สิบห้านาทีต่อมา อลิซาเบธเดินเข้ามาในห้องรับแขกด้วยใบหน้าอันซีดเซียว ถึงจะปกปิดรอบดวงตาด้วยคอลซิลเลอร์ แต่มันก็ปรากฏรอยบอบช้ำให้เห็นอยู่ดี
"มาแล้วเหรอลูก มานั่งนี่สิ พี่เพชร ป้าพลอยกับลุงคริส มารอตั้งนานแล้ว" มาริสาบอกลูกสาว อลิซเบธจึงเดินเข้าไปพนมมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง และรักษามารยาท ด้วยการยกมือไหว้คนตัวสูง ที่นั่งอยู่ตรงนั้นด้วย "สวัสดีค่ะพี่เพชร" อลิซาเบธเป็นฝ่ายทักทาย ทำให้คนหน้านิ่ง ที่โดนบังคับมานั้น หันมามองอย่างเสียไม่ได้ พลันสองสายตาสบประสานกัน แววตาของชายหนุ่มไหววูบอยู่เล็กน้อย เมื่อมองเห็นรอยช้ำตรงขอบตา ก่อนที่จะหันหน้าหนีเหมือนเดิม เขาไม่อยากจะยอมรับความผิดอะไรทั้งนั้น และไม่อยากจะยอมรับการแต่งงานที่จะเกิดขึ้นโดยไม่เต็มใจ "เพชร น้องทักทายน่ะลูก" พลอยใสหันไปสะกิดลูกชาย ก่อนที่เขาจะยกมือรับไหว้อย่างเนือยๆ ทุกอย่างถูกบันทึกอยู่ในความรู้สึกของอลิซาเบธทั้งหมด และวันนี้ เธอเลือกแล้ว ว่าจะคืนแหวนให้เขาไป "ลุงคริสกับป้าพลอยจะมาคุยเรื่องแต่งงานน่ะลูก ก็อย่างที่ตกลงกันไว้ไง ว่าหลังจากเรียนจบ ลูกทั้งสองต้องแต่งงานกัน" มาริสาบอกกับลูกสาวและคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร เพราะเธอรู้ดีว่าอลิซาเบธหลงรักผู้ชายตัวสูง ที่นั่งอยู่ในห้องนี้ ตั้งแต่แตกเนื้อสาว ในห้องนอนของเธอ มีรูปภาพของเพชรกล้าเต็มไปหมด และขีดปฏิทินรอคอยเขาทุกวัน แต่ทว่าวันนี้ "อลิซยังไม่พร้อมค่ะ อลิซยังไม่อยากจะแต่งงานกับใคร" เธอพูดพลางเตรียมแหวนกล่องนั้นใส่ในมือ รอจังหวะคืนให้เขา คราวนี้ผู้ใหญ่ต่างมองหน้ากันเหลอหลา ก่อนที่ไต้ฝุ่นจะถามลูกสาวว่า "ทำไมล่ะอลิซ หนูรอพี่เขาอยู่ไม่ใช่เหรอ" ทุกคนในบ้านต่างรู้กันหมด ว่าอลิซาเบธคิดกับเพชรกล้ายังไง เพราะเธอคอยวิ่งตามเขาตั้งแต่เด็ก และดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่ทุกครั้งที่เขามาหา แต่ทว่าวันนี้ "อลิซอยากจะคืนแหวนให้ พี่เพชรค่ะ อลิซอยากจะขอถอนหมั้น" เธอวางแหวนลงที่โต๊ะกลางห้องรับแขกและการกระทำนี้ทำให้ผู้ใหญ่ต่างตกใจ แตกต่างจากเขาคนนั้น เพียงแต่นั่งมองทุกอย่างนิ่งๆ เพราะเขาคิดว่าอลิซาเบธรักตัวเองมาตลอด ทุกอย่างที่แสดงออกมานั้น 'มันเป็นเพียงการเรียกร้องความสนใจ' "หนูอลิซ คงงอนพี่เพชรใช่ไหม ป้าบอกแล้วว่า เมื่อวานพี่เขาเหนื่อย เลยรีบขึ้นไปนอน" พลอยใสหาข้อแก้ตัวให้ลูกชายอีกแล้ว โดยที่เจ้าตัวไม่ยอมพูดอะไร ไต้ฝุ่นมองหน้าเด็กทั้งสองคน เขาเห็นลูกสาวกลับมาและปิดประตูเข้าห้องเงียบตั้งแต่เมื่อวาน ก็พอรู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ที่ผ่านมาที่ให้หมั้นหมายเพราะเห็นว่าอลิซาเบธรักผู้ชายคนนี้มาก