ร่างกำยำสมบูรณ์แบบเหมือนดั่งรูปปั้นเทพเจ้ากรีกโบราณของนักรบเดินเข้ามาภายในเพนท์เฮาส์ของตัวเองโดยที่ในวงแขนแกร่งมีเสื้อสูทสีกรมเข้มอยู่เพราะชายหนุ่มถอดมันออกด้วยความอึดอัดทำให้ท่อนบนของร่างหนามีเพียงเสื้อเชิ้ตที่ชายเสื้อหลุดลุ่ยออกมาจากกางเกงเนื้อดีดูไม่เป็นระเบียบสักเท่าไหร่
หลังจากทานอาหารกับลูกค้าเสร็จเรียบร้อยแล้วทุกคนก็แยกย้ายกันไป จอมใจขอตัวนั่งรถกลับเองหลังจากที่ลงมาถึงด้านล่างอาคารซึ่งนักรบก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะปกติจอมใจก็มักจะเป็นแบบนี้เสมอ พอทานอาหารหรือพบปะพูดคุยกับลูกค้าเสร็จเธอก็จะขออนุญาตกลับเองทุกครั้ง
นักรบย่อตัวนั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่กลางห้องนั่งเล่นภายในเพนท์เฮาส์พร้อมกับมือหนาโยนเสื้อสูทลงบนโซฟาอย่างไม่สนใจไยดี
ชายหนุ่มเอนกายไปกับพนักพิงโซฟาและหลับตาลงอย่างครุ่นคิด ช่วงนี้มีเรื่องรบกวนจิตใจเขาเยอะไปหมดทั้งเรื่องของบิดามารดาและจอมใจ เขาไม่รู้เลยว่าตัวเองควรจัดการปัญหาอันไหนก่อนเป็นอันดับแรกเลย
นักรบครุ่นคิดอยู่สักพักเขานึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ชายหนุ่มก็ลืมตาขึ้นพร้อมกับมือสากเอื้อมไปหยิบเสื้อสูทที่เขาโยนไว้บนโซฟาขึ้นมา นักรบล้วงหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูของตัวเองออกมาเพื่อโทรหามือขวาคนสนิท
มือหนากดโทรศัพท์โทรออกซึ่งรอไม่นานปลายสายก็กดรับสายอย่างรวดเร็ว นักรบยกโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูพลางเอ่ยขึ้นทันที
“ภูผา”
‘ครับนาย’ ปลายสายตอบกลับ
“มึงไปดูมาสิว่าตอนนี้ที่บ้านกูเป็นยังไงบ้าง”
‘ครับ’
สิ้นเสียงของภูผา นักรบก็กดวางสายและโยนโทรศัพท์ลงไปบนโซฟาทันที มือหนาเลื่อนขึ้นมาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ดเผยให้เห็นกล้ามเนื้อหน้าท้องแน่นน่าสัมผัสลูบไล้
ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์บาร์เหล้าส่วนตัวภายในเพนท์เฮาส์ มือสากเปิดลิ้นชักหยิบแก้วเหล้าออกมาและตามมาด้วยมือหนายื่นไปหยิบขวดเหล้าราคาแพงหลังตู้กระจกของเคาน์เตอร์ออกมา นักรบวางแก้วลงบนเคาน์เตอร์ จากนั้นชายหนุ่มก็รินเหล้าใส่แก้วและยกแก้วขึ้นมากระดกพรวดเดียวจนหมดแก้ว
เคร้ง!
