Home / โรแมนติก / แอบรักเธออีกสักที / แอบรักเธออีกสักที ตอนที่ 6

Share

แอบรักเธออีกสักที ตอนที่ 6

Author: ACHICHI
last update Last Updated: 2025-03-13 18:51:01

แอบรักเธออีกสักที

ตอนที่ 6

            สายลมพัดโชยทำให้เรือนผมยาวสยายปลิวไปตีเข้ากับใบหน้าของคนขับ พี่เหนือรวบผมส่งต่อมาให้ฉันจับเอาไว้ เสียงหัวเราะของเขาราวกับว่าเป็นเรื่องน่าขำที่เรากำลังทำตัวเหมือนเด็ก ๆ ทั้งที่ก็อายุขนาดนี้กันแล้วแท้ ๆ

            ทว่าในใจฉันกลับรู้สึกหวั่นไหวขึ้นมากับความใกล้ชิดระดับนี้ที่แม้แต่เมื่อก่อนก็ไม่เคยได้มีโอกาสสัมผัส

            สองข้างแก้มร้อนผ่าวจนรู้สึกได้ พี่เหนือบิดมอเตอร์ไซค์ไปตามถนนเส้นเล็ก ลัดเลาะไปตามบ้านเรือนอย่างชำนาญเส้นทาง อากาศปลอดโปร่งเพราะไม่มีอาคารสูงระฟ้า มีก็แต่ไม้ใหญ่ที่กิ่งก้านโบกสะบัดตามแรงลม วันนี้อากาศดีไม่มีแดดแม้แต่นิด กระนั้นกรอบหน้าของฉันก็มีเหงื่อเย็นชื้นผุดซึม

            ไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าไร รู้แค่เพียงหัวสมองมันเหม่อลอยไปไกล ระหว่างเราไม่มีคำพูดอะไรให้คุยกันเพราะคงคุยไม่รู้เรื่องเนื่องจากเสียงลมแรงตามความเร็วที่รถเคลื่อนที่ไป

            ในขณะที่เขาตั้งหน้าตั้งตาขับรถฮึมฮำร้องเพลงอย่างคนอารมณ์ดี ตัวฉันกลับนั่งเกร็งพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่หลุดยิ้มกว้างออกมา

            ใช้เวลาไม่นานมากนัก รถก็จอดลงตรงหน้าบ้านสวนของครอบครัวฉันเอง บรรยากาศโดยรอบเขียวสดไปด้วยต้นทุเรียนที่กำลังออกผล กับเนินหญ้ามองไปไกลสุดสายตา แคร่ไม้หน้าบ้านมีคนคุ้นหน้าที่ไม่ได้เจอกันนานนั่งรออยู่ก่อนแล้ว

            ฉันกระโดดลงจากมอเตอร์ไซค์วิ่งเข้าไปหาคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่ก็กำลังลุกขึ้นเดินออกมาหาเหมือนกัน

            “ทำไมไม่รออยู่บ้านเล่า? พรุ่งนี้พ่อกับแม่ก็กลับแล้ว”

            “ปายทนคิดถึงไม่ไหวน่ะสิ”

            ฉันกอดเอวแม่อย่างออดอ้อน ส่วนพ่อเดินผ่านไปรับถุงอาหารจากพี่เหนือที่เดินตามเอามาให้

            “ผมบอกแล้วว่าเดี๋ยวเอามาส่งให้เอง แต่ปายไม่ยอมนี่สิน้าใจ” พี่เหนือยกมือไหว้แม่ฉันพร้อมทั้งเอ่ยเล่าไปด้วยอย่างสนิทสนม

            “ขอบใจมากเอ็งมาก ไปหาเจ้าปราณสิ คงอยู่แถว ๆ หลังสวน น่าจะเก็บทุเรียนกันอยู่ เอ็งจะได้เอากลับบ้านไปกินด้วย” พ่อเองก็ตบบ่ากว้างของเพื่อนสนิทลูกชายอย่างเอ็นดู

            “กินทุกวันจนอ้วนหมดแล้วลุงหมาน” พี่เหนือทำทีลูบหน้าท้องตัวเอง แต่แม่ฉันกลับร้องออกมา

            “อ้วนที่ไหน? รูปหล่อออกอย่างนี้”

