หลังจากถูกจับลอกคราบออกเสียจนสิ้น เรือนร่างที่แสนงดงามสมส่วนของเพลินตาก็นอนบิดเร่าอยู่บนเตียงใหญ่ ใบหน้างดงามเหยแกเพราะผลจากฤทธิ์ของยาจนไม่สามารถต้านทานต่อความต้องการที่เกิดขึ้นภายในกายได้ จึงได้เอื้อมมือเล็กของตัวเองบี้คลึงลงไปที่ใจกลางเกสรของดอกไม้งาม ก่อนจะแยกเรียวขาออกอย่างไม่นึกอาย
"อ๊า พี่เต็มขาได้โปรดช่วยเพลินด้วย อื้อ เพลินทรมานเหลือเกิน"
ปฏิธานจ้องมองภาพนั้นก่อนจะกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ ภาพของเพลินตาที่นอนแหวกอ้าขาออก แล้วใช้มือตัวเองบีบขยี้บี้คลึงปุ่มเกสรกลางกาย ทำเอาต่อมความยับยั้งช่างใจของเขายิ่งตะเลิด ทั้งๆที่ใจจริงไม่เคยได้คิดว่าวันหนึ่งตัวเองจะกล้าถึงขั้นเลยเถิดลามปามเด็กผู้หญิงตัวน้อย
หากแต่เป็นตอนนี้ ปฏิธานตัดสินใจแล้วว่าเขาจะต้องช่วยเธอ หากว่าไม่ มีหวังเพลินตาคงต้องช็อกตายเพราะความต้องการที่ไม่ได้รับการตอบสนองเป็นแน่
ราวกับสุนัขจิ้งจอกเตรียมพร้อมที่จะกลืนกินลูกแกะตัวน้อย ปฏิธานจ้องมองเรือนร่างงดงามที่นอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงเขาด้วยความหื่นกระหาย สายตากวาดไล่มองสำรวจตั้งแต่ใบหน้าสวยลากเลื้อยลงมาจนไปหยุดที่กึ่งกลางกาย เพลินตางดงามไปเสียทุกส่วน จนเขาไม่สามารถที่จะทนยืนมองเธอนอนบิดกายเรียกร้องให้เขาสัมผัสเธอได้อีก
"พี่เต็ม อื้อ พี่เต็มช่วยเพลินทีเร็วๆเข้า"
หลังจากวินาทีนั้นเสื้อผ้าของปฏิธานก็ถูกกำจัดออกจากกายแกร่งอย่างรวดเร็ว ตามด้วยเรือนร่างสูงใหญ่ค่อยกดทาบทับลงไปบนกายงาม อย่างกับว่ารอคอยจังหวะ ทันทีที่จับตัวเขาได้ เพลินตาก็ผงกหน้าขึ้นมาแล้วประกบจูบเข้าที่ริมฝีปากคนตัวใหญ่ในทันที ลิ้นเล็กสอดแทรกเข้าไปหาอย่างไม่นึกกลัว ตวัดเกี่ยวดูดควานจนปฏิธานสู้กลับอย่าพออกพอดี
ในเมื่อเห็นแล้วว่าถูกท้าทายจากคนด้านล่าง ปฏิธานก็ตอบสนองด้วยการก้มลงจูบเธออย่างบ้าคลั่ง ลิ้นชื้นสอดแทรกเข้าไปดูดต้อนเรียวลิ้นเล็ก กระทั่งฝ่ามือใหญ่เอื้อมขึ้นมาบีบกุมเต้ากลม ก่อนจะใช้หัวแม่มือขยี้เขี่ยตุ่มไต แล้วจากนั้นจึงได้ก้มหน้าลงมาดูดงับจนเพลินตาหลุดครางมาตั้งหลายหน
