Home / รักโบราณ / โชคชะตาวิญญาณนำพารัก / บทที่ 6 ซื้อทาสเข้าจวน

Share

บทที่ 6 ซื้อทาสเข้าจวน

last update Last Updated: 2025-05-16 21:17:05

“แช่น้ำด้วยกันไหมเจ้าคะ” หลี่อิงเอ่ยถามหวังหรูอี้ แต่สายตาที่มองมากับมีความขบขันซ่อนอยู่กระทั่งริมฝีปากก็ให้ยกยิ้มบาง ๆ

ได้สิ หวังหรูอี้ว่าพร้อมกับถอดชุดที่สวมอยู่ออก

“ว้าย!! ข้าล้อเล่นหน่อยเดียวเอง ท่านทำอะไรเนี่ย” หลี่อิงโวยว้ายขึ้นมาทันที แกล้งเขาไม่สำเร็จยังโดนเอาคืนอีก น่าอายชะมัด

หึหึหึ จะแกล้งข้าหรืออิงอิงน้อย หวังหรูอี้หัวเราะอย่างอารมณ์ดีที่ได้แกล้งหญิงสาวคืนบ้าง

“ฮึ” หลี่อิงได้แต่ทำเสียงฮึดฮัดในลำคอ

เป็นเจ้าที่เย้าแหย่ข้าก่อนนะ แล้วจะมาทำเสียงแบบนี้ได้อย่างไรเล่า 

หวังหรูอี้ว่า ก่อนจะย่อนตัวลงไปในอ่างอาบน้ำกับหลี่อิง

“ท่านจะแช่น้ำกับข้าจริงๆ หรือ!” หลี่อิงตาโตถามหวังหรูอี้เสียงหลง

ก็เจ้าเป็นคนชวนข้าเองนะหวังหรูอี้ว่าพร้อมทั้งยังทำหน้าตาใสซื่อใส่หญิงสาวอีกด้วย

“ท่านเป็นผี มีความรู้สึกด้วยหรือเจ้าค่ะ” หลี่อิงเอ่ยอย่างสงสัยใคร่รู้

ก่อนข้าจะเป็นวิญญาณ ข้าก็เป็นคนเช่นเจ้าไม่ใช่หรืออย่างไรเล่า หวังหรูอี้ที่ตอนนี้กำลังนอนแช่น้ำหลับตาพริ้มเอ่ยตอบ

“ไม่สิ ตอนเป็นคนข้าเข้าใจได้ แต่ตอนนี้ท่านไม่ใช่ซะหน่อย”

เอาน่า มีข้าแช่น้ำเป็นเพื่อนเจ้าไม่ดีหรือไง

“เจ้าค่ะ แล้วได้เรื่องหรือไม่เจ้าค่ะ”

อืม เดี๋ยวข้าเล่าให้ฟัง หวังหรูอี้บอกเพียงเท่านั้น หลี่อิงที่เห็นอีกฝ่ายดูจะผ่อนคล้ายและสบายกับการแช่น้ำ (มันได้เหรอ) ก็ไม่ได้รบกวนแต่อย่างไร ทั้งสองแช่น้ำกันไปเงียบ ๆ

หลังแช่น้ำเสร็จก็ได้เวลาเล่าสิ่งที่หวังหรูอี้ไปสืบมาได้แล้ว

เท่าที่ข้าได้ข้อมูลมา เมืองใหญ่ๆ มักจะมีโรงประมูลอยู่ทุกเมือง รวมทั้งที่นี่และเมืองหลวงก็ด้วย โรงประมูลนี้มีชื่อว่า ชิงหลง เป็นของตระกูลหนึ่งในยุทธภพไม่เกี่ยวข้องกับราชสำนัก ข้อมูลของผู้ส่งสินค้าเข้าร่วมประมูล จะถูกเก็บเป็นความลับหากไม่ต้องการเปิดเผย อีกอย่างพวกเขาทำการค้าอย่างยุติธรรม ข้าว่าดีไม่น้อยเลย ส่วนโรงประมูลที่อยู่ในเมืองต้าถงอยู่ติดกับโรงเตี๊ยมบุปผา หวังหรูอี้บอกเล่าข้อมูลทั้งหมดที่หามาได้ให้กับหลี่อิงฟัง

