ตอนที่ 6 เพื่อนเก่า
ในนิยายเรื่อง ‘ปกป้องหัวใจวาริน’ หลังจากที่วารินได้ดอกไม้จากเด็กส่งดอกไม้ชื่อภาคินฉากก็ตัดไปที่บทสนทนาผ่านโทรศัพท์ของอาเธอร์และคนที่น่าจะเป็นผู้ลงทุนในงานวิจัยของอาเธอร์ จากบทสนทนาของพวกเขาจับใจความได้ว่าผู้ลงทุนคนนั้นชื่อว่าโนอาห์และเป็นเพื่อนคนสนิทของอาเธอร์และเป็นผู้มีพลังจิตที่สามารถถอดจิตได้และเขากำลังมีปัญหาเกี่ยวกับพลังของเขามากเพราะพลังของเขาทำงานเองโดยที่เขาไม่ได้ตั้งใจหรือก็คือเขาควบคุมมันไม่ได้ มันทำให้จิตของเขาสามารถหลุดออกจากร่างได้ตลอดเวลา
มันเป็นปัญหาในชีวิตประจำวันพอสมควรและอาจจะอันตรายถึงชีวิตด้วยเพราะถ้าเขาไม่รู้ว่าจิตตัวเองออกจากร่างและปล่อยให้จิตออกจากร่างนานเกินไปเขาก็จะตายในที่สุด
[เมื่อไหร่ยาตัวใหม่จะสำเร็จ ฉันไม่ได้ชอบล้มตัวนอนทุกที่ทุกเวลาแบบนี้หรอกนะ] น้ำเสียงเครียดปนร้อนรนของโนอาห์ดังผ่านโทรศัพท์ของอาเธอร์
“ก็คงอีกสักพักล่ะนะ หนูทดลองคราวนี้ฉันอยากจะทะนุถนอมสักหน่อย” อาเธอร์หัวเราะและยิ้มกว้างเมื่อนึกถึงหนูทดลองของเขา ซึ่งนั่นก็คือวาริน
[คนที่นายบอกว่าน่าสนใจสินะ...ฉันอยากเจออยู่เหมือนกัน] โนอาห์คล้ายสนใจขึ้นมา
“ฉันจองแล้ว อย่ายุ่งเชียวล่ะ”
[ฉันจะไปที่คอนโดของนายวันพรุ่งนี้]
ฉันยกนิ้วกลางให้อาเธอร์กับโนอาห์ในนิยายแล้วอ่านต่อ
หลังจากบทสนทนาของพวกเขาจบลงฉากก็ตัดมาที่วาริน ระหว่างที่วารินกำลังเดินกลับคอนโดหลังจากสอนที่โรงเรียน วารินก็ไปเจอชายหนุ่มรูปหล่อนอนหมดสติอยู่ข้างทาง เนื่องจากว่าในเวลานั้นถนนโล่งไม่มีใครเลยวารินก็เลยต้องเป็นคนเข้าไปช่วยชายคนนั้น ในตอนนั้นเองก็มีกลุ่มคนปริศนาโจมตีไปที่วารินและชายที่นอนผมสติคนนั้น
วารินที่ฝึกต่อสู้มาแล้วสามารถปกป้องตัวเองและชายคนนั้นได้และสามารถจัดการพวกนั้นด้วยตัวเอง บอดี้การ์ดที่อาเธอร์ส่งมาให้ปกป้องวารินยังไม่ทันได้ออกโรงเลย หลังจากชายคนนั้นก็ฟื้นขึ้นมาเขาก็แนะนำตัวว่าชื่อ โนอาห์ และเขาบอกว่าเขาอยากจะพาวารินไปเลี้ยงขนมหวานเพื่อเป็นการขอบคุณที่ช่วยเขาไว้
ความเป็นศัตรูของฉันที่มีต่อโนอาห์พุ่งสูงทันใด
ในนิยายบรรยายไว้ว่าวารินและโนอาห์ไปร้านขนมหวานด้วยกันและสั่งขนมหวานเหมือนกันมากิน วารินก็เลยเหมือนจะรู้สึกดีกับโนอาห์เพราะมีความชอบใกล้เคียงกัน และรู้สึกเอ็นดูด้วยเพราะโนอาห์มีภาพลักษณ์เย็นชาแต่กลับชอบของหวานนุ่มนิ่มน่ารัก วารินมีความคิดว่าโนอาห์คล้ายฉัน
