LOGINฟาเบียนยกยิ้มก่อนที่เขาจะหัวเราะออกมาเบาๆ “แค่การยกเลิกสัญญาหมั้นหมาย เลดี้ไม่ต้องมาที่นี่ด้วยตัวเองก็ได้ครับ” ดูเหมือนว่าดยุคนิกซ์จะสร้างเรื่องอีกแล้ว หมอนั่นอุตส่าห์ไปลากจูงเลดี้อารีเอนที่ไม่เคยมาเหยียบที่นี่เลยสักครั้ง ให้มาที่นี่ได้ ไม่ใช่เพื่อการยกเลิกสัญญาหมั้นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ทว่าที่อารีเอนมาที่นี่ในวันนี้เพื่อต้องการพาเพื่อนรักอย่างดยุคนิกซ์มาหาจีเซล อา..อยู่ๆ เขาก็รู้สึกอยากจะสังหารใครสักคนให้รู้แล้วรู้รอดไป ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ ดยุคมายุ่งเกี่ยวพัวพันอยู่รอบๆ สิ่งของของเขา ไม่ว่าจะมองทางไหนมันก็น่าหงุดหงิดทั้งนั้น!! “ข้าย่อมต้องมาที่นี่ด้วยตัวเอง เพื่อพูดคุยกันให้แน่ชัด เพราะว่าข้ามั่นใจว่าท่านเคาน์เองก็ไม่เคยเห็นด้วยกับการหมั้นหมายในครั้งนี้เช่นเดียวกัน หากจะยกเลิกการหมั้นหมายก็ดูเหมือนว่าเราทั้งคู่จะเกิดความสบายใจขึ้นมา” ฟาเบียนประทับตราลงไปบนหนังสือยกเลิกการหมั้นหมาย “..ข้าประทับตราลงไปแล้ว และหวังอย่างยิ่งว่าหลังจากนี้เราจะไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องพบเจอกัน และเจ้าคงไม่ต้องมาที่นี่อีกแล้ว..” ฟาเบียนกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม เขากำลังบอกอารีเอนในใจว่าเธอไม่ควรมาเหยียบที่นี่เป็นครั้งที่สอง “ค่ะ ขอบคุณท่านเคาน์ที่เข้าใจ ระหว่างเราคงไม่มีอะไรต้องพูดคุยกันอีกแล้ว” อารีเอนก้มหน้าลงเพื่อเป็นการทำความเคารพและขอบคุณชายเบื้องหน้า บรรยากาศรอบๆ ตัวของเขามันทำให้เธอสัมผัสได้ถึงอันตรายที่อยู่รอบๆ ข้าง เคาน์ซากอสนั้นดูเหมือนคนที่สามารถสังหารผู้อื่นได้โดยที่ตาไม่กะพริบเลย..ช่างน่ากลัวยิ่งนัก เดเมี่ยนไม่รับรู้ถึงความอันตรายของชายผู้นี้เลยอย่างนั้นหรือ? . . “ข้านอนไม่หลับมาสองคืนแล้ว เพราะทุกครั้งที่หลับตาใบหน้าของเจ้าก็ผุดขึ้นมาในทันที” เพราะมีเวลาไม่มาก เดเมี่ยนจึงไม่อยากจะอ้อมค้อมอีกแล้วในเรื่องของความรู้สึก เขากล่าวออกมาอย่างตรงไปตรงมาและคอยลอบมองสีหน้าของจีเซลด้วย “..ข้าเป็นเพียงแค่สาวใช้เท่านั้นค่ะ ข้าชื่นชมท่านดยุคมากก็จริง แต่ข้าก็คาดหวังถึงเรื่องการแต่งงานของท่านอยู่เหมือนกัน ข้าคิดว่าในอนาคตท่านจะต้องพบเจอสตรีที่ดี และได้แต่งงานอย่างมีความสุข..