/ วาย / เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde / บทที่ 26 การเริ่มต้นใหม่ของเคียแรน

공유

บทที่ 26 การเริ่มต้นใหม่ของเคียแรน

last update 최신 업데이트: 2025-07-15 13:00:16

เช้าวันใหม่ในสวนรัตติกาลเต็มไปด้วยความสดใส สำหรับเคียแรน มันเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตใหม่ที่แตกต่างจากอดีตโดยสิ้นเชิง เมื่อชายที่เคยจับดาบต่อสู้ในสนามรบต้องมายืนจ้องเครื่องมือทำสวนอย่างงุนงง เขาถอนหายใจหนัก ก่อนจะหันไปมองเอร่าที่กำลังหมุนคราดในมือเหมือนโชว์มายากล

“นี่คือเสียม...แล้วนี่ก็คือคราด นายต้องไม่ใช้มันเหมือนอาวุธ เข้าใจใช่ไหม?” เอร่ายิ้มพลางยื่นคราดให้

“นายคิดว่าผมโง่หรือไง?” เคียแรนจ้องเขม็ง

“ไม่เลย! ฉันแค่มั่นใจว่านายจะแยกความแตกต่างระหว่างดาบกับคราดได้จริง ๆ” เอร่าตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์กลับบ่งบอกว่าเขาแค่ต้องการแหย่

“แล้วนายแน่ใจหรือว่าทำงานนี้เป็น?” เคียแรนถามกลับ พลางคว้าเสียมมาขุดดินอย่างเก้ ๆ กัง ๆ เอร่าเห็นท่าทางแบบนั้นก็หัวเราะลั่น

เอร่าพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงขี้เล่น แต่แฝงไว้ด้วยความท้าทาย “ขอบอกเลยนะ เคียแรน ผมน่ะไม่ได้เป็นแค่ผู้เชี่ยวชาญสมุนไพร แต่ยังเป็นอัศวินด้วย! ด้านดาบ ผมก็เก่งพอสมควรนะ ถ้านายสงสัย เรามาประลองกันเมื่อไรก็ได้!”

เคียแรนเลิกคิ้ว พลางยิ้มมุมปาก “ประลองกับนายหรือ? ผมสงสัยว่าต้องเตรียมยาทาแผลหรือเปล่า หรือนายจะใช้สมุนไพรปรุงขึ้นเองล่ะ?”

“อย่าประเมินต่ำไป! จำไว้เลยนะ ศิษย์เอกของผม จินเจอร์ เจ้าแมวอ้วนกลมที่นายเพิ่งโดนลูกแตะไปน่ะ มันฝึกกับผมมาเต็มที่ นายควรรู้แล้วว่าความร้ายกาจของผมร้ายแรงแค่ไหน!” เอร่าหัวเราะดังลั่น แกล้งทำหน้าบึ้งใส่

จินเจอร์ที่กำลังเลียขนตัวเองหันมาร้องเมี้ยวเหมือนรับคำ เคียแรนหลุดหัวเราะ “ศิษย์เอก? ถ้าจินเจอร์คือศิษย์เอกของนาย ผมควรกังวลไหมว่าผมจะโดนอะไรอีก?”

เอร่าแกล้งโค้งตัวเล็กน้อย ทำท่าประหนึ่งอัศวินผู้ชนะ “ผมบอกเลยว่าควรกังวล เพราะนายยังไม่เห็นฝีมือเต็มที่ของผม ถ้านายอยากลอง ผมพร้อมเสมอ!”

เคียแรนยิ้มกว้าง พร้อมยกมือขึ้นในเชิงยอมแพ้ “ถ้าอย่างนั้น ผมขอเวลาซักซ้อมก่อน นายคงไม่อยากให้ผมแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มใช่ไหม?”

