มนต์มีนากำลังจัดเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นลงกระเป๋าเดินทางสองใบที่คุณสุทัศน์ซื้อมาให้ เมื่อตรวจดูจนแน่ใจว่าไม่ลืมอะไรแล้วก็รูดซิปปิดก่อนจะลากมารอที่ห้องรับแขก
“ไม่ลืมอะไรแน่นะมีน” ชาลิดาที่ช่วยเพื่อนจัดกระเป๋าตั้งแต่บ่ายเมื่อวานมองกระเป๋าใบใหญ่หนึ่งใบและใบขนาดกลางอีกหนึ่งใบด้วยใบหน้าที่เป็นกังวล
“ไม่หรอกน่าจะลืมอะไรแล้ว”
“ใจหายเหมือนกันนะจะไม่ได้ติดต่อกันตั้งหนึ่งเดือน”
“ถ้าไปถึงที่นู่นแล้วมีนจะพยายามหาทางติดต่อมานะ บางที่เกาะที่เราไปมันอาจจะพอมีสัญญาณมือถืออยู่บ้างแต่อาจไม่แรงเท่าในเมือง”
“ออยก็ขอให้เป็นแบบนั้น ดูแลตัวเองด้วยนะมีน”
“ออยก็เหมือนกันนะ อย่าหักโหมงานมาก”
“ขอให้มีนเจอนายจ้างที่ใจดี หล่อๆ หุ่นเหมือนนายแบบนะ”
“ขอบใจนะออย”
พอถึงเวลานัดคุณสุทัศน์ก็มารักเธอเพื่อไปยังสนามบินและบินบินจากสนามบินสุวรรณภูมิมายังสนามบินภูเก็ต จากนั้นก็ขึ้นรถไปยังท่าเรือแห่งหนึ่งและก็นั่งเรืออีกเกือบสองชั่วโมงกว่าจะมาถึงเกาะแห่งหนึ่ง
เรือจอดเทียบท่าบริเวณด้านหน้าของเกาะมนต์มีนาเห็นว่ามีร้านอาหารและโรงแรมตั้งอยู่แต่คุณสุทัศน์บอกว่าบ้านพักของเจ้านายจะต้องอ้อมไปอีกด้านหนึ่งของเกาะซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัว
หญิงสาวรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากเพราะเธอยังไม่เคยรู้จักกับนายจ้างเลยยังไม่เคยเห็นหน้าเขาด้วยซ้ำรู้แค่เพียงว่าเขาเป็นชายหนุ่มอายุประมาณสามสิบปี เธอไม่เคยได้รับข้อมูลอะไรของเขาเลยแม้กระทั่งชื่อคุณสุทัศน์ก็ไม่เคยหลุดปากบอก
คุณสุทัศน์พาหญิงสาวมายังบ้านหลังหนึ่งที่บริเวณด้านหน้าติดกับชายหาด
“คุณมีนเอากระเป๋าเข้าไปเก็บด้านในก่อนนะครับเจ้านายน่าจะมาถึงช่วงเย็น ตอนนี้คุณก็พักผ่อนได้ตามสบาย”
“คุณสุทัศน์ค่ะถ้ามีนอยากปั่นจักรยานเที่ยวบนเกาะนี้พอจะมีจักรยานให้มีนยืมได้ไหมคะ”
“ที่นี่ถนนค่อนข้างขรุขระ ผมว่าปั่นจักรยานไม่น่าจะเหมาะเท่าไหร่ถ้าเป็นรถมอเตอร์ไซค์ล่ะพอจะขี่ได้ไหม”
“ได้ค่ะแต่ขอเป็นรถเกียร์ออโต้สำหรับผู้หญิงนะคะ”
“ได้ครับคุณเอาของไปเก็บให้เรียบร้อยก่อนไม่เกินครึ่งชั่วโมงผมจะเอารถมารอที่หน้าบ้านพักขอบคุณค่ะ”
มนต์มีนาเดินเข้าห้องก็เจอแม่บ้านคนหนึ่งที่มายืนรอต้อนรับอยู่แล้ว