ฉันอยากถามวารินว่า ตรงไหนกันที่ฉันคล้ายกับมัน! บ้าเอ๊ย! ไอ้บรรยากาศดี๊ดีนั่นมันคืออะไร! ทำไมวารินบรรยายรูปลักษณ์โนอาห์อย่างดีขนาดนั้น!? คนที่มีผมสีดำและตาสีฟ้าก็ไม่ได้ดูโดดเด่นอะไรขนาดนั้นซะหน่อย! ว่าแต่คุ้นๆ นิดหน่อยนะ ฉันพยายามนึกแต่ก็นึกไม่ออกฉันก็เลยปัดความรู้สึกคุ้นๆ ทิ้งและพยายามสงบอารมณ์หงุดหงิดและอ่านนิยายต่อ แต่อารมณ์อ่านนิยายได้หายไปหมดแล้วฉันก็เลยต่ออ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง สุดท้ายก็ปิดหนังสือแล้วถอนหายใจ
เอาเถอะ ถึงจะอ่านต่อไปมันก็คงไม่มีประโยชน์มากนักเพราะนิยาย ‘ปกป้องหัวใจวาริน’ ไม่สามารถบอกสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างถูกต้องอีกต่อไปแล้ว นั่นก็เพราะว่าฉันได้เปลี่ยนชะตากรรมของตัวเองไม่ให้ตายตามที่ในนิยายเขียนไว้ การเปลี่ยนแปลงนี้ได้ทำให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกความเป็นจริงจึงไม่ตรงกับเหตุการณ์ที่เขียนไว้ในนิยาย ‘ปกป้องหัวใจวาริน’ อย่างสิ้นเชิง
มันเป็นเรื่องดีที่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตที่ฉันไม่ชอบเปลี่ยนแปลงไป แต่มันก็ไม่ดีที่ฉันไม่สามารถรู้อนาคตได้อย่างแม่นยำอีกต่อไป การที่ไม่รู้ว่าอันตรายจะมาเมื่อไหร่นั่นแหละปัญหาที่ฉันคิดหนักและกังวลมาก ต่อจากนี้ไปฉันคงต้องขบคิดวิธีป้องกันภัยทุกด้านอย่างจริงจังแล้วเพราะอย่างไรเสียมันก็ไม่แน่ว่าอาเธอร์จะช่วยปกป้องฉันและวารินให้รอดปลอดภัยไปตลอดได้ อีกอย่างฉันไม่อยากพึ่งพาการปกป้องคุ้มครองจากมัน! ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม!
“เลอา ผมตัดสินใจแล้วว่าจะขอให้คุณอาเธอร์ช่วยเหลือเรื่องการฝึกควบคุมพลังของผม”
เดี๋ยวที่รัก! ที่พูดนั่นล้อเล่นใช่ไหม!?
“เอาจริงเหรอวาริน เธอจะฝึกควบคุมพลังจริงๆ เหรอ? ไม่กลัวว่ามันจะอันตรายเหรอ? อันตรายแน่ๆ มันต้องมีอันตรายแน่ๆ” ฉันร้อนรนพยายามรั้งวารินไว้ แต่เพราะร้อนรนมากเกินไปก็เลยพูดจาไม่รู้เรื่อง
“ถ้าผมไม่ฝึกควบคุมพลังและฝึกการต่อสู้มันจะยิ่งอันตรายกว่านะครับ” วารินจ้องตาฉันด้วยสายตาแน่วแน่ “ไม่ว่าการฝึกจะอันตรายแค่นั้นผมก็จะอดทนเพื่อที่ผมจะได้แข็งแกร่งและปกป้องคุณได้” วารินเอ่ยด้วยสีหน้าและน้ำเสียงจริงจังและหนักแน่น
“แต่...” แต่ที่ฉันกังวลมากกว่านั้นก็คือไอ้อาเธอร์มันจะแย่งเธอไปจากฉันน่ะสิ!