“เช่นนั้นดีเลยเจ้าค่ะ พรุ่งนี้เราคงต้องไปที่โรงประมูลดูสักครั้งแล้ว” หลี่อิงพูดอย่างกระตือรือร้น

แต่ข้ากลับคิดว่า สิ่งที่เจ้าต้องทำเป็นอันดับแรกเลย คือการหาสาวใช้มาไว้ข้างกายรวมทั้งคนที่จะมาทำงานให้เจ้าด้วย หวังหรูอี้เอ่ยแนะนำ

“สาวใช้หรือเจ้าค่ะ ข้าก็ลืมเรื่องนี้ไปซะสนิทเลย” หลี่อิงก็พึ่งมาคิดได้เช่นกันว่าต้องหาผู้ช่วยมาไว้ทำงานให้นาง

ดังนั้นสิ่งที่เจ้าต้องทำเป็นอย่างแรกในวันพรุ่งนี้เลยคือไปโรงค้าทาส

“โรงค้าทาสหรือเจ้าค่ะ”

ใช่แล้วละ

“แต่ข้าเคยได้ยินว่ามีทาสหลวง ถ้าแบบนั้นจะไม่ดีกว่าหรือเจ้าค่ะ” หลี่อิงกล่าว

จะทาสหลวงหรือโรงค้าทาสก็แล้วแต่เจ้าเถอะแบบไหนก็ได้ทั้งหมดนั่นแหละ

เมื่อเห็นว่าหลี่อิงไม่สะดวกใจที่จะซื้อทาสจากโรงค้าทาสแต่ต้องการเป็นทาสหลวงแทน หวังหรูอี้ก็ไม่ได้ขัดอะไร อย่างไรเสียนางก็ต้องช่วยหญิงสาวคัดคนที่เหมาะสมอยู่แล้ว

“เจ้าค่ะ เช่นนั้นวันนี้ข้าขอไปพักก่อนนะเจ้าค่ะ” หลี่อิงบอกกับหวังหรูอี้

ไปเถอะข้าจะอยู่เฝ้าให้ หวังหรูอี้กล่าวกับหญิงสาว

“ขอบคุณเจ้าค่ะ” หลี่อิงส่งยิ้มกว้างให้กับหวังหรูอี้แล้วเดินไปที่เตียงนอนในห้องทันที

เช้าวันใหม่ที่สดใสเริ่มต้นขึ้น

หลี่อิงกับหวังหรูอี้เดินทางไปที่ว่าการเมืองต้าถงกันอีกครั้ง เพื่อสอบถามการซื้อขายทาสหลวง เมื่อแจ้งความประสงค์เรียบร้อยแล้วเจ้าหน้าที่ก็นำทาสที่ตรงกับความต้องการของหลี่อิงมาให้เลือก

“ทาสทั้งหมดที่คุณหนูต้องการ ข้านำมาให้ท่านแล้ว เป็นหญิงยี่สิบคน ชายวัยฉกรรจ์ยี่สิบห้าคน เชิญเลือกตามที่คุณหนูต้องการได้เลยขอรับ”

“ขอข้าดูก่อนนะเจ้าค่ะ” หลี่อิงบอกกับเจ้าหน้าที่ หญิงสาวเดินสำรวจไปทีละคน พร้อมกับฟังข้อมูลที่หวังหรูอี้บอกไปด้วย ใช้เวลาไม่นานก็เลือกคนที่ต้องการออกมาได้ เป็นสาวใช้สองคนและคนงานสิบคนซึ่งเป็นคนที่หวังหรูอี้เลือกมาให้ทั้งหมด

