LOGINในใจของเดเมี่ยนอยากจะเอ่ยถามออกไป ว่าจีเซลจะส่งของพวกนี้กลับมาทำไมกัน
สิ่งใดที่เขาส่งมอบให้เธอไปแล้ว เขาไม่เคยคิดที่จะทวงคืนเลยสักหน่อย.. “เป็นอะไรไปคะท่านดยุค สีหน้าของท่านในวันนี้ไม่ดีเลย” อาเรียคือเพื่อนเพียงคนเดียวของเขา เราทั้งคู่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่วัยเด็ก “ดูเหมือนว่าเมื่อคืนนี้ข้าจะพบเจอกับสตรีที่ถูกใจมากล่ะ นางน่ารักแล้วก็เป็นสตรีในแบบที่ข้าชอบเลย แต่มีเรื่องแย่นิดหน่อยตรงที่นางเป็นสาวใช้ที่เจียมตัวมากๆ ..นางปฏิเสธข้าทุกอย่าง แถมยังบอกกับข้าอีกว่าห้ามข้าลดตัวลงไปหานาง” เดเมี่ยนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ และนั่นทำให้อาเรียหัวเราะออกมาเบาๆ “ที่แท้คนทึ่มเช่นเจ้าก็มีความรักแล้วอย่างนั้นสินะ” “นี่ไม่ใช่เรื่องตลกนะอาเรีย เมื่อคืนนี้ข้าแทบข่มตานอนไม่หลับเพราะมัวแต่คิดถึงใบหน้าของนาง ข้าไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนในชีวิตเลย..มันแบบว่าเหมือนอยู่ๆก็มีมือที่มองไม่เห็นมาบีบเคล้นหัวใจของข้า” ดูท่าว่าเดเมี่ยนจะเป็นเอามากแล้ว “แต่อีกฝ่ายคือสาวใช้นะเดเมี่ยน นางเฉลียวฉลาดที่ปฏิเสธความรู้สึกของเจ้าตั้งแต่เริ่มแรก สิ่งที่นางกระทำนั้นถูกต้องที่สุดแล้ว" เรื่องนั้นเขารู้..เดเมี่ยนรู้ดีเลยล่ะ ว่าเขาและนางมันไม่สามารถลงเอยด้วยกันได้ “แต่ถึงอย่างนั้น..แค่ได้คุยกันอีกครั้งสองครั้งก็ยังดี ขอร้องล่ะอาเรีย เจ้าไปที่คฤหาสน์ซากอสด้วยกันกับข้าหน่อยสิ เจ้าในฐานะคู่หมั้นเดินทางไปที่นั่นย่อมไม่น่าเกลียดอยู่แล้ว” เดเมี่ยนกล่าวพร้อมกับส่งสายตาน่าสงสารมาที่อาเรีย..บอกตามตรงว่าถึงเธอจะเป็นคู่หมั้นของท่านเคาน์ซากอส แต่ทว่ามันคือการหมั้นหมายที่เราทั้งคู่พร้อมจะยกเลิกกันทุกเมื่อ เขาไม่ได้สนใจหรือว่ารักเธอเลยแม้แต่นิดเดียว และชื่อเสียงของท่านเคาน์เกี่ยวกับสตรีก็ไม่ดีเอามากๆ เขามีนางบำเรอที่เป็นนักร้องโอเปร่า แถมยังควงสตรีผู้นั้นออกหน้าออกตาโดยไม่สนใจชื่อเสียงของเธอเลยด้วยซ้ำ หากนี่ไม่ใช่การหมั้นหมายที่ทำขึ้นมาจากพ่อแม่ของท่านเคาน์ผู้ล่วงลับ เธอก็อยากจะออกตัวเพื่อยกเลิกการหมั้นหมายในครั้งนี้ไปซะ “เดเมี่ยน..ข้าไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับท่านเคาน์เลย การหมั้นหมายนั้นมันไม่ได้มาจากความตั้งใจของข้าและท่านเคาน์สักหน่อย..