Share

Nevermind :: CHAPTER 1 แพรวา [100%]

Author: Sweet_Moon
last update Last Updated: 2025-05-11 12:28:43

Nevermind : 1

แพรวา

“เธอเป็นใครเหรอครับ?”

“หิ้วมาจากข้างทางน่ะ”

“แล้วไม่รู้จักเธอ หิ้วเธอมาเนี่ยนะครับ คุณองศาสติดีหรือเปล่า”

“ใช่ กูสติไม่ดีหรอก ปกติไม่เคยเสือกเรื่องชาวบ้าน... แต่คราวนี้ดันอยากเสือกซะงั้น”

น้ำเสียงพูดคุยดังเล็ดลอดเข้ามาในโสตประสาท ทำให้ดวงตาของฉันค่อยๆ เปิดขึ้นรับกับแสงแดดในยามเช้าหรือยามบ่ายก็ไม่แน่ใจ ฉันกระพริบตาเพื่อปรับแสงเสมองไปยังข้างเตียงที่มีร่างสูงสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนถึงข้อศอกและกางเกงสแล็คสีดำร่างกายแกร่งกำยำไปทุกสัดส่วนไหนจะท้ายทอยที่มีรอยสักรูปอะไรสักอย่างมองไม่ชัด ปลายเตียงเป็นกระจกเกือบทั้งหมดสูงติดเพดาน ฉันก็หันมองร่างสูงอีกครั้งและครั้งนี้ได้เห็นใบหน้าหล่อเหลาที่หล่อแบบดุๆ ผมสีดำขอเขาเสยขึ้นไปปล่อยเส้นผมปรกใบหน้าเล็กน้อยและมีผู้ชายอีกคนที่สวมชุดสูทสีดำทั้งตัว หน้าตาของเขาก็หล่อเหมือนกัน แต่... เขาคนนี้หล่อมากกว่า หล่อเหมือนไม่มีอยู่จริง

“ตื่นแล้วสินะ?” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก ฉันก็ชันตัวขึ้นนั่งถึงได้เห็นว่าตัวเองไม่ได้สวมชุดนักศึกษาอย่างที่มันควรจะเป็น แต่เป็นเสื้อเชิ้ตสีดำตัวใหญ่หัวเข่าที่เกิดจากล้มก่อนที่รถของเขาคนนี้จะชน เวลานี้ถูกทำแผลปิดผ้าก็อตเรียบร้อย

“คุณเปลี่ยนชุดให้ฉันเหรอคะ”

“ใช่” เฮ้อ เห็นถึงไหนต่อไหนแล้วมั้งเนี่ยแพรวา “มึงออกไปก่อน”

“ครับ” เขาเอ่ยปากไล่ผู้ชายอีกคนให้เดินออกไป จนเวลานี้เหลือแค่เราสองคนเท่านั้น ผู้ชายคนที่ช่วยฉันไว้เขามีปืนและเกือบจะยิงป้ากับลุงรวมไปถึงน้องที่เป็นน้องนอกไส้ เขาทิ้งตัวนั่งบนเตียงซึ่งฉันนั่งกอดเข่าตัวเองดึงผ้าห่มปิดแล้วนะ เงยหน้าสำรวจห้องของเขาอีกครั้ง โทนสีห้องของเขาออกดำและเทาแม้แต่เตียงนอนเองก็ตามทีที่ใหญ่กว้างนอนได้ทีสามคน... มั้ง

“เธอชื่ออะไร?”

“แพรวาค่ะ” ตอบเขาที่ถึงจะดูดุและน่าเกรงขามก็ตามที แต่อย่าลืมว่าเขาช่วยฉันไว้นะ

“ฉันองศา” องศางั้นเหรอ... สบตากับเขาฉันก็ยกมือพนมไว้กลางอก

“ขอบคุณนะคะที่คุณองศาช่วยฉัน”

“ไม่ได้ช่วย”

“...”

