*ปล. นี่เป็นเรื่องสมมติ และเป็นด้านมืดในการมีเซ็กซ์ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องจริงที่เกิดขึ้น และโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน...
เป็นรายการเฉพาะกิจ ซึ่งจัดขึ้นมาเฉพาะในกลุ่มเท่านั้น เพื่อให้สมาชิกในกลุ่ม ได้มีโอกาสพึงพอใจในการเลือกคู่นอน มีสิทธิเลือกด้วยตัวเอง ทดลองและหาคู่นอนด้วยการมีเพศสัมพันธ์ทันที โดยไม่ต้องดูจากรูปร่างหน้าตา หรือฐานะอะไร แค่อยากได้แบบไหน แค่มาร่วมรายการ และเลือกด้วยตัวเอง
เกิดจากความสมัครใจของผู้ลงทะเบียน ว่าต้องการเลือกหรือถูกเลือก พวกเขาจะมีห้องหนึ่งสำหรับผู้ถูกเลือกให้เข้าไปอยู่ในนั้น เลือกหมายเลขเอง และโชว์เรือนร่างโดยไม่เปิดเผยหน้าตา เปลื้องผ้าและรอการถูกเลือกเพื่อมีเพศสัมพันธ์
สำหรับผู้เลือกด้วยตัวเอง จะต้องรอลงทะเบียนรับหมายเลข เพื่อเข้าไปเลือกชายหรือหญิงที่ต้องการถูกเลือก และมีเพศสัมพันธ์ทันทีในเวลานั้น... ทำให้สมาชิกกลุ่มรู้สึกตื่นเต้นและเร้าใจมาก ว่าอยากอยู่ในตำแหน่งไหนของเกมส์นี้
ผู้ต้องการถูกเลือก จึงเข้าไปอีกห้องหนึ่ง เพื่อเตรียมตัวโดยไม่มีใครได้เห็นหน้าพวกเขา มีทั้งชายหญิงผสมกันไป ส่วนผู้ต้องการเลือกจึงกลายเป็นผู้ชายจำนวนหนึ่งถึงห้าสิบกว่าคน รายการนี้ยาวนานตลอดวัน และกลายเป็นเซ็กซ์กรุ๊ปแบบสมยอม
นาย คมศร เป็นสมาชิกในกลุ่มลับ เขาลงทะเบียนเป็นผู้เลือกการมีเซ็กซ์หาคู่นอน เขาสมัครชื่อลงทะเบียน จ่ายเงินค่าสมัครราคาก็เอาเรื่องอยู่ แต่เขาอยากได้คู่นอนแบบที่ต้องการ ขอให้ถึงใจและถ้ามีความเป็นไปได้ การหาคู่นอนซึ่งยังไม่เคยผ่านมือใครมาก่อน ค่าลงทะเบียนแพงสุดๆ เขาเลือกที่จะหาคู่นอนแบบใหม่แกะกล่อง...
เมื่อพวกเขาจับฉลาก เลือกในแต่ละรอบ ในห้องหนึ่ง จะมีคู่นอนให้เลือกอยู่สี่คู่ อยู่ในแต่ละมุมห้อง ซึ่งผู้ยอมถูกเลือกจะเปลือยร่างกายโดยมีกล่องปิดหน้าเอาไว้ มีทั้งชายหนึ่งและหญิงสาม รอถูกเลือกเพื่อมีเซ็กซ์แบบไม่ต้องคุยหรือดูหน้าตา
ปรากฏเพียงช่วงร่างกายเปลือยเปล่า รอการถูกเลือกเพื่อมีเซ็กซ์ ช่างทำให้ผู้ถูกเลือก ต่างรอด้วยความรู้สึกตื่นเต้นว่า จะถูกกระทำแบบไหนอย่างเต็มใจ...
คมศรเข้าไปกับเพื่อนชายอีกสามคน พวกเขาอยู่ในกลุ่มสมาชิกเดียวกัน จึงรู้จักกันอยู่ สีหน้าของพวกเขายิ้มแย้มกัน โดยถูกสั่งห้ามมิให้พูดคุยกันอีกด้วย... ชายหนุ่มทั้งสี่เดินวนในห้องนั้น พลางตัดสินใจว่าจะเลือกช่วงล่างชายหรือหญิงดี...
