Home / วาย / เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde / บทที่ 27 ความสงบค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น

Share

บทที่ 27 ความสงบค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น

last update Last Updated: 2025-07-16 13:00:00

ในยามบ่ายของวันอันเงียบสงบ รินนั่งอยู่ข้างเคลใต้ต้นไม้ใหญ่ สายตาของเขาจับจ้องไปที่เคียแรนและเอร่าที่กำลังคุยกันไม่ไกล เสียงหัวเราะของทั้งคู่ดังแว่วมาท่ามกลางสายลมเอื่อย รินยิ้มบาง ๆ ก่อนจะหันไปพูดกับเคล

“เคล คุณเห็นไหม?” รินพูดพลางพยักเพยิดไปทางทั้งสองคน “พี่ดูมีความสุขนะเวลาคุยกับเอร่า ผมไม่ได้เห็นเขาหัวเราะแบบนี้มาตั้งแต่...ตั้งแต่ก่อนที่ทุกอย่างจะพังทลาย”

เคลเหลือบมองแล้วพยักหน้า “อืม ดูเหมือนเอร่าจะทำให้เขาผ่อนคลายได้จริง ๆ แต่คุณคิดว่ามันจะดีไหม? คุณรู้ว่าเอร่าน่ะ...” เขาหยุดชั่วครู่ “ค่อนข้างซนเกินไปหน่อย”

รินหัวเราะเบา ๆ “ซน? นั่นเป็นคำพูดที่สุภาพเกินไป ผมคิดว่าเอร่าคือพายุในร่างมนุษย์ด้วยซ้ำ แต่บางทีนั่นอาจเป็นสิ่งที่พี่ต้องการ ใครสักคนที่ทำให้เขาหยุดคิดมากและเริ่มใช้ชีวิตจริง ๆ”

เคลเอนตัวพิงต้นไม้แล้วถอนหายใจ “ผมคิดว่าคุณพูดถูก บางทีพวกเขาอาจจะช่วยเติมเต็มกันและกัน... หรือไม่ก็สร้างความวุ่นวายยิ่งกว่าเดิม”

รินหัวเราะเสียงดัง “นั่นละคือความท้าทาย! ผมคิดว่าผมควรเสนอตัวเป็นพ่อสื่อให้ ดีไหม?”

“พ่อสื่อ?” เคลถามพลางยกคิ้ว “ผมสนับสนุนนะ แต่ถ้าทุกอย่างจบลงด้วยความปั่นป่วนกว่าเดิม ผมจะถือว่าคุณเป็นคนผิด”

“ผมจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง แต่ผมรู้สึกได้ว่านี่จะเป็นเรื่องดี” รินยิ้มเจ้าเล่ห์

เอร่าเอียงตัวพิงต้นไม้ใหญ่พลางหยิบกิ่งไม้มาปาดดินเล่น “นายรู้ไหม เคียแรน ผนมองคุณแล้วรู้สึกว่า คุณคงเป็นคนที่แบกอะไรหนัก ๆ มาทั้งชีวิตเลยใช่ไหม?”

เคียแรนเลิกคิ้วเล็กน้อย พลางหัวเราะเบา ๆ “คุณเป็นนักสังเกตการณ์ที่เก่งมาก ผมต้องยอมรับว่ามันเป็นแบบนั้นจริง ๆ แต่ตอนนี้ ผมแค่พยายามหาทางมีชีวิตที่สงบสุข”

“งั้นก็โชคดีแล้วละที่นายมาที่นี่ เพราะที่นี่น่าจะสงบที่สุดในอาราเลีย” เอร่าแซว พร้อมกับหักกิ่งไม้ในมือเหมือนจะเน้นคำพูดของตัวเอง “แต่ว่า... นายเคยสงบจริง ๆ ไหม หรือแค่ฝืนให้ดูสงบ?”

เคียแรนชะงักเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะ “นายเป็นนักจิตวิทยาหรืออย่างไร? ทำไมถามเจาะลึกขนาดนี้?”

เอร่าหัวเราะเสียงดัง “ไม่ต้องเป็นนักจิตวิทยา ผมก็แค่อ่านใจคนเก่ง! และถ้านายอยากให้ผมช่วยนายเรียนรู้ความสงบ บอกมาเลย ผมเก่งเรื่องการพักผ่อน” เอร่าหัวเราะเสียงดัง

“งั้นช่วยแนะนำวิธีที่นายพักผ่อนที่ดีที่สุดหน่อยสิ” เคียแรนส่ายหัวพลางยิ้ม

เอร่าเอนหลังลงกับพื้นหญ้า “ง่ายมาก นอนกลิ้งไปมาแบบจินเจอร์ ไร้กังวล!”

ในขณะที่พวกเขาพูดคุยกัน จินเจอร์กระโดดขึ้นมาบนตักของเคียแรน ม้วนตัวเหมือนลูกบอลกลิ้งไปกลิ้งมา เอร่าอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “เจ้านี่เป็นตัวแทนของคำว่าสงบสุขโดยสมบูรณ์!”

“ดูเหมือนผมจะมีครูคนใหม่แล้ว ผมคงต้องเรียนรู้จากแมวตัวนี้” เคียแรนพูดล้อเล่น พลางลูบหัวจินเจอร์เบา ๆ

“นั่นแหละ คิดถูกแล้ว! ครูจินเจอร์ที่ยิ่งใหญ่ จะสอนนายให้รู้จักศิลปะแห่งการขี้เกียจ!” เอร่าสัพยอกกลับทันที

รินนั่งยิ้มพอใจกับตัวเองหลังจากมองดูเคียแรนและเอร่าที่นั่งคุยกันอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ ใบหน้าของพี่ชายเขาดูสดใสเหมือนคนที่ทิ้งความกังวลทั้งหมดไว้เบื้องหลัง ส่วนเอร่าก็ยังคงหัวเราะเสียงดังและพูดจาขี้เล่นอย่างไม่เปลี่ยนแปลง

“เห็นไหมล่ะ เคล? ผมบอกแล้วว่าพวกเขาเข้ากันได้ดี” รินพูดพลางสะกิดไหล่เคล

เคลที่นั่งข้าง ๆ เอียงคอพลางพยักหน้า “อืม ผมเห็นแล้ว แต่ผมก็ยังสงสัยอยู่ว่าใครจะรอดจากใครก่อนกัน คุณแน่ใจนะว่าจะทำหน้าที่พ่อสื่อ? เพราะถ้าพลาดแล้ว...ผมจะไม่ช่วยคุณแก้แน่นอน”

“แน่ใจสิ! พี่ผมต้องการคนที่ทำให้เขาหัวเราะได้ และเอร่านี่แหละคือคนที่ใช่ที่สุด” รินหัวเราะเบาๆ

เย็นวันหนึ่ง รินเดินไปหาเอร่าที่กำลังนั่งคัดแยกสมุนไพรอยู่ที่มุมสวน เขานั่งลงข้างเอร่าแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์

“เอร่า รู้ไหมว่าพี่เคียแรนชมนายบ่อยแค่ไหน?”

เอร่าชะงักมือที่กำลังหยิบสมุนไพร แล้วเลิกคิ้ว “พี่นาย? เคียแรนน่ะเหรอ? ผมคิดว่าเขาน่าจะมีเรื่องด่าผมมากกว่าชมนะ”

“ไม่ใช่เลย! เขาพูดว่าคุณมีเสน่ห์ ทำให้เขารู้สึกสบายใจ และ...” รินหัวเราะ เว้นช่วงเพื่อเพิ่มความตื่นเต้น “เขาบอกว่าคุณเป็นคนที่น่าสนใจที่สุดที่เขาเคยเจอมา”

“เขาพูดจริงเหรอ? หรือนายกำลังหลอกผมอยู่?” เอร่าหัวเราะลั่น

“จริงสิ!” รินตอบ “และผมคิดว่าคุณน่าจะลองเปิดใจดูบ้างนะ ไม่แน่ว่าคุณอาจจะชอบเขาก็ได้”

อีกด้านหนึ่ง รินเดินไปหาเคียแรนที่กำลังฝึกดาบอยู่ใต้ต้นไม้ “พี่ ผมรู้ว่าเอร่าน่ารำคาญบางครั้ง แต่พี่ไม่คิดเหรอว่าเขาเป็นคนที่ทำให้พี่รู้สึกสบายใจได้?”

“ก็อาจจะใช่ พี่ไม่เคยเจอใครที่กล้าพูดทุกอย่างตรงๆ แบบเขา แต่มันก็ทำให้พี่หัวเราะได้...อาจจะนิดหน่อย” เคียแรนยิ้มบางๆ

รินเอียงคอแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ “แค่นิดหน่อย? ผมสังเกตเห็นว่าพี่ยิ้มบ่อยขึ้นมากตั้งแต่เจอเขานะ และผมไม่เคยเห็นพี่หัวเราะแบบนี้มาก่อน”

“รินอยากพูดอะไรกันแน่?” เคียแรนถามพลางมองน้องชายด้วยความสงสัย

“ผมแค่คิดว่า...พี่ควรลองทำความรู้จักเขาให้มากขึ้น พี่เป็นคนจริงจัง ส่วนเขาก็ขี้เล่น มันอาจจะเป็นส่วนผสมที่ลงตัวก็ได้นะ” รินพูดพร้อมยิ้มให้กำลังใจ

ในคืนที่ดาวเต็มฟ้า รินที่กำลังตื่นเต้นกับบทบาทพ่อสื่อ ตัดสินใจเรียกเคียแรนและเอร่ามานั่งรอบโต๊ะกลางสวนรัตติกาล โดยมีจินเจอร์กระโดดขึ้นไปนั่งอยู่บนโต๊ะ มองดูทุกคนเหมือนจะบอกว่า “ข้าพร้อมแล้วที่จะช่วย!”

“ผมว่าทั้งสองคนควรจะไปเดินเล่นด้วยกันในสวนคืนนี้” รินเปิดประเด็นพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

“นายกำลังวางแผนอะไรอยู่หรือเปล่า ริน? ดูไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญแน่นอน” เอร่าหรี่ตามองอย่างสงสัย

“ไม่มีอะไรทั้งนั้น!” รินรีบโบกมือปฏิเสธ “แค่คิดว่าทั้งสองคนควรจะใช้เวลาเรียนรู้กันให้มากขึ้นก็เท่านั้นเอง”

เคลที่นั่งอยู่ข้างกันหันมามองรินด้วยสายตาจับผิดนิด ๆ ก่อนจะเสริม “ความคิดดีนะ ผมก็คิดว่าเคียแรนน่าจะได้พักผ่อน และเอร่า...อาจจะหยุดสร้างปัญหากับคนอื่นสักพัก”

เอร่าหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพูดอย่างขี้เล่น “ผมว่ามันแปลก ๆ นะ ริน เมื่อเช้านายบอกว่าพี่ชายนายแอบชมผมบ่อย ๆ แต่สงสัยจริง ๆ ว่าเขาชมอะไรกันแน่ หรือนายกุเรื่องขึ้นมาเอง?”

