LOGINการสัมภาษณ์ของเมลานีผ่านไปอย่างราบรื่น ผู้จัดการฝ่ายบุคคลตกลงใจรับหญิงสาวเข้าทำงานเพราะบุคลิกภาพที่เรียบร้อยและอ่อนโยน หากลูกค้าบุกมาคอมเพลนถึงออฟฟิศของบริษัท เชื่อว่าเมื่อเห็น
รีเซปชันหน้าหวานอย่างหญิงสาวคนนี้ก็คงจะทำให้ใจอ่อนลงได้บ้างที่สำคัญเมลานีมีความรู้ด้านภาษาอังกฤษในระดับที่สื่อสารได้ดี ผู้จัดการฝ่ายบุคคลถึงกับออกปากว่ามีความสามารถเกินวุฒิการศึกษาทั้งยังแนะนำให้หญิงสาวหาโอกาสเรียนต่อเพิ่มเติมเพื่อเป็นประโยชน์แก่ตนเองในวันข้างหน้า อย่างน้อยเพื่อเพิ่มฐานเงินเดือนก็ยังดี เมลานีได้แต่ยิ้มรับคำแนะนำของเขาด้วยความเสียดายอยู่ในใจ ทำไมเธอจะไม่อยากเรียนแต่มีสิ่งอื่นที่สำคัญกว่านั่นคือสุขภาพและอนาคตของลูกสาว
เมลานีตกใจพอสมควรเมื่อเห็นฐานเงินเดือนของเธออยู่ที่หนึ่งหมื่นห้าพันบาท นั่นแสดงว่าที่บริษัทนี้ให้เงินเดือนพนักงานสูงกว่ามาตรฐานแรงงานในตลาด แถมสวัสดิการแนบท้ายไม่ว่าจะเรื่องค่ารักษาพยาบาล กองทุนสะสม สวัสดิการกู้ยืมฉุกเฉิน และทุนการศึกษาต่อต่างประเทศ นี่เองณัชชาถึงบอกอยากทำงานที่นี่ให้ยาวนานที่สุด
“ตกลงมาเริ่มงานได้ในสัปดาห์ถัดไปใช่ไหมครับ” ผู้จัดการฝ่ายบุคคลถามย้ำ เมลานีจึงตอบรับและยืนยันความพร้อมของเธอ
โอกาสแบบนี้ไม่ได้วิ่งเข้ามาได้บ่อย ๆ หากว่าตำแหน่งและฐานเงินเดือนถูกประกาศลงอินเทอร์เน็ตต้องมีคนอื่นที่วุฒิการศึกษาดีกว่ายื่นใบสมัครเสียให้ว่อน โชคดีที่ณัชชามาบอกเธอก่อนดังนั้นแม้จะฟังดูฉุกละหุกเพราะบริษัทต้องการคนประจำการโดยเร็วแต่หญิงสาวพร้อมจัดการตนเองไม่ปล่อยให้เป็นปัญหา
“เมลเริ่มงานได้ค่ะ ขอบคุณสำหรับโอกาสนะคะ เมลจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด”
หลังจากนั้นภารกิจในการโอนขายบ้านเดิมก็ทำอย่างเร่งด่วน ทั้งสามชีวิต ป้าละไม เมลานี และหนูพายต่างหอบหิ้วกันมายังเมืองหลวงโดยมีณัชชาปักหลักรออยู่ที่บ้านเช่าหลังใหม่ ความฝันและความหวังที่เคยหล่นหายไปบ้างระหว่างทางเดินของโชคชะตา เริ่มถูกกอปรรวมขึ้นเป็นรูปร่างความหวังใหม่อีกครั้ง ถึงขนาดแอบวาดฝันว่ามันจะมั่นคงยืนยาวจนพอจะดูแลชีวิตของลูกน้อยให้เติบโตอย่างดี