ภายในห้องเปิดซิงนี้ คือห้องของผู้ถูกเลือกซึ่งยังไม่เคยผ่านการมีเซ็กซ์ใดๆ มาก่อน ห้องนี้จึงพิเศษกว่าห้องอื่นๆ ซึ่งกำลังเริ่มการบรรเลงกิจกามอย่างเมามัน จนเสียงเล็ดลอดออกมาแผ่วๆ
******
ภายในปรากฏเรือนร่างนอนคว่ำ และหงายตามลักษณะเตียงแบนแข็ง แต่ช่วงกลางตัวขึ้นไป ถูกบดบังด้วยกำแพงหนา ปล่อยให้ช่วงล่างเล็ดลอดออกมาจากกล่องหลังกำแพง
ชนาธิป ซึ่งเป็นผู้เลือกร่วมกับคมศร เขาเดินไปเลือกคู่นอนหญิงรายหนึ่งซึ่งนอนหงายอยู่ เขาเรียกเธอว่า “หมายเลขหนึ่ง” จากนั้นจึงเริ่มใช้มือจับต้นขาหมายเลขหนึ่ง เพื่อถ่างขากว้างๆ ใช้เรียวนิ้วมือแหย่เข้าไปในร่องสวาท ทดสอบการตอบสนองเพื่อดูความหล่อลื่นภายในว่าจะรับกับกิจกามเขาได้หรือไม่
เรือนต้นขาถ่างออกกว้างอย่างยินยอม โดยมิได้ปฏิเสธกลับมีเสียงครวญแผ่วออกมาเบาๆ จากช่องลับมาบ้าง เขาจึงเริ่มฉีกยิ้มออกมา เพื่อลดกายลงต่ำในระดับเอว ยื่นหน้าตนเข้าหาร่างกายของหมายเลขหนึ่ง พลางบรรเลงริมฝีปากเข้าที่ร่องสวาท เพื่อทดสอบรสชาติและการตอบสนอง ทำให้หญิงสาวหมายเลขหนึ่ง ถึงกับกลีบสั่น ต้นขากระตุกแรง
สองแขนชายหนุ่มพยายามถ่างขาหมายเลขหนึ่งให้กว้างๆ เพื่อแทรกปลายลิ้นเข้าไปลิ้มชิมรสอย่างเพลิดเพลิน ทำให้ผู้เลือกรายอื่นๆ เริ่มจะสนใจมองดูอย่างเร้าอารมณ์ กระตุ้นความเป็นชายได้ดีเหลือเกิน มันตื่นเต้นมากเสียอยากจะบรรเลงกามแบบนี้บ้างเสียแล้ว
คมศรหันไปมองหน้าเพื่อนที่เหลืออีกสองคน ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจ เขาจึงหันไปมองหมายเลขที่เหลือ และต่างแยกย้ายไปตามจุดที่ต้องการเลือก
******
ฐาปกรณ์ เล็งเป้าหมายไปยังเรือนร่างชายหนุ่มหมายเลขสาม ซึ่งกำลังนอนหงายออกมาจากหลังกำแพงด้วยช่องเล็กๆ ปรากฏองคชาติหลับใหล ด้วยเรือนกายผิวพรรณผุดผ่อง
เขาใช้มือลูบตามต้นขาแบบแอบจิต ทำให้ผู้ถูกเลือกรู้สึกสะดุ้งตกใจ และเริ่มจะปรับตัวกับการถูกเลือกได้แล้ว โดยไม่ส่งเสียงออกมา
เรือนกายซึ่งโผล่ออกมา เพียงความเปล่าเปลือยของหมายเลขสาม ทำให้ฐาปกรณ์นึกสนุกอยากขอเชยชมกับรูปร่างช่วงล่างของชายผู้นี้ พลางกำองคชาติของหมายเลขสาม ซึ่งหลับอยู่ให้ตื่นตัวขึ้นมา รู้สึกเข็ดเขี้ยวเพียงไรเมื่อขนาดของมันกำลังอวบอิ่มขึ้น
ขนาดของมันชี้ชัดอย่างเต็มที่ ทำให้ฐาปกรณ์รู้สึกอยากจะถูกสอดใส่เสียเอง แต่เขานึกอยากจะลองขอเสียบเข้าทวารหมายเลขสามเสียหน่อย จะรัดฟิตสมกับห้องเปิดซิงหรือไม่
อย่างน้อยเวลายกต้นขาสูง ก็คงจะได้เห็นช่องทวาร หรือจับพลิกตัวเพื่อเสียบประตูหลังในท่าด๊อกกี้ได้ง่ายดาย รอยยิ้มของฐาปกรณ์ผุดขึ้นมาอย่างเจ้าเล่ห์ พร้อมปฏิบัติกิกามเมื่อลงสมัครเป็นผู้เลือกสมใจอยาก...
