공유

ไม่ว่าอย่างไร ก็มิอาจปล่อยวาง
ไม่ว่าอย่างไร ก็มิอาจปล่อยวาง
작가: moonlight -mini

บทที่1

last update 최신 업데이트: 2025-02-01 17:43:21

บทที่ 1

ดวงตากลมโตนองไปด้วยหยาดน้ำตา นางเพ่งมองใบหน้าบุรุษที่ยืนอยู่เบื้องหน้าผ่านม่านน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม

“เจ้าจะยอมรับหรือไม่ว่าเจ้าวางยาพระชายา”

“อึก” ดวงหน้าเปรอะเปื้อนเงยขึ้นตามแรงรั้งของฝ่ามือหนา หมิ่งหุ้ยเม้มปากแน่นราวกับจะบอกว่าไม่ว่าคนตรงหน้าจะใช้วิธีใดก็ไม่สามารถง้างปากให้นางรับสารภาพความผิดร้ายแรงที่นางไม่ได้ก่อ

ถ้าหากเป็นก่อนหน้านี้สักชั่วยาม ให้นางรับสารภาพสิ่งใดนางยอมหมด แต่หลังจากเดินเข้ามาในจวนแล้วพบกองร่างไร้ซึ่งลมหายใจของคนทั้งหมดในตระกูล ในยามนี้คงมีแต่ความตายเท่านั้นที่นางต้องการ

มือหนาบีบใบหน้าเล็กแรงขึ้นตามแรงโทสะ เขาไม่เข้าใจ นางก็เห็นแล้วว่าจะเกิดอะไรต่อไปกับตนเอง ทำไมจึงไม่ยอมรับความผิดแต่โดยดี

“ข้ามิได้ทำอย่างที่ท่านกล่าวหา” หยาดน้ำตายังคงไหลรินอาบแก้มนวล

“หากเจ้ายอมรับ ข้าจะหาทางให้เจ้ารอด” หยงอิ่งจงก้มลงกระซิบแผ่วเบาให้ได้ยินเพียงสองคนเท่านั้น

“หลังจากที่ท่านสังหารบิดาข้า มารดาข้า พี่ชายข้า น้องชายข้า แม้แต่เสี่ยวหลงที่อายุเพียงห้าปีท่านยังทำได้ลงคอ ท่านยังคิดว่าข้าจะยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างนั้นหรืออิ่งจง ”

“ถ้าเจ้ายอมรับผิดกับสิ่งที่ก่อ ไท่จื่อเฟยรับปากข้าว่าจะไว้ชีวิตเจ้า” หยงอิ่งจงตอบเสียงขื่น เขาจำเป็นต้องสังหารคนทั้งหมดในจวนสกุลหมิ่งเพื่อให้ไท่จื่อเฟยไว้ชีวิตนางอันเป็นที่รัก แล้วตอนนี้เขาก็กำลังรอคำสารภาพผิดของนางอยู่ หากนางรับผิดแต่โดยดี

นางก็จะมีลมหายใจต่อไปนั่นคือเงื่อนไขที่พระนางขอเอาไว้ แต่ความผิดร้ายแรงลอบวางยาเชื้อพระวงศ์โทษประหารทั้งตระกูลมิอาจละเว้นได้

“ท่านทำได้อย่างไร” หมิ่งหุ้ยถามชายคนรักเสียงสั่น นางรักบุรุษใจอำมหิตผู้นี้ไปได้อย่างไรกัน บิดามารดาของนางเองก็รักและเอ็นดูเขาราวกับบุตรชายคนหนึ่ง อีกทั้งต้นเดือนหน้าก็จะถึงพิธีหมั้นหมายระหว่างเขาและนางแล้ว แล้วไยเขาทำเยี่ยงนี้ได้ลงคอ นี่หรือคนที่นางรัก คนที่นางหวังจะฝากชีวิตไว้ในมือเขา

“หุ้ยเอ๋อร์ เจ้ายอมรับผิดเถิด หลักฐานทั้งหมดกรมวังตรวจสอบจนหมดแล้ว ท่านป้าก็ยอมรับว่าเป็นคนจัดหายาให้เจ้า และเจ้าก็เป็นคนลงมือ”

