LOGIN“ยิ้มหน่อยจ้าบัณฑิต” เสียงช่างภาพตะโกนบอกให้ณัชชายิ้มกว้างเมื่อเจ้าตัวไม่ยอมสนใจจุดโฟกัสของเลนส์ แถมยังก้าวตรงไปยังร่างของผู้หญิงที่เธอไม่คาดคิดว่าจะมาร่วมงานรับปริญญาครั้งนี้ ในมือของหญิงสาวมีช่อดอกไม้เล็ก ๆ สีชมพูแซมด้วยสีขาว แต่ที่สะดุดตากว่าช่อดอกไม้คือร่างตุ้ยนุ้ยขาวอมชมพูของเด็กหญิงที่ยิ้มร่าจนเห็นฟันมาแต่ไกล น่ารักน่าเอ็นดูจนใคร ๆ ต่างพากันเหลียวมอง
“มายังไงเนี่ยเมล แล้วนี่พาหนูพายตากแดดมาอีก” ณัชชารับดอกไม้ที่เพื่อนรักนำมามอบให้พร้อมกับก้มลงหอมแก้มซ้ายขวายายหนูตัวอวบอิ่มเต็มปอดจนชื่นใจ
“น้าณัชรับปริญญาทั้งทีเราจะไม่มาได้ยังไง ใช่ไหมลูกหนูพาย” เมลานียิ้มให้เพื่อนด้วยความจริงใจ แม้ในส่วนลึกจะรู้สึกแปลบปลาบไปบ้างที่วันนี้เธอไม่มีโอกาสได้สวมชุดครุยแบบเพื่อนร่วมรุ่นคนอื่น ๆ
“ถ่ายรูปกันนะเมล หนูพายถ่ายรูปกับน้านะลูก ไปไหม”
“ยูบ ยูบ” หนูน้อยตัวอวบอ้วนชูแขนขยับไปมา แล้วส่งภาษาของตนเองที่น่ารักน่าชังจนคนเป็นแม่และน้าสาวต่างพากันหัวเราะ
“หนูต้องพูดว่า ถ่ายรูปค่ะ” เมลานีพูดให้ช้าและชัดขึ้น
“ฉ่ายยูบ”
ณัชชาโอบร่างของเพื่อนสนิทเข้ามาใกล้แล้วส่งยิ้มหวานให้กับกล้อง ก่อนจะจูงสองแม่ลูกไปนั่งพักบริเวณม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้ประจำคณะ
“ณัชไปดูแลญาติ ๆ เถอะ เดี๋ยวค่อยกลับมาคุยกับเรา” เมลานีบอกเพื่อน เพราะเท่าที่เห็นญาติ ๆ ของณัชชาก็มาจากต่างจังหวัดกันหลายคน ทุกคนล้วนอยากจะถ่ายรูปและแสดงความยินดีกับบัณฑิตเกียรตินิยม ณัชชาสามารถฝ่าฟันอุปสรรคเรื่องฐานะจนคว้าปริญญามาได้สำเร็จจากความมุมานะของเธอ ตอนนี้จึงควรเป็นเวลาที่ครอบครัวของณัชชาจะร่วมชื่นชมและเก็บภาพความภูมิใจ
“เมลเอาเหรียญมาไหม” ณัชชาถามขึ้น
“ทำไมเหรอ” เมลานีสงสัยแต่มือก็ล้วงลงไปในกระเป๋าใบเล็กของตนเองจัดการหยิบเหรียญขึ้นมาจำนวนหนึ่ง คิดว่าเพื่อนอาจจะนำไปซื้อของเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะแบงก์ใหญ่อาจจะไม่มีเงินทอน