ข้าและท่านเคาน์เจอกันแทบจะนับครั้งได้ แล้วอยู่ๆ เจ้าจะให้ข้าไปหาท่านเคาน์เนี่ยนะ ข้าไม่ไปหรอก..” เดเมี่ยนลุกขึ้นแล้วคุกเข่าต่อหน้าของ อาเรีย “เจ้าเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของข้านะอาเรีย ได้โปรดช่วยข้าสักครั้งเถอะ อีกทั้งหากเจ้าไม่อยากหมั้น เช่นนั้นถือโอกาสนี้ไปพูดคุยถึงเรื่องการถอนหมั้นดีหรือไม่ ข้าจะช่วยเจ้าอีกแรง ในฐานะที่เจ้ายอมออกหน้าเพื่อช่วยให้ข้าได้พบกับสตรีที่อยู่ในดวงใจ” ถอนหมั้นอย่างนั้นหรือ ฟังดูไม่เลวเลยแฮะ ที่เดเมี่ยนยื่นข้อเสนอนี้มาให้เธอเพราะเจ้าเพื่อนคนนี้รู้ดีว่าเธอกำลังแอบชอบองค์รัชทายาทอยู่..แต่เธอไม่สามารถแสดงความรู้สึกที่มีต่อพระองค์อย่างตรงไปตรงมาได้ เพราะมันติดสัญญาการหมั้นหมายอันนี้นี่แหละ “เรื่องนั้นน่าสนใจดีนี่เดเมี่ยน..” และด้วยเหตุนั้นเอง อาเรียและเดเมี่ยนจึงเดินทางมาที่คฤหาสน์ซากอสตั้งแต่เช้า . . จีเซลไม่ค่อยคุ้นเคยกับบ้านหลังใหม่เท่าไหร่นัก แต่หากนี่คือความเมตตาของท่านเคาน์ เช่นนั้นเธอก็จะยินยอมรับเอาไว้ก็แล้วกัน งานของจีเซลในวันนี้คือการทำความสะอาดจะจัดของในบ้านหลังใหม่ เธอกำลังตั้งท่าว่าจะจัดการเก็บเจ้ากล่องพวกนั้นให้เป็นที่เป็นทางแต่ทว่าเสียงของคาริก็ดังขึ้นมาที่ด้านนอกบ้าน “จีเซล เจ้าทำอะไรอยู่รีบออกมาด่วนเลย!!” จีเซลเดินออกมาที่ด้านนอกบ้านอย่างรวดเร็ว “มีอะไรรึเปล่าคาริ” เพราะเห็นท่าทีของเพื่อนสาวใช้ที่วิ่งมาอย่างรวดเร็วจนน่าเป็นห่วง จีเซลจึงรีบเดินออกมาหาคาริ “ท่านดยุคมาที่นี่ แต่ว่านั่นไม่ใช่ประเด็นเพราะว่าท่านดยุคมาที่นี่พร้อมกับเลดี้อารีเอนคู่หมั้นของท่านเคาน์” อา..ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมใบหน้าของจีเซลมันถึงได้ชาไปหมด เมื่อเธอได้ยินคำว่าคู่หมั้นของท่านฟาเบียน “แล้ว..เจ้าวิ่งมาตามข้าทำไมกัน..ไม่เห็นมีเหตุอะไรที่ข้าต้องไป..” “ท่านดยุคต้องการพบเจ้า ให้ตายสิเจ้าควรจะฉีกยิ้มกว้างและดีใจไม่ใช่รึไง นั่นท่านดยุคนิกซ์เลยนะจีเซล ท่านคือหนุ่มหล่อที่อยู่ในความฝันของเราทั้งสองคน รออะไรอยู่ล่ะรีบเข้าไปแต่งตัวเร็วๆ สิ” เมื่อกล่าวจบคาริก็ผลักหลังของจีเซลให้เดินกลับเข้าไปในบ้าน “หลังจากนี้ให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง เชื่อมือข้าได้เลย!” “คาริ ไม่ต้องทำถึงขั้นนั้นก็ได้..” “ได้ที่ไหนกัน มีโอกาสไม่บ่อยหรอกนะที่จะได้พบเจอกับชายในฝันน่ะ เพราะอย่างนั้นเจ้าควรจะสวยที่สุดเท่าที่ทำได้สิ!” แน่นอนว่าหลังจากนั้นคาริก็จัดการแต่งหน้าให้กับจีเซลพร้อมกับสวมชุดสาวใช้ชุดใหม่ให้เพื่อน “สู้ๆ นะจีเซล..