LOGIN08
พบปะปะทะฝีปากกับศัตรู
เสียงหม้อดังกระทบกันอยู่ในครัว คนตัวเล็กวุ่นวายอยู่กับการทำอาหารเช้า แม้ว่าจะมีแม่บ้านถึงสองคนทว่าหน้าที่ทำอาหารเช้าเป็นของคนโปรด ยกเว้นช่วงเย็นแม่บ้านสาวสองคนจะทำเตรียมเอาไว้ให้ ส่วนเรื่องงานบ้านคนโปรดไม่จำเป็นต้องทำอะไรพวกนี้เอง
คนโปรดจะชอบทำอาหารเวลามีเรื่องวุ่นวายในหัวให้คิด ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาตื่นขึ้นมาเขาได้เข้าไปดูความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ตามโซเชียล มีเพจซุบซิบดาราคนดังออกมาโพสต์ถึงสินค้าตัวใหม่ของแบรนด์ Chaucer อีกทั้งยังแนบรูปเขาติดไปด้วย มีหลายคอมเมนต์ที่ชื่นชมในสินค้าใหม่ แต่ก็มีอยู่หลายคอมเมนต์ที่วิจารณ์พาดพิงมาถึงรองประธานบริษัทอย่างคนโปรด
คนที่รู้จักคนโปรดเผิน ๆ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลวรากุลปรีชาทรัพย์เป็นเหมือนคุณชายที่ทำอะไรเองไม่เป็น เกิดมาสุขสบายอยู่บนกองเงินกองทอง ทั้งยังโชคดีที่ได้ไปเรียนต่างประเทศทำงานสายแฟชั่นจนเป็นที่รู้จัก
แต่ใครจะรู้ว่ากว่าคนโปรดจะมาอยู่จุดนี้ได้ต้องพยายามมาตั้งเท่าไร จริงอยู่ที่เขาเกิดมาบนกองเงินกองทองเพราะพ่อกับแม่ช่วยกันสร้างมาจนลูกอย่างเขาได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ทว่าคนพวกนั้นไม่คิดบ้างหรือไงว่าที่เขาประสบความสำเร็จได้ก็เพราะความพยายามของตัวเขาเอง
ยังมีบางคนบอกว่าเขาหยิ่งผยอง เดินเชิดหน้าเชิดตาไม่ยิ้มแย้ม แต่นั่นมันก็เป็นบุคลิกที่เขาเป็นมาแต่ไหนแต่ไร หามีคนเข้ามาคุยด้วยเขาก็ยิ้มให้อยู่แล้ว หากรู้จักกันจริง ๆ ก็จะรู้ว่าเขาเป็นคนอัธยาศัยดีคนหนึ่ง เพียงแค่ไม่ชอบแสดงออกไปอย่างพร่ำเพรื่อเพราะรู้สึกว่ามันไม่จำเป็นต้องยิ้มแย้มตลอดเวลา
คงเพราะมีความคิดแบบนี้ คนถึงได้มองว่าเขาหยิ่งอย่างนั้นก็ไม่แปลกใจสักเท่าไร
คนโปรดไม่ได้ให้ความสนใจอะไรมากมายกับนักเลงคีย์บอร์ดพวกนั้น ทว่าบางครั้งก็อดเก็บมาคิดไม่ได้ แต่ถ้าถามว่าจะให้เขาโทษตัวเองที่เป็นอย่างคนพวกนั้นพูดกันไหม..ก็คงไม่ เพราะคนที่รู้จักเขาดีที่สุดก็คือเขาเอง
