로그인การทดสอบสุดท้ายของแม่ทัพฉินเย่เหวินเป็นการพิสูจน์ทักษะและความสามารถที่เขาได้ฝึกฝน หลังจากที่เรียนรู้ศาสตร์แห่งการร่วมรักจนถึงขั้นสูงสุด ท่านจ้าวลัทธิลัทธิเพลิงกามารมณ์จึงได้เตรียมสาวงามผู้หนึ่งไว้เพื่อเป็นการทดสอบครั้งนี้
สาวงามที่ถูกเลือกเป็นสาวกของลัทธิ เพลิงกามารมณ์ อายุราว 30 กว่าปี มีผิวสีแทนที่เปล่งประกาย ใบหน้าของนางสวยคม มีเสน่ห์เย้ายวน ดวงตาของนางเปี่ยมไปด้วยความหื่นกระหาย นางสวมใส่เสื้อผ้าบางเบาที่แทบจะเผยให้เห็นเรือนร่างอันสมบูรณ์แบบ ซึ่งสามารถปลุกไฟราคะในใจของชายใดก็ตามที่ได้พบเห็น
นางได้ดื่มน้ำชาที่มีคุณสมบัติพิเศษในการเสริมสร้างไฟราคะ ทำให้อารมณ์ของนางพุ่งสูงและรุนแรงยิ่งขึ้น เมื่อเธอมองไปที่แม่ทัพหนุ่ม ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความปรารถนาและความหื่นกระหาย นางต้องการที่จะสัมผัสและลิ้มรสเรือนร่างของเขา การปลดปล่อยจากความปรารถนานี้คือสิ่งที่นางต้องการอย่างที่สุด
ท่านจ้าวลัทธิมองดูทั้งสองอย่างพึงพอใจ “การทดสอบสุดท้ายของท่าน จงช่วยให้นางหลุดพ้นจากความหื่นกระหายในครั้งนี้ซะ” ท่านกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ท่อนเนื้อของแม่ทัพหนุ่มก็แข็งตัวขึ้นอย่างรุนแรง ราวกับว่าร่างกายของเขาพร้อมที่จะตอบสนองต่อการทดสอบนี้อย่างเต็มที่ เขารู้ดีว่าการทดสอบนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นการพิสูจน์ทักษะและความสามารถของเขา แต่ยังเป็นการนำเอาความรู้และประสบการณ์ทั้งหมดที่เขาได้รับมาใช้ในการช่วยเหลือสาวงามคนนี้ให้หลุดพ้นจากความปรารถนาที่ครอบงำใจของนาง
แม่ทัพฉินเย่เหวินค่อยๆ จับขาอวบใหญ่ของนางสาวกคนงามถ่างออกกว้างอย่างช้าๆ ก่อนจะซุกใบหน้าเข้าไปใกล้ สัมผัสได้ถึงความร้อนแรงของอารมณ์ที่ท่วมท้นในร่างกายของนาง เขาเริ่มใช้ทักษะลิ้นเทพที่ฝึกฝนมาอย่างชำนาญ ละเลงลิ้นไปทั่วบริเวณที่อ่อนไหวที่สุดของนาง
นางสาวกร้องครวญครางออกมาเสียงดัง สะท้านไปทั้งร่าง ขณะที่จิตวิญญาณของนางแทบจะหลุดลอยออกจากร่าง ความรู้สึกเสียวซ่านพุ่งขึ้นมาจนถึงจุดที่นางไม่อาจต้านทานได้ น้ำราคะไหลเยิ้มลงมาตามท่อนขาที่อวบอิ่มของนาง แสดงถึงความปรารถนาและอารมณ์ที่ถูกปลุกขึ้นมาอย่างเต็มที่
แม่ทัพหนุ่มไม่หยุดเพียงแค่นั้น เขายังคงใช้ลิ้นของเขาช่วยเลียน้ำที่ไหลเยิ้มลงมา จนกระทั่งทุกหยดถูกทำความสะอาดอย่างเกลี้ยงเกลา การกระทำของเขาไม่เพียงแต่เป็นการตอบสนองต่อความต้องการของนาง แต่ยังเป็นการแสดงถึงความเชี่ยวชาญและความชำนาญในทักษะลิ้นเทพที่เขาได้ฝึกฝนมา
แม่ทัพฉินเย่เหวินจ้องมองเรือนร่างที่อวบใหญ่และเย้ายวนของนางด้วยความปรารถนา สายตาของเขาละเลียดไปตามส่วนโค้งเว้าที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ก่อนจะเอื้อมมือไปบีบหน้าอกของนางอย่างแน่นหนา ความนุ่มนวลที่สัมผัสได้ผ่านมือทำให้เขารู้สึกถึงความปรารถนาและความกระหายที่ท่วมท้นในใจ