“เธอไปอ่อยไอ้แก่นั่นจริงหรือเปล่า” เขาเค้นถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ราวกับว่าผู้หญิงอย่างฉันจะไปอ่อยผัวของป้าได้ยังไงและมันจริงไง “ไหนเล่ามาสิ”

“ฉันเปล่าอ่อยลุงนะคะ” รีบปฏิเสธฉันก็ถอนหายใจและเอ่ยปากเล่าเรื่องราวของตัวเองให้คนแปลกหน้า ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนฟัง “ป้าเป็นพี่สาวของพ่อฉันค่ะ พ่อกับแม่ฉันตายเพราะเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้บ้าน ฉันรอดมาคนเดียว”

“อือ”

“ฉันก็เลยต้องมาอยู่กับป้าตั้งแต่สิบขวบค่ะ ตอนนี้ฉันยี่สิบแล้ว แต่ว่า... ฉันถูกทุบตีอยู่บ่อยครั้ง ต้องทำงานเพื่อหาเงินมาให้ป้ากับลุงเล่นการพนันและส่งน้องที่ไม่ใช่น้องแทนๆ แต่เป็นลูกติดลุงเรียนค่ะ”

“เธอหลุดมาจากนิยายเรื่องไหนกันเนี่ย นางเอกชัดๆ” คำพูดของคุณองศาทำให้ฉันยิ้มขำเล็กน้อย

“ลุงเขาลวนลามฉันมาตลอดเลยค่ะ” พอคิดไปถึงเรื่องราวของเมื่อคืนนี้ฉันก็ได้แต่ลูบแขนตัวเองอย่างนึกรังเกียจ “เขาจะขืนใจฉันค่ะ ป้ามาเห็นก็เลยขังฉันไว้แต่ฉันหนีออกมาเลยมาเจอคุณ”

“...” คุณองศามองฉันด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

“เมื่อวานก็เกือบจะโดนลูกชายของลุงขืนใจเหมือนกันค่ะ”

“เวรเอ๋ย! แล้วทำไมเธอไม่แจ้งตำรวจ”

“เคยแจ้งแล้วค่ะ แต่ไม่เกิดผลอะไร ฉันก็เลย... ต้องต่อสู้เพียงลำพัง ทั้งป้า ลุงและน้องนอกไส้ค่ะ”

“แล้วเธอจะหนีไปไหน?”

“ฉันกะว่าจะไปหาเพื่อนค่ะ แต่คงจะพึ่งพาได้ไม่นาน” ดวงตาของเราสองคนผสานเข้าหากัน นั่นทำให้ฉันรู้สึกขอบคุณเขาที่ช่วยเหลือฉันให้รอดพ้นมือของป้า แม่ว่ามันจะก็เป็นแค่ครั้งเดียวเท่านั้น “ฉันส่งตัวเองเรียนจนขึ้นปีหนึ่งมหาลัย ทำงานอย่างหนักแต่ก็โดนเอาเงินไปเสมอเลย พอเรียนจบก็ต้องดูแลป้าเพื่อทดแทนบุญคุณ”

“บุญคุณบ้าบออะไรฉันไม่รู้จักหรอกนะ”

“...”

“เธอต้องทำเพื่อตัวเองไม่ใช่เพื่อใคร ไม่งั้นเธอก็โดนข่มเหงแบบนี้” จะทำไปทำอะไรได้ล่ะ ถึงหนีออกมาก็ต้องกลับไปที่นั้นอยู่แล้ว ฉันไม่มีที่ไปหรอกจะให้ไปพึ่งพาเพื่อนก็ไม่ใช่เลยนะ ฉันเองก็มีความเกรงใจบ้างไม่ใช่ไม่มี

