Home / รักโบราณ / ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี / บทที่ 15 องค์ชายชมชอบสีม่วง

Share

บทที่ 15 องค์ชายชมชอบสีม่วง

last update Last Updated: 2025-11-14 21:02:10

บทที่ 15 องค์ชายชมชอบสีม่วง

       หลังไป๋ลี่เฟยกลับมาจากวังลมพฤกษา พ่อบ้านประจำจวนก็แจ้งว่าวันมะรืนองค์ชายสามจะมาเยี่ยมเยียนที่จวนสกุลไป๋ ลี่เฟยแปรเปลี่ยนจากความรู้สึกผ่อนคลายเป็นความขุ่นเคืองในทันใด รสชาติหอมหวานของขนมที่ได้ชิมในวันนี้ขมขึ้นมาทันตา

       นางไม่ใช่เด็กน้อยคนเดิมอีกแล้วดูอย่างไรก็รู้ว่าใช้ชื่อพี่สาวเป็นข้ออ้างมาหาน้องสาว ไป๋ลี่เฟยจึงเลือกเดินไปที่เรือนของฮูหยินรองเพื่อแจ้งข่าวด้วยตนเอง

“ข้าขอเข้าไปพบน้องรอง” ไป๋ลี่เฟยแจ้งกับบ่าวหน้าประตูจวน

“คุณหนูมาทำไมหรือเจ้าคะ” จูจูที่ไม่ค่อยต้องการให้คุณหนูของตนมายุ่งเกี่ยวกับคนเรือนรอง เอ่ยออกมาด้วยความเป็นห่วงในระว่างรอ

       ไป๋ซินหยานเดินออกมาด้วยใบหน้าที่แม้จะดูซีดเซียวไปบ้าง แต่ริมฝีปากกลับอวบอิ่มฉ่ำน้ำติดสีแดงระเรื่อ “พี่หญิงใหญ่มีอันใดหรือ”

สวยจริงนะ…

“วันมะรืนองค์ชายสามจะเสด็จมาที่จวนไป๋…เจ้าใส่อาภรณ์สีม่วงด้วยละ องค์ชายชมชอบสีม่วง มองไปทางใดก็จะได้สบายตา” กล่าวจบก็หมุนตัวกลับเรือนตนทันทีไม่คิดจะอยู่เสวนาต่อ

“พี่หญิง เข้ามาก่อนสิเจ้าคะ พี่หญิง!” ไป๋ซินหยานเรียกตามหลังแต่ก็ไม่ทันเสียแล้วจึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย

       คุณหนูใหญ่ไป๋ยังไม่สามารถทำอันใดมากมายได้ จึงอยากสร้างความคับข้องใจเล็กน้อยให้แก่ชายผู้นั้นเล็กน้อย และนางเองก็อยากจะรู้ด้วยเช่นกัน ว่าถ้าหากอาภรณ์สีที่นางโปรดปรานไปอยู่บนร่างกายของน้องรองจะยังสร้างความขุ่นเคืองให้แก่องค์ชายสามอยู่หรือไม่ 

       ลี่เฟยไม่คิดกังวลว่าจะทำให้องค์ชายพาลไม่ชอบไป๋ซินหยาน เพราะทั้งสองได้ใช้เวลาลอบก่อสายใยบางอย่างต่อกันไปบ้างแล้ว ที่แสร้งว่าออกไปกับมารดา แต่แท้จริงฮูหยินรองเป็นผู้เปิดทางก็ใช่ว่าไป๋ลี่เฟยจะไม่รับรู้ หนอนในเรือนรองก็ส่งคำรายงานผ่านจูจูมาสม่ำเสมอ

       ไป๋ลี่เฟยกลับมานั่งพักผ่อนรับลมอยู่ในเรือนของตนเองได้ครู่หนึ่งก็บิดกายหันไปหาจูจู “เตรียมของไว้เย็บถุงหอมให้ข้าที” ลี่เฟยหมายมาดในใจห่างเลี่ยงการพบเจอไม่ได้ ตัวนางก็ควรใช้เวลานั้นทำสิ่งอื่นเสีย แต่นางต้องเริ่มทำไว้บางส่วนก่อน เพื่อให้แน่ใจว่า หากจ้าวหลินไฉ่เห็นผู้ใดใช้ถุงหอมนี้ จะจดจำได้ทันทีว่าเป็นสิ่งที่นางบรรจงปัก 

.

.

.