จากนั้น แม่ทัพหนุ่มก็นำท่อนเนื้อของเขาเข้าไปที่ริมฝีปากของนางสาวกคนงาม นางจ้องมองเขาด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหล่และความต้องการ นางเอ่ยชื่นชมด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความยินดีและปรารถนา “อาวุธลับของท่านช่างสวยงามเหลือเกิน” คำพูดของนางเป็นดั่งเชื้อไฟที่จุดประกายความกระหายในใจของทั้งคู่
นางเริ่มดูดเลียท่อนเนื้อของเขาด้วยความหิวกระหาย ริมฝีปากและลิ้นของนางทำงานอย่างคล่องแคล่ว ความร้อนแรงที่ส่งผ่านมาจากสัมผัสของนางทำให้แม่ทัพหนุ่มรู้สึกเสียวซ่านไปทั้งร่าง ถึงกับเกร็งตัวด้วยความตื่นเต้นและความสุขที่ท่วมท้น ความชำนาญและความเร่าร้อนของนางทำให้เขาไม่อาจต้านทานได้ เขาปล่อยให้ตัวเองจมลงไปในความสุขที่นางมอบให้ โดยไม่คิดที่จะยับยั้งความรู้สึกนั้นเลยแม้แต่น้อย
แม่ทัพหนุ่มทนความหื่นกระหายภายในใจไม่ไหวอีกต่อไป เขาจับท่อนเอ็นของตนยัดเข้าไปที่ภายในเรือนร่างของนางคนทั้งสองถึงกับมีร่างกายที่เสียวสะท้านเมื่อถูกหลอมผสานเข้าด้วยกัน เขากระแทรกเรือนร่างของนางอย่างดิบเถื่อนและรุนแรงส่วนตัวของนางนั้นส่งเสียงร้องออกมาด้วยความพึงพอใจ หลายชั่วอึดใจต่อมาแม่ทัพหนุ่มปลดปล่อยน้ำราคะเข้ามาที่เรือนร่างของนาง สีหน้าของนางนั้นแอบแสดงสีหน้าลามกและความพึงพอใจอย่างถึงที่สุดแล้วนางก็นอนหลับไปอย่างหมดแรงร่างของนางยังคงสั่นกระตุกด้วยความเสียวไม่หายพร้อมทั้งน้ำกามของท่านแม่ทัพที่ไหลออกมาจากเรื่อนร่างที่สุดแสนจะเย้ายวนของนาง
"ท่านทำได้ดีมากที่สามารถดับไฟแห่งความหื่นกระหายของนางได้" ท่านจ้าวลัทธิกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความชื่นชม “การทดสอบสุดท้ายนี้ท่านสอบผ่าน”
ลีลาการร่วมรักของแม่ทัพฉินเย่เหวินนั้นลึกล้ำเหนือคำบรรยายมาก จนจ้าวลัทธิเพลิงกามารมณ์เองยังต้องพูดชมอย่างไม่หยุดปาก “ท่านแม่ทัพได้แสดงความชำนาญและความเข้าใจที่ลึกซึ้งในทุกการเคลื่อนไหว การสร้างความรู้สึกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเร้าอารมณ์ในแบบที่ไม่เคยมีใครสัมผัสมาก่อน”
“ท่านแม่ทัพสามารถดับไฟราคะของนางได้อย่างง่ายดายด้วยทักษะที่ยอดเยี่ยมและความสามารถอันเฉียบขาด การเคลื่อนไหวของท่านมีความเข้มข้นและประณีตในทุกสัมผัส การกระทำของท่านไม่เพียงแต่บรรเทาความร้อนแรงของความต้องการที่รุนแรง แต่ยังทำให้ทุกอารมณ์หลอมรวมไปกับความสงบและความพึงพอใจอย่างลงตัว”
จ้าวลัทธิเพลิงกามารมณ์ทึ่งกับความสามารถของแม่ทัพหนุ่มและไม่สามารถหาคำใดมาบรรยายถึงความยอดเยี่ยมของเขาได้หมด การชื่นชมและการยอมรับของเขาเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ที่ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจน
