แชร์

6. แรกเริ่มพาลพบ

ผู้เขียน: กะหล่ำหมี
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-28 19:00:08

ณ.ท่าเรือ

ฉันกับไอ้กรณ์เรามาถึงยังจุดนัดพบ คราวแรกนึกว่าจะมีคนไม่เท่าไหร่ แต่จากที่ดู คนทั้งหมดในบริเวณนี้กลับมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน นั่นคือเกาะโรงแรมที่พวกเรากำลังจะไป

“ไอ้กรณ์ แกแน่ใจนะว่าเราดีลได้งาน ดูท่าเหมือนแค่เรียกเราไปเพื่ออวดโรงแรมเฉย ๆ รึเปล่า”

“ไม่หรอก เขาบอกว่าบริษัทเราจะเป็นส่วนหนึ่งในการปรับปรุงโรงแรมเลยนะ”

“เอาเถอะ ก็ขอให้ไม่ไปเสียเที่ยวละกัน ได้งานติดมือมาสักหน่อยก็ยังดี แต่มันน่าแปลกอยู่อย่างนะ”

“ยังไง” ไอ้กรณ์หันมาพูดกับฉันเพราะไม่เข้าใจเรื่องที่ฉันจะสื่อ

“ทุกบริษัทที่เขาชวนมา ทำไมต้องมีผู้หญิงอยู่ด้วยทุกคนวะ ขนาดแกเองยังต้องมีฉันเลยแปลก ๆ”

“...” ไอ้กรณ์ทำหน้าคิดตาม “จริงแหะ พอสังเกตแล้ว เหมือนผู้หญิงจะเยอะกว่าผู้ชายด้วย สวยทั้งนั้น หวานหมู”

“ไอ้กรณ์ ช่วยเป็นการเป็นงานหน่อยเถอะ”

“ฟ้าคราม มึงอย่าคิดมากเลย ไม่มีอะไรหรอก”

“เฮ้อ...เออ ไม่คิดก็ได้”

ตอนนี้ทุกคนอยู่บนเรือกันหมดแล้ว เรือลำใหญ่ลำนี้ก็กำลังฝ่าคลื่นมุ่งหน้าไปยังเกาะขนาดใหญ่ที่เป็นจุดหมายปลายทาง

ไม่นานนักเกาะนั้นก็ค่อย ๆ ทอดมองผ่านด้วยสายตาได้ เกาะขนาดใหญ่ พร้อมกับตึกอาคารขนาดมหึมาตั้งตระหง่านอย่างเห็นได้ชัด

“เชี่ย เคยเห็นแต่ในรูป ไม่คิดว่าของจริงจะใหญ่ขนาดนี้ น่าจะเกินหมื่นล้านไปมากโขแล้วมั้ง” ฉันจ้องไปยังเกาะนั้นตาไม่กะพริบ

“ไม่น่าเชื่อว่า ตึกโออ่าขนาดนี้ ทำเลเกาะก็ไม่ได้ห่างจากท่าเรือเท่าไหร่ ทำไมถึงเจ๊งได้กันนะ” ไอ้กรณ์พูดถึงการล้มละลายของโรงแรมแห่งนี้ ทั้งที่หลายปีก่อนตอนเปิดตัวนั้นเฟื่องฟูแท้ ๆ แต่จู่ ๆ จำนวนนักท่องเที่ยวก็ลดน้อยลงอย่างรวดเร็ว จนเจ้าของอสังหานั้นก็หาทางแก้ไม่ได้ สุดท้ายก็เจ๊งไม่เป็นท่า แถมยังฆ่าตัวตายยกครัวหนีหนี้ที่เกิดจากการสร้างสถานที่มูลค่าหมื่นล้านนี้อีก

แต่ฉันนะพอรู้สาเหตุที่มันเป็นแบบนั้นอยู่นะ มันไม่ใช่เรื่องการขัดขาธุรกิจอะไรหรอก แต่มันเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับที่ไม่มีใครมองเห็น และไม่มีใครแก้ได้ ‘แต่ฉันทำได้’

