LOGINเมลานีใช้เวลาในช่วงกลางคืนหลังลูกสาวหลับแล้วทดลองทำเทียนหอมใส่ถ้วยอะคริลิกและคำนวณต้นทุนอย่างละเอียด รวมถึงศึกษาการทำการตลาดผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียที่จะเป็นวิธีเพิ่มยอดขายให้ได้มากที่สุด กว่าจะหลับลงได้ก็เกือบสว่าง รู้สึกถึงความอ่อนล้าและซีดเซียวจนต้องหยิบกระเป๋าเครื่องสำอางที่แทบไม่ได้ใช้ตั้งแต่มีลูกมาเปิดออก ค่อย ๆ กดหัวปั๊มรองพื้นไว้ที่ฝ่ามือและใช้แปรงปัดเกลี่ยทั่วใบหน้า คิ้วได้รูปปัดให้เรียงเส้น เปลือกตาทาด้วยอายแชโดว์สีส้มพีชแมตช์กับบลัชออนที่ข้างแก้ม ส่วนปากสวยหญิงสาวใช้ทินต์ทาบริเวณริมฝีปากด้านในจากนั้นเคลือบด้วย
ลิปกลอสสีชมพูอ่อน ดูเยาว์วัยและละมุนตาแต่ก็สร้างความเย้ายวนเช่นเดียวกัน“วันนี้เมลสวยจังเลย แบบนี้มีหวังช่างที่โชว์รูมตีกันตายแน่”
“ไม่หรอกณัช เราย้ายมาทำงานที่ตึกแล้วนะ เขาให้มาช่วยดูเรื่องเช็กสต็อกอะไหล่”
“ฮ้า บนตึกสำนักงานมีห้องอะไหล่ แล้วก็ตำแหน่งนี้ด้วยเหรอ” ณัชชาถามด้วยความมึนงงในขณะที่เมลานีกลับทำเพียงแค่ยิ้มบาง ๆ ที่มุมปาก มีทุกอย่างนั่นแหละถ้าเพื่อกลั่นแกล้งและปั่นหัวเธอ
ณัชชาแยกขึ้นลิฟต์คนละตัวเพราะตึกสำนักงานจะแยกชั้นคู่และชั้นคี่ เมลานีมองตามตัวเลขที่เจ้ากล่องสี่เหลี่ยมเคลื่อนไปเรื่อย ๆ เมื่อลิฟต์เปิดออกเลขาของกริชก็ผายมือไปยังห้องเล็ก ๆ ที่เกิดจากการเอาฉากมากางกั้นไว้อย่างเร่งด่วน หญิงสาวขมวดคิ้วแล้วคลายออก เดินตามเลขาประธานบริษัทไปยังพื้นที่สำหรับการทำงานของตน
“มีอะไรให้ช่วย บอกได้เลยนะคะ” เลขาสาวใหญ่ถามอย่างสุภาพไม่มีท่าทีของความอยากรู้อยากเห็นว่าเหตุใดพนักงานเช็กสต็อกอะไหล่จึงจำเป็นจะต้องมานั่งชมวิวชั้นเดียวกับผู้บริหาร
“ขอบคุณมากค่ะ เมลโอเค แต่จะให้เมลเริ่มทำงานอะไรบ้างคะ”
“เดี๋ยวรอท่านประธานชี้แจงอีกทีค่ะ” เลขาสาวได้รับคำสั่งให้จัดการเนรมิตห้องทำงานเล็ก ๆ และอุปกรณ์เครื่องใช้อำนวยความสะดวกให้กับเมลานีใช้เท่านั้น ส่วนเรื่องเนื้องานคงต้องถามจากคนสั่งย้ายกันโดยตรง
เมื่อเป็นแบบนี้เมลานีก็ไม่ได้ถามไถ่ต่อ กลับไปนั่งยังโต๊ะทำงานที่มีคอมพิวเตอร์ใหม่เอี่ยมดูทันสมัยตั้งอยู่ หันด้านข้างจะเห็นวิวเมืองอีกฝั่งของย่านธุรกิจผ่านผนังกระจก ด้านหน้ามีโซฟาหนังตัวยาวสีขาวเข้าคู่กับโต๊ะกลางดีไซน์ทันสมัยแปลกตา
