ดัสตินนั่งขาไขว่ห้างนั่งกดดันเจ้าของโรงพยาบาลหรูในเกาะฮ่องกง ลีออนเพื่อนสนิทของเขากำลังตรวจคนไข้และสั่งให้เขานั่งรอ ไม่นานประตูถูกเปิดออก
“มีอะไร”
“มึงทักทายคนไข้แบบนี้เหรอวะ”
“มีอะไรครับคุณมาเฟียแล้วไม่กลับมาเก๊าเหรอวะ” แปลกเพราะดัสตินมักจะขลุกตัวอยู่ในมาเก๊านานๆ ทีถึงจะมาที่ฮ่องกง
“กูป่วย”
“ป่วย แล้ว?”
“ช่วยตรวจให้กูหน่อย” เขาไม่ไว้ใจใครนอกจากเพื่อนรักเท่านั้น
“มาผิดที่หรือเปล่ากูหมอฟันโว้ย ทำฟันและฟันอย่างเดียว” เขานั่งแท่นเป็นผู้บริหารตรวจคนไข้บางครั้งยามที่หมอไม่พอ ไม่ได้รับตรวจโรคทั่วไป
“กูเจ็บหัวใจหรือกูกำลังป่วยเป็นโรคหัวใจวะ” ไม่ได้พูดเล่นแต่เป็นแบบนั้นจริงๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่โผล่หน้ามาให้มันเห็น
“แล้วอาการเป็นแบบไหน” ลีออนเริ่มจริงจัง
“เจอหน้าสาวสวยคนหนึ่งหลังจากนั้นก็เจ็บหัวใจตอนที่เจอหน้าเขา พอนึกถึงหัวใจมันเต้นเร็วเหมือนจะทะลุออกมา”
ลีออนถอนหายใจออกมาเสียงดังเขากลอกตามองบนแล้วหลับตาลงเพื่อหักสายตา และเปิดเปลือกตาขึ้นมามองหน้าเพื่อน งานเขายุ่งมากในแต่ละวันแต่ดัสตินมันโนสนโนแคร์ หาเรื่องไร้สาระมาให้เขาหนักใจ
“กูป่วยจริงๆ ใช่ไหมมึงถอนหายใจเสียงดังแบบนี้ส่งกูไปตรวจเลย” เมียยังไม่มีจะมาป่วยตายก่อนไม่ได้เด็ดขาด ขอได้จิ้มนังหนูคนนั้นถึงตายก็ยอม
“มึงชอบเขา มึงตกหลุมรักเขา มึงหัวใจเต้นแรงเพราะรักเขาเข้าแล้ว”
“ไม่จริง! มึงมันไม่ได้เรื่องกูกำลังป่วย”
ไอ้ห่าเก่งกว่าหมอไปอีก “เออๆ ป่วยก็ป่วยเดี๋ยวกูจ่ายยาให้” ลีออนเขียนใบสั่งจ่ายยายื่นให้เลขาหน้าห้อง ดัสตินถ้าจะอาการหนักงานนี้คงต้องมีน้ำตาไม่ฝ่ายใดก็ฝ่ายหนึ่ง แต่จากการสันนิษฐานเขาว่าดัสตินแน่ๆ ที่จะกระอักเลือดตายก่อน
ดัสตินสั่งให้โทนี่ช่วยสืบประวัติของเฟรินทร์ เพราะเขาไม่เชื่อว่าหญิงสาวจะเป็นคนใช้อย่างที่เหมยหลินบอก แล้วจะโกหกไปเพื่ออะไร
“เดี๋ยว!”