“ผมจะไม่ยอมให้คุณเป็นอะไรไปเพราะผมรักคุณ” วารินกอดฉันและจูบหน้าผากของฉัน
“แล้วจะไปพบไอ้...คุณอาเธอร์ตอนไหนล่ะ” ฉันถามเพื่อจะได้ตามไปด้วย
“ผมต้องนัดเขาก่อนเพราะเขายุ่งมาก น่าจะอีกสักพักกว่าที่ผมจะได้ไปพบเขา” วารินพูด
“ถ้าจะไปพบเขาก็อย่าลืมบอกฉันด้วยนะ” ฉันจะได้ตามไปจับตาดู “จะว่าไปพอเห็นเธอมุ่งมั่นขนาดนั้นฉันก็คิดว่าฉันควรทบทวนวิชาดาบอย่างจริงจังแล้วสิ” ฉันเอ่ยพลางยิ้มเหี้ยม ฉันจะใช้วิชาดาบจัดการกับพวกที่กล้ามายุ่งกับวารินให้หมดเลย!
แต่ก่อนอื่นฉันคงต้องไปทักทายเพื่อนเก่าเสียก่อน
[หัวหน้า! ในที่สุดคุณก็นึกได้ว่ายังมีผมอยู่บนโลก! นั่นหมายความว่าคุณเลิกกับไอ้นุ่มนิ่มนั่นแล้วใช่ไหม!?]
ยังไม่ทันที่ฉันจะได้เอ่ยคำทักทายอีกด้านของปลายสายก็พูดขึ้นมาเสียก่อนและฉันแทบอยากจะวางสายทันที
“เลออน ถ้านายยังพูดเรื่องไร้สาระนั่นฉันจะวางสายทันที” ฉันเตรียมจะกดวางสาย
[เดี๋ยวๆ! ผมพูดว่าหัวหน้าและวารินรักกันจนโลกล่มสลายต่างหากล่ะ! พวกคุณไม่มีทางเลิกกันจนวันตาย ผมฟันธงเลย!] เสียงปลายสายรีบพูดเอาใจฉันอย่างรีบร้อน ฉันหัวเราะเฮอะในลำคอ [เอ่อ หัวหน้าโทรมามีเรื่องอะไรเหรอครับ?]
“ฉันโทรมาวันนี้ก็เพราะอยากจะนัดพบนาย...ไม่สิ นัดพบแก๊งของเรา มันก็นานแล้วนะที่เราไม่ได้นัดรวมตัวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา” ฉันยกยิ้มมุมปากเมื่อนึกถึงกลุ่มเพื่อนที่ร่วมฝ่าฟันชีวิตกันมา ในช่วงเวลาที่ได้อยู่กับพวกเขามันช่างตื่นเต้นเร้าใจและสนุกสนานมาก
[น่าคิดถึงจัง ผมล่ะอยากให้คุณกลับมาคุมแก๊งเหมือนเมื่อก่อนมาก] เลออนรำพึงรำพัน
“โตๆ กันแล้วนะ จะให้ไปเล่นเป็นนักเลงข้างถนนอีกรึไง”
[นักเลงข้างถนนอะไรกัน! เราอัปเดตจากนักเลงเป็นมาเฟียแล้วนะ!]