“เอาเหรียญหย่อนใส่ในครุยเราสิ” ณัชชาพูดเสียงเบา สบตาเพื่อนด้วยความเสียใจจาง ๆ แล้วหันหลังเพื่อให้เมลานีหยิบเหรียญในมือใส่ลงไปในช่องว่างของชุดครุยด้านหลัง เป็นความเชื่อของมหาวิทยาลัยว่าหากอยากเรียนจบที่นี่ให้เอาเหรียญหยอดใส่ชุดครุยของบัณฑิต ณัชชาไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้แต่น่าแปลกที่เธอกลับไม่ยอมให้ใครหยอดเหรียญใส่ชุดครุยของเธอเพราะหวังว่าเพื่อนรักจะมา เธอเก็บความเชื่อไร้แก่นสารและความหวังอันนี้ไว้ให้กับเมลานีเพียงคนเดียว
“ณัชไม่ได้ให้น้องรหัสหยอดใส่หรอกเหรอ”
“เปล่า ณัชไม่สนิทกับน้องรหัสอยู่แล้วเมลก็รู้ น้องรหัสณัชไฮโซจะตาย เขาไม่มาคลุกคลีกับเราหรอก เมลหยอดเลย”
“ให้หนูพายหยอดได้ไหม เมลคงไม่ทันแล้ว” เสียงของเมลานีสั่นเล็กน้อยก่อนจะกลับมาสดใสอีกครั้ง “หนูพายหยอดเหรียญใส่ครุยน้าณัชนะคะ ต่อไปจะได้เรียนเก่ง ๆ เป็นบัณฑิตเกียรตินิยมเหมือนน้าณัชนะลูก เอ้า หยอดเลยค่ะลูก”
“หยอดเหยียน หยอด ว้าว” เมลานีอุ้มเจ้าตัวน้อยให้สูงขึ้นในระดับไหล่และจับข้อมือป้อมยื่นไปที่ชุดของณัชชา
“เรียนเก่ง ๆ นะลูก อย่าเหมือนแม่” เสียงของเมลานีเศร้าสร้อยจนเจ้าของชุดครุยที่หันหลังอยู่แอบน้ำตารื้น
“เก่งงงงง แมะแมะ เก่ง” เจ้าตัวกลมขาวอวบปล่อยเหรียญลงไป แล้วหันมายิ้มหวานให้ โผเข้ามากอดคอ ซุกกับอกเหมือนรับรู้ความเสียใจของคนเป็นแม่ได้อย่างไรอย่างนั้น
“โถ ตัวแค่นี้รู้จักปลอบแม่แล้ว” ณัชชาหันมามองสองแม่ลูก อย่างน้อยในความโชคร้ายหลาย ๆ อย่าง เด็กน้อยคือแสงสว่างแห่งความหวังของหญิงสาว
หลังจากถูกปล่อยตัวจากโรงพักในคดีพกพาอาวุธปืน ราวเดือนถัดมาเมลานีก็ตรวจพบว่าตนเองตั้งครรภ์ ตอนแรกหญิงสาวตกใจจนแทบสติแตก เพราะเธอเองก็เหลือเงินเก็บเพียงเล็กน้อยรวมถึงไม่รู้จะทำอย่างไรเมื่อท้องโตขึ้นมา การตั้งท้องในช่วงที่ไม่มีเงินและไม่มีพ่อของลูกดูเป็นเรื่องสาหัสสากรรจ์สำหรับเด็กสาวคนหนึ่ง แต่เมื่อมองกลับไปเมลานีก็รู้สึกดีใจที่ตนเองเลือกจะหยุดเรียน และเก็บเงินก้อนสุดท้ายไว้เพื่อคลอดลูกสาวคนนี้
ชีวิตที่เคยโดดเดี่ยวและไร้เป้าหมายเหมือนว่าวที่สายป่านขาด หลุดลอยเริ่มกลับมามีความหวังและกำลังใจอีกครั้ง เธอไม่ได้สู้หรืออยู่ลำพังในโลกใบนี้ หนูพายคือแรงบันดาลใจที่แรงกล้าที่สุด ทำให้เธอกล้าที่จะเสียสละแม้แต่อนาคตของตนเองเพื่อให้ลูกน้อยมีชีวิต และเธอจะดูแลลูกสาวให้ดีที่สุด