“ชอบบ้านใหม่ไหมคะหนูพายของแม่” หญิงสาวย่อตัวลงนั่งถามเจ้าก้อนแป้งจูงมือเดินเตาะแตะเข้ามาด้วยกัน เด็กน้อยแสดงความสนอกสนใจด้วยการแกว่งมือโยกไปมา วิ่งวนไปทางนั้นที ทางนี้ที สำรวจจุดต่าง ๆ ทำปากจู๋ ตาโต เมื่อเจอสิ่งแปลกใหม่ บ้านเดิมของเธอนั้นค่อนข้างเก่า บ้านเช่าหลังใหม่แม้จะเป็นเพียงทาวน์เฮาส์ก็ยังดูดีทันสมัยและโปร่งกว่า ไม่แปลกที่หนูพายจะรู้สึกตื่นตาตื่นใจและสดใสขึ้น
“ว้าว ว้าว” หนูน้อยตัวกลมหัวเราะตาหยีบ่งบอกว่าคงชอบบ้านใหม่อยู่ไม่น้อย จึงเดินเตาะแตะและพูดเจื้อยแจ้วไม่หยุดปาก จนป้าละไมต้องเดินตามเข้าไปประกบด้วยความกังวลและห่วงใย
“โอ๊ยเจ้าหมู วิ่งไม่หยุดอย่างนี้เดี๋ยวได้ชนขอบโต๊ะเข้าหรอก อยากรู้อยากเห็นไปหมดได้หัวร้างข้างแตกกันบ้างซักวัน”
“เดี๋ยวณัชกับเมลจะออกไปหาซื้อยางกันกระแทกมาติดไว้ตามมุมโต๊ะมุมเตียงแล้วกันนะคะ” หนูพายคือหัวใจของบ้าน อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับสุขภาพและความปลอดภัยของเด็กน้อย ทุกคนไม่รีรอที่จะดำเนินการให้
“งั้นเราออกไปกันเลยดีไหมณัช เมลว่าจะไปซื้อรองเท้าทำงานอยู่เหมือนกัน”
“สาว ๆ ไปจัดการธุระให้เรียบร้อยเถอะลูก ทางนี้ป้าดูแลเจ้าอ้วนให้เอง ไม่ต้องเป็นห่วง”
“หนูพาย เดี๋ยวน้าณัชกลับมานะคะ จะไปซื้อขนมมาฝากเยอะ ๆ เลย”
“หนม หนม กินหนม” เด็กน้อยสะบัดตัวและกระโดดโลดเต้นจนแก้มเป็นพวงสั่นระริก
“งั้นหนูพายอยู่กับคุณยายไปก่อนนะลูก เดี๋ยวแม่รีบกลับ” เมลานีก้มลงอุ้มบุตรสาวตัวน้อยขึ้นมาฟัดเบา ๆ ที่แก้มยุ้ยด้วยความรักใคร่ หนูน้อยส่ายหน้าไปมาเหมือนแป๊ะยิ้มตาแป๋วแหวว พยายามหนีเหมือนจะแกล้งมารดาของตนเสียอย่างนั้น
“หวงตัวทำไม ไม่ยอมให้แม่หอม”
“แมะ แมะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
เด็กขี้เล่นหัวเราะเอิ๊กอ๊ากเหมือนสาสมใจที่แกล้งมารดาของตนเองได้สำเร็จ ก่อนโบกมือหย็อย ๆ ให้แม่กับน้าสาว แล้วหันกลับไปวิ่งเล่นอย่างสบายอารมณ์ตามเดิม
Special Talk : พี่กริชถ้าช่วงชีวิตของคนเราจะมีเพลงประจำของมันอยู่ ชีวิตผมก็คงเริ่มด้วยเพลงบลูส์อันแสนเศร้าสร้อย...ผมจึงใช้มันเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดในใจ และทุกครั้งที่ผมขึ้นไปร้องเพลงบนเวที ผมจะเห็นเด็กสาวแสนสวยคนหนึ่งที่นั่งมองผมอยู่เงียบ ๆ ท่ามกลางผู้คนที่แต่งตัวมาประชันกันในบาร์ราคาแพงสายตาของผมกลับกวาดไปตกลงที่เธอเท่านั้นผมจำเธอได้ดี แม้วันนี้เธอจะไม่ใช่เด็กน้อยผมเปียแต่เติบโตเป็นหญิงสาวสวยสะพรั่ง ผมรอให้เธอเข้ามาหาเพื่อขอโทษกับสิ่งที่ทำร้ายผมในอดีต แต่เธอก็ไม่ได้ทำแบบนั้น นานวันเข้าจากที่เคยชินก็กลายเป็นผมที่เฝ้ารอให้เธอมานั่งฟังเพลงที่นี่ทุกคืน...