LOGIN“หิวหรือยังคะหนูพาย” เมลานีพูดช้า ๆ เพื่อให้ลูกสาวที่กำลังอยู่ในวัยหัดพูดสามารถเข้าใจคำถามของเธอได้ทุกคำ หญิงสาวเคยอ่านผ่านตามาบ้างว่าหากอยากให้ลูกเรียนรู้ได้เร็วและเป็นคนมีเหตุผล ต้องปฏิบัติกับลูกให้เหมือนกับเขาคือผู้ใหญ่ที่พูดรู้เรื่องแล้วคนหนึ่ง เมลานีจึงแทบไม่เคยทำเสียงเล็กเสียงน้อยกับลูกสาวเลยเพราะเธออยากให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีและพูดได้ชัดเจน
“หม่ำ หิว” หนูน้อยเข้าใจในสิ่งที่มารดาต้องการถาม แม้เธอจะยังพูดได้เป็นคำ ๆ แต่ก็เรียกรอยยิ้มจากเมลานีรวมถึงคนที่ยืนมองอยู่พักหนึ่งจนกระทั่งสาวเท้าเข้ามายืนอยู่เบื้องหลังโดยไม่รู้ตัว
“กินไข่ตุ๋นน้ำมะพร้าวนะคะ แม่เตรียมมาให้แล้วหนูพายไม่ต้องกลัวหิวเลยลูก” เมลานีหยิบเอากล่องสี่เหลี่ยมบรรจุอาหารที่เตรียมเป็นเสบียงให้ลูกสาวออกมา จัดการตักไข่ตุ๋นเนื้อนุ่มที่เป็นอีกหนึ่งของโปรดไว้เผื่อลูกสาวจะหิว เมื่อมีเวลาว่างหญิงสาวชอบเปิดดูสูตรทำอาหารสำหรับเด็กเพราะที่ผ่าน ๆ มาก่อนมีลูกเธอทำอะไรแทบไม่เป็นเลย จนตอนนี้ทำอาหารได้หลากหลายมากขึ้นพอที่จะล่อหลอกลูกสาวในวัยนี้ให้กลายเป็นเจ้าก้อนแป้งตัวกลมดิก
“กิน ฉุน พ้าว” เจ้าตัวน้อยรีบตบมือเมื่อเห็นของโปรดที่มารดาเตรียมพร้อมมาเป็นเสบียง ความหมายของหนูพายคือเธออยากกินไข่ตุ๋นมะพร้าวแล้วค่ะคุณแม่ขา
“อ้าม” เมลานีตักไข่ตุ๋นนุ่มฟูที่มีเนื้อมะพร้าวหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงไปด้วยให้กับลูกสาวที่อ้าปากกว้างรอรับของโปรดแถมยังเคี้ยวแก้มตุ่ย จนไม่กี่อึดใจก็ร้องหาไข่ตุ๋นคำใหม่
“อีก เอาอีก” เด็กน้อยเขย่าตัวและส่งเสียงบอกให้ผู้เป็นมารดารู้ว่าความต้องการไข่ตุ๋นมะพร้าวอ่อนของตนเองยังไม่เพียงพอ เมลานีจึงค่อย ๆ บรรจงตักของอร่อยให้ลูกสาวเพิ่ม
“อร่อยไหมคะ”
“หย่อย” หนูพายหลับตาปี๋พร้อมพยักหน้าและตอบคำถาม แถมยังยืนยันโดยการซุกตัวลงที่อกของมารดาแล้วถูไถหน้าไปมาเหมือนทุกครั้งเมื่อต้องการออดอ้อนออเซาะ แม้จะอายุเพียงแค่ขวบกับสิบเดือนแต่เด็กน้อยก็เรียนรู้ได้ว่าควรจะแสดงออกอาการแบบใดที่ทำให้ผู้เป็นแม่ใจอ่อน เพราะทุกครั้งที่หนูพายทำกิริยาเหมือนแมวน้อยขี้อ้อน เมลานีจะใจอ่อนยวบและยอมตามใจลูกสาวไปซะทุกอย่าง