“สวัสดีค่ะคุณมนต์มีนาใช่ไหมคะ”
“สวัสดีค่ะคุณป้า เรียกหนูว่ามีนก็ได้ค่ะ”
“ค่ะคุณมีนชื่อป้าละออจ้ะ ส่วนนั่นชื่อกระเจี๊ยบ”
“สวัสดีจ้ะ” มนต์มีนาทักทายเด็กสาวคนหนึ่งที่ดูแล้วอายุน่าจะใกล้เคียงกับเธอหรืออาจจะน้อยกว่าก็คงไม่กี่ปี
“สวัสดีค่ะคุณมีน หนูชื่อกระเจี๊ยบค่ะปีนี้อายุสิบเจ็ดปีแล้วค่ะ”
“ถ้างั้นกระเจี๊ยบเรียกพี่ว่าพี่มีนก็ได้นะพี่”
“ได้ค่ะพี่มีน พี่มีนมีอะไรเรียกใช้หนูได้เลยนะคะ ถ้าหนูอยู่ที่นี่ก็เรียกใช้ได้เลยแต่ถ้าไม่หนูไม่อยู่ที่นี่พี่มีนกดโทรศัพท์ตรงนี้นะคะหนูจดเบอร์โทรไว้แล้วว่าเบอร์ไหนโทรหาใคร” กระเจี๊ยบชี้ไปยังโทรศัพท์บ้านที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม
มนต์มีนามองดูโทรศัพท์แล้วก็ต้องขมวดคิ้วเพราะก่อนจะมาที่นี่คุณสุทัศน์บอกว่าสัญญาณโทรศัพท์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“ที่นี่ใช้โทรศัพท์ได้ด้วยเหรอคะกระเจี๊ยบ” เธอถามเด็กสาวด้วยความดีใจ
“ใช้โทรศัพท์บ้านได้ค่ะ แต่ถ้าเป็นโทรศัพท์มือถือจะไม่ค่อยมีสัญญาณถ้าอยากจะโทรจริงๆ ก็ต้องไปโทรด้านหน้าเกาะที่มีโรงแรมกับท่าเรือค่ะ พี่มีนน่าจะผ่านมาแล้วเมื่อกี้”
“อ๋อเข้าใจแล้ว”
“พี่มีนเอาของไปเก็บไหมคะ เดี๋ยวหนูช่วย”
“ไม่เป็นไรจ้ะพี่ว่าพี่จัดการเองดีกว่า”
“ให้หนูช่วยเถอะค่ะ วันนี้หนูก็ไม่ได้มีงานอะไรทำมาก”
“ถ้างั้นก็ตามใจ”
“มาทางนี้เลยค่ะ” กระเจี๊ยบพาเจ้านายของเธอเดินขึ้นบันไดไปห้าขั้นก็ถึงห้องนอนห้องนอนขนาดใหญ่ห้องหนึ่งภายในตกแต่งอย่างเรียบง่ายด้วยโทนสีขาวสะอาดตา
“กระเจี๊ยบทำงานที่บ้านหลังนี้มานานแล้วเหรอหนู” หญิงสาวชวนคุยขณะช่วยกันเอาเสื้อผ้าและของใช้ออกจากกระเป๋าโดยมีกระเจี๊ยบเป็นคนช่วยเอาเก็บในตู้เสื้อผ้า
“หนูเพิ่งมาทำที่นี่ได้ไม่นานค่ะ ส่วนใหญ่คนที่ทำประจำจะเป็นป้าละออ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เจ้านายมาพักก็จะมาช่วยงานด้วย”
“ปกติเจ้านายเขามาพักบ่อยไหม”
“ปีละครั้งค่ะแต่บางปีก็จะมาสองครั้งแล้วแต่โอกาสค่ะ”
มนต์มีนาอยากถามว่าเธอเคยเห็นหน้าเจ้านายไหม แต่ก็ไม่รู้ว่าจะถามออกไปดีหรือเปล่าเพราะคุณสุทัศน์บอกเธอว่าทุกคนที่นี่จะรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงของเจ้านาย แต่ไม่รู้ว่าทั้งสองยังไม่เคยเจอกันมาก่อน ถ้ามนต์มีนาถามไปกระเจี๊ยบจะต้องสงสัยแน่ๆ หญิงสาวก็เลยเลือกที่จะไม่ถาม