“อย่ามายืนทำตาแดงหน้าเศร้าแบบนี้สิ วันแห่งความภาคภูมิใจของบัณฑิตเกียรตินิยมอย่างคุณณัชชานะคะ ใช่ไหมคะหนูพาย” เมลานีเย้าเพื่อนที่ยืนนิ่งมองอยู่อย่างนั้นไม่ยอมขยับตัวไปไหนเสียที แล้วก็หันมาเรียกลูกสาวตัวขาวอวบหยุ่น ๆ ที่เอียงคอไปมามองคนแปลกหน้าเดินสวนกันขวักไขว่ หนูน้อยคงแปลกใจเพราะปกติอยู่บ้านที่สงบเงียบกว่านี้เป็นไหน ๆ
“หนูพายมาให้น้าณัชหอมที เดี๋ยวน้าต้องไปถ่ายรูปอีกแป๊บนึง”
เด็กน้อยเอียงแก้มยื่นหน้ามาใกล้แบบเต็มอกเต็มใจให้ณัชชาหอมแถมยังหัวเราะคิกคัก ยามที่บัณฑิตสาวหอมฟอดแล้วฟอดเล่าเพราะตัวของณัชชาเองก็มาเยี่ยมเมลานีกับหนูพายแทบทุกสัปดาห์ จึงกลายเป็นอีกหนึ่งชีวิตที่หนูน้อยสนิทสนมราวกับเป็นคนในครอบครัว
“ไปเถอะ เดี๋ยวที่บ้านจะคอย เรารออยู่ตรงนี้แหละ เสร็จแล้วค่อยกลับมาหาเรากับหนูพาย”
“ได้ ๆ รอเรานะ เราหางานให้เมลได้แล้ว เดี๋ยวจะมาคุยรายละเอียดด้วย”
“ขอบคุณมากนะณัช”
เมลานีจับข้อมืออ้วนป้อมของลูกสาวให้โบกมือหย็อย ๆ กับณัชชา พอเห็นเพื่อนวิ่งกลับไปยังจุดที่ครอบครัวยืนอยู่ หญิงสาวก็อุ้มเจ้าตัวกลมเข้าไปนั่งบริเวณม้าหินอ่อนที่ว่าง โดยมีใครบางคนที่จับจ้องมองตามด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก
Special Talk : พี่กริชถ้าช่วงชีวิตของคนเราจะมีเพลงประจำของมันอยู่ ชีวิตผมก็คงเริ่มด้วยเพลงบลูส์อันแสนเศร้าสร้อย...ผมจึงใช้มันเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดในใจ และทุกครั้งที่ผมขึ้นไปร้องเพลงบนเวที ผมจะเห็นเด็กสาวแสนสวยคนหนึ่งที่นั่งมองผมอยู่เงียบ ๆ ท่ามกลางผู้คนที่แต่งตัวมาประชันกันในบาร์ราคาแพงสายตาของผมกลับกวาดไปตกลงที่เธอเท่านั้นผมจำเธอได้ดี แม้วันนี้เธอจะไม่ใช่เด็กน้อยผมเปียแต่เติบโตเป็นหญิงสาวสวยสะพรั่ง ผมรอให้เธอเข้ามาหาเพื่อขอโทษกับสิ่งที่ทำร้ายผมในอดีต แต่เธอก็ไม่ได้ทำแบบนั้น นานวันเข้าจากที่เคยชินก็กลายเป็นผมที่เฝ้ารอให้เธอมานั่งฟังเพลงที่นี่ทุกคืน...และผมก็เลือกที่จะลงมือจัดการเธอผมเริ่มเกมด้วยความแค้นในจุดเริ่มต้น และเข้าสู่เส้นชัยด้วยความว่างเปล่าสามปีในมาเก๊า ผมอยู่กับความถวิลหาที่ไม่อาจเติมเต็ม แล้วกลับเมืองไทยอย่างคนไร้ชีวิตจิตใจ อุทิศพลังทั้งหมดเพื่อทำงาน ซมซานกลับไปโดดเดี่ยวในคอนโดหรูที่แสนเวิ้งว้างจนกระทั่งวันที่ผมได้ยินเสียงรับโทรศัพท์ของโอเปอเรเตอร์คนใหม่ ผมจึงเข้าใจว่าทำไมผมถึงเฝ้ามองหาเงาใครบางคนท่ามกลางฝูงชนอยู่ตลอดเวลาผมหันหลังไปยืมกีตาร์จากนักดนตรีในงานไมเนอร์