“ครับ”
“ขอตอนบ่าย”
โทนี่อ้าปากพะงาบๆ อยากจะปฏิเสธประวัติคนนะไม่ใช่ยาบ้านที่จะหากันได้ง่าย เห็นเขาเป็นเครื่องจักรหรือไงสั่งอย่างเดียว
‘เฟรินทร์’ เขียนมาให้เขาแค่นี้ไม่มีรูปไม่มีข้อมูลอะไรเลย ใครที่ตามได้ถือว่าเก่งชื่อดูเหมือนจะไม่ใช่คนฮ่องกงอีก โทนี่อยากลาออก
“เดินหน้าเครียดหน้ามาทำไมวะ”
“นายใหญ่สั่งให้ไปตามสืบประวัติคน”
“ก็ไปทำดิ”
“แล้วมีงคิดว่ากูจะไปตามหาเจอได้ยังไง” เขาคลี่กระดาษแผ่นเล็กๆ ให้ลี่ถังดูว่ามีแค่ชื่อคนเขาจะไปตามสืบมาได้อย่างไร
“คงไม่เกินความสามารถพี่หรอก” ลี่ถังตบบ่ากว้างของโทนี่เบาๆ เหมือนจะเป็นชื่อผู้หญิงแถมอาการของเจ้านายแปลกๆ หรือว่าพวกเขากำลังจะมีนายหญิงแล้ว
โทนี่ใช้เวลาครึ่งค่อนวันก็ได้ข้อมูลตามที่ต้องการ จึงรีบมารายงานเจ้านายเอาวางเอกสารทั้งหมดไว้ให้ดัสติน แต่ไม่ได้รายงานด้วยปาก
“พูดมา”
“คุณเฟรินทร์เป็นลูกนอกสมรสของเซี่ยชิงอีครับ”
“พอออกไปฉันจะอ่านเอง”
“ครับ”
ดัสตินเปิดอ่านประวัติของเฟรินทร์ทีละหน้า เขาบรรจงอ่านอย่างตั้งใจ และอ่านให้ครบทุกตัวอักษร ตอนท้ายมีรูปหญิงสาวแนบมาด้วย
เฟรินทร์ ธีรนันท์ หรือเฟรินทร์เซี่ย วัย 22 ปีเป็นลูกนอกสมรสของชิงอีที่เกิดจากภรรยาคนไทย เพิ่งมาอยู่บ้านหลังนั้นหลังจากแม่เสีย ดัสตินขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ แม้ว่าหญิงสาวจะเป็นลูกนอกสมรส แต่ทำไมครอบครัวนั้นถึงทำกับเธอเป็นคนใช้อย่างนี้ และยังเก็บเธอไว้แต่อยู่ในบ้านอีกด้วย
แต่มันก็ยิ่งทำให้ดัสตินสนใจในตัวของหญิงสาวมากขึ้น อยากจะรู้จักอยากจะจ้องตาเศร้าๆ คู่นั้น และมันก็ทำให้เขาพาลคิดไปไกล เพราะนอกจากแววตาเศร้าและหน้าหวานที่สะดุดแล้ว ยังมีริมฝีปากอวบอิ่มสีระเรื่อน่าจูบนั้นด้วย ‘อยากรู้จังว่าผู้หญิงเรียบ ๆ เวลาอยู่บนเตียงจะเป็นยังไง’ ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาดัสตินก็หาโอกาสไปที่บ้านของเหมยหลินบ่อยขึ้น
แต่เขาต้องผิดหวังเพราะเหมยหลินไม่ยอมให้เขาเข้าไปในบ้าน และรีบร้อนพาเขาออกมาจากบ้าน
.
เฟรินทร์เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าชื่อดังเมื่อเหมยหลินใช้ให้เธอมารับสร้อยเพชรแทน หญิงสาวเดินมาตามทางเรื่อยๆ จนเห็นรถหรูที่คุ้นตา
“เฟรินทร์”
“คุณแดนนี่” เขาคือคนสนิทของเหมยหลินแต่เธอไม่มั่นใจในความสัมพันธ์ว่าสามารถเรียกว่าคนรักได้หรือไม่ แต่ตอนนี้เหมยหลินเหมือนจะเจอคนที่ถูกใจแล้ว
“ขึ้นรถสิผมไปส่งมีเรื่องจะถาม”
“แต่ว่า...”
