LOGIN"ดูดปาก?" ตลกกันใหญ่ "งั้นมาแข่งกันสิ?"
ไม่ยอมให้จูบง่ายๆหรอก คิดจะใช้ข้ออ้างให้ตัวเองเลิกบุหรี่ แถมยังไม่ยอมบอกว่าจะลบคลิปให้ ข้อเสนอหรือข้ออ้าง ผมไม่โง่นะครับ
"อะไรของมึง" โจริญขมวดคิ้วมุ่นมองผมด้วยสีหน้าแปลกใจ
"ถ้าชนะก็ตามใจมึงเลย แต่ถ้าแพ้มึงต้องลบคลิป" นี่สิมันถึงจะเป็นข้อเสนอที่แฟร์ๆ
"คำไหนคำนั้น"
เขาตอบอย่างไม่ลังเลทั้งยังไม่ได้ถามรายละเอียดของข้อเสนอที่ผมยื่นให้เลยด้วยซ้ำ
ดีเลย ดีมาก เพราะผมมั่นใจว่าข้อเสนอที่ผมยื่นให้นี้มันแฟร์กับเราทั้งคู่
หลังตกลงกันเรียบร้อยเราสองคนเดินทางมายังจุดหมายที่ผมคิดไว้นั่นก็คือ...
'หนูจ๊ะมาม้ะร้องเกะ'
ร้านคาราโอเกะที่เคยมากับกันต์และไทม์ช่วงก่อน เป็นความทรงจำที่ดีจนลืมไม่ลงเลยล่ะ
"มึงพากูมานี่ทำไม?" โจบ่นแต่ถึงอย่างนั้นก็ก้าวขาลงจากรถตามผมมาแต่โดยดี
"ร้องเพลง" ผมตอบ
"ร้องเพลง?" เขาดูแปลกใจแต่ก็ยอมเดินตามจนถึงหน้าเคาน์เตอร์
ยังคงเห็นพี่สาวพนักงานคนเดิม
"อ้าว! พ่อหนุ่มเบ้าหน้าฟ้าประทาน ไม่เจอกันนานเลย" เธอเอ่ยทักผมก่อนจะเหลือบตามองอีกคนข้างๆแล้วยิ้มกริ่ม "โรงเรียนนี้มีแต่คนน่ากินโว้ย!"
พูดเสร็จก็ถามโจว่า "มีแฟนยังอ่ะเรา" พร้อมดวงตาแพรวพราวกระพริบรัวๆ
ปริบๆๆๆๆ
"ผมไม่ชอบคนแก่" โจตอบหน้ามึน
มึงก็ตรงเกิ้น!
"ไอ้เด็กไร้มารยาท" เขาเลยถูกพี่สาวสวนกลับแบบไม่ไว้หน้า
และเพราะเห็นท่าไม่มี เธอดูไม่พอใจผมเลยยิ้มเกลี้ยกล่อม "ขอโทษแทนเพื่อนด้วยครับ ไอ้นี่มันเป็นงี้แหละปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม"
"แต่มันว่าฉันแก่!!"
"ไม่เลยครับ ไม่แก่เลยแถมยังสวยมากอีกต่างหาก"
จากนั้นดูเธอเริ่มใจเย็นลง ผมก็เบาใจ
"จริงหงอ จริงเป่า"
"จริงครับ"
"ก็ด้ะ เห็นว่าเป็นนทีหรอกนะ ไม่งั้นพี่ไล่กลับละลูกค้าปากปีจอ" เธอกล่าวยิ้มๆให้ผมก่อนถลึงตาใส่โจ
ว่าแล้วก็เดินนำไปยังห้องคาราโอเกะที่ว่างอยู่
"ขอบคุณครับ" ผมยิ้ม
"วันนี้ห้องเจ้ว่างน้า มาได้เลย"
"^^" ผมไม่พูดอะไรเพียงแค่ยิ้มตอบ แล้วเดินเข้าไปในห้องโดยมีอีกคนเดินตามมาติดๆ
"วันนี้ห้องเจ้ว่างน้า มาได้เลย แหวะะ!!" พอเข้ามาโจก็เบ้ปากล้อเลียน ได้ข่าวว่าหมอนี่มั่ว นึกว่าเห็นสาวสวยแล้วจะวิ่งเข้าใส่เสียอีก
ผมหยิบไมค์ขึ้นมาสองอัน ยื่นให้โจหนึ่ง ถือไว้อีกหนึ่ง "วันนี้กูกับมึงต้องแข่งกัน คะแนนใครเยอะสุดชนะ โอเค๊?" แน่นอนว่าคนที่ชนะต้องได้สิ่งที่ต้องการ
และผม จะไม่มีวันยอมแพ้โดยเด็ดขาด!!
