เข้าสู่ระบบ
บริษัทSPW
‘จิณห์วรา’ เลขาสาวสวยมากความสามารถกำลังเดินหอบแฟ้มเอกสารไปยังห้องทำงานของซีอีโอใหญ่ แม้ว่าตอนนี้เธอจะย้ายตัวเองไปเป็นเลขาส่วนตัวให้กับน้องสาวของท่านประธานแล้ว แต่ยังมีงานอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องทำให้เขาอยู่เหมือนเดิม ก๊อก ๆ ๆ ประตูห้องทำงานถูกเปิดเข้าไปช้า ๆ ‘ลภัสวัฒน์’ ที่กำลังยืนหันหลังพูดคุยโทรศัพท์อยู่ถึงกับต้องหันหน้ากลับมามอง แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจคนที่เพิ่งจะเดินเข้ามาใหม่เลยสักนิด เขายังคงพูดคุยธุรกิจอยู่กับคนปลายสายอีกนานหลายนาที วันนี้หญิงสาวมีเรื่องสำคัญจะพูดคุยกับเขา เธอทำได้เพียงแค่ยืนรอให้อีกฝ่ายคุยโทรศัพท์เสร็จเรียบร้อยเสียก่อน ใบหน้าหล่อเหลาหันกลับมามองเธออีกครั้ง พร้อมกับเดินกลับไปนั่งลงบนเก้าอี้ประจำตำแหน่งของตัวเอง “มีอะไรหรือเปล่า?” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น พร้อมกับยื่นมือไปหยิบแฟ้มที่อีกคนเพิ่งถือมาให้เพื่อเปิดขึ้นดูทีละหน้า ๆ “เอาสรุปรายงานผลประกอบการไตรมาสของครึ่งปีแรกมาให้คุณลีโอตรวจดูค่ะ” “หมดธุระแล้วก็ออกไปสิ ฉันจะทำงานต่อ” เขาพูดตอบโต้แต่ก็ไม่ยอมมองหน้าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเลยสักนิด สายตาคมยังคงจับจ้องที่แฟ้มเอกสาร ทำเหมือนกับว่าเขาสนอกสนใจสิ่งที่อยู่ในมือมากกว่าคนที่กำลังยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานของตัวเอง “เย็นนี้ว่างไหมคะ จีน่าจะชวนไปทานข้าวเย็นด้วยกัน” “เอาไว้วันอื่นได้ไหม พอดีเย็นนี้มีนัดแล้ว ฉันไม่ว่าง” “ค่ะ ไม่เป็นไร วันอื่นก็ได้ วันไหนก็ได้ที่คุณลีโอว่าง จีน่าขอตัวก่อนนะคะ” เพราะเธอไม่ใช่คนที่ชอบเซ้าซี้ เขาพูดแค่ไม่กี่คำก็ทำให้เข้าใจได้ทุกอย่าง หญิงสาวกำลังจะเดินหมุนตัวกลับออกไปอีกครั้ง ขายังไม่ทันจะก้าวเดินเลยสักนิด เสียงทุ้มก็ทักขึ้นขัดจังหวะในทันที “เดี๋ยวก่อนสิ” จิณห์วราหันกลับมามองจ้องหน้าเจ้านายหนุ่มอีกครั้ง ก่อนจะเห็นเขาเปิดลิ้นชักและหยิบสิ่งของบางอย่างออกมาจากข้างในนั้น กล่องสี่เหลี่ยมมีโลโก้ชื่อแบรนด์เนมดังถูกนำมาวางไว้บนโต๊ะทำงานของเขา “Happy Birthday นะ” แค่รู้ว่าเขาไม่ได้ลืมก็ทำเอาเจ้าของวันเกิดสามารถยิ้มออกมาได้อีกครั้ง นึกว่าเขาจะจำไม่ได้เสียอีก เพราะเมื่อครู่ที่ชวนเขาไปดินเนอร์ เธออยากให้เขาไปร่วมฉลองวันเกิดครบรอบ 26 ปีด้วยกัน เขาที่เป็นมากกว่านายจ้าง เป็นคนที่เธอรักและมอบทั้งหัวใจให้มาตลอด ตั้งแต่ความสัมพันธ์ที่เกินเลยเกิดขึ้นในวันนั้น คนที่เธอซื่อสัตย์และจงรักภักดี แม้จะไม่มีสถานะที่แน่ชัดมาการันตีอะไรให้ แต่เธอก็รักเขาอย่างไม่เคยเรียกร้องอะไรเลย “ขอบคุณนะคะ จีน่าคิดว่าคุณลีโอจะลืมไปแล้วซะอีก” “เผอิญโทรศัพท์มันแจ้งเตือนน่ะ ฉันก็เลยรู้ เดี๋ยวคืนนี้หลังจากไปงานเลี้ยงเสร็จ ฉันจะแวะเข้าไปหาที่ห้องก็แล้วกัน” “ค่ะ จีน่าจะรอฉลองพร้อมคุณนะคะ” จิณห์วรายิ้มกว้าง ยื่นมือไปหยิบของขวัญที่เขาอุตส่าห์มอบให้มาถือเอาไว้ด้วยความดีใจ ก่อนที่เธอจะเดินออกจากห้องทำงานของเขาไปด้วยความอารมณ์ดีอีกครั้ง ลภัสวัฒน์มองจ้องแผ่นหลังบอบบางในชุดยูนิฟอร์มเรียบร้อยที่กำลังจะเดินหายลับสายตาออกไป ก่อนที่ประตูห้องทำงานจะถูกปิดสนิทลงอีกหน ความเงียบที่ปกคลุมมีเพียงเสียงถอนหายใจหนัก ๆ ให้ได้ยินอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขาไม่ควรเป็นสมภารกินไก่วัดตั้งแต่แรก แต่เพราะจิณห์วราน่ารักและอยู่เป็นที่เป็นทาง รู้จักหน้าที่และรู้ว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ และที่สำคัญเธอซื่อสัตย์กับเขามาก ซึ่งข้อนี้เขารู้ดี เธออยู่ในกรอบที่เขาวางเอาไว้ให้ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่สมัยเข้ามาเป็นนักศึกษาฝึกงานใหม่ ๆ จนกลายเป็นพนักงานประจำในตำแหน่งเลขาส่วนตัวของเขา ก่อนที่ตอนนี้จะย้ายไปเป็นเลขาส่วนตัวให้กับน้องสาวที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งซีอีโอคนใหม่ จึงทำให้เขาและจิณห์วราเหินห่างกันกว่าเมื่อก่อนนี้มาก แต่ทว่าความสัมพันธ์ทางกายก็ยังเป็นความแนบแน่นและกระชับความสัมพันธ์ได้ดีเสมอมา แต่เพราะเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนเขาเจอผู้หญิงที่ถูกใจมากกว่าเข้าเสียแล้ว เธอคนนั้นเพียบพร้อมและมีฐานะชาติตระกูลที่ใกล้เคียงกัน เธอสวยถูกใจ เรื่องบนเตียงก็เร่าร้อนโดนใจเขาเป็นอย่างมาก ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาและเธอเข้ากันได้มากแบบไม่มีที่ติ ใจหนึ่งก็อยากจะเก็บจิณห์วราเอาไว้ แต่อีกใจหนึ่งก็อยากปล่อยให้เธอได้ไปเจอกับคนที่มีอนาคตร่วมกันมากกว่า เพราะสำหรับเขาแล้วจิณห์วราไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาอยากเอามาเป็นภรรยาตัวจริงเลย