       บรรยากาศแปลกประหลาดในศาลาไม่ก่อกวนใจไป๋ลี่เฟยแม้เพียงนิด นางไม่สนใจคนอีกสองผู้ที่นั่งร่วมในศาลาเดียวกันแม้แต่น้อย หลังจากดูสีหน้าของจ้าวหลินไฉ่ที่ชะงักค้าง เพราะไม่ว่าจะเป็นลี่เฟยหรือซินหยานต่างแต่งกายด้วยสีม่วง จนลี่เฟยอดระอาไม่ได้

ก็เป็นเพียงแค่สีอาภรณ์ มันจะอันใดนักหนากัน

       คุณหนูไป๋สนใจเพียงการปักถุงหอมในมือให้เป็นลวดลายป่าไผ่ นางเลือกใช้ผ้าสีม่วงเข้ม ด้ายปักลายสีดำสีเงินและสีเทา ฮัมเพลงในใจมิได้คิดเริ่มต้นสนทนาอันใด

“พี่หญิงใหญ่เจ้าคะ องค์ชายนั่งรออยู่นานแล้วนะเจ้าคะ” ไป๋ซินหยานที่ถูกลี่เฟยให้ตามมานั่งเป็นเพื่อนในศาลาเอ่ยออกมาเมื่อเห็นว่าลี่เฟยเอาแต่ปักผ้า

“องค์ชายเป็นฝ่ายส่งเทียบขอมาเยี่ยมเยียน ข้ามิได้มีสิ่งใดต้องสนทนาจึงไม่ได้ชวนคุย หากเจ้ามีก็ชวนสิ ข้าไม่ว่าหรอก” ลี่เฟยตอบก่อนจะช้อนตาขึ้นมองเล็กน้อย ทันเห็นหลินไฉ่ขมวดคิ้วพอดี

“ปักให้ผู้ใดกัน” องค์ชายสามที่เห็นว่าสิ่งของสำคัญกว่าตนเองถามออกมา

“ปักให้ใครไม่สำคัญหรอกเพคะ รอคนผู้นั้นได้รับก็รู้กันแล้ว” ลี่เฟยยิ้มบางๆ แสร้งทำสีหน้าเอียงอายจงใจให้เข้าใจผิดว่าตนกำลังขัดเขิน ให้คนตีความไปว่าที่นางเขินอายเพราะถูกจับได้ว่าปักถุงหอมนี้ให้กับคนตรงหน้า ทั้งที่ไป๋ลี่เฟยคิดว่าจะปักถุงนี้ให้แก่พี่ชายของตน

“ข้าเกลียดสีม่วง” จ้าวหลินไฉ่พูดลอดไรฟันออกมา

       ไป๋ซินหยานมีสีหน้าง้ำลงเล็กน้อยคล้ายเบื่อหน่ายที่ต้องนั่งอยู่ตรงนี้จึงเอ่ยขอตัว “ขอตัวนะเพคะ” 

       เมื่อนางลุกออกไปแล้วองค์ชายสามก็ตวัดสายตาโกรธเคืองมาครั้งหนึ่ง จากนั้นลุกขึ้นตามไป๋ซินหยานไป และชวนให้เดินเล่นในสวนของจวนไป๋ด้วยกัน

“นึกอย่างไรชวนคนในจวนให้เดินเล่นชมสวนบ้านตน” ไป๋ลี่เฟยเอ่ยประชดประชัน นางเคืองไม่น้อยที่ได้รับคำด่าว่าผ่านสายตา ทั้งที่ตัวนางมิได้ทำอันใดผิด

       ทั้งสองคุยกันอยู่ไม่ไกลจากสายตาของไป๋ลี่เฟยนัก นางจึงได้เห็นว่าองค์ชายเอ่ยวาจาบางอย่าง จากนั้นไป๋ซินหยานก็หันกลับมามอง ตามด้วยสายตาอันแข็งกร้าวขององค์ชายสาม ลี่เฟยขบขันเล็กน้อย 

“ดูท่าองค์ชายจะรู้ความจริงเสียแล้วว่าเหตุที่ซินหยานแต่งกายเช่นนั้นเป็นเพราะข้า” นางพึมพำกับจูจูที่ได้แต่มึนงง เพราะคุณหนูรองก็มิได้แต่งตัวแปลกประหลาดอันใด

       สรุปแล้วไป๋ลี่เฟยจบวันได้ด้วยการสนทนากับคนที่นางเกลียดชังได้ในไม่กี่ประโยค ทั้งยังได้ถุงหอมมาอีกหนึ่งใบ แต่น่าประหลาดนักที่นางปักอักษรเฉิงที่เป็นชื่อขององค์ชายหก หาใช่ชางที่เป็นชื่อของพี่ชาย

