Share

บทที่ 2

last update Last Updated: 2025-07-03 20:25:49

เรือของจันทร์เจ้ารีสอร์ทพาหนุ่มรักทะเลมาชมความงามของโลกใต้น้ำ ทั้งคู่เตรียมอุปกรณ์ดำน้ำมากันเองอย่างพร้อมเพรียง และใช้เวลาดำผุดดำว่ายอย่างมีความสุขโดยที่คนเรือนั่งรออยู่ด้านบนโดยไม่ปริปากบ่นสักคำ

         "ฉันอยากรู้ว่าไปแถวนั้นได้ไหม" อีธานโผล่หน้าขึ้นมาถามคนเรือที่ใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวกางเกงเลสีกรมท่า มีผ้าคลุมหน้าสีดำเผยให้เห็นแค่ดวงตาทั้งสองข้างและมีหมวกใบใหญ่บนศีรษะอีกที

         "เพื่อนฉันถามว่าจะดำน้ำไปดูปะการังนอกแนวเขตได้ไหม" ธามโผล่หน้าขึ้นมาแปลภาษาไทยให้คนเรือฟัง

         "ไม่ได้ นั่นนอกเขตรีสอร์ท" คนเรือตอบเสียงดังฟังชัด

         ธามอธิบายให้อีธานฟังตามที่คนเรือบอกมา อีธานพยักหน้ารับทราบ แต่เอะใจเล็กน้อยว่าทำไมน้ำเสียงที่พูดรู้สึกคุ้นหูเหลือเกิน

         "บอกเขาว่าเราจะใช้เวลานานหน่อย แล้วจะให้ทิปพิเศษ" อีธานเตรียมตัวจะกลายร่างเป็นฉลามหนุ่มลงไปใต้ท้องทะเลอีกหน ธามแปลความหมายให้คนเรือฟังอีกครั้งและเตรียมจะลงไปพร้อมเพื่อน

         "คุณสองคนอยู่ที่นี่ได้จนกว่าจะพอใจ แต่ขอแนะนำว่าถ้าสายมากอากาศจะร้อนและคุณอาจจะอดเที่ยวที่อื่นอีก"

         ธามพยักหน้ารับเข้าใจที่คนเรือพูด หันไปอธิบายให้อีธานฟังอย่างละเอียดอีกครั้งแล้วจึงดำดิ่งสู่โลกใต้ทะเลลึกอีกครา ปล่อยให้คนเรือรอคอยไปอย่างที่ตกลงกัน

         เมื่อทั้งสองชมความงามของใต้ท้องทะเลจนพอใจแล้วจึงกลับขึ้นมาพักบนเรือ อีธานสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างของคนเรือ รูปร่างที่ดูบอบบางอรชนอ้อนแอ้นแม้ว่าจะพยายามทำให้ดูแข็งแรง หรือแม้แต่เสื้อฟ้าที่หลวมโคร่งใส่แล้วไม่พอดีเหมือนคล้ายจงใจแต่งตัวเพื่อไม่ให้คนมอง แต่นั่นไม่เท่ามือเรียวทั้งสองข้างที่ชายหนุ่มมั่นใจว่าคนเรือของตนเป็นผู้หญิง

         ตลอดทางที่กลับมารีสอร์ทอีธานสังเกตพฤติกรรมของคนเรือมาตลอดทาง สิ่งหนึ่งที่ชายหนุ่มรู้สึกได้ก็คือแม้จะชวนคุยเท่าไรโดยมีธามเป็นล่ามแปลให้ คนเรือก็แทบไม่อยากจะเอื้อนเอ่ยอะไรตอบมาสักเท่าไร

         กลับมาถึงที่บ้านพักคนเรือแจ้งแค่สั้นๆ ว่าอีกครึ่งชั่วโมงจะถึงเวลาอาหารกลางวัน ธามขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าส่วนอีธานเดินตามคนเรือออกมาที่หน้าบ้าน

         "เฮ้ ยู" ชายหนุ่มตะโกนไล่หลัง

         คนเรือเร่งฝีเท้าทำเป็นไม่ได้ยินว่าลูกค้าร้องเรียกตน แต่ดูเหมือนจะช้าไปเสียแล้วเมื่ออีธานวิ่งตามามาคว้าข้อมือไว้และหันมาพูดภาษามือสื่อสารแทน

         "ฉันอยากเล่นน้ำตรงนี้" ว่าแล้วชายหนุ่มก็ลากคนเรือลงไปที่ทะเลกับตน

         ระดับความลึกไม่เท่ากับที่เขาช่วยผู้หญิงคนนั้น แต่เพียงแค่เห็นท่าทีดิ้นรนหนีของคนเรือ หมวกใบใหญ่ที่ปลิวหายไปตามแรงลม มวยผมหลุดลุ่ยสยายเต็มหลัง ไม่ผิดแน่เป็นผู้หญิงจริงๆ

         "ปล่อย จะทำอะไรฉัน ปล่อยนะ ไอ้คนบ้า" เสียงนี้ล่ะ ใช่เลย อีธานจำได้ไม่มีวันลืม

         " ไอ้ฝรั่งบ้า ไอ้คนลามก ปล่อย" มีแรงเท่าไรสาวน้อยก็ดิ้นสุดแรงเกิด

         "ใช่เธอจริงๆ ด้วย" อีธานมั่นใจเต็มร้อย

         ผู้หญิงที่เจอคืนนั้นอยู่ในรีสอร์ทจริงๆ และเป็นพนักงานของที่นี่ด้วย มิน่าเล่า เขาถึงได้หาเธอไม่เจอ

         "ไหนขอดูหน้าชัดๆ คนไม่รู้จักบุญคุณคนหน่อยซิ" อีธานเอาผ้าคลุมหน้าออกอยากจะเห็นเหลือเกินว่า ฟ้าแจ้งขนาดนี้เจ้าหล่อนจะหน้าตาเป็นอย่างไร สวยได้เท่าหน้าซีดในยามค่ำคืนหรือเปล่า

         สวย คำนิยามสั้นๆ เมื่อได้เห็นใบหน้าชัดๆ ของแม่สาวนิรนามที่เขาเฝ้าขบคิดมาทั้งคืนว่าเจ้าหล่อนมาทำอะไรค่ำๆ มืดๆ ในทะเล และยิ่งสวยมากขึ้นเมื่อเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งที่ถูกน้ำทะเลซัดแนบเนื้อจนเห็นรูปร่างเนื้อแท้ที่แสนเย้ายวนคนมอง

         "อย่ามายุ่งกับฉัน ไม่งั้น..." สาวนิรนามขู่ฟ่อ

         "ไม่งั้นทำไม" เขายังไม่ยอมปล่อยแถมยังทำหน้าทะเล้นยั่วยวนอีกต่างหาก

         "โอ๊ย...." อีธานตัวงอทันทีเมื่อสีข้างถูกกระทุ้งอย่างแรงจากข้อศอกของคนในอ้อมกอด เจ้าหล่อนทำร้ายเขาซ้ำสองอีกแล้วไหมเล่า

         เมื่อหลุดจากการจับกุมของคนฉวยโอกาสได้ เธอก็รีบวิ่งขึ้นฝั่งแต่ก่อนจะหายไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ แม่เจ้าประคุณก็ยังมีแก่ใจหันมามองว่าอีกฝ่ายเป็นอย่างไรบ้าง

         "ชอบทะเลไม่ใช่เหรอ แช่อยู่ในนั้นแหล่ะ อยากขึ้นเมื่อไรก็เดินขึ้นมาเองนะ"

