พระเอก
หมอแทน(หรือแทนคุณ)
ธนาธิป กิจโภชัย( โรจน์จนาชน)อายุ40ปี
คุณหมอหัวหน้าแผนกสูตินารีเวช หมอหนุ่มผู้
ครองตัวเป็นโสด สุขุมนุ่มลึกและนุ่มนวล เป็นที่หมายตาและหมายปองของพยาบาลสาวๆและคุณหมอสาวๆแต่เขาก็แค่มองพวกเธอเป็นคู่นอนแค่นั้นเอง
เขาเป็นบุตรชายบุตรธรรมของท่านดำรง(นักการเมืองชื่อดัง)
“ขอโทษนะครับ ยินดีที่จะตรวจภายในไหมครับ?”
นางเอก
เจ้าหญิง
อัยย์ญาดา ราชนาโยวงศ์ติชัย อายุ18ปี
นักเรียนชั้นมัธยมปลาย นานาชาติชื่อดัง
บุตรสาวคนเล็กของท่านเจ้าสัวและคุณหญิงเวียงพิงค์
นิสัยเรียบร้อยอ่อนหวาน น่ารัก พูดเพราะ
เป็นที่หมายปองของหนุ่มๆรุ่นพี่รุ่นน้องที่โรงเรียน
“เจ้าหญิงไม่ได้เป็นอะไรนะคะคุณหมอ เจ้าหญิงแค่มารอพี่ชาย”
แทนคุณ ธนาธิป....
“อื้ออออ เสียวไม่ไหวแล้วค่ะคุณหมอ!!”เสียงหวานร้องขึ้นด้วยความเสียวซ่านเมื่อผมใช่ปลายนิ้วเขี่ยไปโดนติ่งเสียวของเธอ
“แฉะ”คำเดียวสั้นๆของผมที่ผมพูดขึ้นคือคำนี้ นั้นทำให้เธอพงกหัวขึ้นมามองหน้าผม
“ก็นิ้วคุณหมอสุดยอดมากเลยหนิคะ^_^”เสียงหวานเอ่ยขึ้น ผมจึงเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเธอพลางถอนหายใจเหือกหนึ่ง
“ผมจะเริ่มใส่เครื่องตรวจแล้วนะครับ”ผมพูดขึ้นและก้มหน้าลงกลับมาดูความเป็นสาวที่โหนกนูนไร้ขนนุ่มปกคลุมเพราะว่าเธอเพิ่งจะไปโกนออกมาก่อนหน้าที่จะมาหาผมนี้แน่นอน ผมค่อยๆใช้ปลายนิ้วแหวกกลีบกุหลาบของเธออย่างแผ่วเบา
“ดูจากอายุของคุณไม่น่าจะมีอะไรนะครับ”ผมพูดขึ้นเพื่อเบี่ยงเบนความเจ็บของเธอที่ตอนนี้ผมได้ถือเครื่องม่และกำลังจะสอดใส่เข้าไปในช่องทางรักของเธอแล้ว ผมเป็นหมอที่สามารถตรวจภายในและให้คำปรึกษาสำหรับคนไข้ด้วยเรื่องพวกนี้ได้ครับ แต่ผมไม่ใช่คนที่จะมาสนองความต้องการให้พวกเธอ ดูเหมือนพวกเธอจะไม่เข้าใจว่าผมเป็นหมอ!และตอนนี้อยู่ในเวลางานของผม
“แต่คุณแม่ของหนูให้มาตรวจดูเพื่อความปลอดภัยนะคะ”เสียงหวานเอ่ยขึ้น ผมจึงพยักหน้าเข้าใจ
“อ๊ะ อื้อ”เสียงครวญครางของเธอไม่ได้ทำให้สมาธิของผมแตกหรือตบะแตกอะไรเลย เพราะผมมักจะเจอเหตุการณ์ทำนองนี้บ่อยมากสำหรับเด็กนักเรียนนักศึกษาที่ต่างพากันมาเข้าคิวตรวจภายในโดยกำชับให้เป็นหมอแทนโดยเฉพาะเลยนะครับ
“เจ็บนิดนึงนะครับ”ผมพูดขึ้นโดยธรรมชาติของคนเป็นหมอและเริ่มใสแหนบกลีบขยายช่องทางรักโดยเครื่องมือแพทย์สอดเข้าไปและเริ่มใช้กล่องฉ่องดูสิ่งผิดปกติในที่ช่องทางรักและปากมดลูกของเธอแต่ดูเหมือนจะไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆผมจึงใช้เวลาในการตรวจเพียงแค่สามนาที
“เสร็จแล้วเหรอคะ?”