เสียงแก้วกระทบกับเคาน์เตอร์บาร์ดังลั่นด้วยแรงอารมณ์ของชายหนุ่ม เขารู้สึกอึดอัดใจและคิดอะไรไม่ออกในตอนนี้ ดวงตาคมกริบสั่นไหวเหมือนคนที่กำลังครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา
ด้านจอมใจ
หลังจากที่ทานอาหารกับลูกค้าเสร็จหญิงสาวก็ปลีกตัวนั่งรถกลับมาที่อพาร์ตเมนต์ก่อน ร่างอรชรเปิดประตูเดินเข้ามาในห้องพักของตัวเองด้วยท่าทางเหนื่อยล้าหมดแรงเพราะเธอต้องฝืนพยายามทำตัวปกติอยู่ตลอดเวลา
จอมใจวางกระเป๋าสะพายของตัวเองลงบนโต๊ะทานอาหารขนาดเล็กสไตล์มินิมอล เธอตั้งท่าจะเดินไปเข้าห้องน้ำแต่ทว่าเสียงโทรศัพท์ของหญิงสาวก็ดังขึ้นมาจากกระเป๋าสะพายเสียก่อน จอมใจจึงเอื้อมมือบางไปเปิดกระเป๋าสะพายและหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมา หญิงสาวมองไปที่หน้าจอโทรศัพท์ก็พบว่าคนที่โทรเข้ามาคือแม่ของเธอ
“แม่มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ” เสียงหวานเอ่ยออกไปทันทีที่กดรับสาย
‘จอมใจ! ช่วยแม่ด้วย! ลุงทินเมามาจะทำร้ายร่างกายแม่อีกแล้ว ฮึกๆ ปลายสายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงร้อนรนซึ่งจอมใจก็สามารถรับรู้ได้ว่าตอนนี้กำลังเกิดอะไรขึ้นอยู่ที่บ้านของเธอเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แฟนของแม่ทำแบบนี้
“แม่!! แม่อยู่ไหนตอนนี้”
‘แม่อยู่ในห้องแต่เขาพยายามจะเข้ามาในห้อง’
“แม่รอหนูก่อนนะ อย่าเปิดประตูเดี๋ยวหนูจะรีบไป!”
สิ้นเสียงของจอมใจ เธอก็รีบกดวางสายและคว้ากระเป๋าสะพายรีบวิ่งออกจากห้องพักอย่างรวดเร็ว จอมใจลงมาข้างหน้าอพาร์ตเมนต์ เธอเรียกรถแท็กซี่ตรงดิ่งมาที่บ้านเช่าของแม่ในเวลาต่อมา
เวลาผ่านไปไม่นาน จอมใจก็มาถึงบ้านเช่าที่ห่างจากอพาร์ตเมนต์ของเธอไม่มากนัก หลังจากที่เธอมาจ่ายเงินให้กลับคนขับรถเสร็จสรรพเธอก็รีบวิ่งเข้าไปในบ้านทันที
ดวงตากลมโตกวาดสายตามองไปรอบๆ บ้าน เธอพบกับแฟนใหม่ของแม่ที่กำลังยืนเคาะประตูห้องนอนของแม่เธออยู่เสียงดังในสภาพที่ร่างกายโอนเอนยืนไม่ไหวแล้ว
“หยุดเดี๋ยวนี้นะลุงทิน!” จอมใจตะโกนออกไปเสียงดังลั่นจนทำให้ชายแก่ที่กำลังเคาะประตูปึงปังชะงักเล็กน้อย
“จะ..จอมใจ” สุทิน สามีของแม่จอมใจหันกลับมาหาหญิงสาวที่กำลังเดินเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆ ด้วยแววตาแข็งกร้าว
“หนูเคยบอกแล้วใช่ไหมคะว่าอย่าทำร้ายร่างกายแม่อีก ไม่งั้นหนูจะไม่ให้เงินลุงอีก!”
