Masukฉันอุตส่าห์ทำดีกับเขาแต่ทว่าเขากลับคิดจะฆ่าฉันงั้นเรอะ!! “เรื่องนั้นตามใจเจ้าเลย แต่ข้านั้นไม่ด่วนเท่าไหร่..ข้ายังมีพลังมากมายที่จะคงสถานะเอาไว้ในโลกมนุษย์..” อา..ปีศาจผู้นั้นพูดจาเข้าท่าแฮะ แต่ถึงจะคิดเช่นนั้น ร่างกายของจีเซลกลับแสดงออกมาอย่างซื่อตรง เธอเดินถอยหลังอย่างช้าๆ ราวกับว่าจะตั้งท่าวิ่งยังไงอย่างนั้น “เจ้าไม่ด่วนแต่ว่าข้า..อยากจะฆ่าใครสักคนแล้วละสิ” มือของเขามันสั่นไหวตั้งแต่แรกที่เขาเห็นใบหน้าของสาวใช้คนใหม่ เธอมองเขาด้วยแววตาที่สั่นระริก ความหวาดกลัวที่เธอมีต่อเขา มันเก็บซ่อนเอาไว้ไม่มิดเลย ถึงแม้ว่าเธอจะกำลังก้มหน้าลงแต่ไหล่ทั้งสองข้ากลับบอกเขาได้เป็นอย่างดีว่าเธอกลัวเขาอยู่ การเล่นกับเหยื่อที่ไร้ทางสู้นั้นมันไม่สนุก แต่การมองดูเหยื่อตนนั้นกำลังดิ้นรนอย่างสุดความสามารถที่จะหาทางรอด นั่นต่างหากที่เป็นเรื่องสนุกของจริงน่ะ “จีเซล..นั่นเจ้าจะเดินไปไหน ข้าว่าจะขึ้นแล้วหยิบชุดคลุมอาบน้ำให้ข้าหน่อยสิ” ที่ฉันได้ยินไม่ผิดแน่..ท่านเคาน์กำลังคิดจะฆ่าฉันอยู่ “หมดเวลาแสดงผลของไอเท็มแล้วครับ” ห้ะ! ดะ..เดี๋ยวก่อนสิ ฉันยังอยากรู้ว่าเขาคิดจะทำอะไรต่อไป.. จีเซลยกมือขึ้นมาเพื่อกดเปิดกล่องไอเท็มอ่านใจอีกครั้ง แต่กลับมีข้อความเด้งขึ้นมาแทน “ไอเท็มอ่านใจจะใช้ได้วันละหนึ่งครั้งเท่านั้นครับ” นี่มัน..เฮงซวยชะมัด! “จีเซล นั่นเจ้าไม่ได้ยินที่ข้าบอกอย่างนั้นหรือ?” ถึงแม้ว่าเธอจะกลัวมากแค่ไหน แต่ด้วยฐานะของเธอแล้ว เธอไม่สามารถวิ่งออกไปจากห้องนี้ได้ด้วยซ้ำ “มะ..มาแล้วค่ะนายท่าน” นี่แสดงว่าเมื่อห้าวันก่อนที่เธอเข้ามาในคฤหาสน์แห่งนี้ ที่ปลายนิ้วของเขามันชี้มาที่เธอนั้น เป็นเพราะปีศาจเลือกเธอให้เป็นเครื่องบูชายัญอย่างนั้นหรือ มือของจีเซลเปิดม่านเข้าไปในห้องอาบน้ำ เธอก้มหน้าลงมองเท้าของตัวเองตามมารยาทแล้วส่งชุดคลุมอาบน้ำให้เขา.. ฟาเบียนจ้องมองสาวใช้ตัวน้อยด้วยความปรารถนา..ราวกับว่าเธอคือสิ่งเดียวที่เขาต้องการในขณะนี้ ครั้งแรกที่เขาพบเจอแน่นอนว่าด้วยใบหน้าเช่นนั้นมันน่าตกใจมากทีเดียวที่เธอเข้ามาทำงานเป็นสาวใช้ ความงดงามและเย้ายวนเช่นนั้นหากจีเซลเปลี่ยนจากการทำงานสาวใช้ ไปเป็นนางบำเรอบางทีอาจจะเหมาะสมมากกว่า..