หญิงสาวเดินทางกลับมาบ้าน พร้อมมีชายหนุ่มมาส่ง ทำให้พ่อแม่มีสีหน้าแปลกใจ ไปเรียนมหาวิทยาลัยวันแรก ได้แฟนมาแล้วรึ
“นั้นใคร?”
“ผมเป็นแฟนของไข่มุกครับ ยินดีที่ได้รู้จัก ผมมาส่งครับ พรุ่งนี้จะมารับตอนเช้า... สวัสดีครับ คุณพ่อคุณแม่” คิมหันต์พูดไวจบไวและปิดประโยคสนทนาไว... พาตัวเองเดินออกห่างทันที และปล่อยให้ไข่มุกแก้ไขสถานการณ์ตอนนี้เสียเอง
“แฟนลูกเป็นคนแบบนี้รึ?” แม่ของไข่มุกขมวดคิ้วใช้ความคิดหนัก เธอรู้สึกไม่ชอบคิมหันต์ตรงที่ เขารีบพูดและรีบไป
“ได้เสียกับเขาหรือเปล่า?” แววตาของบิดามองเธออย่างไม่ไว้ใจ ไข่มุกไม่รู้จะตอบอย่างไร ได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธ... แววตาบิดาจึงบอกให้ภรรยาช่วยตรวจภายในของลูกสาวที เพราะไม่ไว้ใจการกระทำของลูกสาวตัวเอง...
มือของไข่มุกถูกมารดาจูงไปยังห้องน้ำ เธอถูกบังคับให้ถอดช่วงล่าง ด้วยน้ำเสียงดุดัน...
“แม่คะ... หนูไม่ได้มีอะไรกับเขาจริงๆ นะคะ หนูสาบานได้...” ไข่มุกตอบไปตามตรง เพราะเขาไม่ได้ละลาบละล้วงพรหมจรรย์เธอเลย...
“กางขา!!! แม่จะตรวจภายใน” หญิงสาวใช้มือสอดเข้าไปภายในทำให้ไข่มุกได้รับความเจ็บปวด และเธอก็พบว่าม่านบางๆ เยื่อพรหมจรรย์ยังคงอยู่ครบไม่ฉีกขาด... สีหน้าแม่ของไข่มุกโล่งอกในทันใด...
“ค่อยยังชั่วหน่อย ที่เขาไม่ได้มีอะไรกับลูก” น้ำเสียงของหญิงสาววัยกลางคนพูดอย่างโล่งอก ก่อนจะออกจากห้องน้ำ เพื่อไปบอกสามีว่าลูกสาวของเธอยังคงบริสุทธิ์อยู่
“หนูบอกแล้วไงคะ ว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น!” ไข่มุกตอบไปยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง เพราะพ่อแม่ของเธอคงไม่คิดว่า ลูกสาวของพวกเขาถูกลวงประตูหลังเปิดทวารไปแล้ว... แต่มันเป็นความรู้สึกที่ดีเยี่ยมจริง ๆ ในความคิดของไข่มุก...
******
ค่ำคืนนี้ ไข่มุกคิดถึงคิมหันต์กับสิ่งที่เขาทำ... อย่างน้อยทำให้เธอปลอดภัยจากการตั้งท้อง และพ่อแม่ไม่สงสัยเรื่องเปิดบริสุทธิ์ พรุ่งนี้เธอควรจะไปขอบคุณเขา และน่าจะทำความรู้จักกับเขาให้มากกว่านี้
แว่วเสียงมือถือกลับมา เบอร์ของฟางฟางปรากฏ ไข่มุกจึงรับสายคุยกับเพื่อนรักเสียหน่อย...
“แกถึงบ้านยังวะ?”
“ถึงแล้ว อาบน้ำจะนอนแล้ว แล้วแกอ่ะ... อย่าบอกนะว่ายังไม่ถึงบ้าน...”