“ฉันยังไม่ได้ทำอะไรแม่แกเลย!” สุทินตะโกนกลับมาเสียงดัง
“แล้วที่ทำอยู่นี่ละคะ” จอมใจกดเสียงต่ำใส่ชายแก่
“ฉันยังไม่ได้ทำอะไร แม่แกก็ร้องโวยวายแล้วเนี่ย” คนเมาเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม
จอมใจปรายตามองสุทินด้วยสายตาที่แข็งกร้าวและไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่ทำให้สุทินเดินหลบออกไปจากประตูห้องนอนของแม่เธอ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“แม่! แม่! ออกมาได้แล้วนะแม่” จอมใจเดินมาตรงหน้าประตูห้องนอนพร้อมกับมือบางยกขึ้นมาเคาะประตูห้องเพื่อให้มารดาเปิดประตูให้กับเธอ
ประตูห้องนอนค่อยๆ แง้มเปิดออกมาอย่างช้าๆ พร้อมกับใบหน้าสวยหวานที่มีน้ำตาเกาะอยู่บนแก้มทั้งสองข้างของมารดาจอมใจที่ค่อยๆ ชะเง้อหน้าออกมามองลูกสาวกับสามี
“จอมใจ ฮึกๆ” จารวีวิ่งออกมาจากห้องนอนพร้อมกับเข้าไปสวมกอดลูกสาวทันที
“ไม่เป็นไรนะแม่” จอมใจกอดตอบมารดาและลูบหลังปลอบประโลมสาวแก่
“จะร้องอะไรหนักหนา ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเธอเลย” สุทินเอ่ยออกมาอย่างหงุดหงิด
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ! ถ้าลุงยังทำแบบนี้อีกเราจะได้เห็นดีกัน” จอมใจตะคอกใส่สุทินเสียงดังก่อนที่เธอจะหันมาพูดกับแม่ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“วันนี้แม่ไปนอนกับหนูนะ”
“ได้ๆ ลูก พาแม่ไปด้วยนะ แม่ไม่อยากอยู่บ้านตอนนี้” จารวีตอบกลับด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
“ถ้าลุงยังเมาและมาทำร้ายแม่อยู่แบบนี้ หนูจะไม่ให้แม่กลับมาบ้าน แล้วลุงก็จะไม่ได้เงินจากหนูอีกแม้แต่บาทเดียว” จอมใจป่าวประกาศเสียงดังลั่นอีกครั้ง
สุทินไม่กล้าตอบกลับอะไรออกไป เขาได้แต่ยืนโอนเอนตามประสาคนเมาที่ไม่สามารถควบคุมสติตัวเองได้เต็มที่
หลังจากที่จอมใจพูดจบ เธอก็ประคองแม่ของตัวเองก้าวเดินออกมาจากบ้านหลังนี้ทันทีโดยไม่หันกลับมามองสุทินอีกเลย
จอมใจพามารดาที่กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นเดินออกมาหน้าบ้าน ซึ่งพวกเธอมายืนรอได้ไม่นานก็มีรถแท็กซี่ขับผ่านมาพอดี จอมใจยกมือขึ้นมาโบกรถแท็กซี่และพาจารวีขึ้นรถไปอย่างรวดเร็ว
