หน้าหลัก / โรแมนติก / แอบรักเธออีกสักที / แอบรักเธออีกสักที ตอนที่ 7

แชร์

แอบรักเธออีกสักที ตอนที่ 7

ผู้เขียน: ACHICHI
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-13 18:51:05

แอบรักเธออีกสักที

ตอนที่ 7

ฉันห่มผ้าให้จ๋อมถึงคออีกครั้ง แล้วเดินไปปิดไฟ จังหวะเดียวกันประตูห้องนอนก็เปิดออก เจ้าของบ้านเดินเข้ามาเงียบเชียบ พอเห็นว่าจ๋อมหลับไปแล้วก็ยกยิ้มขึ้นมาได้

            “ปกติป่านนี้ไอ้จ๋อมมันยังไม่นอนเลย”

            “ปายอ่านนิทานให้ฟัง” ฉันรีบบอกอย่างภูมิใจ จนคนว่าจ้างหันมามอง

            “แค่อ่านนิทานก็หลับง่าย ๆ แบบนี้เลย?”

            “จ๋อมบอกว่าแม่เคยอ่านให้ฟัง”

            “…”

            แล้วเราทั้งคู่ก็เงียบกันไปอึดใจ สีหน้าพี่เหนือดูหม่นเศร้าขึ้นมาเล็กน้อยไม่ต่างจากจ๋อมเมื่อชั่วโมงก่อน แต่ก็ทันได้เห็นแค่แว้บเดียวเท่านั้น ก่อนดวงหน้าคมคายจะกลับมายิ้มกว้างเหมือนเดิม

            “พี่เป็นโรคนอนไม่หลับ”

            “จริงเหรอ?” ฉันเลื่อนคิ้วเข้าหากันในทันที เงยหน้าขึ้นมองเขา พี่เหนือไหวไหล่เล็กน้อยก่อนจะตอบ

            “ก็เป็นมาหลายปีแล้ว”

            “พี่หาหมอบ้างไหม?”

            “หาแล้วแต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร”

            เจ้าตัวว่างั้นพร้อมกันก็พยักหน้าเรียกให้ฉันเดินออกจากห้องไปพร้อมกัน ฉันได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้าง กับสีหน้าที่ดูราวกับปกติสบายดีของเขาอย่างเป็นห่วง ยิ่งการแสดงออกดูเหมือนไม่เป็นอะไรยิ่งน่าเป็นกังวล และสุดท้ายก็อดที่จะเผือกไม่ได้จริง ๆ

            “พี่ไม่ค่อยได้นอน แล้วออกไปทำงานแต่เช้าทุกวันแบบนี้เหรอ?”

            “ไม่เห็นเป็นไร ชินแล้ว เป็นมาตั้งหลายปี”

            “หลายปีเลยเหรอ? ปายว่าพี่ต้องปรึกษาหมอแล้วนะ”

            “บอกว่าเคยแล้ว”

            “…”

            “เดี๋ยววันนี้พี่ไปส่งเอง บอกไอ้ปราณไว้แล้วตอนมันแวะไปเอาไอ้แดงที่ร้าน”

            พี่เหนือเปลี่ยนเรื่องไปเสียอย่างนั้น ราวกับไม่อยากพูดถึงหัวข้อเดิมต่อ และฉันก็ไม่อยากจะไปซักไซ้อะไรเขาให้มากความ เจ้าตัวหันไปคว้ากุญแจรถ เดินนำออกไปนอกตัวบ้าน

            และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่เราสองคนอยู่ในสภาพเดียวกันกับเมื่อเช้า

            ตอนที่เสียงสตาร์ตรถดังขึ้นฉันก็ลืมเรื่องที่คุยค้างไว้ไปเสียอย่างนั้น กลับมาใจเต้นตึกตักกับตัวเองแทน