            “ไปเถอะ เดี๋ยวค่อยฝากเจ้าปายกลับไปพร้อมกับพี่มันก็ได้ รบกวนเวลางานเอ็งเปล่า ๆ”

            “งั้นผมแวะไปหาไอ้ปราณที่ท้ายสวนก่อนนะลุงหมาน”

            ฉันได้แต่ยืนฟังการสนทนาของคนสามคนที่ยังคงสนิทชิดเชื้อกันเหมือนครั้งเก่าก่อน อย่างที่บอกว่าพี่เหนือกับพี่ปราณเป็นเพื่อนซี้กัน ซ้ำยังรู้จักบ้านของกันและกันมาแต่เด็ก ไม่แปลกที่จะได้กลับมาเห็นภาพแบบนี้อีกครั้ง

            “คิดถึงแม่จัง”

            พอพี่เหนือขึ้นขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปแล้วฉันก็ได้ฤกษ์หันมาทำหน้าออดอ้อนใส่คนที่กำลังกอดอยู่อีกรอบ ดวงหน้าละม้ายคล้ายกันกับฉันหรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยตอบ

            “ถ้าไม่ได้หยุดงานก็ไม่คิดจะกลับมาอยู่บ้านหรอกเราน่ะ”

            “ก็นี่ไง… ปายกะว่าจะกลับมาอยู่สักระยะเลย”

            “อยู่นาน ๆ สิดี แม่คิดถึง” ว่าแล้วก็หอมหัวฉันหนึ่งที

            “เห็นเจ้าปราณเล่าว่าเรารับเลี้ยงหลานให้เจ้าเหนือรึ?” พ่อเดินกลับเข้ามาถาม

            “ปายก็ว่าง ๆ ไปช่วยพี่เหนือเลี้ยงแค่ช่วงเย็นเอง”

            “ดีแล้ว เจ้าเหนือน่าสงสารออกอยู่ตัวคนเดียว เมียก็ไม่มี พ่อแม่ก็ทางใครทางมันกว่าจะกลับมาเยี่ยมลูกได้ทีก็ชาตินึง ไหนที่ร้านจะงานยุ่งแบบนั้นด้วย”

แม่ถอนหายใจยาว แล้วสองคนตรงหน้าก็พากันทำหน้าเห็นอกเห็นใจคนซึ่งไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว ฉันไม่ได้เอ่ยปากถามอะไรต่อ เพราะพ่อกับแม่ชวนให้กินก๋วยเตี๋ยวด้วยกัน ก่อนจะเรียกคนสวนที่อยู่ใกล้ ๆ ให้ไปตามคนอื่นมากินมื้อเที่ยงพร้อมหน้าพร้อมตา

            ตอนเย็น

            ฉันกลับออกจากสวนพร้อมกับพี่ปราณที่บอกว่าวันนี้จะไปนอนบ้าน โดยที่พ่อกับแม่ยังจะต้องอยู่สวนต่ออีกคืนเพื่อคุยเรื่องการตกลงซื้อขายที่ดินซึ่งว่างอยู่หลายไร่

ระหว่างทางกลับฉันเลยมีโอกาสได้ถามเรื่องรถกระบะของที่บ้านขึ้นมา พี่ปราณบอกว่าไอ้แดงมันก็เก่าจริง และก็มีปัญหาอยู่บ่อย ๆ ตามที่พี่เหนือบอก ให้เอาอีกคันไปใช้จะดีกว่า

            แต่ฉันก็คิดว่าอาจจะไม่ต้องใช้บ่อย ๆ ถ้าไปบ้านพี่เหนือปั่นจักรยานไปก็ได้ ใกล้แค่นั้นเอง ก็คงจะอารมณ์เดียวกันกับพี่เหนือที่แม้จะมีรถยนต์​ให้ขับแต่กลับจอดทิ้งไว้ในโรงรถ

            พอถามพี่ปราณว่าทำไมพี่เหนือถึงไม่เอารถยนต์มาขับพี่ปราณก็บอกว่า

            ‘บ้านมันอยู่แค่นั้น ร้านก็อยู่แค่นั้น มันชอบแว้นไอ้แก่ไปไหนมาไหนมากกว่า’

            อือฮึ… เป็นถึงเจ้าของกิจการใหญ่โตแต่ไม่ยักชอบขับรถ ก็แปลกดี

            รถจอดสนิทลงที่หน้าบ้านพี่เหนือตอนสี่โมงเย็นพอดิบพอดี พี่ปราณลดกระจกลงสอดส่องสายตามองไปรอบ ๆ ตัวบ้านอย่างกับว่าไม่ได้มานานแล้ว ทั้งที่บ้านเราก็อยู่ใกล้กันแค่นี้ ปากก็พึมพำถาม

            “อยู่ได้ไหม?”