"กูไม่แพ้มึงหรอก" เขาดูมั่นใจ ยื่นมือมารับไมค์ไปจ่อปากเตรียมตัว
"เพลงไร" ผมถามโจ
"อุอิอา..."
"มึงอ่ะ" เขาถามผมกลับ
"นี่คือจอมยุทธเด้ะ..."
เรามองหน้ากันอย่างตึงเครียดเพราะนี่คือศึกแห่งศักดิ์ศรีที่ไม่มีใครยอมใคร
เมื่อเสียงเพลงแรกเริ่มขึ้นนั่นแหละคือการเริ่มที่แท้จริง ผู้กุมชัยชนะไว้ในมือจะเป็นใคร...
"อุอิอ๊าาา...อิอ๊าาา...อิอาาา....อุอิอิอะอิอิอ่า อิอะ..." โจเริ่มแหกปากร้องก่อนอย่างตั้งใจ มือกำไมค์แน่น มองจอดูเนื้อร้องด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
เสียงเหี้ยขนาดนี้แพ้กูแน่ไอ้โจ ฮ่าๆๆๆ
กระทั่งจบเพลง หน้าจอหมุนโหลดประมวลผลคะแนนการร้องเพลง เราสองคนต่างลุ้นระทึก
"ทาดา~ ยินดีด้วยคุณได้86คะแนนค่ะ" เสียงใสบนหน้าจอพูดขึ้น
พระเจ้า!! เสียงบรมห่วยขนาดนั้นมันได้ตั้งแปดสิบหกคะแนน สถิติสูงสุดที่ผมเคยได้ก็แค่สี่สิบเจ็ด ตู้ต้องมีปัญหาแน่ๆ ให้ตายเถอะซาร่าพาราเซตาม้อน
แรงกดดันมหาศาลตกเป็นของผมทันทีเมื่อผู้เข้าแข่งขันคนแรกร้องได้ถึงแปดสิบหกคะแนน
ผมเริ่มเหงื่อตกพรากๆคิดหนักขณะที่โจริญแสยะยิ้มเย้ยหยัน ไม่ได้การ เพื่อศักดิ์ศรีและเกียรติยศต้องชนะให้ได้
ผมเล็งหน้าจอพร้อมรัวนิ้วบนแฟ้นพิมพ์คีย์ชื่อเพลง นี่คือจอมยุทธเด้ะ แล้วเคาะปุ่มเอ็นเทอร์อย่างแรง เนื้อเพลงพร้อมดนตรีก็เริ่มขึ้น
หัวใจเต้นตุ๊บๆ
เริ่ม!
"นี่คือจอมยุทธเด้ะ...เอ้ะๆ วอเอ้ะๆ วอๆๆ วอเอ๊ะเอ๊ะะะ...." กว่าจะร้องจบเล่นเอาเหนื่อยฉิบหายเลย
หลังสิ้นสุดเนื้อร้องหน้าจอเริ่มประมวลผลคะแนนตามเดิม ผมมองหน้าจอที่กำลังหมุนโหลดอย่างลุ้นระทึก
ส่วนโจริญยกยิ้มและกำลังคิดว่ายังไงตัวเองก็ชนะ เพราะเสียงร้องของฝ่ายตรงข้ามยิ่งกว่าเสียงจิ้งหลีดออกไข่
ผมขอล่ะ เทวดา พระพุทธเจ้า พระเจ้า พระแม่ธรณี แม่ชี ปลีกล้วย ขอล้อง!!!