ความรู้สึกที่ท่านมีให้ข้าในยามนี้มันเป็นเพียงแค่ความหวั่นไหวที่เกิดขึ้นมาชั่ววูบเท่านั้น..” อันที่จริงหากเป็นเธอในเมื่อก่อนอาจจะดีใจจนเป็นลมไปแล้วก็ได้ที่เดเมี่ยนลูกรัก มาสารภาพรักกับเธอเช่นนี้ แต่ทว่าตอนนี้เธอไม่ต้องการความรักและความเอ็นดูจากใครอีกแล้วนอกจากท่านเคาน์ฟาเบียนเท่านั้น น้ำเสียงที่ไร้เยื่อใยของเธอเสียดแทงขึ้นมาในใจ นี่จีเซลไม่สนใจเขาเลยจริงๆ งั้นเหรอ “หรือว่าในใจของเจ้านั้นมีผู้อื่นอยู่อย่างนั้นหรือ?” จีเซลระบายยิ้มหวานส่งให้เขา “ข้าเป็นแฟนคลับของท่านดยุคนะคะ ข้าน่ะคอยเฝ้าดูท่านอยู่ห่างๆ และรอคอยมองดูความสำเร็จของท่าน หากว่าท่านมีความสุข ข้าเองก็จะมีความสุขเช่นเดียวกัน เรื่องของเรานั้นมันไม่มีวันเป็นไปได้อย่างแน่นอน ” นี่คงเป็นการปฏิเสธที่เจ็บปวดมากทีเดียว เพราะจีเซลไม่ได้กล่าวปฏิเสธออกมาด้วยถ้อยคำที่โหดร้าย แต่เธอกลับบอกกล่าวกับเขาด้วยรอยยิ้มและความหวังดี “เช่นนั้นข้าเป็นเพื่อนเจ้าได้ไหม ข้าจะมาหาเจ้าในฐานะของเพื่อน..” “ไม่มีดยุคที่ไหนที่มีเพื่อนเป็นสาวใช้หรอกนะคะ ท่านสูงส่งและสง่างามอย่างที่ควรจะเป็นแล้ว อย่าทำให้ข้าอึดอัดใจเลยค่ะ” เดเมี่ยนของเธอนั้นจะต้องเข้มแข็งมากขึ้นแน่ๆ เขาจะต้องทำใจกับเรื่องนี้ไม่ช้าก็เร็ว ขอให้ท่านมีความสุขมากๆ นะคะท่านเดเมี่ยน ข้าจะ..คอยมองดูท่านอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ตลอดไปเลย . . “สภาพดูไม่ได้เลยนะเดเมี่ยน” อาเรียกล่าวออกมาก่อนจะมองดูเอกสารการยกเลิกหมั้นในมือ ขณะที่เดเมี่ยนกำลังเสียใจ แต่ทว่าอาเรียกลับดีใจจนยิ้มแก้มปริ “ดูเหมือนว่านางจะไม่สนใจข้าเลยอาเรีย จีเซลปฏิเสธข้าในทุกหนทางแค่เป็นเพื่อนนางยังไม่ยอมเป็นเพื่อนกับข้าเลย แล้วข้าต้องทำอย่างไรดี ต้องทำแบบไหนนางถึงจะสนใจข้า..หรือว่าข้าควรตัดใจจริงๆ” เรื่องนั้นเธอควรบอกออกไปแบบไหนดี เพราะเจ้าเพื่อนทึ่มของเธอนั้นไม่เคยมีความรักมาก่อน ก็เลยไม่ทันได้มองสายตาที่สาวใช้จีเซลมองท่านเคาน์ซากอส สายตาที่คนทั้งคู่มองกันมันมากกว่าเจ้านายและสาวใช้ธรรมดาๆ ทั่วไปอยู่แล้ว แถมในตอนที่จีเซลเดินออกไปกับเดเมี่ยน ท่านเคาน์ก็ข่มอารมณ์ไม่พอใจเอาไว้ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ “จีเซลน่าจะมีคนรักอยู่แล้ว เจ้าน่ะตัดใจซะเถอะ” เดเมี่ยนเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเพื่อนรักด้วยแววตาตกใจ “...ข้าถามนางเช่นนั้นออกไปเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่านางจะเลี่ยงตอบคำถามของข้า ให้ตายสิใครกันนะที่เป็นบุรุษผู้โชคดีคนนั้นที่ได้กุมหัวใจของจีเซล นางมั่นคงในความรักจนน่านับถือเลยแฮะ ถึงกับไม่สนใจข้าและเครื่องประดับที่ข้าให้ไปด้วย..