LOGIN“มาคุยกันหน่อยดีไหม?”
ฟาเบียนกล่าวก่อนจะนั่งลงบนโซฟาไม้เบื้องหน้าของจีเซล เธอกำลังนั่งอยู่ที่พื้นเพื่อจัดการกล่องไม้มากมายที่เขาส่งมาให้ “ค่ะ..ไม่ทราบว่าท่านเคาน์มีเรื่องอะไร..” “ข้าถอนหมั้นแล้ว อันที่จริงเรื่องของข้ากับสตรีผู้นั้นมันไม่มีความหมายอะไรมาตั้งแต่แรก ข้าไม่ได้ยินดีกับการถูกจับให้ต้องหมั้นหมายเหมือนกันนั่นแหละ” ในระหว่างที่ฟาเบียนกล่าวออกไปนั้น เขาก็มีคำถามในใจผุดขึ้นมาเช่นกันว่าเขา..อธิบายเรื่องราวพวกนี้ไปทำไมกันวะ แต่เขาเห็นสายตาตัดพ้อของจีเซลในยามที่เธอมองเขาที่นั่งอยู่กับอารีเอน มันก็ทำให้ฟาเบียนนั่งแทบไม่ติดอยู่แล้ว คนที่คิดมากเช่นเธอจะต้องคิดมากอีกแน่ๆ เขาจึงเลือกที่จะบอกเล่าทุกอย่างออกมาให้จีเซลได้รับฟัง เพื่อที่ว่าเธอจะได้..ไม่ต้องเอาเรื่องหนักใจพวกนั้นไปคิดมากอีก จีเซลเงยหน้าขึ้นมามองหน้าของท่านฟาเบียน เขาบอกกล่าวถ้อยคำเหล่านั้นออกมาด้วยใบหน้าที่เย็นชาและแข็งกระด้างแต่ทว่าที่ใบหูทั้งสองข้างของเขากำลังขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ ดูก็รู้ว่าเขากำลังเก็บอาการเขินอายอย่างสุดความสามารถเลยทีเดียว “เป็นแบบนั้นเองสินะคะ” จีเซลก้มหน้าลงเล็กน้อยที่มุมปากของเธอกำลังอมยิ้มอย่างอารมณ์ดี เรื่องราวที่หนักอึ้งภายในใจก่อนหน้านี้กลับจางหายไปอย่างน่าเหลือเชื่อ เพียงเพราะถ้อยคำไม่กี่คำของเขา “ขอบคุณนะคะที่ท่านเคาน์มาบอกกล่าวเรื่องพวกนั้นกับข้า ข้ารู้ดีว่าไม่ควรคิดเก็บท่านเอาไว้เพียงผู้เดียวแต่ทว่า..ข้าก็ไม่อาจเก็บซ่อนความดีใจเอาไว้ได้เลย” เอาอีกแล้ว..ช่วงเวลาที่จีเซลมองเขาด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก มันทำให้ฟาเบียนไม่เป็นตัวของตัวเองเลย ดูเหมือนว่าเขาจะชอบสายตาเช่นนั้นของเธอมากทีเดียว จนอยากให้เธอมองเขาเช่นนั้นตลอดไป “ข้าบอกเจ้าไปทั้งหมดแล้ว เช่นนั้นเจ้าก็ควรเล่าเรื่องของดยุคให้ข้าฟังด้วยไม่ใช่รึไง” จีเซลปิดกล่องไม้นั้นแล้วเก็บเอาไว้ที่เดิม เธอลุกขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปหาท่านฟาเบียน..เธอนั่งลงบนตักของเขาพร้อมกับใบหน้างามที่แนบซบลงไปบนอกแกร่งนั้น กลิ่นซิการ์อ่อนๆ ที่ติดมาตามเสื้อผ้าของเขา ทำให้เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังมัวเมา..