Share

บทที่ 679

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
ขณะที่หนึ่งก้านธูปกำลังจะดับ ลูกศิษย์สำนักเฉวียนเจินคนหนึ่งชักกระบี่ที่เสียบอยู่ข้างเอวออก แล้วขึ้นไปบนเวที

นี่อยู่ในความคาดหมายของทุกคน

เจียงหลินพอจะรู้จัก จึงพูดแนะนำว่า

“นั่นคือหนึ่งในศิษย์ทั้งหกของสำนักเฉวียนเจิน ผู้มีวิชา ‘กระบี่ล่าชีวิต’——ฟางหมิ่น วิชากระบี่ของนางไร้เงาไร้รูปร่าง รวดเร็วดั่งสายลม”

เฟิ่งจิ่วเหยียนเองก็เคยได้ยิน ‘วิชากระบี่ล่าชีวิต” นี้มาเหมือนกัน

จุดเด่นคือการโจมตีอย่างว่องไว รูปร่างและพรสวรรค์ของนักกระบี่ล้วนเป็นตัวกำหนดในการฝึกฝนวิชานี้

เซียวอวี้ไม่เห็นด้วยกับฟางหมิ่น พูดเสียงเย็นชา

“ไม่สามารถนำอาวุธขึ้นประลองได้อยู่ดี ต่อให้กระบี่เร็วแค่ไหนแล้วจะมีประโยชน์อะไร”

เจียงหลินหมดหนทางจะช่วย

“คงได้แต่หวังว่า เกาหยวนจะเป็นคนทะนุถนอมผู้หญิงล่ะนะ”

ฟางหมิ่นก้าวเดินอย่างมั่นคงไม่เร่งรีบ ยามที่เข้ามาในกรง ศิษย์คนอื่นในสำนักเฉวียนเจินก็ข่มขวัญคู่ต่อสู้แทนนาง

“ศิษย์พี่ ฆ่าไอ้โจรระยำนั่นซะ!”

“ศิษย์น้อง ตั้งรับเป็นหลัก โจมตีเป็นรอง!”

ฟางหมิ่นใส่ผ้าคลุมหน้า แม้นไม่มีกระบี่คู่ใจอยู่ในมือ ดวงตาทั้งสองข้างก็ยังทอแววเด็ดเดี่ยวมีพลัง

ภายในกรงเหล็ก เกาหยวนมองประเมินนางด้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Chanyanut Saenkam
ใกล้จะจบยังน้อ
goodnovel comment avatar
Nichaphat
อุ๊ยย รักเก่า
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1721

    ถานไถเหยี่ยนเกิดที่ภูเขาเทียนเหมิน และเติบโตที่ภูเขาเทียนเหมินโลกของเขาไม่ได้กว้างใหญ่ มียอดเขาหนึ่งแห่ง และประตูขึ้นเขาหนึ่งบาน ที่ขังเขาไว้คนที่เขาเคารพนับถือที่สุดคือท่านปู่ท่านปู่เชี่ยวชาญกลยุทธ์ทางการทหาร วิชาการแพทย์ และวิชากลไก เป็นบุคคลที่มีความรู้มากที่สุดในตระกูลแต่ไม่รู้เพราะเหตุใด ท่านปู่มักจะมีสีหน้ากลัดกลุ้มอยู่ตลอดทั้งวัน ขังตัวเองอยู่ภายในเรือนเล็ก ๆ ไม่ยอมให้คนอื่นเข้าใกล้ถานไถเหยี่ยนมักรู้สึกว่า ในบ้านเงียบเหงาเกินไปท่านปู่เก็บตัวรักความสงบ ท่านพ่อหมกมุ่นอยู่กับวิชาการแพทย์ ท่านแม่มักจะออกไปแต่เช้าและกลับมาจนดึก ไปทอผ้าและเก็บพืชผลกับกลุ่มแม่หมอในตระกูลเขายังมีพี่สาวอีกหนึ่งคนพี่สาวอายุมากกว่าเขาห้าปี มีกลุ่มเพื่อนเล่นอยู่ข้างนอก และไม่ชอบอยู่บ้านทุกครั้งที่เขาอยากตามไปเล่นกับพี่สาว ก็จะถูกพี่สาวทิ้งให้อยู่บ้านถานไถเหยี่ยนจึงทำได้เพียงรออยู่ในบ้าน และนับมดอยู่ใต้ต้นไม้ในลานบ้านเด็กอายุเพียงห้าหกขวบ จึงรู้สึกว่าทุกวันช่างยาวนานเหลือเกินเขาไม่เข้าใจว่า เหตุใดดวงอาทิตย์ถึงมีขึ้นมีตก เหตุใดคนในตระกูลถึงอยากออกไปข้างนอกอยู่เสมอ เหตุใดคนถึงตัวสูงใหญ่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1720