โซ่รักตอนพิเศษ โซ่รักวันเกิดของกริชเวียนกลับมาครบรอบอีกครั้งหนึ่ง ทุกคนต่างโหวตเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากไปทะเลอีกครั้งเพราะติดใจวิลลาริมทะเลที่เคยไปในอดีต ป้าละไมขออยู่เฝ้าบ้านเพราะกำลังติดซีรีส์อินเดียอย่างหนักหน่วง เจ้าของวันเกิดผู้เป็นทาสเมียและทาสลูกสาวโดยสมบูรณ์จึงไม่อิดออดที่จะเอาใจสองสาวต่างวัย เพียงแต่ระหว่างทางเขาพาทั้งเมลานี และหนูพายแวะที่วัดแห่งหนึ่งก่อน“แวะที่นี่ก่อนนะคะหนูเมล” จังหวัดเดิมที่เคยอาศัยเป็นทางผ่านก่อนไปทะเล และกริชตั้งใจพาลูกสาวกับเมลานีมาที่นี่อยู่แล้ว จึงถือโอกาสพิเศษนี้แวะเสียเลย“ไหว้พระเหรอคะ”“ค่ะ พี่เตรียมสังฆทานใส่รถมาแล้วด้วย ความจริงตั้งใจจะมาที่นี่ในวันเกิดนั่นแหละ อยากมาทำบุญ”“ทำไมไม่บอกล่ะคะ เมลจะได้ช่วยเตรียมของ” เมื่อเปิดท้ายรถก็พบว่าชายหนุ่มเตรียมเครื่องสังฆทานกล่องใหญ่มาแล้ว เขาเลือกของด้วยตัวเองแล้วนำมาใส่กล่องใส ไม่ใช่สังฆทานสำเร็จรูปที่มักจะใส่กระป๋องสีเหลืองตามแบบที่ร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์มักจะทำกัน“ครั้งหน้านะคะ เมื่อคืนวานพี่เห็นเมลเหนื่อย หมดเรี่ยวหมดแรงก็เลยสงสารไม่อยากกวน” เขาว่านัยน์ตาเยิ้ม สื่อความนัยที่เขาและเมลานีเท่านั้นถึง
ซ่อน 2“งั้นมีรางวัลให้ผัวที่น่ารักคนนี้ไหมล่ะคะ” เสียงห้าวแหบพร่าแต่แววตาของเขากลับเปิดเปลือยความต้องการอันร้อนแรงขึ้นมาทันที ฝ่ามือร้อนผ่าวอีกข้างถลกกระโปรงทรงเอสั้นแค่เข่าของหญิงสาวขึ้นมาแล้วประกบมือลงไปบนเนินเนื้อสามเหลี่ยมอวบอิ่ม บีบเคล้นเบา ๆ แบบจาบจ้วงแต่ก็เร้าใจ“พี่กริช เดี๋ยว” เมลานีเสียงสั่นเมื่อเขาบีบเคล้นที่ความเป็นหญิงของเธออย่างเอาแต่ใจ แต่แล้วก็ต้องซบหน้าลงกับอกและใช้มือจิกไหล่กว้างไว้เป็นหลักยึดเมื่อถูกนิ้วเรียวยาวกรีดลงไปในร่องเนื้ออันไวต่อสัมผัส เมื่อพบติ่งเนื้อนิ้วสากระคายก็กดคลึงหมุนวนจนเรียกน้ำชุ่มฉ่ำออกมาได้สำเร็จ“ดื้อกับพี่นัก