แต่ถึงอย่างนั้นจีเซลก็ชอบที่จะสูดดมกลิ่นนั้นจากร่างกายของเขา “ท่านดยุคคือบุรุษที่ข้าชื่นชมค่ะ มันไม่ใช่ความรักแต่เป็นความรู้สึกเอ็นดูต่างหาก” เธอไม่อยากโกหกเขาเพราะอย่างนั้นจีเซลจึงพยายามพูดความจริงกับเขาให้ได้มากที่สุด “เอ็นดู? เจ้ากล่าวออกมาราวกับว่าตัวเองคือสตรีแก่ๆ ที่อยากจะเลี้ยงดูเด็กหนุ่มสักคน” คำกล่าวของท่านเคาน์มันทำให้จีเซลระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดัง “ข้าน่ะอยากจะเห็นท่านดยุคมีความสุขและสง่างามเช่นนั้นตลอดไป มันไม่ใช่ความรักที่ข้าอยากจะครอบครองเขาเหมือนกับอยากครอบครองท่าน ไม่ใช่ความรู้สึกที่อยากเรียกร้องความสนใจจากเขา เหมือนที่ข้าต้องการเรียกร้องความสนใจจากท่าน ไม่ใช่ความรู้สึกที่อยากอยู่ใกล้ชิดเขา เหมือนกับที่ข้าอยากใกล้ชิดท่าน..มันคือความรู้สึกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ข้าชื่นชมท่านดยุคแต่ทว่าข้าชื่นชอบท่านเคาน์นะคะ” ครั้งที่สองในรอบวันรึเปล่าที่เขารู้สึกเหมือนถูกจีเซลต่อยที่หัวใจ “เจ้าปากหวานเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” “ปากหวานที่ไหนกันคะ ข้าแค่พูดออกไปตามที่ใจนึกก็เท่านั้น..ข้าไม่อยากให้ท่านเข้าใจข้าผิดไป” ฟาเบียนยกมือขึ้นมาลูบผมของจีเซลเบาๆ “ดีแล้วที่เจ้าบอกกล่าวเรื่องราวทั้งหมดออกมา..เช่นนั้นคืนนี้ข้านอนที่นี่ได้ใช่ไหม” จีเซลพยักหน้าเร็วๆ “นอนได้อยู่แล้วค่ะ ที่นี่ก็คือส่วนหนึ่งของคฤหาสน์ท่านเคาน์นะคะ” “...นอนได้แต่น่าเสียดายที่ทำอะไรไม่ได้ จีเซลเจ้าใกล้หายดีรึยัง” เธออยากจะบอกเขาว่ามันพึ่งผ่านมาไม่กี่วันเอง เธอจะหายดีได้อย่างไรแต่ทว่าด้วยใบหน้าออดอ้อนของท่านเคาน์ที่ไม่ได้มีมาให้เห็นบ่อยๆ ทำให้เธอทำใจปฏิเสธและผลักไสเขาไม่ลงจริงๆ “ยังไม่หายค่ะ แต่หากท่านเคาน์ต้องการ..ข้าสามารถช่วยท่านได้นะคะ” นั่นแหละประโยคที่ฟาเบียนอยากได้ยินล่ะ เขาแสยะยิ้มออกมาก่อนจะถอดกระดุมกางเกงของตัวเองออกไป “จีเซลของข้า เจ้าคือเด็กดีจริงๆ ด้วยสินะ” หากเธอเป็นเด็กดี เช่นนั้นก็ช่วยหลงใหลเธออีกหน่อยสิ หากว่าชอบที่เธอเอาใจเขาเช่นนี้ก็มอบความรักให้เธอบ้างสิ.. กลุ่มก้อนความอ่อนไหวสะดุ้งน้อยๆ เมื่อปลายลิ้นของเธอสัมผัสลงไปบนนั้น จีเซลดูดดึงเบาๆ ตรงส่วนปลาย ก่อนกดลึกเข้าไปในช่องปาก เธอไม่สามารถรับเขาเข้าไปได้ทั้งหมดเพราะขนาดที่ใหญ่โตนั้นทำให้เธอรับมันเข้าไปได้เพียงแค่ส่วนหัวเท่านั้น เธอกดริมฝีปากลงไปก่อนจะถอยร่นออกมาเป็นจังหวะ “...