“ทาสหญิงสองคน คนละห้าตำลึงทอง ทาสชายสิบคน คนละยี่สิบตำลึงทอง ส่วนนี้เป็นสัญญาขายตัวของพวกเขาขอรับ” เมื่อหลี่อิงเลือกคนได้แล้วจึงแจ้งกับเจ้าหน้าที่และจ่ายเงินพร้อมกับรับเอาสัญญาขายตัวของแต่ละคนมาด้วย

เมื่อทั้งหมดเดินทางมาถึงจวนที่พักหลี่อิงก็ได้ทำการแจ้งหน้าที่ของแต่ละคนให้รับทราบ

“เอาละ ข้ามีชื่อว่า หลี่อิง ต่อจากนี้จะกลายมาเป็นนายใหม่ของทุกคน พวกเจ้าชื่อว่าอะไรกันบ้าง”

“พวกข้าเป็นทาสที่คุณหนูซื้อมาแล้ว ขอคุณหนูตั้งชื่อให้ใหม่ด้วยขอรับ” ชายคนหนึ่งก้าวออกมาพร้อมกับโค้งศีรษะลงแล้วพูดขึ้น

“ให้ข้าตั้งหรือ” หลี่อิงเอ่ยถาม ดวงตากลมโตกวาดมองทุกคนที่อยู่ตรงหน้า

“ขอรับ”

“ให้ตั้งชื่อทั้งหมดคงไม่ไหวเอาอย่างนี้ก็แล้วกันเจ้าค่ะ...”

หลี่อิงไม่ต้องพูดสุภาพ เจ้าเป็นนาย ก่อนที่หลี่อิงจะได้พูดอะไรต่อ หวังหรูอี้ที่ฟังบทสนทนาอยู่ก็พูดขึ้นมาเสียก่อน

“เอ่อ ข้าจะตั้งเป็นแซ่ให้ หญิงใช้แซ่ลู่ ชายใช้แซ่เจียง แล้วตามด้วยชื่อของพวกเจ้าแบบนี้จะได้ไม่ต้องมาจำชื่อกันใหม่อีก” หลี่อิงกล่าวขึ้น

“ขอบพระคุณขอรับ/เจ้าค่ะคุณหนู”

“แยกย้ายกันเถอะ ส่วนที่พักพวกเจ้าที่เป็นสาวใช้มาพักกับข้าก่อน ที่เหลือพักในเรือนด้านหลังจัดการกันเอาเองว่าจะพักอย่างไร ตอนนี้คงต้องให้พวกเจ้าเบียดกันอยู่สักหน่อย รอจวนที่ข้าสร้างเสร็จพวกเราค่อยย้ายไปกัน”

“ขอรับ/เจ้าค่ะ”

“ไปพักเถอะ มีอะไรข้าจะเรียกเอง” คนงานชายทั้งหมดแยกย้ายกันแล้ว ตอนนี้เหลือหลี่อิงและสาวใช้สองคนที่เลือกมา หญิงสาวเดินนำทั้งสองเข้าไปยังเรือนที่พักเพื่อพูดคุยทำความรู้จัก

“พวกเจ้าชื่ออะไรกันบ้าง อายุเท่าไรแล้ว” หลี่อิงยิ่งคำถามทันทีที่พวกนางเข้ามาในห้องพัก สาวใช้ทั้งสองคนยืนอยู่ด้านหน้าของหลี่อิง

“ข้าน้อย หลี่ซิน อายุสิบเก้าปีเจ้าค่ะ” หญิงสาวคนแรกตอบ บุคลิกท่าทางดูเรียบร้อย แววตาสงบนิ่งเกินอายุและใจเย็น หากฟังจากน้ำเสียงที่นิ่งและมั่นคง