หญิงสาวเปิดอินเทอร์เน็ตเพื่อลองเข้าแอ็กเคานต์โซเซียลมีเดียที่ตนเองเริ่มสมัครเอาไว้ ส่งคำขอเข้าร่วมกลุ่มต่าง ๆ ที่มีบุคคลหลากหลายซึ่งน่าจะมีความสนใจสินค้าของตนเองอยู่บ้าง โชคดีที่ปัจจุบันมีเครื่องมือสำหรับคนอยากเริ่มต้นขายสินค้ามากมาย มันอาจจะไม่ง่ายนักในช่วงแรกแต่เมลานีก็มั่นใจว่าไม่ยากหากเธอหากลุ่มเป้าหมายได้ตรงกับสินค้า
หญิงสาวลองอัปโหลดภาพเทียนหอมที่หัดทำลงไปเล่น ๆ ครู่เดียวก็มีคนกดแสดงความสนใจเข้ามา เมลานีตื่นเต้นจนถึงขั้นอมยิ้มแก้มปริ อย่างน้อยสิ่งที่เธอลงมือทำก็เริ่มก้าวไปข้างหน้าอีกขั้น
แค่เจ็ดโมงเช้าแต่กริชก็มาถึงที่ทำงานแล้ว เป็นการมาทำงานเช้าที่สุดในรอบปีเพื่อที่จะมาหยุดยืนที่มุมฉากแล้วมองผู้หญิงคนหนึ่ง... เมลานีนั่งเท้าคางทำตาใสอยู่บนโต๊ะโล่งสีขาวสะอาด ผมยาวสลวยทัดใบหูเรียบร้อย ดวงหน้าอ่อนใสไม่ต่างจากตอนเป็นนักศึกษา ยิ่งยามแสงแดดจากภายนอกทะลุผ่านกระจก สาดส่องเข้ามากระทบดวงตาดำขลับ ใจเขาก็เหมือนเต้นโลดเร้าเคล้าไปกับประกายระยิบระยับในดวงตาเธอ และมันก็มีแรงดึงดูดมากพอที่จะทำให้ชายหนุ่มสาวเท้าเข้าไปใกล้ เท้าฝ่ามือสองข้างไว้บนโต๊ะ
“มาทำงานเช้าดีนี่” เพียงยื่นหน้าเข้าไปอีกนิด ก็จะได้กลิ่นแชมพูอ่อน ๆ โชยขึ้นเตะจมูก เมลานีช้อนตาขึ้น ยังเหลือร่องรอยอมยิ้มปลาบปลื้มจากผลงานของตนเอง อารมณ์ก็ละมุนแช่มชื่นเป็นพิเศษ
“จะให้เมลทำอะไรคะ”
“เอ่อ” คนฟังถึงกับชะงักเมื่อได้ยินน้ำเสียงอ่อนหวานและการเรียกขานตัวเองด้วยชื่อเล่น มันทำหัวใจที่เพิ่งจะสงบเต้นระส่ำขึ้นมาอีก “ทำอะไร เอ่อ อะไหล่ เช็กหน่อยว่าตรงกันไหมกับรีพอร์ต”
“เมลยังทำไม่เป็น มีคนสอนงานไหมคะ” เมลานีเอียงคอรอคำตอบอย่างน่ารักจนชายหนุ่มลมหายใจสะดุด และมันทำให้เขาต้องเป็นฝ่ายเดินอ้อมไปด้านหลังของหญิงสาว เปิดไฟล์ที่ใช้เก็บข้อมูลของสต็อกอะไหล่และการเบิกจ่าย ค่อย ๆ สอนหญิงสาวเปรียบเทียบกับเอกสารต้นฉบับ
“พอทำได้ไหม” เห็นหญิงสาวเงียบไปและพยายามใช้ปากกาจดในสิ่งที่เขาบอกลงสมุดเล่มเล็ก ๆ กริชเสียงอ่อนลงด้วยความสงสาร ช่วงเกือบสามปีที่ผ่านมาหญิงสาวเป็นอย่างไรบ้าง เธอเม้มปากเป็นเส้นตรงจนเห็นรอยลักยิ้มบุ๋มข้างแก้ม เงยหน้าตอบเขาเบา ๆ
“ทำได้ค่ะ”
กริชสะบัดศีรษะ ไล่ความอ่อนไหวของตนเองอีกครั้ง พยายามทำหน้าเคร่งที่สุดเท่าที่พอจะทำได้ กำชับหญิงสาวที่นั่งตาแป๋วแต่ปั่นหัวเขาได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลย ชายหนุ่มใช้เสียงแข็งขรึมหวังทำลายความอ่อนหวานของบรรยากาศรอบตัวลง แต่มันกลับนุ่มละมุนทรยศความตั้งใจของเขาเข้าไปอีก
“อย่าทำพลาดล่ะ ไม่งั้นโดนดีแน่”
