“คุณหมอค่ะ!”
“ครับ?”ผมหันไปตามเสียงเรียกของพยาบาลในแผนกของผม
“มีประชุมด่วนค่ะ”เธอเอ่ยบอกผมในมือของเธอเต็มไปด้วยแฟ้มเอกสารเตรียมพร้อมประชุมเต็มที่
“ขอบคุณครับ”ผมเอ่ยขอบคุณเธอและเปลี่ยนทิศทางการเดินทันที มุ่งหน้าไปยังห้องประชุมใหญ่ โดยมีนางพยาบาลสาวผู้ช่วยผมเดินตามหลังมาติดๆ
สวัสดีครับ ผมชื่อแทนคุณ ธนาธิป กิจโภชัยหรือนามสกุลเดิมของผมคือโรจน์จนาชน ครอบครัวของผมและชีวิตของผมเคยอยู่อย่างสุขสบายแต่ถามว่าผมชอบชีวิตแบบนั้นไหม คำตอบคือไม่เลยครับ ผมชอบชีวิตที่ธรรมดาๆมากกว่าไม่ต้องรวยเกินไปไม่ต้องมีหน้ามีตาในสังคม ตอนนี้ผมกำลังทำงานและดำรงตำแหน่ง นายแพทย์สูตินารีเวช อยู่ภายในโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่งของเอกชนโรงพยาบาลQ ตอนนี้ผมอยู่ตัวคนเดียวไม่สิ ผมอยู่ตัวคนเดียวมา20ปีแล้วหนิครับ ครอบครัวของผมเสียทุกคนผมเองก็ด้วย ผมไม่เหลือใครเลยในชีวิตของผมทั้งคุณพ่อคุณแม่พี่สาวพี่ชายผมไม่เหลือใครเลย แต่ครอบครัวของผมจะต้องไม่ตายฟรี ใครที่ทำกับครอบครัวผม ผมสัญญา ผมจะเอาพวกมันมาลงโทษให้ได้!!!!!!
20:30น.
“เดี๋ยวครับ!”เสียงผู้ชายเอ่ยขึ้นจากทางข้างหลังผม ผมจึงต้องหยุดฝีเท้าลงและหันไปมองเสียงนั้นทันที ก็พบกับชายวัยกลางคนแต่งตัวดูภูมิฐานน่าจะมีฐานะข้างกายเขามีนักศึกษาชายสวมเครื่องแบบมหาลัยของเอกชนชื่อดังทั้งคู่กำลังยืนยิ้มมาให้ผมอย่างเป็นมิตร
“สวัสดีครับ คุณหมอแทนใช่ไหมครับ?”ชายวัยกลางคนเอ่ยขึ้นเขาโค้งหัวให้ผม ผมจึงโค้งหัวให้เขาคืนเพื่อทำความเคารพกัน
“สวัสดีครับ ผมหมอแทนครับ”ผมตอบเขาไปด้วยนำ้เสียงเป็นมิตร
“สวัสดีครับคุณหมอแทน”ชายในชุดนักศึกษาเอ่ยขึ้นพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้ผม
“สวัสดีครับ”ผมยกมือขึ้นรับไหว้เขา
“พอดีลูกชายผมจะมาฝึกงานที่นี้ ผมขอฝากให้คุณหมอแทนดูแลลูกชายของผมด้วยนะครับ”ชายวัยกลางคนพูดเปิดประเด็นทันที ผมก็หันหน้ากับไปมองเด็กหนุ่มที่แต่งตัวเรียบร้อยน่าจะเรียนเก่งน่าดูถึงขั้นสอบติดหมอที่โรงพยาบาลนี้
“ยินดีครับ^_^”ผมเดินเข้าไปยื่นมือตรงหน้าของชายวัยกลางคนและเอ่ยขึ้น เขาหันไปยิ้มให้ลูกชายของเขาทั้วคู่มองดีใจ
“ขอบคุณครับ^_^”ชายวัยกลางคนยื่นมือมาจับมือของผมและเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงดีใจ
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัว”ผมเอ่ยขึ้น ทำให้สองคนพ่อลูกที่หันไปยิ้มให้กันคนเป็นพ่อตบบ่าลูกชายด้วยความภาคภูมิใจ ภาพนี้ทำให้ผมนึกถึงพ่อของผม ถึงผมกับท่านจะไม่ค่อยพูดกันแต่ผมก็รักและเคารพท่านเสมอมา