ริมฝีปากหนาของนักรบฉกจูบลงบนเรียวปากสีชมพูระเรื่ออย่างจาบจ้วง ลิ้นสากร้อนส่งเข้าไปทักทายกับลิ้นเรียวเล็กพร้อมกับขบเม้มริมฝีปากล่างของหญิงสาวเบาๆ มือหนาเลื่อนต่ำลงมาโอบรอบเอวคอดกิ่งพลางดึงรั้งหญิงสาวให้แนบชิดกับแผงอกแกร่งเปลือยเปล่า มือบางยกขึ้นมาลูบไล้หน้าอกกำยำอย่างแผ่วเบาด้วยความเสน่หา นิ้วเรียวเล็กซุกซนสะกิดยอดจุกของชายหนุ่มพลางจูบตอบสามีจนเสียงทุ้มครางต่ำในลำคอด้วยความพึงพอใจชายหนุ่มเคลื่อนมือสากล้วงเข้าไปในเสื้อสีขาวสะอาดตาของจอมใจก่อนที่มือหนาจะหยุดลงตรงเต้าอวบอิ่ม เขาบีบเคล้นก้อนเนื้อนุ่มนิ่มอย่างเมามัน ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ยังคงจูบกันเกี่ยวพันลิ้นร้อนอย่างดูดดื่มนักรบคว้ามือบางให้ล้วงเข้าไปในกางเกงผ้าเบาสบายของเขา จอมใจรู้หน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดี มือเล็กล้วงเข้าไปสัมผัสหยอกล้อกับแก่นกายใหญ่ที่มีเส้นเลือดปูดโปนกำลังแข็งขันชูชันสู้มือ หญิงสาวถลกหนังหุ้มปลายหัวหยักแดงก่ำลงพลางใช้นิ้วเล็กลูบวนบนปลายหัวจนเริ่มมีน้ำใสๆ ไหลปริ่มออกมาจากรูเล็กตรงกลางหัวมันเงาชายหนุ่มไม่รอช้า มือหนาเริ่มปลดกระดุมชุดนอนสีขาวสะอาดตาของหญิงสาวออกอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากหนาค่อยๆ เคลื่อนไปตรงซอกคอขาวเนี
หนึ่งปีผ่านไปร่างอรชรของจอมใจนั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่กำลังพูดคุยกับณิชาไปเรื่อยเปื่อยบนโซฟากลางห้อง ตรงพื้นห้องมีเหล่าบรรดาสาวใช้ประมาณสองคนที่กำลังเก็บข้าวของที่เกลื่อนกลาดตรงพื้นห้องอยู่ ถัดไปก็มีแม่บ้านที่อาวุโสที่สุดในคฤหาสน์กำลังนั่งมองเด็กทารกวัยหนึ่งขวบหลับอยู่ในเปลนอนสีน้ำตาลสุดหรูด้วยสายตาเอ็นดูและหลงใหลในความน่ารักน่าชังของเด็กน้อยตั้งแต่มีเด็กชายตัวน้อยๆ เข้ามาในคฤหาสน์ ทุกคนในบ้านก็ดูจะมีชีวิตชีวาขึ้นมากกว่าเดิม อีกทั้งทุกคนยังเลี้ยงดูเด็กชายช่วยกันเป็นอย่างดีจนแทบจะเรียกได้ว่าแย่งกันเลี้ยงเลยทีเดียวเหนือสมุทรเดินเข้ามาในห้องโถงพลางกวาดสายตามองทุกคนที่อยู่ในห้อง เมื่อชายแก่เห็นว่าเด็กชายหลับอยู่เขาจึงค่อยๆ เดินย่องให้เบาที่สุด ถึงแม้ว่าโดยปกติแล้วเด็กน้อยจะตื่นยากแต่เหนือสมุทรก็ไม่อยากรบกวนการนอนหลับของเด็กชายตัวน้อยสักเท่าไหร่“สวัสดีค่ะคุณพ่อ สวัสดีค่ะคุณปู่” ณิชากับจอมใจกล่าวทักทายชายแก่พร้อมกัน “นักรบละ” เหนือสมุทรเอ่ยถาม“อยู่ในห้องทำงานค่ะ” จอมใจตอบกลับพลางส่งยิ้มหวานไปให้“ฉันซื้อเสื้อผ้ากับของเล่นมาให้เหลนฉัน”“จอมทัพเพิ่งหลับไปสักพักเองค่ะ” จอมใจบอกกล่าวเหนือสมุท
