกรธจะมีเรี่ยวแรงมหาศาลท่าจะจริง เพราะเพียงแค่แป๊บเดียวที่เธอออกตัวเดินไปจากเขา ก็เห็นหลังเธอไวๆอยู่ไกลลิบๆโน่นแล้ว “ก็ใครทำอะไรกับฉันไว้ล่ะคะ จะให้ฉันยิ้มหน้าชื่นตาบานหรือยังไงที่โดนประธานบริษัทข่มขืนกลางป่าแบบนั้น” “ข่มข
หนุ่มสาวถูกปลุกแต่เช้าตรู่ด้วยการที่คุณปู่คุณย่าเจ้าของโฮมสเตย์นำอาหารเช้ามาเสิร์ฟถึงห้อง และแนะนำให้ทั้งคู่เดินลัดเลาะไปตามไหล่เขาเข้าไปในป่าตามทางเดินที่มีป้ายปักไว้ ใช้เวลาเดินเท้าไม่เกิน 10 นาที จะได้เจอกับน้ำตกธรรมชาติขนาดเล็กที่เป็นแหล่งต้นน้ำของไร่องุ่นและโฮมสเตย์แห่งนี้ ท่านแนะนำให้ทั้งคู่ไปอาบน้ำใสๆ เย็นๆ และดื่มด่ำกับธรรมชาติที่นั่น โดยทางโฮมสเตย์จะมีย่ามใบโตให้ผู้เข้ามาใช้บริการนำไปใส่สัมภาระติดตัวไปเล่นน้ำตกอีกด้วย เมื่อทั้งคู่ทานอาหารเช้าและเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟันและทำธุระส่วนตัวเรียบร้อย จึงจัดสัมภาระใส่ย่ามคนละใบเพื่อไปเยี่ยมชมน้ำตกตามคำแนะนำของคุณปู่คุณย่าเจ้าของพื้นที่ ทั้งคู่ลัดเลาะมาตามไหล่เขาหลังห้องพักของตนเองได้ไม่นาน เจอป้ายไม้บอกทางขึ้นน้ำตก อัคคีเดินนำหญิงสาวไปตามทางเดินที่ลาดชัดเพียงเล็กน้อย “หวังว่าคราวนี้ คุณคงไม่พาฉันหลงอีกนะคะ ท่านประธาน” เธอพูดเย้าพร้อมกลั้วหัวเราะในลำคอระหง “คร้าบ ผิดพลาดแค่ครั้งเดียว คุณจะพูดไปจนถึงลูกชายคนโตของเราบวชเลยหรือครับ ที่รัก”
ทั้งคู่ขับรถเข้ามาตามป้ายบอกทาง จนเจอกับป้ายของโฮมสเตย์นั้น เมื่อขับผ่านเข้าเขตโฮมสเตย์ก็พบว่าที่นี่เป็นไร่องุ่นขนาดกลาง ที่ค่อนข้างมีความเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์เพราะตั้งอยู่ติดกับชายเขา ทั้งคู่มองเห็นเรือนหลังใหญ่หนึ่งหลังน่าจะเป็นบ้านเจ้าของไร่องุ่นและโฮมสเตย์แห่งนี้ มองไกลออกไปราว 50 เมตร ก็พบกับเรือนไม้หลังเล็กกระทันรัดรูปแบบน่ารัก เรียงยาวไปจนสุดแนวเขา เรือนหลังน้อยถูกโอบล้อมด้วยธรรมชาติ ป่าเขาและไร่องุ่น ช่างเป็นสถานที่ที่น่าเข้ามาพักผ่อนเพื่อหลีกหนีความเหนื่อยหน่ายและวุ่นวายในเมืองเป็นอย่างมาก “เหลือหลังเดียวติดชายป่าริมน้ำหรือคะ” หญิงสาวถามด้วยความตกใจและผิดหวังปนเปกัน อะไรกัน เธอหลงทางเข้ามาไกลและลึกขนาดนี้ ยังมีคนเสาะแสวงหามาแย่งเข้าพักจนเต็ม หรือพวกเขาก็หลงทางมาอย่างเธอทั้งคู่ “จ้าลูก เหลือหลังเดียว ช่วงนี้นักท่องเที่ยวเยอะน่ะลูก เอาไหมจ๊ะ” “เอาครับ” ว่าแล้วก็รับกุญแจห้องและเดินไปตามทางที่มีโคมไฟดวงน้อยส่องสว่างทันที โดยไม่สนใจหญิงสาว ดั่งกลัวว่าหากให้เวลาเธอ