“จะอะไรก็ช่าง ฉันเรียกรวมตัวครั้งนี้เพราะมีเรื่องอย่างให้ช่วย”
[แค่โทรไปบอกเจ้าพวกนั้นว่าหัวหน้ามีเรื่องอยากให้ช่วย พวกนั้นจะต้องรีบแจ้นมาหาทันทีแน่ ไม่ต้องเป็นห่วง]
“อีกสามวันเจอกัน” ในสถานการณ์เช่นนี้ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดีเพราะฝ่ายพวกฆาตกรไม่ยอมให้คนที่มันคิดว่าเป็นเหยื่อเตรียมตัวหรอก “ไม่คิดเลยว่าฉันต้องเรียกรวมตัวแก๊ง DH อีกครั้งในชีวิตนี้”
แก๊ง DH คือแก๊งที่ฉันและเลออนและเพื่อนคนอื่นอีกสามคนร่วมมือกันสร้างขึ้นมาในสมัยที่ยังเรียนอยู่มัธยมปลาย ในช่วงเวลานั้นเป็นช่วงวัยรุ่นที่คึกคักและอยากหาอะไรตื่นเต้นทำ ฉันและเพื่อนๆ จึงอยากตั้งแก๊งขึ้นมาเพื่อให้เป็นแหล่งรวมตัวของเหล่าวัยรุ่นที่อยากหาเรื่องสนุกๆ เล่นกัน แก๊ง DH จึงกำเนิดขึ้นมา ซึ่งชื่อแก๊ง DH ก็ย่อมาจาก Dark Hero หรือที่แปลว่า ฮีโร่แห่งความมืด พวกฉันได้ชื่อนี้ก็เพราะว่าในช่วงนั้นพวกฉันพากันติดเกมฮีโร่กันพอดีน่ะนะ
มานึกย้อนดู ชื่อ Dark Hero มันเป็นชื่อที่สิ้นคิดซะไม่มีและดูเด็กมาก พอเด็กวัยรุ่นอย่างพวกฉันใช้ชื่อนี้มันดูเหมือนอยากอวดกล้ามให้คนอื่นดูว่าตัวเองเจ๋งแค่นั้น แต่ตอนนั้นพวกฉันก็เจ๋งจริงนะ นักเลงแถบเดียวกันกับพวกฉันไม่เคยสู้กับพวกฉันได้เลย ตอนนั้นฉันจำได้ว่าตัวเองเป็นวัยรุ่นเลือดร้อนมาก ใช้วิชาดาบที่เรียนมาตั้งแต่เด็กไล่ตีคนอื่นไปทั่ว
มานึกย้อนดูตัวเองฉันก็นึกอายอยู่เหมือนกันและนึกเสียใจด้วยที่ตัวเองดันไปสร้างความประทับใจแรกพบกับวารินด้วยการไปรีบไถเงินของเขา ใครจะไปคิดเล่าว่านักเลงขวางโลกอย่างฉันจะไปหลงรักผู้ชายนุ่มนิ่มแบบวารินได้และยอมออกจากแก๊งเพื่อมาใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดาทั่วไปกับวาริน จนถึงตอนนี้ลูกน้องและเพื่อนของฉันยังบอกเลยว่าฉันและวารินไม่เหมาะกัน เลิกกันไปซะ
ซึ่งฉันก็ต่อยแม่งร่วงทุกรายที่บังอาจบอกให้ฉันเลิกกับวาริน หลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าพูดเรื่องนี้ต่อหน้าฉันอีกเลย...