มาก่อนลงมาชั้นล่างด้วยหน้าตายังง่วงงุน เดินเข้าไปในครัวเห็นคนตัวเล็กกำลังวุ่นอยู่หน้าเตา ไม่รู้ว่ายังไม่ตื่นหรือว่าอะไรถึงได้ตรงเข้าไปกอดเอวบางเอาไว้ พลางซุกหน้าเข้ากับซอกคอหอม ร่างเล็กสะดุ้งตกใจเกือบทำ ตะหลิวหล่นจากมือ
“ไอ้ก่อน ปล่อย! ผีบ้าอะไรเข้าตั้งแต่เช้าอีก”
“อือ”
เสียงอื้ออึงดังอยู่ในลำคอ มาก่อนยังไม่ยอมปล่อยกอด ซุกหน้ากับซอกคออย่างเอาแต่ใจ คนโปรดขืนตัวเองให้ออกจากอ้อมกอดของอีกฝ่ายทว่าไม่เป็นผล ยิ่งดิ้นแรงเท่าไรมาก่อนก็ยิ่งกอดแน่นขึ้น
“เป็นอะไรของมึงก่อน”
“ขออยู่แบบนี้อีกแป๊บหนึ่ง”
น้ำเสียงอ้อแอ้เอ่ยขอกัน ไม่รู้ว่ามาก่อนเป็นอะไร เมื่อคืนนี้หลังจากที่เขาไล่ออกจากห้องก็เดินหน้าซึมออกไปไม่พูดไม่จา เช้านี้ยังมาทำตัวแปลก ๆ อีก
ทว่าคนโปรดกลับยืนนิ่งปล่อยให้มาก่อนกอดตามที่ขอ อาจจะเพราะลึก ๆ แล้วเขาก็รู้สึกผิดเรื่องที่พูดจาไม่น่าฟังใส่เมื่อคืน ทั้งยังไล่ให้ออกไปแบบนั้น
ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ใช่คนผิดฝ่ายเดียวสักหน่อย ในเมื่อมาก่อนต้องการยั่วโมโหเขาก่อนเอง
อีกไม่กี่วันก็ครบรอบหนึ่งเดือนที่เราแต่งงานกันแล้ว ยังไม่มีวันไหนที่เราญาติดีกันเลย ..ก็อาจจะมีบ้างที่เผลอญาติดีใส่กัน แต่ไม่นานก็มากัดกันเหมือนเดิม ไม่มีใครยอมใครเลยจริง ๆ
ทั้งที่คนโปรดพยายามเลี่ยงที่จะไม่ยุ่งเกี่ยว กลายเป็นอีกฝ่ายที่ดึงดันพาตัวเองเข้ามาวุ่นวายกับเขาแทน เรียกร้องความสนใจกันไม่หยุด
เพราะรู้จักกันมานานเขาถึงมองมาก่อนออกว่าสิ่งที่อีกคนทำคือต้องการอะไร แม้ว่าสี่ปีที่ผ่านมาเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ตาม และเขาก็คิดว่ามาก่อนเองก็ดูเขาออกเหมือนกัน
ช่วงบ่ายของวันนี้คนโปรดออกมานั่งทำงานที่คาเฟ่ใกล้ที่ทำงานเพราะวันนี้เป็นวันหยุดเลยไม่อยากไปนั่งทำที่บริษัทและก็ไม่อยากนั่งทำที่บ้านด้วยเช่นกัน เปลี่ยนบรรยากาศบ้างเผื่อว่าจะคิดงานออก
“ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าใช่คุณโปรดหรือเปล่าครับ?”
เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยทักกัน ก่อนที่เจ้าของชื่อจะเงยหน้าขึ้นไปมอง ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มกำลังยกยิ้มให้กันเป็นการทักทาย คนโปรดมั่นใจว่าไม่เคยเจออีกคนมาก่อน
“ครับ”
“ผมชื่อโอบนะครับ เป็นลูกค้าที่นัดคุยงานกับคุณโปรดอาทิตย์หน้า”
“อ๋อ สวัสดีนะครับคุณโอบ” คนตัวเล็กลุกขึ้นยืนทักทายอีกคน คนโปรดไม่เคยเห็นหน้าลูกค้าหรือติดต่อพูดคุยกันโดยตรงมาก่อน การประสานงานต่าง ๆ เป็นหน้าที่ของเลขา ฉะนั้นเลยไม่แปลกที่เขาจะไม่รู้จักชายตรงหน้า “นั่งด้วยกันก่อนไหมครับ”
“ผมไม่ได้รบกวนใช่ไหมครับ”
“ไม่ครับ”
ชายหนุ่มร่างสูงนั่งลงฝังตรงข้าม เป็นครั้งแรกที่โอบได้เจอตัวจริงของคนโปรด ก่อนหน้านี้เขาเห็นผ่านสื่อต่าง ๆ ที่ลงตามโซเชียลเท่านั้น หลังจากทำการศึกษาเรื่องแบรนด์เสื้อผ้าของคนโปรดมาได้สักพักก็คิดที่จะลงทุนสั่งทำเสื้อผ้ากับทางบริษัท เลยทำการติดต่อไปหาเลขาส่วนตัวของคนตรงหน้า และอาทิตย์หน้าเขาสองคนมีนัดคุยกันเรื่องรายละเอียด
“แล้วนี่คุณโปรดกำลังทำอะไรอยู่เหรอครับ ผมถามได้หรือเปล่า?” สายตากวาดมองไปบนโต๊ะที่เต็มไปด้วยแผ่นกระดาษ
“พอดีโปรดกำลังจะวาดแบบไปนำเสนอคุณโอบน่ะครับ ไม่คิดว่าจะบังเอิญเจอกันเสียก่อน” คนพูดยิ้ม ๆ พลางเก็บกระดาษบนโต๊ะ
“จริงเหรอครับ ผมดูได้ไหม”
“ยังไม่ถึงไหนเลยครับ เอาไว้ค่อยดูวันที่เรานัดกันดีกว่า”
คนโปรดไม่สะดวกที่จะให้โอบดูงานก่อนเพราะเขาไม่ชอบให้คนอื่นเห็นงานที่ตัวเองทำยังไม่เสร็จ อีกอย่างเป็นแค่แบบร่างคร่าว ๆ เท่านั้น
“เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ”
“สั่งอะไรมาทานไหมครับ เดี๋ยวโปรดเลี้ยงเอง”
“ผมขอเป็นคนเลี้ยงดีกว่าครับ”
“จะให้ลูกค้ามาเลี้ยงได้ยังไงล่ะครับ”
“ไม่เห็นเป็นอะไรเลยครับ ถือเสียว่าเป็นการทำความรู้จักกัน แล้วก็ขอโทษที่รบกวนเวลาทำงานของคุณโปรดด้วย”
“อืม.. ถ้าอย่างนั้นต่างคนต่างสั่งคงจะดีที่สุดครับ”
คนโปรดเอ่ยยิ้ม ๆ เขาไม่ได้อยากให้อีกฝ่ายเสียน้ำใจ แต่ก็ไม่อยากให้โอบเสียเงินเลี้ยงเขาเหมือนกัน เขาจะมีความคิดหนึ่งที่ว่าเงินตัวเองก็มีทำไมต้องให้คนอื่นเลี้ยง หากมีใครได้ยินความคิดนี้ของเขาคงนึกหมั่นไส้อยู่ไม่น้อย ทว่ากลับกันเขาจะชอบเป็นฝ่ายจ่ายเงินเลี้ยงให้คนอื่นมากกว่า