         อีธานเจ็บจนขยับทำอะไรไม่ได้ คอยดูเถอะ เขาต้องถามชลาลัยให้รู้ให้ได้ว่าแม่เจ้าประคุณเป็นใคร ถึงได้กล้าบังอาญมาทำร้ายถึงสองครั้ง แถมยังทำหน้าเยาะเย้ยอย่างมีความสุขเสียเต็มประดาอีกด้วย

เรื่องสาวนิรนามเป็นปริศนาให้อีธานคิดต่อไป เพราะชายหนุ่มไม่มีโอกาสได้พบกับชลาลัยอีกเลยจนกระทั่งคืนสุดท้ายก่อนเดินทางกลับ

         "ออกไปหาอะไรดื่มกันหน่อยไหม" อีธานถามธามขณะที่เดินเล่นกลับมาบ้านพักหลังอาหารเย็น

         คืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายที่ทั้งคู่จะอยู่ที่จันทร์เจ้ารีสอร์ท อีธานเริ่มอยากออกไปดูบรรยากาศนอกรีสอร์ทว่า เกาะหวนมีสถานที่ไหนน่าสนใจบ้าง เขาหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตว่าถ้าต้องการเฮฮาสังสรรค์และแสงสีควรไปที่ถนนคนเดินแต่ติดตรงที่ว่า

          "นายไปเถอะ ฉันอยากนอนมากกว่า" ธามไม่มีอารมณ์อยากไปเที่ยวไหนในเวลานี้

         "เป็นอะไร มาเที่ยวนะทำหน้าให้สนุกหน่อย ฉันเห็นนายเครียดทุกครั้งที่แม่บ้านโทรศัพท์มาบอกว่าคู่หมั้นไม่อยู่ออกไปข้างนอก อย่าบอกนะว่าอยากจะกลับไปหาคู่หมั้นแล้ว"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เสน่ห์รักจอมมาร   บทที่ 4.4

    หนึ่งสัปดาห์ต่อมา "ฉันจะกลับไปที่เกาะนั่น เจ้าของรีสอร์ทสนใจที่จะลงทุนด้วย" อีธานแวะมาบอกเจ้าของบ้านที่กำลังหงุดหงิดเพราะคู่หมั้นหายไปตั้งแต่เช้า เห็นเพื่อนรักท่าทางอารมณ์ดีเป็นพิเศษทำให้ธามคิดว่าอีธานคงดีใจที่จะได้ไปในสถานที่ชอบอีกครั้ง ทะเลกับปลาไหลคงเป็นของคู่กันไปแล้ว แต่เปล่าเลย ที่อีธานดีใจไม่ใช่เพราะชลาลัยตัดสินใจเชิญเขาไปฟังเงื่อนไขบางอย่างที่เกาะหวน แต่เป็นเพราะชายหนุ่มจะมีโอกาสได้จัดการกับข้อกังขาที่อยู่ในใจมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่กลับมา ภายหลังจากที่กลับมาจากเกาะหวน อีธานมีเวลาทบทวนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับมีนา สิ่งหนึ่งที่เป็นกังวลมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ มีนาท้อง เพราะคืนนั้นเขาไม่ได้ป้องกัน ดังนั้นถึงตกลงกับเจ้าตัวไม่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ถ้ามีเด็กเกิดขึ้นอีธานก็ไม่มีวันปล่อยให้เลือดเนื้อเชื้อไขตัวเ