            สัมผัสที่เบียดชิดแผ่นหลัง กับข้อแขนแข็งแรงที่ราวกับกอดประคองกันอยู่ ถ้าเป็นสมัยก่อนการได้ใกล้ชิดกับพี่เหนือขนาดนี้ กลับถึงบ้านมีหวังกรี๊ดไม่หยุดแน่นอน

ไม่ถึงสิบนาทีพาหนะคู่ชีพของพี่เหนือก็จอดสนิทลงที่หน้าบ้านฉันเอง ตัวบ้านยังเปิดไฟสว่าง รถของพี่ปราณจอดสนิทนิ่งอยู่นอกรั้ว แต่ไร้วี่แววเจ้าของที่จะเดินออกมา

ฉันลงจากไอ้แก่แบบที่พี่ปราณใช้เรียกแทนมอเตอร์ไซค์ของเพื่อนสนิท ก่อนจะหันไปมองหน้าคนมาส่งที่ตอนนี้ดับเครื่องลง หย่อนเท้าสองข้างลงบนพื้น พี่เหนือแกะถุงอะไรสักอย่างที่ห้อยอยู่ตรงแฮนด์จับ ก่อนที่ถุงน้ำเต้าหู้จะถูกส่งต่อมาให้ฉัน

“ค่าจ้างวันแรก” รอยยิ้มกว้างของเขาทำให้ฉันต้องเบนสายตาหนีแล้วทำเป็นเมิน

“ไหนว่าจะจ่ายตังไง”

“ขี้งกจริง ๆ”

“ปายไม่ได้งก”

“เดี๋ยวพี่ค่อยไปกดตังให้พรุ่งนี้ ค่าจ้างล่วงหน้าเดือนนึง”

“สมัยไหนแล้วพี่เหนือ โอนเอาก็ได้”

“ขอโทษที่เป็นคนโลวเทคฯ ครับน้อง”

“ต้องโลวแค่ไหน…”

“จะเอาไหมน้ำเต้าหู้เนี่ย?”

เจ้าตัวยังคงกวัดแกว่งถุงน้ำเต้าหู้ค้างอยู่อย่างนั้น แม้จะลดความอ้วนอยู่จริง ๆ แต่ฉันก็ยื่นมือไปรับมันมาถือไว้

“ขอบคุณ”

และระหว่างเราก็เข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง เสียงจิ้งหรีดเรไรดังอยู่ทั่วไปยิ่งทำให้บรรยากาศสงัดเข้าไปใหญ่ ฉันยืนนิ่งอึกอักอยู่ที่เดิมไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร พี่เหนือก็ยิ้มกว้างค้างอยู่อย่างนั้น

และโชคดีเหลือเกินที่ในที่สุดก็ได้ยินเสียงของบุคคลที่สามดังขึ้น พี่ปราณในสภาพชุดนอนเดินออกมาหาคนเป็นเพื่อนพร้อมทั้งเอ่ยปากถาม

“เป็นไง น้องกูไปทดลองงานวันแรก ได้อยู่ไหม?” พี่ปราณไม่พูดเปล่าแต่ทิ้งแขนลงคล้องคอฉัน สีหน้าขบขันชำเลืองมองหน้ากันจนฉันรีบร้องออกไป

“ก็ต้องได้เรื่องอยู่แล้วสิ แค่เลี้ยงหลานเอง”

“หน้าตาไม่น่าเชื่อถือ”

“ทำเป็นดูถูกไปได้”

ระหว่างที่เราสองศรีพี่น้องยืนเถียงกันไปเถียงกันมา พี่เหนือก็หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นห้ามทัพ นัยน์ตาเป็นประกายทอดมองมาที่ฉันแล้วยิ้มกว้างกว่าเดิม

“ได้เรื่องดิ จ๋อมหลับเร็ว ปกติป่านนี้ยังเล่นเกมอยู่เลย”

“ปายอ่านนิทานให้ฟัง” ฉันขยายความให้พี่ปราณฟัง คนเป็นพี่เลิกคิ้วเล็กน้อย หันกลับไปมองหน้าเพื่อนราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้