“คือ... กูยังอยู่บ้านโชกุนอยู่เลย อยากจะให้แกช่วยโกหกพ่อแม่ให้กูหน่อย ว่ากูนอนค้างบ้านแกอ่ะ ได้ปะ? นะนะ...” ฟางฟางขอร้อง เพราะเธอยังคงหลับนอนได้เสียกับโชกุนอยู่ และเสร็จไปรอบที่สามแล้ว เมื่อเขาดึงองคชาติสาดใส่เรือนร่างเธอทั่วทั้งเรือนกาย เขาทำให้เธอสุขสันต์และมีความสุขมาก... กับหลายท่าที่เขาทำให้เธอรู้สึกดี
“แกน่าจะกลับบ้านนะ...” อีกสักพักมีสายซ้อนเข้ามา ทำให้ไข่มุกต้องรีบวางสายจากฟางฟาง
“ฟางฟางอยู่บ้านไข่มุกหรือเปล่าลูก...? แม่เป็นห่วง” ผู้เป็นมารดาโทรถามหาลูกสาว
“หลับไปแล้วค่ะ คืนนี้ฟางฟางนอนค้างบ้านหนูค่ะแม่” หญิงสาวต้องโกหกอย่างเสียมิได้ เพราะฟางฟางเป็นแฟนกับโชกุนแท้ๆ เชียว ไข่มุกจึงต้องจำใจโกหกแบบนี้
“โล่งอกไปที ฝากดูแลฟางฟางด้วยนะ ขอบใจมากนะจ๊ะ หนูไข่มุก” ปลายสายวางไป ทำให้จิตใจไข่มุกโล่งอก
ไข่มุกรู้สึกเหนื่อยล้าและเพลีย ไม่รู้ว่าป่านนี้... ไอริณจะเป็นยังไงบ้างนะ จะโดนเหมือนกับพวกเธอสองคนหรือเปล่า... โดยที่ไข่มุกไม่รู้อะไรเลย ไอริณสร่างเมาแล้ว.. แต่ยังคงถูกปลื้มและวายุ ร่วมกันมีเซ็กซ์เกือบตลอดคืน ในม่านรูด...
******
เช้าวันถัดมา ปรากฏร่างของคิมหันต์ยืนรอไข่มุกหน้าบ้าน ทำให้หญิงสาวรู้สึกตกใจ เมื่อพบเขาแต่เช้า...
“หวัดดี ไปกันหรือยังล่ะ?” เรือนหน้าชายหนุ่มทำหน้าตาย ยังคงปรารถนาดีจะแวะมารับเธอไปเรียนด้วยกัน
“ความจริงไม่น่าเสียเวลามารับและมาส่งนะ บ้านเราก็อยู่คนละทาง...” ไข่มุกตอบอย่างเกรงใจ ความจริงก็ยังรู้สึกกลัวคิมหันต์อยู่บ้าง
“ว่าอะไรนะ?” ชายหนุ่มออกเสียงแปลก เปลี่ยนสีหน้าเหมือนชายอีกคนเมื่อวานนี้ ไข่มุกรู้สึกกลัวอีกแล้ว จึงเปลี่ยนคำพูดเสียใหม่...
“ขอบคุณที่มารับจ้า เช้านี้อากาศดี ทานข้าวด้วยกันมั๊ย?” ไข่มุกยิ้มแห้งๆ กลัวจะถูกเขาจับเข้าซอกหลืบที่ไหนสักแห่ง และถูกยัดเหยียดความเป็นผัวอีก ผ่านประตูหลัง ถึงจะเจ็บแต่มันก็เสียวจนเธอคลั่งเพ้อได้อีก... ไข่มุกไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ
เช้านี้ฟางฟางมากับโชกุน ราวกับลูกสาวเจ้าพ่อ แต่เขาเป็นสามีของเธอตั้งแต่เพิ่งเข้าเรียนวันที่สอง ทำให้บรรดาเพื่อนหนุ่มของเขาที่เหลือ ต้องทำปากห่อมองเพื่อนหนุ่มอย่างอิจฉา
“มาอย่างหรู พร้อมสาวข้างตัว... คงจะเป็นที่จดจำเลยว่ะ เพื่อนกู” กัปตันเปรย เพราะเมื่อวานต้องกินแห้ว ไม่ได้ฟาดไข่มุก ดีแต่ไปซื้อชานมมาดื่มอย่างเดียว
“ไงพวกแก... นั่งหงอยอะไรกันแต่วัน ไอ้ปลื้มกับไอ้วายุล่ะ พวกมันไม่มารึ?” โชกุนถามถึง นาวินยังคงถือหนังสือการ์ตูนแล้วตอบแทน...