“ครับขอบคุณครับ!!”ทั้งคู่ผสานเสียงตอบกันมาพร้อมกันพลางโค้งตัวลงผมก็โค้งตัวกลับไปให้เขาสองคนและหันหลังเดินออกมา มุ่งหน้าไปยังห้องทำงานส่วนตัวของผมที่อยู่ชั้น5ของโรงพยาบาล
“เชี้ย!น่ารักสัดดดดด”เสียงคนไข้ผู้ชายสองคนเดินเช้ามาในลิฟต์ตัวเดียวกับผมและสองคนนั้นก็เอ่ยพูดขึ้น อะไรของเด็กพวกนี้ พูดคำด่าคำ
“เนอะๆๆอยากได้เป็นแฟนแต่ไม่กล้าจีบว่ะ”
“ทำไมว่ะ?”
“เพราะน้องเขาน่ารักเกินไปไม่เหมาะกับผู้ชายหน้าตาเหี้ยๆอย่างกูหรอก!”
“เอ่อใช่ๆฮ่าๆๆๆ”เด็กหนุ่มสองคนวัยประมานยี่สิบต้นๆน่าจะใช่กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานโดยไม่ได้สนใจผมที่ยืนหัวโด่อยู่ตรงหน้าเลยสักนิด
ติ๋งง
ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดผมก็เดินออกมาจากลิฟต์ทันทีมุ่งหน้าไปเก็บของที่ห้องทำงานของผมเพื่อจะไปสนามแข่งรถในคำ่คืนนี้
“เห้ยๆๆๆไอแทนๆๆ!”ทันทีที่ผมเดินเข้ามาในห้องทำงานของผมก็เจอหน้าไอ้นอฟเพื่อนซี้คู่เวรคู่กรรมของผมที่มันถือวิสาสะนั่งบนเก้าอี้ทำงานของผม
“อะไร?”ผมเอ่ยถามมันไปพลางถอดเสื้อกาวน์สีขาวออกเพื่อจะแขวนไว้บนที่แขวนอย่างเรียบร้อย
พรึบ
“อะไรว่ะน่ะ?”ไอนอฟเอ่ยขึ้นเมื่ออยู่ดีๆก็มีกระดาษสีขาวร่วงลงจากกระเป๋าเสื้อกาวน์ของผมตกสู่พื้นอย่างสวยงาม
“เห้ย!ไอ้ห่าหนิจะแอบไปกินเด็กอีกล่ะ!!!”ไอนอฟเมื่อมันก้มลงไปหยิบกระดาษสีเหลี่ยมสีขาวขึ้นมาและมันรู้ว่าเป็นเบอร์ห้องพร้อมกับเบอร์โทรศัพท์ของผู้หญิงเด็กนักศึกษาก็เอ่ยขึ้นอย่างเสียงดัง ผมจึงส่ายศีรษะไปมาด้วยความระอาเพื่อนตัวเอง
“มึงรีบขนาดนั้นเลย อดอยากปากแห้งมากเหรอมึงอ่ะ กูเห็นไม่กลับห้องสักกะวัน!!”ไอนอฟโวยวายขึ้นอีกเมื่อผมรีบเก็บเอกสารงานสรุปผลตรวจของคนไข้ลงกระเป๋าถือสีดำ ที่ผมรีบผมมีแข่งรถสามทุ่มครึ่งกว่าจะไปสนามแข่งก็เกือบๆจะครึ่งชั่วโมงไม่ให้รีบได้ไง
“เห้ย!นี่กูเพื่อนมึงน่ะ นี่เพื่อนมึงไงมึงเป็นใบ้เหรอว่ะ ช่วยตอบให้กูชื่นใจหน่อยเถอะ”ไอนอฟโอดครวญขึ้นอย่างน่ารำคาญผมจึงหันไปมองหน้ามันด้วยสีหน้าที่บ่งบอกถึงความรำคาญสุดๆของผม ไอนอฟจึงเงียบและยกมือขึ้นมาทำท่ารูดซิปปากตัวเอง
“กูมีแข่งรถจบป่ะ!”ผมบอกมันและถือกระเป๋าเดินออกมาจากห้องทำงานอย่างไว เวลาประชุมกินเวลาของผมไปมาก ประชุมแต่เรื่องเดิมๆผมว่าเป็นหมอท่าใจไม่รักจริง ทำไม่ได้เด็ดขาดครับ!