            “อยู่ได้ดิ ปายโตแล้วนะ” ฉันอมยิ้มกับความเป็นห่วงของคนเป็นพี่ อายุขนาดนี้กันแล้วไม่ใช่เด็ก ๆ เสียเมื่อไร

            “งั้นค่ำ ๆ พี่มารับ”

            “แค่วันนี้ก็พอ พรุ่งนี้ปายจะปั่นจักรยานมา ฝากพี่ไปเอาไอ้แดงที่ร้านพี่เหนือด้วยแล้วกัน”

            “โอเค”

            เราสองคนไม่ได้พูดอะไรกันต่อ ฉันหอบหิ้วเอาข้าวที่แวะซื้อเข้ามาจากตลาดลงมาจากรถ รถของพี่ปราณเคลื่อนห่างออกไปแล้ว และจังหวะเดียวกันประตูบ้านก็เปิดออกพอดี

            ป้าตาที่ดูแก่ตัวลงไปมาก ยกยิ้มกว้างมองมาพร้อมทั้งร้องทักทายเสียงดัง

            “เป็นยังไงบ้างปาย? สบายดีไหม?”

            “ปายสบายดีค่ะ ป้าเป็นไงบ้างคะ?”

            ฉันรีบยกมือขึ้นไหว้ รู้อยู่ก่อนแล้วว่าป้าตาเป็นคนมาช่วยดูแลจ๋อมให้ชั่วคราวระหว่างที่ยังหาพี่เลี้ยงคนใหม่ไม่ได้ เลยไม่แปลกใจเท่าไรที่เห็นแกอยู่ที่นี่ บ้านแกอยู่ห่างออกไปทางปากซอยไม่ถึงกิโลฯ คนในตลาดส่วนใหญ่ก็รู้จักกันหมดตามประสาคนต่างจังหวัดนั่นแหละ

            “ผัวป้ามันเจ็บออด ๆ แอด ๆ พักหลังมาเลยต้องให้เจ้าเหนือหาคนมาช่วยดูเจ้าจ๋อมมันใหม่ โชคดีนะที่หนูปายกลับมาบ้านพอดี”

            “ปายกลับมาพักผ่อนค่ะ ว่างอยู่เลยอยากช่วย”

            “ดีแล้วล่ะ สงสารเจ้าเหนือมัน ทำงานหามรุ่งหามค่ำคนเดียวก็ว่าเหนื่อยแล้ว ยังมีคนเอาหลานมาทิ้งไว้ให้เลี้ยงเสียอีก”

            “จ๋อมเป็นลูกใครเหรอคะ?”

            “ก็ลูกไอ้นัยลูกพี่ลูกน้องมันนั่นแหละ ป่านนี้ไม่รู้หายจ้อยไปไหนแล้ว”

            ฉันทำได้เพียงแค่พยักหน้ารับรู้ สีหน้าป้าตาดูอยากจะเล่าต่อ แต่ก็เร่งรีบอยู่เหมือนกัน ฉันเลยรีบเอ่ยปาก

            “ป้าตาไปเถอะค่ะ เดี๋ยวปายจัดการจ๋อมเอง”

            “ฝากด้วยนะลูก เจ้าจ๋อมมันก็น่าสงสารพอ ๆ กัน เฮ้อ! ไม่แปลกใจเลยที่อามันจะรับเลี้ยงไว้ สภาพพ่อแม่แยกทางแบบเดียวกันทั้งคู่…”