“เห็นมันไม่สบายอ่ะ เรย์บอกอย่างนั้น” โชกุนหันไปมองสีหน้าของเรย์ ไม่ค่อยพอใจแม้ว่าเมื่อวานครั้งสุดท้าย โชกุนเห็นเรย์ยังอยู่กับไอริณอยู่เลย
“คบกับไอริณเป็นยังไงบ้างล่ะเพื่อน?”
“กูว่าไปกันไม่ได้หรอก ลองถามไอริณก็แล้วกันว่าเขาจะคบกับไอ้ปลื้มหรือไอ้วายุ” เรย์ตอบจบ ลุกขึ้นเดินหนี แม้จะได้ฟาดไอริณไปแล้วก็ตาม เขายังไม่ชอบให้เพื่อนมายุ่มย่ามกับแฟนสาวอยู่ดี เลิกเสียหาใหม่ยังจะดีเสียกว่า...
“มันเป็นอะไรของมันวะ?” โชกุนถามอย่างสุภาพที่สุด ควบคุมน้ำเสียงให้อยู่ในระดับปกติ หลังจากเมื่อวานเขาหลับนอนอยู่กับฟางฟางจนถึงตีสาม หากไม่เพราะเธอหมดแรงสลบหลับไป คงจะต่อกันจนถึงเช้า
วันนี้ช่างเป็นวันดีของโชกุน โดยมีฟางฟางมามหาวิทยาลัยด้วยกันวันนี้ หลังเลิกเรียน โชกุนตั้งใจจะไปคุยกับพ่อแม่ของฟางฟางให้เป็นเรื่องเป็นราว เรื่องขอให้เธอย้ายไปอยู่บ้านเขา และมาเรียนด้วยกันจนกว่าจะเรียนจบ... เขาคิดไว้อย่างนั้น
ไอริณมิได้มามหาวิทยาลัย เธอถูกปลื้มพาไปส่งบ้าน หลังจากสภาพเธอผ่านการมีเพศสัมพันธ์มามากพอสมควร แต่หญิงสาวมิได้ด่าทอ หรือเกลียดชัง เธอคิดว่าการคบกับเรย์ มันคงไม่คืบหน้า หรือดีกว่าการคบกับปลื้ม เธอจึงตกลงคบกับเขา และเช้าวันถัดมา เธอยังหลับสนิทเป็นตาย คงไม่คิดจะมาเรียนคาบบ่าย
******
หลังจากนางสร้อยเงินเดินทางกลับมาถึงบ้าน พบเห็นว่าลูกสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นั่งเย็บปักถักร้อยอยู่ภายในห้องขอตัวเอง โดยไม่ออกมาด้านนอกตามที่ตนสั่ง นางสร้อยเงินแวะไปเยี่ยมนายปวรุตม์เสียหน่อยว่ากำลังทำงานอยู่หรือเปล่าพบเห็นว่าชายหนุ่มดังกล่าว กำลังนั่งปอกเปลือกมะพร้าว และกำลังผ่าฟืนตามสั่ง เพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้นางสร้อยเงิน ทำอาหารมื้อเย็นและเช้าวันถัดไป“ทำงานอยู่รึ ระวังมีดบาดนะ”“ครับ ผมทำงานใกล้จะเสร็จแล้วครับ” ปวรุตม์ยิ้มแย้มก่อนจะตั้งใจทำงานต่อไป แววตาของนางสร้อยเงินมองชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ ระหว่างที่ไม่อยู่นางน่าจะพากลิ่นจันทร์ไปด้วย แต่อยากให้ลูกสาวประหลาดใจ เมื่ออีกไม่กี่วันบิดาของเธอจะกลับมาวันเวลาผ่านไปราวอาทิตย์หนึ่ง ปรากฏร่างของชายหนุ่มสูงวัย เดินทางมาถึงบ้านของนางสร้องเงิน ปวรุตม์กำลังขุดดินปลูกต้นไม้อยู่ข้างบ่อน้ำ เขาถอดเสื้อสวมผ้าถุงสีทึบเพียงชิ้นเดียว ปวรุตม์พบเห็นร่างของชายดูดีมีภูมิฐาน เขารู้สึกกลัวขึ้นมาในทันใด หน้าตาก็คล้ายๆ กับกลิ่นจันทร์“ไอ้หนุ่ม... เอ็งเป็นใครมาจากไหน มาอยู่บ้านข้าวะ?” แววตาที่ดุดันมองมายังชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ“สวัสดีครับ ผมชื่อ ปวรุตม์ คุณส
หลังจากนั้นเป็นต้นมา... ปวรุตม์จึงเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำตัวกลมกลืนกับคนที่บ้านของกลิ่นจันทร์ ช่วยเหลืองานบ้าน และงานสวน ทำให้สร้อยเงินรู้สึกพอใจว่า ชายแปลกหน้าจากกรุงเทพฯ ซึ่งหาบ้านยายแสงดาวไม่เจอ กลายเป็นคนงานคนสวนไปโดยปริยายชายหนุ่มอาศัยอยู่ในเรือนรับรองเล็กๆ อีกแห่งของเขตบ้าน เพราะนางสร้อยเงินไม่ยอมให้อยู่ในบ้านเดียวกับลูกสาว หวังว่าจะไหว้วานผู้ใหญ่บ้าน ช่วยเขียนจดหมายไปบอกสามีในเมืองว่า ช่วยแวะกลับมาบ้าน เรื่องไอ้หนุ่มกรุงเทพฯ มาอาศัยอยู่ในบ้าน“แม่เดินทางปลอดภัย โชคดีนะจ๊ะ” หลังจากที่แอบลักลอบได้เสียกับปวรุตม์ เธอระมัดระวังตัวมิให้มารดารู้ว่า ลูกเสียสาวไปแล้วกับชายแปลกหน้า แต่เขาทำให้กลิ่นจันทร์มีความสุขยามเมื่อได้สวมกอด และบางสิ่งที่ทำให้เธอหลงใหล“แม่จะรีบไปรีบกลับนะ อยู่ดูแลบ้านดีๆ ล่ะ” นางสร้อยเงิน ใช้แรงงานทาสขับเกวียนไปส่งนางที่บ้านผู้ใหญ่ หวังจะขอให้ผู้มีความรู้เขียนจดหมายส่งไปให้สามีทราบเรื่องที่บ้านทีหลังจากนั้นเมื่อไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน กลิ่นจันทร์จึงเดินไปที่เรือนรับรองของปวรุตม์ เพื่อขอมีอะไรด้วยกันเพราะความคิดถึงมากมาย...ชายหนุ่มกำลังรอเวลานี้ที่จะได้อยู่กับกลิ่นจันท
เรือนกายหญิงสาวยืนพิงหลังต้นไม้ใหญ่ บดบังเรือนร่าของเธอและปวรุตม์ให้พ้นสายตาใครอื่น สองแขนหญิงสาวซึ่งกันเอาไว้ระหว่างอกเขาและกายบางได้ลดลง แขนบางทั้งสองโอบกอดตอบรับชายหนุ่มเบื้องหน้าทำให้ปวรุตม์ดีใจเหลือเกินเมื่อเธอยินยอมเขาแล้ว มือของชายหนุ่มทั้งสองจึงทำงานปลดตะขอกางเกง ทำให้แววตาหญิงสาวตกใจว่า นี่เขาจะแก้ผ้าทำไมกันนะ...“ปวรุตม์ คุณจะทำอะไรรึ?” เธอไม่เข้าใจว่า เขากำลังทำอะไรแปลกๆ ออกมา หลังจากบอกรักเธอ ต้องแก้ผ้าด้วยรึ?