ทำได้ดีจนน่าหงุดหงิดเลยให้ตายสิ!” แค่คิดภาพที่จีเซลจะกระทำเรื่องเช่นนี้กับผู้อื่น เขาก็หงุดหงิดจนแทบบ้าแล้ว ฟาเบียนกำลังมองดูจีเซลที่ตั้งใจทำรักให้เขา ปลายลิ้นของเธอไล้เลียไปตามส่วนปลายซึ่งอ่อนไหวมากที่สุด แล้วใช้ลิ้นลากวนส่วนที่เป็นช่องเล็กๆ ซึ่งมีไว้ปล่อยน้ำ “อะ..อึ่ก! ดีเลยจีเซล..ดูดแรงอีกสิ” น้ำลายช่วยหล่อลื่นระหว่างดูดกลืนจนเกิดเสียงดังเฉอะแฉะ เธอปล่อยออกมาจากริมฝีปากแล้วจ้องมองส่วนนั้นของเขาที่มันแวววาวไปด้วยน้ำลาย ส่วนปลายขยายใหญ่กระตุกหงึกหงักอยู่ด้านนอกคล้ายกับว่ามันกำลังเชื้อเชิญให้เธอรับเข้าไปอีกหน “จีเซล..” เธอจับเข้าที่กลางลำแท่งแล้วรูดรั้งมันเบาๆ จีเซลเลียจนรู้สึกคล้ายว่าส่วนนั้นเป็นลูกกวาดที่กำลังจะละลาย แก่นกายโดนดูดหนักๆ เขาสัมผัสได้ถึงลิ้นและกระพุ้งแก้มที่กำลังเสียดสีกับส่วนดังกล่าว ความร้อนถูกกักอยู่บริเวณท้องน้อยเพิ่มมากขึ้น เมื่อปลายลิ้นสัมผัสกับส่วนอ่อนไหว “อะ..อื้อ!!” สิ่งที่อยู่ในปากพองขยายเป็นสัญญาณว่าอีกฝ่ายกำลังจะถึงจุดหมาย เขากดศีรษะของเธอลงไปจนรู้สึกอึดอัดเพราะเกือบติดคอ ก่อนที่ลาวาร้อนๆ จะพวยพุ่งออกมา น้ำรักรสขื่นคาวกระจายไปทั่วริมฝีปาก เธอยังคงไม่ละริมฝีปากออกจากแท่งรักของเขา จีเซลยังคงดูดกลืนน้ำรสชาติอ่อนนั้นอย่างช้าๆ ฟาเบียนมองหน้าของจีเซล..นี่คือรสชาติความแปลกใหม่ที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน แน่นอนว่าแค่ทำรักด้วยปากนั้นเขาเคยทำมาจนนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว กับสตรีมากหน้าหลายตาแต่ทว่าครั้งนี้มันแตกต่างกับครั้งอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัดเจนเพราะว่ามันไม่ได้มีความสุขเพียงแค่ทางกายเท่านั้น แต่มันยังมีความสุขทางใจเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย นี่มัน..อันตรายแล้วไงเลดี้จัสมิน แห่งตระกูลซากอส สตรีงดงามผู้ถอดแบบมาจากมารดา และสง่าดังเช่นบิดาเธอมีน้องชายสองคน แต่ทว่าสิ่งที่จัสมินไม่เข้าใจคือทำไม..เธอจะต้องมาฝึกดาบกับน้องชายด้วยนะ“ฟังพ่อนะจัสมิน ถึงแม้ว่าเจ้าจะเป็นสตรีแต่ทว่าเจ้าก็สามารถแข็งแกร่งได้ เจ้าจะต้องปกป้องดูแลตัวเองให้ได้ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ต่อให้พ่อไม่อยู่หรือว่าเจ้าต้องอยู่ตามลำพัง เจ้าก็จะต้อง..