หมิ่งหุ้ยส่ายหน้าทั้งน้ำตา นางหันไปมองสภาพศพของมารดาที่ถูกโยนอยู่ในหลุมพร้อมกับร่างของคนอื่น ๆ มือทั้งสองข้างถูกตัดขาด เลือดท่วมไปทั้งร่างจนจำเค้าเดิมแทบไม่ได้ มารดาของนางถูกทรมานขนาดนั้น ต่อให้บอกว่าวางยาเพื่อสังหารพระสงฆ์องค์เจ้า มารดาของนางก็คงยอมรับหมดเพื่อไม่ต้องถูกทรมานต่อ

“หุ้ยเอ๋อร์ ได้โปรดยอมรับผิดเถิด โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา” หยงอิ่งจงอ้อนว้อน เร่งให้นางรับสารภาพ หากไท่จื่อเฟยเสด็จมาถึง

ข้อตกลงที่พระนางให้ไว้ถือเป็นอันสิ้นสุด หมิ่งหุ้ยต้องถูกสังหารตามคนอื่น ๆ ในตระกูลหมิ่งตายตามตกกันไป

“ข้ามีความจำเป็นใดที่ต้องวางยาพระนาง” นางถามชายคนรักเสียงสั่น

นางออกไปตัดชุดสำหรับงานมงคลที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ และก็เป็นหยงอิ่งจงเองที่กำชับนางให้ออกไปในวันนี้ มิคิดเลยว่ากลับเข้าจวนมาต้องพบเจอกับการนองเลือด และผู้ที่ลงมือก็เป็นบุรุษที่นางรักยิ่ง นางยังมิรู้ด้วยซ้ำว่าตนเองและคนตระกูลหมิ่งผิดอันใดจึงถูกคนของฝ่ายในสั่งให้ทหารองครักษ์มาเค้นหาความจริงเยี่ยงนี้

วางยาหรือ

นางกับคนตระกูลหมิ่งไม่เคยมีความแค้นต่อไท่จื่อเฟย ทั้งในตอนที่สตรีผู้นั้นเป็นเพียงคุณหนูตระกูลซ่ง จนปัจจุบันดำรงตำแหน่งพระชายาเอกของโอรสพระองค์โตของฮองเฮา กระทั่งได้พระราชทานยศเป็นไท่จื่อเฟย ตระกูลหมิ่งก็ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยว แทบจะไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคนของราชวงศ์เสียด้วยซ้ำ เรื่องการเมืองที่กำลังแบ่งฝ่ายกัน ตอนนี้ตระกูลหมิ่งก็มิเคยก้าวล่วง แล้วเหตุใดถึงได้มากล่าวหานางเช่นนี้

หยงอิ่งจงก้มใบหน้าจนแนบชิดอก เขาหาเหตุผลมาแย้งกรมวังไม่ได้ หลักฐานที่มีชี้ไปที่หมิ่งหุ้ยทั้งหมด

เขาพยายามแล้ว พยายามที่จะหาหลักฐานมาแก้ต่างให้นาง แต่ไม่มีเลย เขาจึงจำต้องเลือกวิธีนี้ สละทุกคนขอแค่ให้นางยังมีชีวิตอยู่ ไท่จื่อเฟยก็มีเมตตาเหลือทางเดินให้นางแล้ว ขอแค่นางยอมรับในสิ่งที่ทำ หลังจากนี้เขาจะรับมาเข้าจวนสกุลหยง แม้จะไม่ใช่ในฐานะฮูหยินเอกอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ในคราแรก แต่อย่างน้อย ๆ เขาและนางก็จะยังได้ครองรักกัน ได้อยู่ด้วยกัน แม้นางจะได้เป็นแค่อนุก็ตาม เพราะท้ายที่สุดนางก็ยังคงเป็นนักโทษของทางการ เป็นบุตรสาวของสตรีที่วางยาเชื้อพระวงค์ ความผิดทั้งหมดจะเป็นท่านป้าที่รับเอาไว้ทั้งหมด เพราะไท่จื่อเฟยจะยอมไว้ชีวิตนางเพียงแค่หมิ่งหุ้ยยอมรับในสิ่งที่กระทำ ก็เท่านั้น