เขาพยายามสืบเรื่องครอบครัวของเธอ แต่ทว่ากลับไม่มีข้อมูลอะไรเลยสักอย่างเดียว เธอมาจากไหนกันนะ..ฝ่ามือทั้งสองข้างเนียนนุ่มราวกับสตรีที่ไม่เคยทำงานหนักมาก่อน ผิวกายขาวเนียนนั้นเหมาะสมกับการเป็นลูกขุนนางมากกว่า หรือมีใครส่งเธอมาที่นี่เพื่อให้มาจัดการเขารึเปล่านะ? เมื่อฟาเบียนคิดถึงตรงนั้นเขาก็หลุดหัวเราะออกมา ใครกันนะ จะส่งลูกแมวขี้กลัวมาในถ้ำเสือเช่นนี้..เธอไม่น่าจะกล้าสังหารเขา อย่าว่าแต่ทำร้ายเขาเลย แค่มองตาเขาตรงๆ เธอยังไม่กล้า..เช่นนั้นบางทีอาจมีคนส่งเธอมาเพื่อยั่วยวนเขา.. ยั่วยวนอย่างนั้นหรือ? ความงดงามบนใบหน้านั้นทำให้เขาพอจะยอมรับข้อสันนิษฐานนั้นได้ แต่ผ่านมาหลายวันแล้วเขายังไม่เห็นเธอลงมือยั่วยวนเขาเลย กระดุมเสื้อสาวใช้นั้นติดสูงถึงเม็ดบนสุด แถมที่ผ่านมาจีเซลเว้นระยะห่างจากเขาตลอด หากเธอรู้ว่าเขาไม่ได้สวมสิ่งใดเอาไว้บนร่างกายเธอจะก้มหน้าลงในทันทีเพื่อรอให้เขาใส่ชุดเสร็จแล้ว เธอจึงช้อนสายตาขึ้นมามองถึงสองครั้งก่อนจะก้มหน้าลงไปใหม่เพื่อยอมรับคำสั่ง “...คืนนี้เจ้าย้ายมานอนในห้องนี้สิ พรุ่งนี้ข้าต้องตื่นเช้า” สายตาของเขากวาดผ่านร่างกายของเธออย่างช้าๆ ทำให้จีเซลรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังถูกกลืนกิน “ข้าจะมาปลุกนายท่านแน่นอนค่ะ การให้ข้านอนที่ห้องนี้มัน..มากเกินไป” นั่นเขาจะหาเรื่องฆ่าเธอใช่ไหม ถึงได้ใช้ให้เธอนอนในห้องนี้ ฝันไปเหอะ! ใครจะไป ยอมนอน! “นั่นคือคำสั่งจีเซล มันคือคำสั่งไม่ใช่คำบอกเล่า” “ข้ายังไม่ได้แต่งงานนะคะนายท่าน การนอนร่วมห้องกับนายท่านนั้นอาจจะทำให้คนอื่นเข้าใจผิด ข้าไม่อาจ..กระทำการอันทำให้ชื่อเสียงของนายท่านเสื่อมเสียได้หรอกค่ะ” เมื่อกล่าวจบจีเซลก็เดินไปหยิบชุดสำหรับใส่นอนของนายท่านออกมาจากตู้ เธอถือชุดนั้นแล้วเดินเข้าไปหาเขา..ตอนนี้งานของเธอเหลือแค่ใส่ชุดนอนให้เขาแล้วก็ชงชาช่วยนอนหลับเอาไว้เท่านั้น หากทำสิ่งเหล่านั้นเสร็จเรียบร้อยเธอจะหาข้ออ้างในการหนีกลับได้ “ชื่อเสียงของข้างั้นหรือ? ..