“หวังว่า บริษัทเราจะได้โครงการนี้จริง ๆ นะ” ฉันได้แต่สวดมนต์ภาวนายิ่งเห็นพวกเขาที่แออัดภายในตึกนั่นแล้ว ยิ่งอยากร่วมทำงานกับพวกเขาใจจะขาด ไม่ใช่อยากทำให้กลุ่มนายทุนพวกนี้ร่ำรวยหรอก แต่ฉันอยากช่วยเหลือพวกเขาเหล่านั้นให้ไปสู่สุคติ เท่าที่ทำได้ต่างหาก ก็เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ล่ะมั้ง

“เชิญทุกท่านทางนี้เลยครับ” ชายที่แต่งตัวราวกับพนักงานโรงแรม เชิญให้เหล่านักธุรกิจจากหลากหลายบริษัทลงจากเรือเพื่อไปยังโรงแรมแสนโอ่อ่านี้ หลังจากทีถูกรีโนเวท ตึกที่เคยร้างก็กลับถูกเนรมิตให้เหมือนราวกับเวทมนตร์ นี่เพียงตึกเดียวนะ ถ้าหากมันถูกรีโนเวททั้งเกาะแล้ว ไม่อยากจะคิดว่ามันจะสวยมากขนาดไหน

เมื่อทุกคนถูกเชิญให้มายังโถงหรูกลางโรงแรม โดยมีตัวแทนจากกลุ่มนายทุนขึ้นประกาศตอนรับบนเวทีเล็ก ๆ ที่จัดไว้ พร้อมทั้งจัดแจงอำนวยความสะดวกให้ทุกคนภายในนี้

ดูเหมือนคนในงานต่างก็ต้องตกตะลึงกับการตกแต่งที่หรูหราไฮคลาส มันถูกประดับด้วยของมูลค่าสูงทั้งนั้น ทำให้ทั้งฉันกับไอ้กรณ์ จากที่รู้สึกว่าที่เป็นอยู่รวยกันอยู่แล้ว ตอนนี้กลับเหมือนกำลังถูกบีบให้ตัวเล็กลงอย่างเจียมตัว

“ให้ตายเถอะ โรงแรมอะไรวะเนี่ย นี่แค่ห้องโถงทำเอาตกใจชะมัด” ไอ้กรณ์มองไปรอบ ๆ จนตาค้าง ส่วนฉันก็ไม่ต่างกัน มองไปทางไหนก็เจอแต่ของตกแต่งราคาแพงที่เคยเห็นบนเว็บไซต์เท่านั้น อย่างโคมไฟอันนั้นยังเคยพูดเล่นกับไอ้กรณ์เลยว่า ราคาตั้งห้าสิบเจ็ดล้าน ใครจะโง่ซื้อวะ  แต่ตอนนี้มันกลับแขวนตระหง่านไม่ใช่แค่หนึ่ง แต่มีถึงสิบ นี่เฉพาะห้องโถงนะ จะเป็นลม เสียดายเงินชะมัด

อยู่ ๆ ฉันก็รู้สึกขนลุกเกลียว ราวกับมีสายตาคนกำลังจ้องมองฉันอยู่

“เป็นอะไรฟ้า” ไอ้กรณ์ที่อยู่ข้าง ๆ คงสังเกตเห็นฉันกอดตัวเอง

“ไม่มีอะไร จู่ ๆ ก็รู้สึกหนาวขึ้นมาเท่านั้นแหละ”

“เรารีบไปลงทะเบียนรับกุญแจห้องและกำหนดการตรงนั้นก่อนเถอะ มึงจะได้พักผ่อน”

“อืม”

ทางโรงแรมได้จัดห้องพักให้กับทุกคนตามชื่อที่ได้ลงทะเบียนไว้ตั้งแต่แรก ไม่คิดเหมือนกันว่าจะใจป้ำให้ห้องพักที่โออ่าแบบนี้คนล่ะห้อง ห้องที่ฉันได้พักนี่แทบจะใหญ่เท่าบ้านของฉัน พอเห็นแบบนี้แล้ว สงสัยถึงเวลาที่ฉันคงต้องเปลี่ยนบ้านใหม่แล้วล่ะ