“ข้าน้อย ลี่มี่ อายุสิบเจ็ดปีเจ้า” คนที่สองฟังจากน้ำเสียงดูมั่นใจ พูดจาฉะฉาน กล้าสบตากับหลี่อิงตรงๆ แววตามีความซุกซนฉลาดเฉลียว

“ทำอะไรได้บ้างเล่า”

“ข้าน้อยเคยเป็นสาวใช้ของคุณหนูจวนขุนนางใหญ่เจ้าค่ะ” หลี่ซินตอบเสียงเรียบนิ่ง

“แล้วเหตุใดจึงถูกขายเป็นทาสหลวงได้” หลี่อิงถามอย่างใคร่รู้

“หลังจากนางแต่งงานออกไปกับคุณชายผู้หนึ่ง ข้าได้ติดตามรับใช้ไปด้วย แต่ว่าคุณชายผู้นั้นเกิดถูกใจข้า จึงทำให้นางหวาดระแวงและหาทางขายข้าออกมาเจ้าค่ะ” นางก้มหน้าลงเล็กน้อยแต่น้ำเสียงที่ใช้ก็ยังคงเรียบไม่มีการใส่อารมณ์เข้ามาปะปน

“แล้วเจ้าถูกใจคุณชายผู้นั้นด้วยหรือไม่” หลี่อิงถามต่อเสียงเรียบ

“ไม่เจ้าค่ะ ข้าไม่เคยคิดอะไรกับคุณชายผู้นั้น อีกทั้งยังหลีกเลี่ยงทุกครั้งที่ถูกเข้าหา แต่คุณหนูนางก็ยังไม่ไว้ใจ จึงใส่ร้ายและขายข้าออกมาเจ้าค่ะ”

อืม ก็มีให้เห็นอยู่ทั่วไปละนะเรื่องแบบนี้ เพราะหน้าตานางเองอาจจะไม่ถึงกับสวยสะดุจตาแต่กับรู้สึกเย็นตาและสบายตาเวลามอง เท่าที่ข้าดูนางเป็นคนซื่อสัตย์ทีเดียว

หวังหรูอี้พูดขึ้น

“เอาละข้าเชื่อเจ้า” หลี่อิงว่าพร้อมกับส่งยิ้มบางไปให้ แล้วผินหน้าไปทางลี่มี่เล็กน้อย

“ข้าเป็นลูกขอพ่อครัวในเหลาอาหารแห่งหนึ่งเจ้าค่ะ แต่พ่อข้าถูกไล่ออก เพราะเจ้าของเหลาอาหารขายที่นั่นให้กับผู้อื่น ต่อมาพ่อข้าป่วยหนักไม่มีเงินรักษา ท่านแม่เลยขายข้าให้กับทางการ เพื่อนำเงินไปรักษาท่านพ่อเจ้าค่ะ” หญิงสาวเล่าเรื่องของตนเองอย่างฉะฉานไม่ได้มีความเสียใจอยู่ในนั้นแม้แต่น้อย

“แล้วเจ้าไม่เสียใจหรือ” หลี่อิงถามด้วยความประหลาดใจ

“ไม่เจ้าค่ะ ก่อนที่ท่านแม่จะขายข้า ท่านถามความต้องการของข้าก่อนด้วย มันทำให้ข้ารู้ว่านางรักข้ามากแต่ก็จำเป็นต้องทำเจ้าค่ะ”

“แล้วอยากกลับไปหรือไม่” หลี่อิงถามอย่างเห็นใจ

“อยากเจ้าค่ะ แต่ว่าข้าต้องหาเงินมาไถ่ตนเองออกไปนะเจ้าค่ะ ไม่ใช่คุณหนูไล่ให้ข้ากลับไปทั้งที่พึ่งซื้อข้ามา” น้ำเสียงที่แผ่วเบาในตอนแรก แปรเปลี่ยนเป็นหนักแน่นเมื่อเข้าใจในสิ่งที่ถูกถาม

“แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าจะปล่อยเจ้าไปทั้งที่ยังไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้ข้า” หลี่อิงถามเสียงเรียบ

“ข้าไม่รู้เจ้าค่ะ แต่ความรู้สึกข้าบอกแบบนั้น” นางตอบ

“หึ” ลี่มี่มีความสดใส เฉลียวฉลาดและจับความรู้สึกของผู้อื่นได้เร็ว บวกกับหน้าตาน่ารัก ดวงตาสดใสดูซุกซนเป็นเสน่ห์ให้คนเอ็นดูไม่น้อยเลย

“แล้วตอนนี้ครอบครัวเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”

“ท่านพ่อก็ยังป่วยอยู่บ่อยๆ เจ้าค่ะ ท่านแม่เลยต้องทำงานหนักขึ้นมากกว่าแต่ก่อน”

“หากข้าต้องการจ้างพวกเขา เจ้ายินดีหรือไม่”

“จ้างมาเป็นทาสหรือเจ้าค่ะ!” ลี่มี่ตกใจตาโตเมื่อได้ยินคำถามจากหลี่อิง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • โชคชะตาวิญญาณนำพารัก   ตอนพิเศษ (End)

    วิญญาณของหวงหลี่อิงนั้นไม่ได้ต้องการอันใดเพียงแค่อยากมาดูเท่านั้นว่าร่างตนเป็นอย่างไรบ้าง“ข้าขอโทษนะที่ทำให้เจ้าไม่สบายใจ” หวงหลี่อิงเอ่ยขึ้นขณะที่นั่งอยู่ตรงหน้าหลี่อิง“ไม่เป็นไร ตอนแรกข้าก็กังวล พอรู้เช่นนี้ก็สบายใจขึ้น” หญิงสาวเอ่ยบอกพร้อมรอยยิ้มยินดี หลี่อิงคิดว่านี้น่าจะเป็นฝันที่อีกคนสร้างขึ้นเพื่อพูดคุยกับนางเป็นแน่“จริงสิ ข้ารบกวนเจ้าหน่อยได้หรือไม่” หวงหลี่อิงเอ่ยขึ้นอย่างเกรงใจ“อะไรหรือ”“ข้ามีเรื่องหนึ่งที่อยากทำมาตลอดแต่ก็ไม่สามารถทำได้ ถ้าจะรบกวนเจ้าให้ทำให้จะขอมากไปหรือไม่”“พูดมาเถอะ” หลี่อิงบอก“ข้าอยากไปที่วัดแห่งหนึ่งที่หวงโจ มันเป็นความปรารถนาของท่านแม่ข้าก่อนที่นางจะตาย”“ได้ข้าจะไปให้ เจ้าต้องการให้ข้าทำอะไรให้ที่นั่นหรือ” หญิงสาวเอ่ยถามความต้องการของหวงหลี่อิง“มีคำพูดหนึ่งที่นางมักจะบอกข้าเสมอว่าหากมีโอกาสได้ไปวานข้าบอกกับเจ้าอาวาสที่นั่น”“…..”“แม้ชีวิตนี้ของข้าจะได้ทำเพียงหน้าที่อุ้มชูร่างของคนผู้หนึ่ง แต่ข้าก็ยินดีที่จะให้ความรักทั้งหมดกับคนผู้นั้น เมื่อวิญญาณของนางมาถึงหวังว่าท่านจะดูแลอุ้มชูให้มีความสุขสงบดังที่นางตั้งใจให้เป็นไป ข้าเพียงมาทวงสัญญา”“อ