นี่ข้าแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มแข่งเลยด้วยซ้ำ” อาเรียพ่นลมหายใจยาวออกมาทางปลายจมูก “เอาน่า..อย่างน้อยเจ้าก็มีความรักครั้งแรกแล้วไง เอาไว้งานเลี้ยงครั้งหน้ารับรองได้เลยว่าเจ้าจะต้องมีสตรีที่ถูกใจแน่ๆ คนเรามันก็ต้องมีผิดหวังในความรักกันบ้าง ไม่อย่างนั้นจะรักเป็นได้อย่างไรกัน” เดเมี่ยนแหงนใบหน้าขึ้นก่อนที่เขาจะหลับตาลงอย่างช้าๆ “นั่นสินะ..จีเซลคือรักแรกของข้าเลย ข้าจะจดจำนางอย่างไม่มีทางลืมแน่ๆ” ............ หลังจากที่ส่งท่านดยุคกลับเสร็จเรียบร้อย จีเซลก็เดินกลับมาที่บ้านพักของตัวเอง เธอยังคงไม่ละทิ้งความตั้งใจที่ว่าจะจัดบ้านใหม่..เพราะการทำงานคงทำให้เธอไม่คิดอะไรฟุ้งซ่านออกมา คู่หมั้นของท่านเคาน์นั้นช่างงดงามและเมื่อคนทั้งสองนั่งเคียงข้างกันก็ช่าง เหมาะสมและคู่ควรยิ่งนัก.. เกลียดตัวเองชะมัดเลย..เกลียดที่เธอชอบจะเอาเรื่องของท่านฟาเบียนมาคิดมาก และเกลียดที่เธอไม่กล้าไปหาและไปถามไถ่เขาตรงๆ ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าเธอกำลังกลัวคำตอบของเขา ให้ตายสิจีเซลผู้ชายมีเป็นร้อยแต่เธอดันไปชอบท่านเคาน์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของสตรีงั้นเรอะ!! อยากจะบ้าตายจริงๆ หากเธอคิดจะรักเขา เช่นนั้นเธอก็ควรที่จะต้องยอมรับในเรื่องราวที่ผ่านมาของเขาด้วยสิ..คนเราจะเปลี่ยนกันง่ายๆ ได้ยังไงเล่า จีเซลเลิกคิดเรื่องพวกนั้นแล้วหันหน้ากลับมาตั้งใจทำงานของเธอ เธอเปิดกล่องไม้ออกก็พบกับสร้อยคอที่ดูหรูหรามากเกินกว่าที่สาวใช้อย่างเธอจะสวมใส่ “นี่คงแพงมากแน่เลย..สร้อยสวยๆ แบบนี้เหมาะสมกับข้าที่ไหนกัน” ปลายนิ้วของจีเซลลูบไล้ลงไปบนเพชรเม็ดใหญ่ที่ถูกเจียระไนอย่างประณีต.. “ช่างเป็นของที่ไม่คู่ควรกับข้าเลย..” “ไม่คู่ควรตรงไหนกัน?” จีเซลเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย..คิ้วทั้งสองของเธอเลิกขึ้นสูงเมื่อเธอพบว่าท่านเคาน์เข้ามาในบ้านของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
เลดี้จัสมิน แห่งตระกูลซากอส สตรีงดงามผู้ถอดแบบมาจากมารดา และสง่าดังเช่นบิดาเธอมีน้องชายสองคน แต่ทว่าสิ่งที่จัสมินไม่เข้าใจคือทำไม..เธอจะต้องมาฝึกดาบกับน้องชายด้วยนะ“ฟังพ่อนะจัสมิน ถึงแม้ว่าเจ้าจะเป็นสตรีแต่ทว่าเจ้าก็สามารถแข็งแกร่งได้ เจ้าจะต้องปกป้องดูแลตัวเองให้ได้ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ต่อให้พ่อไม่อยู่หรือว่าเจ้าต้องอยู่ตามลำพัง เจ้าก็จะต้อง..