“มึงไม่ลองให้ปายอ่านให้ฟังบ้าง จะได้นอนหลับ”

“…”

คราวนี้พี่เหนือที่ยิ้มค้างอยู่ถึงกับยกมือขึ้นเกาหางคิ้ว เบนสายตาไปทางอื่น อาการแบบนี้แสดงว่ามันคือเรื่องจริงแน่นอนไม่ต้องสืบเลย ไอ้อาการนอนไม่หลับของเขาเนี่ย และดูจากสีหน้าทั้งคู่ก็คงจะไม่ใช่แค่เรื่องเล่น ๆ ด้วย ขนาดพี่ชายฉันเองจู่ ๆ ก็ดูเคร่งเครียดขึ้นมาเหมือนกัน

“หรือไม่พี่ลองเปิดยูทูบฟังอะไรเพลิน ๆ ก็ได้” ฉันพยายามเสนอ แต่พี่เหนือกลับส่ายหัว

“ไม่เอา เคยเปิดแล้ว สุดท้ายสะดุ้งตื่นตอนตีสองเพราะเสียงในยูทูบนั่นแหละ”

“ก็นี่ไง… ให้ปายลองอ่านให้ฟังไหม?”

พี่ปราณรีบยื่นข้อเสนอเดิมต่อไม่รอช้า ไม่คิดจะหันมาไถ่ถามสุขภาพฉันสักคำ และตัวคนนอนไม่หลับเองก็หัวเราะออกมาสีหน้าไม่ศรัทธา

“กูไม่ใช่เด็ก ๆ”

“ไม่ได้มีเฉพาะนิทานสำหรับเด็กสักหน่อยพี่” ฉันสอดขึ้นทันที ไม่ใช่เพราะกลัวเขาไม่ตอบรับข้อเสนอหรืออะไรหรอก แต่มันก็มีเรื่องสำหรับผู้ใหญ่เยอะแยะไป

“ไม่ลองดูหน่อย เผื่อจะช่วย” พี่ปราณเองก็พยักหน้าเห็นด้วย

พี่เหนือชำเลืองมองมาที่ฉันซึ่งก็ไม่ได้คิดจะขัดอะไรแต่แรกอยู่แล้วเพราะไม่เห็นมีอะไรเสียหายยังไงเมื่อก่อนเราก็สนิทกัน แถมถ้าเขาตกลงฉันก็จะได้เห็นเจ้าตัวตอนนอนอีกต่างหาก การทำอะไรแบบนี้ไม่ต่างจากการสานฝันในวัยเด็กเลยสักนิด กำไรเหนาะ ๆ เลย

เราสามคนเงียบกันอยู่ครู่ใหญ่ พี่เหนือก็พ่นลมหายใจเบา ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากันอีกครั้ง เอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงติดตลก

“แล้วจะคิดตังแพงปะ?”

“ไอ้ห่า แล้วก็ทำให้กูลุ้น” พี่ปรานหลุดหัวเราะออกมาเป็นคนแรก ถึงฉันเองก็หลุดขำออกมาด้วยเหมือนกัน

“ปายอ่านให้ฟังฟรี ๆ เลยก็ได้ ไม่คิดสักบาทเดียว”

“จริง?” คิ้วหนาเลิกขึ้นเล็กน้อย มุมปากยกยิ้มอยู่อย่างนั้น

“จริงดิ ถ้าพี่มีปัญหาจริง ๆ ต้องรีบแก้นะ เสียสุขภาพกายไม่พอ เสียสุขภาพจิตอีก”

“น้องมึงคิดไรกับกูปะเนี่ย? เสนอทำงานให้ฟรีสองรอบแล้วนะ”

“อะไรเล่า”