“ครับ เชิญไปนั่งรอหน้าห้องและรอฟังผลครับ”ผมพูดขึ้นพลางเก็บเครื่องมือใส่ที่วางเครื่องมือและถอดถุงมืออนามัยสีขาวออกจากมือของผม
พรึบ
“คุณหมอแทนขา”เสียงหวานเอ่ยขึ้นเมื่อเธอได้คว้าข้อมือของผมไว้แล้วผมจึงหันไปมองเธอด้วยสายตาเฉยชาไม่ได้แสดงอาการใดๆ
“มีอะไรครับ?”ผมเอ่ยถามเธอไปตามมารยาท เธอก็มองผมด้วยสายตาเชื้อเชิญ เธอเองก็คงจะเข้ามาหาผมเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆนั้นแหละครับ
“นี่เวลางานของผม”ผมเอ่ยตอบเธอไปและมองไปที่มือเล็กที่จับข้อมือของผมอยู่เป็นเชิงให้เธอปล่อยมือจากข้อมือผมแต่ดูเหมือนเธอจะไม่ยอม
“แล้วนอกเวลางานละคะ?”เสียงหวานเอ่ยขึ้นพลางจับมือของผมให้เข้าไปแนบชิดกับนูนโหนกของเธอ
“คุณหมอว่ายังไงคะ?”เธอพูดขึ้นพลางกัดริมฝีปากล่างของเธออย่างยั่วยวน ผมจึงถอนหายใจออกมาเล็กน้อยและชักมือออกมาจากเนื้อโหนกนูนของเธอแต่ดูเหมือนเธอจะไม่ยอมปล่อยมือผมง่ายๆ
“เจอกันที่นี้นะคะ”เธอเอ่ยขึ้นพร้อมกับส่งแผ่นกระดาษใส่มือของผม
“เชิญรอด้านนอกครับ”ผมเอ่ยขึ้นและชักมือออกมาจากของสงวนของเธอและหันหลังเดินออกมาจากห้องตรวจ ส่งแฟ้มเอกสารสรุปผลการตรวจของคนไข้คนล่าสุดให้กับนางพยาบาลให้เธอแจ้งคนไข้ให้ได้รับรู้ว่าเธอไม่ได้เป็นอะไร
“ไม่ต้องออกใบนัดให้เธอ”ผมพูดขึ้นทำให้นางพยาบาลหน้าห้องของผมเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยสีหน้าตกใจ แต่ผมไม่ได้สนใจอะไรเธอเดินออกมาจากตรงนั้นมั่งหน้าไปห้องพักของผม
“ถ้าเกิดมึงแพ้มึงเสียคันนี้ที่มึงรักไปเลยนะเว้ยไอแทน”เสียงไอนอฟเอ่ยขึ้นจากข้างหลังผม ผมก็หันไปมองมัน“ก็แลกกับเฟอรารี่คันละ15ล้านของมันไงขาดทุนแค่ร้อยกว่าล้านกูไม่แคร์อยู่แล้ว”ผมเอ่ยขึ้นพลางมองออกไปยังสนามแข่งที่ตอนนี้มีผู้คนกำลังพลุ่งพล่านเสียงกรี๊ดร้องของคนบนอัฒจันทร์ก็ส่งเสียงเชียร์กันสนั่นหวั่นไหว เสียงล้อบดขยี้กับพื้นปูนซีเมนต์เรียบอย่างดีก็ดังไม่แพ้กับเสียงคน “เหอะๆๆมึงเอาอะไรคิด”ไอนอฟเอ่ยขึ้นพลางเดินเข้ามาหาผมอย่างไว“น้องนักเรียนผู้หญิงที่น่าเหมือนตุ๊กตาวันนี้ที่โรงพยาบาลเป็นใครว่ะน่ารักสัสๆน่าเหมือนตุ๊กตาญี่ปุ่นเลยแม่ง!”