สงสัยถุงนี้คงต้องมอบให้จ้าวโจวเฉิงเสียแล้ว…

       ลี่เฟยน้ำเครื่องหอมในตู้มาผสมเป็นกลิ่นที่คล้ายคลึงกับกลิ่นที่นางได้จากตัวองค์ชายหก อย่างเช่นเปลือกสนและสมุนไพรอ่อนๆ เพียงแต่ไป๋ลี่เฟยเลือกจะเพิ่มกลิ่นของดอกท้อ และเปลือกส้มที่ตนเองชื่นชอบลงไปด้วย เกิดเป็นกลิ่นใหม่ที่มีมิติไม่น้อย

      ในระหว่างที่นางกำลังใส่ทุกสิ่งลงให้ถุงหอมก็พลันได้ยินเสียงก้อนหินตกลงมายังพื้นเรือน ทำให้รู้ได้ทันทีว่าองค์ชายหกผู้ไม่เกรงกลัวสิ่งใด มาส่งสารให้นางถึงเรือนอีกคราแล้ว

       แต่ครานี้ไป๋ลี่เฟยมือไว หยิบหยกทับกระดาษบนโต๊ะเขวี้ยงกลับไปยังทิศทางที่คาดว่าองค์ชายหกยืนอยู่ นางคาดหวังว่าจะได้ยินเสียงร้องโอดโอย หรือเสียงก้อนหยกกระทบพื้น แต่เมื่อคอยอยู่นานก็ยังไร้เสียงจึงก้มหน้าออกไปดู พบว่าองค์ชายหกห้อยโตงเตงอยู่ใกล้กับขอบหน้าต่างเรือนนอนของตนเอง พร้อมยกก้อนหยกขึ้นมาโบกน้อยๆ ให้ลี่เฟยเห็นว่าตัวเขารับของชิ้นนี้ได้ทันท่วงที

‘ข้าจะนำมาคืน’ องค์ชายหกขยับปากให้ลี่เฟยอ่านอย่างไร้เสียง แต่นางขยับคืนกลับไปเป็นคำว่า ‘ไม่เอา’ 

“จูจูปิดหน้าต่างที คืนนี้ข้าไม่ต้องการรับลม” รอบยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตาปรากฎบนใบหน้าของลี่เฟย ถึงเวลาที่จ้าวโจวเฉิงควรรู้เสียทีว่าการบุกมาเรือนผู้อื่นยามค่ำคืนเช่นนี้ ย่อมไม่ถูกต้อนรับ

“เจ้าค่า” 

       หลังจากไป๋ลี่เฟยขึ้นไปนอนบนเตียงพร้อมหยิบกระดาษห่อก้อนหินมาไว้กับตัว แล้วจึงสั่งให้จูจูวางตะเกียงไว้หัวเตียง “ไปเถอะ เดี๋ยวข้าดับไฟเอง”

       นางคลี่กระดาษที่เสมือนว่าจะสำคัญจนต้องโผล่มายามค่ำคืน มันถูกเขียนไว้เพียงว่าพบกันสวนเบญจมาศ แม้คราแรกจะมึนงง แต่เมื่อนึกไปถึงบทสนทนาที่ผ่านมาก็พอจะเดาได้ว่า จ้าวโจวเฉิงต้องการบอกไป๋ลี่เฟยว่าสถานที่นัดพบคือสวนเบญจมาศในสำนักศึกษา แต่กลับไม่ระบุเวลามาเช่นนี้ ลี่เฟยก็ได้แต่คาดเดาว่าคงหมายถึงช่วงพักของศิษย์ทั้งหลาย

จะประหยัดหมึกอะไรเช่นนี้ วังท่านขาดหมึกหรืออย่างไร

       ฟากฝั่งของไป๋ซินหยานก็ได้จดหมายน้อยจากองค์ชายผู้หนึ่งมาเช่นกัน แต่จดหมายนี้ถูกฝากมาผ่านบ่าวเฝ้าประตูหาใช่การลอบเข้ามาเองไม่ 

       ตัวของคุณหนูรองผู้นี้ยังมิได้เปิดอ่าน และยังไม่ได้แจ้งต่อมารดาว่ามีบุรุษลอบส่งสารมาให้เช่นนี้ นางคลี่ออกดูช้าๆ พบว่าด้านในเขียนชื่อร้านอาภรณ์หรูหราแห่งหนึ่งไว้ และเขียนคำว่าของขวัญไว้ข้างกัน

       ข้อความนี้ทำให้รอยยิ้มน้อยๆ ปรากฎบนใบหน้าของคุณหนูรองจวนสกุลไป๋ ในใจคิดว่าหากลี่จีฮวาผู้เป็นมารดารับรู้ว่าองค์ชายสามซื้ออาภรณ์จากร้านหรูให้เป็นของขวัญ ท่านแม่ของตนย่อมต้องหายโกรธเคืองที่คราก่อนไม่อาจนำผ้าเนื้อดีกลับมาได้เพียงพอต่อความต้องการของนาง