“ลูกสาวเหรอ ตาแป๋วน่ารักเหมือนเมลเลย”
เมลานีหันกลับไปมองชายหนุ่มในชุดครุยแถบสีเดียวกันกับณัชชา ผู้ชายที่เธอแทบไม่ได้คุยและไม่ได้พบปะหลังจากเมฆาถูกวิสามัญฆาตกรรม ในตอนนั้นธนนท์แสดงอาการรังเกียจถึงขั้นตัดการคบหาไม่ยอมแม้กระทั่งมาร่วมงานศพของพี่ชาย จนเธอกลับมาเรียนอีกครั้งในช่วงสั้น ๆ ก่อนจะพบว่าตัวเองตั้งครรภ์ เขาก็ไม่เคยกลับมาแสดงความเป็นมิตรฉันเพื่อน จะมีพูดคุยบ้างก็แค่กับณัชชา ซึ่งเมลานีก็ยอมรับการตัดสินใจของเพื่อนหากเขารังเกียจภูมิหลังที่มาจากพี่ชายผู้ค้ายาเสพติด วันนี้การที่ธนนท์เดินเข้ามาทักทายเธอด้วยตนเองจึงเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายอยู่พอสมควร
“ลูกสาวเราเอง ชื่อน้องพาย”
“น่ารัก จ้ำม่ำดีจริง ๆ สวัสดีครับหนูพาย” ธนนท์ย่อตัวลงนั่งบนส้นเท้าของตนเอง เป็นระดับที่พอดีกับใบหน้าจิ้มลิ้มของเด็กน้อย หนูพายผู้กินไข่ตุ๋นจนอิ่มแปล้จึงส่งยิ้มร่าให้อย่างเด็กอารมณ์ดี เมลานีเห็นดังนั้นก็พลอยยิ้มตามและสอนให้ลูกสาวเรียกชื่อของเพื่อนด้วย
“น้านนท์ หนูพายลองเรียกชื่อน้านนท์สิคะลูก” เมลานีค่อย ๆ พูดช้า ๆ ชัด ๆ แต่อ่อนโยนตามนิสัย
“น้านง”
“น้านนท์” คราวนี้เป็นธนนท์ที่นึกสนุกพยายามสอนหนูพายเรียกชื่อตนเองให้ถูกดูบ้าง
“น้านุน”
“น้านนท์”
“นูน นูน” หนูน้อยพยายามออกเสียงตามคำบอกของคุณน้าคนใหม่แต่ก็ยังฟังแปร่งแปลกจน ‘น้านูนนูน’ หัวเราะออกมา
“ก็ได้ค่ะ นูนนูน ก็นูนนูน”
“กำลังหัดพูดน่ะ จะยังพูดได้เป็นคำสั้น ๆ อยู่ แต่ฟังเข้าใจได้เกือบหมดแล้ว”
“นี่ก็พูดเก่งมากแล้วนะ ยังไม่ถึงสองขวบใช่ไหม” ธนนท์คำนวณเวลาเอาจากช่วงที่เมลานีลาออกจากการเป็นนักศึกษา ในตอนนั้นเขาทั้งเสียใจที่เมลานีไปมีแฟนและรับไม่ได้ที่หญิงสาวมีพี่ชายเป็นอาชญากรในคดียาเสพติด ต่อมาเธอตั้งท้องและลาออกไปเงียบ ๆ ธนนท์รู้เรื่องนี้จากณัชชาเพราะเมลานีก็ไม่ได้ปิดบัง