  • เสน่ห์รักจอมมาร   บทที่ 4.3

    คำแนะนำของอีธานเป็นวิธีที่ดีไม่ใช่น้อย แต่ปัญหาของจันทร์เจ้ารีสอร์ทไม่ใช่แค่หนี้สิ้นที่พอกเป็นหางหมูเท่านั้น แต่ยังติดปัญหาอื่นซึ่งไม่รู้ว่าจะหาทางแก้ไขอย่างไรด้วยต่างหาก "ใครจะกล้ามาลงทุนกับรีสอร์ทเล็กๆ อย่างเรา" ชลาลัยพูดอย่างหมดหวัง ความงดงามของทิวทัศน์ที่ตนเองเป็นเจ้าของแต่กลับไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งหรือให้ความช่วยเหลือ ไม่ใช่ไม่มีมิตรภาพหรือความสนใจ หากแต่อิทธิพลของคนที่อยากครอบครองพื้นที่ต่างหาก ที่ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งเกี่ยวพร้อมทั้งบีบให้จันทร์เจ้ารีสอร์ทค่อยๆ ตายลงทีละน้อย เพื่อหวังให้ในที่สุดชลาลัยจะยอมขายที่ดินอันเป็นมรดกตกทอดให้กับนายทุนเจ้าเล่ห์ที่รออยู่ทุกขณะ "แต่เราก็จะดิ้นให้ถึงที่สุดใช่ไหม พี่ลัย" มีนากุมมือปลอบใจพี่สาว "ใช่ เราจะสู้ไปด้วยกัน" พี่สาวคนสวยฝืนยิ้มออกมาได้อีกครั้ง&nb

  • เสน่ห์รักจอมมาร   บทที่ 4.2

    อีธานไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับที่นี่ แต่ในเวลานี้สายตาเขาจับจ้องไปskแม่สาวที่กำลังกอดชลาลัยอยู่ ท่าทางของมีนาเข้มแข็งมากตอนนี้ไม่ได้สนใจที่จะมองใครนอกจากปลอบประโลมพี่สาวคนสวยเพียงอย่างเดียว "ไม่เป็นไรแล้วพี่ลัย สงสัยต้องนิมนต์ท่านมาปัดเสนียดจัญไรพวกหน้าเลือดหน่อยแล้ว" มีนาพนมมือไหว้พระพุทธรูปก่อนจะอุ้มอัญเชิญเข้าไปในห้องทำงานตามเดิม เธอเพิ่งรู้ว่าพี่สาวไม่ได้อยู่กับคุณนายสร้อยทองเพียงลำพัง หากแต่มีใครบางคนที่หญิงสาวไม่อยากเจออยู่ด้วย มาทำอะไรที่นี่ แล้วมาตั้งแต่เมื่อไร "ทำไมไม่กลับไปอีก" มีนาเอ่ยขึ้นลอยๆ จงใจให้ใครบางคนได้ยิน แต่ไม่เจาะจงชื่อว่าเป็นใครเพราะไม่ต้องการพูดด้วย และเข้าใจว่าอีกไม่กี่นาทีคนที่ไม่อยากเจอตลอดชีวิตก็จะไม่อยู่ให้เห็นหน้าแล้ว หลังจากที่กลับ

  • เสน่ห์รักจอมมาร   บทที่ 4

    เรือพร้อมจะไปส่งนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่งในอีกครึ่งชั่วโมง ธามเตรียมตัวพร้อมจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในขณะที่อีธานเอาแต่ครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรกับสิ่งที่ค้างคาใจในเวลานี้ ชายหนุ่มพยายามหาทางพบมีนาตั้งแต่ที่หญิงสาววิ่งหนีหายไป แต่ไร้เงาราวกับว่าไม่ได้อยู่ในจันทร์เจ้ารีสอร์ทนี้ ทางเดียวที่อีธานจะรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน ก็คงต้องถามชลาลัยเท่านั้น เขาจึงให้ธามรออยู่ที่ล็อบบี้แล้วกลับไปที่ออฟฟิศทันที อีธานเดินมาเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าออฟฟิศของจันทร์เจ้ารีสอร์ท ก็ได้พบกับชลาลัยอีกครั้ง แต่วันนี้สีหน้าเธอดูเคร่งเครียดจนไม่เหลือรอยยิ้มหวานๆ บนใบหน้าอีกเลย "สวัสดีค่ะ จะกลับวันนี้แล้วใช่ไหมคะ" ชลาลัยพยายามจะยิ้มหวานๆ ให้ลูกค้า แต่ตอนนี้เรื่องที่กำลังปวดหัวทำให้ยิ้มไม่ออกสักเท่าไร "ครับ เอ่อ คุณ เอ่อ คือ" อีธานไม่รู้จะเริ่มต้นถามถึงมีนาอย่างไร