"อ๊า พี่เต็มขา เพลินเสียวดีมากๆเลย"
เซ็กส์ของเขาในทุกๆ ครั้งมันไม่เคยธรรมดาอยู่แล้ว มีใครบ้างที่เคยขึ้นเตียงกับ เต็ม ปฏิธาน แล้วไม่ติดใจเรียกร้องอยากจะกลับเวียนแวะเข้ามาซ้ำให้เขาเชยชิมใหม่บ้าง ไม่เคยมี ฉายาคาสโนว่าเตียงไฟลุก นั้นไม่ได้มาเล่นๆ กลัวก็แต่ว่าเด็กน้อยคนนี้พอได้ลองเข้าไป ก็คงมีหวังจะวิ่งตามเกาะเขาไม่ปล่อยเข้าให้อีกคน
แม้ว่าลึกๆแล้วปฏิธานรู้ว่าเขากำลังเอาเปรียบเธอ เพราะถ้าเทียบกันเขานั้นคือคนที่มีสติครบถ้วน แต่ว่าเพลินตานั้นไม่มี หรือถึงแม้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้มันอาจจะเป็นเพราะว่าฤทธิ์ยา แล้วถ้าตอนตื่นมาเพลินตาจะจำอะไรไม่ได้ก็ตาม แต่ขอแค่เพียงตอนนี้เขาได้ปลดปล่อยความทรมานให้เธอให้ได้ก่อน เพราะดูจากอาการแล้วว่าเพลินตานั้นกำลังจะทนไม่ไหว จนเธอต้องถึงกับขนาดแอ่นดันสัดส่วนกลางกายขึ้นหาเขาอย่างไม่ยอมแพ้และร้องไห้อ้อน
"อื้มเพลิน ต้องเอ็กซ์ขนาดนี้เลยหรือไง"
"เพลินทรมาน ทำไมพี่เต็มถึงยังไม่ยอมทำมันสักที"
"เพลินอยากให้พี่ทำอะไร ไหนบอกมาซิ"
"โธ่พี่เต็ม แก้ผ้ากอดกันขนาดนี้ เพลินคงอยากชวนพี่นั่งกินข้าวหรอกมั้งคะ รีบใส่เข้ามาเร็วๆ เถอะค่ะ เพลินรออีกต่อไปไม่ไหวแล้ว"
ปฏิธานเกือบจะหลุดขำทั้งๆ ที่แอบขำไปแล้วในใจ เข้าใจหรอกว่าเพลินตากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ แต่เธอก็ยังมิวายหลุดความเป็นคุณหนูเพลินตาคนเดิมออกมาอยู่ดี
"จะไม่ยอมให้พี่ได้ใส่ถุงยางก่อนเลยหรือไง ยายเด็กใจร้อน"
"งั้นก็รีบใส่เลยสิคะ ไม่งั้นเพลินจะจับของพี่เต็มใส่เข้าไปเดี๋ยวนี้เลยนะ เพราะว่า อื้อ เพลินทนไม่ไหวแล้วจริงๆ"
ปฏิธานผละออกลุกขึ้นนั่งแล้วเอื้อมมือเปิดลิ้นชักข้างเตียงด้วยความเร็ว จากนั้นซองฟลอยด์สีเงินก็ถูกฉีกมันด้วยปากแล้วรีบจับรูดใส่มันลงไปบนตัวตนที่แข็งขืนเต็มขืนเต็มที่ด้วยความรวดเร็ว นิ้วมือยาวปาดรูดลงไปกลางกลีบดอกไม้แล้วควานเขี่ย เพลินตาที่นอนบิดครางจากการสัมผัสนั้นรีบแอ่นกายกระดกสะโพกเข้าหา พลางใช้มือข้างที่ว่างบีบขย้ำหน้าอกตัวเองให้ปฏิธานดู
"Shit!"