“กว่ากำหนดการเลี้ยงต้อนรับจะมีขึ้น ก็ตอนเย็นโน้น งั้นนอนสักพักน่าจะดี” ฉันที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว จึงส่งไลน์ไปบอกไอ้กรณ์ ก่อนที่จะล้มตัวลงนอนบนฟูกหนานุ่ม

“เอ่อ...คุณผีคะ โปรดอย่ารบกวนการนอนของฉันนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ” ฉันเอ่ยบอกเจ้าที่ ก่อนจะฟุบนอนหลับไปอย่างง่ายดาย

(Zzz)

ช่วงค่ำ

ไม่รู้ว่านอนไปนานแค่ไหน แต่ที่แน่ ๆ ผีที่นี่ให้ความร่วมมือกับฉันมาก ๆ พวกเขาไม่มาก่อกวนเวลานอนของฉันเลย ไว้ค่อยตอบแทนพวกเขาทีหลังแล้วกัน

ฉันตื่นขึ้นมาพลางควานหามือถือเพื่อดูเวลา

“เชี่ยแล้ว ทุ่มแล้วเหรอเนี่ย แถมมันยังโทรมาเกือบสิบสาย”

ฉันรีบโทรไลน์ไปหาไอ้กรณ์อย่างเร่งด่วน

“กรณ์ โทษทีกูเผลอหลับลึกนานไปหน่อย”

(กูก็โทรไปไม่รู้กี่สาย แต่เพราะรู้จักแกดีเลยไม่อยากขึ้นไปปลุก)

“ตอนนี้มึงอยู่ไหน”

(ห้องเลี้ยงรับรองแขก ตอนนี้คนจากหลายบริษัทเริ่มมากันแล้ว มึงรีบแต่งตัวสวย ๆ มาด้วยล่ะ เดี๋ยวกูผูกมิตรกับบริษัทอื่น ๆ ไว้ก่อน)

“อืม เดี๋ยวกูรีบไป”

หลังวางสายฉันก็รีบแต่งตัวด้วยชุดเดรสสีดำที่เตรียมมา ต้องสวยประจักษ์ไว้ก่อน เพราะแรกพบมันน่าจดจำมากกว่า เพื่อบริษัท เพื่อผลประกอบการ

ภายในงานผู้คนชนชั้นสูงอุ่นหนาฝาคั่ง ต่างทักทายทำความรู้จักกัน บ้างก็อวดอ้างความเก่ง ความรวย ทับถมกันอย่างไม่อาย แต่ก็นั่นแหละชีวิตของแวดวงธุรกิจ สิ่งที่ข่มกันได้ก็คือความรวย กำไร ผลประกอบการ และการเป็นหนึ่งในด้านของตน

ฉันกับไอ้กรณ์ แม้จะเป็นบริษัทขนาดกลาง แต่เพราะบริษัทแม่นั้นก็เป็นท็อปของธุรกิจ ซึ่งไอ้กรณ์เองก็มีโปรไฟล์ดีไม่แพ้ใครในนี้เหมือนกัน ก็เป็นถึงลูกชายของบริษัทแม่ อย่าง K Group จำกัด(มหาชน) เลยนะ

วันนี้ก็อย่างเคย ยังไม่ได้ร่วมประชุมอะไรที่เป็นทางการเกี่ยวกับโครงการความร่วมมืออะไรทั้งนั้น ดูท่ากลุ่มนายทุนนี้จะร่วมอู้ฟู่กันมาก สามวันที่ต้องอยู่ที่นี่ มีแต่เลี้ยงสังสรรค์ กับการพาเดินทัวร์ตึก ส่วนการประชุมมีแค่ พรุ่งนี้เท่านั้น จนตอนนี้ก็ยังไม่เคยเห็นผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มนายทุนเลยด้วยซ้ำ

“ไหน ๆ ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว กูขอออกไปดื่มกับเดินรับลมแล้วกัน” ฉันหันไปกระซิบไอ้กรณ์ที่ยังเอาแต่สานสัมพันธ์กับกลุ่มนักธุรกิจ

“อืม พรุ่งนี้ต้องเข้าร่วมเสนอแผนงาน เตรียมตัวด้วยล่ะ”