และครอบครัวทั้งสองสนิทกัน แต่ถ้าหากลูกบอกอยากจะถอนหมั้น "........" ไต้ฝุ่นนิ่งเงียบเพราะกำลังใช้ความคิด "เอาไงดีคะคุณ" มาริสาหันไปถามสามี เกรงใจเพื่อนก็เกรงใจ ไหนจะเรื่องเงินที่ร่วมทุนกันหลายพันล้านนั่นอีก "ถ้าอลิซไม่อยากแต่ง พ่อก็จะไม่บังคับ" เขาหันไปบอกลูกสาว ความเป็นพ่อปกติก็หวงลูกอยู่แล้ว ที่ยอมให้หมั้นกัน เพราะเห็นว่าสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก และเกรงใจผู้ใหญ่ทางนั้น ตระกูลมานูเอลนำเงินหลายพันล้านมาลงทุนในที่ดินของเขา เพื่อแลกกับการแต่งงานของอลิซาเบธและเพชรกล้า หลังจากแต่งงานกันทรัพย์สมบัติที่ร่วมลงทุนกันทั้งหมด จะตกเป็นของลูกทั้งสองฝ่าย เป็นพันธะสัญญาที่สองตระกูลทำไว้กัน ในตอนนั้นไต้ฝุ่นไม่ได้คัดค้าน เพราะเห็นว่าลูกสาวตัวเองก็หลงรักเขามาก เพื่อเห็นแก่ความสุขของลูก เพื่อเห็นแก่อนาคตของพวกเขา จึงตอบตกลงร่วมทุนร่วมกัน แต่...ทว่าตอนนี้ "เราคงต้องตามใจลูกว่ะ" เขาหันไปบอกเพื่อนรัก ซึ่งฝ่ายนั้นโวยวายขึ้นมาทันที "ไม่ได้นะโว้ย ทุกอย่างตกลงกันไว้หมดแล้ว จะมายกเลิกตอนนี้ไม่ได้" คริสเตียนโน่โวยวาย มันจะยกเลิกการลงทุนในที่ดินผืนงามนั้นได้ยังไง ไหนจะเงินหลายพันล้านที่ลงทุนไปนั่นอีก "เราจะยกเลิกโครงการนี้ไม่ได้นะไต้ฝุ่น แกก็รู้ว่าเราเดินมาไกลแล้ว" เขาเอ่ยเตือนเพื่อนรัก อย่างหัวเสีย วันนี้จะมาตกลงหาฤกษ์แต่งงานแล้วแท้ๆ บังคับไอ้ลูกชายตัวดีมาได้ ฝ่ายนั้นกลับเปลี่ยนใจ "เราไม่อยากจะบังคับลูกว่ะ " ไต้ฝุ่นหันไปบอกเพื่อนนิ่งๆ ก่อนจะไล่สายตาไปที่ชายหนุ่มตัวสูงที่นั่งตรงกลางระหว่างพ่อกับแม่ ท่าทางของเพชรกล้า ไม่ได้ยินดีจะมาที่นี่เลยสักนิด ทุกอย่างมันเหมือนกำลังฝืนใจ และถ้าหากลูกสาวของเขาแต่งงานไปแล้ว จะเป็นยังไง "พลอยว่า ทุกคนใจเย็นๆดีกว่าไหมคะ หนูอลิซ ป้าว่าหนูลองคิดทบทวนดูหน่อยไหม ให้โอกาสพี่เพชรเขาหน่อย" พูดพลางสะกิดลูกชายตัวดี ที่เอาแต่นั่งนิ่งๆอยู่ตอนนี้ ชายหนุ่มถอนลมหายใจอย่างอึดอัด ก่อนจะหันไปมองสายตาดุๆของคุณพ่อ และพูดออกมาว่า "พี่ขอโทษนะครับเรื่องเมื่อวาน พี่ยอมรับว่าเหนื่อยและหงุดหงิด แต่พี่จะปรับรุงตัว" เสียงพูดไม่มั่นคงเหมือนคนกำลังฝืนใจทำ แต่เขาพูดออกไปแค่นั้น หัวใจของอลิซาเบธมันก็อ่อนยวบลงทันที ทว่าถึงยังไงเธอก็ยังโกรธเพชรกล้าอยู่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว หลังกลับจากบ้านของพลอยใส หญิงสาวเอาแต่เก็บตัวอยู่บนห้องนอน ลองคิดทบทวนหลายๆอย่างที่ผ่านมา และตัดสินใจแล้วว่า จะขอยกเลิกการแต่งงาน "อลิซคืนแหวนให้พี่เพชรค่ะ ต่อไปนี้เราจะได้เป็นอิสระต่อกันเสียที" เธอพูดกับเขาอย่างนั้น ก่อนจะเดินขึ้นห้องไปเหมือนเดิม : : : : : เกมแล้วค่ะพี่พชร เขาคืนแหวนให้พี่แล้ว