ฉากลับฉากหนึ่งในนิยาย ปกป้องหัวใจวาริน
หลังฉาก: รอยยิ้ม
“ไม่ได้นะหัวหน้า คุณจะทิ้งแก๊งไปแบบนี้ไม่ได้!” เลออนแย้งทันทีเมื่อเลอาบอกว่าจะออกจากแก๊งเพื่อไปใช้ชีวิตแบบคู่รักธรรมดาทั่วไป
“ทิ้งแบบนี้อะไรกัน ธุรกิจที่ดูแลก็ไปได้สวยนี่ แก๊งของเราก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรสักหน่อย” เลอากลอกตากับความหัวดื้อของเพื่อนชายคนสนิท “ฉันอยากจะไปใช้ชีวิตกับวารินอย่ามาขวางจะได้ไหม” ว่าแล้วก็โอบเอวแฟนหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ
“เลอา เธอจะทำอย่างนี้จริงๆ เหรอ? ถ้าเธออยู่คุมแก๊งต่อเธอจะต้องรุ่งเรืองมากกว่านี้แน่ ดูจากสิ่งที่พวกเราร่วมกันสร้างมานี่สิ เธอจะทิ้งไปจริงๆ เหรอ?” มิว เพื่อนสาวของเลอาพยายามรั้งเลอาไว้อีกคน
“ภาระมันเยอะ แบบนั้นฉันจะเอาเวลาที่ไหนไปหนุงหนิงกับวารินกัน” เลอาว่า
“ชิ เพราะแกแท้ๆ เลย น่าจะกำจัดไปตั้งนานแล้ว” เจมส์กระซิบเสียงเบา แต่มันก็ไม่พ้นหูของเลอาไป ดาบในมือของเลอาเลยปลิวไปตีหน้าเพื่อนคนนี้ทันที
“แหม จะกำจัดวารินเหรอ? ฝันไปเถอะ!”
“ว้าก! ไว้ชีวิตด้วย!” เจมส์ร้องขอชีวิตแทบไม่ทัน
“ถ้าเลอาเลือก....ฉันก็ไม่ขัด....แต่ถ้ามีปัญหา พวกเราพร้อมช่วย” คามินเอ่ยเสียงเบาทว่าหนักแน่นจริงใจ เลอาหันมายิ้มให้
“ขอบคุณ” เธอเอ่ยขอบคุณจากใจจริงของเธอ
“ผมจะดูแลเลอาอย่างดีเลยครับ พวกคุณไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ” วารินเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังขณะเดียวกันก็สบตากับเลอาด้วยความรัก
“อย่างที่ได้ยินนั่นแหละ” เลอายิ้มกว้างและกอดวารินด้วยความรัก
เพื่อนสนิททั้งสี่คนของเลอามองคู่รักตรงหน้าด้วยสายตาเบื่อหน่ายปนเกลียดชัง ซึ่งในจังหวะที่เลอากำลังหมกมุ่นอยู่กับการกอดวารินนั่นเอง วารินก็หันไปส่งยิ้มแห่งชัยชนะไปให้พวกเขา เหล่าเพื่อนคนสนิทของเลอาแทบกระอักเลือดตาย
เลอา! เจ้าหมอนี่มันไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดทั้งหมดหรอกนะ!