“ขอบคุณท่านที่สั่งสอน ทักษะเรื่องบนเตียงของข้านั้นมันจะลึกล้ำไม่ได้เลยหากไม่ได้ท่านจ้าวลัทธิช่วยชี้นำ” แม่ทัพกล่าวด้วยความเคารพและสำนึกในความกรุณาของท่านจ้าวลัทธิ
การสั่งสอนและการชี้นำของท่านจ้าวลัทธิเป็นการเปิดโลกใหม่ให้กับแม่ทัพ โดยทำให้เขาเข้าใจลึกซึ้งถึงศิลปะในการร่วมรัก การฝึกฝนและคำแนะนำของท่านจ้าวลัทธิไม่เพียงแต่ช่วยให้แม่ทัพพัฒนาทักษะของเขา แต่ยังทำให้เขาเรียนรู้การสัมผัสที่ละเอียดและความเข้าใจที่ลึกซึ้งในการสร้างความสุขให้กับคู่ของเขา
แม่ทัพรู้ดีว่าความลึกล้ำในทักษะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่จากการฝึกฝนเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องมีการชี้นำและการสอนจากผู้ที่มีประสบการณ์เช่นท่านจ้าวลัทธิ ซึ่งทำให้เขาสามารถเข้าถึงความเป็นเลิศในด้านนี้ได้อย่างแท้จริง
หลังจากที่หวังเจียเหอ ฮ่องเต้ ประสบความเจ็บป่วยอย่างหนัก องค์ฮองเฮาหลี่หวงซินได้ตัดสินใจทุบกำแพงที่แยกตำหนักส่วนตัวของนางกับจวนของแม่ทัพฉินเย่เหวิน และสร้างพื้นที่ร่วมกันใหม่ ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัย นางได้แปลงตำหนักของนางให้กลายเป็นสถานที่ที่คล้ายหลุดออกจากโลกภายนอกพื้นที่ในตำหนักของนางถูกปกคลุมด้วยความลับและความเย้ายวนใจ ไม่มีข้อบังคับทางศีลธรรมมาขวางกั้น ความหลงใหลและความปรารถนาของนางกับแม่ทัพหนุ่มจึงถูกปลดปล่อยอย่างเต็มที่ ทุกวัน แม่ทัพฉินเย่เหวินจะมอบความเร่าร้อนและความพึงพอใจให้แก่องค์ฮองเฮาอย่างดุเดือด นางร้องครวญครางด้วยความสุขจนเต็มอิ่มเสียงครางจากองค์ฮองเฮาดังขึ้น "ท่านแม่ทัพ แรงอีก แรงอีก ข้าเสียวจนข้าจะไม่ไหวอยู่แล้ว" นางร้องออกมาด้วยความรู้สึกอันร้อนแรงและเต็มไปด้วยความพอใจในขณะที่ภาพความรักอันร้อนแรงเผยออกมา ภายในตำหนักที่เปล่าเปลือยแห่งนี้ นางสนมจากตำหนักผีเสื้อยืนอยู่ด้วยความหลงใหลและชื่นชม การมองดูฉากนี้ราวกับเป็นการแสดงถึงความงดงามและอารมณ์ที่พลุ่งพล่านนางสนมราวกับถูกดึงดูดด้วยเสน่ห์อันล้ำลึกของฉากที่พวกนางเฝ้าดู ร่างกายของพวกนางทั้งหมดรวม 100 ชีวิต นุ่งน้อยห่
หลังจากที่หวังเจียเหอ ฮ่องเต้ล้มป่วยและไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ตำหนักผีเสื้อซึ่งเคยเป็นสวนสวรรค์ของพระองค์ก็ขาดคนดูแล สถานที่นี้เต็มไปด้วยนางสนมร้อยกว่าคนที่มีลีลาในการร่วมรักที่สุดแสนจะร้อนแรงพวกนางถูกรวบรวมมาจากทั่วทั้งแผ่นดินไม่ว่าจะผิวพรรณหน้าตารวมไปถึงความหื่นกระหายของพวกนางนั้นนับว่าเป็นหนึ่งแม่ทัพฉินเย่เหวินได้เชิญนางสนมทั้งหมดให้ย้ายมาอยู่กับตนชายหนุ่มผู้มีพลังอำนาจมากที่สุดภายในเมืองหลวงแห่งนี้นั้นเป็นเขามีหรือที่พวกนางนั้นจะตอบปฏิเสธจวนของท่านแม่ทัพในยามนี้นั้นเปรียบเสมือนสวรรค์บนดินที่ไม่ว่าผู้ใดต่างก็อยากที่จะมาเยือนสักครั้งในกลุ่มนางสนมมีซูเหม่ยฉิงซึ่งเป็นอดีตภรรยาคนรักของแม่ทัพ ฉินเย่เหวิน นางได้กลับมาด้วยความเต็มใจเพื่อรับหน้าที่ในการดูแลแม่ทัพและรับผิดชอบในการให้ความสุขทางกายแก่เขา ซูเหม่ยฉิงมีลีลาที่เร่าร้อนและประสบการณ์อันลึกซึ้งจากอดีตที่ผ่านมา ความรักและราคะที่เคยมีต่อกันทำให้เธอเต็มใจและพร้อมที่จะรับภาระหนักในการรองรับความต้องการของชายผู้เป็นอดีตสามีของเธอคืนนี้ ซูเหม่ยฉิงได้เตรียมตัวอย่างดีด้วยการสวมใส่ชุดนอนบางเบาที่เผยให้เห็นรูปร่างอันเย้ายวนใจของเธออย่า