“รู้แล้วนา ระดับกูไม่มีพลาดหรอก”

ฉันเดินออกจากห้องรับรองเดินออกไปเรื่อย ๆ จู่ ๆ ก็รู้สึกขนลุกอีกแล้ว มันเป็นความรู้สึกที่เคยสัมผัสมาก่อนเหมือนตอนนั้นไม่มีผิด ความรู้สึกชวนน่าหวาดผวา และ รับรู้ได้ถึงความรู้สึกเกลียดชัง

แทนที่ฉันจะเดินหนี ฉันกลับเดินเข้าหามันอย่างเคยชิน ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมร่างกายถึงตอบสนองกับแรงอาฆาตนั้น

ฉันเดินไปจนถึงดาดฟ้า เพียงเปิดประตู ลมก็โชยพัดจนผมฉันปลิวไปตามลม ที่ปลายสายตาปรากฏผู้ชายร่างสูงใหญ่กำลังยืนสูบบุหรี่ และหันมองไปยังท้องทะเล แม้ยังไม่เห็นหน้า แต่ก็ทำให้รู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่แผ่ออกมา จนพวกผีรอบข้างที่จ้องมองเขาเขม็งไม่แม้แต่เข้าใกล้ เขาคนนี้คุ้นตาจัง

“หาตัวเจอจนได้ ไม่คิดว่าจะเดินเข้ามาหาเอง” เสียงคมเข้ม บาดลึกเอ่ยออกมา ทำให้ฉันตื่นจะภวังค์ หันมองซ้ายขวาไปมา อย่างงงงวย ชายร่างสูงคนนี้ หาใครเจอ ที่เขาพูดหมายถึงใคร บนดาดฟ้านี้ก็ไม่เห็นว่าจะมีคนอื่น เขาคงไม่ได้หมายถึงฉันหรอกใช่มั้ย

ทันทีที่ชายร่างสูงใหญ่ทิ้งก้นบุหรี่ก่อนจะหันหน้าอันคมคายนั่นมาทางฉัน นัยน์ตาสีอ่อนของฉันก็เบิกโพลงค้างไปทั้งอย่างนั้น สายตาประสานยากจะเข้าใจ

“คุณ !!!”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • HEART EYES ดวงตาสื่อรัก   31. ความเป็น ความตาย–

    31- ความเป็น ความตาย–“ช่วยด้วย......” ร่างของฉันกระตุกดีดตัวขึ้นร้องเสียงดังไปทั่วห้อง ดวงตาบวมเป่งจากการร้องไห้อย่างหนัก ใบหน้าผุดเหงื่อจากอาการหวาดผวา ฉันหอบหายใจรัวระรินราวกับขาดอากาศหายใจเจียนตาย นั่นมันไม่ใช่ความฝันหรอก แต่สถานที่แห่งนั้นคือเส้นแบ่งระหว่างความเป็นกับความตาย ฉันนึกว่าฉันจะไม่รอดกลับมาในโลกคนเป็นซะแล้ว พอคิดแบบนั้นก็พาลทำให้รู้สึกแย่แทบบ้าแล้วอะไรที่ทำให้ฉันกลับมาได้กันนะ นั่นคือสิ่งที่สมองฉันกำลังคิด“เป็นอะไร ฝันร้ายเหรอครับ” เสียงเข้มดังขึ้นนั่นจึงทำให้ฉันหลุดจากภวังค์เหม่อลอย ฉันเพิ่งจะรู้ตัวว่า มือของฉันถูกกุมไว้ด้วยมือหนาตั้งแต่ต้น และเขาเองก็นอนอยู่ข้าง ๆ ฉันมาตลอด เพียงฉันหันหน้าไปมองเขาความกลัวจนอกสั่นขวัญแขวนก็พลอยรู้สึกปลอดภัยขึ้นเขาละมือหนาออกจากมือฉันก่อนจะดึงฉันเข้าสวมกอดพลางลูบหัวอย่างอ่อนโยน“ฝันร้ายเหรอครับ ไม่เป็นไรผมอยู่ตรงนี้ตลอด คุณจะไม่เป็นไร คุณฟ้า” เพียงคำพูดของเขาเปล่งออกมา นั่นก็ทำให้ฉันร้องไห้ขึ้นอีกครั้ง มันไม่ใช่น้ำตาแห่งความกลัว หรือ เสียใจ แต่มันเป็นน้ำตาแห่งความรู้สึกดี อบอุ่นซาบซึ้งใจจนเอ่อล้นสองมือของฉัน โอบกอดเอวของเขาก่อนจะซ