อุปกรณ์ป้องกันถูกสวมใส่ลงไปจนมิดตัวตน ก่อนที่ปฏิธานจะขยับแทรกเข้ามาอยู่กลางหว่างขาคู่งาม เขาจับขาเธอทั้งสองข้างแยกออกแล้วใช้นิ้วยาวของตัวเองปาดรูดขึ้นลงอีกครั้ง ซึ่งมันยิ่งเรียกเสียงครางระงมจากทั้งเพลินตา หรือแม้ว่ากระทั่งจากตัวเขาเอง
"อ๊า พี่เต็ม เพลินเสียว"
"อื้ม แฉะลื่นสุดๆ เลยเพลิน"
พอดึงนิ้วออกปฏิธานก็จับแก่นกายที่ขยายจนเหยียดยาวจ่อมุดเข้าไปยังปากทางเข้าที่ฉ่ำแฉะ เขาสอดดันมันเข้าไปช้าๆ แต่ก็เหมือนว่ามันจะไม่น่าที่จะเข้าไปได้ง่ายๆ
"อื้อพี่เต็ม ช่วยด้วยเพลินไม่ไหวแล้ว ฮือๆ"
ไม่ใช่เเต่เพียงเพลินตาที่ไม่ไหวแล้ว ตัวเขาเองก็ไม่ไหวแล้วเช่นกัน หลังจากจ่อส่วนหัวหยักปลายถูไถไปกับกลีบดอกและปุ่มเกสรที่เปียกเยิ้มจนเพลินตาร้องครวญคราง คราวนี้ปฏิธานก็ขยับตอกสะโพกและดันแก่นกายเข้าไปให้มันมากขึ้น แน่นก็แน่น เสียวก็เสียวจนเขาเองต้องซู้ดปาก หากแต่เพลินตากลับร้องออกมาด้วยเสียงอันดังราวกับว่าเธอกำลังเจ็บปวดนักหนา
"อื้อ เจ็บค่ะพี่เต็ม เพลินเจ็บ ทำไมมันถึงได้เจ็บแบบนี้ ฮือๆ"
"นี่เพลินยังไม่เคยใช่ไหม" เพลินตาพยักหน้าอยู่หลายที พอถึงบทที่จะว่าง่ายเธอก็เลือกที่จะบอกปฏิธานไปในที่สุดลลล
"ไม่น่าเชื่อว่าเปรี้ยวเข็ดฟันอย่างคุณหนูเพลินตาจะยังไม่เคยจริงๆ สินะ"
"แล้วไงคะ เพลินเปรี้ยวเข็ดฟัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเพลินจะต้องแรดร่านนะ"
"พี่ก็ไม่ได้ว่าเพลินร่าน แต่ต่อไปนี้ถ้าเกิดว่าเพลินอยากจะร่าน ก็ขอให้มาร่านแค่กับพี่ก็พอ"
"งั้นแล้วตอนนี้เพลินยังร่านใส่พี่เต็มไม่พออีกเหรอคะ"
ริมฝีปากร้ายของปฏิธานยกยิ้ม แววตาฉายความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ ก่อนจะยิ้มออกมาและก้มกลับลงไปประกบจูบปากของคนตัวเล็กอีกครั้ง สะโพกแน่นขยับถี่ขึ้นและใช้สองมือตัวเองแหวกเรียวขางามให้มันกว้างขึ้น เพลินตาคงน่าจะเจ็บมาก อาจเพราะว่าเธอไม่เคย หรือไม่ก็เป็นเพราะว่าตัวตนของเขาที่มันดูใหญ่เกินไป เสียงครางอู้อี้ยังคงเล็ดออกมาเป็นระยะ สองข้างแก้มปฏิธานสังเกตเห็นว่ามันมีหยุดน้ำตาอาบไว้ หากแต่กระนั้นเนินเนื้อของภาคส่วนด้านล่างกลับยังคงแอ่นเข้าหาเขาไม่มีหยุด