ให้ตายสิข้าไม่ได้ไร้ความสามารถขนาดที่ให้สาวใช้เช่นเจ้าต้องมากังวลเรื่องชื่อเสียงหรอกนะ ข้าสั่งให้เจ้านอนในห้องนี้เจ้าก็ต้องนอน!!” เอาสิจีเซล ข้าเปิดโอกาสให้เจ้าเผยพิรุธออกมาขนาดนี้แล้ว เจ้าต้องแสดงมันออกมาสิว่าเจ้าเข้ามาในคฤหาสน์ซากอสทำไม “ไม่ได้หรอกค่ะนายท่าน คือว่าข้ามีเหตุผลส่วนตัว..ที่นอนร่วมกับคนอื่นไม่ได้อย่างเด็ดขาด” ไม่ว่าอย่างไร ฉันจะไม่ยอมตายอยู่ที่นี่อย่างเด็ดขาด เพราะอย่างนั้นฉันจะต้องหาทางรอดให้ได้ ฟาเบียนหรี่ตาลงเล็กน้อย ในขณะที่จีเซลกำลังสวมชุดนอนให้เขา “เหตุผลอันใดที่ทำให้เจ้ากล้าขัดคำสั่งของข้าน่ะ ไม่กลัวว่าจะถูกไล่ออกไปรึไง..” ไล่ออก? หรือว่าการถูกไล่ออกมันจะดีกว่ากันนะ จริงอยู่ที่ฉันไม่มีเงิน แต่ไปหางานอย่างอื่นทำก็ได้นี่หว่า จะมาทนลุ้นทำไมว่าเขาจะฆ่าฉันเมื่อไหร่น่ะ “หากขัดคำสั่งของท่านเคาน์..ท่านจะไล่ข้าออกอย่างนั้นหรือคะ” เรียวคิ้วของฟาเบียนขมวดเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ ไอ้สีหน้าที่ดีใจแปลกๆ นี่มันคืออะไรกัน เธอดีใจที่จะได้ถูกไล่ออกอย่างนั้นหรือ? ทำไมกันล่ะ เพราะทำงานเสร็จแล้ว หรือว่าเพราะทนเป็นสายลับต่อไปไม่ไหว “ไม่..แต่ข้าจะลงโทษเจ้าแทน” มือที่กำลังติดกระดุมเสื้อของฟาเบียนพลันชะงักกับคำว่าลงโทษ นี่ถ้าเป็นนิยายที่นางเอกหลุดเข้าไปในเกมจีบหนุ่ม คำว่าลงโทษคงเป็นการกระทำแบบยี่สิบบวกแน่ๆ แต่ทว่าคำว่าลงโทษที่หลุดออกมาจากปากของฟาเบียนมันจะเป็นอะไรไปได้ นอกจากการตัดนิ้วมือของฉันน่ะ “อา..ข้าอยู่ในห้องนี้กับท่านเคาน์ไม่ได้จริงๆ ค่ะ ข้านอนกรนเสียงดังมากรับรองได้เลยว่าข้าจะกรนเสียงดังจนท่านเคาน์ไม่ได้หลับได้นอน..” เหตุผลที่จีเซลยกมากล่าวอ้างมันไม่เข้าท่าเลยสักนิด อันที่จริงนี่คือครั้งแรกที่เราพูดคุยกันมากขนาดนี้ และนั่นทำให้ฟาเบียนเปลี่ยนใจจากการจะฆ่าจีเซล เป็นการเก็บเธอเอาไว้ดูเล่นไปก่อน “เรื่องนั้นข้าไม่คิดว่ามันเป็นปัญหาเพราะว่าข้ามีที่อุดหู ไม่ว่าอย่างไรคืนนี้เจ้าก็จะต้องนอนที่นี่!!”