            ป้าตาบ่นไปเรื่อย แต่ก็ไม่ได้หยุดยืนคุยต่อ จ้ำอ้าวเดินห่างออกไปแล้ว

            ฉันเดินเข้าไปในตัวบ้านเงียบเชียบ ได้ยินเสียงหัวเราะแว่วมาจากด้านใน อันที่จริงเรื่องพ่อแม่พี่เหนือมีปัญหากันรุนแรงฉันก็พอรู้อยู่ก่อนบ้างแล้ว แต่ตอนก่อนนู้นลุงสรรค์กับป้านอม พ่อแม่ของพี่เหนือยังไม่ได้แยกทางกัน ก็คงจะเพิ่งมาแยกกันอยู่ระหว่างที่ฉันไปเรียนที่กรุงเทพฯ กระมัง

            และอย่างที่เห็นว่าพี่เหนืออยู่บ้านคนเดียว พวกท่านน่าจะแยกย้ายไปมีครอบครัวใหม่ การรับเลี้ยงจ๋อมที่อาจจะตกอยู่ในสถานะไม่ต่างกันไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจอะไรนัก แต่ก็อย่างว่า ตัวเขาเองมีเวลาเสียที่ไหน…

            เดินเข้ามาจนถึงห้องรับแขก กระจกใสบานโตมองออกไปเห็นลำคลองด้านหลังบ้าน ฟ้าเริ่มจะหม่นแสงลงทีละน้อยเพราะเข้าสู่เวลาช่วงเย็นแล้ว จ๋อมนอนอยู่บนโซฟาตัวหนึ่ง พอหันมาเห็นกันเข้าก็รีบขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ดวงหน้าเล็กยิ้มแป้นมองมา

            “สวัสดีครับอาปาย”

            “จ๋อมกินข้าวรึยัง อาซื้อขนมมาให้ด้วยนะ”

            “จ๋อมกินแล้วครับ ขอจ๋อมเล่นเกมต่อได้ไหมครับ?”

            “…”

            ฉันหรี่ตามองสีหน้าคาดหวังในคำตอบก่อนจะตัดสินใจพยักหน้ารับ ไม่อยากจะกดดันเด็กตั้งแต่วันแรก ๆ ที่เจอกันแบบนี้ พอได้รับอนุญาตเจ้าตัวก็รีบหันไปคว้าไอแพดที่ซ่อนไว้ด้านหลังมาเล่นเกมต่อทันที

            แลดูต้องเป็นเด็กติดเกมอย่างแน่นอน…

            ไม่แปลกใจเลยว่าเด็กสมัยนี้ทำไมเป็นแบบนี้กันหมด เทคโนโลยีมันก็ให้คุณ แต่บางทีก็แอบมีโทษแฝงอยู่ไม่น้อย อาจจะเป็นเพราะไม่มีใครมีเวลามาดูแลเด็กก็เลยติดจอแบบนี้

            ฉันเทก๋วยจั๊บใส่ถ้วยไปพลางก็คิดว่าควรจะหากิจกรรมอะไรมาให้จ๋อมทำในเวลาช่วงเย็นแบบนี้ดี จะได้ไม่เอาแต่เล่นเกมอยู่แบบนั้น อันที่จริงจะเล่นมันก็ได้อยู่หรอก แต่เท่าที่ฟังพี่เหนือบอก จ๋อมดูท่าจะติดเกมมากจับไอแพดทั้งวันจนต้องดุถึงจะฟัง

            และฉันก็ไม่อยากจะทำตัวตีหน้ายักษ์เหมือนคนเป็นอาแท้ ๆ ทำด้วย หลานจะกลัวกันเสียเปล่า ๆ

            หลังจากนั่งคิดอยู่นานก็ได้คำตอบว่าจะลองหาซื้อกระดานวาดภาพมาให้จ๋อมลองวาดรูปดู เพราะอย่างน้อยฉันก็เรียนจบด้านนี้มา สอนเด็กไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่หลานจะชอบหรือเปล่าก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

            และตลอดเวลาช่วงเย็นเราสองคนก็ทำกิจกรรมวันแรกด้วยการที่จ๋อมอธิบายเกมที่เล่นอยู่ให้ฟังอย่างออกรส แม้ว่าจะเป็นเด็กอายุแปดขวบแต่การพูดการจาเจื้อยแจ้วฉะฉานน่าฟัง

            กระทั่งฟ้ามืดลงนาฬิกาติดผนังตีบอกเวลาสองทุ่ม ฉันก็พาจ๋อมอาบน้ำเข้านอน เจ้าของบ้านบอกว่าเขากับจ๋อมนอนด้วยกันเพราะฉะนั้นนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เข้ามาในห้องนอนของพี่เหนือ

