Share

บทที่ 13

Author: เฉิงกวงโฮ่วถู่
หวังเฟยกดโทรศัพท์ด้วยมือทั้งสองข้างตอบกลับข้อความของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

: ไม่มีปัญหา ฉันจะโอนเงินให้เธอเดี๋ยวนี้เลย

ณ หอพักที่ลู่เสวี่ยเอ๋อร์พักอยู่ หลี่เยี่ยนอ่านข้อความที่หวังเฟยส่งมาทางโทรศัพท์

มุมปากของเธอมีรอยยิ้มแปลก ๆ

เธอส่งเลขบัญชีธนาคารของเธอไป ใช้เวลาไม่นานก็ได้รับข้อความแจ้งเตือนว่ามีเงินสองล้านโอนมาให้

ทันทีที่ลบข้อความที่แจ้งว่าบัญชีของเธอได้รับโอนเงินเข้ามา เธอที่นั่งอยู่บนเตียงของลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็พูดด้วยรอยยิ้ม “เสวี่ยเอ๋อร์ คืนนี้เราไปกินหม้อไฟหม่าล่ากันเถอะ ตกลงไหม?”

“คืนนี้เหรอ? แต่ฉันอยากอ่านหนังสืออยู่ที่หอมากกว่า”

ลู่เสวี่ยเอ๋อร์มีนิสัยรักสงบ ระหว่างที่เรียนมหาวิทยาลัย เพื่อนนักศึกษาคนอื่นมีความรักกันแต่เธอเป็นคนเดียวที่เอาแต่สนใจเรื่องเรียน

“โอ๊ย หนังสืออ่านตอนไหนก็ได้ อีกอย่าง เธอจะอ่านหนังสืออย่างเดียวไม่ได้สิ ไม่งั้นก็พลอยจะทำให้คนอื่นเขาดูโง่หมด ตอนกลางคืนไม่ต้องอ่านหรอก กินเสร็จก็ค่อยรีบกลับมา จะได้ไม่เสียเวลามาก”

“แต่ว่า…” ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ลังเล แต่หลี่เยี่ยนกลับไม่ให้โอกาสเธอได้ปฏิเสธ

“คุณน้องคะ เห็นแก่ที่ฉันช่วยเธอกันพวกผู้ชายมาให้ตั้งนาน แล้ววันนี้ฉันก็ว่างไม่ได้ทำงาน คืนนี้ไปกินข้าวเป็นเพื่อนฉันหน่อยเถอะ”

ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ยิ้มอย่างขมขื่น “ก็ได้ ในเมื่อเธอพูดขนาดนั้น คืนนี้ฉันจะไปเป็นเพื่อนเธอแล้วกัน”

“ดีเลย” เธอเชียร์พลางจับมือของลู่เสวี่ยเอ๋อร์ “เธอเยี่ยมที่สุด”

.…..

ทว่าอีกด้านหนึ่ง เย่ซิวที่ออกมาจากมหาลัยก็สัมผัสได้ในทันทีว่ามีคนตามเขามา

แต่เขาไม่สนใจ มีแค่ลูกกระจ๊อกไม่กี่คน ตราบใดที่พวกเขาไม่ได้มายุ่งย่าม เย่ซิวก็ไม่สนใจพวกเขา

เขาเดินไปที่ป้ายรถเมล์และเตรียมจะนั่งรถไปบ้านตระกูลจ้าว

จางเทาและคนอื่น ๆ เดินตามมาจากระยะไกลและเมื่อเห็นเย่ซิวที่ป้ายรถเมล์ ทุกคนต่างก็แสดงรอยยิ้มเย้ยหยัน

“ไอ้โง่ คิดว่ามีฝีมือแค่นี้แล้วจะทำอะไรก็ได้เหรอ?”

“ถ้าทำให้คุณชายหวังเฟยไม่พอใจแล้วล่ะก็ มีแต่ต้องตายเท่านั้น”

“นั่นหมาป่าตาเดียวเหรอ?!”