“ผมไม่ทำอะไรหรอกคุณน่าจะรู้นิสัยผมดี” เขาไปบ้านของเหมยหลินบ่อยครั้ง และเจอกับเฟรินทร์บ่อยสายตาของเขาไม่ได้มีไว้มองคนตรงหน้า เขาเอ็นดูเธอเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง
“ผมอยากถามว่าช่วงนี้เหมยหลินเขามีคนใหม่แล้วใช่ไหม”
“คะ คือ...”
“ขึ้นรถอย่าให้ผมต้องถามตอนที่มีคนอยู่เยอะๆ เลยพี่สาวคุณจะเสียหายได้” แดนนี่เปิดประตูให้เฟรินทร์แล้วอ้อมไปนั่งฝั่งคนขับ ขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว
สายตาสองคู่กำลังมองไปที่พวกเขาเหมยหลินมองแล้วเหยียดยิ้มออกมาเพราะตอนนี้เธอเบื่อแดนนี่มาก เลยหาเรื่องบอกเลิกเขา
‘ยืนยิ้มให้ผู้ชายอยู่ได้’
ส่วนสายตาอีกคู่หนึ่งมองมาเหมือนอยากจะฆ่าคนเขาหึงเขาหวงของเขา ไอ้หมอนั่นเหมือนจะรวยไม่น้อยแล้วมันเป็นใครเฟรินทร์ถึงยอมไปกับมัน
“นั่นแดนนี่กับเฟรินทร์นี่คะ”
‘เออตากูไม่ได้บอดย้ำอยู่นั่นแหละ’
“สงสัยมากับคนรัก”
“แดนนี่เขาคือคนรักคุณไม่ใช่เหรอ” น่าตบสั่งสอนผู้หญิงสมัยนี่มีแฟนบอกไม่มี มีลูกติดไม่ว่าแต่อย่ามีผัวติดมาก็พอ
“เอ่อ...เราเลิกกันไปนานแล้วค่ะ”
ดัสตินไม่ตอบที่เขาเข้าหาเหมยหลินนั้นเพราะที่ดินที่เขาต้องการ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาอยากไปบ้านของหญิงสาวบ่อยเพราะผู้หญิงอีกคน ที่ทำให้จิตใจเขาว้าวุ่นตลอดหายใจเข้าหายใจออกก็คิดถึง
“คุณรู้อะไรไหม ว่าสิ่งหนึ่งที่ผมไม่ทำเลยคืออะไร”
“ไม่รู้ค่ะ”
“ผมไม่ชอบยุ่งกับผู้หญิงที่มีเจ้าของแล้ว” เขารู้ว่าเหมยหลินกำลังหาทางบอกเลิกแดนนี่ ถ้ามีข่าวกับเขาออกไปนั้นแปลว่าเขาจะถูกตราหน้าว่าแย่งของคนอื่น
“ฉันไม่มีใครนี่คะ” มือของเธอชื้นไปด้วยเหงื่อเพราะกลัวว่าเขาจะจับได้ว่าเธอโกหก แดนนี่ไม่มีอะไรสู้ดัสตินได้เขาเข้ามาจีบเธอต้องรีบคว้าโอกาสให้ตัวเอง
เสียงร้องไห้ของเด็กทารกดังขึ้นท่ามกลางความเงียบสงัดของค่ำคืน ราวกับเสียงระฆังเตือนภัยที่ปลุกให้คนเป็นพ่อสะดุ้งตื่นขึ้นจากสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น ดัสตินยันตัวลุกขึ้นจากเตียง มือขยี้ตาที่หนักอึ้งและชุ่มไปด้วยความเหนื่อยล้า ก่อนจะก้าวไปอุ้มร่างน้อยขึ้นมาแนบอก “โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับลูก” เขาพึมพำเสียงแหบพร่า กดจูบเบาๆ บนหน้าผากของเจ้าตัวเล็กที่กำลังสะอื้น