ใช้เวลาไม่นานทั้งสองคนก็ช่วยกันจัดของเสร็จ มนต์มีนาเลยลงมาบริเวณห้องรับแขกและมองออกไปบริเวณบ้านด้านหนึ่งที่กรุกระจกสูง พอเดินทะลุประตูบานเลื่อนออกไปก็มองเห็นทะเลกว้างสุดสายตาด้านล่างเป็นหน้าผาสูงดูผิดกับทางด้านหน้าที่เป็นชายหาดสีขาวทอดยาว
เธอเดินกลับมานั่งดูทีวีอยู่กับกระเจี๊ยบไม่นานคุณสุทัศน์ก็เดินเข้ามา
“ผมเอารถมอเตอร์ไซต์มาให้คุณมีนแล้วครับ ออกไปดูหน่อยไหม ไม่รู้จะขี่ได้หรือเปล่า”
“ค่ะ”หญิงสาวรีบออกไปดูบริเวณหน้าบ้านเห็นรถมอเตอร์ไซต์ของผู้หญิงคันหนึ่งก็ยิ้มกว้างเพราะแบบนี้เธอเคยขี่ของเพื่อนที่มหาวิทยาลัยมาแล้ว
“ขี่ได้ค่ะ ค่ะขอบคุณมากนะคะคุณสุทัศน์”
“ผมเติมน้ำมันเต็มถังแล้ว ถ้าคุณมีนจะเติมน้ำมันก็มีปั๊มอยู่ตรงบริเวณหน้าโรงแรมนะครับ แค่ไปจอดรถเขาก็รู้แล้วว่ารถคันนี้เติมน้ำมันอะไร แต่ผมคิดว่าคุณคงไม่ขี่จนน้ำมันหมดในวันเดียวหรอกนะครับ ผมแค่พูดเผื่อไว้”
“ขอบคุณค่ะ ถ้างั้นมีนขอตัวไปขี่รถเที่ยวรอบเกาะได้ไหมคะ”
“ตามสบายเลยครับ”
“กระเจี๊ยบไปกับพี่มั้ย”
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูเที่ยวที่นี่จนเบื่อแล้ว แต่พี่มีนจะไม่หลงแน่นะคะ”
“ไม่หลงหรอกน่าเมื่อกี้ตอนมาก็สังเกตเส้นทางแล้ว”
“แต่แดดที่นี่แรงมากพี่มีนจะไม่สวมเสื้อแขนยาวหน่อยเหรอคะ” กระเจี๊ยบเตือนเพราะกลัวว่าผิวสวยๆ ของนายหญิงจะเสีย
“จริงสิพี่ลืมไปเลย ขอบใจนะกระเจี๊ยบ” มนต์มีนารีบขึ้นไปบนห้องนอนหยิบครีมกันแดดมาทาทั้งหน้าและตัวก่อนจะเลือกสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวทับลงไปบนเสื้อยืดตัวเล็กอีกชั้น
“คุณมีนไปถูกแน่นะ” ครับสุทัศน์ที่ยืนรออยู่หน้าบ้านถาม
“ถูกค่ะ จากตรงนี้ออกไปเลี้ยวซ้ายใช่ไหมคะ”
“ใช่ครับแต่ถ้าคุณมีนไปไม่ถูกให้ขับรถไปรอผมที่โรงแรม ตรงนั้นจะมีสัญญาณโทรศัพท์คุณสามารถโทรเข้ามาที่บ้านพักได้เลย ส่งโทรศัพท์มาสิครับผมจะบันทึกเบอร์โทรบ้านพักไว้ให้”
มนต์มีนาส่งโทรศัพท์ให้กับคุณสุทัศน์บันทึกเบอร์โทรศัพท์ของบ้านพักให้
“ขอบคุณค่ะ คุณสุทัศน์คะมีนขอโทรไปบอกเพื่อนได้ไหมว่ามีมาถึงที่นี่แล้ว”