เข้มแข็งนะลูกรัก”จัสมินไม่เข้าใจที่ท่านพ่อกล่าวเท่าไหร่นัก แต่ทว่าตัวเธอเองนั้นก็ชื่นชอบการฟันดาบมากๆ เลยล่ะราวกับว่าชาติที่แล้วเธอเคยเป็นนักดาบที่เก่งกาจมาก่อน ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นใครเธอล้วนแล้วแต่เอาชนะได้ทั้งหมด“ท่านแม่..พบเจอท่านพ่อได้อย่างไรหรือคะ?”จีเซลที่กำลังจัดดอกไม้ใส่แจกันเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อลูกสาวของเธอเอ่ยถามถึงเรื่องนั้น เธอมองหน้าของอันนาก่อนจะหัวเราะออกมา“เดิมทีแม่เป็นเพียงสาวใช้เท่านั้น แม่คือสาวใช้ส่วนตัวของท่านพ่อ และ..ความรักมันเริ่มต้นขึ้นตรงนั้น”จัสมินกะพริบตาปริบๆ“ท่านพ่อแอบชอบท่านแม่ก่อนอย่างนั้นหรือคะ”ในชีวิตของจัสมินสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า เธอยังไม่เคยพบเจอสตรีใดที่งดงามเท่าท่านแม่มาก่อนเลย“ผิ
“ยินดีด้วยนะคะเลดี้อาเรีย”สองปีหลังจากนั้นงานอภิเษกขององค์รัชทายาทและเลดี้อารีเอนถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่จีเซลเริ่มสนิทสนมกับเลดี้อาเรียตั้งแต่หลังงานแต่งงานของเธอ อาจจะเพราะเธอไปมาหาสู่กับเดเมี่ยนบ่อยจึงทำให้ได้พบเจอกับอาเรียบ่อยไปด้วย“ข้าสวยแล้วใช่ไหมจีเซล ให้ตายสิข้าไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่นัก ไม่รู้ว่าจะทำเรื่องผิดพลาดอะไรในพิธีอภิเษกหรือไม่”อาเรียเป็นกังวลมากทีเดียว คราแรกที่จีเซลพบเห็นอาเรีย เธอมองว่าสตรีผู้นี้มีความมั่นใจในแบบที่จะต้องเป็นสตรีที่ไม่เกรงกลัวสิ่งใดอย่างแน่นอนทว่าในความจริงอาเรียไม่เกรงกลัวใครเลยนอกจากองค์รัชทายาท จะเรียกว่าเกรงกลัวก็คงไม่เหมาะเพราะว่ามันคือความเกรงใจมากกว่าอีกฝ่ายเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ผู้ซึ่งจะได้ขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิในอนาคต ฉะนั้นแล้วการที่อาเรียกำลังตื่นตระหนกนั้นไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดพลาดหรอก“ไม่มีอะไรต้องกังวลเลยค่ะ ในเรื่องความงดงามนั้นเลดี้งดงามมากกว่าใครๆ อยู่แล้ว ในครั้งที่ข้าแต่งงานกับท่านเคาน์ ข้าจำได้ว่าในช่วงเวลาที่ข้าควงแขนของเดเมี่ยน ข้าไม่ได้มองแขกในงานหรือว่าผู้ใดเลย ถึงแม้ว่าท่านฟาเบียนจะยืนอยู่ไกลมากพอสมควรแต่ทว่าสายตาของข้านั