“ผมอยากได้คุณ ปลดผ้าถุงสิ” เขาบอกให้เธอทำบ้าง หญิงสาวยังรู้สึกสับสนว่า ทำไม แต่ถ้าลองดูก็อาจจะคลายความสงสัยได้บ้างเพียงช่วงล่างเปล่าเปลือยปวรุตม์ไม่เห็นมีที่ร่วมรักใดได้ คิดเสียว่าคงต้องเลือกท่ายืนนอกสถานที่ในป่าลับเช่นนี้เขาโอบอุ้มเธอเอาไว้ใต้สองแขน ทำให้กายบางหญิงสาวลอยสูง ปลายเท้าไม่แตะพื้นและช่วงต้นขาของเธอต้องกางออก เพราะเขาดึงร่างบางเข้าหาชายหนุ่ม เรือนหน้าหญิงสาวตกใจและหน้าแดงก่ำ เธอรู้สึกอายจริงๆ“อย่าตกใจนะ กลิ่นจันทร์... ผมจะทำให้คุณรู้สึกดีเอง” ชายหนุ่มพยายามกระซิบข้างหู มิให้เธอตกใจดิ้นหลุดจากแขนเขา เธอกลัวจนตัวสั่น ระหว่างถูกดึงเข้าหาร่างชายหนุ่ม ต้นข
หลังจากเขาแนะนำตัวเองกับแม่ของกลิ่นจันทร์ เธอชื่อสร้อยเงิน กำลังทำอาหารกับทาสสองคน สีหน้าของเธอไม่ค่อยไว้ใจที่มีผู้ชายแปลกหน้ามาคุยกับลูกสาว“แม่ อย่าไปว่าเขาสิ เขาคงหลงทางมาถึงบ้าน ถามหายายแสงดาว แม่พอจะรู้จักคุณยายแสงดาวไหม” กลิ่นจันทร์ถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม คิดว่าหากช่วยเหลือเขาไปแล้ว เธอกับแม่จะได้บุญ และเขาคงจะไปทำธุระเรื่องครอบครัวได้เสียที“โอ๊ย...อยู่มาตั้งนาน ไม่เคยได้ยินยายชื่อแสงดาวอะไรนั้นเลยนะ พ่อหนุ่มมาจากกรุงเทพฯ ลองไปถามญาติตัวเองใหม่เถอะ... กลับไปได้แล้ว ลูกสาวฉันจะเสียชื่อหมด” นางสร้อยเงินตอบปัด จึงอยากให้ทาสพาเขาออกจากเรือน“ไม่เป็นไรจ้าแม่... ให้ทาสช่วยแม่ทำอาหารเถอะ ฉันจะไปส่งเขาเองจ๊ะ” กลิ่นจันทร์รับอาสาเอง เพราะคิดว่าตนคงเป็นเหตุนำพาเรื่องวุ่นวายเข้าบ้าน คิดเสียว่าแนะนำให้เขาไปคุยกับผู้ใหญ่บ้าน เผื่อจะได้รับความช่วยเหลือที่ดีกว่านี้“ขอโทษนะครับ คุณแม่สร้อยเงิน ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” ปวรุตม์รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้พบญาติหรือแม่ ทุกคนหายไปไหนหมด อีกทั้งทุกๆ คนที่นี่ใส่ชุดสมัยร.๕ทั้งนั้น เขามาหลงอยู่บ้านใครกันเนี่ย... ชายหนุ่มแอบคิด******กลิ่นจันทร์พาเขาเดินออกจากบร
