เข้าสู่ระบบเมื่อซูเหม่ยฉิงก้าวเข้ามาภายในรถม้า ความประหลาดใจของนางก็ยิ่งทวีขึ้นเมื่อเห็นว่าภายในรถม้ากลับมี หวังเจียเหอ ฮ่องเต้ อยู่ด้วย ฮ่องเต้ทรงยิ้มอย่างหื่นกระหายต้อนรับนางอย่างอบอุ่น
"ความงดงามของเจ้านั้นเกินกว่าที่ข้าได้ยินมา ซูเหม่ยฉิง ต่อไปนี้เจ้าเป็นผู้หญิงของข้าแล้ว ไม่ว่าเจ้าจะต้องการอะไร ข้าก็สามารถหาให้เจ้าได้ทั้งสิ้น"
"เจ้าค่ะ"
นางตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอ่อนหวานและเขินอาย แต่ในใจนางกลับรู้สึกตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความคาดหวัง นางค่อยๆ เลื่อนมือไปสัมผัสแก่นกลางของฮ่องเต้อย่างช้าๆ
เมื่อการสัมผัสเริ่มต้นขึ้น ร่างกายของฮ่องเต้ที่เต็มไปด้วยความหื่นกระหายก็เริ่มสั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้น ความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากการที่สาวน้อยเข้ามายังรถม้าและถูกแย่งชิงมาจากสามีของนางทำให้ฮ่องเต้รู้สึกถึงความร้อนแรงและความตื่นเต้นที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ภายในรถม้าอันหรูหราและกว้างขวาง บรรยากาศเริ่มเต็มไปด้วยความร้อนแรงและความตึงเครียดซึ่งถ่ายทอดผ่านการเคลื่อนไหวและสัมผัสที่ละเอียดอ่อน ฮ่องเต้และซูเหม่ยฉิงเริ่มก่อเกิดความใกล้ชิดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เสียงลมหายใจที่หนักหน่วงและสัมผัสที่เรียวลึกสร้างความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย
ซูเหม่ยฉิง, ด้วยความมั่นใจและความตั้งใจที่จะสร้างความประทับใจให้กับฮ่องเต้, เริ่มเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ โดยมีการสัมผัสที่ร้อนแรงและอ่อนโยน มือของนางค่อยๆ ลูบไล้และสัมผัสอย่างละเอียด ทำให้เกิดความรู้สึกที่สะท้านและสั่นไหวในร่างกายของฮ่องเต้
ฮ่องเต้, ซึ่งเต็มไปด้วยความพอใจและความหื่นกระหาย, ตอบสนองด้วยความตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด การเคลื่อนไหวและสัมผัสของเขาแสดงออกถึงความหลงใหลที่เพิ่มมากขึ้น ความร้อนแรงระหว่างพวกเขาสะท้อนผ่านการกระทำและท่าทางที่เต็มไปด้วยความปรารถนาและความเร่าร้อน
ซูเหม่ยฉิงเริ่มใช้ลิ้นของนางในการสัมผัสฮ่องเต้อย่างละเอียดอ่อนและเต็มไปด้วยความรัก การเคลื่อนไหวของนางนั้นช่างละเอียดและมีการควบคุมอย่างดี, ทำให้เกิดความรู้สึกที่อบอุ่นและเร่าร้อน ฮ่องเต้รู้สึกถึงความพึงพอใจที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน การกระทำเหล่านี้ส่งผลให้เขารู้สึกถึงความสุขและความตื่นเต้น
ทุกการเคลื่อนไหว ทุกการสัมผัส ทุกการกระทำที่ละเอียดอ่อนทำให้เกิดความรู้สึกที่ลึกซึ้งและไม่สามารถปฏิเสธได้ ความเร่าร้อนที่เกิดขึ้นภายในรถม้าสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความรู้สึกและอารมณ์ที่เข้มข้น