“ท่านแม่เจ้าคะ” ซินหยานเคาะประตูห้องของฮูหยินรองลี่เบาๆ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทพิเศษ 4 บรรจบเป็นวงกลม

    บทพิเศษ 4 บรรจบเป็นวงกลมในที่สุดสหายรักของไป๋ลี่เฟยก็เดินทางถึงเมืองหลวงในแคว้นจ้าวอันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนเสียที หลังเดินทางเข้ามาถึงตงหม่าจางต้องทำเรื่องขอกลับเข้าเป็นองครักษ์ ส่วนฉือจี้ผ่าก็จำเป็นต้องกลับไปอยู่บ้านเดิมให้บิดามานดาของนางเห็นหน้ามากหน่อย กว่าจะได้มาพบปะสหายทั้งหลาย เวลาก็ผ่านไปเกือบรอบจันทร์แล้ว“ข้ามาแล้ว” จี้ผ่าเอ่ยทักเมื่อเข้ามาในร้านประมูลของแม่นางอูที่เปิดขึ้นใหม่เมื่อสองปีก่อน“จี้ผ่า คิดถึงเจ้านัก” ลี่เฟยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เสียดายที่มิได้ร่ำลากัน”“โชคยังดีที่มีโอกาสได้กลับมา” จี้ผ่ายิ้มเล็กน้อย“และโชคดีที่พวกเจ้าออกมาหาข้าได้ มิเช่นน

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทพิเศษ 3 งานปักผ้าของจี้ผ่า

    บทพิเศษ 3 งานปักผ้าของจี้ผ่าชีวิตของฉือจี้ผ่าและตงหม่าจางหลังออกจากเมืองหลวงมิได้ลำบากนัก ด้วยทรัพสินเงินทองที่ฮ่องเต้พระราชทานให้ติดตัวมิได้น้อยเลย หากจะมีลำบากก็เพราะตงหม่าจางต้องติดสินบนปลอมแปลงเอกสารยืนยันตัวตน เพื่อผ่านทางไปยังแคว้นอื่นที่สงบจากภัยสงครามในขณะนี้แต่เมื่อผ่านมาได้แล้วทั้งสองก็เลือกปักหลักอยู่ที่เมืองทางทิศใต้ของทะเลสาบต้งถิง เป็นเมืองที่มีผู้คนผ่านไปมามาก จึงทำให้ผู้มาใหม่ทั้งสองสามารถกลืนไปกับผู้คนในเมืองได้ไม่ยากเย็นนัก จวนที่ซื้อต่อจากสกุลวานิชเล็กๆ สกุลหนึ่ง กลายเป็นบ้านใหม่ของคู่สามีภรรยาเยาว์วัยคู่นี้ทุกๆ วันตงหม่าจางจะเข้าป่าเพื่อสร้างสถานที่เก็บตำราของฮ่องเต้ พร้อมกับคิดค้นกับดักและร่ายอักขระไว้ปกป้องตำราภายในด้วย ส่วนจ

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทพิเศษ 2 ความร้อนในกายช่วยให้อบอุ่น

    บทพิเศษ 2 ความร้อนในกายช่วยให้อบอุ่นโจวเฉิงจับข้อมือของไป๋ลี่เฟยอ้าออกก่อนจะก้มลง เพื่อใช้ลิ้นร้อนฉ่าทักทายยอดบัวชมพูอย่างตั้งใจ อีกมือหนึ่งผละจากท่อนแขนมากอบกุบความนุ่มนวลตรงหน้านี้ สลับข้างไปมาอย่างคนถูกมอมเมามิอาจละตัวให้ห่างไปได้เลย“อ๊ะ..พะ พี่” ลี่เฟยที่ถูกจู่โจมเช่นนี้รู้สึกวูบวาบจนเริ่มหายใจติดขัด จะกล่าววาจาใดก็ไม่ถนัดดังเช่นยามปกติเห็นเช่นนั้นท่อนแขนแข็งแรงช้อนตัวไป๋ลี่เฟยให้ขึ้นไปนั่งยังบริเวณขอบบ่อ หยดน้ำพราวเกาะบนผิวยิ่งทำให้ร่างกายนี้เย้ายวนเหนือบรรยาย ใบหน้าของชายหนุ่มไล่สายตาจนมาหยุดอยู่ที่กึ่งกลางร่างกายของไป๋ลี่เฟย“เฟยเฟยอ้าขาออก”