ร่างน้อยดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขน พยายามผลักอกเขาเล็กน้อยเหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง เขาถอนหายใจยาวพยายามไกวตัวลูกไปมา หัวของเขาหนักอึ้งราวกับมีหินก้อนใหญ่ทับเอาไว้ ดวงตาแดงก่ำและใต้ตาคล้ำลึกเป็นวง เหมือนหมีแพนด้าที่อดนอนมาสามวันติด เขาลองเปลี่ยนท่าอุ้ม ลองร้องเพลงกล่อม ลองพาเดินวนรอบห้อง แต่ทุกอย่างดูจะไม่เป็นผล เฟรินทร์ตื่นขึ้นมาพอดีจึงได้เห็นภาพนั้นพอดี ผู้ชายตัวโตที่อุ้มลูกไม่ค่อยเป็นกลางคืนเป็นหน้าที่เขาที่ต้องลุกขึ้นมาอุ้มลูกยามที่ลูกร้อง “ทำไมไม่นอนครับลูก…” น้ำเสียงของเขาเจือไปด้วยความอ่อนล้าและสิ้นหวัง ทารกน้อยในอ้อมแขนยังคงแผดเสียงร้องไม่หยุด เวลาผ่านไปเป็นชั่วโมงจนสุดท้าย เมื่อไม่มีแรงแม้แต่จ
เหงื่อซึมทั่วใบหน้าซีดเซียว ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความเจ็บปวด น้ำตาไหลอาบแก้มขณะกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ“อึก...!” เสียงครางลอดออกมาจากลำคอ เธอรู้สึกเหมือนร่างทั้งร่างกำลังจะแตกเป็นเสี่ยง“สูดลมหายใจเข้าไว้! อีกนิดเดียวค่ะคุณแม่!”เสียงปลอบโยนจากหมอและพยาบาลดังก้องในโสตประสาท แต่ทุกอย่างรอบตัวกลับพร่ามัว เธอไม่มีแรงแม้แต่จะตอบรับมืออุ่นของใครบางคนกอบกุมมือเธอไว้แน่น ดวงตาคมเข้มเต็มไปด้วยความเป็นห่วง“อดทนไว้นะเมียจ๋า... พี่อยู่ตรงนี้”เสียงทุ้มต่ำของเขาสั่นเครือ เธอกัดฟันแน่น ก่อนจะเบ่งแรงสุดท้ายเสียงร้องแหลมเล็กดังก้องไปทั่วห้อง พร้อมกับลมหายใจของเธอที่เหมือนถูกดึงกลับมาอีกครั้ง น้ำตาที่เอ่อคลอร่วงเผาะลงข้างแก้ม แต่ครั้งนี้เป็นน้ำตาแห่งความสุข“ลูกของเรา...” เธอพึมพำเสียงแผ่ว ขณะที่พยาบาลวางร่างเล็กๆ ไว้แนบอก“หน้าตาน่าเกลียดน่าชังจัง”หัวใจของเธอเต้นแรง แต่ไม่ใช่เพราะความกลัวหรือความเจ็บปวดอีกต่อไป เป็นเพราะชีวิตน้อยๆ ที่เธออุ้มอยู่ในอ้อมแขนก่อนหน้านี้“อื้ม...!” เสียงครางเบาๆ ทำให้ร่างสูงที่กำลังนั่งเอนหลังอยู่บนโซฟาสะดุ้งสุดตัว เขาหันขวับไปมองคนบนเตียง คนที่กำลังจับท้องตัวเองแ