ดูท่าโอบจะชอบคนอย่างคนโปรดเสียด้วย คนที่ดูจะเหมือนจะเป็นมิตรแต่แอบหยิ่งอยู่เล็ก ๆ ช่างเป็นคนที่น่าสนใจดีจริง ๆ
มาก่อนขับรถออกมาจากบ้านตรงมาที่บริษัทของคนโปรดคิดว่าอีกคนอยู่หอบเอางานมาทำที่นี่ ทว่าสายตากลับหันไปเห็นร่างคุ้นตากำลังหัวเราะคิดคักอยู่กับชายคนหนึ่งที่เขาเองก็รู้จัก
ตั้งใจจะแวะมารับไปหาข้าวเที่ยงกินด้วยกัน แต่ดูเหมือนจะอิ่มความสุขมากอยู่แล้ว รถยนต์จอดนิ่งอยู่ที่เดิมหลายนาที จ้องมองไปที่ชายหนุ่มสองคนไม่วางตา พลันอารมณ์ยิ่งคุกรุ่นขึ้นเรื่อย ๆ ใบหน้าหล่อเรียบนิ่ง ลมหายใจที่ผ่อนเข้าออกหนักเบาไม่เป็นจังหวะ ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาใครบางคน
กริ่ง~
เสียงกริ่งหน้าประตูร้านดังขึ้นต้อนรับลูกค้าคนใหม่ที่เข้ามา มาก่อนเลือกโต๊ะที่นั่งอยู่เยื้องกับคนโปรด เพราะต้องการให้อีกคนมองเห็นแต่ดูเหมือนว่าคนโปรดแทบไม่ได้สนใจอะไรรอบตัวเลยสักอย่าง
“อยากกินอะไรสั่งเลยนะเราเลี้ยงเอง” มาก่อนเอ่ยบอกหญิงสาวที่ตัวเองโทรตามให้มาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ และดูเหมือนว่ามันจะดังพอที่จะเข้าหูคนโปรด ทำให้อีกคนหันมามองกัน ทว่าเพียงแค่เสี้ยววิก็กลับไปยิ้มแป้นให้กับชายหนุ่มอีกคนตรงหน้าตามเดิม
“อะไรก็ได้เลยเหรอคะ?”
“ครับ อะไรก็ได้เลยที่ลูกหว้าอยากกิน”
“แล้วถ้าหว้าอยากกิน..”
มือขาววางทาบลงบนหลังมือมาก่อน ส่งสายตายั่วยวนกันถึงขั้นสุด มาก่อนยกยิ้มหวานกลับไป หางตายังเหลือบมองปฏิกิริยาของภรรยาตัวเอง แต่คนโปรดยังคงไม่สนใจกันดังเดิม
การทำแบบนี้สำหรับคนโปรดก็ไม่ต่างอะไรจากการเรียกร้องความสนใจกัน เมื่อคืนนี้ที่ส่งข้อความมาหาเขาก็เป็นรูปแบบเดียวกัน ครั้งนี้คนโปรดเลยไม่อยากให้ความสนใจอะไรมาก อีกอย่างตอนนี้นั่งอยู่กับลูกค้า เขาไม่อยากทำให้ตัวเองดูไม่ดี แม้จะมีท่าทีนิ่งเฉย แต่ก็แอบหงุดหงิดอยู่เหมือนกันที่เห็นสองคนนั้นถึงเนื้อถึงตัวราวกับสนิทสนมกันมาก
เมื่อเช้านี้คงจะผีเข้าจริง ๆ ถึงได้ทำแบบนั้นกับเขา ไม่น่ายืนนิ่งให้มันกอดเลย!
“อาทิตย์หน้าเรามีนัดกันช่วงเช้าใช่ไหมครับ” โอบเอ่ยถามขึ้นเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง
“ใช่ครับ”
“ให้ผมไปรับคุณโปรดที่บ้านไหมครับ”
“ไม่เป็นไรดีกว่าครับ โปรดเกรงใจ”
“ถือโอกาสไปทานข้าวเช้าด้วยกันก่อนคุยงานไม่ได้เหรอครับ?”