ทำไงล่ะทีนี้เมธินีถือแก้วแชมเปญในมือหนึ่ง ก่อนจะคว้าแขนของเพชรกล้าอย่างถือวิสาสะ แล้วลากเขาไปยังมุมหนึ่งของห้อง ซึ่งเต็มไปด้วยกลุ่มเพื่อนเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย โดยมีอลิซาเบธที่มองตามไปจนสุดสายตา“เพชร! นายหายเงียบไปเลยนะ” หนึ่งในเพื่อนชายยิ้มแซว ก่อนจะพูดขึ้นเสียงดังโดยไม่ทันสังเกตว่าเสียงของตนดังเกินความจำเป็น “นี่มันแต่งงานสายฟ้าแลบเลยนะโว้ย!”อีกคนหัวเราะเสริม “ตอนแรกก็นึกว่าแต่งกับคู่จิ้นสมัยเรียนที่พวกเราเชียร์กันสุดใจ ที่แท้เป็นคนนี้เหรอ… ไม่อยากจะเชื่อเลย!” พูดพลางหันไปทางเมธินี เพื่อนๆในกลุ่มต่างรู้กันว่า สองคนนี้เป็นคู่จิ้นกัน ถึงขนาดไปเรียนที่อเมริกา เขายังหอบหิ้วเธอไปด้วยสว่นเพชรกล้าเขาแค่ยิ้มบาง ๆ รับคำแซว แต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ในตอนนี้ชายหนุ่มไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เขาสนแค่แผนการเอาคืนทุกอย่าง ที่จะเริ่มต้นในเร็ววันไม่ไกลจากตรงนั้น อลิซาเบธยืนอยู่หลังเสาใกล้ ๆ เธอไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง... แต่ทุกคำพูดที่ลอดออกมา มันกรีดหัวใจของหญิงสาวจนเจ็บชา“ที่แท้… เขาเคยมีใครในใจอยู่แล้ว…” เธอยิ้มเจื่อน พยายามไม่ให้น้ำตารื้นขึ้นมาในงานแต่งของตัวเอง มือเล็กกำชายกระโปรงเอาไว้แน่น แต่ก็ไม่กล้า
เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้น ก่อนที่บานประตูจะเปิดออก อลิซาเบธเดินออกมาพอดี ใบหน้าหน้าสวยเปล่งประกายอย่างเจ้าสาวผู้กำลังมีความสุข วันนี้เป็นวันที่อลิซาเบธมีความสุขมากที่สุด ได้เข้าพิธิแต่งงานกับชายอันเป็นที่รัก เหมือนดั่งในฝันของเธอ ส่วนอีกคนที่เฝ้าดูอยู่นั้น ดวงตาจับจ้องร่างงามด้วยความอิจฉา ก่อนจะรวบรวมอารมณ์ร้ายทั้งหมด ใส่รอยยิ้มที่ดูเหมือนจริงใจเข้าไปบนใบหน้า และเดินเข้าไปหาเธอ"คุณอลิซคะ" เสียงเธอหวาน ราวกับว่าไม่ได้มีอะไรในใจแม้แต่น้อย ทำให้อลิซหยุดมองผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้า ก่อนจะยิ้มกว้างออกมา มันเป็นรอยยิ้มที่สดใสจริงใจ อย่างที่ไม่ได้คิดร้ายกับคนตรงหน้า และถามเธอว่า“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณเมนี่” อลิซาเบธรอฟังว่าเมธินีอยากอะไรจะคุยกับเธอ "ฉันขอคุยอะไรกับเธอหน่อยได้ไหม? เรื่องสำคัญมาก... ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินไป" เมธินีตอบด้วยท่าทางที่จริงจังเป็นอย่างมาก ทำเอาอลิซาเบธถึงกับหุบยิ้มลงทันที ผู้หญิงคนนี้อยากจะพูดอะไรกับเธอ? หญิงสาวคิดอย่างสงสัย แต่ก็พยักหน้ากลับไปก่อนจะถามอีกครั้งว่า "มีอะไรเหรอคะ?" “คุณอลิซคงรักเพชรมากสินะคะ แต่คุณรู้อะไรไหมคะว่าในความรักของคุณนั้น....”