            ห้องหับสะอาดสะอ้านทุกสิ่งถูกเก็บเข้าที่เข้าทางเรียบร้อยเป็นระเบียบ ช่างต่างจากห้องนอนของพี่ปราณเป็นไหน ๆ รายนั้นหล่อแต่รูปจูบไม่หอมหรอก ซกมกอย่างกับอะไรดี

            สู้พี่เหนือไม่ได้เลยสักนิด…

            “อาปายจะกลับแล้วเหรอครับ?” เสียงเจื้อยแจ้วเอ่ยถามขึ้นในตอนที่ฉันห่มผ้าให้จนถึงคอ

            “ยังหรอก อาต้องรออาเหนือกลับมาก่อน”

            “จ๋อมไม่อยากนอนคนเดียว”

            “…”

            แม้จะเป็นคำพูดธรรมดาแต่ฉันก็จับความรู้สึกเหงาในกระแสเสียงของเด็กน้อยได้ เลยรีบหย่อนกายนั่งลงข้างกันแล้วยกยิ้มให้พร้อมทั้งลูบผมนุ่มทรงกะลาครอบไปด้วย

            “อาจะอยู่เป็นเพื่อนจนจ๋อมหลับเลย”

            “จ๋อมอยากฟังนิทาน”

            “นิทานเหรอ?”

            “เมื่อก่อน แม่เคยอ่านให้ฟัง”

            “…”

            เป็นอีกครั้งที่ต้องปวดใจกับน้ำเสียงโหยหาของเด็กตัวน้อย แม้จ๋อมจะเป็นเด็กแต่เด็กก็มีความรู้สึก ไม่รู้หรอกว่าลูกพี่ลูกน้องของพี่เหนือเป็นคนแบบไหนเพราะฉันไม่เคยเจอ แต่ตอนนี้ก็เห็นได้ชัดว่าจ๋อมคงจะคิดถึงคนเป็นแม่มากจริง ๆ

            “อาไม่มีหนังสือนิทาน”

            “…”

            “แต่วันนี้อาจะเล่านิทานให้ฟังก็แล้วกัน ไม่ต้องมีหนังสือก็ได้”

            “เรื่องอะไรครับ?” ริมฝีปากเล็กยกยิ้มกว้างจนเห็นเหงือกสีชมพู ฟันด้านหน้าหลอไปแถบหนึ่ง สีหน้าคาดหวังรอคอย

            “อืม… เรื่องนี้ดีกว่า…”

            “…”

            “เรื่อง ทำไมวาฬจึงไม่กินคน” ฉันบอกอย่างนำเสนอ แต่จ๋อมกลับเลื่อนคิ้วเข้าหากัน

            “จ๋อมไม่เคยได้ยิน”

            “จะได้ยินวันนี้นี่แหละ”

            ว่าแล้วฉันก็เริ่มเล่าเรื่องให้เด็กน้อยฟัง จ๋อมปิดเปลือกตาลง นอนเงียบรอฟังอยู่อย่างนั้น บางจังหวะก็เปิดเปลือกตาขึ้นมาตั้งคำถามด้วยความสนอกสนใจ แต่จังหวะถัดมาก็หลับตาลงตามเดิม

            จ๋อมจะไม่เคยได้ยินก็ไม่แปลก เพราะนิทานสัตว์ของรัดยาร์ด คิปลิงไม่เป็นที่นิยมในประเทศไทยมากนัก ที่นิยมก็จะเป็นพวกนิทานของแอนเดอร์สัน ไม่ก็นิทานกริมม์ ถ้าจะอ่านต้องหาเอาเอง และโชคดีไม่น้อยเหมือนกันที่ฉันเองก็เป็นพวกชอบอ่านนิทาน แบบนี้เราสองคนคงสนิทกันได้ไม่ยากแน่นอน

            เวลาผ่านไปสักพัก นิทานเรื่องที่สามจบลง จ๋อมไม่ได้ลืมตาขึ้นมาขอฟังเรื่องใหม่แล้ว ลมหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอบ่งบอกว่าตอนนี้ได้เข้าสู่ห้วงนิทราเป็นที่เรียบร้อย และตอนนั้นเองก็ได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์จอดลงที่หน้าบ้านพอดิบพอดี