แม่ทัพฉินเย่เหวินได้สร้างผลงานที่น่าจดจำอีกครั้งด้วยการปราบจอมโจรที่มีชื่อเสียง จึงได้รับการเลื่อนขั้นจากตำแหน่งแม่ทัพเป็น "แม่ทัพใหญ่แห่งเมืองหลวง" การเลื่อนขั้นนี้เกิดขึ้นด้วยการสนับสนุนจากองฮองเฮาหลี่หวงซิน ซึ่งไม่เพียงแค่ให้การสนับสนุนด้านตำแหน่ง แต่ยังมอบจวนแม่ทัพหลังใหม่ที่มีขนาดใหญ่โตและกว้างขวางยิ่งกว่าเดิมจวนใหม่ของแม่ทัพฉินเย่เหวินตั้งอยู่ใกล้กับตำหนักขององฮองเฮาหลี่หวงซิน นางให้เหตุผลว่าการมีเขาใกล้ชิดจะทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจมากขึ้น เพราะเขาสามารถคอยปกป้องเธอและลูกได้ตลอดเวลา ความใกล้ชิดนี้ยังแสดงถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งฮ่องเต้เองก็ไม่ได้แสดงความไม่พอใจใด ๆ ต่อการเลื่อนขั้นและการมอบจวนใหม่ของแม่ทัพฉินเย่เหวิน เนื่องจากเขาตระหนักถึงความสำคัญและความสามารถของแม่ทัพหนุ่มในการรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของราชสำนักในช่วงกลางดึกของคืนหนึ่ง องฮองเฮาหลี่หวงซินได้แอบลอบเข้ามาภายในจวนหลังใหม่ของแม่ทัพฉินเย่เหวิน ความรู้สึกของนางที่ไม่อาจต้านทานความต้องการในใจ ทำให้นางตัดสินใจเดินทางจากตำหนักของตนไปยังจวนใหม่ของแม่ทัพหนุ่ม ซึ่งอยู่ห่างจากตำหนักของนางเพียงไม่กี่ก้าวค่ำคืนนี้ช
แม่ทัพฉินเย่เหวินจ้องมองเรือนร่างของนางโจรสาวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหล ร่างกายของเขาตอบสนองอย่างรวดเร็ว ท่อนเนื้อแข็งผงาดขึ้นมาด้วยความปรารถนา เขารู้สึกถึงความร้อนรุ่มที่กำลังแผ่กระจายไปทั่วร่างกาย หัวใจของเขาเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น ความคิดในใจเต็มไปด้วยภาพของนางที่ชัดเจนทุกอณู เนื้อหนังของนางที่อ่อนนุ่มและโค้งเว้าอย่างน่าหลงใหลทำให้เขาแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้บรรยากาศรอบกายเริ่มเปลี่ยนแปลง กลิ่นอายแห่งราคะค่อยๆ ลอยปกคลุมทั่วบริเวณ ความต้องการในใจของแม่ทัพหนุ่มผู้นี้ทวีความรุนแรงขึ้น เขารู้ดีว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้คือความพึงพอใจอย่างสุดขีดในเรือนร่างของนาง และไม่อาจหลบหนีจากเสน่ห์ที่นางมีต่อเขาได้เลยร่างกายของจอมโจรสาวเริ่มสั่นเทาด้วยความรู้สึกที่เธอไม่อาจควบคุมได้ เปลวไฟแห่งราคะกำลังลุกไหม้ไปทั่วร่างของเธอ หลังจากที่ดื่มชาที่มีส่วนผสมปลุกอารมณ์เข้าไป ความร้อนรุ่มก็เริ่มแผ่กระจายไปทั่วทุกส่วนของร่างกาย สายตาของเธอพร่ามัวด้วยแรงปรารถนา หัวใจเต้นระรัวราวกับจะหลุดออกจากอก ความคิดที่เคยเข้มแข็งและมุ่งมั่นของเธอถูกแทนที่ด้วยความต้องการที่รุนแรง เธอรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในตั
ในช่วงนี้ ทางตอนใต้ของเมืองหลวงต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากจอมโจรภูเขาที่กำลังระบาดหนัก พวกมันปล้นฆ่าไม่เลือกหน้า สร้างความหวาดกลัวและความเดือดร้อนไปทั่วทั้งแถบ ชาวบ้านต่างต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดผวาและไม่มีความสงบสุข แม่ทัพฉินเย่เหวิน ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะนักรบผู้เก่งกาจและกล้าหาญ จึงขออาสาออกไปปราบปรามโจรร้ายเหล่านี้ เพื่อสร้างผลงานและคืนความสงบสุขให้กับบ้านเมืองจอมโจรภูเขาเลือกตั้งฐานที่มั่นในพื้นที่ถิ่นทุรกันดาร เป็นดินแดนที่เข้าถึงได้ยากและเต็มไปด้วยภูมิประเทศที่ท้าทาย การเดินทางไปยังถิ่นของพวกมันจึงเต็มไปด้วยความยากลำบาก ทั้งเส้นทางที่คดเคี้ยวและอันตราย รวมถึงการต้องระมัดระวังการซุ่มโจมตีจากพวกโจรที่ชำนาญพื้นที่แม่ทัพฉินเย่เหวินไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขานำกำลังพลติดตามไปเพียง 100 คน เป็นทหารที่เชี่ยวชาญและไว้วางใจได้ ความมุ่งมั่นในสายตาของแม่ทัพหนุ่มฉายชัด เขารู้ดีว่านี่เป็นโอกาสที่จะสร้างผลงานและแสดงให้เห็นถึงความสามารถของเขาอีกครั้งเมื่อออกเดินทางเข้าสู่พื้นที่อันทุรกันดาร กองกำลังของแม่ทัพฉินเย่เหวินต้องเผชิญกับเส้นทางที่ยากลำบาก ฝ่าดงพงไพรและข้ามภูเขาที่สูงชัน แม้ความเหน็ดเหนื่อยจ
ในวังหลวงที่ถูกปิดบังด้วยกำแพงสูงตระหง่านและเงาของราชบัลลังก์ ความลับที่ซุกซ่อนอยู่ใต้ความสง่างามขององฮองเฮาหลี่หวงซินนั้นกลายเป็นสิ่งที่ไม่มีใครล่วงรู้ แม่ทัพฉินเย่เหวิน ผู้เป็นดั่งยอดฝีมือในสนามรบ กลับพ่ายแพ้ต่อเสน่ห์ของนางผู้เลอโฉม ทั้งสองแอบมีสัมพันธ์ลับอันเร่าร้อนซึ่งถูกปิดซ่อนไว้ในม่านความลับในช่วงที่แม่ทัพฉินเย่เหวินทำหน้าที่สอนวิชาเชิงดาบให้กับองค์ชายหวังอี้เฟิง เขาไม่อาจหักห้ามใจจากการพบปะกับนางได้ ทุกครั้งที่หยุดพัก ทั้งสองจะพากันหายลับไปยังมุมอันเงียบสงบของพระราชวัง ดวงตาของพวกเขามักเต็มไปด้วยความปรารถนา มันแผดเผาใจทำให้พวกเขาไม่อาจละสายตาจากกันได้นับวันผิวพรรณของหลี่หวงซินยิ่งงดงามขึ้น ดวงตาเป็นประกายสดใส ผิวเนียนนุ่มดั่งผลท้ออ่อน นางดูเปล่งปลั่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ความลับของความงามนี้อยู่ที่ไฟราคะอันร้อนแรงของแม่ทัพหนุ่มผู้ไม่เคยพ่ายแพ้ต่อศึกใด ไม่เว้นแม้แต่ศึกรักก็เช่นกันเขามักจะอัดฉีดน้ำกามของตนเข้าไปภายในเรือนร่างของนางทุกครั้งเพื่อที่จะแสดงความเป็นเจ้าของ“อ๊า...ข้าเสียวเหรอเกิน” องฮองเฮาหลี่หวงซิน กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความพึงพอใจยามที่น้ำกามของชู้รั