เอร่ายิ้มอย่างภาคภูมิใจ แต่เคียแรนก็ยังคาใจเรื่องสมุนไพรอยู่ดี พร้อมพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะพูดโต้กลับ

“ว่าแต่...ผมสงสัยเคลที่เป็นทั้งหัวหน้าอัศวิน นักพฤกษศาสตร์ และอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยชื่อดัง ยังดูยุ่งตลอดเวลา แล้วนายน่ะ เอร่า วัน ๆ นอกจากป่วนรินกับเคล ยังทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันบ้าง?”

เอร่าหัวเราะดังลั่น พร้อมแกล้งทำหน้าบึ้งเล็กน้อย “นายดูถูกผมเกินไปแล้ว! รู้ไหมว่าผมน่ะคือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรของสวนนี้ สมุนไพรที่ผมปลูกและปรุงส่งไปขายทั่วอาณาจักรอาราเลีย ทำรายได้ให้สวนมากขนาดไหน!”

“จริงหรือ? ถ้าอย่างนั้นก็บอกผมมา สมุนไพรที่คุณเพิ่งส่งออกไปเมื่อวานมีสรรพคุณอะไร?” เคียแรนมองเอร่าอย่างจับผิด

เอร่าไม่รอช้า คว้ากำสมุนไพรจากกระเป๋าผ้าของตัวเองแล้วเริ่มอธิบาย “นี่คือรากโกลเดนเบลล์ บำรุงหัวใจ แก้อ่อนเพลีย ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ส่วนใบนี้นะ แค่บดละเอียดทาแผล กำจัดเชื้อได้ในไม่กี่วัน ดูซิ ผมรู้ทุกอย่าง!”

“นายน่าจะเปิดร้านขายของเองไปเลยนะ” เคียแรนประชดพลางยิ้ม

“ก็ไม่แน่! แต่เอาจริง ๆ นายอย่าลืมว่าผลงานของผมทำให้สวนนี้มีกินมีใช้ ถ้าไม่มีผม นายกับเคลคงต้องปลูกผักกินเองแล้วละ”

เคียแรนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ก่อนจะพูดล้อ “ผมคงไม่รอด ถ้าต้องพึ่งนายทำอาหาร แต่เรื่องสมุนไพรนี่ดูภูมิใจนักหนา”

เอร่าหยิบสมุนไพรอีกกำขึ้นมา “ภูมิใจสิ! เห็นนี่ไหม สมุนไพรดรีมบลูม ใช้ชงชา ช่วยผ่อนคลาย นายอาจต้องการมันมากหน่อยนะ เพราะชีวิตของนายดูเครียดเกินไป”

จินเจอร์กระโดดขึ้นมานั่งบนไหล่เอร่า ร้องเหมียวอย่างเห็นด้วย

“ผมไม่รู้ว่าใครซนกว่ากันระหว่างนาย หรือแมวตัวนี้” เคียแรนส่ายหัว

“ก็ทั้งสองแหละ! แต่อย่าลืมว่าทั้งผมและจินเจอร์นี่แหละทำให้สวนรัตติกาลมีสีสัน!” เอร่าทำหน้าใสซื่อ

บ่ายวันหนึ่งในสวนรัตติกาล เคียแรนและเอร่ากำลังช่วยกันขุดดินเพื่อเตรียมปลูกต้นไม้ใหม่ บรรยากาศในสวนเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและกลิ่นหอมของดอกไม้ที่ลอยอวล เอร่าที่ไม่เคยพลาดโอกาสเล่นซน เริ่มแหย่เคียแรนทันทีที่ได้จอบในมือ

“ดูนายเหมือนกำลังขุดหาขุมทรัพย์ลับยังไงยังงั้น” เอร่าพูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียน พร้อมทำท่าเหมือนนักสำรวจถือแผนที่

“หุบปากแล้วทำงานของตัวเองซะ” เคียแรนตอบเสียงเข้ม แต่ในแววตากลับแฝงรอยยิ้มบาง ๆ เอร่าที่เห็นแบบนั้นยิ่งได้ใจ

“งั้นถ้าผมขุดเจอสมบัติจริง นายจะทำยังไง?” เอร่าพูดพลางใช้จอบเขียนรูปหัวใจบนพื้นดินอย่างภาคภูมิใจ “ดูนี่สิ ศิลปะของผม!”