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แอบรักเธออีกสักที   เหนือรักปาย ตอนพิเศษ 4 THE END

    เหนือรักปายตอนพิเศษ 4 ปัจจุบัน เสียงหัวเราะของคนหลายคนดังแว่วมาให้ได้ยิน ตอนที่ผมกำลังเดินไปยังเวิร์กช็อปเล็ก ๆ ข้างกันกับตัวบ้านของผมเองที่ ๆ ปายตั้งใจจะเปิดสอนศิลปะให้กับคนที่สนใจ และก็ได้รับการตอบรับดีพอสมควร เพราะในตัวอำเภอไม่มีที่ไหนเปิดสอนศิลปะเป็นจริงเป็นจัง หากจะเรียนก็ต้องเข้าเมืองไปไกลกว่าสองชั่วโมง ลูกค้าส่วนมากก็เป็นเด็กนักเรียนที่พ่อแม่สนใจจะสนับสนุนลูก ๆ ให้เอาดีทางด้านนี้ แต่ก็มีผู้ใหญ่หลายคนอยู่เหมือนกันที่ให้ความสนใจมาลงเรียน บางกลุ่มก็มาเรียนบ้างเป็นพัก ๆ บางคนก็ตั้งใจจะเรียนระยะยาวแม้งานที่ว่านี้จะไม่ได้ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ แต่คนที่ตั้งใจทำก็ดูจะพอใจที่ทุกอย่างไปได้สวยอย่างที่คิด วันนี้เป็นเย็นวันธรรมดาคนเลยไม่เยอะเท่าไรนัก สังเกตได้จากรองเท้าที่ถอดเรียงเอาไว้บนชั้นวางรองเท้าด้านนอก หากเป็นวันเสาร์อาทิตย์คนก็จะเยอะกว่านี้ เสียงกริ่งประตูดังขึ้นตอนที่ผมผลักบานประตูเดินเข้าไป คนหลายคนด้านในหันมองมา เด็กนักเรียนผู้หญิงหลายคนกำลังนั่งจับกลุ่มวาดภาพสีน้ำ ตรงหน้าของแต่ละคนมีกระดานวาดภาพวางบนขาตั้งไม้ทรงสูง ผมได้แต่

  • แอบรักเธออีกสักที   เหนือรักปาย ตอนพิเศษ 3

    เหนือรักปายตอนพิเศษ 3@ โรงเรียน “กูอยากถือป้าย” “ก็ถ้าไม่ใช่มึงเป็นดรัมฯ แล้วจะให้ใครเป็น?” “กูขี้เกียจซ้อม ขอถือป้ายแทนได้ปะ?” “ไอ้ฝ้ายก็จะนั่งเสลี่ยง มึงก็อยากจะถือป้าย ไม่มีใครอยากเป็นดรัมฯ บ้างเลยหรือยังไง?” “…” ผมได้แต่นั่งมองเพื่อนผู้หญิงโต้กันไปโต้กันมาเรื่องการเตรียมงานกีฬาสีของโรงเรียนที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ ขนาดว่านั่งเฉย ๆ ไม่ออกความเห็นอะไร สายตาคนอื่นก็พากันหันมากดดัน ราวกับจะให้ผมเป็นคนออกความเห็นว่าใครควรจะเป็นดรัมเมเยอร์เสียอย่างนั้น “อะไร? กูจะรู้ไหมเนี่ย? กูผู้ชาย” “มึงเป็นประธานไงเหนือ และนี่ไม่มีใครอยากเป็นเลยสักคน ดรัมฯ ไม้แรกเลยนะเว้ย กูละงงจริง ๆ”ไอ้จ๋าเกาหัวแกรก ๆ สีหน้าคิดไม่ตก สายตากดดันเลื่อนมองกลับไปยังคิมซึ่งนั่งกอดอกอยู่บนโต๊ะเรียนอีกครั้ง คนถูกมองพ่นลมหายใจเสียงดังพลางก็บ่นกระปอดกระแปด “ก็กูอยากถือป้าย มึงก็เป็นดรัมฯ เองสิ” “ลดน้ำหนักให้ได้สักสิบห้ากิโลฯ กูจะเป็นให้” คนที่เพื่อนปัดภาระให้เ

