Share

บทที่ 5

Author: ซูเหอ
หลินก่วนปลอบพ่อกับแม่มาตลอดทางกลับบ้าน แสดงออกถึงความกตัญญูอย่างสุดความสามารถ

เพื่อเป็นการชดเชยให้พี่ แม่ฉันตั้งใจทำบะหมี่อายุยืนให้เธอหนึ่งชามโดยเฉพาะ

“ลูกสาวสุดที่รักของแม่ วันนี้ทำให้ลูกต้องได้รับความลำบากใจแล้ว”

“กินบะหมี่ชามนี้ซะนะ ต่อไปจะได้อายุยืนร้อยปี”

หลินก่วนอิงเข้าไปในอ้อมอกของแม่อย่างออดอ้อน บอกว่าชาตินี้ตนมีความสุขเหลือเกิน

“เฮ้อ ถ้าหากเล่อขุยอยู่ด้วย ก็คงดี”

ตอนที่หลินก่วนพูดถึงฉัน กัดริมฝีปากเอาไว้ ท่าทางเหมือนกำลังจะร้องไห้

หลินเจ๋อผู้มีอารมณ์ฉุนเฉียวเบ้ปาก “ก๋วนก่วน เพราะเธอจิตใจดีแบบนี้ไง ถึงได้ถูกรังแกตลอด”

ฉันยืนอยู่ข้าง ๆ จ้องมองพวกเขา รู้สึกน่าขยะแขยงเป็นอย่างยิ่ง

คนในครอบครัวลำเอียงไปทางพี่สาว ค่อนข้างชัดเจนมากแล้ว แต่พี่รู้สึกว่ายังไม่เพียงพอ

ฉันรู้ว่า เป็นเพราะพี่จงเกลียดจงชังการมีอยู่ของฉัน

อันที่จริงตอนแรกเริ่ม แม่ของฉันไม่ได้ปฏิบัติกับฉันแย่ถึงขนาดนี้

ตอนวันเกิดของฉัน แม่ก็เคยทำบะหมี่อายุยืนให้ฉันหนึ่งถ้วยด้วยเหมือนกัน

ฉันดีใจจนเกือบจะกระโดดโลดเต้น

คำพูดขอบคุณยังไม่ทันได้พูดออกจากปาก หลินก่วนก็น้ำตาคลอ “เพียงแค่นึกถึงความลำบากที่แม่ได้รับตอนคลอดพวกหนู หนูก็รู้สึกแย่”

“หนูขอแค่ให้แม่ปลอดภัยก็พอ”

หลังจากที่พ่อของฉันได้ยิน ก็ถลึงตาค้อนฉันทีหนึ่ง “ฉลองวันเกิดอะไร แค่เห็นก็ขัดหูขัดตา ไสหัวกลับไปที่ห้องของแก”

บะหมี่ชามนั้น ถูกพ่อของฉันโยนลงถังขยะ ฉันยังไม่ได้กินเลยแม้แต่คำเดียว

ตอนนี้ลองมาคิดดู ไม่น่าแปลกใจที่ฉันจะตายเร็วขนาดนี้

หลินก่วนยังจงใจวิ่งมาหาฉันที่ห้อง คำที่พูดออกมากลับเหมือนใบมีดที่อาบยาพิษ

“อยากจะกินบะหมี่ที่แม่ของฉันทำอีก หน้าไม่อายจริง ๆ”

“แกมันตัวซวย ทำไมไม่ตายไปซะ”

ฉันโมโหจนผลักพี่สาวทีหนึ่ง หัวของเธอกระแทกเข้ากับประตูพอดี

คืนนั้น ฉันถูกพ่อนำตัวไปขังไว้ที่ห้องใต้ดินครั้งแรก แล้วทิ้งบ่อเกิดของหายนะไว้ให้ตัวฉัน

มืดเหลือเกิน ฉันตกใจจนหายใจไม่ออก ยิ่งไม่กล้าตะโกนเรียกแม่ ทำได้เพียงพยายามเคาะประตู