ฉันร้องสวนออกมาทันทีที่คนบ้าทำเป็นหันไปขอความเห็นจากพี่ปราณที่ก็ถึงกับหลุดขำออกมาอีกรอบเหมือนกัน สายตาผู้ชายสองคนมองมาที่ฉันเป็นตาเดียวแต่เป็นไปในทิศทางหยอกล้อมากกว่าจะจริงจัง

เป็นฉันเองมากกว่าที่จริงจังกว่าทุกคน ปากคว่ำลงสิบระดับแม้ว่าข้างแก้มจะร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างคุมไม่อยู่ก็ตาม ก็ยังดีที่ตอนนี้เป็นเวลามืดค่ำ ไม่อย่างนั้นอีกสองคนจะต้องได้เห็นมะเขือเทศสุกที่ข้างแก้มฉันเป็นแน่

“เดี๋ยวพี่จ้างไม่ต้องมาอ่านให้ฟังฟรี ๆ หรอก”

“ก็ดี” ฉันทำเป็นพยักหน้ารับไปอย่างนั้นเพื่อลบข้อกล่าวหาที่ว่า แม้เรื่องที่เขาพูดมันจะมีมูลความจริงอยู่หลายส่วนก็ตาม

“งั้นวันนี้กูกลับก่อน”

“กลับดี ๆ”

เสียงติดเครื่องรถดังขั้นอีกครั้ง พี่ปราณโบกมือให้เพื่อนแบบไม่มีพิธีรีตองอะไรมาก แล้วก็เดินกลับเข้าบ้านไปก่อน ในขณะที่ฉันยังยืนรอส่งพี่เหนืออยู่ที่เดิม เจ้าตัวหันมายิ้มให้กันอีกทีพร้อมกับยักคิ้วให้ตามประสาคนกวน แต่ประโยคถัดมาเล่นเอาฉันไปแทบไม่เป็น

“ฝันดีนะปาย”

“…”

            ไอ้แก่เคลื่อนตัวทิ้งห่างออกไปแล้วแต่ฉันยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ปากพึมพำออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา

            “ฝันดีพี่เหนือ”

            ราวกับคืนวันเมื่อหลายปีก่อนฉายกลับเข้ามาในหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างที่บอกว่าถ้าเป็นตอนนู้นมีหวังฉันคงกรี๊ดสลบไปแล้วกับอะไรประเภทที่ทำให้ใจเต้นขึ้นมาได้แบบนี้

            ถึงเวลาจะผ่านมานานแต่คงปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าการได้เจอหน้าคนที่เคยแอบรักอีกครั้ง ทำให้ความรู้สึกราวกับจะหวนไปเป็นเด็กชนิดที่ก็คาดไม่ถึงเหมือนกัน

แม้ตอนนี้ไม่ได้กรี๊ดออกมาเพราะคงจะทำตัวเป็นเด็กเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้

แต่ฉันในวัยยี่สิบเจ็ด… ก็กำลังส่งเสียงกรี๊ดในใจอยู่ดี…

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • แอบรักเธออีกสักที   เหนือรักปาย ตอนพิเศษ 4 THE END