ราวน่าจะเกือบหนึ่งชั่วโมงผ่านไปที่ปฏิธานช่วยเพลินตากำจัดฤทธิ์ยาที่ออกฤทธิ์ต่อเนื่องมายังไม่หยุด จนกระทั่งต่างฝ่ายต่างเสร็จสม กลับเป็นเธอเองที่ตามขึ้นมานั่งคร่อมขึ้นขี่อยู่บนลำตัวของเขาในขณะที่นอนแผ่หราด้วยน้ำเสียงอ้อนสุดแสนจะน่ารัก
"ขออีกนะคะพี่เต็ม เพลินยังไม่หายรู้สึกแบบนั้นเลย"
"ได้สิ แต่ว่าเพลินขึ้นมานั่งคร่อมพี่เอาไว้แบบนี้ กะว่าจะขึ้นโยกเองเลยหรือไง"
เพลินตาพยักหน้าเร็วจี๋ เเม้ว่าประสบการณ์ตรงจะไม่มี แต่ทางทฤษฎีก็ถือว่าแน่นอยู่ อุปกรณ์ป้องกันถูกรีบหยิบออกมากัดฉีดให้ เพลินตาจัดการถอดอันเก่าทิ้งไป แล้วสวมอ้นใหม่แทนที่ จัดการปลุกปั่นเพิ่มด้วยการนั่งบดลงไปบนท่อนเนื้อแล้วถูกุหลาบงามกลางกลางกายขึ้นลง ชโลมด้วยหยาดน้ำหวานที่ยังคงทะลักออกมาท่วมท้น แล้วเพลินตาก็จับมันตั้งขึ้นแล้วยัดส่วนปลายเข้าไปอีกครั้ง
"อ่า เพลิน"
"อื้อ เสียวจังเลยค่ะพี่เต็ม"
"พี่ก็เสียว ดีมากเลยเพลิน ใช่บดขี่พี่อย่างงั้น เอาเลยเด็กดี ซี้ด"
"อ๊า พี่เต็ม เพลินทรมาน"
ฝ่ามือใหญ่ตุ้มรองเอาไว้สะโพกงามแล้วค่อยช่วยเธอยกมันขึ้นลง เพลินตาก้มโน้มริมฝีปากลงมาหา ขณะที่ฝ่ามือใหญ่ของปฏิธานยังคงบีบขย้ำสองเต้าอวบอย่างหลงใหล ใช้นิ้วโป้งบิดขยี้เขี่ยเม็ด ทำเอาเพลินตายิ่งนั่งกระแทกขึ้นลง จนกระทั่งต่างฝ่ายต่างก็อดทนอดกลั้นกันเอาไว้อีกต่อไปไม่ไหว
หนึ่งเดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก พิธีหมั้นหมายพร้อมพิธีแต่งงานที่แสนยิ่งใหญ่ของระหว่างสองตระกูลก็ถูกจัดเนรมิตขึ้นมาได้โดยทันตา สื่อทุกช่องต่างพากันประโคมข่าวเมื่อทายาทลูกสาวคนเล็กของเจ้าของสถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ได้เข้าพิธีวิวาห์กับประธานหนุ่มสุดหล่อแห่ง SNG คนที่ใครๆต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากจะเห็นหน้าว่าที่เจ้าสาวของเขาที่สุดนั้นได้ถูกจัดขึ้นมาอย่างใหญ่โตสมเกียรติ ส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นเพราะว่าอำนาจเงินตราที่สามารถเนรมิตทุกสิ่งอย่างได้โดยทันใจ ในวันนี้ที่บนเวทีก็เลยมีทั้งหนุ่มหล่อและสาวสวยนั่งลงเคียงข้างกันเพื่อรอรับน้ำสังข์จากแขกเหรื่อที่มาร่วมงานแสดงความยินดีกันอย่างล้นหลาม