แม้ไข่มุกจะพยายามดิ้นรนเท่าไหร่ ก็ไม่มีทางหลุดจากมือคิมหันต์ไปได้เสียที เมื่อสักครู่เธอจะได้เดินออกจากห้องอย่างปลอดภัยแล้ว แต่เขากลับเปลี่ยนไปกะทันหัน ราวกับเป็นคนละคน ...
เรือนร่างเธอถูกพลิกให้นอนคว่ำ เพื่อถูกจับแหวกเรือนต้นขาให้ถ่างกว้าง หญิงสาวพยายามขัดขืน แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือ เขาพยายามใช้มือว่างอีกข้างหนึ่ง รูดองคชาติของตนให้ตื่นตัว และตั้งใจจะลงมือกับเธอบนเตียงเขา
“ปล่อยเขานะ !!! คิมหันต์ เขาจะแจ้งความ! ฉันจะฟ้องทางมหาวิทยาลัย...”
“เอาเลย ถ้าเธอหน้าแข็งแรง ไม่อับอายและจะต้องถูกพักการเรียนเหมือนผมแหละ” ชายหนุ่มท้าทายเพราะเขาไม่กลัวหรอก อย่างน้อยคงไม่มีแค่เขาที่จะต้องถูกเป็นข่าว...
“นายพูดอย่างกับรู้อยู่แล้ว...” ไข่มุกถามอย่างสงสัย นี่เขาดักเธอเอาไว้ก่อนรึ... หญิงสาวรู้สึกเสียใจที่ไม่น่าหลงเชื่อเขา ในยามใจดีกับเธอ ไปคว้าตัวไข่มุกออกมาจากกัปตัน เพื่อจะมาลงมือเองแบบนี้รึ?
“เตรียมพบกับของขวัญชิ้นใหม่...” คิมหันต์กระซิบพร่าราวกับตื่นเต้นขึ้นมาเสียเอง...
บางสิ่งที่อวบกลมใหญ่นูนเนื้อร้อนหนา พยายามบดเบียดกับช่องทวารหญิงสาว ยัดเหยียดหัวหยักใหญ่เข้าไปเพื่อสวนทวารเปิดประตูหลัง ไข่มุกกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เขาเป็นพวกเกย์ ชอบสวนทวารหรอกรึ?
“อย่านะ...อย่า...!!!” ไข่มุกพยายามส่งเสียงห้ามปราม ทำให้คิมหันต์หงุดหงิดเสียอารมณ์ จึงใช้หมอนหนุนหัวกดช่วยศีรษะของไข่มุก ปกปิดเสียงที่ร้องออกมาเสีย...
“ฟิตดีจริงๆ ขอทะลวงลึกๆ เลยนะ” คิมหันต์ออกอาการโรคจิตกดสะโพกหญิงสาวให้ติดเตียง และกดหมอนหนุนหัวมิให้ไข่มุกเงยหัวดิ้นรนหาทางหนี
“อ๊า!!!” ไข่มุกกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อถูกของอวบใหญ่บุกทะลวงเข้ามาทางทวาร เธอเจ็บปวดแทบร้องไห้น้ำตาเล็ด และมันก็ยิ่งเลื่อนไหลลึกเข้ามาเรื่อยๆ เธอร้องสุดเสียงจนแทบจะหมดลมหายใจ
คิมหันต์เห็นไข่มุกไม่ขยับตัวหรือส่งเสียง เขาเปิดหมอนหนุนหัวอีกครั้ง พบว่าเธอร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด ชายหนุ่มค่อยๆ ขยับองคชาติซึ่งเปิดซิงทวารครั้งแรกของเธอจนเจ็บปวดแสบรอบก้น
“มันจะสุดยอดนะ ไข่มุก...” เขาพยายามปลอบประโลมและขยับสอดใส่พลางดึงออกอย่างเชื่องช้า มอบให้เธอจดจำว่าเขาเป็นคนแรกที่ได้ฝ่าประตูหลัง หญิงสาวเริ่มจะหมดแรงต่อต้าน เจ็บปวดตามกล้ามเนื้อไปหมด นี่เธอจะทำอย่างไรดี... เธอจะได้มีโอกาสกลับบ้าน และหนีให้ไกลจากคิมหันต์หรือเปล่า?