“กูไปด้วยยยยยยยย”เสียงร้องตะโกนเหมือนเด็กน้อยร้องตามพ่อแม่ดังมาจากข้างหลังผม ผมจึงกรอกตามองบนอย่างปลงๆกับความปัญญาอ่อนของเพื่อนตัวเอง แต่ผมก็ได้มันนี้แหละที่คอยช่วยเหลือผมและพ่อของมันก็มีพระคุณกับผมมาก ถ้าไม่มีพ่อดำรงคงไม่มีหมอแทนคุณในวันนี้ ผมคงจะเป็นบุคคลที่ตายไปแล้ว และทุกคนก็คิดว่าผมนั้นตายไปแล้วจริงๆ เพราะผู้ชายคนนั้นคนเดียวที่ทำให้ผมสูญเสียทุกอย่างไปแม้กระทั่งครอบครัวของผมเองและแม้กระทั่งผู้หญิงที่ผมรัก เจ้าสัว จักรภัทร และสักวันผมจะทำให้มันได้รู้ถึงความเจ็บปวดแบบที่ผมได้รับเช่นกัน
“ถ้าเกิดมึงแพ้มึงเสียคันนี้ที่มึงรักไปเลยนะเว้ยไอแทน”เสียงไอนอฟเอ่ยขึ้นจากข้างหลังผม ผมก็หันไปมองมัน“ก็แลกกับเฟอรารี่คันละ15ล้านของมันไงขาดทุนแค่ร้อยกว่าล้านกูไม่แคร์อยู่แล้ว”ผมเอ่ยขึ้นพลางมองออกไปยังสนามแข่งที่ตอนนี้มีผู้คนกำลังพลุ่งพล่านเสียงกรี๊ดร้องของคนบนอัฒจันทร์ก็ส่งเสียงเชียร์กันสนั่นหวั่นไหว เสียงล้อบดขยี้กับพื้นปูนซีเมนต์เรียบอย่างดีก็ดังไม่แพ้กับเสียงคน “เหอะๆๆมึงเอาอะไรคิด”ไอนอฟเอ่ยขึ้นพลางเดินเข้ามาหาผมอย่างไว“น้องนักเรียนผู้หญิงที่น่าเหมือนตุ๊กตาวันนี้ที่โรงพยาบาลเป็นใครว่ะน่ารักสัสๆน่าเหมือนตุ๊กตาญี่ปุ่นเลยแม่ง!”ไอนอฟเอ่ยขึ้นแววตาที่เป็นประกายของมันแวววับทำให้ผมหันไปมองหน้ามันและแสยะยิ้มให้มัน“เธอเป็นของของกูว่ะเดี๋ยวกูเบื่อเมื่อไหร่กูจะยกให้มึง”ผมพูดขึ้นและยื่นมือไปปัดไหล่อของไอนอฟมันก็ทำหน้าดีใจ เพราะเรื่องผู้หญิงผมไม่เคยถืออยู่แล้ว คนไหนที่ไม่ถูกใจถูกสเปคของผมผมก็แค่โยนต่อไปให้ไอนอฟแค่นั้นเอง และผู้หญิงที่ไอนอฟพูดถึงก็คือน้องสาวของผู้ชายตัวสูงที่กำลังเดินมาหาผมอย่างไว“มีอะไรครับ?”ไอเน่เอ่ยขึ้นและมันไปยืนขวางหน้าของเจ้าชายทันที เจ้าชายคือลูกชายคนโตของเจ้าสัวกับหน
