LOGIN“งอแงอะไรนักล่ะลูก” คล้อยหลังจากที่เมลานีกับณัชชาออกไปซื้อของได้ไม่นาน เจ้าหมูพายก็เริ่มส่งเสียงร้องไห้งอแงขึ้นมาเสียอย่างนั้น แม้ป้าละไมจะพยายามสรรหาขนมหรือของเล่นมาหลอกล่อก็ไม่ได้ทำให้เด็กน้อยเงียบเสียงลง ปกติเจ้าเด็กน้อยแทบไม่เคยโยเย อาจเป็นเพราะความแปลกที่แปลกทางและมารดาก็ไม่อยู่ หนูน้อยจึงอารมณ์ขึ้นลงแปลกกว่าทุกวัน
หญิงชราเห็นหนูน้อยที่หวีดร้องจนหน้าแดงก่ำ น้ำหูน้ำตาไหลไม่หยุด หัวใจคนแก่ที่เลี้ยงกันมาแต่อ้อนแต่ออกก็อ่อนยวบคิดหาหนทางที่จะทำให้หนูน้อยกลับมาหัวเราะร่า เมื่อก่อนตอนอยู่บ้านเก่าหากหลานร้องไห้กระจองอแงมากจนใคร ๆ ก็เอาไม่อยู่ คนเป็นยายจะใช้วิธีแบกเด็กน้อยเดินเที่ยวตั้งแต่ท้ายซอยยันต้นซอย แค่นี้เจ้าเด็กชอบเที่ยวก็จะกลับมาหัวเราะจนเห็นเหงือกบานสีชมพูอีกครั้ง
“ไม่ร้องแล้วนะ ไม่ร้อง ยายจะพาออกไปเที่ยวแล้วไง” ป้าละไมจัดการหยิบหมวกใบเล็กมาสวมให้ หนูน้อยเริ่มหยุดดิ้นและสงบลงเมื่อได้ยินคำว่า ‘เที่ยว’ เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิดเลย เจ้าหนูพายถ้าไม่หิว ไม่ง่วง ก็อยากเที่ยวถึงได้งอแงขึ้นมาแบบนี้
“ยาย ยาย เที่ยว” เจ้าลูกหมูตัวน้อยใช้แขนสั้นป้อมโอบคอของคุณยายไว้แน่น แถมขย่มตัวเล็ก ๆ เพื่อให้รู้ว่าถูกอกถูกใจจนยอมหยุดผลิตน้ำตาเสียดื้อ ๆ
ป้าละไมจัดการปิดบ้านแล้วพาหนูน้อยอุ้มบ้าง เดินบ้าง เตาะแตะไปจนถึงสวนสาธารณะเล็ก ๆ ซึ่งอยู่กลางซอย มีเครื่องเล่นเด็กและเครื่องออกกำลังกายกลางเก่ากลางใหม่ที่รัฐนำมาวางไว้ให้ใช้บริการ แต่ชีวิตของคนในชุมชนต่างต้องออกไปทำมาหากินตั้งแต่เช้า กว่าจะกลับถึงบ้านก็เป็นเวลาค่ำมืด วัยทำงานของคนกรุงเทพฯ แทบไม่มีเวลาได้มองฟ้ามองดินหากอยู่ในฐานะของคนรากหญ้าที่ต้องดิ้นรน
สุดสายตาบริเวณปากซอยบนถนนหลักจะมีคอนโดสูงเสียดฟ้าที่ป้าละไมก็เพิ่งเคยเห็น ณัชชาบอกว่าคอนโดแห่งนั้นราคาแพงลิ่ว มีแต่เศรษฐีหรือต่างชาติอาศัยอยู่เพราะสะดวกในแง่ของการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าที่มีทางเชื่อมเข้าถึงประตูคอนโด หรือหากใช้รถก็มีที่จอดแบบอัตโนมัติให้ ดังนั้นผู้คนบนตึกสูงแห่งนั้นก็ย่อมไม่มาใช้พื้นที่สาธารณะเก่า ๆ ที่มีเครื่องออกกำลังกายทำด้วยเหล็กพ่นสีหยาบ ๆ พวกเขาเลือกใช้บริการจากฟิตเนสชั้นดีบนตัวคอนโดเองหรืออาจจะใช้บริการฟิตเนสครบวงจรที่มีชื่อเสียงแห่งอื่น ๆ กลายเป็นว่าสวนสาธารณะกลางซอยจึงเป็นพื้นที่ถูกลืมเลือนทั้งจากคนร่ำรวยและคนรากหญ้า สวนแห่งนี้จึงยังเงียบสงบขัดกับความวุ่นวายอื่น ๆ ของเมืองหลวง
“หมูพายมีที่เที่ยวใหม่แล้ว ต่อไปยายพามาเล่นที่นี่ทุกวันเลยดีไหมลูก”
เด็กน้อยหัวเราะเสียงใส แล้ววิ่งรี่ไปที่ม้านั่งตัวยาวสีแดงเลือดนก ซึ่งทำไว้สำหรับให้คนได้นั่งพักขา ด้านข้างมีดอกโมกปลูกประดับไว้เพื่อความสวยและส่งกลิ่นหอมจรุงใจ ขาสั้นป้อมของเด็กร่างจ้ำม่ำวิ่งไปหวังจะเด็ดดอกไม้ที่ห้อยต่ำลงเล่น เพราะคล้ายกับดอกโมกที่บ้านเก่า ซึ่งหนูพายชอบแอบดมความหอมสดชื่นอยู่เป็นประจำ
เกือบจะถึงเป้าหมายแล้ว แต่ขาอ้วนป้อมของเด็กที่เพิ่งเดินแข็งกลับสะดุดต้นหญ้าจนเสียหลักล้มกลิ้งลงไปเหมือนลูกขนุน ป้าละไมรีบวิ่งตามอย่างตื่นตระหนกแต่ก็ยังช้าไปกว่าชายหนุ่มร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาว พับแขนถึงข้อศอก รับกันดีกับกางเกงสแล็กขายาวสีกรมท่าที่ส่งให้บุคลิกเขาดูแพงระยับขัดกับสวนสาธารณะทรุดโทรมแห่งนี้
หนูพายที่เตรียมหวีดร้องออกมาด้วยความเจ็บและตกใจกลับชะงักงัน เพราะชายหนุ่มสูงใหญ่ย่อตัวลงและยื่นดอกโมกสีขาวสะอาดหอมกรุ่นให้ตรงหน้า เด็กขี้แยตะลึงจนลืมเจ็บ ส่งมือเล็ก ๆ ออกไปรับดอกไม้จากชายแปลกหน้าขึ้นมาเขย่าเล่น เสียงหวีดตั้งท่าจะร้องจ้ากลายเป็นเสียงหัวเราะร่าจนเหงือกบานทำเอาหัวใจคนมองพองโตและเอ็นดูไปพร้อมกัน
“ชอบดอกไม้เหรอคะคนสวย” ชายหนุ่มถามหนูน้อยที่นั่งแปะอยู่กับพื้นและขยำดอกโมกจนเริ่มเละเพราะความมือหนักแต่ก็ยังหัวเราะไม่หยุดหย่อน แก้มยุ้ยของเด็กหญิงเป็นก้อนกลมเหมือนซาลาเปา แตกต่างตรงที่มีสีชมพูแซมอยู่สองข้างพวงแก้ม มอง ๆ แล้วดูคล้ายกับลูกพีชเสียมากกว่า เนื้อตัวจ้ำม่ำไปหมด แต่สะดุดตาที่สุดคงเป็นดวงตาสีดำสนิทกลมโตเหมือนเม็ดลำไย ช่วยขับให้หนูน้อยยิ่งดูสดใสและหวานฉ่ำ