******
สักพักเมื่อไข่มุกเริ่มจะชาชินกับทวารถูกเปิด เธอเริ่มจะถึงสวรรค์ชั้นฟ้า เมื่ออารมณ์แห่งความสุขถาโถมจนเสียวน้ำแตกในช่องสวาท การสอดใส่ของคิมหันต์ทำให้ไข่มุกเลิกต่อต้านเขา และหลงระเริงกับความสุขเสียวกระสันทางทวาร
“รู้สึกดีใช่มั๊ยล่ะ?” คิมหันต์นั่งขย่มบนสะโพกหญิงสาว สอดองคชาติลึกเข้าไปเรื่อยๆ โหนกนูนชายปะทะกับร่องก้น เสียวสะท้านทั้งเขาและเธอ
“อื้อ...” ไข่มุกเลิกต่อต้านและรู้สึกดีเมื่อมันไปเสียดสีกับภายใน จนเธอน้ำแตกในช่องสวาทอยากถูกเขากระแทกหนักๆ ลึกๆ นานๆ จนลืมไปแล้วว่าตัวเองจะต้องรีบกลับบ้าน... พ่อแม่เธอรอกินข้าวด้วยกันอยู่...
คิมหันต์ซอยเข้าร่องก้นไข่มุกถี่ๆ จนกระทั่งเสียวสะท้านเพราะถูกภายในที่คับแคบหนืดๆ บีบรัดองคชาติเสียวสุด น้ำแตกทะลักภายในร่องก้นเธอ และเขายังไม่อยากจะปล่อยให้เธอกลับบ้านเลย... หากว่าไข่มุกยังจะปฏิเสธเขาไปส่งเธออีกล่ะก็... เขาจะจับเธอมาข่มขืนอีก...
สายน้ำอุ่นขุ่นร้อนพวยพุ่งอยู่ภายในลำไส้หญิงสาว สุดทางปลายหัวหยักใหญ่พ้นน้ำมากมายไว้ให้เธอ ชายหนุ่มค่อยๆ ดึงองคชาติอันอวบใหญ่ออกมา พร้อมปล่อยให้ไข่มุกนอนคว่ำอย่างอิสระ เธอคงหมดแรงขัดขืนเขาแล้ว...
เสียงร้องไห้ของหญิงสาวดังแผ่ว นี่เธอฝันร้ายหรือมันเป็นความจริงที่จะต้องมาเจออะไรแบบนี้... ครั้งแรกของเธอถูกเปิดซิงทางรูก้น... หญิงสาวอยากจะบ้าตาย...!
******
“ไข่มุก ผมไปส่งบ้านนะ...” ชายหนุ่มพูดจาหวานๆ อีกครั้ง รอเธอตอบสุภาพกลับมา
“ได้สิ... แต่อย่าทำแบบนั้นอีกนะ เค้าเจ็บก้นมากๆ เลย” ไข่มุกมองเขาอย่างระมัดระวัง ไม่อยากถูกเขาซอยองคชาติเข้าร่องก้นอีก... ถึงจะเจ็บปวดแสบ แต่พอมันชินแล้วนี่แหละ เสียวสุดๆ อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน...
“ถ้างั้นไปกันเถอะ ผมจะไปส่งและจะไปรับทุกเช้าเลยนะ” คิมหันต์บอกอย่างร่าเริง แต่ทำให้ไข่มุกรู้สึกตกใจที่เขาจะไปรับและส่งเธอทุกๆ วัน
“อะไรนะ?” เพียงไข่มุกเริ่มจะถามและทักท้าน แววตาคิมหันต์หันมาทางไข่มุกไม่ต่างกับรอบที่แล้ว
“เอ่อ... ได้สิ...” หญิงสาวรู้สึกว่าถ้าหากขัดความต้องการเขาแล้ว คิมหันต์อาจจะวกกลับมาข่มขืนเธออีก นี่เธอมาเจอคนประเภทไหนกันนะ...