  • โชคชะตาวิญญาณนำพารัก   บทที่ 35 ความสุขที่เฝ้ารอ

    “พวกท่านจะตะโกนทำไมเจ้าค่ะ อายคนอื่นเขาไหมนั้น”หวังเยว่ชิงเอ่ยอย่างตื่นตระหนก“เอาละ ๆ พอแล้ว พวกเจ้าก็เหมือนกันน้องโตเพียงนี้แล้ว อีกไม่นานก็ต้องออกเรือน ท่านพี่ก็ด้วย”หวังเหลียนฮวาเอ่ยปราม“จริงเจ้าค่ะท่านแม่”หวังเยว่ชิงเดินเข้าไปเกาะแขนมารดาเอาไว้อย่างออดอ้อน ทำให้บุรุษตระกูลหวังได้แต่มองอย่างไม่ยินยอม“เอาเป็นว่าพวกเราแยกย้ายกันไปเที่ยวตามที่ตนเองต้องการ แล้วค่อยกลับมารวมตัวกันตรงนี้ก่อนยามจื่อ (23.00-00.59) นะเจ้าค่ะ”หลี่อิงเอ่ยขึ้น เมื่อนัดแนะกันเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันไปเดินเที่ยวตามที่ต้องการและแน่นอนว่าหวังชิงเฟิงย่อมชิงตัวหลี่อิงออกมาก่อนใครทั้งคู่เดินชมบรรยากาศตามท้องถนน จนมาหยุดยืนอยู่ตรงสะพานที่มองเห็นทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำที่ถูกประดับตกแต่งด้วยโคมไฟมากมายงดงาม“ใกล้ถึงเวลาจุดพลุแล้ว อยู่ตรงนี้จะเห็นได้ชัดมากกว่า”หวังชิงเฟิงเอ่ยขึ้น มือหนาเอื้อมไปจับมือเรียวนุ่มเอาไว้และไม่นานเสียงพลุก็ดังขึ้น หลี่อิงมองพลุที่ถูกจุดขึ้นตาเป็นประกาย พร้อมรอยยิ้มกว้าง ทุกอย่างที่เกิดขึ้นตกอยู่ภายใต้การมองของชายหนุ่มทั้งหมด“ไม่ว่าจะดูกี่ครั้งก็ยังงดงามมากเช่นเดิมท่านว่าหรือไ

  • โชคชะตาวิญญาณนำพารัก   บทที่ 34 เทศกาลหยวนเซียว

    ในยามนี้ที่จวนตระกูลเซียวทุกคนต่างก็พร้อมหน้ากันที่โต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่ทุกคนเริ่มลงมือทานอาหารนั้นหลี่ซินก็เดินเข้ามาแจ้งว่าหวังชิงเฟิงมาถึงแล้วตอนนี้อยู่ที่ห้องโถง หลี่อิงกวาดสายตามองทุกคนที่กำลังสนใจนางอยู่ตอนนี้ก็เอ่ยขอตัวออกมาหญิงสาวเดินออกมาถึงห้องโถงก็เจอกับสายตาเรียบนิ่งที่มองมาอย่างแง่งอน หญิงสาวส่ายหน้าเบาๆ พร้อมกับอมยิ้มนิด ๆ ก่อนจะเดินเข้าไปหาชายหนุ่ม“เป็นอันใดเจ้าค่ะ”“เจ้าไม่รอข้า” เขาพูดอย่างแง่งอนที่หญิงสาวไม่รอให้ตนเองมาถึงก่อนค่อยเริ่มฉลองเทศกาลกัน“ท่านเป็นเด็กหรือเจ้าค่ะ ท่านพ่อท่านแม่มาถึงแล้วอย่างไรก็ไม่ควรให้รอ อีกอย่างท่านติดธุระอื่นอยู่ไม่รู้จะเสร็จเมื่อไร ท่านจะใจร้ายปล่อยให้พวกท่านหิ้วท้องรอได้หรือ”หญิงสาวเอ่ยอธิบายด้วยรอยยิ้มเอ็นดูคนรัก แต่นางก็เข้าใจชายหนุ่มว่าต้องการฉลองเทศกาลอย่างพร้อมหน้ากับทุกคน“ข้าขอโทษเจ้าที่เอาแต่ใจ” ใบหน้าคมคายเอ่ยอย่างออดอ้อน มือหนาคว้ามือนุ่มมานวดคลึงเบา ๆ ให้คลายอารมณ์ขุ่นมัวถึงแม้จะเป็นแค่การแกล้งแสดงออกของหญิงสาว“ข้าไม่ได้โกรธเจ้าค่ะ และเข้าใจท่านด้วย เอาอย่างนี้ดีหรือไม่ หลี่ซิน”หญิงสาวเอ่ยเรียกสาวใช้คนสนิท แล