รินที่พยายามวางมาดนิ่งถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะแห้ง ๆ “ก็... พี่อาจจะไม่ได้พูดตรง ๆ แต่ผมก็...คิดว่าพี่น่าจะคิดแบบนั้น”

“เดี๋ยวก่อน ริน กำลังบอกว่าพี่พูดถึงเอร่า? พี่ไม่คิดว่าเคยพูดอะไรแบบนั้นเลยนะ หรือรินกำลังพยายามจับคู่พวกเรา?” เคียแรนหรี่ตามองน้องชายตัวเอง

“อืม...ไม่ใช่แบบนั้น! เอ่อ ผมหมายถึง พี่น่าจะลองเปิดใจดู ไม่ใช่เหรอ?” รินพูดตะกุกตะกัก สีหน้าเริ่มแดงขึ้นมา

เคลที่เห็นสถานการณ์เริ่มไปกันใหญ่รีบคว้ามือรินและดึงออกจากโต๊ะ “มานี่เลย เจ้าพ่อสื่อมือใหม่ ก่อนที่คุณจะทำให้พวกเขาโกรธจนไม่ยอมพูดกันจริง ๆ”

“ผมก็แค่พยายามช่วย!” รินกระซิบเถียงเบา ๆ ขณะถูกเคลลากออกมา

“ช่วยแบบนี้ เขาเรียกโป๊ะแตก!” เคลตอบพลางกลั้นหัวเราะ

หลังจากรินกับเคลถอยออกมาจากวง เคียแรนหันไปมองเอร่าแล้วหัวเราะเบา ๆ “เจ้าน้องชายผมช่างยุ่งเรื่องคนอื่นจริง ๆ แต่ก็ดูตั้งใจดีนะ”

“ผมไม่ถือหรอก ผมว่ามันน่ารักดี อีกอย่าง...บางทีคุณอาจจะต้องเปิดใจบ้างจริง ๆ” เอร่ายิ้มกว้าง

“ผมคิดว่าผมกำลังเปิดใจอยู่ตอนนี้” เคียแรนหัวเราะพร้อมถอนหายใจ สายตาของเขาจ้องมองเอร่าอย่างจริงจัง “คุณทำให้ผมรู้สึกสบายใจและหัวเราะได้ในช่วงเวลาที่ผมไม่คิดว่าจะหัวเราะอีก ผมคิดว่า...เราอาจจะลองดูกันได้”

เอร่ากะพริบตาอย่างตกใจ ก่อนจะยิ้มกว้างจนล้น “นายพูดจริงเหรอ? อืม...ผมก็ไม่ได้รังเกียจอะไรถ้าจะลองดูเหมือนกัน แต่นายต้องพร้อมรับมือกับความขี้เล่นของผมนะ”

“ถ้าผมเอาชนะลูกเตะของจินเจอร์ได้ ผมว่าผมรับมือคุณไหว” เคียแรนตอบกลับพร้อมยิ้มมุมปาก

รินและเคลที่แอบดูอยู่ด้านหลังต้นไม้พากันยิ้มกว้าง รินกระโดดเล็ก ๆ อย่างดีใจ “ผมทำสำเร็จ! ผมเป็นพ่อสื่อที่เก่งที่สุดในอาราเลีย!”

“ใช่ พ่อสื่อที่โป๊ะแตกแต่ยังโชคดีน่ะสิ แต่ผมก็ยอมรับว่าคุณทำให้พวกเขาเปิดใจได้จริง ๆ” เคลกลอกตา

จู่ ๆ เอร่าหันมาทางต้นไม้ที่ทั้งคู่หลบอยู่ “พวกนายแอบดูอยู่ใช่ไหม? มานี่เลย! ฉันอยากบอกว่าตอนนี้ฉันคิดว่าชื่อ 'สวนรัตติกาล' คงต้องเปลี่ยนเป็น 'สวนแห่งรัก' แล้ว!”