เฟรินทร์มองหน้าคนที่เข้ามาบุกรุกห้องนอนของเธอ เขากระโดดขึ้นเตียงโดยที่เธอยังไม่ได้อนุญาต ตั้งแต่เกิดเหตุเขาหายเงียบไปสองสัปดาห์ไม่ยอมส่งข่าว ปล่อยให้เธอคิดไปฝ่ายเดียว และวันนี้เข้าโผล่หน้ามาทั้งโกรธทั้งคิดถึงเป็นห่วงเขาสารพัด แต่คนตรงหน้าเหมือนจะไม่รู้สึกผิด “มานอนสิจ๊ะเมียจ๋าไม่คิดถึงผัวเหรอ” “คุณตลกมากเหรอคะคุณดัสติน” เธอทั้งกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะเป็นห่วงเขา แต่เขากลับทำหน้าระรื่นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “พี่แค่ปล่อยข่าวลือน่าตอนนี้พี่กลับมาครบ 32” “ไม่ต้องมาจับ!” เธอเบี่ยงตัวหนีไม่ยอมให้เขาแตะต้องตัว “ที่รักขา~ พี่ผิดไปแล้วมาให้พี่ทักทายลูกหน่อย” “เราเลิกกันเถอะค่ะ เฟย์ไม่อยากให้ลูกตกอยู่ในอันตรายแบบคุณ” เธออยากใช้ชีวิตแบบปกติไม่ต้องคอยมีบอดี้การ์ดล้อมหน้าล้อมหลัง ชีวิตอยู่บนเส้นด้ายตลอดเวลา “ไม่เลิกให้ตายก็ไม่เลิก” พยานรักอยู่ในท้องแท้ๆ “นั่นเป็นปัญหาของคุณค่ะเราทำหน้าที่พ่อแม่ก็พอ” “ไม่เลิกพี่ไม่เลิก!” ต่อเอามีดมาจ่อที่คอก็ไม่มีวันเลิกเด็ดขาด “ออกไปค่ะ” “เฟย์ทำไมงี่เง่าจังเลยมันคืองาน
ประตูห้องฉุกเฉินปิดลงดัสตินหัวใจสลายเอาแต่โทษตัวเองว่าเป็นเพราะเขาที่ดูแลเฟรินทร์กับลูกไม่ดี น้ำตาเขาไหลออกมาอย่างไม่อายสายตาของใคร เสื้อเชิ้ตสีขาวเปื้อนไปด้วยเลือดจนเปลี่ยนไป เสียงลมหายใจของเธอหนักขึ้น...เหงื่อเย็นผุดขึ้นเต็มหน้าผากของเฟรินทร์ ขณะที่เธอนอนซมอยู่บนเตียงคนไข้ มือขาวซีดกำผ้าปูแน่น ร่างกายสั่นสะท้านเพราะความเจ็บปวดที่แล่นเข้ามาเป็นระลอก "หมอ...ช่วยลูกฉันด้วย..." เสียงของเธอสั่นเครือ ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว หมอไม่พูดอะไรให้เสียเวลา เขาขยับเข้ามาตรวจร่างกายเธออย่างเร่งด่วน สีหน้าเคร่งเครียดขณะมองจอมอนิเตอร์ที่แสดงอาการของทั้งแม่และเด็ก ในขณะที่เฟรินทร์กัดริมฝีปากแน่น น้ำตาเอ่อคลอจากความทรมาน "ยาได้แล้วค่ะ หมอ" พยาบาลส่งเข็มฉีดยาให้ หมอรับมาและรีบฉีดยาเข้าทางสายน้ำเกลือ พลางเฝ้าดูอาการของเธออย่างใกล้ชิด ทุกวินาทีช่างยาวนานเหลือเกิน หญิงสาวรู้สึกได้ถึงความเจ็บที่ค่อยๆ ทุเลาลง หัวใจของเธอเต้นระรัวด้วยความหวัง "ลูก...ลูกปลอดภัยไหมคะ?" หมอยิ้มบางๆ "ปลอดภัยแล้ว แต่อีกไม่กี่วันคุณต้องพักผ่อนให้มาก ห้ามเครี