เลดี้จัสมิน แห่งตระกูลซากอส สตรีงดงามผู้ถอดแบบมาจากมารดา และสง่าดังเช่นบิดาเธอมีน้องชายสองคน แต่ทว่าสิ่งที่จัสมินไม่เข้าใจคือทำไม..เธอจะต้องมาฝึกดาบกับน้องชายด้วยนะ“ฟังพ่อนะจัสมิน ถึงแม้ว่าเจ้าจะเป็นสตรีแต่ทว่าเจ้าก็สามารถแข็งแกร่งได้ เจ้าจะต้องปกป้องดูแลตัวเองให้ได้ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ต่อให้พ่อไม่อยู่หรือว่าเจ้าต้องอยู่ตามลำพัง เจ้าก็จะต้อง..เข้มแข็งนะลูกรัก”จัสมินไม่เข้าใจที่ท่านพ่อกล่าวเท่าไหร่นัก แต่ทว่าตัวเธอเองนั้นก็ชื่นชอบการฟันดาบมากๆ เลยล่ะราวกับว่าชาติที่แล้วเธอเคยเป็นนักดาบที่เก่งกาจมาก่อน ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นใครเธอล้วนแล้วแต่เอาชนะได้ทั้งหมด“ท่านแม่..พบเจอท่านพ่อได้อย่างไรหรือคะ?”จีเซลที่กำลังจัดดอกไม้ใส่แจกันเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อลูกสาวของเธอเอ่ยถามถึงเรื่องนั้น เธอมองหน้าของอันนาก่อนจะหัวเราะออกมา“เดิมทีแม่เป็นเพียงสาวใช้เท่านั้น แม่คือสาวใช้ส่วนตัวของท่านพ่อ และ..ความรักมันเริ่มต้นขึ้นตรงนั้น”จัสมินกะพริบตาปริบๆ“ท่านพ่อแอบชอบท่านแม่ก่อนอย่างนั้นหรือคะ”ในชีวิตของจัสมินสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า เธอยังไม่เคยพบเจอสตรีใดที่งดงามเท่าท่านแม่มาก่อนเลย“ผิ
“ยินดีด้วยนะคะเลดี้อาเรีย”สองปีหลังจากนั้นงานอภิเษกขององค์รัชทายาทและเลดี้อารีเอนถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่จีเซลเริ่มสนิทสนมกับเลดี้อาเรียตั้งแต่หลังงานแต่งงานของเธอ อาจจะเพราะเธอไปมาหาสู่กับเดเมี่ยนบ่อยจึงทำให้ได้พบเจอกับอาเรียบ่อยไปด้วย“ข้าสวยแล้วใช่ไหมจีเซล ให้ตายสิข้าไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่นัก ไม่รู้ว่าจะทำเรื่องผิดพลาดอะไรในพิธีอภิเษกหรือไม่”อาเรียเป็นกังวลมากทีเดียว คราแรกที่จีเซลพบเห็นอาเรีย เธอมองว่าสตรีผู้นี้มีความมั่นใจในแบบที่จะต้องเป็นสตรีที่ไม่เกรงกลัวสิ่งใดอย่างแน่นอนทว่าในความจริงอาเรียไม่เกรงกลัวใครเลยนอกจากองค์รัชทายาท จะเรียกว่าเกรงกลัวก็คงไม่เหมาะเพราะว่ามันคือความเกรงใจมากกว่าอีกฝ่ายเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ผู้ซึ่งจะได้ขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิในอนาคต ฉะนั้นแล้วการที่อาเรียกำลังตื่นตระหนกนั้นไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดพลาดหรอก“ไม่มีอะไรต้องกังวลเลยค่ะ ในเรื่องความงดงามนั้นเลดี้งดงามมากกว่าใครๆ อยู่แล้ว ในครั้งที่ข้าแต่งงานกับท่านเคาน์ ข้าจำได้ว่าในช่วงเวลาที่ข้าควงแขนของเดเมี่ยน ข้าไม่ได้มองแขกในงานหรือว่าผู้ใดเลย ถึงแม้ว่าท่านฟาเบียนจะยืนอยู่ไกลมากพอสมควรแต่ทว่าสายตาของข้านั
“ยินดีด้วยนะคะท่านเคาน์ ในตอนนี้เคาน์เตสตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้วค่ะ”วันเวลาผ่านไปไวมากกว่าที่คิดเอาไว้ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน งานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ ฟาเบียนเปิดเผยอย่างเป็นทางการโดยไม่คิดปิดบังว่าเขาตกหลุมรักสาวใช้ผู้หนึ่ง และอยากแต่งงานกับนางเพื่อประกาศให้ทุกคนล่วงรู้ว่าเขานั้นมีภรรยาแล้วแน่นอนว่าทันทีที่ข่าวลือนั้นเผยแพร่ออกไป เรื่องนี้ก็ถูกพูดถึงในวงกว้างมากทีเดียวผู้คนในจักรวรรดิต่างมีความคิดเหมือนกันนั่นคือพวกเขาต่างก็อยากจะเห็นใบหน้าของเคาน์เตสที่สามารถหยุดยั้งความเจ้าชู้ของท่านเคาน์ได้ ในวันแต่งงานจึงมีผู้คนมากมายทั้งขุนนางและประชาชนทั่วไปเข้าร่วมงานแต่งอย่างคับคั่งและสิ่งที่พวกเขาได้เห็นก็ประจักษ์แจ้งแก่สายตาแล้วว่าเคาน์เตสผู้นั้น..งดงามจนแทบลืมหายใจ“หากงดงาม เช่นนั้นก็ไม่แปลกหรอกที่จะตรึงใจท่านเคาน์เอาไว้ได้น่ะ”เสียงของชาวเมืองต่างกล่าวถึงในแนวเดียวกัน คือพวกเขาต่างชื่นชมที่ท่านเคาน์ออกมาป่าวประกาศโดยไม่คิดปิดบังว่าเคาน์เตสเป็นเพียงสาวใช้สิ่งที่พิเศษมากไปกว่านั้นคือในวันแต่งงาน บุรุษที่ควงแขนของ เคาน์เตสคือท่านดยุคนิกซ์เดเมี่ยนให้เหตุผลว
ดวงตาที่มีความสามารถตามติดมาตั้งแต่เกิด เดเมี่ยนนั้นสามารถมองเห็นความเป็นจริงได้ทั้งหมด ทั้งเนื้อแท้ของผู้คนและความต้องการอันแรงกล้าของคนนั้นๆ ด้วยสิ่งที่เขามองเห็นจากความต้องการของจอมปีศาจนั่นคือ..ความรักและความโศกเศร้า“ข้าขอถามได้ไหมครับว่าทำไมท่านเคาน์ถึงได้เลือกจีเซลให้เป็นสาวใช้ส่วนตัวของท่าน”ฟาเบียนมองหน้าของจีเซลในระหว่างที่เขากำลังกุมมือของเธอเอาไว้แน่น“เพราะจอมมารต้องการนาง..ข้าเลือกนางเพราะจอมมารต้องการชีวิตของนาง”เดเมี่ยนหยักหน้าเบาๆ“ข้าเข้าใจแล้วครับ และเรื่องที่เขาจะเล่าต่อจากนี้ ข้าจะเล่าออกมาตามสิ่งที่ข้ามองเห็นนะครับ ดูเหมือนว่า..จอมมารจะมีความตั้งใจมาตั้งแต่แรกเพื่อให้ท่านทั้งสองรักกัน”จีเซลเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยราวกับว่าเธอไม่อยากเชื่อในสายตา“ข้าสามารถมองเห็นได้ทุกอย่าง ทั้งความโลภ หลง โกรธ และความรัก แต่ข้ากลับมองจีเซลไม่เห็นถึงความรู้สึกไหนเลย ช่วงเวลาที่ข้ามองเจ้านั้น ข้ารู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด ราวกับว่าเจ้ามีความหวังดีในแบบที่ไม่มีใครจะมอบให้ข้าได้เท่ากับเจ้าอีกแล้วในโลกใบนี้”แววตาของจีเซลอ่อนโยนลงเล็กน้อย ที่เขากล่าวออกมานั้นมันไม่ได้ผิดแม้แต่ครึ่งคำเ