******
คเชนทร์ หันหน้าสบกับคมศร ซึ่งกำลังใช้ความคิดช่างใจกับสองหมายเลขที่เหลือ คือร่างของหญิงสาวเปลือยท่อนล่าง เพื่อรอการรับเลือกในครั้งนี้
พวกเขาสองคนไม่รู้จะตัดสินใจไปมุมคนละด้านของห้องอย่างไร จึงตัดสินใจด้วยการเป่ายิงฉุบ และแยกย้ายไปหาหญิงสาวที่เหลือเบอร์สองและเบอร์สี่...
คเชนทร์เลือกเบอร์สอง เพราะท่าทางจะตัวเล็กราวกับเด็กสาววัยรุ่น เขาไม่รีรอที่จะใช้มือลูบไล้กับกลีบอวบนวลใส ขาวสว่างไร้ขน เรือนขาของเธอบิดไปมา เพราะอยู่ในท่านอนหงาย
เขาพยายามใช้สองมือถ่างขาเธอออก และมันก็ช่างยากเย็นยิ่งนักเมื่อเรือนต้นขาเล็กๆ ไม่อาจเปิดกว้างได้ คิดว่าอาจจะต้องใช้นิ้วและลิ้นเปิด ทำให้เธอยอมถ่างขากว้างๆ และยอมให้เขาเปิดซิงเธอเสียที ทั้งๆ ที่ไม่เคยเห็นหน้าตามาก่อน
และคมศร จึงได้รูปร่างหญิงสาวที่น่าจะโตเต็มวัย โดยไม่เห็นเรือนหน้า เขาจึงเริ่มจับเรือนร่างเธอ พลางปลอบให้เธอสบายใจว่า ทุกอย่างในครั้งนี้ จะราบรื่นและผ่านไปด้วยดี หลังจากที่มีเซ็กซ์ด้วยกัน จะได้เห็นหน้าค่าตาเพื่อจูงมือไปเป็นคู่นอนตลอดไปในกลุ่ม...