และผมก็เลือกที่จะลงมือจัดการเธอผมเริ่มเกมด้วยความแค้นในจุดเริ่มต้น และเข้าสู่เส้นชัยด้วยความว่างเปล่าสามปีในมาเก๊า ผมอยู่กับความถวิลหาที่ไม่อาจเติมเต็ม แล้วกลับเมืองไทยอย่างคนไร้ชีวิตจิตใจ อุทิศพลังทั้งหมดเพื่อทำงาน ซมซานกลับไปโดดเดี่ยวในคอนโดหรูที่แสนเวิ้งว้างจนกระทั่งวันที่ผมได้ยินเสียงรับโทรศัพท์ของโอเปอเรเตอร์คนใหม่ ผมจึงเข้าใจว่าทำไมผมถึงเฝ้ามองหาเงาใครบางคนท่ามกลางฝูงชนอยู่ตลอดเวลาผมหันหลังไปยืมกีตาร์จากนักดนตรีในงานไมเนอร์
โซ่รักตอนพิเศษ โซ่รักวันเกิดของกริชเวียนกลับมาครบรอบอีกครั้งหนึ่ง ทุกคนต่างโหวตเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากไปทะเลอีกครั้งเพราะติดใจวิลลาริมทะเลที่เคยไปในอดีต ป้าละไมขออยู่เฝ้าบ้านเพราะกำลังติดซีรีส์อินเดียอย่างหนักหน่วง เจ้าของวันเกิดผู้เป็นทาสเมียและทาสลูกสาวโดยสมบูรณ์จึงไม่อิดออดที่จะเอาใจสองสาวต่างวัย เพียงแต่ระหว่างทางเขาพาทั้งเมลานี และหนูพายแวะที่วัดแห่งหนึ่งก่อน“แวะที่นี่ก่อนนะคะหนูเมล” จังหวัดเดิมที่เคยอาศัยเป็นทางผ่านก่อนไปทะเล และกริชตั้งใจพาลูกสาวกับเมลานีมาที่นี่อยู่แล้ว จึงถือโอกาสพิเศษนี้แวะเสียเลย“ไหว้พระเหรอคะ”“ค่ะ พี่เตรียมสังฆทานใส่รถมาแล้วด้วย ความจริงตั้งใจจะมาที่นี่ในวันเกิดนั่นแหละ อยากมาทำบุญ”“ทำไมไม่บอกล่ะคะ เมลจะได้ช่วยเตรียมของ” เมื่อเปิดท้ายรถก็พบว่าชายหนุ่มเตรียมเครื่องสังฆทานกล่องใหญ่มาแล้ว เขาเลือกของด้วยตัวเองแล้วนำมาใส่กล่องใส ไม่ใช่สังฆทานสำเร็จรูปที่มักจะใส่กระป๋องสีเหลืองตามแบบที่ร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์มักจะทำกัน“ครั้งหน้านะคะ เมื่อคืนวานพี่เห็นเมลเหนื่อย หมดเรี่ยวหมดแรงก็เลยสงสารไม่อยากกวน” เขาว่านัยน์ตาเยิ้ม สื่อความนัยที่เขาและเมลานีเท่านั้นถึง
ซ่อน 2“งั้นมีรางวัลให้ผัวที่น่ารักคนนี้ไหมล่ะคะ” เสียงห้าวแหบพร่าแต่แววตาของเขากลับเปิดเปลือยความต้องการอันร้อนแรงขึ้นมาทันที ฝ่ามือร้อนผ่าวอีกข้างถลกกระโปรงทรงเอสั้นแค่เข่าของหญิงสาวขึ้นมาแล้วประกบมือลงไปบนเนินเนื้อสามเหลี่ยมอวบอิ่ม บีบเคล้นเบา ๆ แบบจาบจ้วงแต่ก็เร้าใจ“พี่กริช