  • โชคชะตาวิญญาณนำพารัก   บทที่ 33 วันเวลาที่พ้นผ่าน

    “ข้าจะบอกอะไรให้นะเจ้าคะ สตรีอย่างเราล้วนต้องการเป็นภรรยเดียว ท่านก็เช่นเดียวกันไม่ใช่หรือ ไม่อย่างนั้นท่านคงไม่หาทางขายหลี่ซินออกมา สามีท่านเป็นคนที่ไม่เคยพอในเรื่องของสตรี ถ้าเป็นข้า ข้าจะทำให้เขาไม่สามารถเสพสมกับสตรีใดได้อีก”หลี่อิงเอ่ยเสียงเรียบดวงตากลมโตจ้องมองฟงกั๋วหมิงก่อนจะเลื่อนสายตาต่ำลงไปเล็กน้อยจนชายหนุ่มเผลอก้าวถอยหลังรู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมาทันที“เจ้ากล้าหรือ บุรุษอย่างเรามีสามภรรยาสี่อนุยังได้ แต่สตรีเช่นเจ้าหากชื่อเสียงเสียหายก็ไม่มีใครต้องการแล้ว” ฟงกั๋วหมิงกล่าวอย่างฉุนเฉียว“เจ้าค่ะ สตรีอย่างเราต้องรักษาชื่อเสียงอย่างดีถึงจะสามารถมีชีวิตที่ดีได้ ไม่เหมือนบุรุษเช่นท่านจะเลวจะชั่วอย่างไรก็ยังมีคนให้ท้าย แต่ถ้าเกิดไปเหยียบหางเสือร้ายเข้า ยังจะมีใครกล้าออกหน้าให้อีกหรือไม่เล่าข้าก็อยากรู้เสียจริง”“หึ เจ้าเปรียบตนเองสูงไปหน่อยหรือไม่” ชายหนุ่มกล่าวอย่างเย้ยหยัน“ข้าไม่กล้าเปรียบตนเองเป็นเสือร้ายหรอกเจ้าค่ะ แต่ท่านรู้ดีว่าข้าหมายถึงใคร”ร่างบางฉีกยิ้มหวานจับใจให้ชายหนุ่ม แต่มันกลับดูไม่น่าไว้ใจเลยสักนิดในสายตาของฟงกั๋วหมิง“หวังชิงเฟิงนะหรือ เขามีคู่หมั้นแล้วและอีกอ