หลังจากวันนั้นจนถึงวันนี้ธนนท์พบว่าตนเองยังคงแอบคิดถึงเมลานีอยู่บ่อย ๆ ยามที่เขาพบเจอผู้หญิงที่มีลักษณะใกล้เคียงกับเธอ หลังจากเมลานีลาออกไปแล้วชายหนุ่มก็ยังใช้ชีวิตวัยรุ่นเหมือนเด็กมหาวิทยาลัยทั่วไป คือเดตกับคนที่ถูกใจไปทั่วแต่กลับไม่ได้คบหาใครจริงจัง เมื่อลองพิจารณาเด็กสาวแต่ละคนที่เขาคบหามักจะมีบางอย่างที่คล้ายคลึงหรือชวนให้นึกถึงหญิงสาวร่างบางคนนี้ แต่ก็ยังไม่มีใครที่เขาคลั่งไคล้ได้เท่าเธอ
เมลานีอาจจะเป็นเหมือนอาหารที่เขาหมายตามานานแต่ดันถูกตัดหน้าไปเสียก่อน แม้วันนี้จะเป็นแค่ของเหลือก็ยังดูน่ากินกว่าอาหารสดใหม่จานอื่นที่ถูกเสิร์ฟมาให้ถึงที่ เขาคงติดค้างอยู่ในใจเพราะยังไม่ได้ลองลิ้มชิมรสเธอ
“เมลมาหาณัชใช่ไหม ได้เจอกันหรือยัง”
“เจอแล้ว ถ่ายรูปกับณัชแล้วด้วย”
“งั้นเมลกับหนูพายถ่ายรูปกับเราหน่อยได้ไหม ที่ผ่านมานนท์ขอโทษที่เคยทำตัวไม่ดีกับเมลนะ”
“เราเข้าใจนนท์ อย่าคิดมากเลยเรื่องมันผ่านไปแล้ว มาถ่ายรูปกันดีกว่า ถ่ายรูปกับน้านนท์คะหนูพาย”
“ฉ่ายยูบ” ดูเหมือนเด็กหญิงจะชื่นชอบการถ่ายรูปอยู่ไม่น้อยเพราะพอได้ยินคำว่าถ่ายรูปก็ยิ้มร่าทันทีทำเอาทั้งเมลานีและธนนท์หัวเราะตามไปด้วย ชายหนุ่มเป็นฝ่ายหยิบเอาสมาร์ตโฟนของตนเองขึ้นมาใช้กล้องหน้าถ่ายรูป เมื่อเห็นว่ายังไม่ได้ภาพในมุมที่กว้างมากพอจึงหันไปขอความช่วยเหลือกับรุ่นน้องกลุ่มหนึ่งที่บังเอิญเดินผ่านมา
“ใช่ พี่เมล ที่เคยเป็นดาวคณะหรือเปล่าคะ” เมลานีเองก็เคยเป็นนักศึกษาที่มีคนให้ความสนใจไม่น้อยเพราะเธอเป็นถึงดาวคณะมาก่อน
“ค่ะ” เมลานีพยักหน้ารับ พอเห็นสายตารุ่นน้องมองไปที่ลูกสาวบนตักก็ยิ่งกอดลูกเอาไว้แน่น มือเธอแอบสั่นโดยไม่อาจระงับ
“พี่ท้องจริง ๆ เหรอคะ ตอนนั้นนึกว่าข่าวลือซะอีก” หนึ่งในนักศึกษากลุ่มนั้นถามออกมาโดยไม่สนใจสีหน้าซีดเผือดของหญิงสาวเลยสักนิด จนธนนท์รู้สึกหงุดหงิดใจและโมโหที่ตนเองเรียกรุ่นน้องกลุ่มนี้มาถ่ายรูปจนทำให้บรรยากาศดี ๆ เมื่อครู่หายไปโดยสิ้นเชิง
“ขอโทรศัพท์พี่คืนด้วยครับ” ชายหนุ่มพูดกับรุ่นน้องเสียงกระด้างทำให้ทั้งกลุ่มรู้สึกได้ว่ารุ่นพี่บัณฑิตใหม่ไม่พอใจจึงส่งโทรศัพท์คืนและแยกตัวออกมา
ธนนท์หันมามองเพื่อนสนิทที่เขาเคยหมายปองและคิดว่าเธอเป็นดอกฟ้า ตอนนี้เธอกลายมาเป็นดอกหญ้าแล้วแต่ก็ยังงดงามจนเขาไม่อาจตัดใจมองข้าม