สีหน้าคาดหวังของโอบฉายชัดขึ้นจนคนโปรดไม่กล้าปฏิเสธเป็นครั้งที่สอง
“เอาแบบนี้ดีไหมครับ คุณโอบนัดโปรดมาว่าจะทานข้าวเช้าร้านไหน เดี๋ยวโปรดจะเป็นคนไปหาเอง คุณโอบจะได้ไม่ต้องขับรถไปรับโปรด”
“อย่างนั้นก็ได้ครับ แค่ได้ทานข้าวกับคุณโปรดสักมื้อก็โอเคแล้วครับ”
“ครับ” คนโปรดยกยิ้มบาง ๆ ให้อีกฝ่าย หากไม่คิดอะไรมากประโยคคำพูดของโอบก็ดูไม่มีอะไรแอบแฝงเลย แต่ถ้าหากคิดเยอะแบบเขาฟังดูแล้วแอบรู้สึกแปลก ๆ อยู่เหมือนกัน
“ถ้าอย่างนั้นผมขอแลกช่องทางติดต่อส่วนตัวคุณโปรดไว้ได้ไหมครับ วันที่นัดกันผมจะได้ส่งชื่อร้านอาหารไปให้”
“อ่า.. ได้ครับ”
โอบยกยิ้มกว้างพลางยื่นมือถือส่งให้คนโปรดกดเพิ่มเพื่อนในไลน์ จุดประสงค์ของเขาก็เพื่อติดต่อไปหาอีกฝ่ายจริง ๆ แต่นอกจากเรื่องงานแล้วอาจจะมีอย่างอื่นด้วยหรือเปล่าเขาก็ยังไม่แน่ใจ
“ขอบคุณครับ งั้นผมขอตัวกลับก่อนดีกว่า ไว้จะทักไปหานะครับ”
“ครับ”
ความรู้สึกแปลก ๆ ที่มีต่ออีกฝ่ายไม่ใช่ความรู้สึกที่เขาคิดไปเองแน่ ๆ ถึงอย่างนั้นคนโปรดก็ไม่อยากใส่ใจอะไรมากนัก เพราะสำหรับเขาแล้วโอบก็คือลูกค้าคนหนึ่ง การติดต่อพูดคุยกันเรื่องงานก็น่าจะเป็นเรื่องปกติ แม้ว่าจริง ๆ แล้วควรติดต่อผ่านเลขาไม่ใช่เขาก็ตาม
คนโปรดตรวจดูความเรียบร้อย เก็บของเสร็จก็เดินไปจ่ายเงินที่หน้าเคาน์เตอร์ก่อนจะเดินผ่านสามีออกไปจากร้าน ปล่อยให้อีกคนมองตามแผ่นหลังอย่างหัวเสีย
ไม่รู้ว่าทำไมถึงกลายเป็นมาก่อนทุกครั้งที่รู้สึกไม่สบอารมณ์แบบนี้ ทั้งที่ต้องการจะยั่วโมโหอีกฝ่ายแต่กลายเป็นเขาเองที่รู้สึกไม่ดี
----- โปรดอย่าหย่าก่อน -----
Talk Talk
คนที่หึงขนาดนี้แต่ปากแข็งยิ่งกว่าหินคือใครค่ะ?
เฉลย มาก่อน
08พบปะปะทะฝีปากกับศัตรูเสียงหม้อดังกระทบกันอยู่ในครัว คนตัวเล็กวุ่นวายอยู่กับการทำอาหารเช้า แม้ว่าจะมีแม่บ้านถึงสองคนทว่าหน้าที่ทำอาหารเช้าเป็นของคนโปรด ยกเว้นช่วงเย็นแม่บ้านสาวสองคนจะทำเตรียมเอาไว้ให้ ส่วนเรื่องงานบ้านคนโปรดไม่จำเป็นต้องทำอะไรพวกนี้เองคนโปรดจะชอบทำอาหารเวลามีเรื่องวุ่นวายในหัวให้คิด ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาตื่นขึ้นมาเขาได้เข้าไปดูความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ตามโซเชียล มีเพจซุบซิบดาราคนดังออกมาโพสต์ถึงสินค้าตัวใหม่ของแบรนด์ Chaucer อีกทั้งยังแนบรูปเขาติดไปด้วย มีหลายคอมเมนต์ที่ชื่นชมในสินค้าใหม่ แต่ก็มีอยู่หลายคอมเมนต์ที่วิจารณ์พาดพิงมาถึงรองประธานบริษัทอย่างคนโปรดคนที่รู้จักคนโปรดเผิน ๆ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลวรากุลปรีชาทรัพย์เป็นเหมือนคุณชายที่ทำอะไรเองไม่เป็น เกิดมาสุขสบายอยู่บนกองเงินกองทอง ทั้งยังโชคดีที่ได้ไปเรียนต่างประเทศทำงานสายแฟชั่นจนเป็นที่รู้จักแต่ใครจะรู้ว่ากว่าคนโปรดจะมาอยู่จุดนี้ได้ต้องพยายามมาตั้งเท่าไร จริงอยู่ที่เขาเกิดมาบนกองเงินกองทองเพราะพ่อกับแม่ช่วยกันสร้างมาจนลูกอย่างเขาได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ทว่าคนพวกนั้นไม่คิดบ้างหรือไง
07เจ้าของหมาแสดงตัว“ไหนตอนแรกบอกว่าจะไม่มาไงครับก่อน”“กูเปลี่ยนใจไม่ได้หรือไง”มาก่อนตอบกลับอย่างไม่สบอารมณ์แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นหงุดหงิดใส่จีซุน เสียงเพลงดังคลอเคล้าไปกับเสียงนักท่องราตรีทั้งหลายภายในร้าน มาก่อนจงใจที่จะไม่จองห้องวีไอพีแม้ว่าบาสจะสามารถหาห้องว่างให้ได้“สวัสดีค่ะ ขอนั่งด้วยคนได้ไหมคะ?” หญิงสาวหน้าตาสะสวยถือแก้วเหล้าตรงมาขอนั่งด้วย ทว่าสายตากลับมองมุ่งไปที่มาก่อนอย่างชัดเจน“เชิญครับ”“ขอบคุณค่ะ”เป็นเรื่องปกติที่คนในสถานที่อโคจรแบบนี้จะทำความรู้จักกันแบบง่าย ๆ ถ้าถูกใจใครก็แค่เข้าหาไม่ใช่เรื่องยากเลยสักนิดสมาชิกสาวสวยคนใหม่เดินผ่านหน้าเชนทร์กับจีซุนไปหามาก่อน บ่งบอกว่าเป้าหมายของเธอคืนนี้คือใครเชนทร์มองหน้าเพื่อนสนิทนิ่งไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา ทว่าหากมาก่อนหันมามองตาเขาสักนิดก็จะรู้ว่ามีคำด่ามากมายอยู่ในนั้นมุมปากหยักยกยิ้มร้ายครั้นคิดเรื่องสนุกขึ้นมาได้ คิดที่จะเอาคืนอดีตคนรักที่ตัดสายกันทิ้ง ครั้งนี้เขาจะทำให้หึงจนตามมาหาเขาถึงที่เลยคอยดู“ชนแก้วกันไหมครับ” มาก่อนยกแก้วของตัวเองขึ้นมาเอียงหน้าเลิกคิ้วยิ้มอ่อนยิ้มหวานให้หญิงสาวข้างกายเธอไม่ได้คิดปฏิเสธยกแก้วในมือชนก
06คนไม่กลัวเมียหลังจากไข้ลดลงจนหายดีคนโปรดก็กลับมาทำงานตามปกติ นึกถึงสิ่งที่ทำตอนไม่สบายแล้วอยากจะทึ้งผมตัวเองแรง ๆ ให้ได้สติเขาไม่ควรไปทำตัวออดอ้อนออเซาะแบบนั้นกับมาก่อนเหมือนตอนเป็นแฟนกัน เป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่ง ต่อให้ตอนนี้สถานะของเราสองคนคือสามีภรรยา แต่นั่นก็เพราะพ่อของเขากับพ่อของมาก่อนจับคู่ให้เราต่างหาก ความรู้สึกและความสัมพันธ์ของเราจริง ๆ ก็แค่อดีต เขาและมาก่อนเป็นแค่แฟนเก่าที่ไม่ควรกลับมามีความรู้สึกอะไรต่อกันอีกไม่อย่างนั้น... อาจจะเจ็บอีกครั้งก็ได้“คุณโปรดคะ คุณโปรด..” ณิชาเอ่ยเรียกเจ้านายตัวเองที่นั่งเหม่อลอย แต่ดูเหมือนว่าเสียงของเธอไม่เข้าหูคนโปรดเลยสักนิด “คุณโปรดคะ!”