คนดื้อต้องถูกลงโทษให้หนัก”“อ๊ะ” ความเสียวแปลบเกิดขึ้นทันทีที่ชายหนุ่มสอดนิ้วเข้ามาในช่องทางที่ชุ่มฉ่ำ เขาหงายมือและงอนิ้วขึ้นด้านบน ควงคว้านจนเจอกับจุดที่ทำหญิงสาวครางกระเส่า จากนั้นจึงเพิ่มจำนวนนิ้วสอดเข้าไปเพื่อจัดการกับคนดื้อ ช่องทางของเธอแม้จะชุ่มฉ่ำแต่ก็ยังคับแน่นจนอึดอัด ชวนให้อยากจะเอาตัวตนของเขาสอดใส่เข้าไปแทนที่ในตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอดเมลานีเสียวซ่านไปทั้งสรรพางค์กาย เลื่อนมือข้างหนึ่งมารั้งข้อมือที่รังแกเธอไม่หยุดหย่อนไว้ แต
ซ่อน 1ตั้งแต่ย้ายไปบ้านหลังที่เตรียมไว้ ข้าวของต่าง ๆ ของเมลานีและหนูพายรวมถึงป้าละไมเพิ่งย้ายเสร็จเรียบร้อย ส่วนกริชที่ข้าวของส่วนตัวของเขาน้อยมาก กลายเป็นเมลานีต้องคอยดูคอยซื้อหาเสื้อผ้าใหม่ ๆ ให้กับเขาอยู่เสมอ พอเธอถามเขาก็บอกว่าขี้เกียจเก็บของจากคอนโดเก่า แต่จริง ๆ หญิงสาวเคยแวะไปที่คอนโดของเขาก็ไม่ได้มีเสื้อผ้าเครื่องใช้เหลืออยู่เท่าไรนัก และด้วยความที่มัวแต่วุ่นวายกับการตกแต่งบ้านหลังใหม่ เมลานีจึงเพิ่งมีโอกาสที่จะเข้าไปเก็บของให้หมดเสียที เพราะรู้ว่ากริชเองก็มัวแต่ยุ่งกับการขยายสาขาหญิงสาวหยิบคีย์การ์ดของคอนโดจากลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องแป้งเพื่อเตรียมไปเก็บของให้เขา คอนโดของกริชทำเลดี และราคาแพงลิบลิ่ว เมลานีเคยเสนอให้เขาปล่อยเช่าหากไม่ต้องการอยู่ด้วยตนเอง แต่ชายหนุ่มอ้างว่ากลัวคนเช่าจะทำให้คอนโดของเขาเละเทะ และกริชก็ตั้งใจจะเก็บไว้เป็นสมบัติของลูกเสียมากกว่า“พี่กริชคะเมลกำลังออกไปเก็บของที่เหลือในคอนโดให้นะคะ” หลังจากสตาร์ตรถและขับมาได้ครู่หนึ่งหญิงสาวก็โทรแจ้งเจ้าของสินทรัพย์ให้ทราบ“ฮะ ไม่ เมลไม่ต้องไป” ปลายสายดูร้อนรนขึ้นมาทันทีจนหญิงสาวแปลกใจ“ทำไมคะ ก็ในเมื่อพี่กริชยุ่ง
ผมเปียตั้งแต่ฝึกฝนถักเปียกับสายไฟอยู่พักใหญ่จนมั่นใจว่าถูกต้อง กริชก็เริ่มลองถักผมยาวเหมือนแพรไหมของเมลานี ครั้งแรก ๆ เขาเกร็งมากเพราะกะน้ำหนักมือไม่ถูก กลัวจะทำให้หนังศีรษะของภรรยาหลุดติดมือมาด้วย แต่เมลานีก็คอยสอนคอยบอกจังหวะ ไม่นานเขาก็ถักเปียได้สวยและเป็นระเบียบจนอยากจะลองถักให้ลูกสาวดูบ้างพอได้ทำ ก็กลายเป็นกิจวัตรที่ทุกวันมานี้กริชจะต้องถักผมเปียให้หนูพายทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน เวลาลูกและเมียชมว่าทำได้สวย เขาภูมิใจกับมันมากกว่าการได้รับรางวัลนักบริหารดีเด่นของวงการยานยนต์เสียอีก“สวยสุด ๆ ไปเลยลูกสาวพ่อ”“พ่อกิด ไม่ใช่แบบนี้ โน โน” หนูพายเอียงศีรษะข้างซ้ายที ข้างขวาที แล้วไปเขย่าแขนคนเป็นพ่อให้จัดการแก้ไข“อะไรคะ”“ไม่สวย จะเอาแบบที่คุณแม่ทำให้ค่ะ”“แต่ปกติพ่อก็ถักเปียแบบนี้ให้นี่คะลูก” กริชบอกอย่างเอาใจลูกสาวตัวน้อยในชุดนักเรียน“หนูชอบแบบใหม่มากกว่าค่ะ” หนูพายทำปากยื่น “พ่อกิด ทำใหม่ค่ะ”“ทำ...ทำแบบไหนดี” คนเป็นพ่อเริ่มเลิ่กลั่ก กว่าเขาจะสำเร็จวิชาถักเปียก็เสียสายไฟไปหลายขด หนูพายกลับเบื่อเปียของเขาเสียง่าย ๆ กลัวเหลือเกินว่าไอ้แบบใหม่ที่ลูกสาวว่ามันจะทำให้เขาต้องกุมขมับและซื้อ
บ้านใหม่ 1กลิ่นดอกโมกหอมอ่อน ๆ โชยกรุ่นทำให้อากาศยามเช้ายิ่งสดชื่น สนามหญ้าเขียวสบายตาที่ถูกดูแลอย่างดีมีละอองน้ำจากหยาดฝนที่เพิ่งทิ้งช่วงไปตอนเช้ามืดพร่างพรมไปทั่วครั้งหนึ่งกริชไม่ชอบบ้านเพราะพื้นที่กว้างขวางทำให้คนตัวคนเดียวอย่างเขายิ่งโดดเดี่ยว แต่พอรู้ว่ามีความรักและมีลูกสาว เขาก็ซื้อบ้าน ซื้อไว้รอตั้งแต่เมลานีบอกให้เขาตัดใจใต้ต้นสนริมทะเลเขาซื้อบ้านที่มีสนามหญ้ากว้างไว้ให้ลูกวิ่งเล่น และปลูกต้นโมกที่ลูกสาวเคยมอบให้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันไว้รอบรั้ว ตกแต่งบ้านตามความชอบที่เมลานีเคยเพ้อฝันให้ฟังในสมัยเธอยังเป็นนักศึกษา ถ้าหลังกลับมาจากมาเก๊า เขาทุ่มเททุกอย่างเพื่อสร้างไพน์กรุ๊ป หลังกลับมาจากทะเลอย่างเจ็บปวดแสนสาหัสวันนั้น เขาก็อุทิศความหวังทั้งหมดลงมาที่บ้านหลังนี้ สร้างมันทีละส่วนอย่างตั้งใจ เหมือนกับที่เขารอคอยเมลานีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คล้ายหวังอยู่ลึก ๆ ว่าเขาจะได้มีโอกาสเปลี่ยนบ้านที่เป็นแค่โครงสร้างให้กลายเป็นบ้านที่หมายถึงครอบครัวอย่างแท้จริงและเมื่อวันนั้นมาถึง หญ้าก็เขียวขจี ดอกโมกก็ส่งกลิ่นหอมขจรขจาย…กริชจรดศีรษะลงหอมแก้มนุ่มของลูกสาวตัวน้อยที่ขอแยกห้องนอนไปแล้ว เมื่อ