ฝันร้ายพวกนั้นก็ตามหลอกหลอนฉันมาตลอด เหมือนกับว่าได้ยินเสียงฉีกเสื้อผ้าดังอยู่ข้างหูฉัน

ฉันขดตัวเป็นก้อนกลมอย่างทรมาน ทำได้เพียงตะโกนเรียกคุณยาย ให้รีบมาช่วยเล่อขุยด้วย

ความหวาดกลัวทั้งหมดโจมตีฉัน

ตอนที่ฉันตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เป็นแม่ที่กำลังกอดฉันอยู่ที่โรงพยาบาล

แต่เมื่อฉันเห็นว่าเป็นแม่ ก็ตกใจจนไปหลบอยู่ที่มุมห้องทันที

ปากเอาแต่ร้องตะโกนว่า “หนูไม่เอาแม่ ไม่เอาแม่”

แต่ฉันลืมไปว่า นี่เป็นครั้งแรกที่แม่เป็นฝ่ายกอดฉัน

มือของแม่ฉันชะงักอยู่กลางอากาศ สีหน้าเย็นชาทันที “เป็นคนอกตัญญูที่เลี้ยงไม่เชื่องจริง ๆ ด้วย”

ฉันถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคกลัวความมืด แม่ไม่ได้มีปฏิกิริยาใด ๆ หันหลังกลับแล้วเดินออกจากโรงพยาบาล

คืนวันนั้น ฉันเกือบถูกความเสียใจกลืนกิน

เล็บจิกเข้าไปในเนื้อ ก็ไม่สามารถบรรเทาความสิ้นหวังและกระสับกระส่ายของฉันลงได้

นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม่ก็กลายเป็นแม่ที่รังเกียจฉันมากกว่าเดิม

หลังจากที่ฉันขึ้นมหาลัยฯ หลินก่วนอยากได้ห้องทำงานส่วนตัว

แม่ของฉันไม่พูดพร่ำทำเพลง เรียกให้คนมาโยนของของฉันทิ้ง ทำห้องนอนของฉันเป็นห้องหนังสือ

พวกเขาอยากจะขับไล่ฉันออกจากบ้านจนอดรนทนไม่ไหว

ไม่เป็นไร ตอนนี้ฉันตายแล้ว ไม่กลับไปอีกแล้ว
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แฝดน้องผู้แสนอาภัพ   บทที่ 16

    ทันทีที่ท้องฟ้าเริ่มสว่างเล็กน้อย พ่อของฉันก็รีบไปที่บ้านนอกเขาอดทนใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปไม่ได้อีกแม้แต่วันเดียวแม่ของฉันทำอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยอย่างเงียบ ๆ “เรื่องนี้น่าอายเหลือเกิน ไม่ต้องไปรบกวนคนอื่นแล้ว”“กินข้าวเสร็จ พวกเราสี่คน ไปด้วยกันเถอะ!”หลินก่วนหยิบอาหารเช้าขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม “แม่คะ ในที่สุดแม่ก็คิดได้แล้ว”หลินเจ๋อบอกให้แม่อย่ากังวลมากจนเกินไป เพียงแค่ย้ายหลุมศพเท่านั้น เป็นแค่เรื่องเล็กน้อยสีหน้าพ่อของฉัน ในที่สุดก็ไม่ได้วางมาดอีกต่อไปแต่ฉันรู้สึกไม่สบายใจ เมื่อคืนวานนี้แม่พูดว่าจะชดใช้ความผิด?แม่อยากจะชดใช้ความผิดยังไง?“อย่าคิดว่าทำแบบนี้แล้ว หนูจะยกโทษให้แม่นะ ไม่มีทางหรอก”“แม่คะ แม่ได้ยินไหม?”ที่ตอบฉันกลับมามีเพียงเสียงออกจากบ้านเท่านั้น รวมทั้งเสียงเปิดประตูรถครั้งนี้ เธอเลือกนั่งที่ด้านข้างคนขับยังคงเป็นหลินเจ๋อที่เป็นคนขับรถตลอดทาง แม่เอาแต่นิ่งเงียบ เงียบเสียจนน่ากลัวเพื่อผ่อนคลายบรรยากาศ หลินเจ๋อเปิดเพลงคลอเบา ๆ หลินก่วนก็ร้องเพลงตามเบา ๆ“พวกคุณเจ็บปวดหัวใจบ้างไหม?”เมื่อใกล้จะถึงบริเวณมุมหัวโค้งทางบนทางภูเขา เสียงอันแผ่วเบาของแม่