“ฉันไม่มีที่พึ่งนี่คะ ไม่มีใครมาปกป้องก็ต้องปกป้องตัวเอง แต่ฉันก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง สู้พวกเขาไม่ได้หรอกค่ะ” แบบว่าชีวิตของฉันมันค่อนข้างรันทดเลยล่ะ รันทดแบบหาที่สุดไม่ได้ เหมือนนางเอกนิยายที่หลุดออกมาใช้ชีวิตจริงอย่างที่คุณองศาบอกเป๊ะเลย “ถึงวันนี้ฉันหนีพวกเขามาได้ สุดท้ายฉันก็ต้องกลับไปค่ะ”

“ร่างกายเธอมีแต่รอยช้ำ”

“คุณเห็นเหรอคะ?” ว่าแล้วถึงกับเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ไม่เห็นก็คงแปลกล่ะ “โดนป้าทำร้ายน่ะค่ะ”

“...”

“ฉันอยากหนีไปตั้งหลักนะคะ แต่ฉันไม่มีเงินมากขนาดนั้น ไหนจะเรียนอีก” ไม่น่าเชื่อว่าฉันจะเปิดปากเล่าเรื่องของตัวเองให้กับคนที่เพิ่งรู้จักฟัง แม้แต่เพื่อนฉันยังไม่เคยเล่าด้วยซ้ำเพราะกลัวพวกเขาไม่สบายใจ

“คนพวกนั้นเคยทำอะไรกับเธอมากกว่าทำร้ายหรือเปล่า?” จู่ๆ คุณองศาก็เอ่ยถาม ฉันหันไปสบตากับเขาที่มองฉันอยู่ก่อนแล้ว ถึงจะเป็นผู้ชายที่ภายนอกดูดุดันน่าเกรงขาม ทว่าฉันดันกลับรู้สึกสบายใจที่ได้คุยกับเขา

“พาฉันไปขายที่ซ่องค่ะ”

“!”

“ตอนนั้นฉันยังเด็ก ตอนนี้ฉันโตแล้วก็คงอีกไม่นาน” คุณองศามีสีหน้าที่เรียบนิ่งกว่าเดิม แหงสิ คงจะตกใจไม่น้อยที่แม้แต่ป้าก็ยังทำกับฉันได้ลงคอ เคยพาฉันไปเร่ขายตามซ่องด้วยนะ แต่เขาไม่รับซื้อเพียงเพราะว่าฉันยังเด็กและเวลานี้ฉันโตเป็นสาวสวยสะพรั่ง อีกไม่นานหรอกฉันคงหนีออกมาไม่พ้นแน่ “ฉันเคยท้อนะคะ ท้อจนอยากจะตายๆ ไปซะจะได้ไม่ต้องเจ็บปวด”

“เธอยังตายไม่ได้” ผละสายตาจากมือที่กอบกุมกันจนเนื้อบุ๋มเป็นรอยเล็บจิก “มากับฉัน”

“คะ?”

“ลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตา”

“คุณองศา จะทำอะไรคะ”

“อย่าถาม ทำตามที่ฉันสั่ง”

สิ้นคำสั่งฉันก็รีบกุลีกุจอเดินเข้าห้องน้ำที่มีแปรงสีฟันอันใหม่วางอยู่ ห้องน้ำใหญ่กว่าห้องฉันสามเท่าเลยล่ะ ฉันรีบจัดการตัวเองและแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษาที่คุณองศาพับไว้บนอ่างล้างหน้าแบบหินอ่อนสีขาวตัดดำ ผมสีดำยาวของฉันก็มัดรวบไว้ที่ท้ายทอย ฉันมาตัวเปล่าแม้แต่มือถือก็ไม่ได้หยิบมาด้วยซ้ำ พอออกจากห้องน้ำไม่เห็นคุณองศาก็เลยเดินไปตามทางเจอกับประตูไม้สีดำขนาดใหญ่ ฉันบิดลูกบิดก้านโยกโผล่หน้าไปเห็นคุณองศากำลังคุยกับผู้ชายที่อยู่ในห้อง ทว่า...