เพลินตาไม่คิดเลยว่าเธอเองจะมีวันนี้กับผู้ชายคนนี้ พอลองได้นึกย้อนไปถึงเรื่องราวต่างๆที่ทำให้เธอกับเขาได้ลงเอยกันก็ได้แต่แอบนึกยิ้มขึ้นมาคนเดียวในใจ ภาพเหตุการณ์ที่เธอชอบแอบคอยตามสอดส่องว่าแต่ละคืนแต่ละวันนั้นปฏิธานไปอยู่ที่ไหน วันนี้เขาจะไปควงกับใครแล้วเธอก็จะไปตามขัดขวางนั้นย้อนคืนกลับมา ราวกับว่าสิ่งที่เธอทำลงไปทั้งหมดนั้นคือการทำไปเพื่อตัวเอง ที่คอยตามหึงตามหวง หรือจริงๆแล้วมันคือข้ออ้างในการอยากออกไปเจอเ
เพลินตาหันกลับไปมองที่หน้าประตูอย่างใจจดใจจ่อ พอทันทีที่บานประตูถูกผลักเข้ามา ก็เห็นว่าสีหน้าบิดานั้นมีอาการเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด เธอไม่รู้หรอกว่าบิดาและปฏิธานออกไปพูดคุยอะไรกัน ตอนกลับเข้ามาบิดาถึงได้มีสีหน้าดูเครียดขนาดนี้"ทำไมคุณพ่อทำหน้าดูเครียดจังคะ"เพลินตาถามเพียงสั้นๆ ทั้งที่ภายในใจอยากจะจับบิดามานั่งฟอกขาวเอาให้ละเอียดว่าออกไปคุยอะไรกับปฏิธานมา ใช่เรื่องของเธอหรือเปล่า แต่ดูสีหน้าของปฏิธานกลับไม่ได้มีความกังวลเลยแม้แต่น้อย หากแต่ป็นบิดาของเธอเองเสียมากกว่าที่ดูเครียดๆ"แกแต่งงานแล้วเหรอยายพราว"ทำเอาทุกคนได้แต่อึ้งๆๆ นี่บิดาเธอพูดเรื่องอะไร แล้วทำไมถึงได้ถามพราวมุกไปแบบนั้น พราวมุกจะไปแต่งงานได้อย่างไรกัน ก็ในเมื่องานพิธีหมั้นกว่าจะจัดก็ต้องเป็นเดือนหน้า"ทำไมคุณพ่อถึงถามพี่พราวแบบนั้นล่ะคะ งานหมั้นกว่าจะจัดก็ต้องเดือนหน้าแน่ะ แล้วพี่พราวจะไปแต่งงานแล้วได้ยังไงกัน" เพลินตาออกแรงเถียงแทนพี่สาวเบาๆเพราะภายในใจมันเจ็บเกินกว่าที่จะมีแรงพูดเสียงดังๆ"ค่ะคุณพ่อ พราวแต่งงานแล้วที่อเมริกา ส่วนสามีพราวชื่อเฮนรี่ เขาจะรีบตามพราวมาหาคุณพ่อกับคุณแม่ที่นี่หลังจากที่เสร็จงานแล้ว""ยะ
เป็นอันว่าตอนนี้ทุกคนต่างก็พากันมาอยู่ที่โรงพยาบาลกันหมด มีเพียงคุณปู่ประวิทย์ที่อายุท่านมากแล้ว ลูกๆหลานๆจึงขอให้ท่านกลับบ้านไปก่อน ไม่ต้องรอเยี่ยมอาการคุณเพียงรดาเพลินตามาถึงพร้อมกับปฏิธาน ตอนนี้เธอไม่ได้กังวลว่าทุกคนจะสงสัยอะไรในความสัมพันธ์ แต่ตอนที่เธอไปถึงมารดาก็อาการดีขึ้นแล้ว คุณหมอให้ยาปฏิชีวนะให้น้ำเกลือและให้รอดูอาการหนึ่งคืนถึงจะให้กลับบ้านได้"คุณแม่เป็นยังไงบ้างคะพี่พราว""ดีขึ้นแล้ว