เย่ซิวยืนอยู่หน้าป้ายรถเมล์รอรถบัสอย่างเงียบ ๆ

ทันใดนั้นเขาก็หันกลับมาเห็นชายหน้าตาอัปลักษณ์และมีท่าทางดุร้ายเดินเข้ามา

เย่ซิวสามารถบอกได้ทันทีว่านี่คือตัวร้ายที่มาพร้อมกลิ่นอายนักฆ่าที่คละคลุ้ง เขาคงมือเปื้อนเลือดมามากลมปราณเลยมีกลิ่นอายเช่นนี้

เขาเพียงเหลือมองและหันไปทางอื่น

สำหรับคนธรรมดา คนแบบนี้คงเปรียบเสมือนเสือที่ดุร้าย แต่สำหรับเขาแล้ว คนแบบนี้ไม่มีค่าพอให้ชายตาแล

เขาสามารถฆ่าคนพกวนี้ได้มากมายด้วยการตบเพียงครั้งเดียว

ชายคนนั้นเดินตรงไปหาเย่ซิว “แกใช่เย่ซิวหรือเปล่า?”

เย่ซิวพยักหน้า “ผมเอง คุณมีธุระอะไร?”

หมาป่าตาเดียวยิ้มด้วยสีหน้าเหี้ยมโหด “มีคนขอให้ฉันจัดการกับแก มากับฉันเถอะ แกคงจะไม่อยากถูกฉันทำให้อับอายในที่สาธารณะหรอกใช่ไหม?”

“ใครเหรอ? ใช่ผู้ชายคนก่อนหน้านี้หรือเปล่า?” เย่ซิวขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางนึกถึงหวังเฟยและจางเทาทันที

“ไม่จำเป็นต้องรู้”

เย่ซิวไพล่มือไว้ด้านหลัง “ก็ได้ งั้นนำทางไปสิ”

เนื่องจากอีกฝั่งเป็นฝ่ายมาหา ก็ควรจัดการกับมันให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นมันจะเป็นการรบกวนมากหากมีแมลงวันคอยมาบินวนอยู่รอบตัว

ดวงตาของหมาป่าตาเดียวมีประกายแปลก ๆ ปรากฏขึ้น “ไอ้หนูนี่กล้าหาญมาก ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวฉันจะเบามือให้สักหน่อยแล้วกัน”

เย่ซิวไม่พูดอะไร

เขาเดินตามหมาป่าตาเดียวไปยังสถานที่ซึ่งมีคนบางตา

เมื่อเห็นเช่นนี้ จางเทาและพรรคพวกไปด้วย

สิบนาทีต่อมา เย่ซิวถูกนำตัวมายังสถานที่ห่างไกลผู้คน

จางเทาและคนอื่น ๆ ที่ติดตามไปด้วยต่างพากันหัวเราะเยาะ

“เย่ซิว แกตายแน่!”

“ฉันจะไปฉี่รดหน้าแกทีหลังเป็นการแก้แค้น!”

“ถ้าไม่อยากถูกทรมาน จงคุกเข่าลงและขอความเมตตาจากพี่ใหญ่หมาป่าตาเดียวเดี๋ยวนี้!”

……

เย่ซิวส่ายหน้า ‘ความไม่รู้นี่ช่างน่ากลัวจริง ๆ’

พวกเขาเห็นหมาป่าตาเดียวเป็นหมาป่าผู้เด็ดเดี่ยว แต่พวกเขาไม่เห็นว่าเย่ซิวเป็นมังกรหนุ่มที่กำลังจะทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า

“เจ้าหนู ฉันได้ยินมาว่าแกเป็นจอมยุทธ์ระดับหนึ่ง!” หมาป่าตาเดียวยืดเส้นคอของเขาแล้ว เดินไปหาเย่ซิวด้วยรอยยิ้มอันเหี้ยมโหด “ขอฉันดูหน่อยสิว่าแกจะเคลื่อนไหวได้สักกี่กระบวนท่าเมื่อต้องปะทะกับฉัน! กรงเล็บหมาป่ากระหายเลือด!”

เมื่อเห็นนิ้วทั้งห้าของหมาป่าตาเดียวกลายเป็นกรงเล็บ พลังงานชั่วร้ายบนร่างกายของเขาก็แพร่กระจายอย่างรุนแรง และพยายามตะปบเย่ซิวด้วยความคล่องตัวอันยอดเยี่ยม

สีหน้าของจางเทาและคนอื่น ๆ เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและหวาดกลัว

“เป็นวรยุทธ์ที่น่าสะพรึงกลัวจริง ๆ!”

“เหมือนได้เห็นหมาป่าตัวจริงพุ่งออกจากป่าเลยทีเดียว”

“เด็กนั่นตายแน่!”