  • เสน่ห์รักจอมมาร   บทที่ 3.3

    สายของวันถัดมามีนาลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง ร่างกายเมื่อยล้าและปวดร้าวอย่างบอกไม่ถูก สงสัยว่าอาจจะเป็นเพราะเมื่อคืนลงเล่นน้ำทะเลดึกมากไปหน่อยเช้านี้ก็เลยพาลจะไม่สบายเอาหญิงสาวขยับตัวลุกขึ้นจะเข้าห้องน้ำไปทำธุระ มีนาชะงักเมื่อเตียงที่กำลังนอนและห้องที่อยู่ในเวลานี้ไม่ใช้ห้องนอนของตน แต่มันเป็นห้องพักห้องใดห้องหนึ่งในรีสอร์ทและตอนนี้มีเสียงใครบางคนกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ไม่ไกล"ครับ วิกกี้ ขอบคุณมากที่นึกถึงผม เดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับ" อีธานอวยพรอดีตคู่ขาที่วันนี้โทรศัพท์มาร่ำลาว่าจะกลับประเทศของตนแล้ว"ถ้าปีหน้าคุณมางานทอมอีก เราก็อาจจะได้เจอกันอีกแต่ถึงตอนนั้นคุณคงจำผมไม่ได้แล้ว เพราะผู้หญิงสวยอย่างคุณคงมีคนมารายล้อมมากมายจนลืมผู้ชายกระจอกๆ อย่างผมไปเลยน่ะซิครับ" อีธานเหลือบมาเห็นมีนารู้สึกตัวแล้ว เพียงแค่เห็นสีหน้าก็รู้ว่านาทีต่อจากนี้ไปอะไรจะเกิดขึ้น"บายครับ วิกกี้ ผมจะคิดถึงคุณนะ""อุ๊บ..."หมอนใบใหญ่เขวี้ยงมาที่หน้าแม่นยำราวกับมืออาชีพ อีธานกำลังจะอ้าปากพูดแต่เปลี่ยนใจวิ่งหาที่หลบภัยจากข้าวของที

  • เสน่ห์รักจอมมาร   บทที่ 3.4

    มีนาเปิดประตูห้องน้ำออกมาแล้วรีบเดินออกไปจากห้องโดยไม่สนใจว่าจะมีใครรออยู่ อีธานรีบวิ่งตามออกมาแล้วคว้าแขนหญิงสาวไว้ "ปล่อยนะ" เจ้าตัวสะบัดไม่ยอมให้จับ "เรายังไม่ได้คุยกันเลย" อีธานไม่ยอมปล่อย "ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก ปล่อย" มีนาออกแรงสะบัดแขนอีกครั้ง แต่ชายหนุ่มยึดเอาไว้แน่นซ้ำยังรวบสองมือไว้ ดึงเข้ามาหาไม่ยอมปล่อยไปไหนอีกด้วย "ถ้าไม่คุยกันดีๆ เราไปคุยต่อหน้าพี่สาวคุณก็ได้ เอาไหม" ท่าทางอีธานเอาจริงแน่ "ขู่ฉันเหรอ" หญิงสาวเม้มปากแน่นด้วยความโกรธ "ไม่ได้ขู่แต่ผมทำจริง หรือจะไปตอนนี้เลยก็ได้ เมื่อเช้าคุณลัยเพิ่งถามว่าไปเที่ยวเมื่อคืนสนุกไหม คุณอยากให้ผมตอบไหมล่ะว่าสนุกจนเกือบโต้รุ่ง แต่คนที่สนุกคือคุณไม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status