“ผมจะไปส่ง...” ชายหนุ่มยื่นมือให้เธอจูงมือจับกับเขา เขากุมมือเธอเอาไว้แน่น มิให้หลุดห่างมือ เพื่อพาเดินออกไปจากสถานที่วังเวงออกไปภายนอกถนนใหญ่ รอรถแท็กซี่และขึ้นไปกับเธอเพื่อไปส่งให้ถึงบ้าน...
“คิมหันต์...” ไข่มุกรู้สึกสงสัยว่า หลังจากเขาได้เสียกับก้นของเธอไปแล้ว เขาชอบแบบนี้รึ?
“ครับ?” ใบหน้าของเขายิ้มแย้ม และดึงร่างบางของไข่มุกมาสวมกอดเอาไว้ ซึ่งนั่งอยู่เบาะหลังของแท็กซี่
“ตอนอยู่ที่ห้องน่ะ เธอชอบ...แบบนั้นรึ?”
“ท่าอื่นผมก็ทำได้นะ ถ้าไข่มุกต้องการ...” คิมหันต์ตอบน้ำเสียงปกติ ทำให้สายตาคนขับรถแท็กซี่เหลือบมามองทางกระจกหลัง พบว่านศ.สองคนกำลังพูดถึงเรื่องอย่างว่า...
“เธอคิดกับฉันยังไงกันแน่? แค่ทำด้วยกันเฉยๆ หรือว่าอยากจะเป็นแฟนฉันจริงๆ” ไข่มุกแค่อยากแน่ใจสถานะระหว่างเธอกับเขา... รู้สึกว่าวางตัวไม่ถูก เหมือนไร้จุดยืนของตัวเอง ทั้งๆ ที่ควรจะไปเรียนและกลับบ้านตามปกติ หากไม่เพราะกัปตัน เดินเข้ามาขอเธอเป็นแฟน และสุดท้ายกลับได้เสียกับคิมหันต์แทน...
“ได้หมดครับ ถ้าไข่มุกต้องการ...” ชายหนุ่มยิ้มแย้มมองหญิงสาวอย่างพึงพอใจ เขายอมรับว่าเธอน่าสนใจ และตอบรับเขาได้ดีมาก...
หญิงสาวครุ่นคิดโดยไม่พูดถึงอีก แม้จะพยายามดึงตัวเองออกจากเขา คิมหันต์มิได้ปล่อยให้เธอเป็นอิสระเลย
-ใครกันแน่ที่ต้องการทิ่มตูดกันแบบนี้วะ? - ไข่มุกแอบคิดในใจ...อย่างหงุดหงิดใจ....