  • HEART EYES ดวงตาสื่อรัก   30. รู้ว่าเสี่ยง...แต่คงต้องขอลอง

    30- รู้ว่าเสี่ยง...แต่คงต้องขอลอง –ฉันคว้ากระเป๋าเดินออกจากห้องพลางมองนาฬิกาข้อมือ“21.00 น. ยังพอมีเวลา น่าจะได้ความคืบหน้าอะไรมาสักหน่อยล่ะนะ” ฉันเดินตรงดิ่งผ่านตึก B ซึ่งฉันมีบัตรผ่านอยู่เพราะเป็นผู้ร่วมดูแลความรับผิดชอบ แต่เมื่อไปเกือบถึงตึก C ฉันก็ต้องค่อย ๆ ลัดเลาะมองซ้ายขวาเพื่อไม่ให้ใครสังเกตเห็น ขืนมีคนมาเห็นเข้ามีหวังโดนมองเป็นผู้ต้องสงสัยไปอีกคนฉันเดินมาจนถึงทางเข้าตึก C ทางหนึ่งซึ่งไม่ใช่ทางหลัก พยายามยืนนิ่ง ๆ ก่อนที่ผีคุณปานจะปรากฏ“คุณปานว่าไงคะ ได้คุยกับวิญญานตนนั้นรึยัง” ฉันหันไปพูดกับผีคุณปานที่ตอนนี้ลอยอยู่ใกล้ ๆ ฉัน‘ค่ะ แต่ เขา ยัง เอา แต่ เสีย สติ เพราะ บ่วง ห่วง อยู่ ค่ะ ไม่ ต่าง จาก ปาน’ ผีคุณปานพูดด้วยความหดหู่ ทั้งที่เรื่องเขาเองก็น่าหดหู่อยู่แล้ว“คุณปานช่วยทำยังไงก็ได้ให้เขามาตรงนี้ได้มั้ยคะ คือฟ้าเข้าไปด้านในไม่ได้จริง ๆ มันอันตรายเกินไป” ฉันทำหน้าวิงวอนผีคุณปาน ซึ่งเธอก็พยักหน้ารับก่อนจะหายวับไปอีกครั้งฉันเดินไปมาเงียบ ๆ พลางก้มมองดูนาฬิกา ด้วยใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ เพราะไม่อยากอยู่นานกลัวถูกจับได้ฉันกัดนิ้วหัวแม่โป้งด้วยความกังวลจนเป็นรอย ไม่นานผีคุณปานก