ไม่ต้องกดตัวเองให้ต่ำลงมากเกินไป ถึงจะเป็นแค่สาวใช้แต่เราก็คือมนุษย์คนหนึ่ง หากมีใจรักกันไม่ว่าอะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น เจ้าแค่ต้องกล้าหน่อย..อย่าขี้ขลาดเข้าใจรึเปล่า!!” จีเซลส่งยิ้มให้คาริ..เธอคิดว่าคาริกำลังเข้าใจผิดเรื่องของเธอและท่านดยุค แต่ทว่าคำแนะนำของคาริมันทำให้เธอ..มีแรงฮึดสู้อีกครั้ง จีเซลเดินเข้าไปในห้องรับรอง กลิ่นดอกไม้หอมๆ ลอยฟุ้งขึ้นมาในอากาศ แตกต่างจากบรรยากาศแสนกดดันในห้องนี้ ท่านเคาน์กำลังมองมาที่เธอและแววตาของเขานั้นมันเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “มาแล้วหรือจีเซล ข้าคิดว่าท่านเคาน์และอาเรียคงมีเรื่องพูดคุยกันมากทีเดียว เช่นนั้นเราไปเดินเล่นในสวนด้วยกันน่าจะดีกว่า..” เดเมี่ยนไม่ยอมพลาดโอกาส เขาไม่เอ่ยถามความคิดเห็นของเธอด้วยซ้ำ แต่กลับกล่าวคำที่เต็มไปด้วยการบังคับออกมามากกว่า “..ค่ะท่านดยุค” สตรีที่นั่งอยู่นั้นคือเลดี้อารีเอนไม่ผิดแน่ คู่หมั้นของท่านเคาน์ก็ช่างงดงามไร้ที่ติจริงๆ “.....” อาเรียมองหน้าของจีเซลสลับกับใบหน้าของท่านเคาน์ เธอแค้นหัวเราะออกมาในลำคอแล้วยื่นกระดาษที่เตรียมมาให้ท่านเคาน์ “ข้าเบื่อหน่ายกับการเป็นคู่หมั้นจอมปลอมแล้วค่ะ มาลงนามในนี้แล้วก็แยกย้ายกันไปใช้ชีวิตเถอะนะคะ” สวย..มากจริงๆ ขนาดอยู่ในชุดสาวใช้ที่จืดชืดเช่นนั้น แต่ทว่าก็ยังงดงามมากเสียจนทำให้ผู้พบเห็นดวงตาพร่ามัวได้ ไม่แปลกใจหรอกที่เดเมี่ยนจะชอบถึงขั้นเก็บไปเพ้อฝัน แต่จากที่ดูแล้วไม่ใช่แค่เดเมี่ยนเท่านั้นที่หลงเสน่ห์สาวใช้ผู้นั้น เคาน์ซากอสเองก็จ้องมองไม่วางตาเลยเหมือนกันเลดี้จัสมิน แห่งตระกูลซากอส สตรีงดงามผู้ถอดแบบมาจากมารดา และสง่าดังเช่นบิดาเธอมีน้องชายสองคน แต่ทว่าสิ่งที่จัสมินไม่เข้าใจคือทำไม..เธอจะต้องมาฝึกดาบกับน้องชายด้วยนะ“ฟังพ่อนะจัสมิน ถึงแม้ว่าเจ้าจะเป็นสตรีแต่ทว่าเจ้าก็สามารถแข็งแกร่งได้ เจ้าจะต้องปกป้องดูแลตัวเองให้ได้ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ต่อให้พ่อไม่อยู่หรือว่าเจ้าต้องอยู่ตามลำพัง เจ้าก็จะต้อง..เข้มแข็งนะลูกรัก”จัสมินไม่เข้าใจที่ท่านพ่อกล่าวเท่าไหร่นัก แต่ทว่าตัวเธอเองนั้นก็ชื่นชอบการฟันดาบมากๆ เลยล่ะราวกับว่าชาติที่แล้วเธอเคยเป็นนักดาบที่เก่งกาจมาก่อน ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นใครเธอล้วนแล้วแต่เอาชนะได้ทั้งหมด“ท่านแม่..