  • แฝดน้องผู้แสนอาภัพ   บทที่ 15

    ฉันพยายามดิ้นรนทุกวัน อยากจะออกไปจากที่นี่หลังจากกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อน ไม่เป็นตัวของตัวเอง อารมณ์ของฉันก็ยิ่งฉุนเฉียวมากขึ้นเรื่อย ๆฉันลอยไปยังหัวเตียงของแม่ เอาแต่ถามแม่ทำไมทำไมหลังจากที่ฉันตายไปแล้ว ยังออกไปจากที่นี่ไม่ได้อีกฉันบอกแม่ว่า ฉันเกลียดแม่ ไม่มีทางยกโทษให้แม่ตลอดไปพูดไปพูดมา ฉันก็หยุดลง น้ำตาไหลพรากความเจ็บปวดในหัวใจ ยิ่งเพิ่มทวีคูณขึ้นมาอีกแล้วกลางดึก จู่ ๆ แม่ของฉันก็ฝันร้ายจนตกใจตื่น เธอมองตรงไปข้างหน้า ซึ่งก็คือทิศทางของฉันพ่อของฉันเปิดไฟ ถามแม่ว่าเป็นอะไรแม่เอาแต่ร้องไห้และพูดว่าขอโทษ“ก็แค่ชีวิตชั้นต่ำชีวิตหนึ่งเท่านั้น มันตายไปแล้ว ตายไปแล้ว” พ่อของฉันระเบิดอารมณ์ แล้วกระแทกลงจากเตียงอย่างรุนแรงแม่ของฉันจ้องมองพ่ออย่างไม่เชื่อ “เธอก็เป็นลูกสาวของคุณเหมือนกันนะ!”“มันไม่ใช่ มันไม่ได้แซ่หลิน ไม่เคยเป็น”ถูกต้อง ฉันไม่ได้แซ่หลิน จะเป็นลูกสาวของพ่อได้ยังไงคนที่เชื่อเรื่องฮวงจุ้ยขนาดนี้ ยอมฟังคำพูดของคนอื่น แต่ไม่ยอมรับว่าฉันเป็นลูกสาวของเขาเช่นเดียวกัน“อีกเรื่อง ฉันถามอาจารย์ฮวงจุ้ยแล้ว บอกว่าหลุมศพของเธอ ไม่ส่งผลดีกับพวกเรา”“วิธีเดียวที่จะแ