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทพิเศษ 1 พักตากอากาศ

    บทพิเศษ 1 พักตากอากาศเมืองซุ่ยปาคือจุดมุ่งหมายที่สองบิดามารดามือใหม่ตั้งใจจะไปพักผ่อนให้สบายจิตใจ เมืองแห่งนี้เป็นเมืองสงบมีผู้คนอยู่อาศัยไม่มากนัก ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นขุนนางที่ปลดระวางตนเองจากตำแหน่งหน้าที่แล้วมาอยู่อาศัย ไม่ห่างไกลจากเมืองหลวงเกินไป เพื่อให้สะดวกหากมีขุนนางคนใดอยากเข้ามาปรึกษาหารือประเด็นต่างๆเมืองซุ่ยปามีทิวเขางดงาม ป่าไม่อุดมสมบูรณ์มีแหล่งพลังปราณธรรมชาติหนาแน่น สตรีมีครรภ์และผู้มีอายุจึงนิยมมาอาศัยในเมืองแห่งนี้เพื่อบำรุงร่างกาย ข้อเสียเพียงอย่างเดียวมีเพียงอากาศที่เย็นกว่าพื้นที่ส่วนอื่นของแคว้นอย่างน่าประหลาดจ้าวโจวเฉิงจับจูงไป๋ลี่เฟยให้เดินชมสวนของจวนไม่เล็กไม่ใหญ่หลังนี้ “ชอบหรือไม่”

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทที่ 67 คลี่คลายง่ายนัก

    บทที่ 67 คลี่คลายง่ายนัก“ท่านหมอ พอรู้หรือไม่ว่าต้องทำอย่างไร” ไป๋ลี่เฟยเอ่ยถามออกไป แต่ไม่ทันที่จะได้เว้นช่วงให้หมอเทวดาตอบ นางก็มิอาจกลั้นอาเจียนไว้ได้อีกต่อไป“พระชายาไป๋ นั่งลงก่อน” หมอเทวดาดวงตาเป็นประกาย เมื่อเห็นความท้าทายในการรักษาถึงสองอาการ คนหนึ่งหลับไปเฉยๆ โดยที่มิได้รับความบาดเจ็บใด ส่วนอีกผู้หนึ่งอาเจียนเป็นเลือด แต่ยังเดินเหินและดูแข็งแรงปกติไป๋ลี่เฟยนั่งลงให้ท่านหมอตรวจอาการ และไม่ลืมนำน้ำหกธาตุพิชิตออกมาให้หมอเทวดาผู้นี้ดู ก่อนจะเล่าว่าอาการของตนและองค์ชายหกเกิดได้อย่างไร แต่มิได้บอกความมหัศจรรย์ของพิษจิตแตก บอกแต่เพียงว่าเป็นพิษ“วิเศษนัก” ท่านหมอกล่าวระหว่างยกขวดโอสถขึ้นมาส่องดู ก่อนจะวางลงข้างกาย “อาการขององค์ชายหก

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทที่ 66 ความสุขกลับคืนทีละน้อย

    บทที่ 66 ความสุขกลับคืนทีละน้อยเช้าวันรุ่งขึ้นข่าวแพร่สะพัดไปทั่วทั้งเมืองหลวงว่าองค์รัชทายาทต้องการพาพระชายาไปพักผ่อนให้เป็นส่วนตัว จึงมิได้ให้องครักษ์คนใดติดตามไป เกิดเป็นเรื่องราวน่าใจหายองค์ชายถูกสัตว์รุมกัด มีร่องรอยการต่อสู้ดุเดือด ส่วนไท่จื่อเฟยก็หนีอยากหวาดกลัว กล่าวกับผู้คนว่าองค์ชายปกป้องตนเองจนตัวตายท่าทางของพระชายาคนงามดูอ่อนแอบอบบางจนมีแต่ผู้คนสงสาร เล็บมือเล็บเท้าของสตรีสูงศักดิ์ฉีกขาดเพราะการหนีตาย ยิ่งทำให้หมดข้อสงสัยว่าไป๋ซินหยานมีส่วนรู้เห็นกับการตายขององค์ชายสาม ช่วงเวลาต่อมาวังเมฆาแสงจันทร์ถูกปิดตาย ด้วยคำสั่งพระชายามีเพียงหมอหลวง และคนจากสกุลเดิมเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตเข้าออกวังแห่งนี้ได้ ส่วนตัวไป๋ซินหยานเองก็ออกมาด้ายนอกเพียงเพื่อร่วมพิธีศพเท่านั้น“ซินหยาน เป็

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status