“ยินดีด้วยนะคะท่านเคาน์ ในตอนนี้เคาน์เตสตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้วค่ะ”วันเวลาผ่านไปไวมากกว่าที่คิดเอาไว้ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน งานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ ฟาเบียนเปิดเผยอย่างเป็นทางการโดยไม่คิดปิดบังว่าเขาตกหลุมรักสาวใช้ผู้หนึ่ง และอยากแต่งงานกับนางเพื่อประกาศให้ทุกคนล่วงรู้ว่าเขานั้นมีภรรยาแล้วแน่นอนว่าทันทีที่ข่าวลือนั้นเผยแพร่ออกไป เรื่องนี้ก็ถูกพูดถึงในวงกว้างมากทีเดียวผู้คนในจักรวรรดิต่างมีความคิดเหมือนกันนั่นคือพวกเขาต่างก็อยากจะเห็นใบหน้าของเคาน์เตสที่สามารถหยุดยั้งความเจ้าชู้ของท่านเคาน์ได้ ในวันแต่งงานจึงมีผู้คนมากมายทั้งขุนนางและประชาชนทั่วไปเข้าร่วมงานแต่งอย่างคับคั่งและสิ่งที่พวกเขาได้เห็นก็ประจักษ์แจ้งแก่สายตาแล้วว่าเคาน์เตสผู้นั้น..งดงามจนแทบลืมหายใจ“หากงดงาม เช่นนั้นก็ไม่แปลกหรอกที่จะตรึงใจท่านเคาน์เอาไว้ได้น่ะ”เสียงของชาวเมืองต่างกล่าวถึงในแนวเดียวกัน คือพวกเขาต่างชื่นชมที่ท่านเคาน์ออกมาป่าวประกาศโดยไม่คิดปิดบังว่าเคาน์เตสเป็นเพียงสาวใช้สิ่งที่พิเศษมากไปกว่านั้นคือในวันแต่งงาน บุรุษที่ควงแขนของ เคาน์เตสคือท่านดยุคนิกซ์เดเมี่ยนให้เหตุผลว
ดวงตาที่มีความสามารถตามติดมาตั้งแต่เกิด เดเมี่ยนนั้นสามารถมองเห็นความเป็นจริงได้ทั้งหมด ทั้งเนื้อแท้ของผู้คนและความต้องการอันแรงกล้าของคนนั้นๆ ด้วยสิ่งที่เขามองเห็นจากความต้องการของจอมปีศาจนั่นคือ..ความรักและความโศกเศร้า“ข้าขอถามได้ไหมครับว่าทำไมท่านเคาน์ถึงได้เลือกจีเซลให้เป็นสาวใช้ส่วนตัวของท่าน”ฟาเบียนมองหน้าของจีเซลในระหว่างที่เขากำลังกุมมือของเธอเอาไว้แน่น“เพราะจอมมารต้องการนาง..ข้าเลือกนางเพราะจอมมารต้องการชีวิตของนาง”เดเมี่ยนหยักหน้าเบาๆ“ข้าเข้าใจแล้วครับ และเรื่องที่เขาจะเล่าต่อจากนี้ ข้าจะเล่าออกมาตามสิ่งที่ข้ามองเห็นนะครับ ดูเหมือนว่า..จอมมารจะมีความตั้งใจมาตั้งแต่แรกเพื่อให้ท่านทั้งสองรักกัน”จีเซลเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยราวกับว่าเธอไม่อยากเชื่อในสายตา“ข้าสามารถมองเห็นได้ทุกอย่าง ทั้งความโลภ หลง โกรธ และความรัก แต่ข้ากลับมองจีเซลไม่เห็นถึงความรู้สึกไหนเลย ช่วงเวลาที่ข้ามองเจ้านั้น ข้ารู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด ราวกับว่าเจ้ามีความหวังดีในแบบที่ไม่มีใครจะมอบให้ข้าได้เท่ากับเจ้าอีกแล้วในโลกใบนี้”แววตาของจีเซลอ่อนโยนลงเล็กน้อย ที่เขากล่าวออกมานั้นมันไม่ได้ผิดแม้แต่ครึ่งคำเ