“นายกำลังทำให้ดินเละ ไม่ใช่ศิลปะสักหน่อย” เคียแรนส่ายหัว พร้อมถอนหายใจยาว

“ผมต่างหากที่เป็นศิลปินตัวจริงในสวนแห่งนี้! ไม่ใช่ริน!” เอร่าหัวเราะก่อนจะปั้นดินเป็นก้อนกลม ๆ และโยนใส่เคียแรนเบา ๆ

เคียแรนปัดดินออกจากเสื้อด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย “ข้าไม่แน่ใจว่าเจ้าเป็นนักพฤษศาสตร์จริง หรือเป็นนักแสดงตลกที่หลงมาสวนกันแน่”

“นักแสดงตลกอะไร ผมน่ะนักพฤษศาสตร์อันดับหนึ่งของที่นี่!” เอร่าเชิดหน้า ก่อนจะชี้ไปที่ต้นไม้ใหญ่ด้านหลัง “ดูต้นไม้ต้นนั้นสิ! ผมปลูกเองกับมือ มันถึงได้สูงใหญ่และงดงามแบบนี้”

เคียแรนมองตามแล้วเลิกคิ้ว “นั่นมันต้นไม้ที่ดูเหมือนจะแห้งตายมากกว่าจะงดงาม นายแน่ใจหรือว่าปลูกเอง?”

“อะแฮ่ม! ผมกำลังจะปลูกมันใหม่ต่างหาก อย่ามากล่าวหาซี้ซั้ว!” เอร่าหันขวับมามองด้วยสีหน้าไม่พอใจ

“งั้นแสดงว่าต้นไม้ต้นนั้นคงตายเพราะมือนายแน่” เคียแรนยิ้มมุมปาก “เก่งจริง ๆ เลยนะเอร่า”

“โอ๊ย! ผมจะร้องไห้จริง ๆ แล้วนะ เคียแรน นายนี่ช่างใจร้ายเกินไป!” เอร่าแกล้งทำท่าจับอก

จินเจอร์ที่นั่งมองอยู่บนต้นไม้ร้องเมี้ยวเบา ๆ ก่อนจะกระโดดลงมาและกระโจนใส่เคียแรนเต็มแรง เคียแรนที่ไม่ทันตั้งตัวเซไปด้านหลัง พร้อมกับเสียงหัวเราะของเอร่า

“ดูสิ จินเจอร์ยังเข้าข้างผม!” เอร่าพูดพลางยกมือขึ้นเหมือนชูถ้วยรางวัล “ผมชนะแล้ว!”

รินที่กำลังจัดเรียงกระถางดอกไม้อยู่หันมองไปทางเสียงหัวเราะของทั้งคู่ เขาเห็นเคียแรนที่หัวเราะอย่างสดใส รอยยิ้มที่เคยเลือนหายไปตั้งแต่ครั้งที่พวกเขาอยู่ในกลุ่มซินดิเคทปรากฏขึ้นอีกครั้ง

“พี่เคียแรนดูมีความสุขจัง” รินพูดเบา ๆ พลางมองด้วยสายตาอบอุ่น

เคลที่อยู่ข้าง ๆ แอบชำเลืองมองริน ก่อนเอ่ยเสียงเรียบแต่แฝงความน้อยใจ “คุณมองแต่เคียแรน ไม่มองผมบ้างเหรอ?”

รินหัวเราะเบา ๆ และหันไปจับมือเคล “ผมมองคุณอยู่ตลอดเวลา ผมจะลืมได้ยังไง?”