สี่เดือนต่อมาเสียงเอ๊ะอ๊ะโวยวายภายในคฤหาสน์ของตระกูลเทวาศิริโชติดังขึ้นมา ร่างกำยำของนักรบกำลังอุ้มจอมใจที่ท้องโตในท่าเจ้าสาวกำลังก้าวตรงมายังลานจอดรถด้วยใบหน้าที่ตื่นตกใจและวิตกกังวล เพราะเมื่อสักครู่นี้จอมใจเดินลงบันไดมาอยู่ดีๆ เธอก็บอกกับเขาว่าเธอเจ็บท้องมากๆ ซึ่งในเวลาต่อมาน้ำคร่ำของเธอก็แตกไหลเปียกลงมาระหว่างเรียวขาสวย นักรบรู้ได้ทันทีว่าหญิงสาวจะคลอดลูกชายตัวน้อย เขาจึงรีบช้อนร่างอวบอิ่มอุ้มตรงมาที่รถอย่างรวดเร็ว เหล่าสาวใช้รีบวิ่งไปตามมารดาของนักรบทันที“จอมใจ! อดทนหน่อยนะ!” เสียงทุ้มทรงพลังเอ่ยกับร่างเล็กในอ้อมแขนด้วยน้ำเสียงสั่นเทา“ฮึก! คะ..ค่ะ อืออ” จอมใจหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความเจ็บปวดที่ท้องและอาการมดลูกหดเกร็งที่บีบรัดอยู่เป็นระยะ“ไหวไหม” นักรบเอ่ยถามหญิงสาวไม่หยุดปาก“วะ..ไหวค่ะ ฉันไหวค่ะ” หญิงสาวพยายามข่มความเจ็บปวดเอาไว้“ไอ้ภูผา! ไอ้ภูผา! ไปไหนของมันวะ” ชายหนุ่มตะโกนเสียงดังลั่นเมื่อเขาอุ้มภรรยามาถึงลานจอดรถของคฤหาสน์ ทว่าเขากลับไม่เห็นคนสนิทของเขา“นักรบ ใจเย็นๆ นะลูก ให้คนอื่นขับพาไปก็ได้นะลูก” ณิชาที่รีบวิ่งหน้าตาตื่นมาบอกกล่าวกับลูกชายทันที“ไม่ได้แม่…ต้องให้มัน
สองเดือนผ่านไปหญิงสาวร่างอวบอิ่มหน้าท้องนูนเด่นขึ้นมาเล็กน้อยกำลังนอนอยู่บนเตียงตรวจโดยมีคุณหมอคนสวยสวมเสื้อกาวน์สีขาวยืนอยู่ข้างเตียงกับชายหนุ่มร่างกำยำที่นั่งอยู่ใกล้ชิดกับจอมใจด้วยใบหน้าที่ดูตื่นเต้นเล็กน้อย นักรบกับจอมใจมาที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายของจอมใจและเพื่อตรวจเพศของทารกในครรภ์“ตอนนี้เรากำลังจะมาดูเพศน้องกันนะคะ” เสียงเครื่องอัลตราซาวน์ดังขึ้นเป็นระยะในขณะที่คุณหมอคนสวยดูท่าทางใจดีและอบอุ่นกำลังใช้หัวตรวจวนไปวนมาอยู่ตรงเจลที่ทาไว้ก่อนหน้านี้ตรงหน้าท้องของจอมใจ“เดี๋ยวรอน้องอยู่ในท่าที่เห็นได้ชัดก่อน หมอจะแจ้งให้ทราบนะคะ” หมอสาวค่อยๆ ขยับหัวตรวจอย่างแผ่วเบาอยู่สักพัก นักรบมองท้องของหญิงสาวสลับกับหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างใจจดใจจ่อ“เห็นชัดแล้วค่ะ..น้องเป็นผู้ชายนะคะ” สิ้นเสียงคุณหมอคนสวย จอมใจหันหน้าไปมองชายหนุ่มพลางฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีอกดีใจให้เขาทันที แน่นอนว่านักรบเองก็ดีใจมากๆ เช่นกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นเพศไหนเขาก็รักลูกของเขาอยู่ดีทว่าได้ลูกชายก็ดีเลยเพราะเขาก็อยากจะสอนถ่ายทอดวิชาและการใช้ชีวิตต่างๆ ให้กับลูกชายของเขา“ดีใจด้วยนะคะคุณพ่อคุณแม่”“ขอบคุณนะคะคุณหมอ” เสียงหวา