  • HEART EYES ดวงตาสื่อรัก   29. คดีอุบัติเหตุ หรือ ฆาตกรรม –

    29- คดีอุบัติเหตุ หรือ ฆาตกรรม –หลังว่าสาย ไม่มีคำพูดใด ๆ ของพวกเรา ต่างคนต่างรีบจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ เก็บของสำคัญลงกระเป๋าก่อนจะรีบวิ่งแจ้นออกจากบ้านไปที่รถยนต์ที่จอดอยู่หน้าบ้านทันที‘บรืน............’ รถของพวกเรามุ่งหน้าไปทางท่าเรืออย่างเร่งด่วนตอนนี้ ไม่มีเวลาแม้แต่จะสนใจกัน ใบหน้าของคนขับรถเข้มดุ คิ้วขมวด กัดริมฝีปากบ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์ส่วนฉันเองก็ตกใจไม่แพ้กัน เมื่อปลายสายที่โทรเข้ามาคือไอ้กรณ์ มันโทรมาเพื่อจะถามข่าวเกี่ยวกับศพบนโรงแรมที่กำลังเป็นข่าวไปทั่วเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อน แต่เพราะฉันไม่ได้อยู่ที่นั่น เลยให้คำตอบมันไม่ได้ฉันก็ต้องตื่นตระหนกอยู่แล้ว เพราะทำงานที่นั่น แต่คนที่ควรจะเครียดมากกว่าฉัน มันก็ต้องเป็นคนข้าง ๆ อย่างเขาเนี่ยแหละ เพราะโรงแรมแห่งนี้ยังไม่ทันจะเปิดให้บริการแต่กลับมีศพบนเกาะแน่นอนว่าถ้าข่าวสะพัดไปเป็นวงกว้าง ผลกระทบที่ตามมามันมากมายแน่นอนเรามาถึงท่าเรือ และเลือกที่จะนั่งสปีดโบ๊ทเพราะต้องการไปถึงเกาะให้เร็วที่สุด เมื่อเรือเทียบท่า คุณเอ็ดเวิร์ดก็เดินเข้มเข้าไปในโรงแรมทันทีพร้อมกับเรียกประชุมด่วนของพนักงานในบริษัท (ก็ไม่ได้เกี่ยวกับฉันล่ะนะ)ฉันเด

  • HEART EYES ดวงตาสื่อรัก   28. อยากรักต้องกล้าหน่อย

    28- อยากรักต้องกล้าหน่อย –เช้าวันใหม่ฉันตื่นขึ้นมาหาววอด ๆ พลางกะพริบตาถี่ ๆ เพื่อค่อย ๆ รับแสง อาทิตย์ที่สาดเข้ามาผ่านกระจกระเบียงพอสร่างเมาแล้วความคิดต่าง ๆ ก็ถาโถมเข้ามาในสมองไม่หยุดไม่หย่อนฉันรู้ว่าตัวฉันไม่สามารถจะโหวกเหวกโวยวายได้ เพราะเวลาฉันเมาแล้วนั้น มันมักจะลืมตัวทำอะไรในแบบที่ปกติฉันไม่มีทางทำแน่ ๆแต่มันมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ฉันหงุดหงิดทุกทีจริงๆ ขนาดฉันปล่อยเนื้อปล่อยตัวขนาดนี้ เขาแค่นอนทื่อ ๆ สวมกอดฉันก็เท่านั้น พาลทำให้หงุดหงิดอะไรก็ไม่รู้ จนตอนนี้อยากจะลุกขึ้นออกไปสูดอากาศให้รู้สึกหัวโล่งซะหน่อยเพียงที่ฉันคิดจะลุกขึ้น ฉันก็รู้สึกว่าร่างของฉันถูกพันธนาการด้วยสองแขนแกร่งแน่น ใบหน้าของเขาอยู่ไม่ห่างจากใบหน้าฉันมากนัก มันสามารถมองชัดจนเห็นขนตางอนของเขาที่รับกับใบหน้าได้เลยฉันจึงไม่พยายามขยับอีกเพราะกลัวเขาตื่น แต่กลับจ้องมองเขาด้วยความถวิลหา อิฟ้ามันก็ผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้ชายหล่อมาก ๆ ก็ค่อนไปทางสเปกแถมอยู่ห่างไม่ถึงคืบจะไม่ให้หวั่นไหวได้ไงอ่ะพวกแก“คุณฟ้า จะจ้องผมนานมั้ยครับ” เสียงเข้มแหบพร่า เพราะว่าเพิ่งตื่นนอนเอ่ยขึ้น แต่ดวงตาของเขาก็ไม่ได้เปิดออกแต่อย่างใด“ฉันไม่

  • HEART EYES ดวงตาสื่อรัก   27.  ความสัมพันธ์ที่คลุมเครือ(2)