    การก่อกบฏตามพื้นที่ต่าง ๆ จำเป็นต้องอาศัย “ใยแมงมุม”หากเทียบกับคนร่วมเรียงเคียงหมอนที่อ่อนโยนและใส่ใจ เขาต้องการ “กระบี่” ที่แหลมคมมากกว่า เพื่อช่วยให้เขาสามารถควบคุมทั้งใต้หล้าได้อย่างแท้จริง......ฮ่องเต้ซวี่หยางไม่มีทางลืมวันนั้นได้เลย“ฝ่าบาท! ‘ใยแมงมุม’ สร้างเสร็จแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“ใยแมงมุม” เสร็จสมบูรณ์แล้ว นี่ถือเป็นข่าวดีอย่างยิ่งทว่าต่อจากนั้น ทหารองครักษ์อีกนายหนึ่งก็วิ่งเข้ามา ด้วยใบหน้าซีดเผือด เผยให้เห็นความหวาดกลัวและความกระวนกระวาย“ฝ่าบาท! ถานไถหมิ่น... นาง นางสิ้นใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”โครม!ในวินาทีนั้น ฮ่องเต้ซวี่หยางเหมือนร่วงหล่นจากก้อนเมฆสู่เหวลึกเขารู้สึกชาไปทั้งตัว ริมฝีปากสั่น ไม่อาจเอ่ยคำใดออกมาได้เขาไม่เชื่อว่า ถานไถหมิ่นจะตายง่ายดายถึงเพียงนี้ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตอนที่เห็นนาง นางก็ยังสบายดีอยู่!จนกระทั่งเขาได้เห็นร่างของถานไถหมิ่นจริง ๆ ในเสี้ยววินาทีนั้น ความหวาดกลัวต่อความตายก็เข้าครอบงำเขา เลือดในกายราวกับแข็งตัว กลายเป็นน้ำแข็งถานไถหมิ่น... พลีชีพตัวเอง!เขาโผเข้าไปราวกับเสียสติ ทั้งเขย่า และร้องเรียก“อาหมิ่น! อาหมิ่น! เหตุใดเจ้าถึงทำเช่น