ไอนอฟเอ่ยขึ้นแววตาที่เป็นประกายของมันแวววับทำให้ผมหันไปมองหน้ามันและแสยะยิ้มให้มัน“เธอเป็นของของกูว่ะเดี๋ยวกูเบื่อเมื่อไหร่กูจะยกให้มึง”ผมพูดขึ้นและยื่นมือไปปัดไหล่อของไอนอฟมันก็ทำหน้าดีใจ เพราะเรื่องผู้หญิงผมไม่เคยถืออยู่แล้ว คนไหนที่ไม่ถูกใจถูกสเปคของผมผมก็แค่โยนต่อไปให้ไอนอฟแค่นั้นเอง และผู้หญิงที่ไอนอฟพูดถึงก็คือน้องสาวของผู้ชายตัวสูงที่กำลังเดินมาหาผมอย่างไว“มีอะไรครับ?”ไอเน่เอ่ยขึ้นและมันไปยืนขวางหน้าของเจ้าชายทันที เจ้าชายคือลูกชายคนโตของเจ้าสัวกับหน
“อ๋อ ผมลืมขอโทษครับ”คุณหมอเอ่ยขึ้นเมืื่อฉันมองหน้าเขา เขาก็รู้และหันหลังให้ฉันทันที ฉันไม่รอช้ารีบหยิบแพนตี้ตัวจิ๋วมาจากกระเป๋ากระโปรงและรีบใส่กลับเข้าไปปกปิดของสงวนของฉันทันที “เดี๋ยวผมเดินไปส่งนะครับ”คุณหมอเอ่ยขึ้นเมื่อเขาเห็นว่าฉันทำธุระของตัวเองเสร็จแล้ว “ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ”ฉันโบกไม้โบกมือบอกคุณหมอว่าไม่เป็นไร ถ้าเกิดว่าพี่ชายเห็นคุณหมอเดินไปส่งฉันมีหวังพี่ชายเอาเรื่องคุณหมอแทนแน่ๆ “ครับงั้นไว้วันหลังเราไปทานข้าวกันได้ไหมครับ?”คุณหมอแทนเอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มให้ฉัน “น้องหญิงคงไปกับคุณหมอไม่ได้หรอกคะพี่ชายกับคุณพ่อไม่มีทางอนุญาตแน่นอนค่ะ”ฉันตอบคะณหมอไปตามความจริง เขาก็ยกยิ้มมองหน้าฉัน “ครับผมเข้าใจครับงั้นไม่เป็นไร^_^” “ค่ะ น้องหญิงขอตัวก่อนนะคะคุณหมอแทน” “ครับ ไว้เจอกันใหม่นะครับน้องหญิง^_^” “ค่ะ^_^”ฉันก้มหัวให้คุณหมอแทนและค่อยๆเดินหลีกเขาออกมาจากห้องของเขาและรีบเดินไปยังที่พี่ชายบอกให้ฉันรอเขา “เฮ้อโล่งอกไปทีพี่ชายยังไม่มา”ฉันพูดขึ้นและหย่อนก้นนั่งลงบนโซฟาที่เดิมอย่างเหนื่อยเพราะฉันกึ่งวิ่งกึ่งเดินมา “คุณหมอแทนธนาธิป กิจโภชัย คุณหมอแทนน่ารักจัง^_^”ฉันพูดขึ้นเมื่ออ่านนามบั
“ถอดกางเกงชั้นในด้วยครับ”คุณหมอเอ่ยขึ้นเมื่อฉันยังคงมองสำรวจไปรอบๆห้องเครื่องมือที่นี้ทันสมัยมากพอๆกับที่โรงพยาบาลของคุณพ่อของฉันเลยและดูเหมือนที่โรงพยาบาลนี้จะเป็นคู่แข่งของโรงพยาบาลคุณพ่อฉันน่ะ ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจโรงพยาบาลที่คุณพ่อกับคุณแม่คุยกันเมื่อหลายวันก่อน“คะ?”