Special Talk : พี่กริชถ้าช่วงชีวิตของคนเราจะมีเพลงประจำของมันอยู่ ชีวิตผมก็คงเริ่มด้วยเพลงบลูส์อันแสนเศร้าสร้อย...ผมจึงใช้มันเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดในใจ และทุกครั้งที่ผมขึ้นไปร้องเพลงบนเวที ผมจะเห็นเด็กสาวแสนสวยคนหนึ่งที่นั่งมองผมอยู่เงียบ ๆ ท่ามกลางผู้คนที่แต่งตัวมาประชันกันในบาร์ราคาแพงสายตาของผมกลับกวาดไปตกลงที่เธอเท่านั้นผมจำเธอได้ดี แม้วันนี้เธอจะไม่ใช่เด็กน้อยผมเปียแต่เติบโตเป็นหญิงสาวสวยสะพรั่ง ผมรอให้เธอเข้ามาหาเพื่อขอโทษกับสิ่งที่ทำร้ายผมในอดีต แต่เธอก็ไม่ได้ทำแบบนั้น นานวันเข้าจากที่เคยชินก็กลายเป็นผมที่เฝ้ารอให้เธอมานั่งฟังเพลงที่นี่ทุกคืน...และผมก็เลือกที่จะลงมือจัดการเธอผมเริ่มเกมด้วยความแค้นในจุดเริ่มต้น และเข้าสู่เส้นชัยด้วยความว่างเปล่าสามปีในมาเก๊า ผมอยู่กับความถวิลหาที่ไม่อาจเติมเต็ม แล้วกลับเมืองไทยอย่างคนไร้ชีวิตจิตใจ อุทิศพลังทั้งหมดเพื่อทำงาน ซมซานกลับไปโดดเดี่ยวในคอนโดหรูที่แสนเวิ้งว้างจนกระทั่งวันที่ผมได้ยินเสียงรับโทรศัพท์ของโอเปอเรเตอร์คนใหม่ ผมจึงเข้าใจว่าทำไมผมถึงเฝ้ามองหาเงาใครบางคนท่ามกลางฝูงชนอยู่ตลอดเวลาผมหันหลังไปยืมกีตาร์จากนักดนตรีในงานไมเนอร์
โซ่รักตอนพิเศษ โซ่รักวันเกิดของกริชเวียนกลับมาครบรอบอีกครั้งหนึ่ง ทุกคนต่างโหวตเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากไปทะเลอีกครั้งเพราะติดใจวิลลาริมทะเลที่เคยไปในอดีต ป้าละไมขออยู่เฝ้าบ้านเพราะกำลังติดซีรีส์อินเดียอย่างหนักหน่วง เจ้าของวันเกิดผู้เป็นทาสเมียและทาสลูกสาวโดยสมบูรณ์จึงไม่อิดออดที่จะเอาใจสองสาวต่างวัย เพียงแต่ระหว่างทางเขาพาทั้งเมลานี และหนูพายแวะที่วัดแห่งหนึ่งก่อน“แวะที่นี่ก่อนนะคะหนูเมล” จังหวัดเดิมที่เคยอาศัยเป็นทางผ่านก่อนไปทะเล และกริชตั้งใจพาลูกสาวกับเมลานีมาที่นี่อยู่แล้ว จึงถือโอกาสพิเศษนี้แวะเสียเลย“ไหว้พระเหรอคะ”“ค่ะ พี่เตรียมสังฆทานใส่รถมาแล้วด้วย ความจริงตั้งใจจะมาที่นี่ในวันเกิดนั่นแหละ อยากมาทำบุญ”“ทำไมไม่บอกล่ะคะ เมลจะได้ช่วยเตรียมของ” เมื่อเปิดท้ายรถก็พบว่าชายหนุ่มเตรียมเครื่องสังฆทานกล่องใหญ่มาแล้ว เขาเลือกของด้วยตัวเองแล้วนำมาใส่กล่องใส ไม่ใช่สังฆทานสำเร็จรูปที่มักจะใส่กระป๋องสีเหลืองตามแบบที่ร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์มักจะทำกัน“ครั้งหน้านะคะ เมื่อคืนวานพี่เห็นเมลเหนื่อย หมดเรี่ยวหมดแรงก็เลยสงสารไม่อยากกวน” เขาว่านัยน์ตาเยิ้ม สื่อความนัยที่เขาและเมลานีเท่านั้นถึง