“อ๋อ ผมลืมขอโทษครับ”คุณหมอเอ่ยขึ้นเมืื่อฉันมองหน้าเขา เขาก็รู้และหันหลังให้ฉันทันที ฉันไม่รอช้ารีบหยิบแพนตี้ตัวจิ๋วมาจากกระเป๋ากระโปรงและรีบใส่กลับเข้าไปปกปิดของสงวนของฉันทันที “เดี๋ยวผมเดินไปส่งนะครับ”คุณหมอเอ่ยขึ้นเมื่อเขาเห็นว่าฉันทำธุระของตัวเองเสร็จแล้ว “ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ”ฉันโบกไม้โบกมือบอกคุณหมอว่าไม่เป็นไร ถ้าเกิดว่าพี่ชายเห็นคุณหมอเดินไปส่งฉันมีหวังพี่ชายเอาเรื่องคุณหมอแทนแน่ๆ “ครับงั้นไว้วันหลังเราไปทานข้าวกันได้ไหมครับ?”คุณหมอแทนเอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มให้ฉัน “น้องหญิงคงไปกับคุณหมอไม่ได้หรอกคะพี่ชายกับคุณพ่อไม่มีทางอนุญาตแน่นอนค่ะ”ฉันตอบคะณหมอไปตามความจริง เขาก็ยกยิ้มมองหน้าฉัน “ครับผมเข้าใจครับงั้นไม่เป็นไร^_^” “ค่ะ น้องหญิงขอตัวก่อนนะคะคุณหมอแทน” “ครับ ไว้เจอกันใหม่นะครับน้องหญิง^_^” “ค่ะ^_^”ฉันก้มหัวให้คุณหมอแทนและค่อยๆเดินหลีกเขาออกมาจากห้องของเขาและรีบเดินไปยังที่พี่ชายบอกให้ฉันรอเขา “เฮ้อโล่งอกไปทีพี่ชายยังไม่มา”ฉันพูดขึ้นและหย่อนก้นนั่งลงบนโซฟาที่เดิมอย่างเหนื่อยเพราะฉันกึ่งวิ่งกึ่งเดินมา “คุณหมอแทนธนาธิป กิจโภชัย คุณหมอแทนน่ารักจัง^_^”ฉันพูดขึ้นเมื่ออ่านนามบั
“ถอดกางเกงชั้นในด้วยครับ”คุณหมอเอ่ยขึ้นเมื่อฉันยังคงมองสำรวจไปรอบๆห้องเครื่องมือที่นี้ทันสมัยมากพอๆกับที่โรงพยาบาลของคุณพ่อของฉันเลยและดูเหมือนที่โรงพยาบาลนี้จะเป็นคู่แข่งของโรงพยาบาลคุณพ่อฉันน่ะ ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจโรงพยาบาลที่คุณพ่อกับคุณแม่คุยกันเมื่อหลายวันก่อน“คะ?”ฉันหันไปเอ่ยถามคุณหมอด้วยความไม่เข้าใจ คุณหมอก็ค่อยๆเดินเข้ามาหาฉัน“ก็คุณคนไข้สนใจตรวจภายในกับผมไม่ใช่เหรอครับ ถ้าจะตรวจก็กรุณาถอดกางเกงชั้นในออกด้วยครับ^_^”คุณหมอเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงนุ่มนวลและแววตาที่หวานหยดย้อยของเขากำลังทำให้หัวใจของฉันอ่อนระทวย “จะดีเหรอคะ น้องหญิง”ฉันเอ่ยขึ้นเบาๆใบหน้าของฉันร้อนผ่าวขึ้นมา คุณหมอก็หันมามองหน้าฉัน“หรือว่าอยากจะให้ผมถอดให้^_^”คุณหมอเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงทะเล้นและเเววตาที่จ้องมองไปยังเบื้องล่างของฉัน“ไม่เป็นไรค่ะ น้องหญิงถอดเองได้”ฉันตอบคุณหมอไปและยืนรอให้เขาหันไปทางอื่น แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ยอมหันไปเลยเพราะเขาเอาแต่จ้องมองฉัน“คุณหมอช่วยหันไปทางอื่นก่อนได้ไหมคะ?”“อ๋อ ได้ครับไม่มีปัญหา^_^”คุณหมอเอ่ยขึ้นและเขาก็รีบหันหลังให้ฉันเดินไปเตรียมอุปกรณ์มาตรวจภายในของฉัน ฉันก็ค่อ