ฮ่องเต้ปลดเครื่องแต่งกายของซูเหม่ยฉิงออกอย่างนุ่มนวลเผยให้เห็นเรือนร่างที่เปล่งปลั่งและงดงามยิ่งนัก เรือนร่างของนางเปล่งประกายด้วยความเป็นธรรมชาติ ทุกเส้นสายของร่างกายถูกสร้างสรรค์มาอย่างละเอียดอ่อนและงดงาม ภายใต้แสงที่สลัวๆ ยิ่งทำให้เธอมีความสง่างามและเต็มไปด้วยเสน่ห์
ฉวบ ฉวบ หวังเจียเหอ ฮ่องเต้ ดูดเลียเรือนร่างของนางอย่างหิวกระหายสตรีนางนี้นั้นมีความร่านที่ไร้ที่สิ้นสุดนางต้องการที่จะเรียกร้องดุ้นของเขาเพื่อที่จะปลดปล่อยอารมณ์ที่ดิบเถื่อนภายในใจนาง
อ๊า...สาวน้อยเจ้าเสน่ห์นางถึงกับเบิกตากว้างเมื่อได้รับดุ้นพระราชทานจากฮ่องเต้เข้าไป นางทำทีเสแสร้งว่าตัวเองนั้นกำลังมีอารมณ์อย่างถึงขีดสุดเพื่อที่จะปลุกเร้าชายตรงหน้า อาวุธลับของฮ่องเต้นั้นแทบที่จะเล็กจิ๋วไม่สามารถที่จะสร้างความเสียวสะท้านได้เลยด้วยซ้ำ แต่สีหน้าของนางนั้นก็ต้องแสดงออกมาด้วยความสุขเพื่อความเจริญก้าวหน้าของนาง
“อ๊า....สวรรค์ นี่มันสวรรค์จริงๆด้วย นี่หม่อมฉันกำลังอยู่สวรรค์หรือเจ้าค่ะทำไมหม่อมฉันถึงเสียวถึงเพียงนี้” เสียงร้องครวญครางของนางที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขมันเป็นน้ำเสียงที่แม้แต่คนขับรถม้าก็ยังได้ยินจนตัวของเขานั้นแอบเผลอดุ้นแข็งไปด้วยแต่ก็ทำเป็นเหมือนไม่ได้ยินอะไรไม่เช่นนั้นแล้วตนเองอาจจะได้รับโทษประหารได้
“หึ หึ หึ เจ้านับว่าเป็นคนแรก ที่เรียกร้องหาดุ้นของข้าด้วยความหิวกระหายไม่เป็นไรเดียวข้าจะช่วยปลดปล่อยอารมณ์ให้เจ้าเอง”
ปั๊บ! ปั๊บ! ปั๊บ! ปั๊บ! ยิ่งฮ่องเต้กระแทรกเรือนร่างของนางรุนแรงเท่าไหร่รถม้าก็ยิ่งที่จะเกิดความสั่นไหวมากขึ้นเท่านั้น เสียงกระแทรกของเนื้อหนังและเสียงร้องครวญครางที่มีความสุขของนางดังเสียจนผู้ผ่านไปมาเริ่มที่จะได้ยินกันบ้างแล้ว เหล่าผู้หญิงที่ได้ยินน้ำเสียงแห่งความสุขนี้กับมีสภาพใบหน้าที่เขินอายแต่บรรดาชายหนุ่มนั้นสีหน้าและแววตาของเขาก็เต็มไปด้วยความอิจฉา
พร๊วดดดด อ๊า.... ร่างกายของฮ่องเต้ถึงกับสั่นกระตุกหลังจากที่ปลดปล่อยน้ำกามของตนออกมาใส่ภายในเรือนร่างของนางร่างของคนทั้งสองโอบกอดกันอยู่ภายในรถม้าอย่างมีความสุขหลังจากที่ทำกิจกรรมอย่างว่าเมื่อครู่
ซูเหม่ยฉิงกลายเป็นความสนใจใหม่ของฮ่องเต้ ซึ่งในอดีตเคยมีความสนใจในผู้หญิงไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยคน การแย่งชิงเพื่อความโปรดปรานของฮ่องเต้กลายเป็นสงครามที่ดุเดือดและเข้มข้นในหมู่หญิงสาวในวังหลวง
การได้รับความสนใจจากฮ่องเต้ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของเกียรติยศ แต่ยังเป็นการพิสูจน์ถึงสถานะและความสามารถในการดึงดูดใจของแต่ละคนในสายตาของฮ่องเต้ ความแย่งชิงนี้เต็มไปด้วยการแข่งขันที่ร้อนแรง และความพยายามในการเอาชนะใจของฮ่องเต้กลายเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนชีวิตของพวกเธอในวังหลวง
ซูเหม่ยฉิงพบว่าตนเองเป็นศูนย์กลางของความสนใจที่มีแรงดึงดูดอย่างมาก ทั้งยังรู้ดีว่านี่คือโอกาสที่เธอจะใช้เพื่อสร้างสถานะและตำแหน่งในวังหลวงให้มั่นคง การต้องเอาชนะการแข่งขันและอุปสรรคต่างๆ กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตใหม่ที่เธอต้องเผชิญในฐานะของสนมใหม่ของฮ่องเต้