ซ่อน 2“งั้นมีรางวัลให้ผัวที่น่ารักคนนี้ไหมล่ะคะ” เสียงห้าวแหบพร่าแต่แววตาของเขากลับเปิดเปลือยความต้องการอันร้อนแรงขึ้นมาทันที ฝ่ามือร้อนผ่าวอีกข้างถลกกระโปรงทรงเอสั้นแค่เข่าของหญิงสาวขึ้นมาแล้วประกบมือลงไปบนเนินเนื้อสามเหลี่ยมอวบอิ่ม บีบเคล้นเบา ๆ แบบจาบจ้วงแต่ก็เร้าใจ“พี่กริช เดี๋ยว” เมลานีเสียงสั่นเมื่อเขาบีบเคล้นที่ความเป็นหญิงของเธออย่างเอาแต่ใจ แต่แล้วก็ต้องซบหน้าลงกับอกและใช้มือจิกไหล่กว้างไว้เป็นหลักยึดเมื่อถูกนิ้วเรียวยาวกรีดลงไปในร่องเนื้ออันไวต่อสัมผัส เมื่อพบติ่งเนื้อนิ้วสากระคายก็กดคลึงหมุนวนจนเรียกน้ำชุ่มฉ่ำออกมาได้สำเร็จ“ดื้อกับพี่นัก คนดื้อต้องถูกลงโทษให้หนัก”“อ๊ะ” ความเสียวแปลบเกิดขึ้นทันทีที่ชายหนุ่มสอดนิ้วเข้ามาในช่องทางที่ชุ่มฉ่ำ เขาหงายมือและงอนิ้วขึ้นด้านบน ควงคว้านจนเจอกับจุดที่ทำหญิงสาวครางกระเส่า จากนั้นจึงเพิ่มจำนวนนิ้วสอดเข้าไปเพื่อจัดการกับคนดื้อ ช่องทางของเธอแม้จะชุ่มฉ่ำแต่ก็ยังคับแน่นจนอึดอัด ชวนให้อยากจะเอาตัวตนของเขาสอดใส่เข้าไปแทนที่ในตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอดเมลานีเสียวซ่านไปทั้งสรรพางค์กาย เลื่อนมือข้างหนึ่งมารั้งข้อมือที่รังแกเธอไม่หยุดหย่อนไว้ แต
ซ่อน 1ตั้งแต่ย้ายไปบ้านหลังที่เตรียมไว้ ข้าวของต่าง ๆ ของเมลานีและหนูพายรวมถึงป้าละไมเพิ่งย้ายเสร็จเรียบร้อย ส่วนกริชที่ข้าวของส่วนตัวของเขาน้อยมาก กลายเป็นเมลานีต้องคอยดูคอยซื้อหาเสื้อผ้าใหม่ ๆ ให้กับเขาอยู่เสมอ พอเธอถามเขาก็บอกว่าขี้เกียจเก็บของจากคอนโดเก่า แต่จริง ๆ หญิงสาวเคยแวะไปที่คอนโดของเขาก็ไม่ได้มีเสื้อผ้าเครื่องใช้เหลืออยู่เท่าไรนัก และด้วยความที่มัวแต่วุ่นวายกับการตกแต่งบ้านหลังใหม่ เมลานีจึงเพิ่งมีโอกาสที่จะเข้าไปเก็บของให้หมดเสียที เพราะรู้ว่ากริชเองก็มัวแต่ยุ่งกับการขยายสาขาหญิงสาวหยิบคีย์การ์ดของคอนโดจากลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องแป้งเพื่อเตรียมไปเก็บของให้เขา คอนโดของกริชทำเลดี และราคาแพงลิบลิ่ว เมลานีเคยเสนอให้เขาปล่อยเช่าหากไม่ต้องการอยู่ด้วยตนเอง แต่ชายหนุ่มอ้างว่ากลัวคนเช่าจะทำให้คอนโดของเขาเละเทะ และกริชก็ตั้งใจจะเก็บไว้เป็นสมบัติของลูกเสียมากกว่า“พี่กริชคะเมลกำลังออกไปเก็บของที่เหลือในคอนโดให้นะคะ” หลังจากสตาร์ตรถและขับมาได้ครู่หนึ่งหญิงสาวก็โทรแจ้งเจ้าของสินทรัพย์ให้ทราบ“ฮะ ไม่ เมลไม่ต้องไป” ปลายสายดูร้อนรนขึ้นมาทันทีจนหญิงสาวแปลกใจ“ทำไมคะ ก็ในเมื่อพี่กริชยุ่ง