******
หลังจากนางสร้อยเงินเดินทางกลับมาถึงบ้าน พบเห็นว่าลูกสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นั่งเย็บปักถักร้อยอยู่ภายในห้องขอตัวเอง โดยไม่ออกมาด้านนอกตามที่ตนสั่ง นางสร้อยเงินแวะไปเยี่ยมนายปวรุตม์เสียหน่อยว่ากำลังทำงานอยู่หรือเปล่าพบเห็นว่าชายหนุ่มดังกล่าว กำลังนั่งปอกเปลือกมะพร้าว และกำลังผ่าฟืนตามสั่ง เพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้นางสร้อยเงิน ทำอาหารมื้อเย็นและเช้าวันถัดไป“ทำงานอยู่รึ ระวังมีดบาดนะ”“ครับ ผมทำงานใกล้จะเสร็จแล้วครับ” ปวรุตม์ยิ้มแย้มก่อนจะตั้งใจทำงานต่อไป แววตาของนางสร้อยเงินมองชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ ระหว่างที่ไม่อยู่นางน่าจะพากลิ่นจันทร์ไปด้วย แต่อยากให้ลูกสาวประหลาดใจ เมื่ออีกไม่กี่วันบิดาของเธอจะกลับมาวันเวลาผ่านไปราวอาทิตย์หนึ่ง ปรากฏร่างของชายหนุ่มสูงวัย เดินทางมาถึงบ้านของนางสร้องเงิน ปวรุตม์กำลังขุดดินปลูกต้นไม้อยู่ข้างบ่อน้ำ เขาถอดเสื้อสวมผ้าถุงสีทึบเพียงชิ้นเดียว ปวรุตม์พบเห็นร่างของชายดูดีมีภูมิฐาน เขารู้สึกกลัวขึ้นมาในทันใด หน้าตาก็คล้ายๆ กับกลิ่นจันทร์“ไอ้หนุ่ม... เอ็งเป็นใครมาจากไหน มาอยู่บ้านข้าวะ?” แววตาที่ดุดันมองมายังชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ“สวัสดีครับ ผมชื่อ ปวรุตม์ คุณส
หลังจากนั้นเป็นต้นมา... ปวรุตม์จึงเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำตัวกลมกลืนกับคนที่บ้านของกลิ่นจันทร์ ช่วยเหลืองานบ้าน และงานสวน ทำให้สร้อยเงินรู้สึกพอใจว่า ชายแปลกหน้าจากกรุงเทพฯ ซึ่งหาบ้านยายแสงดาวไม่เจอ กลายเป็นคนงานคนสวนไปโดยปริยายชายหนุ่มอาศัยอยู่ในเรือนรับรองเล็กๆ อีกแห่งของเขตบ้าน เพราะนางสร้อยเงินไม่ยอมให้อยู่ในบ้านเดียวกับลูกสาว หวังว่าจะไหว้วานผู้ใหญ่บ้าน ช่วยเขียนจดหมายไปบอกสามีในเมืองว่า ช่วยแวะกลับมาบ้าน เรื่องไอ้หนุ่มกรุงเทพฯ มาอาศัยอยู่ในบ้าน“แม่เดินทางปลอดภัย โชคดีนะจ๊ะ” หลังจากที่แอบลักลอบได้เสียกับปวรุตม์ เธอระมัดระวังตัวมิให้มารดารู้ว่า ลูกเสียสาวไปแล้วกับชายแปลกหน้า แต่เขาทำให้กลิ่นจันทร์มีความสุขยามเมื่อได้สวมกอด และบางสิ่งที่ทำให้เธอหลงใหล“แม่จะรีบไปรีบกลับนะ อยู่ดูแลบ้านดีๆ ล่ะ” นางสร้อยเงิน ใช้แรงงานทาสขับเกวียนไปส่งนางที่บ้านผู้ใหญ่ หวังจะขอให้ผู้มีความรู้เขียนจดหมายส่งไปให้สามีทราบเรื่องที่บ้านทีหลังจากนั้นเมื่อไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน กลิ่นจันทร์จึงเดินไปที่เรือนรับรองของปวรุตม์ เพื่อขอมีอะไรด้วยกันเพราะความคิดถึงมากมาย...ชายหนุ่มกำลังรอเวลานี้ที่จะได้อยู่กับกลิ่นจันท