เข้มแข็งนะลูกรัก”จัสมินไม่เข้าใจที่ท่านพ่อกล่าวเท่าไหร่นัก แต่ทว่าตัวเธอเองนั้นก็ชื่นชอบการฟันดาบมากๆ เลยล่ะราวกับว่าชาติที่แล้วเธอเคยเป็นนักดาบที่เก่งกาจมาก่อน ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นใครเธอล้วนแล้วแต่เอาชนะได้ทั้งหมด“ท่านแม่..พบเจอท่านพ่อได้อย่างไรหรือคะ?”จีเซลที่กำลังจัดดอกไม้ใส่แจกันเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อลูกสาวของเธอเอ่ยถามถึงเรื่องนั้น เธอมองหน้าของอันนาก่อนจะหัวเราะออกมา“เดิมทีแม่เป็นเพียงสาวใช้เท่านั้น แม่คือสาวใช้ส่วนตัวของท่านพ่อ และ..ความรักมันเริ่มต้นขึ้นตรงนั้น”จัสมินกะพริบตาปริบๆ“ท่านพ่อแอบชอบท่านแม่ก่อนอย่างนั้นหรือคะ”ในชีวิตของจัสมินสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า เธอยังไม่เคยพบเจอสตรีใดที่งดงามเท่าท่านแม่มาก่อนเลย“ผิ
“ยินดีด้วยนะคะเลดี้อาเรีย”สองปีหลังจากนั้นงานอภิเษกขององค์รัชทายาทและเลดี้อารีเอนถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่จีเซลเริ่มสนิทสนมกับเลดี้อาเรียตั้งแต่หลังงานแต่งงานของเธอ อาจจะเพราะเธอไปมาหาสู่กับเดเมี่ยนบ่อยจึงทำให้ได้พบเจอกับอาเรียบ่อยไปด้วย“ข้าสวยแล้วใช่ไหมจีเซล ให้ตายสิข้าไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่นัก ไม่รู้ว่าจะทำเรื่องผิดพลาดอะไรในพิธีอภิเษกหรือไม่”อาเรียเป็นกังวลมากทีเดียว คราแรกที่จีเซลพบเห็นอาเรีย เธอมองว่าสตรีผู้นี้มีความมั่นใจในแบบที่จะต้องเป็นสตรีที่ไม่เกรงกลัวสิ่งใดอย่างแน่นอนทว่าในความจริงอาเรียไม่เกรงกลัวใครเลยนอกจากองค์รัชทายาท จะเรียกว่าเกรงกลัวก็คงไม่เหมาะเพราะว่ามันคือความเกรงใจมากกว่าอีกฝ่ายเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ผู้ซึ่งจะได้ขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิในอนาคต ฉะนั้นแล้วการที่อาเรียกำลังตื่นตระหนกนั้นไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดพลาดหรอก“ไม่มีอะไรต้องกังวลเลยค่ะ ในเรื่องความงดงามนั้นเลดี้งดงามมากกว่าใครๆ อยู่แล้ว ในครั้งที่ข้าแต่งงานกับท่านเคาน์ ข้าจำได้ว่าในช่วงเวลาที่ข้าควงแขนของเดเมี่ยน ข้าไม่ได้มองแขกในงานหรือว่าผู้ใดเลย ถึงแม้ว่าท่านฟาเบียนจะยืนอยู่ไกลมากพอสมควรแต่ทว่าสายตาของข้านั