ตอนที่ 64 วารินแปลกไป“ขอบคุณที่ให้ผมได้เจอกับเลอาอีกครั้ง”“แต่คุณ….จะไม่บอกเลอางั้นเหรอ?”“ผมไม่ต้องการให้เลอารู้เรื่องที่เกิดขึ้นทางฝั่งนั้น….เธอจะเสียใจ”“…อย่างไรก็ตามผมหวังว่าคุณจะไม่ทำอะไรเกินเลยกันเลอา”“เลอาก็แฟนฉัน”“ไม่ เธอคือแฟนของผม”“…เราจะเถียงกันทำไมในเมื่อเรา---”“เลอาคือแฟนของผม”“…ก็ได้!”…………จากคำยืนยันจากวาริน ผู้นำผู้ก่อการร้ายอย่างอิระและหน้ากากอีกาได้เสียชีวิตแล้ว หลังจากนั้นสองวันหมอกสีแดงก็ถูกกำจัด เจ้าหน้าที่มุ่งหน้าจับกุมคนร้ายเพื่อคืนความสงบสุข อาจจะใช้เวลานานในการฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดขึ้นแต่ทุกอย่างจะต้องถูกจัดการเก็บกวาดในท้ายที่สุดในขณะที่เจ้าหน้าที่ไล่จับกุมผู้มีพลังพิเศษที่ถูกสงสัยว่าเป็นผู้ก่อความไม่สงบแก๊ง DH ที่อยู่ในสถานที่เกิดเหตุด้วยเกือบจะถูกจับกุมไปด้วย แต่โชคดีที่พวกเขาได้รับการคุ้มครองจากอาเธอร์ที่ได้รับความดีความชอบที่สามารถกำจัดหมอกแดงได้และยังได้รับการยืนยันจากนายกว่าพวกเขาเป็นพลเมืองที่ถูกบีบให้ต่อสู้เพื่อปกป้องตัวเอง พวกเขาจึงยังไม่ได้รับบทลงโทษอะไรที่ใช้พลังเมื่อเลอาได้ทราบถึงเรื่องที่อาเธอร์ช่วยเหลือเธอก็แค่บิดยิ้มออกมาและกลอกตา
ตอนที่ 63 บทสุดท้ายของ ´ปกป้องหัวใจวาริน´ บทสุดท้ายของ ‘ปกป้องหัวใจวาริน’เขาแก้แค้นสำเร็จ เขาทำสำเร็จแล้ววารินยืนนิ่งท่ามกลางซากปรักหักพังของบ้านเมืองที่พังทลาย ไฟจากพลังจิตของอิระยังโหมกระหน่ำรอบตัวเขาแต่เจ้าของพลังจิตอย่างอิระได้ตายจากไปแล้ว ด้วยฝีมือของวารินเอง ไฟฟ้าของวารินเริ่มสงบลง ไม่สิ มันราวกับกำลังสูญเสียพลัง แก้แค้นสำเร็จแล้วอย่างไรต่อ? สุดท้ายแล้วคนรักของเขาก็ไม่อาจกลับมาได้ เขาสูญเสียจิตใจที่จะใช้พลังวารินไร้จุดมุ่งหมายที่จะมีชีวิตไปแล้ว เขาเดินข้ามศัตรูคนสุดท้ายของเขา ก้าวข้ามผู้ที่บอกว่ารักเขา โนอาห์ ก้าวข้ามอาเธอร์ที่เคยบอกว่าหลงใหลเขา วารินมองโนอาห์และอาเธอร์เพียงหาตา แม้ว่าที่ผ่านมาเขาจะโอนอ่อนต่อคำบอกรักของพวกเขา แต่แท้จริงแล้วเขาไม่เคยรู้สึกรักเลย แท้จริงแล้วเขาก็แค่หลอกใช้คนพวกนี้แล้วเขาจะทำอะไรต่อไปดีนะ…วารินเร่ร่อนอยู่นาน จนโลกที่วุ่นวายจากการกระทำของอิระเริ่มฟื้นตัว ทุกอย่างกลับมาสงบสุขดั่งเช่นวันวานแต่วารินรู้ว่าเขาไม่อาจเป็นดั่งเช่นวันวานได้“นายอยากได้จุดจบใหม่งั้นเหรอ?”วารินไม่แน่ใจนักว่าใครเป็นพูดกับเขา เขาพยักหน้าตอบกลับแต่ก็คิดใหม่และส่ายหน้า “ไม