“หุ้ยเอ๋อร์”

“ข้า อึก ไม่ได้ทำ”

“เจ้า! ยังมิสำนึกอีก”

“ไท่จื่อเฟยเสด็จ”

เสียงจากด้านนอกจวนดังเข้ามาถึงด้านใน บ่งบอกว่าผู้ใดมาถึงแล้วในเวลานี้

หมิ่งหุ้ยถูกฝ่ามือหนากดศีรษะลงแนบติดกับพื้นดิน

“ว่าอย่างไรนางรับหรือไม่” เสียงหวานเอ่ยถาม นางปรายตามองสตรีที่เป็นคนรักขององครักษ์ของตน

“…”

“มิยอมรับอย่างนั้นหรือ น่าแปลกเสียจริง ทำแล้วไยถึงไม่กล้ารับผิด” ไท่จื่อเฟยทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ที่นางกำนัลเร่งไปจัดหามาให้อย่างแผ่วเบา พระนางคาดเดาเอาไว้อยู่แล้วหมิ่งหุ้ยไม่มีทางที่จะรับสารภาพ ดูจากที่ร่างกายนางยังมิบอบช้ำเลยแม้แต่น้อย เดาไม่ยากว่าหยงอิ่งจงมิกล้าลงมือกับหมิ่งหุ้ย พระนางจึงเดินทางมาสำเร็จโทษครั้งนี้ด้วยตนเอง ป้องกันความผิดพลาดจากความใจอ่อนขององครักษ์หน้าหยกของพระนาง

“ข้าไม่ได้ทำ ไยต้องรับ” หมิ่งหุ้ยปัดฝ่ามือหนาที่กดศีรษะของนางออก นางเงยมองหน้าคนที่บอกว่านางวางยาด้วยสายตาเต็มได้ด้วยความโกรธ

“ปากแข็งเสียจริง เฆี่ยนจนกว่านางจะพูด!” ไท่จื่อเฟยสั่งเสียงเหี้ยม

ขันทีที่ติดตามพระนางมาส่งแส้ให้กับองครักษ์คนสนิทของไท่จื่อเฟย ราวกับเป็นการบอกกลาย ๆ ว่าผู้ใดต้องเป็นคนลงมือเค้นคำตอบจากนักโทษ

หยงอิ่งจงกัดกรามแน่นแต่ก็เอื้อมมือไปรับแส้นั่นมาถือเอาไว้

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ไม่ว่าอย่างไร ก็มิอาจปล่อยวาง   บทที่33

    บทที่ 33ตำหนักบูรพาในวันนี้ไม่เหมือนวันเก่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าของตำหนักก็ยิ่งไม่เหมือนเดิม“ไท่จื่อ ฮองเฮาส่งเทียบของคุณหนูตระกูลต่าง ๆ มาให้อีกแล้วนะพ่ะย่ะค่ะ” ไท่จื่อที่เคยถูกหลอกเมื่อก่อน ตอนนี้โตเป็นชายหนุ่มร่างกำยำ เขาฝึกยุทธ์เหมือนเสด็จอาของเขา และยังคิดทำอะไรหลาย ๆ อย่างเหมือนเสด็จอาของตนด้วยที่เห็นกันชัด ๆ ก็คงเป็นเรื่องพระชายา เพราะครั้งหนึ่งเคยได้แต่งไปกับคนที่มีนิสัยเช่นซ่งอี้หลิน จึงทำให้มีปัญหาเรื่องความไว้ใจสตรีหากพูดคุยแล้วพึงใจแต่ดันไปทำอะไรให้พระองค์ตะขิดตะขวงใจแม้เพียงนิด ความพึงพอใจที่ผ่านมาอาจจะกลายเป็นศูนย์ไปเลยก็เป็นได้“แต่ว่า...”“เจ้าไม่ต้องมาพูดม