เขาผลักเธอออกเบาๆ เป็นสัญญาณว่าเขาจะทนไม่ไหวหากเธอยังคงกระทำเช่นนี้ต่อไปความสุขสมเป็นสิ่งที่ผู้คนต่างปรารถนา แต่ทว่าเขาไม่อาจจะเอาเปรียบเธอ..เขาจับเธอให้คุกเข่าขึ้นมาก่อนจะซุกใบหน้าเข้าหากลีบดอกไม้สีหวาน แล้วดูดซดน้ำหวานสีใสที่ไหลรินออกมา“อื้อ!!”จีเซลซบใบหน้าลงไปบนหมอนใบใหญ่ ใบหน้าหวานส่ายไปมาบนหมอนใบใหญ่ เมื่อเขาละใบหน้าออกจากส่วนนั้น คราบน้ำหวานก็เปรอะเปื้อนที่มุมปาก ตรงนั้นของเธอมันเปียกชุ่มไปหมด ในยามนี้ฟาเบียนไม่ต้องการสิ่งใดแล้วนอกจากว่าเขาอยากจะแทรกกายเข้าหาเขาจับเธอนอนตะแคง ไม่นานก็สอดใส่ท่อนล่างเข้ามาในท่านนั้น เบื้องล่างแนบสนิทเหมือนขาที่ไขว้กันราวกับตัวล็อค“อ๊า!”เสียงร้องครางแสนหวานเปล่งออกมาในทุกครั้งที่ถูกกระทั้นกายเข้าหาอย่างรุนแรง เขากอดก่ายเธอแนบแน่นจนอะไรๆ ก็พากันแนบสนิทไปด้วย ส่วนที่เชื่อมต่อดันลึกแทบทะลุ เข้ากระทุ้งอย่างบ้าคลั่งหลายนาที ก่อนที่น้ำร้อนๆ จะอัดเต็มช่องท้อง ฟาเบียนซุกใบหน้าลงไปบนแผ่นหลังของจีเซลเพื่อดื่มด่ำกับความรู้สึกสุดยอดที่หาจากใครไม่ได้อีกแล้วนอกจากเธอ“..อีกรอบก็แล้วกัน”มันไม่เคยมีครั้งเดียวอยู่แล้วสำหรับเขาน่ะ แต่สำหรับจีเซลแล้วหากเธอสาม
“ขออภัยที่มารบกวนโดยที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้านะครับท่านดยุค”คอลตันกล่าวออกมาพร้อมกับก้มหน้าเพื่อเป็นการขอโทษที่เขากระทำการอันเสียมารยาท การเข้าพบโดยไม่ได้นัดหมายล่วงหน้านั้นมันคือเรื่องที่ไม่สมควรกระทำอย่างยิ่ง“ไม่เป็นไร เจ้าแจ้งแก่ทหารของข้าว่าเจ้ามาส่งจดหมายแทนจีเซล รีบส่งจดหมายนั้นมาให้ข้าสิ”การตัดใจทำได้ยากมากกว่าอะไรทั้งหมด เรื่องนั้นเดเมี่ยนยืนยันด้วยตัวเองเลย เขาลืมจีเซลไม่ลงแต่ทว่าก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ไปหาเธอ“นี่ครับ ข้าขอตัวกลับก่อนนะครับท่านดยุค”เมื่อพ่อบ้านตระกูลซากอสเดินจากไป เดเมี่ยนก็รีบเปิดจดหมายในมือออกมาอ่านในทันที“สวัสดีค่ะท่านดยุค ขออภัยที่ข้าเสียมารยาทถึงขั้นส่งจดหมายฉบับนี้มาด้วยนะคะ แต่เพราะว่าข้าไม่มีทางอื่นทางใดอีกแล้ว อย่างที่ท่านรู้ว่าท่านเคาน์มีปีศาจตามติดตัวของท่าน แต่ปีศาจตนนั้นไม่ได้เกิดจากความต้องการของท่านเคาน์เลยนะคะ ปีศาจตนนั้นคือสิ่งที่ท่านเคาน์ได้รับสืบทอดมาจากท่านพ่อของเขา และสิ่งที่ข้าอยากจะกระทำในยามนี้คือการร้องขอความช่วยเหลือจากท่านดยุคสักครั้ง หากท่านยินยอมออกหน้าช่วยเหลือ จีเซลผู้นี้จะไม่ลืมพระคุณของท่านเลย ข้าอยากให้ท่านใช้สาย