ชายหนุ่มมองตามรอยยิ้มและดวงตาของเด็กน้อยอย่างเผลอไผล จนกระทั่งเจ้าหนูตัวกลมเป็นฝ่ายยื่นมือเล็กกระจิริดกระจ้อยร่อยออกมาตรงหน้าเขา
“ห้าย” เด็กน้อยเปล่งเสียงอ่อนหวานแม้ยังฟังดูไม่ชัดถ้อยชัดคำเท่าไรนัก แต่ชายหนุ่มก็ยื่นมือออกไปรับดอกไม้กลีบช้ำจากการเล่นของหนูน้อยด้วยความเต็มใจ
นี่เป็นดอกไม้ดอกแรกที่เขาได้จากสาวน้อย แถมเป็นสาวน้อยตัวจิ๋วมาก ๆ เสียด้วย แต่ดูท่าแล้วโตขึ้นคงหน้าตาสะสวยเชียวแหละ ขนาดตัวตุ้ยนุ้ยแบบนี้ยังเห็นถึงความจิ้มลิ้มน่าเอ็นดู ผิวพรรณขาวละเอียดเหมือนน้ำนม พ่อแม่คงหน้าตาดีไม่น้อยถึงได้ปั้นลูกสาวออกมาน่ารักน่าชังเหมือนตุ๊กตา
“หนูให้ลุงเหรอคะคนสวย”
“ห้าย” เด็กน้อยยิ้มละไมพร้อมเอียงคอมองด้วยดวงตาใสแจ๋ว จนชายหนุ่มอดใจไม่ไหวคว้าเจ้าตัวกระปุ๊กลุกขึ้นมาอุ้มแล้วยืนขึ้นด้วยกัน พร้อมกันกับหญิงชราที่ครั้งแรกอาจจะดูเลือนรางแต่แล้วก็กลับมาชัดเจนขึ้นอีกครั้งในความทรงจำของชายหนุ่มที่เดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้า
“เจ้ากริชใช่ไหม”
Special Talk : พี่กริชถ้าช่วงชีวิตของคนเราจะมีเพลงประจำของมันอยู่ ชีวิตผมก็คงเริ่มด้วยเพลงบลูส์อันแสนเศร้าสร้อย...ผมจึงใช้มันเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดในใจ และทุกครั้งที่ผมขึ้นไปร้องเพลงบนเวที ผมจะเห็นเด็กสาวแสนสวยคนหนึ่งที่นั่งมองผมอยู่เงียบ ๆ ท่ามกลางผู้คนที่แต่งตัวมาประชันกันในบาร์ราคาแพงสายตาของผมกลับกวาดไปตกลงที่เธอเท่านั้นผมจำเธอได้ดี แม้วันนี้เธอจะไม่ใช่เด็กน้อยผมเปียแต่เติบโตเป็นหญิงสาวสวยสะพรั่ง ผมรอให้เธอเข้ามาหาเพื่อขอโทษกับสิ่งที่ทำร้ายผมในอดีต แต่เธอก็ไม่ได้ทำแบบนั้น นานวันเข้าจากที่เคยชินก็กลายเป็นผมที่เฝ้ารอให้เธอมานั่งฟังเพลงที่นี่ทุกคืน...และผมก็เลือกที่จะลงมือจัดการเธอผมเริ่มเกมด้วยความแค้นในจุดเริ่มต้น และเข้าสู่เส้นชัยด้วยความว่างเปล่าสามปีในมาเก๊า ผมอยู่กับความถวิลหาที่ไม่อาจเติมเต็ม แล้วกลับเมืองไทยอย่างคนไร้ชีวิตจิตใจ อุทิศพลังทั้งหมดเพื่อทำงาน ซมซานกลับไปโดดเดี่ยวในคอนโดหรูที่แสนเวิ้งว้างจนกระทั่งวันที่ผมได้ยินเสียงรับโทรศัพท์ของโอเปอเรเตอร์คนใหม่ ผมจึงเข้าใจว่าทำไมผมถึงเฝ้ามองหาเงาใครบางคนท่ามกลางฝูงชนอยู่ตลอดเวลาผมหันหลังไปยืมกีตาร์จากนักดนตรีในงานไมเนอร์