"ทาดา~ ยินดีด้วยคุณได้86.01คะแนนค่ะ"
"โอ้วเยสสส!!" ผมชูกำปั้นแห่งชัยชนะขึ้นมาก่อนเสยผมเย้ยคู่ต่อสู้ไปหนึ่งที เป็นไง
สุดท้ายคนที่มั่นโหนกก็ต้องแพ้พ่าย รอยยิ้มจางหายไปหลงเหลือไว้เพียงสีหน้าอึ้งทึ่ง โจริญนิ่งค้าง พลางคิดไม่ตกกับน้ำเสียงของตัวเอง นี่เสียงกูห่วยกว่ามันอีกเหรอวะ!! เขายอมรับไม่ได้จริงๆ
ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์รวมถึงปลีกล้วยด้วยครับที่ทำให้ศึกแห่งศักดิ์ศรีจบลงอย่างสมเกียติ โดยที่ผมไม่ต้องเสียจูบให้คนเหี้ยๆของมัน
"ทำตามที่พูดด้วยนะ ลบ คลิป" ผมแน่นย้ำอารมณ์ดี
"โถ่เว้ย!" ส่วนโจดูหงุดหงิด หน้าหงิกงอ
"กลับคร้าบ^^" ผมยิ้มเยาะขณะเปิดประตูเชิญอีกฝ่ายออกจากห้อง
โจขบกรามแน่นเดินออกไปอย่างเจ็บใจด้วยสีหน้าบูดเหมือนตูดชะนีไทย ยอมรับไม่ได้จริงๆ!!
เห้ออ ไม่เคยรู้สึกสะใจอะไรเท่านั้นมาก่อนในชีวิต ผมเดินตามออกไปด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะ
"กลับก่อนนะครับ" ผ่านหน้าเคาน์เตอร์ก็โบกมือลาพี่สาวคนเดิม
"อ้าว! กลับแล้วเหรอ เร็วจัง" เธอทำหน้าเสียดายก่อนจะพูดส่งท้ายตาละห้อย "พี่จะรอนทีที่ร้านทุกวันเลยนะ"
"ไม่มาแล้ว ไม่ต้องรอ"
สีหน้าที่กำลังเว้าวอนของเธอหม่นหมอนลงทันทีเมื่อได้ยินเสียงห้วนๆอารมณ์เสียของโจ
"ขอโทษครับ จะไปเดี๋ยวนี้ละคร้าบ~"
ผมรีบคว้าคออีกคนมาปิดปาก แล้วลากออกมาจากร้านอย่างรวดเร็ว
"มานี่เลยไอ้ตัวดี" ระหว่างทางเขาไม่ได้ขัดขืนยอมให้ปิดปากลากมาแต่โดยดีไม่มีบ่น
กว่าจะมาถึงรถเล่นเอาเหนื่อยแทบบ้า
"ปากมึงอ่ะ ดีๆหน่อยไม่ได้หรือไง!!" พูดพร้อมปล่อยมือที่ปิดปาก
"ผิดไรอ่ะ" ส่วนเขาดูไม่ทุกข์ร้อน
"รำคาญ มึงขับเลยกูจะกลับบ้าน"
ยิ่งพูดยิ่งอารมณ์เสีย ชวนหงุดหงิดใจ
แล้วโจก็ขึ้นรถพร้อมยื่นหมวกกันน็อคให้ผมสวมด้วยสีหน้าบูดบึ้ง จากนั้นเราก็ขับออกรถมาจากร้านคาราโอเกะ "ไปไหน?" ผมถาม
"กลับบ้าน" พูดห้วนๆ
"บ้านใคร?"
"บ้านมึงอ่ะ หรือจะนอนบ้านกู"
"รู้เหรอ"
"เออ!"
สงสัยหัวเสียหนัก ก็นะศักดิ์ศรีลูกผู้ชายมันสูญเสียไปวันนี้แล้วหนิเนาะ
ขับมาสักพักใหญ่ก็ถึงสี่แยก เห็นสัญญาณไฟแดงก็จอ
ดรอ ระหว่างนั้นสายตาดันเห็นสาวสวยคนหนึ่งสวมชุดนักศึกษาห้อยป้าย 'บริการขายหอย' อยู่ ก็นึกสงสัยเลยสะกิดไหล่คนขับ "โจๆ"
"อะไร?"