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1719

    ฮ่องเต้ซวี่หยางทรงเลือก “ใยแมงมุม”แต่ในใจเขาก็ยังไม่ละทิ้งถานไถหมิ่นการจะสร้าง “ใยแมงมุม” นั้น หาใช่จะทำสำเร็จได้ในชั่วข้ามคืนเขาเชื่อมั่นว่า ขอเพียงมีเวลามากพอ ไม่ช้าก็เร็วถานไถหมิ่นจะต้องเปลี่ยนใจ และกลับมาอยู่ข้างกายเขาถึงอย่างไรสามีของนางผู้นั้น ก็ดูธรรมดาเหลือเกินเขาไม่เข้าใจจริง ๆ ว่า ถานไถหมิ่นชอบชายผู้นั้นตรงที่ใด!หารู้ไม่ว่า หนึ่งในความแตกต่างระหว่างพวกเขาอยู่ตรงที่ สามีของถานไถหมิ่น จะไม่ยอมให้นางทำสิ่งที่เหน็ดเหนื่อยเพียงนั้น ในขณะที่กำลังตั้งครรภ์ฮ่องเต้ซวี่หยางนำชายผู้นั้นมาเป็นตัวประกัน และพากลับเมืองหลวงพร้อมกันตลอดทาง เขาเห็นอยู่ตลอดว่า ชายผู้นั้นวนเวียนอยู่รอบถานไถหมิ่น ทั้งป้อนน้ำให้นาง ทั้งยังเป็นห่วงว่านางจะวิงเวียนเพราะนั่งรถม้าฮ่องเต้ซวี่หยางทรงเยาะเย้ยในใจเดิมทีถานไถหมิ่นหาใช่หญิงสาวประเภทอ่อนแอไม่ แม้แต่ขี่ม้านางก็ยังไม่กลัว จะวิงเวียนเพราะนั่งรถม้าได้อย่างไร?ชายผู้นั้น ช่างไม่รู้ประสีประสา ไม่เข้าใจถานไถหมิ่นเลยแม้แต่น้อยฮ่องเต้ซวี่หยางคิดว่าเขาสามารถควบคุมทุกสิ่งได้แต่ไม่คาดคิดเลยว่า เขากลับบีบบังคับหญิงอันเป็นที่รักจนถึงขั้นเสียสติ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1718

    ณ ภูเขาเทียนเหมินในวันแต่งงานของถานไถหมิ่น เมฆดำทะมึนก่อตัว ราวกับเป็นลางร้ายและเป็นเช่นนั้นจริง เมื่อพิธีดำเนินมาได้ครึ่งทาง มีคนในตระกูลผู้หนึ่งวิ่งเข้ามา “แย่แล้ว! ทหารทางการกรูกันเข้ามาทางประตูขึ้นเขา จะสังหารผู้คน!”ผู้คนในตระกูลต่างมองไปทางเจ้าสาวถานไถหมิ่นมีท่าทีสงบนิ่งอย่างมาก“พวกเขาเข้ามาไม่ได้ พิธีแต่งงานดำเนินตามปกติ”ภูเขาเทียนเหมินมีประตูอยู่สองบานประตูขึ้นเขาด้านนอก เป็นเพียงภาพลวงตา เมื่อเข้าประตูบานนั้นมา ก็จะเจอค่ายกลพันลี้ที่นางได้วางไว้ ทันทีที่ผู้ใดก้าวเข้ามาในค่ายกล ก็จะหลงทางจนหาทางออกไม่เจอถึงแม้จะทำลายค่ายกลพันลี้ได้ ก็ยังมีกลไกอีกมากมายที่รอพวกเขาอยู่พิธีแต่งงานจึงดำเนินต่อไปส่วนด้านนอกภูเขาเทียนเหมิน แม่ทัพคู่ใจของฮ่องเต้ซวี่หยางร้อนใจจนเดินวนไปวนมาฮ่องเต้ทรงมอบภารกิจสำคัญเช่นนี้ให้เขา แต่เขากลับไร้ความสามารถถึงเพียงนี้......เมื่อฮ่องเต้ซวี่หยางทรงทราบข่าวและเสด็จมาถึง ก็เป็นเวลาหนึ่งเดือนหลังจากถานไถหมิ่นเข้าพิธีแต่งงานแล้วนางกับสามีต่างให้เกียรติกันและกัน แม้จะไม่มีความรักอันร้อนแรง และลึกซึ้งตราตรึง แต่สองฝ่ายก็เข้าใจกัน และคอยสน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1717