  • แฝดน้องผู้แสนอาภัพ   บทที่ 14

    หลังจากแม่ของฉันฟังจบ ก็ยืนเซ่อไปทันทีในที่สุดแม่ก็เข้าใจแล้วว่า ทำไมฉันถึงกลัวความมืด ทำไมตอนอยู่ที่โรงพยาบาลถึงได้พูดคำพูดประโยคเดียวกันแม่ไม่แม้กระทั่งจะให้ฉันได้รับการรักษา ยังด่าว่าฉันเป็นคนอกตัญญูอีกอาหวังถามแม่ประโยคสุดท้าย “พวกเธอเอาแต่พูดว่าเล่อขุยเป็นตัวซวย ถ้าอย่างนั้นอยู่กับพวกเธอมาสิบกว่าปี แล้วใครได้รับความทุกข์ทรมาน?”“เธอทำให้ใครต้องซวยไหม?”แม่ของฉันร้องไห้และเอาแต่พูดขอโทษ นอกจากพูดคำนี้แล้ว แม่ก็ไม่ได้พูดคำอื่นแม่รู้สึกผิดต่อฉัน ยิ่งรู้สึกผิดต่อคุณยายความรักที่สายเกินไปมันไร้ค่าเสียยิ่งกว่า ฉันไม่รับหลังจากกลับถึงบ้าน แม่ก็เป็นไข้หนัก นอนกอดรูปของฉันเอาไว้ทั้งวัน อยู่ในอาการหดหู่หลินก่วนก็ใช้ชีวิตไม่มีความสุขเช่นกันหลังจากที่เสิ่นเหยียนซิงรู้ว่าฉันตาย เขาถามหลินก่วนว่า ทำไมถึงผลักฉันเข้าไปในห้องใต้ดิน“พวกคุณทุกคนกลั่นแกล้งฉัน เธอตายไปแล้ว ทำไมถึงต้องตำหนิฉันทุกอย่าง?”“ฉันรำคาญที่ต้องเห็นเธอ เธอไม่ควรกลับมา”เสิ่นเหยียนซิงเหมือนจะเดาอะไรบางอย่างได้ “ตอนนั้น ที่คุณพูดว่าเธอนิสัยไม่ดี ทั้งหมดเป็นเรื่องหลอกลวงใช่ไหม?”หลินก่วนเช็ดน้ำตาบนใบหน้า “ที

  • แฝดน้องผู้แสนอาภัพ   บทที่ 13

    หลังจากกลับมาถึงบ้าน เรื่องแรกที่แม่ของฉันทำ ก็คือรื้อห้องทำงานของหลินก่วนทิ้งนำโคมไฟทั้งหมดวางไว้ในนั้น“พ่อ พ่อดูแม่สิคะ นี่แม่เป็นอะไรไปเหรอคะ?”“ของของคนตายยังเอากลับมาอีก อัปมงคลมาก ๆ”หลินก่วนหลบอยู่ที่ประตู เอาแต่กอดแขนพ่อของฉันเอาไว้แน่น“มันตายไปแล้ว เก็บของพวกนี้ไว้ทำไม”“เก็บไว้ในบ้านก็เป็นอัปมงคล”พ่อของฉันโมโหจนเดินเข้าไป หยิบโคมไฟตั้งโต๊ะขึ้นมากำลังจะโยนลงบนพื้น“วางลง ใครก็ห้ามแตะ”แม่ของฉันควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ทันที ตะโกนเสียงดัง หลินเจ๋อตกใจจนรีบเข้ามาประคองแม่เอาไว้แม่แย่งโคมไฟตั้งโต๊ะจากในมือพ่อของฉัน แล้วกอดเอาไว้ในอ้อมอกแน่นเหมือนกับว่านั่นเป็นสิ่งของล้ำค่า“อีกเรื่อง เถ้ากระดูกของเล่อขุยฝังไว้ที่บ้านนอก พวกคุณจะกลับไปไหม?”“เธอจะได้พักอย่างสงบสุข”แม่ของฉันเหลือบตามองคนตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา“กลับครับ กลับไปแน่นอนครับ” มีเพียงหลินเจ๋อที่พยักหน้าเห็นด้วยหลินก่วนที่ถูกจ้องเขม็ง พยักหน้าตอบรับด้วยความตกใจ“แค่คนตายคนเดียว มีค่าอะไรให้ระลึกถึง” พ่อของฉันโมโหจนกระแทกประตูแล้วเดินออกไปใช่แล้ว ฉันตายไปแล้ว มีอะไรให้น่าระลึกถึงแม่ของฉันงมงายเรื่องนี