"มึงเห็นมั้ย"
"เออเห็น"
วันนี้ผมบอกให้ไทม์มารับเพราะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นที่โรงเรียนย้อนกลับไปช่วงแรกที่ผมเข้าเรียนผมปิดแมสและสวมแว่นเป็นปกติ วันแรกทุกคนไม่เอะใจอะไรก็เข้าใจว่าผมไม่สบายและชวนผมคุยปกติพอนานวันเข้าหลายคนเริ่มเอะใจว่าทำไมผมไม่ยอมถอดแมสและสำคัญคือไม่ยอมไปกินข้าวด้วย เสียงซุบซิบนินทาต่างๆเริ่มหนาหูมากขึ้นๆว่าผมเป็นไอ่คนมืดมน อมทุกข์ หยิ่งหรือแม้กระทั่งบางคนถึงกับบอกว่าผมอัปลักษณ์ ในห้องเลยแบ่งออกเป็น2ฝ่ายคือเชื่อและไม่เชื่อ คนที่ไม่เชื่อก็พยายามจะเข้ามาเพื่อตีซี้แต่ผมเองที่ปิดกลั้นจนสุดท้ายเลยหาข้ออ้างว่าตัวเองเป็นวัณโรค วันต่อมาเสียงซุบซิบนินมาไม่ได้มีแค่ในห้องแต่กระจายไปทั่วโรงเรียน ทุกคนเลยไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ กันต์ม.6ห้อง3 ผมเลยมีฉายาไอ่กันต์วัณโรคตั้งแต่นั้นมา ผมรู้สึกแย่ในวันแรกแต่ถ้าเทียบกับสิ่งที่เจอมาถือว่าจิ๊บๆดีเสียอีกที่ไม่มีใครอยากเห็นหน้าตาไม่น่ามองนี้ เผลอๆถ้าถอดแมสออกอาจจะโดนหนักกว่าเดิมเหมือนที่ผ่านมาก็ได้ผมเลยคิดว่าดีแล้วที่เป็นแบบนั้นเพราะงั้นผมถึงกลัวว่าวันนี้ไทม์จะโดนอะไรที่ เหมือนๆกันแล้วต้องรู้สึกแย่หรือเปล่าบรื้นน บรื้นนน บิ๊กไบค์คันใหญ่ขับซิ่งมาแต่ไกลก่อนจะมาจอดตรงหน้า
"รวยหนิมึงอ่ะ ช่วยพี่เขาหน่อยดิ" "หึ" โจหัวเราะเสียงต่ำในลำคอเมื่อได้ยินผมพูดก่อนกวักมือเรียกสาวสวยนักศึกษาคนนั้น เอาแล้ว เพลย์บอยตัวพ่อเริ่มแล้ว!พอถูกเรียกเธอคนนั้นก็รีบเดินมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มดีใจ ผิวของเธอส่องสว่างขาวนวลท่ามกลางแสงจันทร์ยามกลางคืน ใบหน้าผุดผ่องมองเห็นแก้มอมชมพูเป็นธรรมชาติมาถึงเธอก็ถาม "หอมะคะ หอม้ะ" เป็นสำเนียงแปร่งๆ ลูกครึ่งมั้ยนะ?"ไม่เอาหอ จะเอาหอย" แต่ไอ้โจแม่งช็อตฟีลจัด เธอหลบตาเขินใบหน้าขาวเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ"ไอ้โจมึงก็ปล่อยๆบ้างก็ได้" ผมกระซิบกระซาบข้างหูคนขับเบาๆ "เหมาหมดนั่นแหละ เท่าไหร่?" โจถาม เธอหันมามองอย่างดีใจก่อนยื่นถุงหอยสี่ถุงมาตรงหน้าคนถามพร้อมบอกราคาเสียงสดใส"สี่ล้อ" ชูสี่นิ้ว"พี่เค้าบอกสี่ร้อย" ผมกระซิบบอกไอ้โจ กลัวมันช็อตฟีลทำเขาอายอีกแต่มันกลับตอบผมว่า "กูรู้แล้ว" ตามด้วยการหยิบถุงหอยมาให้ผมถือแล้วบอกผมว่า"มึงจ่าย""อ่าวเห้ย!" ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หว่า แต่ไม่มีเวลาให้คิดมาก ผมรีบควักเงินแบงก์ม่วงในกระเป๋าออกมาจ่ายให้ทันที "ไม่ต้องทอนครับ" เจ็บใจฉิบหาย ถึงไม่ซื้อผมก็จะซื้ออยู่แล้ว!! จะทำเก๊กบอกเหมาทำเหี้ยไร ก่อนถึงสัญญาณไฟเข