เรือนกายหญิงสาวยืนพิงหลังต้นไม้ใหญ่ บดบังเรือนร่าของเธอและปวรุตม์ให้พ้นสายตาใครอื่น สองแขนหญิงสาวซึ่งกันเอาไว้ระหว่างอกเขาและกายบางได้ลดลง แขนบางทั้งสองโอบกอดตอบรับชายหนุ่มเบื้องหน้าทำให้ปวรุตม์ดีใจเหลือเกินเมื่อเธอยินยอมเขาแล้ว มือของชายหนุ่มทั้งสองจึงทำงานปลดตะขอกางเกง ทำให้แววตาหญิงสาวตกใจว่า นี่เขาจะแก้ผ้าทำไมกันนะ...“ปวรุตม์ คุณจะทำอะไรรึ?” เธอไม่เข้าใจว่า เขากำลังทำอะไรแปลกๆ ออกมา หลังจากบอกรักเธอ ต้องแก้ผ้าด้วยรึ?“ผมอยากได้คุณ ปลดผ้าถุงสิ” เขาบอกให้เธอทำบ้าง หญิงสาวยังรู้สึกสับสนว่า ทำไม แต่ถ้าลองดูก็อาจจะคลายความสงสัยได้บ้างเพียงช่วงล่างเปล่าเปลือยปวรุตม์ไม่เห็นมีที่ร่วมรักใดได้ คิดเสียว่าคงต้องเลือกท่ายืนนอกสถานที่ในป่าลับเช่นนี้เขาโอบอุ้มเธอเอาไว้ใต้สองแขน ทำให้กายบางหญิงสาวลอยสูง ปลายเท้าไม่แตะพื้นและช่วงต้นขาของเธอต้องกางออก เพราะเขาดึงร่างบางเข้าหาชายหนุ่ม เรือนหน้าหญิงสาวตกใจและหน้าแดงก่ำ เธอรู้สึกอายจริงๆ“อย่าตกใจนะ กลิ่นจันทร์... ผมจะทำให้คุณรู้สึกดีเอง” ชายหนุ่มพยายามกระซิบข้างหู มิให้เธอตกใจดิ้นหลุดจากแขนเขา เธอกลัวจนตัวสั่น ระหว่างถูกดึงเข้าหาร่างชายหนุ่ม ต้นข
หลังจากเขาแนะนำตัวเองกับแม่ของกลิ่นจันทร์ เธอชื่อสร้อยเงิน กำลังทำอาหารกับทาสสองคน สีหน้าของเธอไม่ค่อยไว้ใจที่มีผู้ชายแปลกหน้ามาคุยกับลูกสาว“แม่ อย่าไปว่าเขาสิ เขาคงหลงทางมาถึงบ้าน ถามหายายแสงดาว แม่พอจะรู้จักคุณยายแสงดาวไหม” กลิ่นจันทร์ถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม คิดว่าหากช่วยเหลือเขาไปแล้ว เธอกับแม่จะได้บุญ และเขาคงจะไปทำธุระเรื่องครอบครัวได้เสียที“โอ๊ย...อยู่มาตั้งนาน ไม่เคยได้ยินยายชื่อแสงดาวอะไรนั้นเลยนะ พ่อหนุ่มมาจากกรุงเทพฯ ลองไปถามญาติตัวเองใหม่เถอะ... กลับไปได้แล้ว ลูกสาวฉันจะเสียชื่อหมด” นางสร้อยเงินตอบปัด จึงอยากให้ทาสพาเขาออกจากเรือน“ไม่เป็นไรจ้าแม่... ให้ทาสช่วยแม่ทำอาหารเถอะ ฉันจะไปส่งเขาเองจ๊ะ” กลิ่นจันทร์รับอาสาเอง เพราะคิดว่าตนคงเป็นเหตุนำพาเรื่องวุ่นวายเข้าบ้าน คิดเสียว่าแนะนำให้เขาไปคุยกับผู้ใหญ่บ้าน เผื่อจะได้รับความช่วยเหลือที่ดีกว่านี้“ขอโทษนะครับ คุณแม่สร้อยเงิน ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” ปวรุตม์รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้พบญาติหรือแม่ ทุกคนหายไปไหนหมด อีกทั้งทุกๆ คนที่นี่ใส่ชุดสมัยร.๕ทั้งนั้น เขามาหลงอยู่บ้านใครกันเนี่ย... ชายหนุ่มแอบคิด******กลิ่นจันทร์พาเขาเดินออกจากบร