รินกับเคลเดินออกมาพร้อมเสียงหัวเราะ แต่เคลกลับพูดพร้อมถอนหายใจ “ผมไม่แน่ใจว่านี่คือความสำเร็จหรือการปล่อยปีศาจสองตัวเข้ามาในสวนกันแน่”

จินเจอร์ที่นั่งอยู่บนโต๊ะส่งเสียงเมี้ยวเหมือนจะเห็นด้วย เอร่ากับเคียแรนยิ้มให้กัน ก่อนจะเริ่มแหย่รินกับเคลจนเสียงหัวเราะดังก้องไปทั่วสวนรัตติกาล

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 33 วิหารเงาแสงสะท้อนแสงแห่งชีวิต

    ทุกคนเดินไปยังเขต วิหารเงาแสง ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของสวน รินไม่เคยมาเยือนเขตนี้มาก่อน จ้องมองรอบๆ ด้วยความตื่นเต้น วิหารตั้งอยู่กลางพื้นที่ที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้สูงใหญ่กิ่งก้านแผ่ขยายทับซ้อนจนแทบไม่เห็นท้องฟ้า ยกเว้นช่องเล็ก ๆ ที่แสงจันทร์ลอดผ่านลงมา แสงเหล่านั้นตกลงบนตัววิหารที่ทำจากหินขาวเรืองรอง ราวกับมีแสงสว่างในตัว“วิหารนี้เหมือนกับ...ลมหายใจของสวน” รินพึมพำ “สมัยเด็ก ผมได้แต่มองมันจากระยะไกล ไม่เคยได้เข้ามาเลย”เคลที่เดินอยู่ข้าง ๆ เอื้อมมาจับมือรินเบา ๆ “ตอนนี้คุณได้เห็นด้วยตัวเองแล้ว และคุณก็เป็นเจ้าของที่แท้จริงของมัน”“หวานกันอีกแล้ว...จินเจอร์ ถ้าเราไม่มีของกิน ให้ไปกัดขาเคลนะ” เอร่าไม่พลาดที่จะแซวจินเจอร์ร้องเหมียวเสียงยาว เหมือนจะเห็นด้วยเคียแรนส่ายหน้าและหัวเราะเบา ๆ “เอร่า นายจะช่วยสงบสักนิดได้ไหม? ตอนนี้พวกเราจริงจังอยู่นะ”เอร่าหันมามองเคียแรน พร้อมยักคิ

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 32 อาณาจักรของสวนรัตติกาล

    เช้าวันใหม่เริ่มต้นพร้อมกับความกระตือรือร้นในสวนรัตติกาล ทุกคนรวมตัวกันที่โต๊ะไม้ตัวใหญ่กลางสวน ริน เคล เอร่า และเคียแรนล้อมวงฟังเอลดรินที่กำลังเปิดตำราโบราณอย่างระมัดระวัง หน้ากระดาษที่เก่าแก่เปราะบางเหมือนจะขาดได้ทุกเมื่อ เสียงนกร้องเป็นฉากหลังที่สงบ แต่บรรยากาศรอบโต๊ะเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและคาดหวัง“ตำราเล่มนี้บันทึกเรื่องราวของสวนรัตติกาลอย่างละเอียดที่สุด” เอลดรินเริ่มพูด พร้อมเปิดไปยังหน้าที่มีแผนที่โบราณของสวน ตัวอักษรจางหายไปบางส่วนจากกาลเวลา “นี่เป็นผลงานของอัศวินผู้พิทักษ์สวนคนแรก ๆ ที่อาศัยอยู่ในยุคสร้างหัวใจแห่งอาราเลีย”เคลเลื่อนตัวเข้ามาใกล้ แววตาเต็มไปด้วยความสนใจ “นี่คือแผนที่ของสวนทั้งหมดหรือครับ? ดูละเอียดกว่าที่ผมเคยเห็นมาอีก”เอลดรินพยักหน้า “ใช่ มันไม่เพียงแค่บอกทาง แต่ยังอธิบายถึงพลังและความเชื่อมโยงของพื้นที่ในสวนด้วย”เคียแรนที่เพิ่งมาอยู่สวนได้ไม่นานขมวดคิ้วเล็กน้อย “แล้วสวนนี้แบ่งเป็นเขตชัดเจนเลยหรือครับ? ผ