แม้ว่าตอนนี้ตัวเองจะอายุเลย 30 ต้น ๆ มาหลายปีแล้ว ทุกคนก็ต่างหวัง ครอบครัวก็รอคอยว่าเมื่อไหร่เขาจะสละโสดและมีชีวิตครอบครัวเป็นของตัวเองสักที แต่เพราะตัวเองเป็นคนรักสนุกและยังไม่ได้พบเจอกับคนที่ใช่ เขาเลยไม่คิดว่าจะต้องหยุดอยู่ที่ใครเลยในเวลานี้ แม้จะรู้สึกชอบพอ แม้จะรู้สึกดี แม้ว่าเซ็กซ์จะไปด้วยกันได้ดีมากก็เถอะ แต่ที่ผ่านมายังไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะทำให้เขารู้สึกว่าเขาอยากหยุดอยู่ที่เธอคนนั้นได้เลยสักคน เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่จะเห็นเบอร์โทรเข้าเป็นชื่อหญิงสาวที่เขาเพิ่งพบเจอและรู้จักเมื่อ 3 อาทิตย์ก่อนหน้านี้ ถึงกับต้องรีบกดรับสายนั้นอย่างไม่รอช้าให้เสียเวลาเลย น้ำเสียงหวานหูจากคนปลายสายทักทายขึ้น ชวนให้ต้องยิ้มออกมาได้อีกครั้งและลืมเรื่องก่อนหน้าที่กำลังครุ่นคิดไปอย่างง่ายดาย “คิดถึงจังเลยค่ะ เย็นนี้อย่าลืมนัดของเรานะคะ” “แหม... แค่ได้ยินเสียงหวานหู ผมก็ชื่นใจมากแล้วครับ ไม่ลืมหรอกครับ ล็อคเวลาไว้ให้ตั้งหลายวันแล้ว ใครจะลืมคุณเกรซได้ล่ะ วันสำคัญของคุณต้องมีผมอยู่ในงานแน่ ๆ” “ปากหวานที่สุดเลย แบบนี้จะไม่ให้เกรซรักเกรซหลงได้ไงกันคะ” “คุณเกรซเป็นแบบนั้นคนเดียวซะที่ไหนล่ะ ผมก็หลงคุณเกรซจะแย่อยู่แล้วครับ ไว้เจอกันเย็นนี้นะ คิดถึงนะครับ” “ค่ะ ซียู ม๊วฟ!” สายโทรศัพท์ถูกตัดลงอีกครั้ง ใบหน้าหล่อยังคงยิ้มกริ่ม มองจ้องหน้าจอโทรศัพท์ที่เพิ่งดับวูบลงไปเมื่อครู่นี้ เพราะเย็นนี้คือวันคล้ายวันเกิดของ ‘กวินทิตา’ เธอเชิญชวนเขาให้ไปร่วมงานวันเกิดกับครอบครัวในค่ำคืนนี้ เขาตอบตกลงกับเธอไปเมื่ออาทิตย์ก่อน เลยทำให้วันนี้ต้องปฏิเสธคำชักชวนของจิณห์วราเลขาคนสนิทไปอย่างไม่ต้องคิดให้ปวดหัวครึ่งชั่วโมงต่อมา เสียงสองสาวแย่งกันป้อนน้ำซุปให้คุณแม่ ทำให้คนเป็นพ่อถึงกับต้องกุมขมับอย่างปวดหัวแทน บางทีแค่เรื่องเล็กน้อยแต่ก็ไม่มีใครยอมกันเลยสักนิด "จะแย่งกันทำไมล่ะลูกเอ้ย ให้แม่เขาตักกินเองก็ได้ไหมนั่น" สองสาวหันมามองหน้าพ่อพร้อมเพรียงกันอีกครั้ง "ไม่ค่ะ ลิลลี่อยากป้อน" "ลินลินก็อยากป้อน" "แต่แย่งกันทำแบบนั้น แทนที่คุณแม่เขาจะทานอร่อย กลับต้องปวดหัวแทนล่ะสิไม่ว่า" "ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ช่อชอบให้ลูกเอาใจแบบนี้มากกว่า