“จริงเหรอ? ผมรู้สึกเหมือนคุณสนใจแต่คนอื่น” เคลทำเสียงงอน แต่ในแววตามีประกายขี้เล่น

รินยิ้ม พลางเขย่งขึ้นไปจูบจมูกของเคลเบา ๆ “งั้นคืนนี้ผมจะชดเชยให้ก็แล้วกัน เอาให้เลิกงอนเลย”

“คุณพูดเองนะ จำคำพูดนี้ไว้” เคลหลุดยิ้ม หัวเราะเบา ๆ พร้อมดึงรินเข้ามากอด

ทั้งสองหัวเราะด้วยกัน ก่อนที่เสียงของเอร่าจะดังขึ้นจากระยะไกล “พวกนายจะหยุดสวีตกันได้ไหม? ผมกำลังโดนเคียแรนไล่โยนดินใส่อยู่นี่!”

จินเจอร์ที่วิ่งตรงไปสมทบวงสงครามดิน ทำให้เคลและรินหลุดหัวเราะออกมาอีกครั้ง

สวนรัตติกาลที่เคยเงียบเหงาเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความอบอุ่นจากทุกคนในวันนี้

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 27 ความสงบค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น

    ในยามบ่ายของวันอันเงียบสงบ รินนั่งอยู่ข้างเคลใต้ต้นไม้ใหญ่ สายตาของเขาจับจ้องไปที่เคียแรนและเอร่าที่กำลังคุยกันไม่ไกล เสียงหัวเราะของทั้งคู่ดังแว่วมาท่ามกลางสายลมเอื่อย รินยิ้มบาง ๆ ก่อนจะหันไปพูดกับเคล“เคล คุณเห็นไหม?” รินพูดพลางพยักเพยิดไปทางทั้งสองคน “พี่ดูมีความสุขนะเวลาคุยกับเอร่า ผมไม่ได้เห็นเขาหัวเราะแบบนี้มาตั้งแต่...ตั้งแต่ก่อนที่ทุกอย่างจะพังทลาย”เคลเหลือบมองแล้วพยักหน้า “อืม ดูเหมือนเอร่าจะทำให้เขาผ่อนคลายได้จริง ๆ แต่คุณคิดว่ามันจะดีไหม? คุณรู้ว่าเอร่าน่ะ...” เขาหยุดชั่วครู่ “ค่อนข้างซนเกินไปหน่อย”รินหัวเราะเบา ๆ “ซน? นั่นเป็นคำพูดที่สุภาพเกินไป ผมคิดว่าเอร่าคือพายุในร่างมนุษย์ด้วยซ้ำ แต่บางทีนั่นอาจเป็นสิ่งที่พี่ต้องการ ใครสักคนที่ทำให้เขาหยุดคิดมากและเริ่มใช้ชีวิตจริง ๆ”เคลเอนตัวพิงต้นไม้แล้วถอนหายใจ “ผมคิดว่าคุณพูดถูก บางทีพวกเขาอาจจะช่วยเติมเต็มกันและกัน... หรือไม่ก็สร้างความวุ่นวายยิ่งกว่าเดิม”

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 26 การเริ่มต้นใหม่ของเคียแรน

    เช้าวันใหม่ในสวนรัตติกาลเต็มไปด้วยความสดใส สำหรับเคียแรน มันเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตใหม่ที่แตกต่างจากอดีตโดยสิ้นเชิง เมื่อชายที่เคยจับดาบต่อสู้ในสนามรบต้องมายืนจ้องเครื่องมือทำสวนอย่างงุนงง เขาถอนหายใจหนัก ก่อนจะหันไปมองเอร่าที่กำลังหมุนคราดในมือเหมือนโชว์มายากล“นี่คือเสียม...แล้วนี่ก็คือคราด นายต้องไม่ใช้มันเหมือนอาวุธ เข้าใจใช่ไหม?” เอร่ายิ้มพลางยื่นคราดให้“นายคิดว่าผมโง่หรือไง?” เคียแรนจ้องเขม็ง“ไม่เลย! ฉันแค่มั่นใจว่านายจะแยกความแตกต่างระหว่างดาบกับคราดได้จริง ๆ” เอร่าตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์กลับบ่งบอกว่าเขาแค่ต้องการแหย่“แล้วนายแน่ใจหรือว่าทำงานนี้เป็น?” เคียแรนถามกลับ พลางคว้าเสียมมาขุดดินอย่างเก้ ๆ กัง ๆ เอร่าเห็นท่าทางแบบนั้นก็หัวเราะลั่นเอร่าพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงขี้เล่น แต่แฝงไว้ด้วยความท้าทาย “ขอบอกเลยนะ เคียแรน ผมน่ะไม่ได้เป็นแค่ผู้เชี่ยวชาญสมุนไพร แต่ยังเป็นอัศวินด้วย! ด้านดา