“ได้ครับ คุณบอกเขาแค่ว่าคุณมาถึงแล้วก็พอนะครับ ส่วนรายละเอียดอย่างอื่นผมว่าไม่บอกจะดีกว่า คุณจะถ่ายรูปก็ได้นะแต่อย่าเพิ่งลงโซเชียลหรือส่งให้ใครดูตอนนี้”
“หมายความว่าหลังจากกลับไปจากที่นี่แล้วมีนสามารถเอารูปให้เพื่อนดูหรือโพสต์ลงโซเชียลด้วยใช่ไหมคะ”
“ได้สิครับ แต่รูปนั้นต้องไม่ติดรูปถ่ายคงเจ้านายผมนะครับ”
“มีนรับรองว่าจะไม่ถ่ายรูปเจ้านายของ มีนไปก่อนนะคะ”
“ครับ ถ้ายังไงอย่ากลับมาค่ำนักนะครับ เพราะเจ้านายน่าจะมาถึงที่นี่ประมาณหนึ่งทุ่ม”
“ได้ค่ะมีนคงไปไม่นานหรอกค่ะ”
มนต์มีนาขับรถออกจากบ้านพักซึ่งมีระยะทางเกือบสองกิโลเมตรก่อนจะถึงทางแยก หญิงสาวเลี้ยงรถไปทางด้านซ้ายก่อนจะขับวนไปรอบๆ เกาะแล้วกลับมาที่หน้าโรงแรมอีกครั้ง
เธอจอดรถที่หน้าร้านสะดวกซื้อละมองไปรอบๆ บริเวณนี้มีนอกจากจะโรงแรมแล้วยังมีร้านอาหาร ร้านขายของฝากและสถานบันเทิงใจอยู่ด้วย แต่ก็ไม่ได้มากมายเท่าไหร่เพราะเท่าที่ทราบจากคุณสุทัศน์เกาะนี้คนไทยไม่ค่อยนิยมมาเที่ยวเท่าไหร่ส่วนใหญ่ก็จะมีแต่ชาวต่างชาติที่อยากมาพักผ่อนเพราะบรรยากาศที่นี่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว
มนต์มีนากลับบ้านมาอีกครั้งในเวลาหนึ่งทุ่ม รู้สึกโล่งใจและใจหายไปในคราเดียวกันเมื่อเปิดประตูบ้านเข้ามาแล้วไปเจอกับยานอฟ เขาคงไปจากเธอแล้วจริงๆ เธอคงเป็นผู้หญิงที่โง่มากคนหนึ่งเลือกความรักและทิ้งเงินสามสิบล้านให้หลุดมือไปแต่เธอคิดว่าตนเองเลือกถูกแล้วเพราะถ้ามีเงินแต่อยู่กับคนที่ไม่รักชีวิตก็คงจะไม่มีความสุขเลยเมื่อเขาไปแล้วเธอก็ใช้ชีวิตตามปกติและกำลังจะลืมเขา แต่ดูเหมือนว่าชีวิตของเธอมันจะไม่ปกติตอนนี้ข้างบ้านของเธอ ซึ่งเป็นพื้นที่ว่างกำลังมีการปรับปรุงพื้นที่และเธอรู้จากเจ้าของร้านอาหารตามสั่งหน้าปากซอยว่าข้างๆ บ้านของเธอถูกนักธุรกิจคนหนึ่งซื้อไปบ้านหลังใหญ่ริมรั้วของมนต์มีนาถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็วคนงานเกือบครึ่งร้อยทำงานกันอย่างขยันขันแข็งเพียงแค่สามเดือนบ้านหลังนั้นก็เสร็จตกแต่งสวยงามและพร้อมเข้าอยู่เธอไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านหลังนั้นเป็นใครเพราะไม่เคยเห็นเขาเลยหญิงสาวเลยได้แต่แอบมองเพราะบ้านหลังนั้นมันสวยและน่าอยู่มากเทียบกับบ้านของเธอไม่ติดเลยสักนิด แต่มนต์มีนาคิดว่าจะมีบ้านหลังใหญ่ไปทำไมล่ะในเมื่ออยู่บ้านหลังเล็กเธอก็มีความสุขมากมายอยู่แล้วหญิงสาวมองไปในบ้านหลังนั้นก่อนจะเดินออกจ