    27- ความสัมพันธ์ที่คลุมเครือ(2) –ฉันพูดออกไป พลางเกยคางสะอื้นเบา ๆ เงียบ ๆ แบบนั้น เรี่ยวแรงหายหมด ทั้งยังปวดหัวตึก ตึก เป็นระยะ“คุณฟ้า...” เสียงเขาเรียกฉัน นั่นทำให้ฉันขยับใบหน้าเอียงมองเขาด้วยสายตามที่พริ้มด้วยอาการที่ยังมึนเมาค้างอยู่“คะ???”“ผมบอกคุณว่าวันนี้ไม่ต้องมาห้องผม แต่ผมไม่ได้บอกให้คุณออกมาเที่ยวนะครับ”“ละ..แล้วทำไมฉันจะออกมาเที่ยวไม่ได้ละคะ”“ก็คุณฟ้า พึ่งจะไม่สบายมานะครับ ผมก็เลยไม่ให้คุณมาห้องผม”“ไม่ใช่ว่าวันนี้ คุณต้องนอนกับผู้หญิงคนนั้นเหรอคะ” ฉันเอ่ย หน้าเอียงคอถามเขา“ผู้หญิงคนนั้น?? คนไหน” เขาเอ่ยเสียงทุ้มเข้มมองหน้าฉันคิ้วขมวด เหอะ.... คงเยอะจนไม่รู้ว่าใครเป็นใครล่ะสิ“ก็คนสวย ๆ ในห้องทำงานของคุณเอ็ดเวิร์ดไงคะ ทำเป็นจำไม่ได้ ออกจะทอดสายตาหวานซึ้งขนาดนั้น” ฉันพูดพลางเบือนหน้าเกยบ่าเขาไป เพราะจู่ ๆ ก็รู้สึกหงุดหงิดทุกทีที่คิดถึงผู้หญิงคนนั้นของเขา“หึ... นี่คุณหึงผมเหรอคุณฟ้า” เพียงคำนั้นของเขาทำให้ฉันสะดุ้งมองหน้าเขาอย่างลนลาน“จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงคะ ใคร..ใครหึงคุณกัน คุณจะนอนกับใครอะไรที่ไหนก็เรื่องของคุณเอ็ดเวิร์ดอยู่แล้ว ฉันเป็นแค่ลูกจ้าง ไม่ใช่ผู้หญิง

  • HEART EYES ดวงตาสื่อรัก   26.  ความสัมพันธ์ที่คลุมเครือ(1)

    26- ความสัมพันธ์ที่คลุมเครือ(1) –เขาอุ้มฉันจะออกมาด้านนอก จวบจนเดินมาถึงรถยนต์ของเขา ความรู้สึกอึดอัดพาลให้ฉันหายใจโล่งขึ้น ใบหน้าของเขาพลันปรากฏต่อสายตาฉันชัดเจน และใกล้จนเขาน่าจะสามารถรับรู้การหายใจถี่ ๆ ขอฉันได้ ทำไมนะเหรอ ก็หัวใจเจ้ากรรมดันเต้นแรงตึกตัก ไม่รู้เพราะเมาเหล้า หรือเมารักแต่ถึงยังไงฉันก็ไม่อยากไปกับเขาหรอก พอคิดว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรกับฉัน แถมเขาก็เพิ่งจะแยกกับผู้หญิงคนนั้นมา พาลทำให้ฉันอารมณ์เสียถ้าเขาจะงุนงง ว่าฉันเป็นบ้าอะไรคงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะฉันก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าเป็นบ้าอะไร เรื่องงานฉันอาจจะเก่ง คิด วิเคราะห์ แยกแยะ แต่กับเรื่องความรักฉันไม่สันทัดจริง ๆ“คุณจะปล่อยฉันได้รึยัง” เพียงฉันพูดออกมา เขาก็คลายแขนปล่อยให้ฉันลง ฉันหันไปคว้ากระเป๋าใบเล็กของฉันที่เขาถืออยู่ก่อนจะหันหลังเดินออกไปดุ่ม ๆ มุ่งไปทางออกถนนใหญ่แบบไม่พูดอะไรถึงท่าเดินที่ไม่เป็นเส้นตรง แถมสายตาก็เบลอ ๆ ก็ไม่ทำให้ฉันกลับไปกับเขาหรอก“นั่น.... คุณจะไปไหน” เสียงของคุณเอ็ดเวิร์ดพูดตามหลังฉัน“กลับบ้าน....สิ” ฉันหันไปมองเขาพร้อมกับพูดไปแบบนั้นก่อนจะหันเดินต่อเพื่อออกไปยังถนนใหญ่“ผมบอกให้คุณ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status