แต่ว่าพึ่งจะหลับไปเมื่อกี้นี่เอง คุณพ่อคุณแม่ของพี่เต็มกับพี่ปรานต์ก็พึ่งพากันกลับไปนะคะ ถ้าเพลินกับพี่เต็มจะพากันกลับไปทำงานต่อก็ได้ เดี๋ยวทางนี้พี่อยู่ดูแลคุณแม่เอง"เพลินตามองหน้าปฏิธานหากแต่ว่าเขาก็ยังไม่ได้ว่าอะไร เขาบอกว่าเธอจะอยู่ดูแลมารดาต่อก็ได้แล้วเดี๋ยวเอาไว้เขาจะแวะมารับตอนที่เสร็จงานแล้ว ระหว่างที่คิดว่าเธอจะเอายังไงต่อ อยู่ๆบิดาก็เอ่ยความต้องการบางอย่างขึ้นมา"ถ้าคุณเต็มยังไม่ได้รีบมาก ผมอยากมีเรื่องจะขอคุยกับคุณหน่อยได้ไหมครับ"แล้วทั้งสองคนก็พากันเดินออกไปคุยกันข้างนอก เพลินตาเห็นสีหน้าบิดาแล้วทำไมมันถึงได้นึกหวั่นๆขึ้นมาในใจอย่างไรไม่รู้ บิดามีเรื่องอะไรที่จะต้องคุยกับปฏิธา
เมื่อคืนทั้งคืนเพลินตาไม่ได้ถูกรับอนุญาตให้กลับมานอนที่ห้องพักของตัวเองเลย เธอถูกปฏิธานบังคับให้นอนอยู่ที่นั่นกับเขาจนถึงเช้า โดยที่เขาเฝ้ากอดก่ายเธอเอาไว้อยู่ทั้งคืน ปริ่มสุข ลุ่มหลง และมัวเมาอยู่ภายในความรู้สึกปลอมๆที่แอบสร้างขึ้น จนมันเริ่มที่จะถลำลึก"ตื่นแล้วเหรอครับเบบี๋""ค่ะ"ปฏิธานดึงเธอเข้าไปกอดกระชับเอาไว้จนแน่น เขาบอกว่าชอบความรู้สึกแบบนี้ที่ได้ตื่นขึ้นมาเจอเธอในตอนเช้า ไม่ใช่แค่เพียงเขา..แต่มันรวมไปถึงเธอด้วย เพลินตารีบกอดตอบกลับปฏิธานไปในทันที ในเมื่อพูดดีก็แล้ว ขอร้องก็แล้ว หากแต่ปฏิธานก็ยังคงทำเป็นนิ่งเฉย หรือนี่มันจะคือสัญชาตญาณของคนที่เป็นนักล่า พอเธอยิ่งอยากหนีห่าง เขาก็ยิ่งอยากวิ่งตามแล้วถ้าหากว่าในตอนนี้เธอไม่ได้อยากที่จะวิ่งหนีแล้วล่ะ ปฏิธานจะทำยังไง ในเมื่อเขาอยากไม่ยอมปล่อยเธอไปดีนัก ถ้าอย่างงั้นเธอก็จะขอไม่ยอมปล่อยเขาไปดูบ้าง ลองดูสิคว่าถ้าเธอกลับไปเป็นคุณหนูเพลินตาตัวแสบ คนที่เอาแต่คอยตามตื้อตามรังควานเขา ปฏิธานจะยังคงอยากที่จะมีเธออยู่ข้างเขาอีกหรือเปล่า"พี่ชอบจังเวลาที่เพลินนอนอยู่ให้กอดจนถึงเช้าแบบนี้""เหรอคะ เพลินก็ชอบค่ะเวลาที่มีพี่เต็มอยู่ใกล้ๆ อยากต