ผมเปียตั้งแต่ฝึกฝนถักเปียกับสายไฟอยู่พักใหญ่จนมั่นใจว่าถูกต้อง กริชก็เริ่มลองถักผมยาวเหมือนแพรไหมของเมลานี ครั้งแรก ๆ เขาเกร็งมากเพราะกะน้ำหนักมือไม่ถูก กลัวจะทำให้หนังศีรษะของภรรยาหลุดติดมือมาด้วย แต่เมลานีก็คอยสอนคอยบอกจังหวะ ไม่นานเขาก็ถักเปียได้สวยและเป็นระเบียบจนอยากจะลองถักให้ลูกสาวดูบ้างพอได้ทำ ก็กลายเป็นกิจวัตรที่ทุกวันมานี้กริชจะต้องถักผมเปียให้หนูพายทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน เวลาลูกและเมียชมว่าทำได้สวย เขาภูมิใจกับมันมากกว่าการได้รับรางวัลนักบริหารดีเด่นของวงการยานยนต์เสียอีก“สวยสุด ๆ ไปเลยลูกสาวพ่อ”“พ่อกิด ไม่ใช่แบบนี้ โน โน” หนูพายเอียงศีรษะข้างซ้ายที ข้างขวาที แล้วไปเขย่าแขนคนเป็นพ่อให้จัดการแก้ไข“อะไรคะ”“ไม่สวย จะเอาแบบที่คุณแม่ทำให้ค่ะ”“แต่ปกติพ่อก็ถักเปียแบบนี้ให้นี่คะลูก” กริชบอกอย่างเอาใจลูกสาวตัวน้อยในชุดนักเรียน“หนูชอบแบบใหม่มากกว่าค่ะ” หนูพายทำปากยื่น “พ่อกิด ทำใหม่ค่ะ”“ทำ...ทำแบบไหนดี” คนเป็นพ่อเริ่มเลิ่กลั่ก กว่าเขาจะสำเร็จวิชาถักเปียก็เสียสายไฟไปหลายขด หนูพายกลับเบื่อเปียของเขาเสียง่าย ๆ กลัวเหลือเกินว่าไอ้แบบใหม่ที่ลูกสาวว่ามันจะทำให้เขาต้องกุมขมับและซื้อ
บ้านใหม่ 1กลิ่นดอกโมกหอมอ่อน ๆ โชยกรุ่นทำให้อากาศยามเช้ายิ่งสดชื่น สนามหญ้าเขียวสบายตาที่ถูกดูแลอย่างดีมีละอองน้ำจากหยาดฝนที่เพิ่งทิ้งช่วงไปตอนเช้ามืดพร่างพรมไปทั่วครั้งหนึ่งกริชไม่ชอบบ้านเพราะพื้นที่กว้างขวางทำให้คนตัวคนเดียวอย่างเขายิ่งโดดเดี่ยว แต่พอรู้ว่ามีความรักและมีลูกสาว เขาก็ซื้อบ้าน ซื้อไว้รอตั้งแต่เมลานีบอกให้เขาตัดใจใต้ต้นสนริมทะเลเขาซื้อบ้านที่มีสนามหญ้ากว้างไว้ให้ลูกวิ่งเล่น และปลูกต้นโมกที่ลูกสาวเคยมอบให้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันไว้รอบรั้ว ตกแต่งบ้านตามความชอบที่เมลานีเคยเพ้อฝันให้ฟังในสมัยเธอยังเป็นนักศึกษา ถ้าหลังกลับมาจากมาเก๊า เขาทุ่มเททุกอย่างเพื่อสร้างไพน์กรุ๊ป หลังกลับมาจากทะเลอย่างเจ็บปวดแสนสาหัสวันนั้น เขาก็อุทิศความหวังทั้งหมดลงมาที่บ้านหลังนี้ สร้างมันทีละส่วนอย่างตั้งใจ เหมือนกับที่เขารอคอยเมลานีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คล้ายหวังอยู่ลึก ๆ ว่าเขาจะได้มีโอกาสเปลี่ยนบ้านที่เป็นแค่โครงสร้างให้กลายเป็นบ้านที่หมายถึงครอบครัวอย่างแท้จริงและเมื่อวันนั้นมาถึง หญ้าก็เขียวขจี ดอกโมกก็ส่งกลิ่นหอมขจรขจาย…กริชจรดศีรษะลงหอมแก้มนุ่มของลูกสาวตัวน้อยที่ขอแยกห้องนอนไปแล้ว เมื่อ