ทำไมผู้ชายสวมชุดสูทสีดำเดินกันไปมาตรงชั้นนี้ทั้งชั้นเลยนะ ฉันเดินขากระเผลกไปหยุดด้านหลังคุณองศา แน่นอนว่าเพราะวิ่งและล้มเพิ่งจะรู้ตัวก็อีตอนที่แผลมันตึงไปหมด

“บอกที่อยู่บ้านป้าเธอมาด้วย” คุณองศาคว้าข้อมือฉันเดินผ่านผู้ชายสองสามคนที่เดินตามหลังและลงลิฟต์มาด้วยกัน

“เออ จะทำอะไรเหรอคะ?”

“บอกแล้วไงว่าอย่าถามมาก ฉันไม่ชอบ”

“ขอโทษค่ะ”

คุณองศาเอ็ดฉันเสียงดุ ถึงได้รู้ว่าชั้นนี้ทั้งชั้นห้องของคุณองศาเป็นของเขาทั้งหมดและอยู่สูงสุดของคอนโดระดับห้าดาวที่หรูหราและกว้างใหญ่ ฉันนั่งตัวเองเกร็งขณะที่รถของคุณองศาเคลื่อนตัวไปตามท้องถนนมุ่งตรงไปยังบ้านป้า ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเขาจะไปเพื่ออะไรด้วยซ้ำ หันไปมองคนข้างกายที่สูบบุหรี่ยืดแขนออกไปด้านนอกเมื่อรถติดไฟแดงอยู่

“ฉันถามคุณองศาได้ไหมคะ” ใบหน้าหล่อเหลาหันมาตวัดสายตามอง

“ว่ามาสิ” ต้องรอให้อนุญาตก่อนสินะถึงกล้าเอ่ยถาม ไม่งั้นก็กลัวว่าเขาจะหงุดหงิด

“คุณองศาจะไปบ้านป้าฉันทำไมเหรอคะ?”

“ไปถึงเดี๋ยวก็รู้”

ก็ยังคงไม่ได้คำตอบจริงๆ สักที ฉันจึงกลับมานั่งเงียบๆ คนเดียวจนรถของคุณองศาเคลื่อนตัวเข้าซอยและนั่นทำให้ภาพในหัวประมวลเหตุผลการณ์เมื่อคืนจนมือที่กอบกุมไว้ตรงหน้าตักบีบแน่นจนเล็บจิกลงบนผิวเนื้อ กระทั่งรถของคุณองศาจอดลงที่หน้าบ้านในเวลาต่อมา เขาลงจากรถพร้อมเปิดประตูคว้าข้อมือฉันให้ลงไปด้วย

“ฉันขอถามอะไรเธอหน่อย”

“ค่ะ”

“หลังจากนี้ถ้าหากฉันทำให้เธอรอดพ้นจากคนระยำพวกนี้ เธอจะยอมทำตามคำสั่งฉันทุกอย่างหรือเปล่า?” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันทันที ฉันได้แต่นิ่งเงียบไม่ให้คำตอบกับคุณองศา “ต้องตัดสินใจเดี๋ยวนี้แพรวา”

“...”

“ฉันสามารถเนรมิตสิ่งที่เธอต้องการได้ทุกอย่าง เพียงแต่ว่าฉันต้องถามความสมัครใจจากเธอก่อน ถึงจะทำได้” คุณองศาบีบข้อมือฉันไม่แรงมากแต่ทำให้รู้สึกว่าเขาต้องการคำตอบให้ได้ซะก่อน ถึงจะทำให้ฉันเป็นอิสระจากบ้านหลังนี้ได้ ฉันครุ่นคิดและมองเข้าไปในบ้านหลังนั้นที่สร้างบาดแผลและความเจ็บปวดให้กับฉันมาตลอดสิบปีที่ผ่านมา จนมันเกินจะรับไหว จนเกือบที่จะคิดว่าถ้าตายไปคงหลุดพ้น ฉันสบตากับคุณองศาที่จดจ้องมองด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ไม่รู้ว่าเขาทำแบบนี้เพราะอะไร มีเหตุผลอะไรถึงต้องช่วยผู้หญิงอย่างฉันที่เพิ่งจะรู้จักได้แค่วันเดียวเท่านั้น ทว่าเขากลับทำให้ฉันรู้สึกว่าเขาพึ่งพาได้ แม้ว่าเคยบอกว่าตัวเขานั่นอันตรายกว่าคนพวกนั้น ฉันกลับคิดว่าถ้าหากอันตรายจริง แต่ไม่ทำร้ายร่างกายฉันมันก็คงดีกว่า