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 31 ปัญหาเรื่องเดิมอีกครั้ง

    หลังจากการพูดคุยอย่างเคร่งเครียดเกี่ยวกับหัวใจแห่งอาราเลียและแผนการของมาร์คัส รินที่มองเอลดรินสังเกตเห็นความเหนื่อยล้าบนใบหน้าของชายชรา เขาจึงเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง “เอลดริน ท่านดูเหนื่อยมากเลย ท่านเดินทางไกลมาขนาดนี้แล้ว ยังต้องเล่าเรื่องที่หนักหนาอีก ท่านควรพักก่อนดีไหม?”เอลดรินยิ้มอ่อน เมื่อเห็นความกังวลในสายตาของริน “ผมสบายดี แต่ก็ยอมรับว่าร่างกายไม่เหมือนเก่าแล้ว”“ถ้าอย่างนั้น” รินหันไปมองทุกคน “พวกเราควรพักก่อนดีไหม? การตามหาหัวใจแห่งอาราเลียไม่น่าจะเร่งด่วนถึงขนาดรอไม่ได้ เราเตรียมตัวให้พร้อมและเริ่มกันพรุ่งนี้เช้าดีกว่า”“ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง! พูดตรงๆ นะ ตอนนี้ผมหิวสุดๆ ถ้าพรุ่งนี้เช้าต้องเริ่มตามหาทันที โดยที่ไม่มีมื้อเย็นนี่ ผมคงหมดแรงแน่ๆ” เอร่ายกมือขึ้นเห็นด้วยทันทีเคลที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รินพยักหน้าเห็นด้วย “ฟังดูเข้าท่า แต่เราต้องเตรียมที่พักให้เอลดรินด้วย มีห้องว่างอยู่ท้ายสวน มันค่อนข้างเงียบสงบและมีข้าวของเครื่องใช้ครบ

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 30 หัวใจแห่งอาราเลีย

    เอลดรินนั่งลงข้างโต๊ะหินกลางสวนรัตติกาล ท่ามกลางแสงแดดอ่อนที่ลอดผ่านใบไม้ลงมา ท่าทางของเขาเคร่งขรึมและดวงตาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า ริน เคล เคียแรน และเอร่าล้อมรอบเขา บรรยากาศเงียบสงบในสวนดูเหมือนจะถูกแทนที่ด้วยความตึงเครียด“ท่านดูเหมือนคนที่ผ่านอะไรมาเยอะ ทำไมท่านถึงมาที่นี่ในเวลานี้?” รินมองเอลดรินด้วยความสงสัยเอลดรินถอนหายใจยาว น้ำเสียงของเขาแฝงด้วยความกังวล “ผมไม่มีทางเลือก ผมต้องรีบเตือนพวกท่าน กลุ่มซินดิเคทกำลังสืบหาเบาะแสเกี่ยวกับหัวใจแห่งอาราเลีย และพวกมันไม่สนใจว่าวิธีการนั้นจะชั่วร้ายแค่ไหน คนของผมหลายคนถูกทำร้าย บางคน...ก็ตาย หนังสือโบราณจำนวนมากถูกพวกมันแย่งชิงไป”คำพูดของเอลดรินเหมือนเปลวไฟที่จุดประกายความโกรธ รินลุกขึ้นทันที ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด “มาร์คัสอีกแล้ว! มันเป็นปีศาจ ทำร้ายผู้บริสุทธิ์แค่เพราะต้องการอำนาจ! ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงยังไม่หยุด”“และตอนนี้พุ่งเป้ามาที่สวน ถ้าเขาคิดว่าพวกเราจะยอมให้เขาได้หัวใจแ

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 29 อำนาจที่ไม่เคยได้รับ ความรักที่ไม่เคยได้ชม