รุ่งเช้าท่ามกลางเสียงโวกเวกโวยวาย ผู้คนเดินไปมา สลับวิ่งจนพื้นไม้ภายในบ้านสั่นสะเทือน ปวรุตม์รู้สึกว่าถูกรบกวนจากการนอนแสนสบาย จึงลืมตาปรือตื่น หันมองว่าร่างของแม่ข้างๆ หายไป คงจะสมทบกับญาติ ซึ่งกำลังทำอะไรสักอย่าง“เร็วๆ เข้า!!! อุ้มคุณแม่ขึ้นรถ!!!” เสียงของผู้หลักผู้ใหญ่กำลังวุ่นวาย กับการนำร่างของคุณยายซึ่งเริ่มหายใจช้าลง หลับตาโดยไม่มีการตอบสนอง ครอบครัวญาติฝ่ายแม่ตกใจมากพวกเขาพาร่างของคุณยายขึ้นรถ ออกตัวจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงญาติทุกๆ ต่างคนกลับไปที่รถของตัวเอง ต่างขับรถแห่ไปทีละคันจนหมดบ้าน...เหลือไว้เพียงเขายังยืนงงอยู่ภายในบ้านคนเดียว“ไปกันหมดเลย” ปวรุตม์ไม่อาจจะพูดถามใคร ในช่วงเวลาอันฉุกละหุกได้เลย ว่าเขาควรทำตัวอย่างไร พ่อแม่เขาค่อนข้างวุ่นวายกับการพาร่างของคุณยายขึ้นรถ และรีบพาไปร.พ. ในขณะที่ญาติๆ คนอื่นๆ ต่างแยกย้ายขับรถตามไป“กลิ่นจันทร์ไปกับเขาด้วยหรือเปล่านะ?” ปวรุตม์ยังคงนึกถึงสาวเมื่อคืนนี้ หากไม่อยู่ในพุ่มไม้มืด เขาอาจจะจำหน้าเธอได้ชัดกว่านี้ ตะวันในเช้านี้ทอแสงนวลแผ่วเบา แต่ท้องเขานี่สิ ร้องออกมาอย่างหิวโหย ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเหลืออะไรใหเขากินได้บ้าง******ช
ในความเงียบภายในรถยนต์ ระหว่างเดินทางออกมาตจว. นอกเขตเมือง สู่ชนบทในท้องนา ภาพบรรยากาศของตึกราบ้านช่องหายไปจากสายตาของชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนหนุ่มสมัยใหม่ อาศัยอยู่ในเมืองเขาจำใจต้องเดินทางมากับพ่อแม่ เพื่อไปบ้านของยายแสงดาวซึ่งอยู่ตจว. เขาเบื่อมากกับการไปอยู่บ้านนอก โบราณ คนแก่หัวเก่าๆ ซึ่งมันไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับเขาเลยปวรุตม์ (ปะ-วะ-รุด) หยิบมือถือสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อแชทกับเพื่อน และนัดกันว่ากลับบ้านจากญาติแล้ว จะไปดื่มเหล้าเที่ยวผับ ควงสาวมาฟันให้สนุกแก้เบื่อเสียเลย เขายิ้มเงียบๆ โดยมิให้พ่อซึ่งกำลังขับรถหันมาดุได้อีกแม่ของเขานั่งอยู่หน้ารถ กำลังชี้ทางบอกไปทางคุณยาย คือคุณแม่ของเธอค่อนข้างมีอายุมากแล้ว พวกเขาทั้งครอบครัวถูกเรียกให้มาบ้านญาติตจว. เพื่อให้มารับทราบว่า คุณยายใกล้จะไปสบายดีแล้ว ญาติคนอื่นๆ เรียกพ่อแม่และปวรุตม์ ให้มาดูใจกันครั้งท้าย ก่อนคุณยายจะเสีย“ทำตัวดีๆ นะแกไอ้รุตม์ เดี๋ยวจะไม่ได้รับมรดกกันพอดี” คุณพ่อของเขา เป็นลูกเขยของญาติข้างแม่ ชายหนุ่มอายุราวยี่สิบสองปี ทำตัวสงบเสงี่ยมเจียมตัวเรียบร้อย อย่างน้อยเขาอยากจะกลับเมือง มากกว่านอนค้างอยู่บ้านนอกตจว.แบบนี้