หลังจากที่นักรบพาภรรยาคนสวยไปทานมื้อค่ำกันจนเสร็จเรียบร้อย คู่สามีภรรยาก็พากันกลับมายังคฤหาสน์ในช่วงพลบค่ำของวัน ชายหนุ่มร่างกำยำโอบไหล่แบบบางของภรรยาเดินตรงเข้ามาในคฤหาสน์ ในขณะเดียวกันสาวใช้ก็เดินตรงมาหาพวกเขาพอดี“นายท่านคะ..ท่านปู่มาค่ะ” สาวใช้ชุดดำเอ่ยขึ้นทันที“อือ” นักรบพยักหน้าให้เธอ สาวใช้ก้มหัวให้เจ้านายหนึ่งครั้งก่อนที่เธอจะหันหลังเดินกลับเข้าไปในคฤหาสน์“มีอะไรหรือเปล่าคะ” จอมใจเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย วันแต่งงานพวกเธอก็ไม่ได้คุยอะไรกับปู่ของนักรบเลยสักนิดเพราะยุ่งกับงานแต่งอยู่ ซึ่งท่านเองก็เงียบขรึมไม่พูดไม่จาอะไร เธอจึงไม่รู้ว่าชายแก่คิดอะไรอยู่“ไม่มีอะไรหรอก เข้าไปในบ้านกันเถอะ” พูดจบ ชายหนุ่มก็พาหญิงสาวเดินเข้ามาในคฤหาสน์และตรงไปยังห้องรับแขกทันทีชายแก่ที่มีใบหน้าเหี่ยวย่นดูดุดันน่าเกรงขามนั่งอยู่บนโซฟากลางห้องรับแขกด้วยใบหน้านิ่งเรียบไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา นักรบเดินเข้ามาในห้องรับแขกพร้อมกับจอมใจที่เดินเคียงข้างชายหนุ่มเข้ามา“มาทำไม” เสียงทุ้มของนักรบเอ่ยถามชายแก่ทันที “สวัสดีค่ะ” หญิงสาวยกมือขึ้นมาพนมกลางอกพลางกล่าวทักทายชายแก่อย่างนอบน้อม“ฉันซื้อผลไม้
คู่รักข้าวใหม่ปลามันลงมาจากชั้นสองของคฤหาสน์พร้อมกัน จอมใจสวมชุดเดรสสั้นทรงตรงสีขาวแขนกุดมีใบหน้าที่อิดโรยอย่างเห็นได้ชัด ชายหญิงตื่นมาทานอาหารเช้ากับมารดาทั้งสองคน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้นอนไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงแต่หนุ่มสาวก็ไม่อยากให้ผู้ใหญ่ต้องมานั่งรอพวกเขาเพื่อทานอาหารเช้า“ตื่นเช้ากันจังเลยละลูก” เสียงของณิชาเอ่ยทักทายคู่สามีภรรยาที่เดินเข้ามาในห้องอาหารพร้อมกัน“หนูกลัวว่าคนอื่นจะรอกินข้าวค่ะ” จอมใจตอบกลับไปอย่างนอบน้อม“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นเลย พวกแม่เข้าใจดี” ณิชาหันไปยิ้มกรุ้มกริ่มกับจารวีที่นั่งอยู่ข้างเธอ“มาๆ กินข้าวกันลูก” จารวีพูดขึ้นมา นักรบกับจอมใจจึงเดินไปนั่งลงประจำที่ของตัวเอง ชายหนุ่มนั่งลงตรงหัวโต๊ะและจอมใจเดินไปย่อตัวนั่งลงบนเก้าอี้ด้านขวามือของนักรบ พวกเขาทั้งสี่คนลงมือทานอาหารเช้าด้วยกันอย่างช้าๆ บรรยากาศภายในบ้านดูอบอุ่นแตกต่างจากเมื่อก่อนไปเยอะมาก“จ๋า เธอก็ย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วยกันเลยสิ” มารดาของนักรบเอ่ยขึ้นมาในขณะที่ทุกคนกำลังทานอาหารกันอยู่“ไม่เป็นไรหรอก ฉันเกรงใจ” จารวีตอบกลับ แค่นี้เธอก็เกรงใจครอบครัวของณิชามากๆ แล้ว“จะเกรงใจทำไม คนกันเองทั้งนั้น อีกอย่างเราก