"อลิซเสียใจไหม ที่ตกเป็นของพี่" เขาแกล้งถามหญิงสาว มือเรียวกำลังเกลี่ยผมที่ปรกผ้าผากของเธออย่างอ่อนโยน เขาทำเหมือนกับว่าเธอคือคนสำคัญที่สุดในชีวิต แล้วอย่างนี้ จะไม่ให้ใจอ่อนได้ยังไง คนตัวเล็กซุกหน้ากับแผงอกที่มีซิกแพคแน่นๆของเขาอย่างเขินอาย จะพูดยังไงดีล่ะ อันที่จริงก็ไม่คิดว่ามันจะรวดเร็วขนาดนั้นหรอก แต่เป็นเพราะบรรยากาศมันเป็นใจ และฤทธิ์ไวน์ที่ดื่มเข้าไปนั้น มันทำให้หญิงสาวไม่ลังเลที่จะตามเขามาที่บ้านพักหลังนี้ และทุกอย่างมันก็เลยตามเลย" ไม่ค่ะ อลิซรักพี่เพชร " เธอแหงนหงายใบหน้างามขึ้นไปบอกกับเขา"แต่พี่ก็รู้สึกผิดนะ ที่ทำกับน้องอลิซอย่างนี้ ทั้งๆที่เรายังไม่ได้แต่งงานกัน พี่ว่ากลับไปกรุงเทพคราวนี้ เราจัดงานแต่งกันเลยดีไหม" เขาส่งสายตาแสดงความรู้สึกผิดต่อหญิงสาว ทั้งๆที่จริงแล้ว ทุกอย่างมันเป็นแค่แผนการ แผนการที่เขาจะได้ทรัพย์สมบัติของคุณย่าคืนมาหลังจากนั้น เขาก็จะหย่ากับเธอส่วนคนที่อยู่ในอ้อมกอดของเขานั้นกำลังพยักหน้ากับแผงอกกว้าง เธอใสซื่อเกินกว่าจะทันเล่ห์เหลี่ยมคนอย่างเขานัก แต่เพราะรักด้วยแหละหล่อนจึงยอมทุกอย่างไม่มีการลังเลหลายอาทิตย์ต่อมา @ กรุงเทพมหานครสองหนุ่มสาว
"อือ" เสียงหวานครางกระเส่า เมื่อโดนฝีปากร้อน ทาบทับไปทุกสัดส่วน เพชรกล้าตั้งใจปลุกเร้าหญิงสาวให้เคลิบเคลิ้มไปกับการล่อลวงของเขา หลังจากพรุ่งนี้ทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนการ อ้ะ! ร่างน้อยสะดุ้งตกใจ เมื่อกลางกายสาวถูกล่วงล้ำเป็นครั้งแรก นิ้วเรียวแทรกอยู่ตรงกลางรอยแยกตรงกลีบสวย แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อรู้สึกถึงความคับแน่นข้างใน มันปิดสนิทเหมือนไม่เคยผ่านมือใครมาก่อนเลย หรือเขาจะเปลี่ยนใจตอนนี้ดี ชายหนุ่มเริ่มลังเล ไม่อยากจะทำร้ายเธอมากไปกว่านี้ ไม่อยากจะล่อลวงหากว่าอีกฝ่ายยังไม่เคย ชายหนุ่มกำลังจะลุกออกจากร่างน้อยที่เขาเล้าโลมมากว่าครึ่งชั่วโมงแต่ทว่า..หมับ! มือเรียวจับคว้าต้นแขนเขาเอาไว้ พร้อมส่งสายตาเว้าวอน เธอกำลังเคลิบเคลิ้ม กำลังลุ่มหลงในไฟพิสวาสที่กำลังลุกโชนอยู่ตอนนี้ และเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่มันอยู่ในร่างกาย ทำให้สาวน้อยใจกล้า ทำอะไรอย่างที่ไม่เคยทำ เมื่ออลิซาเบธพยุงตัวขึ้นเพื่อแลกจูบกับชายหนุ่มเสียเอง"อืมมม" เสียงครางดังออกมาจากลำคอแกร่ง เมื่อนักเรียนที่เขาพึ่งสอนมาหมาดๆส่งลิ้นเล็กกวาดต้อนลิ้นใหญ่ของเขาอย่างน่ารัก พร้อมกับเบียดตัวเข้าหาร่างใหญ่อย่างไม่เกรงกลัว 'ถ