  • แอบรักเธออีกสักที   เหนือรักปาย ตอนพิเศษ 2

    เหนือรักปายตอนพิเศษ 2@ โรงเรียน วันนี้เป็นอีกครั้งที่ใต้โต๊ะเรียนของผมมีคนเอาจดหมายมาสอดไว้เหมือนกับหลายวันที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนเอาของมาส่งให้ หากแต่ไม่มีใครใช้วิธีส่งจดหมายแบบนี้ ส่วนมากเป็นขนมกับของขวัญเสียมากกว่าก็มีอยู่แค่คนเดียวที่ใช้วิธีส่งจดหมายมา และแค่เห็นซองจดหมายก็รู้ได้ในทันทีว่าเป็นของคน ๆ เดียวกัน คนอื่นรอบตัวผมในขณะนี้ยังคงตั้งหน้าตั้งตาลอกการบ้านกันเหมือนอย่างเคยตอนที่ผมดึงเอากระดาษโน้ตลายกระต่ายสีชมพูออกจากซอง ไล่สายตาอ่านสิ่งที่เขียนอยู่บนแผ่นกระดาษอันที่จริงก็ไม่ได้ต่างไปจากทุกฉบับที่ผ่านมา คนส่งยังคงเขียนทำนองว่า วันนี้แอบมองผมตอนทำนู่นทำนี่ พรรณนาว่าตัวผมหล่อแค่ไหน ไม่ก็ประเภทที่ว่าเมื่อคืนฝันถึงผมอะไรประมาณนั้นทุก ๆ ย่อหน้าจะมีสติกเกอร์รูปหัวใจแปะอยู่ ท้ายแผ่นจะมีรูปการ์ตูนที่วาดไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน อย่างวันนี้ก็เป็นผู้หญิงกำลังยืนเกาะแขนผู้ชายที่ก็คิดว่าคงแทนตัวผมเอง ผมได้แต่ระบายรอยยิ้มออกมา เพราะต้นทางคนส่งดูท่าจะตั้งใจมาก ไม่ว่าผมจะมาโรงเรียนเช้าแค่ไหน ก็จะเห็นว่ามีจดหมายสอดที่ใต้โต

  • แอบรักเธออีกสักที   เหนือรักปาย ตอนพิเศษ 1

    เหนือรักปายตอนพิเศษ 1 สิบปีก่อน@ เหนือ “กูถึงแล้ว” ‘จอดรออยู่หลังสถานี’ “เค” ปลายสายวางไปแล้ว กระเป๋าเป้ใบใหญ่ถูกแบกขึ้นบ่าอีกรอบหลังจากถูกวางทิ้งไว้เมื่อนาทีก่อนเพราะผมเดินไปซื้อน้ำที่ร้านค้าหน้าสถานีรถไฟ อากาศประเทศไทยตอนกลางวันร้อนตับแตกแบบนี้ อะไรก็ไม่ดีเท่าได้กินน้ำแดงเย็น ๆ สักถุง หลังจากไปอยู่บ้านป้ามาตลอดปิดเทอมฤดูร้อนตอนนี้ก็ได้ฤกษ์กลับบ้านตัวเองเสียที เนื่องจากโรงเรียนใกล้เปิดเทอมแล้ว อีกไม่กี่วันก็คงต้องกลับไปเรียนเหมือนอย่างเคย และคงเป็นปีสุดท้ายที่จะได้ใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียน เพราะปีนี้ผมกำลังจะขึ้นชั้นม.หก “ไปบ้านกูก่อนแล้วกัน” แค่เจอหน้ากันไอ้ปราณเพื่อนสนิทที่เอามอเตอร์ไซค์มาจอดรอรับก็เอ่ยบอก พลางเอาขาตั้งรถขึ้น ผมไม่ทันได้พูดอะไรมันก็เตรียมจะออกรถ สุดท้ายเลยต้องรีบคร่อมขาซ้อนท้ายมัน ไม่จำเป็นต้องเอ่ยปากถามเพื่อนว่าทำไมต้องไปบ้านมันก่อน เพราะถึงยังไงบ้านที่ว่าก็เป็นทางผ่านที่จะไปบ้านผมอยู่แล้ว สายลมพัดปะทะเข้าหาใบหน้าไม่ได้ช่วยให้คลายร้อนลงเท่า