"ดูดปาก?" ตลกกันใหญ่ "งั้นมาแข่งกันสิ?"ไม่ยอมให้จูบง่ายๆหรอก คิดจะใช้ข้ออ้างให้ตัวเองเลิกบุหรี่ แถมยังไม่ยอมบอกว่าจะลบคลิปให้ ข้อเสนอหรือข้ออ้าง ผมไม่โง่นะครับ"อะไรของมึง" โจริญขมวดคิ้วมุ่นมองผมด้วยสีหน้าแปลกใจ"ถ้าชนะก็ตามใจมึงเลย แต่ถ้าแพ้มึงต้องลบคลิป" นี่สิมันถึงจะเป็นข้อเสนอที่แฟร์ๆ"คำไหนคำนั้น"เขาตอบอย่างไม่ลังเลทั้งยังไม่ได้ถามรายละเอียดของข้อเสนอที่ผมยื่นให้เลยด้วยซ้ำ ดีเลย ดีมาก เพราะผมมั่นใจว่าข้อเสนอที่ผมยื่นให้นี้มันแฟร์กับเราทั้งคู่ หลังตกลงกันเรียบร้อยเราสองคนเดินทางมายังจุดหมายที่ผมคิดไว้นั่นก็คือ...'หนูจ๊ะมาม้ะร้องเกะ'ร้านคาราโอเกะที่เคยมากับกันต์และไทม์ช่วงก่อน เป็นความทรงจำที่ดีจนลืมไม่ลงเลยล่ะ"มึงพากูมานี่ทำไม?" โจบ่นแต่ถึงอย่างนั้นก็ก้าวขาลงจากรถตามผมมาแต่โดยดี"ร้องเพลง" ผมตอบ"ร้องเพลง?" เขาดูแปลกใจแต่ก็ยอมเดินตามจนถึงหน้าเคาน์เตอร์ยังคงเห็นพี่สาวพนักงานคนเดิม"อ้าว! พ่อหนุ่มเบ้าหน้าฟ้าประทาน ไม่เจอกันนานเลย" เธอเอ่ยทักผมก่อนจะเหลือบตามองอีกคนข้างๆแล้วยิ้มกริ่ม "โรงเรียนนี้มีแต่คนน่ากินโว้ย!"พูดเสร็จก็ถามโจว่า "มีแฟนยังอ่ะเรา" พร้อมดวงตาแพรวพราวกระพริบ
หลังจากคืนนั้นโจริญไม่เข้าใจว่าทำไมของตัวเองถึงไม่แข็ง หดแล้ว หดอีก หดต่อ ขนาดนัดเจอกับสาวอกดูม หรือหนุ่มน้อยหน้ามนตามสเปคที่ชอบก็ไม่มีทีท่าว่าจะผงาดขึ้นมาแต่อย่างใดมันนิ่งสนิท...เหมือนมะเขือเผา เหี่ยวเฉาเหมือนชิเมโจใด๋🎶ชิโมโจใด ชิเมโจใด๋ เอาหัวใจเธอมา🎶ใครมาเปิดเพลงแถวนี้วะ!!เหนือสิ่งอื่นใด เขาคิดและปักใจเชื่อว่ามันเป็นเพราะคืนนั้นที่ทำให้ชีวิตเขาต้องรันทดขนาดนี้ ยิ่งคิดยิ่งพาลให้หงุดหงิดใจ เขาปฏิญาณกับตนเองว่า 'ต้องลากไอ้หล่อนั่นมารับผิดชอบให้ได้'ช่วงนี้ปาร์ตี้ในคลับวงในเลยเกิดข่าวซุบซิบกันใหญ่ว่าเพลย์บอยตัวพ่ออย่างโจริญนกเขาไม่ขันเลยอำลาวงการหนุ่มช่างสำราญไปแล้ว"ได้ข่าวว่ามังกรไม่ตื่นเหรอเพื่อน?" ชายหนุ่มหน้าหล่อร้ายคนหนึ่งถามขึ้น ขณะที่โจริญกำลังล้างมือหน้าอ่างล้างมือในห้องน้ำของคลับ"..." ใครเพื่อนมันวะ? โจริญคิดและถึงเขาจะรู้สึกไม่พอใจกับคำพูดนั้นแต่ก็เลือกที่จะเมินเฉย ไม่โต้ตอบ"แนะนำสาวให้เอาเปล่า แถวรัตแม่งอย่างแจ่ม เบิ้มๆ ดูมๆ" ชายคนนั้นยังคงไม่ยอมแพ้ เขาพูดนำเสนอพร้อมทำไม้ทำมือประกอบหึ พวกนายหน้าสินะ...คิดได้โจก็หันกลับไปตอบตามมารยาท "โทษทีว่ะ หน้าอย่างกูไม่จำเป