สองชั่วโมงผ่านไป ปฏิธานขออนุญาตคุณปู่และทุกคนพาตัวเพลินตาที่อยู่ในฐานะพนักงานบริษัทคนหนึ่งออกมาจากสถานที่ตรงนั้น โดยให้เหตุผลว่าเขาต้องกลับไปร่วมโต๊ะพูดคุยอะไรอีกหน่อยกับเหล่าบรรดาทีมงาน ไม่อยากให้พนักงานคิดว่าถูกทิ้งๆขว้างๆ แล้วเสร็จแล้วพรุ่งนี้ถึงจะได้มีเวลาได้อยู่พักผ่อนกับทุกคนในครอบครัว ทั้งคุณปู่ประวิทย์ บิดามารดาฝั่งของเขา รวมถึงทั้งฝั่งของตัวเธอเองด้วยต่างก็บอกว่าเข้าใจ ตอนนี้เพลินตาก็เลยได้แต่จำใจเดินตามเขาออกมาจากห้องรับประธานอาหารของที่นั่นระหว่างทางแม้ว่าจะเป็นคืนเดือนหงาย แต่ทางที่เดินเชื่อมเข้าหากันสองหาดก็ค่อนข้างมืด พอเดินออกมาได้เพียงแค่นิดเดียว ปฏิธานก็ตามเข้ามาฉุดข้อมือเธอเข้าไปจับเอาไว้ แน่นอนว่าเพลินตารีบสะบัดมันออกทันที"เลิกทำแบบนี้สักทีได้ไหมคะพี่เต็ม"เพลินตาหน้าเครียดในขณะที่เงยหน้าขึ้นมองคนตัวสูง ทั้งน้ำเสียง แววตา และท่าทางนั้นออกไปในทางเดียวกันหมด เพื่ออยากให้เขารู้ว่าเธอกำลังโกรธแล้วจริงๆ"ทางมันมืด พี่ก็แค่กลัวว่าเพลินจะเดินสะดุดอะไรล้ม"จะว่าปลาบปลื้มมันก็รู้สึกได้ไม่เต็มที่ อารมณ์ที่มีตอนนี้มันช่างผสมผเสปนเปกันไปหมดจนก่อเกิดเป็นความโมโห ปฏิธานจะรู้บ้า
หลังจากที่ทั้งบิดามารดาและพี่สาวต่างก็ขอตัวกลับไปยังที่พักของตัวเองเพื่อให้ทั้งปฏิธานและเพลินตาได้ทำงานต่อ แล้วเอาไว้ค่อยมานัดเจอกันอีกทีในตอนเย็นๆพร้อมครอบครัวปฏิธาน ภายในหัวของเพลินตาก็ไม่สามารถหาคำว่าสมาธิในการทำงานเจอได้อีก เธอจดผิดๆถูกๆ บางทีบางเรื่องก็มักจะแวบเข้ามาภายในหัวทั้งที่พยายามเรียกสติตัวเองแล้ว จนมันคงจะเป็นที่น่าสังเกตของคนข้างๆเข้า"เป็นอะไรหรือเปล่า พี่เห็นเพลินดูใจลอยไม่มีสมาธิในการทำงานมาตั้งนานแล้ว""เออะคือว่า เพลินขอโทษค่ะ""เหลือถ่ายอีกแค่เซ็ตเดียวก็เสร็จแล้ว อดทนเอาหน่อยแล้วกัน"เพลินตาพยักหน้ารับคำ ก่อนที่จะพยายามเรียกสติกลับมาให้มากขึ้นกว่าเดิม จนกระทั่งทุกอย่างเสร็จสิ้น ปฏิธานบอกให้พนักงานมาทานมื้อเย็นด้วยกันอีกครั้งในตอนหนึ่งทุ่ม หากแต่ว่าตอนห้าโมง เขาคงจะต้องพาตัวเองไปหาคุณปู่และครอบครัวที่ต่างก็พากันยกโขยงตามมาก่อน แล้วกะว่าจะค่อยตามมาหาพนักงานจากนั้นเพลินตาก็เดินกลับมาถึงห้องพักตัวเองด้วยอาการเหม่อลอย นี่เธอกำลังเป็นอะไรไป จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวยังไม่พอ ร่างกายก็ยังทำราวกับว่าเรี่ยวแรงที่จะพาตัวเองให้เดินกลับมาจนถึงห้องพักก็ยังจะไม่มีอีก จากตอนแรก