“น้ำผึ้งครับ เดี๋ยวเราต้องไปดูโลเคชันที่คุณกับคุณวิเสนอผมไว้นะครับ ผมเลือกมาสองสามที่แล้ว” อัคคีโทรศัพท์สั่งงานเลขาสาวแต่เช้า “รับทราบค่ะ” “ออ เอาเสื้อผ้าไปสักสองสามชุดนะครับ เราจะค้างกันหนึ่งคืน ขอไปดูแต่ละไร่ให้ละเอียดหน่อย อีกครึ่งชั่วโมงเจอกันที่ล็อบบี้เลยนะครับ” “ได้ค่ะ” แม้ใจจะแอบกังวล แต่ในการออกนอกพื้นที่แต่ละครั้ง ไม่ว่าจะใกล้ไกล เขามักจะมีชลธีตามไปดูแลด้วยเสมอ เธอจึงเบาใจลงไปได้บ้างว่าไม่ได้ไปกับเขาสองต่อสองแน่ เมื่อลงมาถึงล็อบบี้กลับปราศจากเงาของชลธีที่ปกติหากจะต้องไปทำงานนอกสถานที่เขาจะมารับเจ้านายของเขาเสมอ จึงมองไปรอบๆ เพื่อมองหาชายหนุ่มอีกครั้ง “มองหานายชลเหรอ” เหมือนมานั่งอยู่กลางใจ จนเธอนึกค่อนขอด “ค่ะ คุณชลยังไม่มาหรอคะ” “งานนี้เราไปกันแค่สองคนครับ ผมให้นายชลอยู่ประสานงานทางนี้แทนผม” “อ้าว เอ่อ จะดีหรือคะ”
วันนี้เป็นวันเสาร์ เพชรน้ำผึ้งโดนอัคคีโทรศัพท์ตามให้มาทำหน้าที่แจ๋วแต่เช้า หญิงสาวจึงเลือกใส่ชุดทะมัดทะแมงเพื่อสะดวกต่อการทำงาน คือเสื้อยืดสีขาวพอดีตัว กับกางเกงเลกกิ้งสีชมพูขาสั้นสูงจากเข่าไปหนึ่งคืบ เธอมัดผมรวบสูงเป็นหางม้ามีผ้าคาดผมมัดผูกเป็นโบเล็กๆสีเดียวกันกับกางเกง วันนี้เธอไม่แต่งหน้าเลยยิ่งทำให้เธอดูเด็กลงไปเป็นสิบปี เลขาสาวพ่วงตำแหน่งแม่บ้าน กำลังก้มๆ เงยๆ ทำความสะอาดห้องรับแขกอย่างขะมักเขม้น เขามีปัญญาจ้างแม่บ้าน แต่มาบีบบังคับใช้งานเธอแบบนี้เพราะต้องการกลั่นแกล้ง เธอรู้ดี เมื่อทำความสะอาดพื้นเสร็จแล้วจึงหยิบผ้าผืนน้อยมาเช็ดตามโต๊ะต่างๆ ที่จริงห้องเขาไม่ได้สกปรกอะไรเลย เหมือนมีคนมาทำความสะอาดอยู่ตลอดเวลาด้วยซ้ำ แต่คุณชายก็ยังจะปลุกหล่อนแต่ไก่โห่มาใช้งาน เธอมองค้อนไปที่ปะตูห้องนอนเขา นี่คงตื่นมาเพื่อโทรเรียกเธอมาใช้งานแล้วนอนต่อสินะ เงียบกริบไม่มากวนโมโหเธอเลย คิดพลางหยิบกรอบรูปตั้งโต๊ะที่ด้านในมีภาพใบหน้าชายหนุ่มหล่อส่งยิ้มมีเสน่ห์มาให้เธอ เห็นแล้วก็ให้หมันไส้คนในรูปนัก ทำอะไรตัวจริงไ
เป็นเวลาดึกแล้ว แต่คืนนี้เพชรน้ำผึ้งยังคงนอนพลิกกายไปมาบนเตียงกว้าง เธอนอนไม่หลับ เพราะภาพที่เขาควงเดินควงแขนไปกับนางเอกเบอร์หนึ่งเมื่อตอนกลางวัน ยังคงฉายซ้ำไปมาในสมองของเธอ มันไม่เพียงแค่ภาพนั้น เพราะคำพูดของเขาที่บอกว่าจะไม่กลับเข้ามาอีก ทั้งๆที่เวลานั้นมันยังไม่ถึงเที่ยงวันดีด้วยซ้ำ เขาไปไหน ไปทำอะไรกับเธอคนนั้น แค่ไปทานอาหารกันจริงหรือ ไม่ใช่ว่าป่านนี้คงไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว ในเมื่อทั้งคู่ต่างดูสนิทสนมถึงเนื้อถึงตัวกันขนาดนั้นและโรสิตาก็ดูจะชอบเขามาก เธอไม่ได้โง่ขนาดมองอาการที่โรสิตาแสดงออกต่อเขาและสายตาที่มองเธอแทบจะกินเลือดเนื้อนั้นไม่ออก ส่วนเขานั้นก็ระดับคาสโนวามีข่าวกับสาวๆ ไม่เว้นวัน มีหรือจะปล่อยให้สมันตัวสวยรอดไปได้ ไม่มีทางเลยจริงๆ ยิ่งคิดเพชรน้ำผึ้งก็ยิ่งหงุดหงิด พาลให้นอนไม่หลับ โถ่เอ๊ย ผู้ชายก็เหมือนกันหมด มาทำอะไรต่อมิอะไรกับเรา หลังจากนั้นก็มีท่าทีหึงหวง มองจากดาวอังคารยังดูออกว่าเขาต้องคิดอะไรกับเธอบ้างไม่มากก็น้อย แต่ทำไม สันดานผู้ชาย พอมีผู้หญิงที่ทั้งสวยทั้งเซ็กซี่เข้ามาหาหน่อย ก็สลัดเธอทิ้งอย่า