ฉินเย่เหวินยังคงอยู่ในความเศร้าและความเจ็บแค้นอย่างลึกซึ้ง หลังจากที่ถูก หวังเจียเหอ ฮ่องเต้แย่งชิงคนรักของเขาไป ความรู้สึกของเขายิ่งเจ็บปวดมากขึ้นเมื่อเห็นว่าซูเหม่ยฉิงภรรยาผู้ซึ่งเคยรักและเชื่อมั่นในตัวเขาเดินตามฮ่องเต้ไปด้วยความเต็มใจ นั่นยิ่งทำให้ความแค้นในใจของเขาเพิ่มพูนขึ้น
การที่ซูเหม่ยฉิงยอมละทิ้งเขาไปเพื่อเป็นสนมของฮ่องเต้ ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกหักหลังอย่างรุนแรง เขารู้สึกว่าเธอได้ทรยศต่อความรักและความทุ่มเทที่เขามีให้กับเธอ และยังเจ็บปวดที่เห็นว่าเธอเดินตามฮ่องเต้ไปอย่างเต็มใจ
ความเจ็บปวดนี้ไม่เพียงแต่เป็นผลจากการสูญเสียคนรัก แต่ยังรวมถึงความรู้สึกของการถูกดูหมิ่นและถูกเย้ยหยันจากการกระทำของฮ่องเต้และซูเหม่ยฉิง ความแค้นที่มีต่อฮ่องเต้และความรู้สึกถึงการทรยศจากคนรักทำให้ฉินเย่เหวินรู้สึกเหมือนถูกทำลายจากภายใน และนี่เป็นบาดแผลที่ลึกเกินกว่าที่จะรักษาได้ง่ายๆ
หลังจากที่หวังเจียเหอ ฮ่องเต้ ประสบความเจ็บป่วยอย่างหนัก องค์ฮองเฮาหลี่หวงซินได้ตัดสินใจทุบกำแพงที่แยกตำหนักส่วนตัวของนางกับจวนของแม่ทัพฉินเย่เหวิน และสร้างพื้นที่ร่วมกันใหม่ ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัย นางได้แปลงตำหนักของนางให้กลายเป็นสถานที่ที่คล้ายหลุดออกจากโลกภายนอกพื้นที่ในตำหนักของนางถูกปกคลุมด้วยความลับและความเย้ายวนใจ ไม่มีข้อบังคับทางศีลธรรมมาขวางกั้น ความหลงใหลและความปรารถนาของนางกับแม่ทัพหนุ่มจึงถูกปลดปล่อยอย่างเต็มที่ ทุกวัน แม่ทัพฉินเย่เหวินจะมอบความเร่าร้อนและความพึงพอใจให้แก่องค์ฮองเฮาอย่างดุเดือด นางร้องครวญครางด้วยความสุขจนเต็มอิ่มเสียงครางจากองค์ฮองเฮาดังขึ้น "ท่านแม่ทัพ แรงอีก แรงอีก ข้าเสียวจนข้าจะไม่ไหวอยู่แล้ว" นางร้องออกมาด้วยความรู้สึกอันร้อนแรงและเต็มไปด้วยความพอใจในขณะที่ภาพความรักอันร้อนแรงเผยออกมา ภายในตำหนักที่เปล่าเปลือยแห่งนี้ นางสนมจากตำหนักผีเสื้อยืนอยู่ด้วยความหลงใหลและชื่นชม การมองดูฉากนี้ราวกับเป็นการแสดงถึงความงดงามและอารมณ์ที่พลุ่งพล่านนางสนมราวกับถูกดึงดูดด้วยเสน่ห์อันล้ำลึกของฉากที่พวกนางเฝ้าดู ร่างกายของพวกนางทั้งหมดรวม 100 ชีวิต นุ่งน้อยห่
หลังจากที่หวังเจียเหอ ฮ่องเต้ล้มป่วยและไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ตำหนักผีเสื้อซึ่งเคยเป็นสวนสวรรค์ของพระองค์ก็ขาดคนดูแล สถานที่นี้เต็มไปด้วยนางสนมร้อยกว่าคนที่มีลีลาในการร่วมรักที่สุดแสนจะร้อนแรงพวกนางถูกรวบรวมมาจากทั่วทั้งแผ่นดินไม่ว่าจะผิวพรรณหน้าตารวมไปถึงความหื่นกระหายของพวกนางนั้นนับว่าเป็นหนึ่งแม่ทัพฉินเย่เหวินได้เชิญนางสนมทั้งหมดให้ย้ายมาอยู่กับตนชายหนุ่มผู้มีพลังอำนาจมากที่สุดภายในเมืองหลวงแห่งนี้นั้นเป็นเขามีหรือที่พวกนางนั้นจะตอบปฏิเสธจวนของท่านแม่ทัพในยามนี้นั้นเปรียบเสมือนสวรรค์บนดินที่ไม่ว่าผู้ใดต่างก็อยากที่จะมาเยือนสักครั้งในกลุ่มนางสนมมีซูเหม่ยฉิงซึ่งเป็นอดีตภรรยาคนรักของแม่ทัพ ฉินเย่เหวิน นางได้กลับมาด้วยความเต็มใจเพื่อรับหน้าที่ในการดูแลแม่ทัพและรับผิดชอบในการให้ความสุขทางกายแก่เขา ซูเหม่ยฉิงมีลีลาที่เร่าร้อนและประสบการณ์อันลึกซึ้งจากอดีตที่ผ่านมา ความรักและราคะที่เคยมีต่อกันทำให้เธอเต็มใจและพร้อมที่จะรับภาระหนักในการรองรับความต้องการของชายผู้เป็นอดีตสามีของเธอคืนนี้ ซูเหม่ยฉิงได้เตรียมตัวอย่างดีด้วยการสวมใส่ชุดนอนบางเบาที่เผยให้เห็นรูปร่างอันเย้ายวนใจของเธออย่า
แม่ทัพฉินเย่เหวินได้สร้างผลงานที่น่าจดจำอีกครั้งด้วยการปราบจอมโจรที่มีชื่อเสียง จึงได้รับการเลื่อนขั้นจากตำแหน่งแม่ทัพเป็น "แม่ทัพใหญ่แห่งเมืองหลวง" การเลื่อนขั้นนี้เกิดขึ้นด้วยการสนับสนุนจากองฮองเฮาหลี่หวงซิน ซึ่งไม่เพียงแค่ให้การสนับสนุนด้านตำแหน่ง แต่ยังมอบจวนแม่ทัพหลังใหม่ที่มีขนาดใหญ่โตและกว้างขวางยิ่งกว่าเดิมจวนใหม่ของแม่ทัพฉินเย่เหวินตั้งอยู่ใกล้กับตำหนักขององฮองเฮาหลี่หวงซิน นางให้เหตุผลว่าการมีเขาใกล้ชิดจะทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจมากขึ้น เพราะเขาสามารถคอยปกป้องเธอและลูกได้ตลอดเวลา ความใกล้ชิดนี้ยังแสดงถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งฮ่องเต้เองก็ไม่ได้แสดงความไม่พอใจใด ๆ ต่อการเลื่อนขั้นและการมอบจวนใหม่ของแม่ทัพฉินเย่เหวิน เนื่องจากเขาตระหนักถึงความสำคัญและความสามารถของแม่ทัพหนุ่มในการรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของราชสำนักในช่วงกลางดึกของคืนหนึ่ง องฮองเฮาหลี่หวงซินได้แอบลอบเข้ามาภายในจวนหลังใหม่ของแม่ทัพฉินเย่เหวิน ความรู้สึกของนางที่ไม่อาจต้านทานความต้องการในใจ ทำให้นางตัดสินใจเดินทางจากตำหนักของตนไปยังจวนใหม่ของแม่ทัพหนุ่ม ซึ่งอยู่ห่างจากตำหนักของนางเพียงไม่กี่ก้าวค่ำคืนนี้ช
แม่ทัพฉินเย่เหวินจ้องมองเรือนร่างของนางโจรสาวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหล ร่างกายของเขาตอบสนองอย่างรวดเร็ว ท่อนเนื้อแข็งผงาดขึ้นมาด้วยความปรารถนา เขารู้สึกถึงความร้อนรุ่มที่กำลังแผ่กระจายไปทั่วร่างกาย หัวใจของเขาเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น ความคิดในใจเต็มไปด้วยภาพของนางที่ชัดเจนทุกอณู เนื้อหนังของนางที่อ่อนนุ่มและโค้งเว้าอย่างน่าหลงใหลทำให้เขาแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้บรรยากาศรอบกายเริ่มเปลี่ยนแปลง กลิ่นอายแห่งราคะค่อยๆ ลอยปกคลุมทั่วบริเวณ ความต้องการในใจของแม่ทัพหนุ่มผู้นี้ทวีความรุนแรงขึ้น เขารู้ดีว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้คือความพึงพอใจอย่างสุดขีดในเรือนร่างของนาง และไม่อาจหลบหนีจากเสน่ห์ที่นางมีต่อเขาได้เลยร่างกายของจอมโจรสาวเริ่มสั่นเทาด้วยความรู้สึกที่เธอไม่อาจควบคุมได้ เปลวไฟแห่งราคะกำลังลุกไหม้ไปทั่วร่างของเธอ หลังจากที่ดื่มชาที่มีส่วนผสมปลุกอารมณ์เข้าไป ความร้อนรุ่มก็เริ่มแผ่กระจายไปทั่วทุกส่วนของร่างกาย สายตาของเธอพร่ามัวด้วยแรงปรารถนา หัวใจเต้นระรัวราวกับจะหลุดออกจากอก ความคิดที่เคยเข้มแข็งและมุ่งมั่นของเธอถูกแทนที่ด้วยความต้องการที่รุนแรง เธอรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในตั
ในช่วงนี้ ทางตอนใต้ของเมืองหลวงต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากจอมโจรภูเขาที่กำลังระบาดหนัก พวกมันปล้นฆ่าไม่เลือกหน้า สร้างความหวาดกลัวและความเดือดร้อนไปทั่วทั้งแถบ ชาวบ้านต่างต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดผวาและไม่มีความสงบสุข แม่ทัพฉินเย่เหวิน ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะนักรบผู้เก่งกาจและกล้าหาญ จึงขออาสาออกไปปราบปรามโจรร้ายเหล่านี้ เพื่อสร้างผลงานและคืนความสงบสุขให้กับบ้านเมืองจอมโจรภูเขาเลือกตั้งฐานที่มั่นในพื้นที่ถิ่นทุรกันดาร เป็นดินแดนที่เข้าถึงได้ยากและเต็มไปด้วยภูมิประเทศที่ท้าทาย การเดินทางไปยังถิ่นของพวกมันจึงเต็มไปด้วยความยากลำบาก ทั้งเส้นทางที่คดเคี้ยวและอันตราย รวมถึงการต้องระมัดระวังการซุ่มโจมตีจากพวกโจรที่ชำนาญพื้นที่แม่ทัพฉินเย่เหวินไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขานำกำลังพลติดตามไปเพียง 100 คน เป็นทหารที่เชี่ยวชาญและไว้วางใจได้ ความมุ่งมั่นในสายตาของแม่ทัพหนุ่มฉายชัด เขารู้ดีว่านี่เป็นโอกาสที่จะสร้างผลงานและแสดงให้เห็นถึงความสามารถของเขาอีกครั้งเมื่อออกเดินทางเข้าสู่พื้นที่อันทุรกันดาร กองกำลังของแม่ทัพฉินเย่เหวินต้องเผชิญกับเส้นทางที่ยากลำบาก ฝ่าดงพงไพรและข้ามภูเขาที่สูงชัน แม้ความเหน็ดเหนื่อยจ
ในวังหลวงที่ถูกปิดบังด้วยกำแพงสูงตระหง่านและเงาของราชบัลลังก์ ความลับที่ซุกซ่อนอยู่ใต้ความสง่างามขององฮองเฮาหลี่หวงซินนั้นกลายเป็นสิ่งที่ไม่มีใครล่วงรู้ แม่ทัพฉินเย่เหวิน ผู้เป็นดั่งยอดฝีมือในสนามรบ กลับพ่ายแพ้ต่อเสน่ห์ของนางผู้เลอโฉม ทั้งสองแอบมีสัมพันธ์ลับอันเร่าร้อนซึ่งถูกปิดซ่อนไว้ในม่านความลับในช่วงที่แม่ทัพฉินเย่เหวินทำหน้าที่สอนวิชาเชิงดาบให้กับองค์ชายหวังอี้เฟิง เขาไม่อาจหักห้ามใจจากการพบปะกับนางได้ ทุกครั้งที่หยุดพัก ทั้งสองจะพากันหายลับไปยังมุมอันเงียบสงบของพระราชวัง ดวงตาของพวกเขามักเต็มไปด้วยความปรารถนา มันแผดเผาใจทำให้พวกเขาไม่อาจละสายตาจากกันได้นับวันผิวพรรณของหลี่หวงซินยิ่งงดงามขึ้น ดวงตาเป็นประกายสดใส ผิวเนียนนุ่มดั่งผลท้ออ่อน นางดูเปล่งปลั่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ความลับของความงามนี้อยู่ที่ไฟราคะอันร้อนแรงของแม่ทัพหนุ่มผู้ไม่เคยพ่ายแพ้ต่อศึกใด ไม่เว้นแม้แต่ศึกรักก็เช่นกันเขามักจะอัดฉีดน้ำกามของตนเข้าไปภายในเรือนร่างของนางทุกครั้งเพื่อที่จะแสดงความเป็นเจ้าของ“อ๊า...ข้าเสียวเหรอเกิน” องฮองเฮาหลี่หวงซิน กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความพึงพอใจยามที่น้ำกามของชู้รั