  • แอบรักเธออีกสักที   แอบรักเธออีกสักที ตอนที่ 49

    แอบรักเธออีกสักทีตอนที่ 49 หลายวันต่อมา หลังจากงานแต่งผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เราทุกคนก็กลับมาใช้ชีวิตกันอย่างปกติสุข ฉันยังคงไปเลี้ยงจ๋อมเหมือนทุกวัน พี่เหนือก็ออกไปดูแลร้านของเขาเหมือนทุกที พี่ปราณก็ยังคงช่วยดูแลกิจการของที่บ้าน ส่วนจ๋อมก็กำลังเตรียมสอบปลายภาคของระดับชั้นประถมศึกษา เพราะงานวันแต่งเราเชิญคนรู้จักมาเยอะมาก และแขกหลายคนก็เป็นอาจารย์ที่โรงเรียนเก่าของเราทั้งคู่รวมถึงรุ่นพี่รุ่นน้องชั้นปีอื่น ๆ ช่วงท้ายของงานทางอาจารย์เลยมีการขอแรงจากศิษย์เก่าเข้าไปช่วยจัดการเรื่องการย้ายโต๊ะนักเรียนแบบเก่าไปเก็บไว้ที่โกดังหลังโรงเรียนเพื่อที่จะรับโต๊ะเขียนแบบเลกเชอร์เข้ามาแทน แน่นอนว่าฉันกับพี่เหนือเองก็อาสาจะไปช่วย พวกเพื่อน ๆ ของเขา และเพื่อนสมัยเรียนของฉันก็พากันมาร่วมแรงร่วมใจกันในวันนี้ด้วยเหมือนกัน “ดีไหม?” “อะไร…” “ก็แกกับพี่เหนือไง ใกล้ได้ลูกรึยัง?” “บ้า…” “อย่ามาเขินหน่อยเลย เห็นว่าลุงหมานอยากมีหลานให้อุ้มไว ๆ” “ก็กำลังช่วยกันทำอยู่” “โอ๊ย! ไม่น่าถามเลยจริง

  • แอบรักเธออีกสักที   แอบรักเธออีกสักที ตอนที่ 48

    แอบรักเธออีกสักทีตอนที่ 48 สองชั่วโมงต่อมา หลังจากที่เดินไหว้ผู้หลักผู้ใหญ่โต๊ะนู้นโต๊ะนี้จนเสร็จ ทุกคนก็ทานอาหารกันจนอิ่มหนำ ตอนนี้ก็เข้าสู่ช่วงเปิด VTR ของคู่บ่าวสาวที่พี่ปราณเป็นคนเสนอตัวจัดเตรียมให้เอง ฉันกับพี่เหนือได้แต่ยืนกลั้นขำกันอยู่บนเวทีเมื่อแต่ละรูปที่คนเป็นพี่เลือกมามันช่างน่าขำ ตั้งแต่รูปของเราสมัยยังเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ข้ามมาสมัยผมของฉันยังสั้นเท่าติ่งหู และตัดมาที่ภาพสมัยมัธยมปลายที่เริ่มจะดูดีขึ้นมาหน่อย ช่างต่างจากคนเป็นเจ้าบ่าวที่หน้าตาดีมาตั้งแต่เด็กแบบที่คงไม่เคยพบเจอยุคมืดของตัวเองมาก่อน วิดีโอเล่นผ่านไปเรื่อย ๆ จนเข้าสู่รูปพรีเวดดิ้งของเราทั้งคู่ ที่ออกจะหวานเกินไปเสียหน่อย ทุกรูปพี่เหนือจะมองกันด้วยสายตาแบบที่ทำเอาหัวใจละลาย บรรดาสาว ๆ ในงานพากันกรี๊ดกร๊าดวี้ดว้ายกันไม่หยุดกับสายตาประเภทนั้นแม้จะเป็นเพียงภาพถ่ายก็ตาม และตอนนี้เองที่พี่เหนือเลื่อนมือมากุมประสานเข้ากันกับมือของฉัน สายตาที่มองมาอย่างสื่อความหมายทำเอาใจเต้นแรง แม้ว่าเราจะอยู่ท่ามกลางคนหลายร้อยคนฉันก็ไม่อาจห้ามจังหวะหัวใจให้เต้นช้าลงได้เลย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status