ยานอฟเก็บคำพูดของกาซิมมานั่งคิดมันก็เป็นอย่างที่ผู้ช่วยของเขาพูดจริงๆ เขาเองสนิทกับมนต์มีนามากกว่าใคร ก็น่าจะรู้ดีกว่าใครว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่หิวเงินบางทีเขาอาจจะต้องบินไปเมืองไทยอีกครั้งและคุยกับเธอให้รู้เรื่อง“เฮ้อ...ทำไมเรื่องความรักมันยากจังนะ” เขาถอนหายใจก่อนจะนั่งทำงานต่อช่วงนี้งานค่อนข้างยุ่งเขาอยากจะบินไปหามนต์มีนามากแค่ไหนแต่ก็ยังปลีกตัวไม่ได้เลยยานอฟใช้เวลาเคลียร์งานที่คั่งค้างเกือบสองอาทิตย์จากนั้นเขาก็บินมาประเทศไทยและให้สุทัศน์พามารอที่หน้าบ้านของเธอมนต์มีนาเลิกงานมาในเวลาหนึ่งทุ่มรู้สึกแปลกใจที่เห็นรถของคุณสุทัศน์จอดอยู่หน้าบ้าน“สวัสดีค่ะคุณสุทัศน์ ธุระอะไรคะมาหามีนถึงที่นี่เลย” มนต์มีนายกมือไหว้เหมือนทุกครั้ง“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณมีนนิดหน่อยครับ ขอเข้าไปนั่งคุยในบ้านในบ้านได้ไหมตรงนี้ยุงมันเยอะ”“ได้ค่ะ” หญิงสาวเปิดประตูรั้วแล้วเดินนำสุทัศน์เข้าไปในบ้านเธอเอาน้ำมาวางไว้ให้เขาจากนั้นก็หยิบผลไม้เตรียมจะเอาไปปอก“เดี๋ยวมีนปอกผลไม้ให้นะคะ”“ผมเกรงใจจังเลยครับ”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณนั่งรอในห้องรับแขกแป๊บหนึ่งนะคะเดี๋ยวมีนปอกผลไม้แป๊บเดียว”“ได้ครับ” หญิงสาวหายเข้าไปปอก
มนต์มีนาตื่นเช้ามาด้วยศีรษะที่หนักอึ้งขณะที่นึกทบทวนเรื่องราวของเมื่อคืนจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเธอกับเขาร่วมรักกันกี่ครั้ง รู้แต่ทุกครั้งมันก็เต็มไปด้วยความสุขหญิงสาวมองไปรอบๆ ห้องก็ไม่เห็นยานอฟไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้วเธอเจ็บระบมจนก้าวขาแทบไม่ออกแต่ก็พยายามเก็บของลงกระเป๋าและไม่ลืมที่จะโทรไปบอกรอยด์ว่าตนเองตัวเองเจอเพื่อนที่นี่และคงไปเที่ยวกับเขาไม่ได้ฝ่ายนั้นโอดครวญเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรมากเมื่อคุยกับรอยด์เสร็จเธอก็สั่งอาหารขึ้นมาทานบนห้องเพื่อรอเวลาที่จะไปสนามบินแม้รู้ว่าคิดว่าจะไม่ได้เจอยานอฟอีก