“อะ เอ่อ.. ครับ” ร่างเล็กสะดุ้งตกใจครั้นเลขาสาวเรียกชื่อกันเสียงดังลั่น“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ วันนี้ดูคุณโปรดเหม่อ ๆ ตั้งแต่เช้าแล้ว”เพราะเรื่องก่อนหน้านี้คอยกวนใจคนโปรดอยู่ตลอด ทำให้ไม่สมาธิทำงานเลยตั้งแต่เช้า หากเป็นแบบนี้ต่อไปวันนี้คงเสียงานเสียการแน่ ๆ“ไม่มีอะไรครับ แค่มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย ว่าแต่คุณณิชามีเรื่องอะไรจะคุยกับโปรดนะครับ”“คือณิเอาข้อมูลของลูกค้ามาให้น่ะค่ะ คนที่นัดคุยเรื่องชุด
05คนปากดีไข้ขึ้นเพราะหนอนยักษ์หลังจากที่ผ่านรอบแรกมาก็ใช่ว่าจะหยุดอยู่ที่รอบเดียว ยิ่งถูกเล้าโลมอารมณ์ก็ยิ่งพลุ่งพล่านสุดท้ายกว่าบทรักบนเตียงจะจบฟ้าก็เกือบสว่างร่างเล็กนอนหลับอย่างคนหมดสภาพ ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะลืมตาตื่นด้วยซ้ำ จากที่เคยปากดีว่าตัวเองเก่งอย่างนั้นอย่างนี้สุดท้ายยกมือยอมแพ้ตั้งแต่รอบสอง มีแต่มาก่อนที่ไม่รู้ว่าไปอดอยากปากแห้งมาจากไหนถึงได้ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเจ้าของร่างสูงเดินออกมาจากห้องน้ำ ค่อย ๆ ขึ้นไปนอนบนเตียงข้างภรรยาหลังจากไปล้างหน้าล้างตามาเรียบร้อยแล้ว ปลายนิ้วเรียวปัดปลายผมยาวที่ปรกใบหน้าสวยขึ้นไปทัดหู มุมปากกระตุกยิ้มขึ้นอย่างเผลอไผลเหตุการณ์เมื่อคืนทำให้มาก่อนพึงพอใจอย่างบอกไม่ถูก ต่อให้คนโปรดตื่นมาแล้วบอกว่าทำไปเพราะอารมณ์กามชั่ววูบเขาก็ยังพอใจกับมันอยู่ดีทว่าไม่กี่วินาทีต่อมารอยยิ้มก็จางหายไป คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ครั้นฝ่ามือสัมผัสโดนหน้าผากมน รับรู้ได้ถึงอุณหภูมิจากร่างกายของคนโปรด เมื่อคืนเขาคงทำหนักไปหน่อย เช้านี้ถึงได้มีไข้อ่อน ๆมาก่อนลุกออกจากเตียงอีกครั้ง หาผ้าขนหนูผืนเล็กที่สามารถเช็ดตัวให้คนโปรดได้ ก่อนจะเข้าไปในห้องน้ำ ใส่น้ำมาค่อนกะละมังยกม