พบเจอท่านพ่อได้อย่างไรหรือคะ?”จีเซลที่กำลังจัดดอกไม้ใส่แจกันเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อลูกสาวของเธอเอ่ยถามถึงเรื่องนั้น เธอมองหน้าของอันนาก่อนจะหัวเราะออกมา“เดิมทีแม่เป็นเพียงสาวใช้เท่านั้น แม่คือสาวใช้ส่วนตัวของท่านพ่อ และ..ความรักมันเริ่มต้นขึ้นตรงนั้น”จัสมินกะพริบตาปริบๆ“ท่านพ่อแอบชอบท่านแม่ก่อนอย่างนั้นหรือคะ”ในชีวิตของจัสมินสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า เธอยังไม่เคยพบเจอสตรีใดที่งดงามเท่าท่านแม่มาก่อนเลย“ผิ
“ยินดีด้วยนะคะเลดี้อาเรีย”สองปีหลังจากนั้นงานอภิเษกขององค์รัชทายาทและเลดี้อารีเอนถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่จีเซลเริ่มสนิทสนมกับเลดี้อาเรียตั้งแต่หลังงานแต่งงานของเธอ อาจจะเพราะเธอไปมาหาสู่กับเดเมี่ยนบ่อยจึงทำให้ได้พบเจอกับอาเรียบ่อยไปด้วย“ข้าสวยแล้วใช่ไหมจีเซล ให้ตายสิข้าไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่นัก ไม่รู้ว่าจะทำเรื่องผิดพลาดอะไรในพิธีอภิเษกหรือไม่”อาเรียเป็นกังวลมากทีเดียว คราแรกที่จีเซลพบเห็นอาเรีย เธอมองว่าสตรีผู้นี้มีความมั่นใจในแบบที่จะต้องเป็นสตรีที่ไม่เกรงกลัวสิ่งใดอย่างแน่นอนทว่าในความจริงอาเรียไม่เกรงกลัวใครเลยนอกจากองค์รัชทายาท จะเรียกว่าเกรงกลัวก็คงไม่เหมาะเพราะว่ามันคือความเกรงใจมากกว่าอีกฝ่ายเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ผู้ซึ่งจะได้ขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิในอนาคต ฉะนั้นแล้วการที่อาเรียกำลังตื่นตระหนกนั้นไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดพลาดหรอก“ไม่มีอะไรต้องกังวลเลยค่ะ ในเรื่องความงดงามนั้นเลดี้งดงามมากกว่าใครๆ อยู่แล้ว ในครั้งที่ข้าแต่งงานกับท่านเคาน์ ข้าจำได้ว่าในช่วงเวลาที่ข้าควงแขนของเดเมี่ยน ข้าไม่ได้มองแขกในงานหรือว่าผู้ใดเลย ถึงแม้ว่าท่านฟาเบียนจะยืนอยู่ไกลมากพอสมควรแต่ทว่าสายตาของข้านั