ทำตัวเหี้ยขนาดนั้นคงจะมีเพื่อนอยู่หรอก"..." เขายื่นซองบุหรี่ให้ไม่พูดไม่จา สายตาทอดมองวิวตรงหน้าอย่างเหม่อลอยแน่นอนว่าผมปฏิเสธ "ไม่สูบ"จากนั้นเจ้าตัวก็ดึงซองบุหรี่กลับ ก่อนหยิบขึ้นมาหนึ่งมวนคาบไว้ในปาก มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบไฟแช็กขึ้นมาจุดสูบและพ่นควันออกมาทางปากกับจมูกด้วยสีหน้าผ่อนคลาย มีแวบหนึ่งที่ผมนึกสงสัยในรสชาติแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่คิดจะลองเพราะเท่าที่รู้ บุหรี่มี ทาร์ เป็นสารเหนียวที่ก่อมะเร็ง นิโคตินที่สูบแล้วติด คาร์บอนมอนอกไซด์ที่เป็นก๊าซพิษขัดขวางการทำงานของออกซิเจน ข้างซองก็ระบุไว้ชัดเจนว่าสูบแล้วเป็นมะเร็ง จะมีกลิ่นปาก ถุงลมปอดพอง แล้วแม่งยังจะสูบอีก"เข้าประเด็นเลยดีกว่า พากูมานี่ทำไม?" ถึงวิวจะงดงามแค่ไหนแต่พอไม่รู้จุดประสงค์ก็คับข้องใจอยู่ดี"เงียบๆใช้สมาธิอยู่" ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเลี่ยงที่จะไม่ตอบคำถามหรือใช้สมาธิจริงๆอยู่กันแน่ ไร้การสนทนา ความเงียบได้กลืนกินเราสองคนเหลือไว้เพียงเสียงลมพัดหวิวๆเท่านั้นท้องฟ้าค่อยๆมืดขึ้นเรื่อยๆจนมองเห็นดวงจันทร์ เต็มดวงและดาวระยิบระยับเต็มท้องฟ้าแสงสีเหลืองนวลจากตึกเองก็เริ่มเด่นชัดขึ้น ผมปล่อยให้เวลาไหลผ่านอย่างใจเย็
'ร้านขายยานนนที'เป็นร้านขายยาโดยเภสัชกรที่ลูกค้าแห่แหนกันมาซื้อยาแน่นร้านทุกวัน แม้ไม่เจ็บแต่ก็ต้องเก็บเงินมาซื้อยาดมวันละร้อยรอบ เพราะลูกชายเจ้าของร้านโคตรพ่อโคตรแม่หล่อทุกคนต่างขนานนามว่าเขาคือชายหนุ่มที่พระเจ้าสร้างขึ้น ด้วยรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาหล่อเหลามาพร้อมกับใฝเสน่ห์เม็ดเล็กใต้ตาซ้ายและผิวสีน้ำผึ้งสุขภาพดีชวนให้คนหลงใหล เขาคนนั้นกำลังเหม่อลอยอยู่หน้าเคาน์เตอร์ยาเหมือนคิดอะไรอยู่ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังถูกเพ่งมองด้วยสายตาหวานเยิ้มจากเหล่าลูกค้าในร้าน'มันไม่แข็งกับคนอื่นก็เพราะมึง' เสียงนั้นคอยรังควานผมอยู่ตลอดเวลา"เกี่ยวไรกับกูวะ!!" "เกี่ยวสิครับ ผมปวดฟัน มาซื้อยาแก้ปวดฟัน"ผมสะดุ้งหลังพลั้งปากโดยไม่รู้ตัวแล้วมีเสียงอู้อี้ตอบกลับมา"อ่ะ ขอโทษครับ"รีบก้มหัวทันทีด้วยความรู้สึกผิด เมื่อเห็นชายวัยกลางคนยืนจ้องอยู่ตรงหน้าพร้อมแก้มซ้ายที่ดูบวมตุยเหมือนพึ่งไปถอนฟันคุดมาใหม่ๆ"เมื่อกี้ไม่ได้ว่าลูกค้านะครับ พอดีคิดอะไรไปเรื่อยเลยหลุดปาก ขอโทษด้วยนะครับ...ฝ่าฟันคุดมาสินะครับ^^" ก้มหัวสำนึกผิดเสร็จผมยิ้มทักทาย เรื่องในหัวพลันหายวับไปทันที อารมณ์ที่หงุดหงิดเมื่อครู่ก็เช่นกั



![อุบัติรักฟีโรโมน [Omagaverse]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)