รุ่งเช้าท่ามกลางเสียงโวกเวกโวยวาย ผู้คนเดินไปมา สลับวิ่งจนพื้นไม้ภายในบ้านสั่นสะเทือน ปวรุตม์รู้สึกว่าถูกรบกวนจากการนอนแสนสบาย จึงลืมตาปรือตื่น หันมองว่าร่างของแม่ข้างๆ หายไป คงจะสมทบกับญาติ ซึ่งกำลังทำอะไรสักอย่าง“เร็วๆ เข้า!!! อุ้มคุณแม่ขึ้นรถ!!!” เสียงของผู้หลักผู้ใหญ่กำลังวุ่นวาย กับการนำร่างของคุณยายซึ่งเริ่มหายใจช้าลง หลับตาโดยไม่มีการตอบสนอง ครอบครัวญาติฝ่ายแม่ตกใจมากพวกเขาพาร่างของคุณยายขึ้นรถ ออกตัวจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงญาติทุกๆ ต่างคนกลับไปที่รถของตัวเอง ต่างขับรถแห่ไปทีละคันจนหมดบ้าน...เหลือไว้เพียงเขายังยืนงงอยู่ภายในบ้านคนเดียว“ไปกันหมดเลย” ปวรุตม์ไม่อาจจะพูดถามใคร ในช่วงเวลาอันฉุกละหุกได้เลย ว่าเขาควรทำตัวอย่างไร พ่อแม่เขาค่อนข้างวุ่นวายกับการพาร่างของคุณยายขึ้นรถ และรีบพาไปร.พ. ในขณะที่ญาติๆ คนอื่นๆ ต่างแยกย้ายขับรถตามไป“กลิ่นจันทร์ไปกับเขาด้วยหรือเปล่านะ?” ปวรุตม์ยังคงนึกถึงสาวเมื่อคืนนี้ หากไม่อยู่ในพุ่มไม้มืด เขาอาจจะจำหน้าเธอได้ชัดกว่านี้ ตะวันในเช้านี้ทอแสงนวลแผ่วเบา แต่ท้องเขานี่สิ ร้องออกมาอย่างหิวโหย ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเหลืออะไรใหเขากินได้บ้าง******ช
ในความเงียบภายในรถยนต์ ระหว่างเดินทางออกมาตจว. นอกเขตเมือง สู่ชนบทในท้องนา ภาพบรรยากาศของตึกราบ้านช่องหายไปจากสายตาของชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนหนุ่มสมัยใหม่ อาศัยอยู่ในเมืองเขาจำใจต้องเดินทางมากับพ่อแม่ เพื่อไปบ้านของยายแสงดาวซึ่งอยู่ตจว. เขาเบื่อมากกับการไปอยู่บ้านนอก โบราณ คนแก่หัวเก่าๆ ซึ่งมันไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับเขาเลยปวรุตม์ (ปะ-วะ-รุด) หยิบมือถือสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อแชทกับเพื่อน และนัดกันว่ากลับบ้านจากญาติแล้ว จะไปดื่มเหล้าเที่ยวผับ ควงสาวมาฟันให้สนุกแก้เบื่อเสียเลย เขายิ้มเงียบๆ โดยมิให้พ่อซึ่งกำลังขับรถหันมาดุได้อีกแม่ของเขานั่งอยู่หน้ารถ กำลังชี้ทางบอกไปทางคุณยาย คือคุณแม่ของเธอค่อนข้างมีอายุมากแล้ว พวกเขาทั้งครอบครัวถูกเรียกให้มาบ้านญาติตจว. เพื่อให้มารับทราบว่า คุณยายใกล้จะไปสบายดีแล้ว ญาติคนอื่นๆ เรียกพ่อแม่และปวรุตม์ ให้มาดูใจกันครั้งท้าย ก่อนคุณยายจะเสีย“ทำตัวดีๆ นะแกไอ้รุตม์ เดี๋ยวจะไม่ได้รับมรดกกันพอดี” คุณพ่อของเขา เป็นลูกเขยของญาติข้างแม่ ชายหนุ่มอายุราวยี่สิบสองปี ทำตัวสงบเสงี่ยมเจียมตัวเรียบร้อย อย่างน้อยเขาอยากจะกลับเมือง มากกว่านอนค้างอยู่บ้านนอกตจว.แบบนี้