เขาผลักเธอออกเบาๆ เป็นสัญญาณว่าเขาจะทนไม่ไหวหากเธอยังคงกระทำเช่นนี้ต่อไปความสุขสมเป็นสิ่งที่ผู้คนต่างปรารถนา แต่ทว่าเขาไม่อาจจะเอาเปรียบเธอ..เขาจับเธอให้คุกเข่าขึ้นมาก่อนจะซุกใบหน้าเข้าหากลีบดอกไม้สีหวาน แล้วดูดซดน้ำหวานสีใสที่ไหลรินออกมา“อื้อ!!”จีเซลซบใบหน้าลงไปบนหมอนใบใหญ่ ใบหน้าหวานส่ายไปมาบนหมอนใบใหญ่ เมื่อเขาละใบหน้าออกจากส่วนนั้น คราบน้ำหวานก็เปรอะเปื้อนที่มุมปาก ตรงนั้นของเธอมันเปียกชุ่มไปหมด ในยามนี้ฟาเบียนไม่ต้องการสิ่งใดแล้วนอกจากว่าเขาอยากจะแทรกกายเข้าหาเขาจับเธอนอนตะแคง ไม่นานก็สอดใส่ท่อนล่างเข้ามาในท่านนั้น เบื้องล่างแนบสนิทเหมือนขาที่ไขว้กันราวกับตัวล็อค“อ๊า!”เสียงร้องครางแสนหวานเปล่งออกมาในทุกครั้งที่ถูกกระทั้นกายเข้าหาอย่างรุนแรง เขากอดก่ายเธอแนบแน่นจนอะไรๆ ก็พากันแนบสนิทไปด้วย ส่วนที่เชื่อมต่อดันลึกแทบทะลุ เข้ากระทุ้งอย่างบ้าคลั่งหลายนาที ก่อนที่น้ำร้อนๆ จะอัดเต็มช่องท้อง ฟาเบียนซุกใบหน้าลงไปบนแผ่นหลังของจีเซลเพื่อดื่มด่ำกับความรู้สึกสุดยอดที่หาจากใครไม่ได้อีกแล้วนอกจากเธอ“..อีกรอบก็แล้วกัน”มันไม่เคยมีครั้งเดียวอยู่แล้วสำหรับเขาน่ะ แต่สำหรับจีเซลแล้วหากเธอสาม
“ขออภัยที่มารบกวนโดยที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้านะครับท่านดยุค”คอลตันกล่าวออกมาพร้อมกับก้มหน้าเพื่อเป็นการขอโทษที่เขากระทำการอันเสียมารยาท การเข้าพบโดยไม่ได้นัดหมายล่วงหน้านั้นมันคือเรื่องที่ไม่สมควรกระทำอย่างยิ่ง“ไม่เป็นไร เจ้าแจ้งแก่ทหารของข้าว่าเจ้ามาส่งจดหมายแทนจีเซล รีบส่งจดหมายนั้นมาให้ข้าสิ”การตัดใจทำได้ยากมากกว่าอะไรทั้งหมด เรื่องนั้นเดเมี่ยนยืนยันด้วยตัวเองเลย เขาลืมจีเซลไม่ลงแต่ทว่าก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ไปหาเธอ“นี่ครับ ข้าขอตัวกลับก่อนนะครับท่านดยุค”เมื่อพ่อบ้านตระกูลซากอสเดินจากไป เดเมี่ยนก็รีบเปิดจดหมายในมือออกมาอ่านในทันที“สวัสดีค่ะท่านดยุค ขออภัยที่ข้าเสียมารยาทถึงขั้นส่งจดหมายฉบับนี้มาด้วยนะคะ แต่เพราะว่าข้าไม่มีทางอื่นทางใดอีกแล้ว อย่างที่ท่านรู้ว่าท่านเคาน์มีปีศาจตามติดตัวของท่าน แต่ปีศาจตนนั้นไม่ได้เกิดจากความต้องการของท่านเคาน์เลยนะคะ ปีศาจตนนั้นคือสิ่งที่ท่านเคาน์ได้รับสืบทอดมาจากท่านพ่อของเขา และสิ่งที่ข้าอยากจะกระทำในยามนี้คือการร้องขอความช่วยเหลือจากท่านดยุคสักครั้ง หากท่านยินยอมออกหน้าช่วยเหลือ จีเซลผู้นี้จะไม่ลืมพระคุณของท่านเลย ข้าอยากให้ท่านใช้สาย