ชีวิตของฉันมันไม่ได้มีค่าอะไรเลย... อยู่ที่นี่ไปก็มีแต่โดนทำร้ายจิตใจหรือร่างกาย ต้องคอยระแวงว่าลุงกับน้องนอกไส้จะเข้ามาลวนลามหรือขืนใจได้สำเร็จตอนไหนก็ไม่รู้ ฉันต้องหลุดพ้นจากสิ่งที่ทำให้หัวใจของฉันมีบาดแผลได้สักที

“ฉันจะยอมทำตามคำสั่งของคุณองศาทุกอย่างค่ะ” พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจนคนตรงหน้ายิ้มมุมปาก “หลังจากนี้ชีวิตของฉัน เป็นของคุณค่ะ”

“...”

“ได้โปรด ช่วยให้ฉันหลุดพ้นจากคนพวกนี้ทีนะคะ”

“พูดแล้ว เธอไม่สามารถคืนคำได้นะแพรวา” คุณองศายังคงย้ำว่าถ้าสัญญาแล้ว ต้องทำให้ได้ ฉันก็พยักหน้ารับแม้ว่าคำสัญญาระหว่างเราเป็นเพียงสัญญาทางใจ แต่ฉันจะไม่ทรยศและหักหลังเขาเด็ดขาด ขอแค่เขาพาฉันออกไปจากขุมนรกแห่งนี้สักที แค่ชีวิตมีแค่ไหนก็จะยอมยกให้เขาจนหมด “ฉันถามอีกครั้ง”

“ไม่ต้องถามค่ะ” รีบคัดค้านคำพูดของคุณองศา “ฉันตัดสินใจแล้ว”

“ฉันอันตรายมาก เพราะฉะนั้นชีวิตของเธอเป็นของฉัน เธอไม่มีทางหนีฉันพ้น...”

“ฉันจะไม่หนีคุณค่ะ”

“...”

“จะอยู่กับคุณไปตลอดชีวิต ฉันจะทำตามที่คุณสั่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะสั่งให้ฉันทำอะไรหรือสั่งให้ฉันไปตายก็ตาม”

“ฉันเคยบอกแล้วใช่ไหม เธอตายไม่ได้” คุณองศาย้ำชัดว่าฉันยังไม่สมควรตาย มันก็จริงนั่นแหละ ชีวิตของฉันจะต้องไปได้มากกว่าที่มันควรจะเป็น “เข้าบ้านกัน”

เขาจูงมือฉันเดินเข้ามาในบ้าน แต่ระหว่างนั้นฉันก็หันไปมองคนของคุณองศาสามคนและมีอยู่คนหนึ่งที่ส่งยิ้มที่อ่อนโยนมาให้ ประตูถูกถีบจนเกือบจะพังลง ป้า ลุงและน้องชายนอกไส้นั่งดูทีวีกันอยู่พอเห็นฉันกับคุณองศาก็ตกใจทันที

“ไปเก็บของที่ห้องเธอมาให้หมด”

“เดี๋ยวนะ แกจะไปไหนนังแพร”

“แพรวาจะไปอยู่กับฉัน และพวกแกก็ห้ามมายุ่งกับเธออีก ถ้าฉันเห็น... จะไม่ใช่ปืนที่ยิงขู่” ฉันรีบเข้าห้องที่อยู่ข้างห้องน้ำไปเก็บของใช้ส่วนตัวของตัวเอง หันไปมองคนของคุณองศาที่เข้ามา

“ผมชื่อนนท์นะครับ คุณองศาให้ผมมาช่วยคุณแพรวา”