  • โชคชะตาวิญญาณนำพารัก   บทที่ 32 ความรู้สึกที่ตรงกัน

    “เอ่อ ไม่ดีเจ้าค่ะ” หญิงสาวรีบปฏิเสธ“ทำไมเล่า”“นี้มันห้องสตรีนะเจ้าค่ะ” หลี่อิงเอ่ยขึ้นทันที ดวงตากลมโตมองชายหนุ่มราวกับเห็นผี“แต่เจ้าเป็นคู่หมั้นข้าแล้ว” หวังชิงเฟิงก็ไม่น้อยหน้าเอ่ยอ้างถึงสถานะของเจ้าตัวตอนนี้“แค่ข่าวลือที่ท่านปล่อยออกไปเจ้าค่ะ” หญิงสาวเอ่ยค้านทันที“หากข้าไม่ต้องการเพียงแค่ข่าวลือเล่า” สายตาคมมองหลี่อิงอย่างเจ้าเล่ห์“ถึงอย่างไรนั้นก็เป็นเพียงข่าวลือเจ้าค่ะ” หญิงสาวตอกย้ำความเป็นจริง“แต่ก็เป็นข่าวลือที่มีมูลความจริง” ชายหนุ่มเองก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน“……”“เจ้ากังวลอะไรอยู่” ชายหนุ่มมองเห็นความลังเลไม่มั่นคงในแววตาของหญิงสาว“เรื่องราวของพวกเรา มันไม่เร็วไปหรือเจ้าค่ะ” หลี่อิงถามขึ้นน้ำเสียงมีความกังวลอย่างเห็นได้ชัด“หากเจ้าคิดว่ามันเร็วไป ข้าก็จะรอจนกว่าเจ้าจะพร้อม แต่ระหว่างนี้เรื่องหมั้นของเรา เจ้าคิดเห็นอย่างไร” หวังชิงเฟิงจ้องมองเข้าไปในดวงตาของหญิงสาวอย่างจดจ่อและคาดหวังว่าคำตอบนั้นจะตรงกับใจของเขาเช่นกัน“….. ข้ายินดีเจ้าค่ะ” หญิงสาวเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะตอบรับคำขอของชายหนุ่ม หวังชิงเฟิงยิ้มกว้างอย่างยินดี“ข้าจะให้ท่านพ่อจัดการทุกอย่างให้เร็วที่สุด”“เจ้า

  • โชคชะตาวิญญาณนำพารัก   บทที่ 31 ถูกหาเรื่องถึงในจวน

    กลุ่มคนที่พากันมาเยือนจวนผู้อื่นแต่เช้าตอนนี้กำลังนั่งรอเจ้าของจวนอย่างสงบอยู่ที่โถงรับรอง สายตาหลายคู่มองไปรอบโถงนี้อย่างริษยาเครื่องตกแต่งถึงจะดูเรียบง่ายแต่กลับมีราคายิ่ง“เป็นเจ้าบ้านอย่างไรปล่อยให้แขกรอ” สตรีวัยกลางคนผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น นางคือฮูหยินของเจ้าเมืองต้าถงวันนี้ได้ข่าวที่ไม่ค่อยจะรื่นหูเท่าไรเกี่ยวกับหญิงสาวเจ้าของจวนจึงรบเร้าให้ผู้เป็นสามีพานางกับบุตรสาวมาที่นี่เพื่อพิสูจน์ว่าข่าวนั้นเป็นเพียงข่าวลือ“แล้วเป็นแขกอย่างไรถึงกล้าถือวิสาสะเข้าจวนผู้อื่นทั้งที่ยังไม่ได้รับอนุญาต”เสียงหวานนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองผู้พูดอย่างไม่พอใจนัก“นี่….” นางกำลังจะเอ่ยต่อว่าผู้ที่กล้าด่านาง แต่เมื่อมองไปยังผู้พูดแล้วก็ได้แต่กลืนทุกอย่างลงคอไป ร่างเพรียวระหงของหวังเหลียนฮวาเดินเข้ามาพร้อมกับผู้เป็นสามี ด้านหลังคือหลี่อิงกับหวังชิงเฟิง ทั้งสองคู่บังเอิญเจอกันที่หน้าห้องโถงพอดีทั้งยังได้ยินคำพูดที่ไม่น่าฟังของผู้มาเยือน หวังเหลียนฮวาเลยอาสาเป็นผู้จัดการแทนหญิงสาวเพราะอย่างไรนางก็เป็นผู้ใหญ่กว่าให้หลี่อิงออกหน้าเองคงไม่เหมาะ“ท่านเสนาบดี ฮูหยินหวัง” ถงกวนหลี เจ้าเมืองต้าถงลุกขึ้นทำความเคารพทันท

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status