“ยินดีด้วยนะคะท่านเคาน์ ในตอนนี้เคาน์เตสตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้วค่ะ”วันเวลาผ่านไปไวมากกว่าที่คิดเอาไว้ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน งานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ ฟาเบียนเปิดเผยอย่างเป็นทางการโดยไม่คิดปิดบังว่าเขาตกหลุมรักสาวใช้ผู้หนึ่ง และอยากแต่งงานกับนางเพื่อประกาศให้ทุกคนล่วงรู้ว่าเขานั้นมีภรรยาแล้วแน่นอนว่าทันทีที่ข่าวลือนั้นเผยแพร่ออกไป เรื่องนี้ก็ถูกพูดถึงในวงกว้างมากทีเดียวผู้คนในจักรวรรดิต่างมีความคิดเหมือนกันนั่นคือพวกเขาต่างก็อยากจะเห็นใบหน้าของเคาน์เตสที่สามารถหยุดยั้งความเจ้าชู้ของท่านเคาน์ได้ ในวันแต่งงานจึงมีผู้คนมากมายทั้งขุนนางและประชาชนทั่วไปเข้าร่วมงานแต่งอย่างคับคั่งและสิ่งที่พวกเขาได้เห็นก็ประจักษ์แจ้งแก่สายตาแล้วว่าเคาน์เตสผู้นั้น..งดงามจนแทบลืมหายใจ“หากงดงาม เช่นนั้นก็ไม่แปลกหรอกที่จะตรึงใจท่านเคาน์เอาไว้ได้น่ะ”เสียงของชาวเมืองต่างกล่าวถึงในแนวเดียวกัน คือพวกเขาต่างชื่นชมที่ท่านเคาน์ออกมาป่าวประกาศโดยไม่คิดปิดบังว่าเคาน์เตสเป็นเพียงสาวใช้สิ่งที่พิเศษมากไปกว่านั้นคือในวันแต่งงาน บุรุษที่ควงแขนของ เคาน์เตสคือท่านดยุคนิกซ์เดเมี่ยนให้เหตุผลว
ดวงตาที่มีความสามารถตามติดมาตั้งแต่เกิด เดเมี่ยนนั้นสามารถมองเห็นความเป็นจริงได้ทั้งหมด ทั้งเนื้อแท้ของผู้คนและความต้องการอันแรงกล้าของคนนั้นๆ ด้วยสิ่งที่เขามองเห็นจากความต้องการของจอมปีศาจนั่นคือ..ความรักและความโศกเศร้า“ข้าขอถามได้ไหมครับว่าทำไมท่านเคาน์ถึงได้เลือกจีเซลให้เป็นสาวใช้ส่วนตัวของท่าน”ฟาเบียนมองหน้าของจีเซลในระหว่างที่เขากำลังกุมมือของเธอเอาไว้แน่น“เพราะจอมมารต้องการนาง..ข้าเลือกนางเพราะจอมมารต้องการชีวิตของนาง”เดเมี่ยนหยักหน้าเบาๆ“ข้าเข้าใจแล้วครับ และเรื่องที่เขาจะเล่าต่อจากนี้ ข้าจะเล่าออกมาตามสิ่งที่ข้ามองเห็นนะครับ ดูเหมือนว่า..จอมมารจะมีความตั้งใจมาตั้งแต่แรกเพื่อให้ท่านทั้งสองรักกัน”จีเซลเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยราวกับว่าเธอไม่อยากเชื่อในสายตา“ข้าสามารถมองเห็นได้ทุกอย่าง ทั้งความโลภ หลง โกรธ และความรัก แต่ข้ากลับมองจีเซลไม่เห็นถึงความรู้สึกไหนเลย ช่วงเวลาที่ข้ามองเจ้านั้น ข้ารู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด ราวกับว่าเจ้ามีความหวังดีในแบบที่ไม่มีใครจะมอบให้ข้าได้เท่ากับเจ้าอีกแล้วในโลกใบนี้”แววตาของจีเซลอ่อนโยนลงเล็กน้อย ที่เขากล่าวออกมานั้นมันไม่ได้ผิดแม้แต่ครึ่งคำเ