……

ดวงตาของหมาป่าตาเดียวเป็นประกายด้วยความกระหายเลือด

เขามั่นใจในวิธีการโจมตีของเขามาก

หลายคนที่ต่อต้านเขาต่างถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ ด้วยกรงเล็บอันแหลมคม ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เขากลายเป็นที่รู้จัก

ทว่าเมื่อเย่ซิวเห็นดังนั้น เขาก็ส่ายหัว

“ช้าเกินไป!”

เขาหลบการโจมตีหมายเอาชีวิตของหมาป่าตาเดียวได้อย่างง่ายดาย

ฉึก!

กรงเล็บของเขาชนเข้ากับกำแพงด้านหลังของเย่ซิว และชิ้นส่วนขนาดใหญ่ก็ถูกฉีกออก

ดวงตาของหมาป่าตาเดียวหรี่ลง “แกก็พอมีฝีมือนี่ ไม่แปลกใจเลยที่กล้าหยิ่งผยองขนาดนี้!”

ทันใดนั้นเขาก็เพิ่มความเร็ว จนเย่ซิวเกิดภาพลวงตาขึ้น จากนั้นก็ฟาดกรงเล็บลงมา

จางเทาและคนอื่น ๆ หยุดหายใจโดยไม่รู้ตัว พลางเฝ้ามองอย่างตาไม่กะพริบ

ความแข็งแกร่งของจอมยุทธ์นั้นสูงเกินจินตนาการของพวกเขา

แต่ไม่ว่าการโจมตีของหมาป่าตาเดียวจะรวดเร็วและแม่นยำเพียงใด ก็ไม่อาจแตะต้องเย่ซิวได้แม้แต่ปลายเส้นผม

หลังจากการโจมตีที่มีความรุนแรงหลายครั้ง ฝั่งเย่ซิวก็ยังสบายดี แต่ทางหมาป่าตาเดียวนั้นเหนื่อยตัวโยน

เขาจ้องมองเย่ซิว “แกเป็นใครกัน? แกไม่มีทางเป็นจอมยุทธ์ระดับหนึ่งได้!”

“ใครบอกคุณว่าผมเป็นจอมยุทธ์ระดับหนึ่ง” เย่ซิวส่ายหน้า ขี้เกียจเกินกว่าจะเล่นกับเขาอีกต่อไป ทันใดนั้นเขาก็ระเบิดพลังออกมาด้วยความเร็วที่น่าสะพรึงกลัว

ดวงตาของหมาป่าตาเดียวตื่นตระหนก จากนั้นเขาก็ตกใจเมื่อพบว่าเย่ซิวมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว ม่านตาของเขาหดตัวลงทันที

ก่อนเขาจะทันได้ตอบโต้ ร่างกายของเขาก็ลอยออกไปชนกำแพงอย่างแรง

กำแพงทั้งหมดยุบลงไป

หมาป่าตาเดียวอ้าปากแล้วกระอักเลือดออกมา ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงเกิดขึ้นจากทั้งภายในและภายนอกร่างกาย ทำให้ดวงตาของเขาดำคล้ำ

เย่ซิวเดินเข้าไปหาเขาแล้วพูดว่า “ดู ๆ แล้วคุณคงไม่ใช่คนดี ถึงได้เที่ยวหักแขนหักขาและทำร้ายคนอื่นไปทั่วแบบนี้”

“คนแบบนี้ไม่คู่ควรได้เป็นจอมยุทธ์ วันนี้ผมจะเป็นตัวแทนสวรรค์ลงโทษคุณด้วยการตัดรากฐานวรยุทธ์ของคุณออก จากนี้ไป คุณก็เป็นได้แค่คนธรรมดาเท่านั้น”

หลังจากพูดจบ เย่ซิวก็เตะเขาเข้าที่จุดตันเถียน*

“ไม่นะ!!!!”

หมาป่าตาเดียวส่งเสียงคำรามอย่างสิ้นหวัง ดวงตาของเขาแดงก่ำ พลางจ้องมองไปที่เย่ซิวด้วยความเกลียดชังอย่างสุดซึ้ง “แกทำลายจุดตันเถียนของฉัน ฉันจะสู้กับแกให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลย คอยดู!”