น่ารักดีออกจริงไหมคะ" เธอลูบผมลูกสาวทั้งสองอย่างเอ็นดูนัก ความสุขของเธอในทุก ๆ วันก็มีแค่นี้ ป่วนหน่อยแต่ไม่เคยรู้สึกเบื่อเลยสักครั้งเดียว น้องสาวผู้ก้อปปี้พี่สาวทุกอย่าง เหมือนมีไอดอลที่ต้องเลียนแบบให้ได้ทุกสิ่ง ทำให้บางทีก็เกิดศึกขึ้นจนต้องห้ามทัพอยู่นาน เพราะบางครั้งพี่สาวก็ไม่ชอบให้ทำตาม พูดมาแล้วก็ตลกดีไม่น้อย ไม่เคยคิดว่าชีวิตจะต้องมีความสุขแทบสำลักเช่นนี้ได้ "แม่อิ่มแล้วค่ะ พอแค่นี้ก่อนนะคะลูก" "ก็ได้ค่ะ ลิลลี่ทำอร่อยไหมคะแม่ช่อ ช่วยยายจ๋าปรุงตั้งแต่เช้าโน่นแนะ" "อร่อยค่ะ พี่ลิลลี่เก่งที่สุดเลย ขอบคุณนะคะ" "เมื่อไหร่หลานชายฉันจะมาสักทีนะ อยากเห็นคนหล่อ
วันที่คุณพ่อลูกสามรอคอยก็มาถึง เป็นครั้งแรกที่เขาเคยเข้ามาในห้องคลอด ทำเอาหัวใจเต้นแรงตึกตัก! ตึกตัก! แทบไม่เป็นจังหวะ จะได้เห็นโมเมนต์ที่ลูกคลอดออกมาพร้อมกับหมอและพยาบาลที่ช่วยกันทำคลอดเลย โชคดีที่ไม่ใช่คนกลัวเลือดเลยเข้ามาอยู่เคียงข้างกับภรรยา คอยให้กำลังใจเธอไม่เคยห่างกายได้ ครั้งนี้ช่อฟ้าเลือกจะผ่าคลอด เพราะครั้งแรกตอนที่คลอดลลินเธอรู้สึกเหมือนตัวเองจะไม่มีชีวิตรอดได้อยู่เลี้ยงดูลูก เลยไม่อยากต้องคอยลุ้นว่าลูกจะคลอดได้วันไหนหรือตอนไหน และที่สำคัญไม่ต้องนอนปวดท้องรอคลอดนานหลายชั่วโมง เธอเลือกจะผ่าคลอดตามฤกษ์ที่ตัวเองคิดว่าดี เพราะเชื่อเสมอว่าสิ่งที่คนเป็นแม่และพ่อเลือกให้ลูกย่อมเป็นเวลาที่ดีที่สุด คุณแม่นอนอยู่บนเตียงรอผ่าคลอด ซึ่งคุณพ่อก็นั่งอยู่ข้างบนศีรษะ คอยจูบซับหน้าผากและพูดคุยเป็นเพื่อนอยู่ไม่ได้หยุดพักเลย "ตื่นเต้นไหมคะ?" "มากที่สุด อยากเห็นเจ้าชายของพ่อเต็มทนแล้ว" "อย่าเห่อลูกชายจนลืมสองปริ้นเซสที่บ้านนะคะ คงมีงอนแน่ ๆ" "เคยลืมที่ไหนล่ะที่รัก พี่สาวก็ยังเป็นคนโปรดกันทั้งนั้น แต่คนนี้เป็นลูกชายไง อยากได้มาตั้งนานแล้ว อุตส่าห์ตั้งใจทำ ปั้นมากับมือหวังว่าจะหล่อได้พ่อ" "ห
"เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว ช่อก็รู้ว่าพี่ไม่เคยมีประวัติแบบนั้นเลย พี่รักช่อจะตายอยู่แล้ว ผู้หญิงที่ไหนก็สวยและดีไม่เท่าเมียพี่หรอก" "แล้วทำไมถึงไม่อยากให้ช่อไปทำงานด้วยคะ?" "ก็เพราะว่าพี่กลัวเมียเหนื่อย อยากให้อยู่บ้านเลี้ยงลูกสบาย ๆ เพราะพี่มีแพลนเอาไว้ว่าอยากจะมีลูกเพิ่ม ถ้าลีโอคลอดออกมา พี่ก็จะทำเลโก้ ลาเต้ อีกสักคนสองคน" ทำเอาช่อฟ้าถึงกับต้องใช้มือหยิกเข้าไปที่เอวหนาของสามีอย่างนึกหมั่นไส้ไม่ได้ "โอ้ย ๆ ๆ เจ็บนะช่อ!" "คนนี้ก็ยังไม่คลอดเลยนะคะ นี่ตั้งชื่อไว้รออีกสองคนแล้วเหรอ" "ก็พี่อยากมีครอบครัวใหญ่ ๆ อยากให้ลูกมีเพื่อนเล่นหลาย ๆ คน งานที่บริษัทให้เป็นหน้าที่ของพี่เถอะ ถ้าช่อไปทำงานพี่คงต้องไล่บรรดาผู้ชายออกให้หมด ให้เหลือไว้เฉพาะผู้หญิง" "เอ้า! ทำไมเป็นแบบนั้น?" "ก็พี่ไม่อยากให้พวกผู้ชายมันมองเมียพี่ไง หวงจะตายอยู่แล้ว แค่ไปมหาวิทยาลัยพี่ก็ต้องนั่งทำใจอยู่ตั้งนาน" "ช่อก็ไม่ได้มองใครนะคะ ไม่มีสายตาไว้ไปมองคนอื่นหรอก สามีของช่อแสนดีซะขนาดนี้ น่ารักและแฮนด์ซัมขนาดนี้ ยอมตายอยู่กับคนนี้แค่คนเดียวนี่ล่ะค่ะ" นิ้วมือเรียวบีบแก้มสามีเล่นเบา ๆ นึกมันเขี้ยวเขานักล่ะ "ให้จริงอย่า
วันนี้เป็นวันรับปริญญาของช่อฟ้า แม้ว่าเธอจะแต่งงานมีสามี และตอนนี้กำลังท้องแก่ใกล้คลอด แต่เธอก็โชคดีกับชีวิตมาก ที่สามีอย่างรามิลคิดถึงอนาคต คิดถึงการศึกษา อยากให้เธอมีความรู้ และเป็นหน้าเป็นตาให้กับตัวเธอเอง ช่อฟ้าใช้เวลาเรียนปริญญาตรีสามปีกว่า จนวันนี้เธอสำเร็จการศึกษา ทำให้สามีถึงกับหอบช่อดอกไม้ที่ทำด้วยเงินแบงค์พันมากกว่าหนึ่งแสนบาทมาร่วมแสดงความยินดี พร้อมกับลูกสาวทั้งสองและแม่ยายด้วยอีกหนึ่งคน "ขอแสดงความยินดีกับคุณภรรยาคนเก่งของผมครับ" ของขวัญที่เขาถือมาด้วยไม่ใช่มีแค่ช่อดอกไม้เงินช่อโต แต่ยังมีเป็นชุดเครื่องเพชรที่เขาอยากมอบเป็นของรางวัลให้กับเธออีกด้วย ให้สมกับความขยันและความอดทน แม้ว่าเธอจะวุ่นวายอยู่กับลูก ต้องอุ้มท้องลูกชายเขาอีกคน หญิงสาวก็ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองจนประสบความสำเร็จได้อย่างตอนนี้ เขาไม่ได้ต้องการอะไรมาก แค่ได้ซัพพอร์ต ได้ทำให้ช่อฟ้ามีชีวิตที่ดี มีความสุขร่วมกันในทุก ๆ วันก็มีความสุขมากที่สุดแล้ว "ขอบคุณนะคะ ถ้าไม่มีคุณ ช่อก็จะไม่มีวันนี้เลย" สองสามีภรรยาโอบกอดกันอีกครั้ง ชายหนุ่มหอมแก้มภรรยาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เกือบสองนาทีกว่าที่คนทั้งคู่จะผละออกห่างจากกัน