  • ไม่ว่าอย่างไร ก็มิอาจปล่อยวาง   บทที่32

    บทที่ 32ในทุก ๆ ปี ท่านอ๋องหยางซวี่เหวินและพระชายาร่วมถึงบรรดาพระโอรสและพระธิดาจะเสด็จมาเมืองหลวงเป็นประจำทุกปีนั่นก็เพราะพระชายาจะพาหลาน ๆ มาเคารพสุสานบรรพชนและก็ไม่ลืมที่จะแวะเข้าไปเยี่ยมเยียนฮ่องเต้และฮองเฮา รวมถึงองค์รัชทายาทที่ยามนี้โตเป็นชายหนุ่มแล้ว“ทำไมที่นี่ถึงไม่มีคนอยู่หรือเสด็จแม่” พระโอรสคนที่สี่ซึ่งเป็นเด็กอยากรู้อยากเห็นเอ่ยถามขึ้นเมื่อเขาได้มาที่นี่เป็นปีที่สองแล้ว ตอนนี้เจ้าตัวอายุได้ สี่ชันษาจึงกำลังพูดมากพอสมควร“เสด็จแม่ลูกอธิบายน้องเองพ่ะย่ะค่ะ” ทั้ง ๆ ที่หมิ่งหุ้ยอยากจะเลี้ยงพระโอรสและพระธิดาทุกคนอย่างคนธรรมดาสามัญแต่เพราะศักดินาที่มี อย่างไรหนึ่งในทั้งหมดนี่ก็ต้องดูแลที่ดินและชาวบ้านแถว ๆ นั้น จึงทำให้สุดท้ายทุกคนจึงเป็นท่านหญิงและท่านชายที่น่าเคาร

  • ไม่ว่าอย่างไร ก็มิอาจปล่อยวาง   บทที่31

    บทที่ 31“เป็นข่าวดีพ่ะย่ะค่ะ พระชายาของท่านอ๋องทรงพระครรภ์แล้ว” หลังจากเงียบเชียบนานนับปี ในที่สุดก็มีข่าวดีจากทั้งสอง“ท่านอ๋องเป็นอะไรเพคะ” หยางซวี่เหวินได้ฟังก็ตื้นตันจนร้องไห้ เรื่องนี้ทำให้มู่เฉิงที่เป็นราชองครักษ์ข้างกายตกใจมากจนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยเย้า “กระหม่อมคงต้องนำเรื่องนี้ไปบอกกับทุกคนแล้ว”หยางซวี่เหวินคิดว่ามู่เฉิงหมายถึงเรื่องข่าวการตั้งครรภ์ แต่เปล่า เจ้าตัวกลับส่งข่าวให้ทุกคนว่าเขาร้องไห้เพราะรู้ว่าพระชายาของตนตั้งครรภ์ “มู่เฉิงหากไม่ใช่เจ้าข้าจะสั่งโบยให้ดู” แม้จะโดนขู่เช่นนั้นแต่มู่เฉิงก็มิได้สะทกสะท้าน นั่นก็เพราะยามนี้ท่านอ๋องทรงประชวร“ทรงรักษาพระวรกายเถอะพ่ะย่ะค่ะ หายแล้วค่อยม