โซ่รักตอนพิเศษ โซ่รักวันเกิดของกริชเวียนกลับมาครบรอบอีกครั้งหนึ่ง ทุกคนต่างโหวตเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากไปทะเลอีกครั้งเพราะติดใจวิลลาริมทะเลที่เคยไปในอดีต ป้าละไมขออยู่เฝ้าบ้านเพราะกำลังติดซีรีส์อินเดียอย่างหนักหน่วง เจ้าของวันเกิดผู้เป็นทาสเมียและทาสลูกสาวโดยสมบูรณ์จึงไม่อิดออดที่จะเอาใจสองสาวต่างวัย เพียงแต่ระหว่างทางเขาพาทั้งเมลานี และหนูพายแวะที่วัดแห่งหนึ่งก่อน“แวะที่นี่ก่อนนะคะหนูเมล” จังหวัดเดิมที่เคยอาศัยเป็นทางผ่านก่อนไปทะเล และกริชตั้งใจพาลูกสาวกับเมลานีมาที่นี่อยู่แล้ว จึงถือโอกาสพิเศษนี้แวะเสียเลย“ไหว้พระเหรอคะ”“ค่ะ พี่เตรียมสังฆทานใส่รถมาแล้วด้วย ความจริงตั้งใจจะมาที่นี่ในวันเกิดนั่นแหละ อยากมาทำบุญ”“ทำไมไม่บอกล่ะคะ เมลจะได้ช่วยเตรียมของ” เมื่อเปิดท้ายรถก็พบว่าชายหนุ่มเตรียมเครื่องสังฆทานกล่องใหญ่มาแล้ว เขาเลือกของด้วยตัวเองแล้วนำมาใส่กล่องใส ไม่ใช่สังฆทานสำเร็จรูปที่มักจะใส่กระป๋องสีเหลืองตามแบบที่ร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์มักจะทำกัน“ครั้งหน้านะคะ เมื่อคืนวานพี่เห็นเมลเหนื่อย หมดเรี่ยวหมดแรงก็เลยสงสารไม่อยากกวน” เขาว่านัยน์ตาเยิ้ม สื่อความนัยที่เขาและเมลานีเท่านั้นถึง
ซ่อน 2“งั้นมีรางวัลให้ผัวที่น่ารักคนนี้ไหมล่ะคะ” เสียงห้าวแหบพร่าแต่แววตาของเขากลับเปิดเปลือยความต้องการอันร้อนแรงขึ้นมาทันที ฝ่ามือร้อนผ่าวอีกข้างถลกกระโปรงทรงเอสั้นแค่เข่าของหญิงสาวขึ้นมาแล้วประกบมือลงไปบนเนินเนื้อสามเหลี่ยมอวบอิ่ม บีบเคล้นเบา ๆ แบบจาบจ้วงแต่ก็เร้าใจ“พี่กริช เดี๋ยว” เมลานีเสียงสั่นเมื่อเขาบีบเคล้นที่ความเป็นหญิงของเธออย่างเอาแต่ใจ แต่แล้วก็ต้องซบหน้าลงกับอกและใช้มือจิกไหล่กว้างไว้เป็นหลักยึดเมื่อถูกนิ้วเรียวยาวกรีดลงไปในร่องเนื้ออันไวต่อสัมผัส เมื่อพบติ่งเนื้อนิ้วสากระคายก็กดคลึงหมุนวนจนเรียกน้ำชุ่มฉ่ำออกมาได้สำเร็จ“ดื้อกับพี่นัก คนดื้อต้องถูกลงโทษให้หนัก”“อ๊ะ” ความเสียวแปลบเกิดขึ้นทันทีที่ชายหนุ่มสอดนิ้วเข้ามาในช่องทางที่ชุ่มฉ่ำ เขาหงายมือและงอนิ้วขึ้นด้านบน ควงคว้านจนเจอกับจุดที่ทำหญิงสาวครางกระเส่า จากนั้นจึงเพิ่มจำนวนนิ้วสอดเข้าไปเพื่อจัดการกับคนดื้อ ช่องทางของเธอแม้จะชุ่มฉ่ำแต่ก็ยังคับแน่นจนอึดอัด ชวนให้อยากจะเอาตัวตนของเขาสอดใส่เข้าไปแทนที่ในตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอดเมลานีเสียวซ่านไปทั้งสรรพางค์กาย เลื่อนมือข้างหนึ่งมารั้งข้อมือที่รังแกเธอไม่หยุดหย่อนไว้ แต
ซ่อน 1ตั้งแต่ย้ายไปบ้านหลังที่เตรียมไว้ ข้าวของต่าง ๆ ของเมลานีและหนูพายรวมถึงป้าละไมเพิ่งย้ายเสร็จเรียบร้อย ส่วนกริชที่ข้าวของส่วนตัวของเขาน้อยมาก กลายเป็นเมลานีต้องคอยดูคอยซื้อหาเสื้อผ้าใหม่ ๆ ให้กับเขาอยู่เสมอ พอเธอถามเขาก็บอกว่าขี้เกียจเก็บของจากคอนโดเก่า แต่จริง ๆ หญิงสาวเคยแวะไปที่คอนโดของเขาก็ไม่ได้มีเสื้อผ้าเครื่องใช้เหลืออยู่เท่าไรนัก และด้วยความที่มัวแต่วุ่นวายกับการตกแต่งบ้านหลังใหม่ เมลานีจึงเพิ่งมีโอกาสที่จะเข้าไปเก็บของให้หมดเสียที เพราะรู้ว่ากริชเองก็มัวแต่ยุ่งกับการขยายสาขาหญิงสาวหยิบคีย์การ์ดของคอนโดจากลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องแป้งเพื่อเตรียมไปเก็บของให้เขา คอนโดของกริชทำเลดี และราคาแพงลิบลิ่ว เมลานีเคยเสนอให้เขาปล่อยเช่าหากไม่ต้องการอยู่ด้วยตนเอง แต่ชายหนุ่มอ้างว่ากลัวคนเช่าจะทำให้คอนโดของเขาเละเทะ และกริชก็ตั้งใจจะเก็บไว้เป็นสมบัติของลูกเสียมากกว่า“พี่กริชคะเมลกำลังออกไปเก็บของที่เหลือในคอนโดให้นะคะ” หลังจากสตาร์ตรถและขับมาได้ครู่หนึ่งหญิงสาวก็โทรแจ้งเจ้าของสินทรัพย์ให้ทราบ“ฮะ ไม่ เมลไม่ต้องไป” ปลายสายดูร้อนรนขึ้นมาทันทีจนหญิงสาวแปลกใจ“ทำไมคะ ก็ในเมื่อพี่กริชยุ่ง
ผมเปียตั้งแต่ฝึกฝนถักเปียกับสายไฟอยู่พักใหญ่จนมั่นใจว่าถูกต้อง กริชก็เริ่มลองถักผมยาวเหมือนแพรไหมของเมลานี ครั้งแรก ๆ เขาเกร็งมากเพราะกะน้ำหนักมือไม่ถูก กลัวจะทำให้หนังศีรษะของภรรยาหลุดติดมือมาด้วย แต่เมลานีก็คอยสอนคอยบอกจังหวะ ไม่นานเขาก็ถักเปียได้สวยและเป็นระเบียบจนอยากจะลองถักให้ลูกสาวดูบ้างพอได้ทำ ก็กลายเป็นกิจวัตรที่ทุกวันมานี้กริชจะต้องถักผมเปียให้หนูพายทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน เวลาลูกและเมียชมว่าทำได้สวย เขาภูมิใจกับมันมากกว่าการได้รับรางวัลนักบริหารดีเด่นของวงการยานยนต์เสียอีก“สวยสุด ๆ ไปเลยลูกสาวพ่อ”“พ่อกิด ไม่ใช่แบบนี้ โน โน” หนูพายเอียงศีรษะข้างซ้ายที ข้างขวาที แล้วไปเขย่าแขนคนเป็นพ่อให้จัดการแก้ไข“อะไรคะ”“ไม่สวย จะเอาแบบที่คุณแม่ทำให้ค่ะ”“แต่ปกติพ่อก็ถักเปียแบบนี้ให้นี่คะลูก” กริชบอกอย่างเอาใจลูกสาวตัวน้อยในชุดนักเรียน“หนูชอบแบบใหม่มากกว่าค่ะ” หนูพายทำปากยื่น “พ่อกิด ทำใหม่ค่ะ”“ทำ...ทำแบบไหนดี” คนเป็นพ่อเริ่มเลิ่กลั่ก กว่าเขาจะสำเร็จวิชาถักเปียก็เสียสายไฟไปหลายขด หนูพายกลับเบื่อเปียของเขาเสียง่าย ๆ กลัวเหลือเกินว่าไอ้แบบใหม่ที่ลูกสาวว่ามันจะทำให้เขาต้องกุมขมับและซื้อ
บ้านใหม่ 1กลิ่นดอกโมกหอมอ่อน ๆ โชยกรุ่นทำให้อากาศยามเช้ายิ่งสดชื่น สนามหญ้าเขียวสบายตาที่ถูกดูแลอย่างดีมีละอองน้ำจากหยาดฝนที่เพิ่งทิ้งช่วงไปตอนเช้ามืดพร่างพรมไปทั่วครั้งหนึ่งกริชไม่ชอบบ้านเพราะพื้นที่กว้างขวางทำให้คนตัวคนเดียวอย่างเขายิ่งโดดเดี่ยว แต่พอรู้ว่ามีความรักและมีลูกสาว เขาก็ซื้อบ้าน ซื้อไว้รอตั้งแต่เมลานีบอกให้เขาตัดใจใต้ต้นสนริมทะเลเขาซื้อบ้านที่มีสนามหญ้ากว้างไว้ให้ลูกวิ่งเล่น และปลูกต้นโมกที่ลูกสาวเคยมอบให้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันไว้รอบรั้ว ตกแต่งบ้านตามความชอบที่เมลานีเคยเพ้อฝันให้ฟังในสมัยเธอยังเป็นนักศึกษา ถ้าหลังกลับมาจากมาเก๊า เขาทุ่มเททุกอย่างเพื่อสร้างไพน์กรุ๊ป หลังกลับมาจากทะเลอย่างเจ็บปวดแสนสาหัสวันนั้น เขาก็อุทิศความหวังทั้งหมดลงมาที่บ้านหลังนี้ สร้างมันทีละส่วนอย่างตั้งใจ เหมือนกับที่เขารอคอยเมลานีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คล้ายหวังอยู่ลึก ๆ ว่าเขาจะได้มีโอกาสเปลี่ยนบ้านที่เป็นแค่โครงสร้างให้กลายเป็นบ้านที่หมายถึงครอบครัวอย่างแท้จริงและเมื่อวันนั้นมาถึง หญ้าก็เขียวขจี ดอกโมกก็ส่งกลิ่นหอมขจรขจาย…กริชจรดศีรษะลงหอมแก้มนุ่มของลูกสาวตัวน้อยที่ขอแยกห้องนอนไปแล้ว เมื่อ