******
หลังจากนางสร้อยเงินเดินทางกลับมาถึงบ้าน พบเห็นว่าลูกสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นั่งเย็บปักถักร้อยอยู่ภายในห้องขอตัวเอง โดยไม่ออกมาด้านนอกตามที่ตนสั่ง นางสร้อยเงินแวะไปเยี่ยมนายปวรุตม์เสียหน่อยว่ากำลังทำงานอยู่หรือเปล่าพบเห็นว่าชายหนุ่มดังกล่าว กำลังนั่งปอกเปลือกมะพร้าว และกำลังผ่าฟืนตามสั่ง เพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้นางสร้อยเงิน ทำอาหารมื้อเย็นและเช้าวันถัดไป“ทำงานอยู่รึ ระวังมีดบาดนะ”“ครับ ผมทำงานใกล้จะเสร็จแล้วครับ” ปวรุตม์ยิ้มแย้มก่อนจะตั้งใจทำงานต่อไป แววตาของนางสร้อยเงินมองชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ ระหว่างที่ไม่อยู่นางน่าจะพากลิ่นจันทร์ไปด้วย แต่อยากให้ลูกสาวประหลาดใจ เมื่ออีกไม่กี่วันบิดาของเธอจะกลับมาวันเวลาผ่านไปราวอาทิตย์หนึ่ง ปรากฏร่างของชายหนุ่มสูงวัย เดินทางมาถึงบ้านของนางสร้องเงิน ปวรุตม์กำลังขุดดินปลูกต้นไม้อยู่ข้างบ่อน้ำ เขาถอดเสื้อสวมผ้าถุงสีทึบเพียงชิ้นเดียว ปวรุตม์พบเห็นร่างของชายดูดีมีภูมิฐาน เขารู้สึกกลัวขึ้นมาในทันใด หน้าตาก็คล้ายๆ กับกลิ่นจันทร์“ไอ้หนุ่ม... เอ็งเป็นใครมาจากไหน มาอยู่บ้านข้าวะ?” แววตาที่ดุดันมองมายังชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ“สวัสดีครับ ผมชื่อ ปวรุตม์ คุณส
หลังจากนั้นเป็นต้นมา... ปวรุตม์จึงเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำตัวกลมกลืนกับคนที่บ้านของกลิ่นจันทร์ ช่วยเหลืองานบ้าน และงานสวน ทำให้สร้อยเงินรู้สึกพอใจว่า ชายแปลกหน้าจากกรุงเทพฯ ซึ่งหาบ้านยายแสงดาวไม่เจอ กลายเป็นคนงานคนสวนไปโดยปริยายชายหนุ่มอาศัยอยู่ในเรือนรับรองเล็กๆ อีกแห่งของเขตบ้าน เพราะนางสร้อยเงินไม่ยอมให้อยู่ในบ้านเดียวกับลูกสาว หวังว่าจะไหว้วานผู้ใหญ่บ้าน ช่วยเขียนจดหมายไปบอกสามีในเมืองว่า ช่วยแวะกลับมาบ้าน เรื่องไอ้หนุ่มกรุงเทพฯ มาอาศัยอยู่ในบ้าน“แม่เดินทางปลอดภัย โชคดีนะจ๊ะ” หลังจากที่แอบลักลอบได้เสียกับปวรุตม์ เธอระมัดระวังตัวมิให้มารดารู้ว่า ลูกเสียสาวไปแล้วกับชายแปลกหน้า แต่เขาทำให้กลิ่นจันทร์มีความสุขยามเมื่อได้สวมกอด และบางสิ่งที่ทำให้เธอหลงใหล“แม่จะรีบไปรีบกลับนะ อยู่ดูแลบ้านดีๆ ล่ะ” นางสร้อยเงิน ใช้แรงงานทาสขับเกวียนไปส่งนางที่บ้านผู้ใหญ่ หวังจะขอให้ผู้มีความรู้เขียนจดหมายส่งไปให้สามีทราบเรื่องที่บ้านทีหลังจากนั้นเมื่อไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน กลิ่นจันทร์จึงเดินไปที่เรือนรับรองของปวรุตม์ เพื่อขอมีอะไรด้วยกันเพราะความคิดถึงมากมาย...ชายหนุ่มกำลังรอเวลานี้ที่จะได้อยู่กับกลิ่นจันท