เขาพยายามหยัดกายขึ้น แต่ทันทีที่เขาออกแรง เขาก็สูญเสียการมองเห็นและสิ้นสติไป

เย่ซิวไม่ได้มองไปเขาอีกเลย

เขามุ่งหน้าออกไปข้างนอก

จางเทาและคนอื่น ๆ กำลังตกตะลึงอยู่ในขณะนี้

เมื่อพวกเขาเห็นเย่ซิวเดินเข้ามา พวกเขาต่างก็มีทีท่าตกใจ

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1364

    เย่ซิวคุ้นเคยสายตาแบบนี้ดี เขายิ้มแล้วพูดว่า “อยากจะฝึกกับผมอีกเหรอ”“ไม่ใช่แบบนั้น” หลัวเวยเวยส่ายหน้า แววตาส่องประกายประหลาด “หลับตาสิ”เย่ซิวไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่ก็หลับตาลงตามคำพูดของเธอจากนั้นหลัวเวยเวยก็ค่อย ๆ ทรุดตัวลงคุกเข่าตรงหน้าเขา……คนของสำนักปีศาจโลหิตที่มาครั้งนี้คือหงอีและรองเจ้าสำนักทั้งสองพักอยู่ห้องเดียวกันหลังจากเข้าห้อง รองเจ้าสำนักก็มองหงอีด้วยความกังวล “คราวนี้ดูท่าไม่ดีแล้วนะ เธอทำให้หลิวชิงซานขายหน้าแบบนั้น เขาอาจคิดหาทางแก้แค้นเราก็ได้”หงอีหันไปมองเธอแวบหนึ่ง แต่ไม่พูดอะไรเธอไม่ได้รู้สึกผูกพันกับสำนักปีศาจโลหิตมากนัก พร้อมจะเดินจากไปทุกเมื่อหากจำเป็นแต่การตัดสินใจแบบนั้นจะเป็นทางเลือกสุดท้ายอย่างน้อยตอนนี้ยังมีทรัพยากรในสำนักมากมายที่ช่วยให้เธอเร่งเพิ่มพลังได้เร็วขึ้นเมื่อเห็นหงอีไม่ตอบ รองเจ้าสำนักก็รีบพูดต่อ “โอ๊ย แม่ทูนหัวของฉัน รู้หรอกน่าว่าพลังเธอแข็งแกร่ง แต่ไม่จำเป็นต้องโชว์ไพ่ตายทั้งหมดในทันทีก็ได้ถ้าเขาโกรธแล้วพาลมาลงที่พวกเรา เรื่องจะจบไม่สวยนะฉันก็บอกแล้วใช่ไหมว่าให้เราซ่อนเขี้ยวเล็บอีกหน่อย อีกไม่นานเราก็จะสามารถแทนที่พวกเขาได

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1363

    นอกจากเย่ซิวกับหลัวเวยเวยแล้ว เหล่าผู้อาวุโสของสำนักอื่น รวมถึงผู้อาวุโสจากสำนักปีศาจโลหิตที่หงอีอยู่ต่างก็รีบลุกขึ้นยืน กล่าวแสดงความยินดีกับหลิวชิงซาน“ยินดีกับรองเจ้าสำนักหลิวที่ได้ครองใจหญิงงามนะครับ”“ไม่ทราบว่าเมื่อไหร่เราจะได้ดื่มเหล้าในงานมงคลของทั้งสองท่าน”“ต้องจัดงานแต่งงานให้ยิ่งใหญ่สมเกียรติเลยนะ”……หงอีนั่งลงบนที่ของตัวเองตามเดิมด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ สีหน้าหลิวชิงซานกลับไม่ค่อยดีนัก สีหน้าเปลี่ยนไปมาหลายครั้ง ก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดัง “เชิญทุกท่านนั่งและกินข้าวด้วยกันเถอะ อาหารจะเย็นหมดก่อน”เขาไม่ได้ตอบรับคำพูดเหล่านั้นตรง ๆคนที่อยู่ตรงนี้ต่างก็เป็นพวกมีเล่ห์เหลี่ยมในใจทั้งนั้นพวกเขามองหน้ากันแวบหนึ่ง แล้วหันไปมองหงอีที่นั่งอยู่ตรงนั้นในหัวกลับผุดความคิดที่ไม่น่าเชื่อจนตัวเองยังตกใจไม่จริงน่า?หรือว่าผลการประลองเมื่อครู่ ไม่ใช่ว่าหงอีแพ้ แต่เธอชนะต่างหากแม้มีข้อสันนิษฐานเช่นนี้ พวกเขาก็ยังรู้สึกเหลือเชื่ออยู่ดีแต่จากท่าทีของหลิวชิงซาน ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริงเพราะถ้าเขาชนะจริง ๆ ไม่มีทางที่เขาจะไม่พูดถึงเลยแม้แต่น้อยคนที่มานั่งอยู่ตรงนี้ล้วนเป็นพ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1362