“เรียกฉันว่าแพรก็พอค่ะ ไม่ต้องคุณก็ได้” คุณนนท์ส่งยิ้มที่อ่อนโยนมากๆ มาให้ และเขาก็ช่วยฉันเก็บหนังสือบนโต๊ะทำงานลงกระเป๋าผ้าส่วนฉันก็เปิดตู้เอาเสื้อผ้าทั้งหมด พอไม่มีของที่จะต้องเก็บ ฉันก็เหลือบไปเห็นกรอบรูปของพ่อแม่และฉันตอนที่ยังเด็กยัดลงกระเป๋าสะพายเป็นแบบผ้า “เรียบร้อย”

“ผมถือให้ครับ” ส่งกระเป๋าเสื้อผ้าและกระเป๋าของใช้ส่วนตัวให้คุณนนท์ถือเดินออกไปข้างนอก ฉันเดินออกมาเห็นคุณองศากำลังยืนเอาแขนทั้งสองพาดอก มองป้า ลุงและเอ็มน้องชายนอกไส้

“เก็บของหมดแล้ว?”

“ค่ะคุณองศา” ตอบร่างสูงที่ชี้หน้าป้า ลุงและเอ็มที่ก้มหน้าลงกับพื้นไม่เงยขึ้นมาสบตากับคุณองศาสักนิด อาจด้วยมีปลายกระบอกปืนสีเงินจ่อศีรษะเรียงตัวจากคนของคุณองศาที่น่าเกรงขามเช่นเดียวกับตัวของเขา

“จากนี้ไปถ้าใครกล้ารังแกแพรวาอีก ฉันไม่ปล่อยเอาไว้แน่”

“แกเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงกล้าเอาปืนมาจ่อหัวพวกเราวะ!” ลุงตะคอกใส่คุณองศาที่กระตุกยิ้มเดินไปหยุดตรงหน้าและย่อตัวลงนั่งตรงหน้าลุงที่กลัวจนตัวสั่น... นี่คือสิ่งที่ฉันต้องพบเจอกับการโดนลวนลามและเกือบจะโดนขืนใจ สีหน้าและท่าทางหวาดกลัวของฉันมันส่งไปให้คนพวกนี้ได้รับมันสักทีนะ

“องศา โยคินวาณิชย์สกุล” คุณองศาบอกชื่อนามสกุลตัวเองเสร็จสัพพลางตบไปที่แก้มของลุงอย่างแรงจนหน้าหัน “ลองหาข้อมูลกูในเน็ตสิ แล้วพวกมึงจะรู้ว่าไม่ควรมาเล่นกับกู”

“...” ฉันเดินไปหยุดข้างคุณองศาที่หันมามองฉัน เขาสูงมากจนฉันต้องเงยหน้าสบตาเขา องศา โยคินวาณิชย์สกุล ฉันคงต้องลองหาข้อมูลของเขาดูบ้างแล้วล่ะ ก็การที่ต้องหนีจากครอบครัวที่เหลืออยู่ต้องไปอยู่กับเขาทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนถ้าไม่รู้จักกันเขาซะก่อนจะรู้ได้ไงว่าเขาอันตรายมากแค่ไหน

“ไปกันเถอะ”

“ค่ะ”

“นี่แกกล้าทิ้งฉันไปงั้นเหรอนังแพร!” ป้ายังคงตะโกนถามฉันด้วยสีหน้าเหลืออด คุณองศามองฉันที่ค่อยๆ หันมามองป้าด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเยาะเย้ย “อีทรยศ แกไม่สำนึกบุญคุณฉันสักนิด แล้วยังจะกล้าไปกับผู้ชายที่ไม่รู้จักอีก แกคิดว่าเขาจะดูแลแกได้ดีกว่าฉันงั้นเหรอ”