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 25 สมาชิกใหม่ของสวน

    รินมองไปที่พี่ชายด้วยความกังวลใจ “แล้วตอนนี้พี่พักอยู่ที่ไหน?” รินถามขึ้นเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงแฝงไปด้วยความห่วงใย“ก็...เพื่อนในเมืองให้พักอยู่ที่ห้องเล็ก ๆ หลังร้านค้า แต่ไม่สะดวกเท่าไร” เคียแรนตอบ พร้อมกับถอนหายใจเบา ๆ “พี่พยายามหลีกเลี่ยงการไปในที่ที่คนพลุกพล่าน กลัวว่าจะมีใครจำพี่ได้ ซินดิเคทมีอำนาจอยู่มาก”“ทำไมไม่มาอยู่ที่นี่ล่ะ? ที่สวนปลอดภัยกว่า และไม่มีใครเข้ามาได้ง่าย ๆ โดยไม่ผ่านพวกเรา” รินขมวดคิ้ว ครุ่นคิดครู่หนึ่งก็เอ่ยชวนคำพูดของรินทำให้เคลชะงัก เขาหันมามองรินทันที แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไร เอร่าก็แทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงล้อเลียนที่เป็นเอกลักษณ์“ใช่เลย! นายคือเจ้าของสวนที่ถูกต้องนี่นา ริน นายจะให้ใครอยู่หรือไป มันก็ขึ้นอยู่กับนายหมดเลย” เอร่าพูดพลางยักคิ้วให้เคียแรน “แต่...ตอนนี้ห้องพักเต็มหมดแล้วนี่? จะให้นอนกับฉัน...ก็กลัวเคียแรนจะหนาว”“หนาว?” เคลหันไปมองเอร่า คิ้วกระตุก &l

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 24 การหลบหนี

    เสียงเอะอะจากทางเข้าสวนดังแว่วมา รินที่กำลังจัดเรียงดอกไม้อยู่สะดุ้งเล็กน้อย เขาหันมองด้วยความสงสัย ใจเต้นแรงด้วยความกังวล“เกิดอะไรขึ้น?” เขาพึมพำเบา ๆ ก่อนจะรีบวิ่งตรงไปยังที่มาของเสียงภาพที่ปรากฏตรงหน้าทำให้รินขมวดคิ้ว เคลยืนอยู่ในท่าทางตึงเครียด จับจ้องไปที่ชายแปลกหน้าซึ่งถูกเอร่าจับแขนไว้แน่น ส่วนจินเจอร์ที่พุงกลม ๆ ของมันห้อยจนเกือบถึงพื้น กำลังยืนโยกตัวอยู่บนพื้นราวกับกำลังฉลองชัยชนะ“เกิดอะไรขึ้น?” รินถามเสียงดัง ขณะที่กวาดตามองไปที่ทุกคน“โอ้ ไม่ต้องห่วง มันไม่มีอะไรใหญ่โตหรอก แค่เจอคนแปลกหน้าที่ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ แถวนี้ ฉันเลยช่วยจัดการสักหน่อย” เอร่าหันมาพร้อมรอยยิ้มกว้างเจ้าเล่ห์“ช่วยจัดการ?” รินถามด้วยน้ำเสียงไม่เชื่อถือ เขามองชายแปลกหน้าที่ถูกจับอยู่ “แล้วจินเจอร์…ทำอะไร?”“อ้อ เจ้าจินเจอร์นี่สิ กระโดดแตะหน้าเขาเหมือนฮีโรเลยละ!” เอร่าพูดพลางหัวเราะเสียงด