    เหนือรักปายตอนพิเศษ 4 ปัจจุบัน เสียงหัวเราะของคนหลายคนดังแว่วมาให้ได้ยิน ตอนที่ผมกำลังเดินไปยังเวิร์กช็อปเล็ก ๆ ข้างกันกับตัวบ้านของผมเองที่ ๆ ปายตั้งใจจะเปิดสอนศิลปะให้กับคนที่สนใจ และก็ได้รับการตอบรับดีพอสมควร เพราะในตัวอำเภอไม่มีที่ไหนเปิดสอนศิลปะเป็นจริงเป็นจัง หากจะเรียนก็ต้องเข้าเมืองไปไกลกว่าสองชั่วโมง ลูกค้าส่วนมากก็เป็นเด็กนักเรียนที่พ่อแม่สนใจจะสนับสนุนลูก ๆ ให้เอาดีทางด้านนี้ แต่ก็มีผู้ใหญ่หลายคนอยู่เหมือนกันที่ให้ความสนใจมาลงเรียน บางกลุ่มก็มาเรียนบ้างเป็นพัก ๆ บางคนก็ตั้งใจจะเรียนระยะยาวแม้งานที่ว่านี้จะไม่ได้ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ แต่คนที่ตั้งใจทำก็ดูจะพอใจที่ทุกอย่างไปได้สวยอย่างที่คิด วันนี้เป็นเย็นวันธรรมดาคนเลยไม่เยอะเท่าไรนัก สังเกตได้จากรองเท้าที่ถอดเรียงเอาไว้บนชั้นวางรองเท้าด้านนอก หากเป็นวันเสาร์อาทิตย์คนก็จะเยอะกว่านี้ เสียงกริ่งประตูดังขึ้นตอนที่ผมผลักบานประตูเดินเข้าไป คนหลายคนด้านในหันมองมา เด็กนักเรียนผู้หญิงหลายคนกำลังนั่งจับกลุ่มวาดภาพสีน้ำ ตรงหน้าของแต่ละคนมีกระดานวาดภาพวางบนขาตั้งไม้ทรงสูง ผมได้แต่

  • แอบรักเธออีกสักที   เหนือรักปาย ตอนพิเศษ 3

    เหนือรักปายตอนพิเศษ 3@ โรงเรียน “กูอยากถือป้าย” “ก็ถ้าไม่ใช่มึงเป็นดรัมฯ แล้วจะให้ใครเป็น?” “กูขี้เกียจซ้อม ขอถือป้ายแทนได้ปะ?” “ไอ้ฝ้ายก็จะนั่งเสลี่ยง มึงก็อยากจะถือป้าย ไม่มีใครอยากเป็นดรัมฯ บ้างเลยหรือยังไง?” “…” ผมได้แต่นั่งมองเพื่อนผู้หญิงโต้กันไปโต้กันมาเรื่องการเตรียมงานกีฬาสีของโรงเรียนที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ ขนาดว่านั่งเฉย ๆ ไม่ออกความเห็นอะไร สายตาคนอื่นก็พากันหันมากดดัน ราวกับจะให้ผมเป็นคนออกความเห็นว่าใครควรจะเป็นดรัมเมเยอร์เสียอย่างนั้น “อะไร? กูจะรู้ไหมเนี่ย? กูผู้ชาย” “มึงเป็นประธานไงเหนือ และนี่ไม่มีใครอยากเป็นเลยสักคน ดรัมฯ ไม้แรกเลยนะเว้ย กูละงงจริง ๆ”ไอ้จ๋าเกาหัวแกรก ๆ สีหน้าคิดไม่ตก สายตากดดันเลื่อนมองกลับไปยังคิมซึ่งนั่งกอดอกอยู่บนโต๊ะเรียนอีกครั้ง คนถูกมองพ่นลมหายใจเสียงดังพลางก็บ่นกระปอดกระแปด “ก็กูอยากถือป้าย มึงก็เป็นดรัมฯ เองสิ” “ลดน้ำหนักให้ได้สักสิบห้ากิโลฯ กูจะเป็นให้” คนที่เพื่อนปัดภาระให้เ