เดี๋ยว” เมลานีเสียงสั่นเมื่อเขาบีบเคล้นที่ความเป็นหญิงของเธออย่างเอาแต่ใจ แต่แล้วก็ต้องซบหน้าลงกับอกและใช้มือจิกไหล่กว้างไว้เป็นหลักยึดเมื่อถูกนิ้วเรียวยาวกรีดลงไปในร่องเนื้ออันไวต่อสัมผัส เมื่อพบติ่งเนื้อนิ้วสากระคายก็กดคลึงหมุนวนจนเรียกน้ำชุ่มฉ่ำออกมาได้สำเร็จ“ดื้อกับพี่นัก คนดื้อต้องถูกลงโทษให้หนัก”“อ๊ะ” ความเสียวแปลบเกิดขึ้นทันทีที่ชายหนุ่มสอดนิ้วเข้ามาในช่องทางที่ชุ่มฉ่ำ เขาหงายมือและงอนิ้วขึ้นด้านบน ควงคว้านจนเจอกับจุดที่ทำหญิงสาวครางกระเส่า จากนั้นจึงเพิ่มจำนวนนิ้วสอดเข้าไปเพื่อจัดการกับคนดื้อ ช่องทางของเธอแม้จะชุ่มฉ่ำแต่ก็ยังคับแน่นจนอึดอัด ชวนให้อยากจะเอาตัวตนของเขาสอดใส่เข้าไปแทนที่ในตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอดเมลานีเสียวซ่านไปทั้งสรรพางค์กาย เลื่อนมือข้างหนึ่งมารั้งข้อมือที่รังแกเธอไม่หยุดหย่อนไว้ แต
ซ่อน 1ตั้งแต่ย้ายไปบ้านหลังที่เตรียมไว้ ข้าวของต่าง ๆ ของเมลานีและหนูพายรวมถึงป้าละไมเพิ่งย้ายเสร็จเรียบร้อย ส่วนกริชที่ข้าวของส่วนตัวของเขาน้อยมาก กลายเป็นเมลานีต้องคอยดูคอยซื้อหาเสื้อผ้าใหม่ ๆ ให้กับเขาอยู่เสมอ พอเธอถามเขาก็บอกว่าขี้เกียจเก็บของจากคอนโดเก่า แต่จริง ๆ หญิงสาวเคยแวะไปที่คอนโดของเขาก็ไม่ได้มีเสื้อผ้าเครื่องใช้เหลืออยู่เท่าไรนัก และด้วยความที่มัวแต่วุ่นวายกับการตกแต่งบ้านหลังใหม่ เมลานีจึงเพิ่งมีโอกาสที่จะเข้าไปเก็บของให้หมดเสียที เพราะรู้ว่ากริชเองก็มัวแต่ยุ่งกับการขยายสาขาหญิงสาวหยิบคีย์การ์ดของคอนโดจากลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องแป้งเพื่อเตรียมไปเก็บของให้เขา คอนโดของกริชทำเลดี และราคาแพงลิบลิ่ว เมลานีเคยเสนอให้เขาปล่อยเช่าหากไม่ต้องการอยู่ด้วยตนเอง แต่ชายหนุ่มอ้างว่ากลัวคนเช่าจะทำให้คอนโดของเขาเละเทะ และกริชก็ตั้งใจจะเก็บไว้เป็นสมบัติของลูกเสียมากกว่า“พี่กริชคะเมลกำลังออกไปเก็บของที่เหลือในคอนโดให้นะคะ” หลังจากสตาร์ตรถและขับมาได้ครู่หนึ่งหญิงสาวก็โทรแจ้งเจ้าของสินทรัพย์ให้ทราบ“ฮะ ไม่ เมลไม่ต้องไป” ปลายสายดูร้อนรนขึ้นมาทันทีจนหญิงสาวแปลกใจ“ทำไมคะ ก็ในเมื่อพี่กริชยุ่ง