    หลังจากคืนกวาดล้างครั้งใหญ่ มาร์คัสยืนอยู่บนยอดของอำนาจ เขามองลงไปยังซากปรักหักพังของกลุ่มคนที่ครั้งหนึ่งเคยยืนอยู่ข้างไอเดนและต่อต้านเขา ความพึงพอใจฉายชัดในแววตา ราวกับว่าเขาได้ปลดปล่อยพันธนาการที่เคยกดขี่มาตลอดชีวิตในห้องโถงใหญ่ของฐานทัพซินดิเคท มาร์คัสจัดงานเลี้ยงฉลองที่เต็มไปด้วยความหรูหราและมัวเมา บรรดาลูกน้องและพวกขุนนางชั้นต่ำที่หวังเกาะกระแสอำนาจของเขาต่างร่วมยินดี แต่ในใจของทุกคนแฝงไปด้วยความกลัวต่อความโหดเหี้ยมของชายผู้ไร้ความปรานีมาร์คัสไม่เสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว หลังจากกำจัดไอเดนและควบคุมกลุ่มซินดิเคท เขาเริ่มสั่งให้ทำการกวาดล้างทุกคนที่เขาสงสัยว่าอาจทรยศ สายลับและนักฆ่าถูกส่งไปยังเมืองต่าง ๆ เพื่อกำจัดศัตรูเก่าและใหม่ รวมถึงผู้ที่เคยช่วยไอเดนหนีรอดในอดีต“ฉันไม่ต้องการสิ่งที่ไม่สมบูรณ์แบบ” มาร์คัสกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ ขณะมองดูรายชื่อเป้าหมายการลอบสังหารที่ยาวเหยียดในมือของเขา “หากพวกมันไม่ก้มหัวให้ฉัน ก็ไม่มีความจำเป็นที่พวกมันจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป”&nbs

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 28 ผู้อาวุโสผู้มาพร้อมกับข่าวร้าย

    เช้าวันหนึ่งที่แสงอาทิตย์สาดแสงอ่อนโยนทอดผ่านกลีบดอกไม้ที่แบ่งบาน สวนเต็มไปด้วยเสียงนกร้องเพลงคลอเคล้ากับเสียงลมพัดเบา ๆ ทว่าความเงียบสงบนั้นถูกทำลายโดยกระแสลมแปลกประหลาดที่พัดวูบหนึ่ง ใบไม้ปลิวไหวในทิศทางที่ไม่มีใครคาดคิด กลิ่นหอมสดชื่นของดอกไม้ถูกแทนที่ด้วยกลิ่นชื้นคล้ายควันไม้และกลิ่นหญ้าหลังฝนตกเสียงฝีเท้าหนักแน่นดังขึ้นจากส่วนลึกของสวน ทั้งที่ไม่มีใครเปิดประตูให้ เสียงนั้นเหมือนจะสะท้อนในอากาศราวกับมาจากทุกทิศทาง เคลสัมผัสถึงบางสิ่งผิดปกติในทันที เขาขยับตัวมาข้างหน้า มือจับด้ามดาบแน่น ดวงตาคมมองตรงไปยังต้นเสียง ขณะที่เคียแรนก้าวมาข้างหน้าเพื่อปกป้องริน“ใครกันที่กล้าบุกรุกมาที่นี่?” เคลเอ่ยด้วยน้ำเสียงต่ำเย็น ดวงตาจับจ้องไปยังเงาที่ค่อยๆ ปรากฏตัวขึ้นจากเงามืดในหมู่แมกไม้ ชายชราผู้หนึ่งก้าวออกมาช้า ๆ เสื้อคลุมสีมอมแมมของเขาปลิวไสวไปตามลม แม้เสื้อผ้าจะดูธรรมดา แต่ตัวเขากลับมีบางสิ่งดึงดูดความสนใจได้ในทันที มือถือไม้เท้าที่มีลวดลายแกะสลักงดงาม เรืองแสงเบาบางเหมือนกับมีพลังบางอย่างซ่อนอยู่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status