รามิลบอกกับรัชชานนท์ เขาทั้งคู่ไม่ได้มีปัญหากับการไปมาหาสู่กันแบบนี้ เพราะตอนนี้รัชชานนท์ก็ต่างมีครอบครัวใหม่ไปแล้วเช่นกัน การไปมาหาสู่เช่นนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่เล็กน้อย ไม่เคยได้เก็บเอามาคิดใส่ใจเลยสักครั้ง อยากให้ลลินรักทุกคนที่มีส่วนร่วมในการทำให้เขาได้เกิดมาเป็นที่รักของคนในบ้านแบบนี้ เขาจะบอกสอนลูกเสมอว่ารัชชานนท์ก็เป็นพ่ออีกคนหนึ่ง ส่วนเขาเป็นพ่อที่มาทีหลังแต่ก็รักลลินมากที่สุดเหมือนกัน ในขวบสองปีแรกของลลิน ช่อฟ้าไม่ได้อนุญาตให้รัชชานนท์ไปหาสู่ได้แบบนี้ เพราะเกรงใจสามีเป็นอย่างมากกลัวว่าเขาจะคิดมากคิดเยอะ แต่กลับกลายเป็นว่าสามีสอนให้เธอเปิดใจให้กว้าง อย่าอคติกับอดีตที่ผ่านมา ถ้าเขาจะคิดเล็กคิดน้อยกับการที่คนเคยแต่งงานกันยังวนเวียนพัวพันกันอยู่ เขาก็คงไม่เลือกลงเอยกับเธออย่างเช่นทุกวันนี้เป็นแน่ "อยู่ทานข้าวด้วยกันไหมครับคุณนนท์" "เกรงใจจังเลยครับ ผมว่าคุณแม่คงไม่อยากให้ผมอยู่ร่วมโต๊ะด้วยนักหรอก" เมื่อนึกถึงนางสมรศรีขึ้นมา รัชชานนท์ก็รู้สึกเกรงใจนางอยู่มาก เพราะไม่ว่ากี่ครั้งที่เขามาที่นี่นางจะไม่ชอบหน้าเขาเลย ถึงจะไม่ขับไล่ไสส่งให้ได้ยิน แต่นางก็ไม่ได้อยากมองหน้าหรือพูดคุยก
การแต่งงานครั้งใหม่ของช่อฟ้า เธอเหมือนซิลเดอเรลล่าที่ถูกเจ้าชายรามิลดูแลประคบประหงมดุจดั่งเจ้าหญิงก็ไม่ปาน จากวันนั้นถึงวันนี้สามปีกว่าแล้ว ที่เธอและเขาอยู่กินฉันสามีภรรยา แม้จะมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่บ้าง แต่ไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงมาให้กวนใจเลยสักครั้งเดียว รามิลพูดจริงและทำจริงอย่างที่เคยประกาศก้อง ถ้ามีช่อฟ้าเป็นเมียเขาก็จะหยุดเพียงที่เธอ ส่วนมากทะเลาะกันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยที่เกี่ยวกับลูก ๆ และอาหารการกินที่อยากให้เขาต้องใส่ใจกับสุขภาพตัวเองมากกว่าที่เป็นอยู่ ครอบครัวของเธอจากที่มีลูกสาวเพียงแค่สองคน แต่ทว่าตอนนี้กำลังจะถูกเพิ่มเติมมาอีกหนึ่งชีวิต เพราะช่อฟ้าตั้งครรภ์ลูกคนที่สองอายุครรภ์ได้สามสิบสามสัปดาห์เข้าไปแล้ว สมใจว่าที่คุณพ่อลูกสามนัก เพราะคนนี้ที่กำลังนอนดิ้นอยู่ในท้องคือลูกชาย พี่ ๆ ต่างตั้งหน้าตั้งตารอเวลาคลอดออกมาลืมตาดูโลกของเด็กชายกันทั้งนั้น ซึ่งพี่สาวคนโตที่อายุแปดขวบอย่างลิลลี่ก็เป็นคนจัดเตรียมชื่อนี้ไว้ให้กับน้องชายคนเล็กด้วยตัวเองเช่นเคย "ทำไมน้องต้องชื่อลีโอเหรอคะพี่ลิลลี่?" "เพราะคุณพ่อชอบดื่มเบียร์ลีโอ ฮ่า ๆ ๆ ๆ" เสียงหัวเราะของลูกสาวที่พูดคุยอย่างอารม