  • แอบรักเธออีกสักที   เหนือรักปาย ตอนพิเศษ 2

    เหนือรักปายตอนพิเศษ 2@ โรงเรียน วันนี้เป็นอีกครั้งที่ใต้โต๊ะเรียนของผมมีคนเอาจดหมายมาสอดไว้เหมือนกับหลายวันที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนเอาของมาส่งให้ หากแต่ไม่มีใครใช้วิธีส่งจดหมายแบบนี้ ส่วนมากเป็นขนมกับของขวัญเสียมากกว่าก็มีอยู่แค่คนเดียวที่ใช้วิธีส่งจดหมายมา และแค่เห็นซองจดหมายก็รู้ได้ในทันทีว่าเป็นของคน ๆ เดียวกัน คนอื่นรอบตัวผมในขณะนี้ยังคงตั้งหน้าตั้งตาลอกการบ้านกันเหมือนอย่างเคยตอนที่ผมดึงเอากระดาษโน้ตลายกระต่ายสีชมพูออกจากซอง ไล่สายตาอ่านสิ่งที่เขียนอยู่บนแผ่นกระดาษอันที่จริงก็ไม่ได้ต่างไปจากทุกฉบับที่ผ่านมา คนส่งยังคงเขียนทำนองว่า วันนี้แอบมองผมตอนทำนู่นทำนี่ พรรณนาว่าตัวผมหล่อแค่ไหน ไม่ก็ประเภทที่ว่าเมื่อคืนฝันถึงผมอะไรประมาณนั้นทุก ๆ ย่อหน้าจะมีสติกเกอร์รูปหัวใจแปะอยู่ ท้ายแผ่นจะมีรูปการ์ตูนที่วาดไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน อย่างวันนี้ก็เป็นผู้หญิงกำลังยืนเกาะแขนผู้ชายที่ก็คิดว่าคงแทนตัวผมเอง ผมได้แต่ระบายรอยยิ้มออกมา เพราะต้นทางคนส่งดูท่าจะตั้งใจมาก ไม่ว่าผมจะมาโรงเรียนเช้าแค่ไหน ก็จะเห็นว่ามีจดหมายสอดที่ใต้โต

  • แอบรักเธออีกสักที   เหนือรักปาย ตอนพิเศษ 1

    เหนือรักปายตอนพิเศษ 1 สิบปีก่อน@ เหนือ “กูถึงแล้ว” ‘จอดรออยู่หลังสถานี’ “เค” ปลายสายวางไปแล้ว กระเป๋าเป้ใบใหญ่ถูกแบกขึ้นบ่าอีกรอบหลังจากถูกวางทิ้งไว้เมื่อนาทีก่อนเพราะผมเดินไปซื้อน้ำที่ร้านค้าหน้าสถานีรถไฟ อากาศประเทศไทยตอนกลางวันร้อนตับแตกแบบนี้ อะไรก็ไม่ดีเท่าได้กินน้ำแดงเย็น ๆ สักถุง หลังจากไปอยู่บ้านป้ามาตลอดปิดเทอมฤดูร้อนตอนนี้ก็ได้ฤกษ์กลับบ้านตัวเองเสียที เนื่องจากโรงเรียนใกล้เปิดเทอมแล้ว อีกไม่กี่วันก็คงต้องกลับไปเรียนเหมือนอย่างเคย และคงเป็นปีสุดท้ายที่จะได้ใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียน เพราะปีนี้ผมกำลังจะขึ้นชั้นม.หก “ไปบ้านกูก่อนแล้วกัน” แค่เจอหน้ากันไอ้ปราณเพื่อนสนิทที่เอามอเตอร์ไซค์มาจอดรอรับก็เอ่ยบอก พลางเอาขาตั้งรถขึ้น ผมไม่ทันได้พูดอะไรมันก็เตรียมจะออกรถ สุดท้ายเลยต้องรีบคร่อมขาซ้อนท้ายมัน ไม่จำเป็นต้องเอ่ยปากถามเพื่อนว่าทำไมต้องไปบ้านมันก่อน เพราะถึงยังไงบ้านที่ว่าก็เป็นทางผ่านที่จะไปบ้านผมอยู่แล้ว สายลมพัดปะทะเข้าหาใบหน้าไม่ได้ช่วยให้คลายร้อนลงเท่า