    แต่ละฝ่ายเริ่มสืบถามข้อมูลของกันและกัน ว่าศิษย์ที่มาครั้งนี้แข็งแกร่งเพียงใด และมีไพ่ตายอะไรบ้างทั้งโต๊ะมีเพียงเย่ซิวกับหงอีที่พูดน้อยที่สุดหลิวชิงซานเป็นคนที่มีวาทศิลป์ทางสังคมสูง ระหว่างคุยไปมาก็สามารถดึงหัวข้อสนทนาไปที่หงอี“หงอีงดงามจนไม่ต้องพูดถึง ไหนจะพรสวรรค์กับพลังที่ร้ายกาจอีกไม่รู้เหมือนกันว่าผู้ชายแบบไหนถึงจะคู่ควรในอนาคต ว่าแต่หงอีมีคนในใจแล้วหรือยัง”หงอีส่ายหน้าเบา ๆหลิวชิงซานหัวเราะลั่นทันที “งั้นไม่ทราบว่าหงอีคิดว่าผมเป็นยังไง พอจะคู่ควรกับคุณหรือเปล่า”ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมา เหล่าผู้อาวุโสจากอีกหลายสำนักก็เริ่มประสานเสียงเอาใจทันที“รองเจ้าสำนักหลิวเป็นอัจฉริยะหาตัวจับยาก ทั้งพลังมหาศาลและมีเบื้องหลังที่แข็งแกร่ง คู่กับหงอีได้สบาย ๆ เลย”“จริงที่สุด สองคนนี้เหมือนบุรุษสตรีที่ถูกสวรรค์สร้างให้มาคู่กัน”“สองคนนี้เหมาะสมกันอย่างถึงที่สุด”…… เย่ซิวปรายตามองหลิวชิงซานแวบหนึ่ง แต่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาผู้ชายคนนี้ช่างกล้าดีนัก ถึงขนาดที่กล้าอยากได้ผู้หญิงของเขาหลิวชิงซานยิ้มกว้าง สีหน้าพอใจอย่างยิ่งกับคำประจบที่ได้ยินตั้งแต่แรกเห็น เขาก็รู้สึกถูกใจผู้ห

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1361

    หวังหมิ่นที่เดินนำอยู่ข้างหน้ายิ้มบางราวกับจับได้ถึงการกระทำเล็ก ๆ ของสองคนด้านหลัง และยังสัมผัสได้ถึงสายตาของเย่ซิวที่หยุดอยู่ตรงจุดใดจุดหนึ่งบนร่างกายเธอนานที่สุดผู้ชายก็เป็นแบบนี้แหละ เธอรู้มานานแล้ว และไม่ได้ถือสาอะไรทั้งนั้นอยากมองก็มองไปเถอะ ยังไงก็ไม่ทำให้ส่วนใดของเธอหายไปหรอกต่อให้จะมองจนตาแทบจะถลนออกมา ก็ไม่มีทางได้ตัวเธอไปอยู่ดีทั้งสามคนมาถึงร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง ภายนอกมีศิษย์จำนวนมากยืนเฝ้าระวังอยู่เย่ซิวให้ลูกศิษย์ทั้งสิบคนรออยู่ด้านนอก ส่วนเขากับหลัวเวยเวยก็เดินเข้าไปข้างในพวกเขาขึ้นไปถึงชั้นสองของโรงแรมจากตรงนี้สามารถมองเห็นได้ว่าคนจากอีกห้าสำนักก็มาถึงพร้อมหน้าแล้วทันทีที่ทั้งสองปรากฏตัว สายตาหลายคู่ก็จับจ้องมาที่พวกเขาแต่สิ่งที่ทำให้เย่ซิวสะดุดตาทันทีเมื่อก้าวเข้ามาคือร่างที่สวมชุดสีแดงฉานสีหน้าของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปมากนักแต่ในใจกลับยิ้มออกมาแล้วดูเหมือนโชคชะตาจะเล่นตลก ทั้งคู่ถึงได้เจอกันอีกครั้งที่นี่ร่างสีแดงนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก หงอีทั้งสองไม่ได้เจอกันมานานกว่าหนึ่งปีแล้วและตอนนี้พลังของเธอก็เพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัว จนถึงระดับปฐมญาณขั้นกล