    ณ วังหลวงดวงอาทิตย์ร้อนแรงอยู่เหนือศีรษะ บนประตูเมืองมีศพจำนวนหนึ่งแขวนอยู่ดวงอาทิตย์กำลังแผดเผาซากศพ จนส่งกลิ่นเหม็นออกมาเป็นระยะ...ชาวบ้านที่เข้าออกประตูเมือง ไม่มีผู้ใดไม่อกสั่นขวัญแขวนณ สถานที่พักแรมนอกเมืองเสี่ยวเอ้อร์กำลังต้อนรับแขกเข้ามาด้านใน“แม่นางเชิญด้านใน! จะรับอะไรดีขอรับ?”หญิงสาวในชุดขาว สวมผ้าคลุมหน้า ดูพลิ้วไหวราวกับเทพเซียนทว่า ด้วยกระบี่ที่ถืออยู่ในมือ ทำให้ผู้คนไม่กล้าเข้าใกล้หลังจากนางมองไปรอบ ๆ ก็นั่งลงที่ตำแหน่งมุมห้อง——ที่มองเห็นได้ทั่วทั้งบริเวณ“บะหมี่น้ำสามชาม”เสี่ยวเอ้อร์ถามด้วยความสอดรู้: “แม่นาง ท่านคนเดียวหรือ?”หญิงสาวกินบะหมี่สามชามใหญ่ จะกินไหวหรือ?หญิงสาวเงยหน้ามองด้วยสายตาเย็นเยียบ เสี่ยวเอ้อร์รีบยิ้มเจื่อน ๆ: “ได้เลย! บะหมี่น้ำสามชาม!”แขกที่อยู่โต๊ะกลางดื่มสุราไปมาก ก็เริ่มพูดจาขาดสติ“ครั้งนี้ตายไปแล้วอีกกี่คน?”“ทางเข้าประตูเมืองก็แขวนอยู่สิบเจ็ดศพแล้ว เบื้องหลังของแต่ละศพ ก็คือตระกูลหนึ่งที่ถูกประหารทั้งตระกูล เฮ้อ! บาปกรรมจริง ๆ!”“ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันทรงโหดเหี้ยม ต้าโจวก่อตั้งได้ไม่ถึงครึ่งปี ขุนนางในราชสำนักก็เปลี่ยน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1716

    ครึ่งเดือนต่อมาด้านหลังเขาตงฟางซื่อยืนอยู่เพียงลำพังหน้าหลุมศพของภรรยา ราวกับร่างหนึ่งที่ไร้วิญญาณเฟิ่งจิ่วเหยียนเดินเข้ามา“ข้าจะไปแล้ว”นัยน์ตาของตงฟางซื่อฉายแววผิดแปลกจากเดิมวูบหนึ่ง จากนั้นก็กลับสู่ความสงบ“ไปกันให้หมดเถอะ”เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา“หลายวันก่อน ข้าพบอู๋เซียงแล้ว แต่... ข้าก็ยังฆ่าเขาไม่ได้ ปล่อยให้เขาหนีไปได้อีกครั้ง”ตงฟางซื่อหันมามองนาง ด้วยแววตาร้อนรุ่ม“เขาอยู่ที่ใด!!”เฟิ่งจิ่วเหยียนมีท่าทีสุขุมเยือกเย็น“ตอนนี้เขาไปที่ใดแล้ว ข้าไม่รู้“แต่ข้าเชื่อว่า หากท่านไม่ลุกขึ้นสู้ ท่านจะไม่มีวันหาเขาเจอ ความแค้นของพี่สะใภ้ ท่านจะไม่มีวันล้างแค้นได้”ตงฟางซื่อยิ้มอย่างขมขื่น“ซูฮ่วน จนถึงตอนนี้ เจ้ายังคิดว่าข้าไม่ผิดใช่หรือไม่?”สายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนสงบนิ่ง“ความผิดไม่ได้อยู่ที่ท่าน พี่น้องสองคนนั้นของอู๋เซียง เป็นข้ากับท่านที่ร่วมกันฆ่า ท่านมีพี่สะใภ้ ส่วนข้างกายข้า... ก็มีหร่วนฝูอวี้ อู๋เซียงไม่กล้าจับหร่วนฝูอวี้ แต่จับแค่พี่สะใภ้ไป นั่นแสดงว่าเขากลัวคนที่แข็งแกร่งและรังแกคนที่อ่อนแอ ท่านตงฟาง ท่านกับข้าได้ฆ่าสองคนนั้น ก็เท่ากับได้ช่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status