เรือนกายหญิงสาวยืนพิงหลังต้นไม้ใหญ่ บดบังเรือนร่าของเธอและปวรุตม์ให้พ้นสายตาใครอื่น สองแขนหญิงสาวซึ่งกันเอาไว้ระหว่างอกเขาและกายบางได้ลดลง แขนบางทั้งสองโอบกอดตอบรับชายหนุ่มเบื้องหน้าทำให้ปวรุตม์ดีใจเหลือเกินเมื่อเธอยินยอมเขาแล้ว มือของชายหนุ่มทั้งสองจึงทำงานปลดตะขอกางเกง ทำให้แววตาหญิงสาวตกใจว่า นี่เขาจะแก้ผ้าทำไมกันนะ...“ปวรุตม์ คุณจะทำอะไรรึ?” เธอไม่เข้าใจว่า เขากำลังทำอะไรแปลกๆ ออกมา หลังจากบอกรักเธอ ต้องแก้ผ้าด้วยรึ?“ผมอยากได้คุณ ปลดผ้าถุงสิ” เขาบอกให้เธอทำบ้าง หญิงสาวยังรู้สึกสับสนว่า ทำไม แต่ถ้าลองดูก็อาจจะคลายความสงสัยได้บ้างเพียงช่วงล่างเปล่าเปลือยปวรุตม์ไม่เห็นมีที่ร่วมรักใดได้ คิดเสียว่าคงต้องเลือกท่ายืนนอกสถานที่ในป่าลับเช่นนี้เขาโอบอุ้มเธอเอาไว้ใต้สองแขน ทำให้กายบางหญิงสาวลอยสูง ปลายเท้าไม่แตะพื้นและช่วงต้นขาของเธอต้องกางออก เพราะเขาดึงร่างบางเข้าหาชายหนุ่ม เรือนหน้าหญิงสาวตกใจและหน้าแดงก่ำ เธอรู้สึกอายจริงๆ“อย่าตกใจนะ กลิ่นจันทร์... ผมจะทำให้คุณรู้สึกดีเอง” ชายหนุ่มพยายามกระซิบข้างหู มิให้เธอตกใจดิ้นหลุดจากแขนเขา เธอกลัวจนตัวสั่น ระหว่างถูกดึงเข้าหาร่างชายหนุ่ม ต้นข
หลังจากเขาแนะนำตัวเองกับแม่ของกลิ่นจันทร์ เธอชื่อสร้อยเงิน กำลังทำอาหารกับทาสสองคน สีหน้าของเธอไม่ค่อยไว้ใจที่มีผู้ชายแปลกหน้ามาคุยกับลูกสาว“แม่ อย่าไปว่าเขาสิ เขาคงหลงทางมาถึงบ้าน ถามหายายแสงดาว แม่พอจะรู้จักคุณยายแสงดาวไหม” กลิ่นจันทร์ถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม คิดว่าหากช่วยเหลือเขาไปแล้ว เธอกับแม่จะได้บุญ และเขาคงจะไปทำธุระเรื่องครอบครัวได้เสียที“โอ๊ย...อยู่มาตั้งนาน ไม่เคยได้ยินยายชื่อแสงดาวอะไรนั้นเลยนะ พ่อหนุ่มมาจากกรุงเทพฯ ลองไปถามญาติตัวเองใหม่เถอะ... กลับไปได้แล้ว ลูกสาวฉันจะเสียชื่อหมด” นางสร้อยเงินตอบปัด จึงอยากให้ทาสพาเขาออกจากเรือน“ไม่เป็นไรจ้าแม่... ให้ทาสช่วยแม่ทำอาหารเถอะ ฉันจะไปส่งเขาเองจ๊ะ” กลิ่นจันทร์รับอาสาเอง เพราะคิดว่าตนคงเป็นเหตุนำพาเรื่องวุ่นวายเข้าบ้าน คิดเสียว่าแนะนำให้เขาไปคุยกับผู้ใหญ่บ้าน เผื่อจะได้รับความช่วยเหลือที่ดีกว่านี้“ขอโทษนะครับ คุณแม่สร้อยเงิน ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” ปวรุตม์รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้พบญาติหรือแม่ ทุกคนหายไปไหนหมด อีกทั้งทุกๆ คนที่นี่ใส่ชุดสมัยร.๕ทั้งนั้น เขามาหลงอยู่บ้านใครกันเนี่ย... ชายหนุ่มแอบคิด******กลิ่นจันทร์พาเขาเดินออกจากบร