“ขอแสดงความยินดีกับบัณฑิตใหม่นะนนท์ แต่เมลต้องกลับแล้วล่ะ ยายหนูพายน่าจะง่วง” เมลานีเก็บกล่องบรรจุไข่ตุ๋นมะพร้าวที่เหลืออยู่เพียงเล็กน้อยลงในถุงผ้า จัดการป้อนน้ำให้ลูกสาวโดยมีธนนท์ยืนมองอยู่ด้วยสายตาทึ่ง ๆ เมลานีเปลี่ยนจากคุณหนูผู้บอบบางแสนเฉิดฉายมาเป็นมารดาผู้อ่อนโยน ละเมียดละไมมองแล้วช่างจับตาจับใจเหลือเกิน คงจะดีกว่านี้มากถ้าคนที่เป็นพ่อของลูกในท้องเธอจะเป็นเขา...ไม่ใช่ผู้ชายคนอื่น
ธนนท์ตัดสินใจที่จะลองเดินหน้ากับเมลานีดูอีกครั้ง สมัยก่อนเธอสูงส่งเป็นดาวคณะแต่วันนี้เป็นแค่แม่หม้ายลูกติด เธอคงจะให้โอกาสเขาได้ไม่ยากเย็น อยากรู้เหมือนกันว่าหญิงสาวผู้จองหองในอดีต พอตกอับไร้หนทางจะยังเล่นตัวกับผู้ชายที่มีใบปริญญาและมีหน้าที่การงานที่ดีแบบเขาอยู่ไหม
“นนท์ขอเบอร์เมลไว้ได้ไหม”
“ได้สิ นนท์ก็เป็นเพื่อนของเราเสมอ”
“นนท์คิดถึงและไม่เคยลืมเมลจากหัวใจเลย”
Special Talk : พี่กริชถ้าช่วงชีวิตของคนเราจะมีเพลงประจำของมันอยู่ ชีวิตผมก็คงเริ่มด้วยเพลงบลูส์อันแสนเศร้าสร้อย...ผมจึงใช้มันเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดในใจ และทุกครั้งที่ผมขึ้นไปร้องเพลงบนเวที ผมจะเห็นเด็กสาวแสนสวยคนหนึ่งที่นั่งมองผมอยู่เงียบ ๆ ท่ามกลางผู้คนที่แต่งตัวมาประชันกันในบาร์ราคาแพงสายตาของผมกลับกวาดไปตกลงที่เธอเท่านั้นผมจำเธอได้ดี แม้วันนี้เธอจะไม่ใช่เด็กน้อยผมเปียแต่เติบโตเป็นหญิงสาวสวยสะพรั่ง ผมรอให้เธอเข้ามาหาเพื่อขอโทษกับสิ่งที่ทำร้ายผมในอดีต แต่เธอก็ไม่ได้ทำแบบนั้น นานวันเข้าจากที่เคยชินก็กลายเป็นผมที่เฝ้ารอให้เธอมานั่งฟังเพลงที่นี่ทุกคืน...และผมก็เลือกที่จะลงมือจัดการเธอผมเริ่มเกมด้วยความแค้นในจุดเริ่มต้น และเข้าสู่เส้นชัยด้วยความว่างเปล่าสามปีในมาเก๊า ผมอยู่กับความถวิลหาที่ไม่อาจเติมเต็ม แล้วกลับเมืองไทยอย่างคนไร้ชีวิตจิตใจ อุทิศพลังทั้งหมดเพื่อทำงาน ซมซานกลับไปโดดเดี่ยวในคอนโดหรูที่แสนเวิ้งว้างจนกระทั่งวันที่ผมได้ยินเสียงรับโทรศัพท์ของโอเปอเรเตอร์คนใหม่ ผมจึงเข้าใจว่าทำไมผมถึงเฝ้ามองหาเงาใครบางคนท่ามกลางฝูงชนอยู่ตลอดเวลาผมหันหลังไปยืมกีตาร์จากนักดนตรีในงานไมเนอร์