  • แอบรักเธออีกสักที   แอบรักเธออีกสักที ตอนที่ 49

    แอบรักเธออีกสักทีตอนที่ 49 หลายวันต่อมา หลังจากงานแต่งผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เราทุกคนก็กลับมาใช้ชีวิตกันอย่างปกติสุข ฉันยังคงไปเลี้ยงจ๋อมเหมือนทุกวัน พี่เหนือก็ออกไปดูแลร้านของเขาเหมือนทุกที พี่ปราณก็ยังคงช่วยดูแลกิจการของที่บ้าน ส่วนจ๋อมก็กำลังเตรียมสอบปลายภาคของระดับชั้นประถมศึกษา เพราะงานวันแต่งเราเชิญคนรู้จักมาเยอะมาก และแขกหลายคนก็เป็นอาจารย์ที่โรงเรียนเก่าของเราทั้งคู่รวมถึงรุ่นพี่รุ่นน้องชั้นปีอื่น ๆ ช่วงท้ายของงานทางอาจารย์เลยมีการขอแรงจากศิษย์เก่าเข้าไปช่วยจัดการเรื่องการย้ายโต๊ะนักเรียนแบบเก่าไปเก็บไว้ที่โกดังหลังโรงเรียนเพื่อที่จะรับโต๊ะเขียนแบบเลกเชอร์เข้ามาแทน แน่นอนว่าฉันกับพี่เหนือเองก็อาสาจะไปช่วย พวกเพื่อน ๆ ของเขา และเพื่อนสมัยเรียนของฉันก็พากันมาร่วมแรงร่วมใจกันในวันนี้ด้วยเหมือนกัน “ดีไหม?” “อะไร…” “ก็แกกับพี่เหนือไง ใกล้ได้ลูกรึยัง?” “บ้า…” “อย่ามาเขินหน่อยเลย เห็นว่าลุงหมานอยากมีหลานให้อุ้มไว ๆ” “ก็กำลังช่วยกันทำอยู่” “โอ๊ย! ไม่น่าถามเลยจริง

  • แอบรักเธออีกสักที   แอบรักเธออีกสักที ตอนที่ 48

    แอบรักเธออีกสักทีตอนที่ 48 สองชั่วโมงต่อมา หลังจากที่เดินไหว้ผู้หลักผู้ใหญ่โต๊ะนู้นโต๊ะนี้จนเสร็จ ทุกคนก็ทานอาหารกันจนอิ่มหนำ ตอนนี้ก็เข้าสู่ช่วงเปิด VTR ของคู่บ่าวสาวที่พี่ปราณเป็นคนเสนอตัวจัดเตรียมให้เอง ฉันกับพี่เหนือได้แต่ยืนกลั้นขำกันอยู่บนเวทีเมื่อแต่ละรูปที่คนเป็นพี่เลือกมามันช่างน่าขำ ตั้งแต่รูปของเราสมัยยังเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ข้ามมาสมัยผมของฉันยังสั้นเท่าติ่งหู และตัดมาที่ภาพสมัยมัธยมปลายที่เริ่มจะดูดีขึ้นมาหน่อย ช่างต่างจากคนเป็นเจ้าบ่าวที่หน้าตาดีมาตั้งแต่เด็กแบบที่คงไม่เคยพบเจอยุคมืดของตัวเองมาก่อน วิดีโอเล่นผ่านไปเรื่อย ๆ จนเข้าสู่รูปพรีเวดดิ้งของเราทั้งคู่ ที่ออกจะหวานเกินไปเสียหน่อย ทุกรูปพี่เหนือจะมองกันด้วยสายตาแบบที่ทำเอาหัวใจละลาย บรรดาสาว ๆ ในงานพากันกรี๊ดกร๊าดวี้ดว้ายกันไม่หยุดกับสายตาประเภทนั้นแม้จะเป็นเพียงภาพถ่ายก็ตาม และตอนนี้เองที่พี่เหนือเลื่อนมือมากุมประสานเข้ากันกับมือของฉัน สายตาที่มองมาอย่างสื่อความหมายทำเอาใจเต้นแรง แม้ว่าเราจะอยู่ท่ามกลางคนหลายร้อยคนฉันก็ไม่อาจห้ามจังหวะหัวใจให้เต้นช้าลงได้เลย

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status