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 23 การมาถึงของคนเก่าแก่

    รุ่งอรุณของสวนรัตติกาลถูกแต่งแต้มด้วยความหอมหวานที่อบอวลในอากาศ รินและเคลนั่งอยู่ใกล้กันใต้ต้นไม้ใหญ่ ดวงตาของทั้งคู่สะท้อนแสงแดดยามเช้าที่ลอดผ่านใบไม้ลงมา ใบหน้าของรินระเรื่อเล็กน้อยเมื่อนึกถึงค่ำคืนที่ผ่านมา แต่เขาก็อดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นเคลยื่นมือมาสัมผัสแก้มของเขาอย่างแผ่วเบา“เมื่อคืน...คุณทำให้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนสำคัญที่สุดในโลก” รินพูดเบา ๆ สายตาสองคู่ประสานกัน ความอบอุ่นในคำพูดทำให้หัวใจของเคลเต้นรัว“ใช่เพราะคุณเป็นจริงๆ ริน ไม่ว่าจะเมื่อไรก็ตาม ผมจะไม่มีวันเปลี่ยนใจ” เคลยิ้มอ่อนโยน พลางลูบแก้มรินด้วยปลายนิ้ว“คุณรู้ไหมว่าคุณพูดแบบนี้แล้วผมจะไม่อยากลุกไปไหนเลย คุณทำให้ผมรู้สึกว่าผมไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว” รินหัวเราะเบา ๆ พร้อมกับพิงไหล่ของเคล“งั้นเราจะนั่งตรงนี้ทั้งวันก็ได้” เคลแซวกลับพร้อมหัวเราะ รอยยิ้มของเขาเต็มไปด้วยความรักและความภาคภูมิใจ“นี่คุณทำให้ผมกลายเป็นคนติดหวานไปแล้ว คุณคิดว่ามันจะดีเห

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 22 ค่ำคืนที่เร่าร้อน ณ สวนรัตติกาล

    หลังจากคำสารภาพที่จริงใจและอบอุ่น ริมฝีปากของเคลและรินค่อย ๆ เข้าหากัน ราวกับวินาทีนั้นโลกทั้งใบได้หยุดหมุน ในความคิดของเคล ความอบอุ่นของรินคือสิ่งที่เขาเฝ้าฝันถึง เสี้ยววินาทีที่ริมฝีปากแตะกัน เขารู้สึกเหมือนพลังงานบางอย่างที่ไม่อาจบรรยายได้กำลังหลั่งไหลผ่านเข้ามา เคลสัมผัสถึงความอ่อนนุ่มของริมฝีปากริน ความละมุนละไมที่เปี่ยมไปด้วยความซื่อสัตย์และความรัก“ริน…ผมรู้แล้วว่าความหมายของชีวิตคือการได้อยู่เคียงข้างคุณ” เขาคิดขณะที่ปล่อยให้ริมฝีปากกำลังประทับกันในความคิดของริน เขารับรู้ถึงน้ำหนักของจูบนี้ น้ำหนักของคำสัญญาและความรู้สึกทั้งหมดที่เคลมอบให้ รินรู้สึกว่าร่างกายกำลังสั่นไหวน้อย ๆ ไม่ใช่เพราะความกลัว แต่เพราะความอบอุ่นที่เคลมอบให้ ริมฝีปากของเคลเปรียบเสมือนเปลวไฟอ่อน ๆ ที่หลอมละลายความหนาวเหน็บในหัวใจเขา“เคล…คุณไม่ใช่เพียงอัศวิน แต่คุณคือคนที่ทำให้ผมรู้ว่าความรักที่แท้จริงเป็นอย่างไร” รินคิดในขณะที่ปล่อยตัวให้ตกอยู่ในอ้อมกอดของอีกฝ่ายการจูบขอ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status