ตอนที่ 62 ดวงจันทร์สีแดงวารินสัมผัสได้ถึงสายฟ้าที่แล่นอยู่บนฝ่ามือของเขา ศัตรูอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว หากเป็นตัวเขาเมื่อก่อนที่หวาดกลัวพลังของตัวเองจะต้องไม่กล้าใช้พลังนี้ออกมาอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้วารินรับรู้ดีว่าเขาเปลี่ยนไปแล้ว… ไม่สิ ความจริงแล้วตัวตนอันเย็นชานี้อาจเป็นตัวตนที่เขาพยายามเก็บไว้ในส่วนลึกของจิตใจมาตลอดวารินคิดว่าในตอนนี้เขาสามารถสังหารศัตรูได้โดยไม่รู้สึกอะไรเลยวารินและอิระยืนเผชิญหน้ากันอยู่ในสนามของโรงเรียน“คุณมาถึงขั้นนี้แล้วคงไม่คิดจะถอยสินะครับ และคงน่าจะเตรียมใจไว้แล้ว” วารินเอ่ย“เตรียมใจอะไรกัน? ถ้าเตรียมใจที่จะกลายเป็นราชาของมนุษย์ยุคใหม่ละก็ใช่” อิระเอ่ยขณะที่ปัดฝุ่นบนตัวที่ติดมาตอนที่ถูกลากออกมาจากโรงยิม “ว่าแต่ทำไมต้องเป็นนายทุกครั้งเลยนะที่ฉันต้องสู้ด้วย และทุกครั้งฉันก็กำจัดนายไม่ได้สักที โชคดีเกินไปแล้ว”วารินอดนึกถึงหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาไม่ได้ ตัวเอกของหนังสือมักถูกโชคชะตาเข้าข้าง แต่หากเป็นเช่นนั้นจริงเขาไม่รู้สึกว่าถูกโชคชะตาเข้าข้างเลย เพราะการที่ต้องสูญเสียคนรักไปมันเป็นคำสาปมากกว่ามือของทั้งสองข้างของวารินถือปืนไว้ ทันใดนั้นเสียงเสียดสีบางอย่างก็
ตอนที่ 61 ห้องบอสพวกเราถูกย้าย หลายคนที่นี่ ผู้มีพลังจิตคนอื่น- บอส ที่นี่นั่นคือสัญญาณขอความช่วยเหลือสุดท้ายที่ระบบขอความช่วยเหลือของแก๊ง DH ได้รับ ผู้ขอความช่วยเหลือไม่ได้อธิบายสถานการณ์อย่างละเอียดหมายความว่าสถานการณ์ที่เขากำลังเผชิญอยู่ไม่ค่อยจะดีนัก“ผมพอจะเข้าใจสถานการณ์ได้คร่าวๆ เลยพยายามหนีออกจากที่นี่แล้ว แค่ดูเหมือนจะไม่ทัน” วารินอธิบายอย่างกังวลใจถูกย้าย ผู้มีพลังจิตคนอื่น…. ทันใดนั้นฉันก็นึกถึงผู้หญิงหน้ากากกวางฉันเห็นเมื่อครู่ เธอมีพลังเคลื่อนย้ายไม่ผิดแน่ เธอจะต้องเคลื่อนย้ายคนอื่นๆ ไปรวมกันในที่เดียว เธออะไรบางอย่าง‘บอส ที่นี่’ ในข้อความอาจจะหมายถึงพวกเขาถูกพาไปหาอิระ แล้วอิระทำไปเพื่ออะไรบางอย่างที่ไม่น่าจะดีนัก…คงไม่ใช่แผนอย่างกำจัดศัตรูให้หมดก่อนที่ศัตรูจะได้ตั้งตัวนะ พอคิดแบบนั้นฉันก็มองกำแพงหมอก ยิ่งคิดสีหน้ายิ่งแย่ลงเอาจริงดิ?[มีการแจ้งเตือนจาก ถล่มให้แหลก]การแจ้งเตือนเด้งขึ้นมาอย่างกะทันหัน ถล่มให้แหลก เนี่ยหมายถึงแอปสื่อสารพิเศษที่พวกเจมส์สร้างขึ้นมานั่นเอง ฉันก็ลืมมันไปเลยเพราะไม่ค่อยได้ใช้ในห้องแช็ตกลุ่มเจมส์: เลอาเจมส์: มีข้อความจากเจ้าคนที่ชื่อลันก