หลังหายไปจากพัทยาหลายวัน ไผ่หลิวกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับแปลนออกแบบทั้งหมด เพื่อนำมาเสนอเจ้าของโครงการอย่างอลิซาเบธและเพชรกล้า และตอนนี้หญิงสาวนักออกแบบร่างเล็กแต่ท่าทางคล่องแคล่วพูดจาฉะฉาน กำลังเปิดภาพจากวีดีโอ แสดงถึงการออกแบบจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในจุดต่างๆของโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ในห้องนอน ห้องอาหาร รวมทั้งในส่วนของเค้าท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ทางโครงการก็ให้ความไว้วางใจ บริษัทของนพคุณเป็นผู้ออกแบบและติดตั้งให้ทั้งนั้น เรียกได้ว่ากินรวบตั้งแต่ก่อสร้างยันออกแบบภายในสายตาคมกริบของเพชรกล้า กำลังไล่ดูการออกแบบอย่างสนใจ ถึงแม้ในใจของเขาจะมีอคติและคิดหมั่นไส้ลูกชายเจ้าของบริษัทอย่างนพคุณ แต่ก็ต้องยอมรับว่า การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายในของไผ่หลิวนั้นมันดูเรียบหรูทันสมัย และเหมาะแก่การใช้งานในทุกฟังก์ชั่น อย่างปฏิเสธไม่ได้เลย"ออกแบบดีมากครับ มันดูทันสมัยเหมาะกับการใช้งานทุกอย่าง ทั้งโทนสีและรูปแบบ ผมเอาตามนี้ก็แล้วกัน" เขาหันไปบอกสาวร่างเล็กที่กำลังยิ้มแป้นจนตาหยี ในที่สุดงานแรกของเธอก็ผ่านเสียที แถมได้ทำโครงการใหญ่หลายพันล้านทั้งๆที่พึ่งจะเรียนจบมา"จริงหรือคะคุณเพชร งานของหลิวผ่
หลายอาทิตย์ต่อมาหลังจากตรวจสอบโครงสร้างตึกเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นขั้นตอนตกแต่งภายใน และบริษัทของนพคุณมีบริการครบวงจรตั้งแต่ก่อสร้างตึก จนถึงตกแต่งภายใน แต่ทว่างานตกแต่งภายในนี้ เขาไม่ได้มาดูแลด้วยตัวเอง แต่ส่งมัณฑนากรหรือว่านักออกแบบมาแทน และมัณฑนากรที่มารับงานนี้ก็คือไผ่หลิว เพื่อนสาวของอลิซาเบธนั่นเอง ทำให้หลายวันที่ผ่านมานี้เพชรกล้าหายใจคล่องคอขึ้นมาก เพราะไม่มีก้างมาขวางคอ แต่ถึงแม้ว่า ไม่มีนพคุณอยู่ตรงนี้ อลิซาเบธก็ยังไม่เปิดโอกาสให้เขาอยู่ดี เธอจะคุยกับเขาเฉพาะเรื่องงานเท่านั้น นอกนั้นก็จะถามคำตอบคำ ชวนไปเที่ยวข้างนอกก็ไม่เคยไป แม้กระทั่งชวนไปทานอาหารข้างๆโรงแรม เธอยังไม่เคยไปกับเขาเลย แต่เพชรกล้าไม่รู้หรอกว่า จริงๆอลิซาเบธใจอ่อนมานานแล้ว แต่ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ เธอก็แค่เก็บทรงและกำลังลองใจเขาอยู่แค่นั้นเอง เหมือนอย่างตอนนี้ที่เลือกสีผ้าม่านกับไผ่หลิว เธอก็ลอบมองคนตัวโตตลอดเวลา" ฮันแน่ แอบมองอีกแล้วนะ แต่ก็อย่างว่าแหละ พี่เพชรหล่อขนาดนั้น ฉันอิจฉาแกจริงๆ " ไผ่หลิวแอบกระซิบกระซาบเพื่อนรัก พลางชะเง้อคอมองชายหนุ่มร่างสูง ที่กำลังเทียบสีของผ้าม่านอยู่อีกมุมอลิซาเบธหันไปดูคนตัวโ