ฉันหันไปเอ่ยถามคุณหมอด้วยความไม่เข้าใจ คุณหมอก็ค่อยๆเดินเข้ามาหาฉัน“ก็คุณคนไข้สนใจตรวจภายในกับผมไม่ใช่เหรอครับ ถ้าจะตรวจก็กรุณาถอดกางเกงชั้นในออกด้วยครับ^_^”คุณหมอเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงนุ่มนวลและแววตาที่หวานหยดย้อยของเขากำลังทำให้หัวใจของฉันอ่อนระทวย “จะดีเหรอคะ น้องหญิง”ฉันเอ่ยขึ้นเบาๆใบหน้าของฉันร้อนผ่าวขึ้นมา คุณหมอก็หันมามองหน้าฉัน“หรือว่าอยากจะให้ผมถอดให้^_^”คุณหมอเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงทะเล้นและเเววตาที่จ้องมองไปยังเบื้องล่างของฉัน“ไม่เป็นไรค่ะ น้องหญิงถอดเองได้”ฉันตอบคุณหมอไปและยืนรอให้เขาหันไปทางอื่น แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ยอมหันไปเลยเพราะเขาเอาแต่จ้องมองฉัน“คุณหมอช่วยหันไปทางอื่นก่อนได้ไหมคะ?”“อ๋อ ได้ครับไม่มีปัญหา^_^”คุณหมอเอ่ยขึ้นและเขาก็รีบหันหลังให้ฉันเดินไปเตรียมอุปกรณ์มาตรวจภายในของฉัน ฉันก็ค่อ
“ดะได้ยิน ก็เธอเสียงดัง”ฉันก้มหน้าตอบขุนเขาไป เขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างเสียงดังและเขาก็ปล่อยมือออกไปจากไหล่ของฉัน “ฉันขอโทษ”ขุนเขาเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงแผ่วเบาทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเขาอย่างตกใจไม่คิดว่าเขาจะขอโทษฉัน “ที่ฉันมาที่นี้เพื่อจะแค่มาถามเธอแค่นี้ ถ้าเธอไม่ไปฉันก็คงจะบังคับอะไรเธอไม่ได้ ฉันไปแหละ”ขุนเขาเอ่ยขึ้นและเดินหันหลังออกไปจากห้องเรียนของฉันทันที “ไม่เป็นอะไรใช่ไหมเจ้าหญิง?”มินิรีบมาจับไหล่ของฉันด้วยความเป็นห่วงและเอ่ยถามฉัน ฉันก็ส่ายศีรษะไปมาว่าฉันไม่ได้เป็นอะไร ไม่เจ็บตรงไหนเลย ถึงขุนเขาจะมีบุคลิกที่ดุดันและแข็งกร้าวแต่เขาก็ไม่เคยทำร้ายร่างกายฉันจนรู้สึกเจ็บเลยสักครั้ง “ฉันว่าแหละว่าขุนเขาน่ะโกหกไม่มีทางที่เด็กอันธพาลพันนั้นจะใช้เวลาแค่ปีเดียวสอบขึ้นห้องเอได้”มินิเอ่ยขึ้นพลางมองไปยังประตูทางออกที่ขุนเขาเดินออกไป ฉันก็มองไปยังประตูทางออกเช่นกัน ขุนเขาคือผู้ชายอันตรายที่ผู้หญิงไม่ควรเข้าไปยุ่งเด็ดขาดเพราะเขาทีอารมณ์ที่รุนแรงและน่ากลัว บ้านของเขาอยู่ติดกับบ้านฉันตอนเด็กๆเขามักจะมาเล่นกับฉันอยู่เป็นประจำ แต่พอเขาโตขึ้นเริ่มมีเพื่อนผู้ชายเขาก็เปลี่ยนไป เขาเริ่มเที่ยวก