“ดะได้ยิน ก็เธอเสียงดัง”ฉันก้มหน้าตอบขุนเขาไป เขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างเสียงดังและเขาก็ปล่อยมือออกไปจากไหล่ของฉัน “ฉันขอโทษ”ขุนเขาเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงแผ่วเบาทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเขาอย่างตกใจไม่คิดว่าเขาจะขอโทษฉัน “ที่ฉันมาที่นี้เพื่อจะแค่มาถามเธอแค่นี้ ถ้าเธอไม่ไปฉันก็คงจะบังคับอะไรเธอไม่ได้ ฉันไปแหละ”ขุนเขาเอ่ยขึ้นและเดินหันหลังออกไปจากห้องเรียนของฉันทันที “ไม่เป็นอะไรใช่ไหมเจ้าหญิง?”มินิรีบมาจับไหล่ของฉันด้วยความเป็นห่วงและเอ่ยถามฉัน ฉันก็ส่ายศีรษะไปมาว่าฉันไม่ได้เป็นอะไร ไม่เจ็บตรงไหนเลย ถึงขุนเขาจะมีบุคลิกที่ดุดันและแข็งกร้าวแต่เขาก็ไม่เคยทำร้ายร่างกายฉันจนรู้สึกเจ็บเลยสักครั้ง “ฉันว่าแหละว่าขุนเขาน่ะโกหกไม่มีทางที่เด็กอันธพาลพันนั้นจะใช้เวลาแค่ปีเดียวสอบขึ้นห้องเอได้”มินิเอ่ยขึ้นพลางมองไปยังประตูทางออกที่ขุนเขาเดินออกไป ฉันก็มองไปยังประตูทางออกเช่นกัน ขุนเขาคือผู้ชายอันตรายที่ผู้หญิงไม่ควรเข้าไปยุ่งเด็ดขาดเพราะเขาทีอารมณ์ที่รุนแรงและน่ากลัว บ้านของเขาอยู่ติดกับบ้านฉันตอนเด็กๆเขามักจะมาเล่นกับฉันอยู่เป็นประจำ แต่พอเขาโตขึ้นเริ่มมีเพื่อนผู้ชายเขาก็เปลี่ยนไป เขาเริ่มเที่ยวก
โรงเรียนSS SCHOOLนานาชาติ08:00น.เจ้าหญิง อัยย์ญาดา...“เจ้าหญิงอรุณสวัสดิ์ครับ^_^”“หวัดดีคร๊าบเจ้าหญิงแสนสวย^_^”“ไม่เจอเป็นเดือนสวยขึ้นอีกแล้ว^_^”“สุขสันต์วันเปิดภาคเรียนครับ”“หวัดดีค่ะทุกๆคน สุขสันต์วันเปิดภาคเรียนเหมือนกันค่ะ^_^”ฉันเอ่ยขึ้นทักทายเพื่อนๆในโรงเรียนกลับ ฉันจะเจอคำทักทายแบบนี้ทุกวันตั้งแต่วันแรกที่ย้ายเข้ามาเรียนที่โรงเรียนนี้ตอนมัธยมปลายปีแรกจนตอนนี้ปี3แล้ว