“อยากให้จับตรงไหน ตรงนี้..” ฝ่ามือเย็นเลื่อนจากเอวบางก่อนจะสอดเข้าใต้ขากางเกงผ้าลื่นไปจนถึงก้นนุ่มพร้อมกับบีบขยำเต็มมือ “หรือตรงนี้”มือว่างอีกข้างสอดเข้าใต้สาบเสื้อบีบขยำเนินอกน้อย ๆ ทั้งยังใช้ปลายนิ้วสะกิดเขี่ยหัวนมเพิ่มความเสียวซ่านให้คนตัวเล็ก“อ๊ะ!”ริมฝีปากบวมเจ่อเผยอขึ้นร้องครางเสียงหวาน ยิ่งทำให้คนฟังได้ใจ เพิ่มแรงขยำตรงก้น และความเร็วตรงหัวนมร่างเล็กตัวอ่อนนอนลงทาบทับร่างหนา ป้อนจูบอีกฝ่ายเพื่อช่วยไม่ให้ตัวเองส่งเสียงน่าอายออกมาสะโพกอวบขยับร่อนเข้าหาฝ่ามือหนา แต่ทว่าส่วนหน้ากลับถูไถไปกับส่วนเดียวกันกับของอีกคนคิ้วหนาขมวดเข้ามาหากันครั้นความเสียดเสียวแล่นขึ้นสู่ก้านสมอง คนโปรดยังคงไม่ยอมผละริมฝีปากออก อีกทั้งยังยกมือขึ้นสะกิดหัวนมแข็งเป็นไตบนหน้าอกแกร่งทั้งสองข้าง กลายเป็นมาก่อนที่ต้องหยุดการกระทำของตัวเองเพื่อจับตัวคนโปรดให้ผละก่อน“พอก่อน”“ไม่พอ”คนตัวเล็กตอบกลับเสียงแข็ง ใบหน้าดื้อดึงฉายชัดขึ้นราวกับเด็กเอาแต่ใจที่ห้ามเท่าไรก็ไม่ฟัง ตอนแรกก็คิดแค่ว่าจะแกล้งคนปากดีเล่นแต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่ได้เล่นด้วย ถ้ายังไม่หยุดตั้งแต่ตอนนี้มาก่อนคิดว่าเขาคงหยุดตัวเองไม่ได้อีกแน่ ๆ“มึ
04หมามันชอบปีนเตียงเวลาล่วงเลยมาเกือบครึ่งค่อนคืนมาก่อนยังคงนอนตาสว่างไม่หลับไม่นอน ดวงตาคมมองฝ้าเพดานภายในห้องที่ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด คนโปรดทำงานเสร็จก็ปิดไฟนอนได้สักพักใหญ่แล้ว และดูเหมือนว่าตอนนี้เจ้าตัวก็หลับไปแล้วมาก่อนนอนคิดแล้วคิดอีกว่าจะทำตามที่ใจต้องการดีหรือเปล่า เกรงว่าหากทำไปแล้วไม่โดนด่าก็คงถูกถีบเหมือนกับคืนก่อนกระนั้นร่างกายกลับเร็วกว่าคำตอบ แขนแข็งแรงข้างหนึ่งวางลงบนเตียงตามด้วยขา ก่อนจะค่อย ๆ ขยับขึ้นไปทีละนิด เหมือนลูกหมาที่โหยหาความอบอุ่น แต่ก็กลัวเจ้าของต่อว่าที่แอบขึ้นเตียงทั้งที่ไม่ได้รับอนุญาต แต่ให้ทำยังไงได้ในเมื่อหมาตัวนี้มันดื้อด้านยิ่งกว่าหมาตัวไหน ๆ ในโลกนี้ที่คนโปรดเคยเจอเพียงพริบตาเดียวมาก่อนก็ขึ้นมานอนบนเตียงได้สำเร็จ เตียงนอนนี่นุ่มกว่าที่นอนปิกนิกเป็นไหน ๆ“ลงไป” เสียงหวานเข้มพูดขึ้นท่ามกลางความมืด ทำเอามาก่อนเผลอสะดุ้งตกใจ เพราะคิดว่าอีกคนหลับไปแล้ว หรือว่าเป็นเพราะเขาที่ทำให้คนโปรดตื่น“กะ กูหนาว” ข้ออ้างสุดแสนจะเบสิกที่ละครหลังข่าวฉายออกมาให้เห็นแทบทุกเรื่อง“ลงไป!” คนโปรดกดเสียงต่ำ ออกคำสั่งอีกครั้ง ทว่าคนดื้อด้านก็ยังคงไม่ยอมลงไป ทั้งยั