ผมเปียตั้งแต่ฝึกฝนถักเปียกับสายไฟอยู่พักใหญ่จนมั่นใจว่าถูกต้อง กริชก็เริ่มลองถักผมยาวเหมือนแพรไหมของเมลานี ครั้งแรก ๆ เขาเกร็งมากเพราะกะน้ำหนักมือไม่ถูก กลัวจะทำให้หนังศีรษะของภรรยาหลุดติดมือมาด้วย แต่เมลานีก็คอยสอนคอยบอกจังหวะ ไม่นานเขาก็ถักเปียได้สวยและเป็นระเบียบจนอยากจะลองถักให้ลูกสาวดูบ้างพอได้ทำ ก็กลายเป็นกิจวัตรที่ทุกวันมานี้กริชจะต้องถักผมเปียให้หนูพายทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน เวลาลูกและเมียชมว่าทำได้สวย เขาภูมิใจกับมันมากกว่าการได้รับรางวัลนักบริหารดีเด่นของวงการยานยนต์เสียอีก“สวยสุด ๆ ไปเลยลูกสาวพ่อ”“พ่อกิด ไม่ใช่แบบนี้ โน โน” หนูพายเอียงศีรษะข้างซ้ายที ข้างขวาที แล้วไปเขย่าแขนคนเป็นพ่อให้จัดการแก้ไข“อะไรคะ”“ไม่สวย จะเอาแบบที่คุณแม่ทำให้ค่ะ”“แต่ปกติพ่อก็ถักเปียแบบนี้ให้นี่คะลูก” กริชบอกอย่างเอาใจลูกสาวตัวน้อยในชุดนักเรียน“หนูชอบแบบใหม่มากกว่าค่ะ” หนูพายทำปากยื่น “พ่อกิด ทำใหม่ค่ะ”“ทำ...ทำแบบไหนดี” คนเป็นพ่อเริ่มเลิ่กลั่ก กว่าเขาจะสำเร็จวิชาถักเปียก็เสียสายไฟไปหลายขด หนูพายกลับเบื่อเปียของเขาเสียง่าย ๆ กลัวเหลือเกินว่าไอ้แบบใหม่ที่ลูกสาวว่ามันจะทำให้เขาต้องกุมขมับและซื้อ
บ้านใหม่ 1กลิ่นดอกโมกหอมอ่อน ๆ โชยกรุ่นทำให้อากาศยามเช้ายิ่งสดชื่น สนามหญ้าเขียวสบายตาที่ถูกดูแลอย่างดีมีละอองน้ำจากหยาดฝนที่เพิ่งทิ้งช่วงไปตอนเช้ามืดพร่างพรมไปทั่วครั้งหนึ่งกริชไม่ชอบบ้านเพราะพื้นที่กว้างขวางทำให้คนตัวคนเดียวอย่างเขายิ่งโดดเดี่ยว แต่พอรู้ว่ามีความรักและมีลูกสาว เขาก็ซื้อบ้าน ซื้อไว้รอตั้งแต่เมลานีบอกให้เขาตัดใจใต้ต้นสนริมทะเลเขาซื้อบ้านที่มีสนามหญ้ากว้างไว้ให้ลูกวิ่งเล่น และปลูกต้นโมกที่ลูกสาวเคยมอบให้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันไว้รอบรั้ว ตกแต่งบ้านตามความชอบที่เมลานีเคยเพ้อฝันให้ฟังในสมัยเธอยังเป็นนักศึกษา ถ้าหลังกลับมาจากมาเก๊า เขาทุ่มเททุกอย่างเพื่อสร้างไพน์กรุ๊ป หลังกลับมาจากทะเลอย่างเจ็บปวดแสนสาหัสวันนั้น เขาก็อุทิศความหวังทั้งหมดลงมาที่บ้านหลังนี้ สร้างมันทีละส่วนอย่างตั้งใจ เหมือนกับที่เขารอคอยเมลานีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คล้ายหวังอยู่ลึก ๆ ว่าเขาจะได้มีโอกาสเปลี่ยนบ้านที่เป็นแค่โครงสร้างให้กลายเป็นบ้านที่หมายถึงครอบครัวอย่างแท้จริงและเมื่อวันนั้นมาถึง หญ้าก็เขียวขจี ดอกโมกก็ส่งกลิ่นหอมขจรขจาย…กริชจรดศีรษะลงหอมแก้มนุ่มของลูกสาวตัวน้อยที่ขอแยกห้องนอนไปแล้ว เมื่อ