“ดูแลดีเหรอคะ?” ฉันเอ่ยถามด้วยเสียงที่ราบเรียบแต่จุกในอกเป็นบ้า “ให้แพรกินข้าวเหลือจากป้า ให้แพรทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะได้หาเงินมาให้ป้ากับครอบครัวใช้ ให้แพรไม่ต้องเรียนเพื่อจะได้เป็นคนรับใช้ของป้า ให้แพรเลิกเรียนเพราะอยากให้แพรหาเงินและพาแพรไปขายที่ซ่อง นี่เหรอคะที่เลี้ยงดูแพรอย่างดี”

“...” ทุกคนเงียบปากสนิท จนคนของคุณองศาหันมามองฉันแวบหนึ่ง ทว่าไม่มีอะไรต้องอายอีกต่อไปแล้ว

“ดูแลแพรให้ลุงเข้ามาลวนลามแพร ให้ลุงเกือบจะขืนใจแพร ไหนจะเอ็มอีก ป้าไม่รู้เหรอว่าพวกเขาทำอะไรกับแพรไว้บ้าง มันเป็นตราบาปนะคะ ป้าก็เป็นผู้หญิงทำไมป้าถึงได้ปล่อยให้พวกเขาทำกับแพรแบบนั้นล่ะ!” ตวาดใส่ป้าที่สีหน้าถอดสีขณะมองสามีและลูกเลี้ยงของตัวเอง “ป้ารู้ไหมว่าถ้าแพรมีแหวนของแม่อยู่ แพรไม่อยู่ให้ป้าโขกสับหรอกค่ะ”

“แล้วแหวนแม่แกไปไหน?”

“ไม่ใช่เรื่องที่ป้าต้องรู้หรอกค่ะ ป้ารู้แค่ว่าแพรอยู่ที่ไหนก็ได้ ดีกว่าอยู่ที่นี่จนป้าเอาแพรไปเร่ขายตามซ่อง... หรือแพรอาจจะโดนขืนใจจริงๆ ก็ได้ ป้าไม่เข้าใจเหรอคะ” น้ำตาของฉันไหลรินอาบแก้มจำต้องเอาหลังมือปาดมันออกไป “จะมองว่าแพรอกตัญญูก็ได้นะ แต่แพรทนให้ตัวเองถูกข่มเหงรังแกไม่ได้หรอกค่ะ”

“พอแล้ว” คุณองศาดึงข้อมือฉันให้หันไปมองเขาทั้งน้ำตา “ทิ้งเรื่องเลวระยำที่เธอพบเจอไปซะ”

“...”

“คิดว่าคนพวกนี้ไม่ใช่ญาติเธอ เธอไม่มีญาติแบบนี้ จำไว้แพรวา”

“ค่ะ คุณองศา” ฉันเชื่อฟังเขาอย่างง่ายดายเหมือนสัตว์เลี้ยงของเขา แค่บอกว่าให้ทำอะไรก็ยอมทุกอย่าง ชีวิตของฉันต่อจากนี้ขึ้นอยู่กับเขา ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้เชื่อใจคนๆ นี้ทั้งที่เพิ่งจะเคยเจอกัน ฉันก็รีบเก็บข้าวของหนีตามเขาไปเลย

“กลับกัน ฉันมีงานต้องทำต่อ”