“สวัสดีค่ะนายหญิงเมื่อคืนหลับสบายดีไหมคะ” “หลับสบายมากเลยค่ะ แต่มีรู้ว่ามีผีที่ไหนมาร้องห่มร้องไห้ทั้งคืน” พูดแล้วหันไปมองคนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ ขอบตาดำยิ่งกว่าหมีแพนด้า “ตายจริงโจรหรือเปล่าคะ” “โจรที่ไหนมันจะกล้าเข้ามาเหยียบที่นี่” แม้แต่แมลงสักตัวไม่อาจบินผ่านเข้ามาได้ ดัสตินนั่งทานอาหารเช้าเงียบๆ เมื่อเช้าดีนะตื่นก่อนหญิงสาวไม่อย่างนั้นคงโวยวายบ้านแตกที่ถูกเขาลวนลามตอนที่เธอหลับ “คุณลี่ถังไปส่งเฟย์ที่โรงแรมx หน่อยค่ะ” วันนี้เธอแต่งตัวสวยเพราะมีงานสำคัญ อย่าคิดว่าไม่รู้เมื่อคืนเขาแอบทำอะไรกับเธอ “ไปทำไม” อยู่ดีๆ จะไปโรงแรมไอ้แดนนี่ “ชิ” เฟรินทร์ไม่ตอบเดินไปรอลี่ลังที่รถดัสตินไม่รอช้ารีบเข้าไปนั่งในรถ จนมาถึงโรงแรมเขาถึงนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นงานหมั้นของแดนนี่ เฟรินทร์เดินเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมหรู โดยมีดัสตินเดินตามหลังและลูกน้องของเขาเดินตามเป็นโขยง หลายคนกำลังคิดว่าสาวน้อยคนนี้คงมีความหมายสำหรับเขามากชายหนุ่มดูหวงแหน “มาแล้วเหรอพี่ชาย” “แด๊ดกับหม่ามี้ยังไม่กลับมาจากเที่ยวรอบโลก ไว้งานแต่งท่านต้องม
ดัสตินพาหญิงสาวกลับมาที่เซฟเฮาส์ในมาเก๊าเขาค่อยๆ วางหญิงสาวลงบนเตียงกลัวว่าคนตัวเล็กจะตื่น เขานั่งมองใบหน้าของเธอและหอมแก้มทั้งว้ายและขวาเวลานี้อะไรก็ยอมทุกอย่างขอแค่หญิงสาวไม่หนีไปจากเขาก็พอ เขาเดินมาส่องกระจกหน้าแดงบวมแดงแต่ไม่คิดโกรธเมีย“ผมเอายามาให้ครับ”“อื้อ ขอบใจ”“ทานยาแก้ปวดก่อนดีกว่าครับ”ดัสตินยอมทานยาเพราะตอนนี้เขาปวดแผลมาก ตอนที่อุ้มเมียไม่รู้สึกเจ็บเท่าไร เขานั่งลงนั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง“โทนี่”“ครับ”“นายทำงานกับฉันมากี่ปีแล้ว?”“14 ปีแล้วครับ” ถามแบบนี้คงไม่คิดจะให้กันออกใช่ไหม รู้สึกเสียวสันหลังวาบ“ตอนนี้นายอายุ 36 แล้วหนิ...” เขาเว้นจังหวะการพูด “นายง้อผู้หญิงยังไงวะ นายอายุเยอะกว่าฉันน่าจะมีประสบการณ์มาก่อน”ไอ้โทนี่เป็นขี้ข้ารับใช้นายตั้งแต่เรียนจบจนอายุปูนนี้ยังไม่มีเมียตัวเป็นตน เขาไม่เคยจีบสาวมาก่อนและจะตอบคำถามเจ้านายยังไง“ถ้าตอบว่าไม่เคยจีบสาวมาก่อนเสียชาติเกิดมาก”แรงมาก แล้วตัวเองไม่เคยจีบสาวมาก่อนเหมือนกัน ถึงได้ทุกข์ระทมตกนรกแสนหมื่นล้านครั้งแบบนี้ ทำงานถวายหัวจะเอาเวลาที่ไหนไปจีบสาว“ผม...”“มึงตอบดีๆ” เขาคาดหวังกับคำตอบของโทนี่มาก จะได้ตามง้อเฟรินทร