โซ่รักตอนพิเศษ โซ่รักวันเกิดของกริชเวียนกลับมาครบรอบอีกครั้งหนึ่ง ทุกคนต่างโหวตเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากไปทะเลอีกครั้งเพราะติดใจวิลลาริมทะเลที่เคยไปในอดีต ป้าละไมขออยู่เฝ้าบ้านเพราะกำลังติดซีรีส์อินเดียอย่างหนักหน่วง เจ้าของวันเกิดผู้เป็นทาสเมียและทาสลูกสาวโดยสมบูรณ์จึงไม่อิดออดที่จะเอาใจสองสาวต่างวัย เพียงแต่ระหว่างทางเขาพาทั้งเมลานี และหนูพายแวะที่วัดแห่งหนึ่งก่อน“แวะที่นี่ก่อนนะคะหนูเมล” จังหวัดเดิมที่เคยอาศัยเป็นทางผ่านก่อนไปทะเล และกริชตั้งใจพาลูกสาวกับเมลานีมาที่นี่อยู่แล้ว จึงถือโอกาสพิเศษนี้แวะเสียเลย“ไหว้พระเหรอคะ”“ค่ะ พี่เตรียมสังฆทานใส่รถมาแล้วด้วย ความจริงตั้งใจจะมาที่นี่ในวันเกิดนั่นแหละ อยากมาทำบุญ”“ทำไมไม่บอกล่ะคะ เมลจะได้ช่วยเตรียมของ” เมื่อเปิดท้ายรถก็พบว่าชายหนุ่มเตรียมเครื่องสังฆทานกล่องใหญ่มาแล้ว เขาเลือกของด้วยตัวเองแล้วนำมาใส่กล่องใส ไม่ใช่สังฆทานสำเร็จรูปที่มักจะใส่กระป๋องสีเหลืองตามแบบที่ร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์มักจะทำกัน“ครั้งหน้านะคะ เมื่อคืนวานพี่เห็นเมลเหนื่อย หมดเรี่ยวหมดแรงก็เลยสงสารไม่อยากกวน” เขาว่านัยน์ตาเยิ้ม สื่อความนัยที่เขาและเมลานีเท่านั้นถึง
ซ่อน 2“งั้นมีรางวัลให้ผัวที่น่ารักคนนี้ไหมล่ะคะ” เสียงห้าวแหบพร่าแต่แววตาของเขากลับเปิดเปลือยความต้องการอันร้อนแรงขึ้นมาทันที ฝ่ามือร้อนผ่าวอีกข้างถลกกระโปรงทรงเอสั้นแค่เข่าของหญิงสาวขึ้นมาแล้วประกบมือลงไปบนเนินเนื้อสามเหลี่ยมอวบอิ่ม บีบเคล้นเบา ๆ แบบจาบจ้วงแต่ก็เร้าใจ“พี่กริช เดี๋ยว” เมลานีเสียงสั่นเมื่อเขาบีบเคล้นที่ความเป็นหญิงของเธออย่างเอาแต่ใจ แต่แล้วก็ต้องซบหน้าลงกับอกและใช้มือจิกไหล่กว้างไว้เป็นหลักยึดเมื่อถูกนิ้วเรียวยาวกรีดลงไปในร่องเนื้ออันไวต่อสัมผัส เมื่อพบติ่งเนื้อนิ้วสากระคายก็กดคลึงหมุนวนจนเรียกน้ำชุ่มฉ่ำออกมาได้สำเร็จ“ดื้อกับพี่นัก คนดื้อต้องถูกลงโทษให้หนัก”“อ๊ะ” ความเสียวแปลบเกิดขึ้นทันทีที่ชายหนุ่มสอดนิ้วเข้ามาในช่องทางที่ชุ่มฉ่ำ เขาหงายมือและงอนิ้วขึ้นด้านบน ควงคว้านจนเจอกับจุดที่ทำหญิงสาวครางกระเส่า จากนั้นจึงเพิ่มจำนวนนิ้วสอดเข้าไปเพื่อจัดการกับคนดื้อ ช่องทางของเธอแม้จะชุ่มฉ่ำแต่ก็ยังคับแน่นจนอึดอัด ชวนให้อยากจะเอาตัวตนของเขาสอดใส่เข้าไปแทนที่ในตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอดเมลานีเสียวซ่านไปทั้งสรรพางค์กาย เลื่อนมือข้างหนึ่งมารั้งข้อมือที่รังแกเธอไม่หยุดหย่อนไว้ แต
ซ่อน 1ตั้งแต่ย้ายไปบ้านหลังที่เตรียมไว้ ข้าวของต่าง ๆ ของเมลานีและหนูพายรวมถึงป้าละไมเพิ่งย้ายเสร็จเรียบร้อย ส่วนกริชที่ข้าวของส่วนตัวของเขาน้อยมาก กลายเป็นเมลานีต้องคอยดูคอยซื้อหาเสื้อผ้าใหม่ ๆ ให้กับเขาอยู่เสมอ พอเธอถามเขาก็บอกว่าขี้เกียจเก็บของจากคอนโดเก่า แต่จริง ๆ หญิงสาวเคยแวะไปที่คอนโดของเขาก็ไม่ได้มีเสื้อผ้าเครื่องใช้เหลืออยู่เท่าไรนัก และด้วยความที่มัวแต่วุ่นวายกับการตกแต่งบ้านหลังใหม่ เมลานีจึงเพิ่งมีโอกาสที่จะเข้าไปเก็บของให้หมดเสียที เพราะรู้ว่ากริชเองก็มัวแต่ยุ่งกับการขยายสาขาหญิงสาวหยิบคีย์การ์ดของคอนโดจากลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องแป้งเพื่อเตรียมไปเก็บของให้เขา คอนโดของกริชทำเลดี และราคาแพงลิบลิ่ว เมลานีเคยเสนอให้เขาปล่อยเช่าหากไม่ต้องการอยู่ด้วยตนเอง แต่ชายหนุ่มอ้างว่ากลัวคนเช่าจะทำให้คอนโดของเขาเละเทะ และกริชก็ตั้งใจจะเก็บไว้เป็นสมบัติของลูกเสียมากกว่า“พี่กริชคะเมลกำลังออกไปเก็บของที่เหลือในคอนโดให้นะคะ” หลังจากสตาร์ตรถและขับมาได้ครู่หนึ่งหญิงสาวก็โทรแจ้งเจ้าของสินทรัพย์ให้ทราบ“ฮะ ไม่ เมลไม่ต้องไป” ปลายสายดูร้อนรนขึ้นมาทันทีจนหญิงสาวแปลกใจ“ทำไมคะ ก็ในเมื่อพี่กริชยุ่ง
ผมเปียตั้งแต่ฝึกฝนถักเปียกับสายไฟอยู่พักใหญ่จนมั่นใจว่าถูกต้อง กริชก็เริ่มลองถักผมยาวเหมือนแพรไหมของเมลานี ครั้งแรก ๆ เขาเกร็งมากเพราะกะน้ำหนักมือไม่ถูก กลัวจะทำให้หนังศีรษะของภรรยาหลุดติดมือมาด้วย แต่เมลานีก็คอยสอนคอยบอกจังหวะ ไม่นานเขาก็ถักเปียได้สวยและเป็นระเบียบจนอยากจะลองถักให้ลูกสาวดูบ้างพอได้ทำ ก็กลายเป็นกิจวัตรที่ทุกวันมานี้กริชจะต้องถักผมเปียให้หนูพายทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน เวลาลูกและเมียชมว่าทำได้สวย เขาภูมิใจกับมันมากกว่าการได้รับรางวัลนักบริหารดีเด่นของวงการยานยนต์เสียอีก“สวยสุด ๆ ไปเลยลูกสาวพ่อ”“พ่อกิด ไม่ใช่แบบนี้ โน โน” หนูพายเอียงศีรษะข้างซ้ายที ข้างขวาที แล้วไปเขย่าแขนคนเป็นพ่อให้จัดการแก้ไข“อะไรคะ”“ไม่สวย จะเอาแบบที่คุณแม่ทำให้ค่ะ”“แต่ปกติพ่อก็ถักเปียแบบนี้ให้นี่คะลูก” กริชบอกอย่างเอาใจลูกสาวตัวน้อยในชุดนักเรียน“หนูชอบแบบใหม่มากกว่าค่ะ” หนูพายทำปากยื่น “พ่อกิด ทำใหม่ค่ะ”“ทำ...ทำแบบไหนดี” คนเป็นพ่อเริ่มเลิ่กลั่ก กว่าเขาจะสำเร็จวิชาถักเปียก็เสียสายไฟไปหลายขด หนูพายกลับเบื่อเปียของเขาเสียง่าย ๆ กลัวเหลือเกินว่าไอ้แบบใหม่ที่ลูกสาวว่ามันจะทำให้เขาต้องกุมขมับและซื้อ
บ้านใหม่ 1กลิ่นดอกโมกหอมอ่อน ๆ โชยกรุ่นทำให้อากาศยามเช้ายิ่งสดชื่น สนามหญ้าเขียวสบายตาที่ถูกดูแลอย่างดีมีละอองน้ำจากหยาดฝนที่เพิ่งทิ้งช่วงไปตอนเช้ามืดพร่างพรมไปทั่วครั้งหนึ่งกริชไม่ชอบบ้านเพราะพื้นที่กว้างขวางทำให้คนตัวคนเดียวอย่างเขายิ่งโดดเดี่ยว แต่พอรู้ว่ามีความรักและมีลูกสาว เขาก็ซื้อบ้าน ซื้อไว้รอตั้งแต่เมลานีบอกให้เขาตัดใจใต้ต้นสนริมทะเลเขาซื้อบ้านที่มีสนามหญ้ากว้างไว้ให้ลูกวิ่งเล่น และปลูกต้นโมกที่ลูกสาวเคยมอบให้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันไว้รอบรั้ว ตกแต่งบ้านตามความชอบที่เมลานีเคยเพ้อฝันให้ฟังในสมัยเธอยังเป็นนักศึกษา ถ้าหลังกลับมาจากมาเก๊า เขาทุ่มเททุกอย่างเพื่อสร้างไพน์กรุ๊ป หลังกลับมาจากทะเลอย่างเจ็บปวดแสนสาหัสวันนั้น เขาก็อุทิศความหวังทั้งหมดลงมาที่บ้านหลังนี้ สร้างมันทีละส่วนอย่างตั้งใจ เหมือนกับที่เขารอคอยเมลานีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คล้ายหวังอยู่ลึก ๆ ว่าเขาจะได้มีโอกาสเปลี่ยนบ้านที่เป็นแค่โครงสร้างให้กลายเป็นบ้านที่หมายถึงครอบครัวอย่างแท้จริงและเมื่อวันนั้นมาถึง หญ้าก็เขียวขจี ดอกโมกก็ส่งกลิ่นหอมขจรขจาย…กริชจรดศีรษะลงหอมแก้มนุ่มของลูกสาวตัวน้อยที่ขอแยกห้องนอนไปแล้ว เมื่อ