  • แฝดน้องผู้แสนอาภัพ   บทที่ 12

    หลังจากที่พ่อของฉันกลับถึงบ้าน ถึงได้เชื่อว่าฉันตายไปแล้วจากนั้น ก็ขมวดคิ้วแล้วมองหลินก่วน “ไม่ต้องร้องไห้แล้ว นี่เป็นดวงของเธอ”“ตายอย่างสกปรกขนาดนั้น พูดออกมาก็ยังรู้สึกขยะแขยง”“หลังจากนี้ไปเรื่องนี้ก็ให้มันผ่านไปเถอะ ห้ามใครพูดถึงอีก”ที่แท้ในใจของพ่อ ฉันไม่เป็นที่รักจริง ๆ ถึงขั้นยังน่ารังเกียจด้วยซ้ำโทรศัพท์มือถือของฉันดังขึ้นอีกครั้ง หลินก่วนกรี๊ดออกมา เห็นได้ชัดว่าผิดปกติมากเป็นสายจากคุณป้าหวังเจ้าของบ้าน คุณป้ามาเยี่ยมฉัน ตั้งใจนำของกินบางอย่างมาให้ฉันนอกจากคุณยายของฉันแล้ว นี่เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ห่วงใยฉันแม่ของฉันพาหลินเจ๋อไป ในไม่ช้าก็ตามหาที่ฉันอยู่ของฉันเจอ ที่นั่นกันดารเล็กน้อยบ้านหนึ่งห้องนอนหนึ่งห้องรับแขก ทำความสะอาดอย่างสะอาดสะอ้านมีสิ่งเดียวที่แตกต่างก็คือ ด้านในห้องมีโคมไฟตั้งโต๊ะสีสันสดใสมากมาย เพียงแค่เปิด ก็สว่างพร่างพราวเป็นอย่างยิ่ง“ตอนที่เล่อขุยมีชีวิตอยู่เป็นคนโรแมนติกมากนี่ แต่งตัวเป็นเจ้าหญิง”“พยายามจะใช้ชีวิตเป็นให้เป็นเจ้าหญิง” หลินเจ๋อเบะปากแม่ของฉันมองค้อนพี่ทีหนึ่ง พี่ถึงได้หุบปาก“เป็นเพราะเธอกลัวความมืด กลัวฟ้าร้อง” คุณป้าหว

  • แฝดน้องผู้แสนอาภัพ   บทที่ 11

    ด้วยการนำทางของตำรวจ แม่ของฉันได้เห็นตัวคนร้ายแล้วในที่สุดฉันก็ได้เห็นหน้าของพวกมันชัด ๆ แล้ว หนึ่งในคนนั้นมีสีผิวดำ อีกคนหนึ่งไว้เคราเล็กน้อยเป็นคนไม่ดีจริง ๆ นั่นแหละ“คืนนั้น พวกเราแค่อยากจะไปขโมยของนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้น ไม่ได้อยากจะฆ่าใคร”“ที่ห้องใต้ดิน เธอนอนอยู่บนพื้นตะโกนให้ช่วยชีวิต ให้พวกเราช่วยเธอ ในปากเอาแต่พึมพำว่าพระพุทธรูปอะไรสักอย่าง”“เดิมทีหาอะไรไม่เจอเลย ก็เลยข่มขืนเธอ”“อีกอย่าง พวกเราไม่ได้เจตนาจะฆ่าเธอ”ทั้งสองคนกุมหัว ใบหน้าเต็มไปด้วยความเสียใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่พลาดรับสายโทรศัพท์ ในใจทนต่อความกดดันไม่ไหวเมื่อฉันได้ฟังพวกเขาปริปากพูด ความรู้สึกหวาดกลัวในคืนนั้นก็โจมตีอีกครั้ง“น้อง ต้องการคุณยายอะไร พี่ก็สามารถ...”“เด็กดี ไม่ต้องกลัว...”แม่ของฉันพิงประตู สีหน้าซีดขาวขึ้นเรื่อย ๆเมื่อหันกลับไปมองหลินก่วน มือของพี่สั่นอย่างรุนแรง แม้กระทั่งการหายใจก็รุนแรงขึ้น“ก๋วนก่วน ตกใจเหรอ?” หลินเจ๋อเริ่มเป็นห่วงพี่“พี่ ฉันกลัวมากเลย”พี่ทนไม่ไหว พิงเข้าไปในอ้อมอกของหลินเจ๋อไม่กลัวได้ยังไงล่ะ?เป็นเพราะพี่เป็นคนผลักฉันเข้าไปในห้องใต้ดินด้วยต

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status