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1360

    คนสิบกว่าคนขึ้นไปบนเรือวิญญาณ แล้วลอยทะยานขึ้นฟ้า มุ่งหน้าสู่จุดหมายของการแข่งขันอย่างรวดเร็วเรือลำนี้เป็นสมบัติเวทมนตร์ที่ฉลาดมาก ภายในติดตั้งแผนที่รัศมีห้าหมื่นถึงหกหมื่นลี้แค่ตั้งจุดหมายให้ชัดเจนและเติมพลังให้เพียงพอ มันก็สามารถบินไปถึงจุดหมายได้ทันทีระหว่างการเดินทาง แน่นอนว่าเย่ซิวไม่ปล่อยให้เวลาสูญเปล่า เขาลากหลัวเวยเวยมาฝึกฝนร่วมกันหลังฝึกเสร็จ ทั้งสองคนต่างก็ได้ประโยชน์ไม่น้อยแต่หลัวเวยเวยกลับเริ่มบ่น “พลังนายเพิ่มเร็วเกินไป ฉันตามไม่ทันแล้วทุกวันนี้ก็รับมือลำบาก เพราะงั้นรอบหน้าชวนเยียนจือมาด้วยเลยดีไหม พวกเรามาฝึกด้วยกัน ให้เธอมาช่วยแบ่งเบาภาระบ้าง”พูดตามตรง เย่ซิวก็แอบลังเลอยู่ไม่น้อย แต่ก็ยังไม่ตอบตกลงในทันที “คุณเคยคิดถึงผลลัพธ์บ้างไหม ถ้าเยียนจือรับไม่ได้ ความสัมพันธ์ของพวกคุณอาจจะเกิดรอยร้าวได้นะ”หลัวเวยเวยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย “กลัวอะไร? ฉันเลี้ยงเธอมาตั้งแต่เด็ก ฉันไม่ได้เป็นหนี้เธอสักหน่อย ถ้ายายเด็กนั่นกล้าโกรธละก็ ฉันก็แค่ปั้นตัวใหม่ขึ้นมาอีกสักคนก็ได้”เย่ซิวแกล้งถามเหมือนไม่รู้ “แล้วคุณคิดจะปั้นกับใครล่ะ?”หลัวเวยเวยกลอกตาใส่ “นอกจากนายที่เป็นเจ้

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1359

    “โครม!”ฝาปิดเตาหลอมโอสถกระแทกลงอย่างแรง เย่ซิวปล่อยเพลิงสุริยันบริสุทธิ์เส้นหนึ่งเข้าไปภายในเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดของวานรไม้ครามตัวหนึ่งดังออกมาจากในเตาเย่ซิวใจกล้าเป็นอย่างมาก เขาคิดจะใช้วานรไม้ครามเหล่านี้เป็นเหมือนโอสถชั้นดี แล้วหลอมพวกมันเสียเลยภายในเตานอกจากจะมีเพลิงสุริยันบริสุทธิ์แล้ว ยังใส่สมุนไพรล้ำค่าจำนวนมากลงไปด้วยแม้กระบวนการจะเจ็บปวดแสนสาหัส แต่หากสำเร็จ ผลลัพธ์ที่ได้ย่อมเกินจินตนาการจะทำให้ร่างกายของพวกมันเกิดการเปลี่ยนแปลงจากภายในขจัดสิ่งสกปรกออกไปจนหมด ส่งผลให้ความเร็วในการบำเพ็ญตนเพิ่มขึ้นอย่างมาก และร่างกายก็จะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมเรียกได้ว่าครั้งนี้เย่ซิวลงทุนสุดตัววานรไม้ครามตัวอื่นที่ยืนอยู่รอบ ๆ พอได้ยินเสียงกรีดร้องของพวกเดียวกัน แต่ละตัวก็ทำท่าร้อนรน กระวนกระวายสุด ๆผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง เย่ซิวก็ร่ายอาคม เปิดฝาเตาหลอมออกสิ่งที่โผล่ออกมาคือก้อนดำ ๆ คล้ายถ่านไหม้ที่ดำมะเมื่อม“แครก! แครก!”เสียงแตกร้าวคล้ายเปลือกไข่ดังขึ้นชั้นนอกที่ดูเหมือนถ่านค่อย ๆ แตกร้าว เผยให้เห็นรูปลักษณ์ภายในปรากฏให้เห็นเป็นวานรไม้ครามร่างใหม่ที่ผ่านการหลอ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status