เขาผลักเธอออกเบาๆ เป็นสัญญาณว่าเขาจะทนไม่ไหวหากเธอยังคงกระทำเช่นนี้ต่อไปความสุขสมเป็นสิ่งที่ผู้คนต่างปรารถนา แต่ทว่าเขาไม่อาจจะเอาเปรียบเธอ..เขาจับเธอให้คุกเข่าขึ้นมาก่อนจะซุกใบหน้าเข้าหากลีบดอกไม้สีหวาน แล้วดูดซดน้ำหวานสีใสที่ไหลรินออกมา“อื้อ!!”จีเซลซบใบหน้าลงไปบนหมอนใบใหญ่ ใบหน้าหวานส่ายไปมาบนหมอนใบใหญ่ เมื่อเขาละใบหน้าออกจากส่วนนั้น คราบน้ำหวานก็เปรอะเปื้อนที่มุมปาก ตรงนั้นของเธอมันเปียกชุ่มไปหมด ในยามนี้ฟาเบียนไม่ต้องการสิ่งใดแล้วนอกจากว่าเขาอยากจะแทรกกายเข้าหาเขาจับเธอนอนตะแคง ไม่นานก็สอดใส่ท่อนล่างเข้ามาในท่านนั้น เบื้องล่างแนบสนิทเหมือนขาที่ไขว้กันราวกับตัวล็อค“อ๊า!”เสียงร้องครางแสนหวานเปล่งออกมาในทุกครั้งที่ถูกกระทั้นกายเข้าหาอย่างรุนแรง เขากอดก่ายเธอแนบแน่นจนอะไรๆ ก็พากันแนบสนิทไปด้วย ส่วนที่เชื่อมต่อดันลึกแทบทะลุ เข้ากระทุ้งอย่างบ้าคลั่งหลายนาที ก่อนที่น้ำร้อนๆ จะอัดเต็มช่องท้อง ฟาเบียนซุกใบหน้าลงไปบนแผ่นหลังของจีเซลเพื่อดื่มด่ำกับความรู้สึกสุดยอดที่หาจากใครไม่ได้อีกแล้วนอกจากเธอ“..อีกรอบก็แล้วกัน”มันไม่เคยมีครั้งเดียวอยู่แล้วสำหรับเขาน่ะ แต่สำหรับจีเซลแล้วหากเธอสาม
“ขออภัยที่มารบกวนโดยที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้านะครับท่านดยุค”คอลตันกล่าวออกมาพร้อมกับก้มหน้าเพื่อเป็นการขอโทษที่เขากระทำการอันเสียมารยาท การเข้าพบโดยไม่ได้นัดหมายล่วงหน้านั้นมันคือเรื่องที่ไม่สมควรกระทำอย่างยิ่ง“ไม่เป็นไร เจ้าแจ้งแก่ทหารของข้าว่าเจ้ามาส่งจดหมายแทนจีเซล รีบส่งจดหมายนั้นมาให้ข้าสิ”การตัดใจทำได้ยากมากกว่าอะไรทั้งหมด เรื่องนั้นเดเมี่ยนยืนยันด้วยตัวเองเลย เขาลืมจีเซลไม่ลงแต่ทว่าก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ไปหาเธอ“นี่ครับ ข้าขอตัวกลับก่อนนะครับท่านดยุค”เมื่อพ่อบ้านตระกูลซากอสเดินจากไป เดเมี่ยนก็รีบเปิดจดหมายในมือออกมาอ่านในทันที“สวัสดีค่ะท่านดยุค ขออภัยที่ข้าเสียมารยาทถึงขั้นส่งจดหมายฉบับนี้มาด้วยนะคะ แต่เพราะว่าข้าไม่มีทางอื่นทางใดอีกแล้ว อย่างที่ท่านรู้ว่าท่านเคาน์มีปีศาจตามติดตัวของท่าน แต่ปีศาจตนนั้นไม่ได้เกิดจากความต้องการของท่านเคาน์เลยนะคะ ปีศาจตนนั้นคือสิ่งที่ท่านเคาน์ได้รับสืบทอดมาจากท่านพ่อของเขา และสิ่งที่ข้าอยากจะกระทำในยามนี้คือการร้องขอความช่วยเหลือจากท่านดยุคสักครั้ง หากท่านยินยอมออกหน้าช่วยเหลือ จีเซลผู้นี้จะไม่ลืมพระคุณของท่านเลย ข้าอยากให้ท่านใช้สาย