แต่ในใจของหญิงสาวกลับรู้สึกสบายเพราะเธอได้บอกความรู้สึกของตนเองให้เขารับรู้แล้ว มันก็เหมือนกับไม่มีอะไรติดค้างในหัวใจ จากนี้เธอจะใช้ชีวิตของเธออย่างมีความสุขเธอจะไม่ลืมเขาแต่จะเก็บเขาไว้เป็นความทรงจำที่ดีเธอกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติและเรียนจนจบระหว่างที่รอสอบบรรจุเป็นครูหญิงสาวก็สมัครเป็นครูอัตราจ้างที่โรงเรียนแห่งหนึ่งและเขาก็ตอบรับเธอแล้ว แต่จะไปเริ่มงานอีกครั้งก็ตอนเปิดเทอมในช่วงปิดเทอมประมาณสามเดือนมนต์มีนาก็เลยว่างหญิงสาวก็เลยไปสมัครงานที่โรงเรียนกวดวิชาแห่งหนึ่งเธอได้เป็นผู้ช่วยอาจาร
“ยานอฟคะ คุณอยากให้ฉันมีนคุณหรือเปล่า”มนต์มีนายิ้มยั่วแล้วเงยหน้าขึ้นมาถามขณะที่ตอนนี้มือของเธอกำลังจับมังกรของเขาและหมุนเบาๆ“ได้สิ ฉันอยากให้เธอกินฉัน”เมื่อได้รับคำตอบหญิงสาวก็คุมเข่าลงสัมผัสลิ้นลงบนส่วนปลาย สีชมพูเข้ม เพียงแค่ลิ้นเล็กสัมผัสโดน ยานอฟก็ครางลั่นห้อง เธอรู้สึกถึงกล้ามเนื้อที่ตึงเครียดเนื้อตัวสั่นเทา ตั้งแต่กลับจากเกาะชายหนุ่มก็ไม่ได้นอนกับผู้หญิงคนไหน ในทุกคืนเขาจะจินตนาการถึงหญิงสาวตรงหน้าและปลดปล่อยด้วยมือของตนเองเท่านั้นมนต์มีนาใช้ปลายลิ้นของเธอเลียวนส่วนปลายหยัก ยกท่อนเอ็นขึ้นเก่อนจะลากลิ้นยาวลงมาหยอกล้อกับพวงสวรรค์และลากขึ้นกลับไปด้านบนอีกครั้งก่อนจะครอบครองมันเข้าปากเล็ก“ดีมาก เธอทำดีมาก”หญิงสาวรู้สึกพอใจที่ได้รับคำชมจากเขา ปากเล็กๆ ของเธอดูดส่วนปลายเข้าปากและพยายามเอาเข้ามันลึกจนสุดในคอหอยความเสียวซ่านกำลังมารวมกันตรงบริเวณส่วนปลายยานอฟคุมตัวเองไม่อยู่เขารวบผมหญิงสาวจากนั้นก็จับใบหน้าของเธอดึงเข้าออกขณะที่สะโพกของเขาก็ยกขึ้นสูงจากโซฟา เพื่อให้ตนเองของเธอเข้าไปลึกที่สุดในลำคอ แต่เมื่อเห็นหญิงสาวกำลังจะสำลักเขาก็รีบดึงใบหน้าเธอตนเองออกแล้วจับให้เธอลุกขึ้นมอบ
ยานอฟมองคนที่เมาแทบไม่ได้สติแล้วหน้า วันนี้เขามาร่วมงานแต่งงานของไลลา แต่พยายามเจอกับมนต์มีนา เพราะไม่อยากให้ความรู้สึกเดิมๆ กลับมาอีกหลายเดือนที่ไม่ได้เจอกันยานอฟยอมรับว่าคิดถึงเธอมากและไม่คิดเลยว่าจะมาเจอกันในงานแต่งงานของไลลาแบบนี้ เขาเห็นเธอสนิทสนมกับรอยด์แล้วก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ ยิ่งตอนที่เห็นทั้งสองเดินออกมาจากผับด้วยกันเขารู้สึกเจ็บปวดที่เห็นเธอสนิทสนมกับชายคนอื่น แต่เมื่อเห็นรอยด์กลับไปที่ผับ อีกครั้งเขาเข้าไปให้ทักทายและรู้ว่าพี่ชายของไลลากำลังสนใจมนต์มีนา ยานอฟก็เกิดความรู้สึกหวงขึ้นมาและทำให้เขาตัดสินใจขึ้นมาเธออีกครั้งแต่ก็ไม่คิดว่าจะมาเจอหญิงสาวเมาแล้วพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องแบบนี้“ฉันว่าเธอเมามากแล้วนะมีนพอได้แล้ว” เขาเดินตามเข้ามาและหยิบเบียร์ออกจากมือของหญิงสาว“ขอกินกระป๋องนี้ให้หมดได้ไหม”“ทำไมต้องดื่มมากขนาดนี้ล่ะ”“ดื่มเพื่อให้ลืมคุณไงล่ะ ยานอฟคุณมันผู้ชายไร้หัวใจ คุณทำให้ฉันตกหลุมรักแล้วก็เฉดหัวทิ้ง ให้ตายสิฉันไม่น่าไปรับเงินจากคุณเลย ฉันไม่น่าหลงรักคุณเลยนะยานอฟ ถ้ารู้ว่ามันจะเจ็บขนาดนี้ฉันจะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด ฉันจะยอมให้บ้านถูกยึดจะยอมหาเงินตัวเป็นเกลีย
ในดึกวันหนึ่งขณะที่มนต์มีนากำลังเตรียมแผนการสอนสำหรับวันรุ่งขึ้น เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากไลลา“สวัสดีจะมีน ฉันไลลานะ”“สวัสดีค่ะคุณไลลาสบายดีมั้ยคะ”“ฉันสบายดี แล้วมีนเป็นยังไงบ้างช่วงนี้ทำอะไรอยู่”“ช่วงนี้มีนไปฝึกสอนที่โรงเรียนค่ะ”“มีนจะปิดเทอมตอนไหน”“ปลายเดือนตุลาค่ะ”“เลยไลลาก็จะแต่งงานช่วงนั้นอยากชวนมีนมาร่วมงานด้วย”“มันจะดีเหรอคะ”“ดีสิ มางานแต่งงานไลลานะ งานจัดเล็กๆ มีแต่คนสนิทไม่กี่คนเอง”“จัดที่ไหนคะ”“ภูเก็ตจ้ะ มีนสะดวกไหม ไม่ไกลเลยนั่งเครื่องแป๊บเดียวเอง”“มีนอยากไปร่วมงานไปร่วมแสดงความยินดีกับคุณไลลาและคุณเจคอปนะคะแต่มีนคิดว่ามันไม่เหมาะสมเท่าไหร่เพราะมีนกับคุณไม่ได้สนิทกันมากขนาดนั้น”“พูดแบบนี้ไลลาเสียใจนะ อุตส่าห์ลิสต์รายชื่อมีนเป็นเพื่อนเจ้าสาวแล้วแท้ๆ มีนไม่มาใครจะเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้ล่ะ”“คุณไลลาให้คนอื่นเป็นเพื่อนเจ้าสาวแทนได้ไหม”“เพื่อนส่วนใหญ่ไม่มีใครว่างมาที่เมืองไทยเลยน่ะสิ”“แล้วเพื่อนเจ้าบ่าวล่ะคะ” มนต์มีนาต้องถามให้แน่ใจเพราะกลัวว่าเพื่อนเจ้าบ่าวของคุณไลลาจะเป็นยานอฟ“เพื่อนเจ้าบ่าวก็เป็นเพื่อนของเจคอป ไม่ต้องกลัวว่าจะเจอยานอฟหรอกเพราะช่วงที่ไลลาแต่งงานยานอ