ตอนที่ 60 หมอกแดงคุณต้องการเข้าร่วมก่อนช่วยเหลือหรือไม่?[เข้าร่วม] [ปฏิเสธ]ข้อความจากผู้ขอความช่วยเหลือ : ช่วยด้วย! พวกเราถูกจับเป็นตัวประกัน! (ส่งตำแหน่งที่อยู่)ฉันแค่เข้ามาอวดพลัง : เจ้าจะให้ข้าไปช่วยเหลือเจ้าอย่างไร? นั้นมันกลางเมืองที่รัฐบาลประกาศว่าเป็นเขตอันตรายสูงไม่ใช่รึไง!? และโดยรอบเมืองถูกกองทัพทหารปิดกันเส้นทางไว้หมดแล้ว!ฉันแค่เข้ามาเล่นเกม : ไม่ใช่ว่าเราต้องรอฟังคำสั่งนอกรอบไม่ใช่รึไง ไหงไปอยู่ตรงนั้นได้โลกเริ่มอยู่ยากมากขึ้น : ถึงฉันจะอยู่ใกล้ก็ไปช่วยไม่ได้หรอก…ฉันไม่ได้มีพลังขนาดนั้น!พริกไทยป่น : สมาชิกหลักของแก๊งน่าจะอยู่ไม่ไกลนะ พวกเขาอาจไปช่วยได้สมาชิกวงใน : อันที่จริงหัวหน้ากับหัวหน้าใหญ่ก็อยู่ใกล้ๆ นั่นล่ะพริกไทยป่น : พวกเขาจะไปช่วยเหรอ? (สติกเกอร์ตื้นเต้น)สมาชิกวงใน : ไม่สมาชิกวงใน : หัวหน้าเลออนเล่นเกมอยู่ หัวใหญ่ก็นอนกกแฟนอยู่มะเขือ: !?มะละกอ: !!???อ่านแล้วสัมผัสถึงความไร้ความผิดชอบอย่างมาก ฉันก็เลยต้องยอมออกจากบ้านมาทำงานสักที ก็อยากจะปล่อยให้ทหารหรือไม่ก็หน่วยพิเศษจัดการเองอยู่หรอกแต่ก็ไร้ความรับผิดชอบเกินไป ดูเหมือนว่ากลุ่มแก๊งเล็กๆ ของฉันเหมือน
ตอนที่ 59 สิ่งไม่สำคัญก็ลืมมันไปการใช้ร่างจิตมีประโยชน์ตรงที่ไม่มีใครสังเกตเห็นตัวตนได้ มันเหมาะที่จะใช้สำหรับสังเกตการณ์ ฉันจึงใช้พลังถอดจิตของโนอาห์เพื่อที่จะได้มาสังเกตการณ์การต่อสู้ของวารินและอิระอย่างใกล้ชิด แต่ตอนนี้การต่อสู้เงียบมาสักพักแล้ว ฉันไม่เห็นว่าพวกเขาไปอยู่ส่วนไหนของเมืองที่เสียหายแห่งนี้แล้ว“งั้นคงต้องไปสำรวจรอบๆ ก่อน” ตอนนี้ฉันยังไม่รู้อย่างชัดเจนว่าลูกน้องของอิระซุ่มรอเวลาลงมืออยู่ที่ไหน ถึงจะคาดไว้ว่าพวกนั้นอาจจะกำลังซุ่มอยู่ในมิติขนาดของหน้ากากหมี แต่มันก็ยังไม่มีอะไรมายืนยันอีกทั้งมันค่อนข้างน่าสงสัยที่พวกนั้นยังอยู่เงียบๆ โดยไม่ยอมลงมือทำอะไรเลย อย่างอิระมันจะยอมให้ลูกน้องรออยู่เฉยๆ เพื่อช่วยตัวเองยามสู้กับวารินไม่ไหวเหรอ? ไม่น่าใช่ เจ้านั่นน่าจะสั่งให้ลูกน้องทำลายทุกอย่างที่ความขวางหน้าเพื่อเป้าหมายของตัวเองมากกว่าฉันจึงลองออกไปสำรวจรอบเมืองแต่ก็ไม่พบคนที่น่าจะเป็นคนของอิระ แต่ฉันพบคนธรรมดาแทน พวกเขาอยู่ในเขตที่น่าจะมีการอพยพไปแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะมีคนที่ยังหลงเหลืออยู่และไม่ได้ถูกลูกหลงจากการต่อสู้ของวารินและอิระประชาชนมากมายได้รับความเสียหายจากความวุ่นวาย