“ยินดีด้วยนะคะท่านเคาน์ ในตอนนี้เคาน์เตสตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้วค่ะ”วันเวลาผ่านไปไวมากกว่าที่คิดเอาไว้ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน งานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ ฟาเบียนเปิดเผยอย่างเป็นทางการโดยไม่คิดปิดบังว่าเขาตกหลุมรักสาวใช้ผู้หนึ่ง และอยากแต่งงานกับนางเพื่อประกาศให้ทุกคนล่วงรู้ว่าเขานั้นมีภรรยาแล้วแน่นอนว่าทันทีที่ข่าวลือนั้นเผยแพร่ออกไป เรื่องนี้ก็ถูกพูดถึงในวงกว้างมากทีเดียวผู้คนในจักรวรรดิต่างมีความคิดเหมือนกันนั่นคือพวกเขาต่างก็อยากจะเห็นใบหน้าของเคาน์เตสที่สามารถหยุดยั้งความเจ้าชู้ของท่านเคาน์ได้ ในวันแต่งงานจึงมีผู้คนมากมายทั้งขุนนางและประชาชนทั่วไปเข้าร่วมงานแต่งอย่างคับคั่งและสิ่งที่พวกเขาได้เห็นก็ประจักษ์แจ้งแก่สายตาแล้วว่าเคาน์เตสผู้นั้น..งดงามจนแทบลืมหายใจ“หากงดงาม เช่นนั้นก็ไม่แปลกหรอกที่จะตรึงใจท่านเคาน์เอาไว้ได้น่ะ”เสียงของชาวเมืองต่างกล่าวถึงในแนวเดียวกัน คือพวกเขาต่างชื่นชมที่ท่านเคาน์ออกมาป่าวประกาศโดยไม่คิดปิดบังว่าเคาน์เตสเป็นเพียงสาวใช้สิ่งที่พิเศษมากไปกว่านั้นคือในวันแต่งงาน บุรุษที่ควงแขนของ เคาน์เตสคือท่านดยุคนิกซ์เดเมี่ยนให้เหตุผลว
ดวงตาที่มีความสามารถตามติดมาตั้งแต่เกิด เดเมี่ยนนั้นสามารถมองเห็นความเป็นจริงได้ทั้งหมด ทั้งเนื้อแท้ของผู้คนและความต้องการอันแรงกล้าของคนนั้นๆ ด้วยสิ่งที่เขามองเห็นจากความต้องการของจอมปีศาจนั่นคือ..ความรักและความโศกเศร้า“ข้าขอถามได้ไหมครับว่าทำไมท่านเคาน์ถึงได้เลือกจีเซลให้เป็นสาวใช้ส่วนตัวของท่าน”ฟาเบียนมองหน้าของจีเซลในระหว่างที่เขากำลังกุมมือของเธอเอาไว้แน่น“เพราะจอมมารต้องการนาง..ข้าเลือกนางเพราะจอมมารต้องการชีวิตของนาง”เดเมี่ยนหยักหน้าเบาๆ“ข้าเข้าใจแล้วครับ และเรื่องที่เขาจะเล่าต่อจากนี้ ข้าจะเล่าออกมาตามสิ่งที่ข้ามองเห็นนะครับ ดูเหมือนว่า..จอมมารจะมีความตั้งใจมาตั้งแต่แรกเพื่อให้ท่านทั้งสองรักกัน”จีเซลเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยราวกับว่าเธอไม่อยากเชื่อในสายตา“ข้าสามารถมองเห็นได้ทุกอย่าง ทั้งความโลภ หลง โกรธ และความรัก แต่ข้ากลับมองจีเซลไม่เห็นถึงความรู้สึกไหนเลย ช่วงเวลาที่ข้ามองเจ้านั้น ข้ารู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด ราวกับว่าเจ้ามีความหวังดีในแบบที่ไม่มีใครจะมอบให้ข้าได้เท่ากับเจ้าอีกแล้วในโลกใบนี้”แววตาของจีเซลอ่อนโยนลงเล็กน้อย ที่เขากล่าวออกมานั้นมันไม่ได้ผิดแม้แต่ครึ่งคำเ
เขาผลักเธอออกเบาๆ เป็นสัญญาณว่าเขาจะทนไม่ไหวหากเธอยังคงกระทำเช่นนี้ต่อไปความสุขสมเป็นสิ่งที่ผู้คนต่างปรารถนา แต่ทว่าเขาไม่อาจจะเอาเปรียบเธอ..เขาจับเธอให้คุกเข่าขึ้นมาก่อนจะซุกใบหน้าเข้าหากลีบดอกไม้สีหวาน แล้วดูดซดน้ำหวานสีใสที่ไหลรินออกมา“อื้อ!!”จีเซลซบใบหน้าลงไปบนหมอนใบใหญ่ ใบหน้าหวานส่ายไปมาบนหมอนใบใหญ่ เมื่อเขาละใบหน้าออกจากส่วนนั้น คราบน้ำหวานก็เปรอะเปื้อนที่มุมปาก ตรงนั้นของเธอมันเปียกชุ่มไปหมด ในยามนี้ฟาเบียนไม่ต้องการสิ่งใดแล้วนอกจากว่าเขาอยากจะแทรกกายเข้าหาเขาจับเธอนอนตะแคง ไม่นานก็สอดใส่ท่อนล่างเข้ามาในท่านนั้น เบื้องล่างแนบสนิทเหมือนขาที่ไขว้กันราวกับตัวล็อค“อ๊า!”เสียงร้องครางแสนหวานเปล่งออกมาในทุกครั้งที่ถูกกระทั้นกายเข้าหาอย่างรุนแรง เขากอดก่ายเธอแนบแน่นจนอะไรๆ ก็พากันแนบสนิทไปด้วย ส่วนที่เชื่อมต่อดันลึกแทบทะลุ เข้ากระทุ้งอย่างบ้าคลั่งหลายนาที ก่อนที่น้ำร้อนๆ จะอัดเต็มช่องท้อง ฟาเบียนซุกใบหน้าลงไปบนแผ่นหลังของจีเซลเพื่อดื่มด่ำกับความรู้สึกสุดยอดที่หาจากใครไม่ได้อีกแล้วนอกจากเธอ“..อีกรอบก็แล้วกัน”มันไม่เคยมีครั้งเดียวอยู่แล้วสำหรับเขาน่ะ แต่สำหรับจีเซลแล้วหากเธอสาม
“ขออภัยที่มารบกวนโดยที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้านะครับท่านดยุค”คอลตันกล่าวออกมาพร้อมกับก้มหน้าเพื่อเป็นการขอโทษที่เขากระทำการอันเสียมารยาท การเข้าพบโดยไม่ได้นัดหมายล่วงหน้านั้นมันคือเรื่องที่ไม่สมควรกระทำอย่างยิ่ง“ไม่เป็นไร เจ้าแจ้งแก่ทหารของข้าว่าเจ้ามาส่งจดหมายแทนจีเซล รีบส่งจดหมายนั้นมาให้ข้าสิ”การตัดใจทำได้ยากมากกว่าอะไรทั้งหมด เรื่องนั้นเดเมี่ยนยืนยันด้วยตัวเองเลย เขาลืมจีเซลไม่ลงแต่ทว่าก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ไปหาเธอ“นี่ครับ ข้าขอตัวกลับก่อนนะครับท่านดยุค”เมื่อพ่อบ้านตระกูลซากอสเดินจากไป เดเมี่ยนก็รีบเปิดจดหมายในมือออกมาอ่านในทันที“สวัสดีค่ะท่านดยุค ขออภัยที่ข้าเสียมารยาทถึงขั้นส่งจดหมายฉบับนี้มาด้วยนะคะ แต่เพราะว่าข้าไม่มีทางอื่นทางใดอีกแล้ว อย่างที่ท่านรู้ว่าท่านเคาน์มีปีศาจตามติดตัวของท่าน แต่ปีศาจตนนั้นไม่ได้เกิดจากความต้องการของท่านเคาน์เลยนะคะ ปีศาจตนนั้นคือสิ่งที่ท่านเคาน์ได้รับสืบทอดมาจากท่านพ่อของเขา และสิ่งที่ข้าอยากจะกระทำในยามนี้คือการร้องขอความช่วยเหลือจากท่านดยุคสักครั้ง หากท่านยินยอมออกหน้าช่วยเหลือ จีเซลผู้นี้จะไม่ลืมพระคุณของท่านเลย ข้าอยากให้ท่านใช้สาย