  • ไม่ว่าอย่างไร ก็มิอาจปล่อยวาง   บทที่30

    บทที่ 30หลังจากงานมงคลหมิ่งหุ้ยก็ได้เข้าไปยกน้ำชาให้กับฮ่องเต้ ในวังเพราะเสด็จพ่อและเสด็จแม่ของทั้งสองจากไปแล้ว พี่ชายอย่างฮ่องเต้จึงถือเป็นผู้อาวุโสของตระกูลหมิ่งหุ้ยแต่งเข้าตระกูลหยางก็ต้องเคารพบรรพบุรุษ“อภัยให้กับอี้หลินด้วยนะหุ้ยเอ๋อร์” เสียงของฮองเฮาเอ่ยกับน้องสะใภ้ของตน“ข้าเองก็อโหสิกรรมให้นางแล้ว ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เรื่องราวถึงได้” ฮ่องเต้หันไปประคองฮองเฮาเอาไว้“เรื่องมันแล้วไปแล้ว จะรื้อฟื้นก็คงจะทำไม่ได้ เจ้าอย่าได้เสียใจไปเลย แม้จะมีความสูญเสียแต่ก็มีเรื่องดี ๆ อย่างการที่เจ้าทั้งสองได้มาเจอกัน คนเป็นพี่อย่างข้าเห็นแล้วก็รู้สึกสบายใจที่ซวี่เหวินจะมีคนรักสักที เจ้ารู้ไหมหุ้ยเอ๋อร์ เขาไม่เคยมีคนรักมาก่อน&rd

  • ไม่ว่าอย่างไร ก็มิอาจปล่อยวาง   บทที่29

    บทที่ 29“ในเมื่อเรื่องราวเป็นเช่นนี้แล้ว เจ้าจะทำอย่างไรต่อไป” หยางซวี่เหวินเอ่ยเช่นนั้นออกไปเพราะเขารู้ว่านางไม่ได้มีใจให้เขาจึงอยากให้นางเป็นอิสระ แม้ภายในใจต้องเจ็บปวดที่วันข้างหน้าจะไร้หมิ่งหุ้ยเคียงข้าง แต่ก็อยากให้นางเป็นผู้เลือก“อย่างที่หม่อมฉันบอกคงกลับไปหาท่านพ่อและเมาเมา อยู่กับพวกเขาทำให้หม่อมฉันสงบใจไม่คิดเรื่องครอบครัวที่จากไปได้บ้าง” หยางซวี่เหวินอยากเอ่ยถามว่าเช่นนั้นไปอยู่กับข้าดีหรือไม่แต่ก็ไม่กล้า แม้จะอยากปล่อยนางไปแต่อีกใจก็อยากเก็บนางเอาไว้ข้างกายทางด้านหมิ่งหุ้ยที่เห็นบุรุษตรงหน้าไม่ได้พูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ใด ๆ ก็คิดว่าเขาคงมองเรื่องระหว่างเขากับนางว่าเป็นไปไม่ได้ “บางทีนี่อาจจะเป็นบาปกรรมของหม่อมฉันด้วยที่ทำให้ต้องเดียวดายตลอดไป” นา

  • ไม่ว่าอย่างไร ก็มิอาจปล่อยวาง   บทที่28

    บทที่ 28กริ๊ก!เสียงตลับยาสีเงินใบเล็กเปิดออก นางพกมันซ่อนเอาไว้ในถุงหอม ตลับยาหล่นลงบนพื้นเมื่อนางเทของที่อยู่ในถุงหอมออกมา หมิ่งหุ้ยยกยิ้มเย็น นางบรรจงเปิดตลับยานั่น ภายในมีผงสีขาว นอกจากจะเก็บสมุนไพรมารักษาบาดแผลและหากเหลือจะให้ท่านพ่อจางหลงนำไปขายแล้ว สิ่งที่นางตามหาอีกอย่างคือ หญ้าเถา เดิมชาวบ้านจะนำมาบดหยาบแล้วจุ่มลงแม่น้ำเพื่อเบื่อปลา ทำให้ปลาในแม่น้ำหายใจไม่ออกและว่ายขึ้นเหนือน้ำ และแน่นอนว่าหากนำไปบดเป็นผงก็ยังสามารถใช้เบื่อหนูและสัตว์อื่น ๆ ได้ ไม่เว้นแม้กระทั่งมนุษย์ นางผสมตลับหนึ่งไว้ช่วยชีวิตคน อีกตลับเอาไว้… วันนี้นางค่อย ๆ บรรจงเทผงสีขาวลงในปากของซ่งอี้หลินอย่างใจเย็น ทำราวกับกำลังดื่มด่ำชาเลิศรส ชานั่นมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ มันมีชื่อเรียกว่า การแก้แค้นอันหอมหวาน“นี่ใ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status