โรงเรียนSS SCHOOLนานาชาติ08:00น.เจ้าหญิง อัยย์ญาดา...“เจ้าหญิงอรุณสวัสดิ์ครับ^_^”“หวัดดีคร๊าบเจ้าหญิงแสนสวย^_^”“ไม่เจอเป็นเดือนสวยขึ้นอีกแล้ว^_^”“สุขสันต์วันเปิดภาคเรียนครับ”“หวัดดีค่ะทุกๆคน สุขสันต์วันเปิดภาคเรียนเหมือนกันค่ะ^_^”ฉันเอ่ยขึ้นทักทายเพื่อนๆในโรงเรียนกลับ ฉันจะเจอคำทักทายแบบนี้ทุกวันตั้งแต่วันแรกที่ย้ายเข้ามาเรียนที่โรงเรียนนี้ตอนมัธยมปลายปีแรกจนตอนนี้ปี3แล้ว ฉันก็ยังคงได้รับคำทักทายของเพื่อนๆผู้ชายในโรงเรียนเหมือนเคย ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่หรือรุ่นน้องหรือรุ่นเดียวกัน พวกเขาจะมารอรับฉันที่ทางเข้าประตูโรงเรียนทุกวัน โดยรอให้รถของพี่ชายขับออกไปจนพ้นประตูโรงเรียนแล้ว“ปีนี้เจ้าหญิงอยู่ห้องเอเหมือนเดิมแน่เลย”เพื่อนผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้นเมื่อฉันเดินเข้าโรงเรียนมา“ไม่รู้เหมือนกันเราอาจจะห้องดีก็ได้นะ”ฉันตอบเขาไปและทุกๆทีที่ฉันเดินไปทางไหนก็จะมีผู้ชายเดินตามเป็นขบวนแบบนี้ทำให้ฉันค่อนข้างที่จะมีเพื่อนผู้หญิงเข้ามาทำความรู้จักฉันเยอะเหมือนกันและฉันก็รู้จักผู้หญิงในโรงเรียนนี้ทุกคน เพราะพวกเธอเข้ามาทำความรู้จักกับฉันก่อน“เจ้าหญิง!!”เสียงเอ่ยขึ้นด้วยความดีใจที่นำ้เสียงคุ้นหูฉัน
“กลัวแม่บอกไม่อร่อยเหรอจ๊ะ?”คุณแม่เอ่ยถามฉัรอย่างยิ้มๆนั่นยิ่งทำให้ฉันเริ่มเบะปากจะร้องแล้ว“โอ๋ๆลูกจ๋าขนมของลูกอร่อยมากจ๊ะ^_^”คุณแม่เอ่ยบอกฉันพลางหยิกแก้มฉันเบาๆ นั่นยิ่งทำให้ฉันยิ้มกว้างขึ้นอย่างดีใจและหันไปกอดคุณพ่อ“น้องหญิงสอบผ่านแล้วค่ะคุณพ่อ^_^”“ดีใจด้วยจ๊ะลูก”คุณพ่อบอกฉันพลางยื่นแขนหนาของท่านมาโอบไหล่ของฉัน ฉันก็ซบศีรษะลงไปบนไหล่กว้างของคุณพ่อ“งั้นทีนี้น้องหญิงก็สามารถทำขนมไปให้คุณย่าทานได้แล้วใช่ไหมคะ?”ฉันเอ่ยถามคุณแม่ที่มัวแต่จิ้มลูกชุดของชิ้นแล้วชิ้นเล่า“ใช่จ๊ะเจ้าหญิง^_^”คุณแม่หันมาตอบฉัน ฉันก็ยิ้มให้ท่านและเราสามคนก็นั่งทานขนมลูกชุปและนำ้มะนาวที่ฉันเป็นคนคั้นเองและปั้นเองกับมือ เราสามคนนั่งคุยเล่นกันไปมาและหัวเราะกันอย่างมีความสุข ฉันเติบโตมาในครอบครัวที่อบอุ่น คุณพ่อกับคุณแม่เลี้ยงดูฉันอย่างกับเจ้าหญิงเหมือนชื่อของฉัน ฉันรักและเคารพท่านทั้งสองมากสวัสดีค่ะ ฉันชื่อเจ้าหญิง อัยย์ญาดา ราชนาโยวงศ์ติชัย อายุ18ปีค่ะ กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมปลายโรงเรียนนานาชาติQ ฉันเป็นลูกคนสุดท้องน้องคนสุดท้ายค่ะคริๆที่จริงคุณแม่กับคุณพ่อมีลูกสองคน คนโตเป็นผู้ชายชื่อเจ้าชาย นาย อัธพัตฒ์ ราชน