รุ่งเช้าท่ามกลางเสียงโวกเวกโวยวาย ผู้คนเดินไปมา สลับวิ่งจนพื้นไม้ภายในบ้านสั่นสะเทือน ปวรุตม์รู้สึกว่าถูกรบกวนจากการนอนแสนสบาย จึงลืมตาปรือตื่น หันมองว่าร่างของแม่ข้างๆ หายไป คงจะสมทบกับญาติ ซึ่งกำลังทำอะไรสักอย่าง“เร็วๆ เข้า!!! อุ้มคุณแม่ขึ้นรถ!!!” เสียงของผู้หลักผู้ใหญ่กำลังวุ่นวาย กับการนำร่างของคุณยายซึ่งเริ่มหายใจช้าลง หลับตาโดยไม่มีการตอบสนอง ครอบครัวญาติฝ่ายแม่ตกใจมากพวกเขาพาร่างของคุณยายขึ้นรถ ออกตัวจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงญาติทุกๆ ต่างคนกลับไปที่รถของตัวเอง ต่างขับรถแห่ไปทีละคันจนหมดบ้าน...เหลือไว้เพียงเขายังยืนงงอยู่ภายในบ้านคนเดียว“ไปกันหมดเลย” ปวรุตม์ไม่อาจจะพูดถามใคร ในช่วงเวลาอันฉุกละหุกได้เลย ว่าเขาควรทำตัวอย่างไร พ่อแม่เขาค่อนข้างวุ่นวายกับการพาร่างของคุณยายขึ้นรถ และรีบพาไปร.พ. ในขณะที่ญาติๆ คนอื่นๆ ต่างแยกย้ายขับรถตามไป“กลิ่นจันทร์ไปกับเขาด้วยหรือเปล่านะ?” ปวรุตม์ยังคงนึกถึงสาวเมื่อคืนนี้ หากไม่อยู่ในพุ่มไม้มืด เขาอาจจะจำหน้าเธอได้ชัดกว่านี้ ตะวันในเช้านี้ทอแสงนวลแผ่วเบา แต่ท้องเขานี่สิ ร้องออกมาอย่างหิวโหย ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเหลืออะไรใหเขากินได้บ้าง******ช
ในความเงียบภายในรถยนต์ ระหว่างเดินทางออกมาตจว. นอกเขตเมือง สู่ชนบทในท้องนา ภาพบรรยากาศของตึกราบ้านช่องหายไปจากสายตาของชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนหนุ่มสมัยใหม่ อาศัยอยู่ในเมืองเขาจำใจต้องเดินทางมากับพ่อแม่ เพื่อไปบ้านของยายแสงดาวซึ่งอยู่ตจว. เขาเบื่อมากกับการไปอยู่บ้านนอก โบราณ คนแก่หัวเก่าๆ ซึ่งมันไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับเขาเลยปวรุตม์ (ปะ-วะ-รุด) หยิบมือถือสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อแชทกับเพื่อน และนัดกันว่ากลับบ้านจากญาติแล้ว จะไปดื่มเหล้าเที่ยวผับ ควงสาวมาฟันให้สนุกแก้เบื่อเสียเลย เขายิ้มเงียบๆ โดยมิให้พ่อซึ่งกำลังขับรถหันมาดุได้อีกแม่ของเขานั่งอยู่หน้ารถ กำลังชี้ทางบอกไปทางคุณยาย คือคุณแม่ของเธอค่อนข้างมีอายุมากแล้ว พวกเขาทั้งครอบครัวถูกเรียกให้มาบ้านญาติตจว. เพื่อให้มารับทราบว่า คุณยายใกล้จะไปสบายดีแล้ว ญาติคนอื่นๆ เรียกพ่อแม่และปวรุตม์ ให้มาดูใจกันครั้งท้าย ก่อนคุณยายจะเสีย“ทำตัวดีๆ นะแกไอ้รุตม์ เดี๋ยวจะไม่ได้รับมรดกกันพอดี” คุณพ่อของเขา เป็นลูกเขยของญาติข้างแม่ ชายหนุ่มอายุราวยี่สิบสองปี ทำตัวสงบเสงี่ยมเจียมตัวเรียบร้อย อย่างน้อยเขาอยากจะกลับเมือง มากกว่านอนค้างอยู่บ้านนอกตจว.แบบนี้