ฉันก็ยังคงได้รับคำทักทายของเพื่อนๆผู้ชายในโรงเรียนเหมือนเคย ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่หรือรุ่นน้องหรือรุ่นเดียวกัน พวกเขาจะมารอรับฉันที่ทางเข้าประตูโรงเรียนทุกวัน โดยรอให้รถของพี่ชายขับออกไปจนพ้นประตูโรงเรียนแล้ว“ปีนี้เจ้าหญิงอยู่ห้องเอเหมือนเดิมแน่เลย”เพื่อนผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้นเมื่อฉันเดินเข้าโรงเรียนมา“ไม่รู้เหมือนกันเราอาจจะห้องดีก็ได้นะ”ฉันตอบเขาไปและทุกๆทีที่ฉันเดินไปทางไหนก็จะมีผู้ชายเดินตามเป็นขบวนแบบนี้ทำให้ฉันค่อนข้างที่จะมีเพื่อนผู้หญิงเข้ามาทำความรู้จักฉันเยอะเหมือนกันและฉันก็รู้จักผู้หญิงในโรงเรียนนี้ทุกคน เพราะพวกเธอเข้ามาทำความรู้จักกับฉันก่อน“เจ้าหญิง!!”เสียงเอ่ยขึ้นด้วยความดีใจที่นำ้เสียงคุ้นหูฉัน
“กลัวแม่บอกไม่อร่อยเหรอจ๊ะ?”คุณแม่เอ่ยถามฉัรอย่างยิ้มๆนั่นยิ่งทำให้ฉันเริ่มเบะปากจะร้องแล้ว“โอ๋ๆลูกจ๋าขนมของลูกอร่อยมากจ๊ะ^_^”คุณแม่เอ่ยบอกฉันพลางหยิกแก้มฉันเบาๆ นั่นยิ่งทำให้ฉันยิ้มกว้างขึ้นอย่างดีใจและหันไปกอดคุณพ่อ“น้องหญิงสอบผ่านแล้วค่ะคุณพ่อ^_^”“ดีใจด้วยจ๊ะลูก”คุณพ่อบอกฉันพลางยื่นแขนหนาของท่านมาโอบไหล่ของฉัน ฉันก็ซบศีรษะลงไปบนไหล่กว้างของคุณพ่อ“งั้นทีนี้น้องหญิงก็สามารถทำขนมไปให้คุณย่าทานได้แล้วใช่ไหมคะ?”ฉันเอ่ยถามคุณแม่ที่มัวแต่จิ้มลูกชุดของชิ้นแล้วชิ้นเล่า“ใช่จ๊ะเจ้าหญิง^_^”คุณแม่หันมาตอบฉัน ฉันก็ยิ้มให้ท่านและเราสามคนก็นั่งทานขนมลูกชุปและนำ้มะนาวที่ฉันเป็นคนคั้นเองและปั้นเองกับมือ เราสามคนนั่งคุยเล่นกันไปมาและหัวเราะกันอย่างมีความสุข ฉันเติบโตมาในครอบครัวที่อบอุ่น คุณพ่อกับคุณแม่เลี้ยงดูฉันอย่างกับเจ้าหญิงเหมือนชื่อของฉัน ฉันรักและเคารพท่านทั้งสองมากสวัสดีค่ะ ฉันชื่อเจ้าหญิง อัยย์ญาดา ราชนาโยวงศ์ติชัย อายุ18ปีค่ะ กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมปลายโรงเรียนนานาชาติQ ฉันเป็นลูกคนสุดท้องน้องคนสุดท้ายค่ะคริๆที่จริงคุณแม่กับคุณพ่อมีลูกสองคน คนโตเป็นผู้ชายชื่อเจ้าชาย นาย อัธพัตฒ์ ราชน