คุณองศาจูงมือฉันออกจากบ้านหลังนี้ที่เป็นเหมือนรกบนดิน นรกที่ทำให้ชีวิตของฉันต้องเจ็บปวดและทุกข์ทรมานมาเป็นสิบๆ ปี ฉันกลับมาที่คอนโดที่หรูหราของคุณองศาอีกครั้ง รอบนี้ได้สำรวจห้องของคุณองศาแบบชัดๆ ก็คือรอบๆ ห้องเป็นบานกระจกทั้งหมดที่สูงเทียบเพดานผ้าม่านสีขาวแบบโปร่งถูกเปิดรับแสงเข้ามาภายในห้อง มีเตียงนอนที่ฉันเคยนอนอยู่สีดำปนเทาตั้งเด่นสง่าอยู่กลางห้อง มีโซฟาเดี่ยวและปลายเตียงจะมีตู้ตั้งทีวีขนาดยักษ์ คุณองศาให้ฉันเอาเสื้อผ้าไปแขวนไว้ในห้องแต่งตัวของเขาที่มีเสื้อสูท,เสื้อเชิ้ตสีขาวและดำเรียงรายหลายยี่สิบกว่าตัว ฉันเลยแบบไม่กล้าที่จะเอาเสื้อผ้าแขวนเทียบเขาด้วยซ้ำ แต่คุณองศาก็ให้ฉันจัดการให้เรียบร้อย พาเดินชมห้องที่กว้างขวางพื้นที่ได้บ้านหลังหนึ่งก็ว่าได้ เคาน์เตอร์ครัวสไตล์ฝรั่งมีโต๊ะกินข้าวสี่ตัวริมบานกระจก คุณองศาก็พาเดินตัดมายังด้านข้างของห้องที่มีอ่างกุชชี่ขนาดสี่เหลี่ยมกว้างยกสูงขึ้นมาเล็กน้อย วิวตรงนี้ดีมากไม่เคยเห็นห้องที่ดูแพงและหรูขนาดนี้มาก่อน ขนาดห้องน้ำก็ยังแบบเป็นห้องได้ห้องหนึ่งเลย คุณองศาเดินนำฉันมาถึงเตียงนอนเขาก็ให้ฉันนั่งลงพลางกอดอก “เธออยู่ที่นี่กับฉันได้ตลอด”

“ค่ะ”

“ฉันให้อิสระเธอ ทั้งเรื่องเรียนและเรื่องทำงาน แต่ว่าฉันจะส่งคนของฉันไปรับไปส่งเธอและเฝ้าเธอตลอดเวลา เผื่อว่าคนพวกนั้นจะมาทำอะไรเธออีก ตกลงไหม?”

“ค่ะ”

“แล้วเรื่องเงิน ไม่พอหรือมีกิจกรรมอะไรที่จะต้องใช้ ให้มาบอกฉัน” พยักหน้ารับ อันที่จริงเรื่องนี้ฉันทำงานหาเงินได้ ไม่รบกวนอะไรของเขามากหรอก คุณองศาพูดจบเขาก็เงียบไป

“ขอบคุณนะคะที่ให้ฉันมาอยู่ที่นี่ด้วย แต่ไม่ว่าคุณองศาจะให้ฉันทำอะไร บอกมาได้เลยนะคะ”

“ตอนนี้ยัง”

“...” แสดงว่ามีสินะ

“เธอนอนบนเตียงกับฉันได้เลย ปกติฉันจะกลับห้องแค่ไม่กี่ครั้งต่ออาทิตย์” อ๋อ แบบนี้ถึงให้ฉันมาอยู่ที่ห้องกับเขาได้สินะ พอรู้ว่าได้หลุดพ้นจากที่นั้นฉันก็ต้องใช้ชีวิตของตัวเองใหม่ “ไม่ต้องคิดอะไรมาก เธอผ่านมันมาแล้ว”

“ฉันขอบคุณคุณองศาอีกครั้งนะคะที่ช่วยฉันไว้” ยกมือไหว้ขอบคุณเขาที่พยักหน้าก็ไม่รู้หรอกนะว่าต้องขอบคุณเขาอีกกี่ล้านครั้ง ถึงจะให้สมกับที่เขาทำให้ฉันหลุดพ้นออกมาได้ “ดีกว่าอยู่กับพวกเขา ฉันเชื่อใจคุณว่าจะไม่ทำกับฉันแบบนั้น”

“เฮ้อ ฉันไม่ใช่คนประเภทนั้นหรอกนะ เธอวางใจได้” ใบหน้าหล่อเหลาเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม “ปกติฉันไม่ค่อยยุ่งเรื่องของใครนะ ปล่อยผ่านไปหมด พอเห็นเธอโดนกระทำ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำแบบนี้เพื่ออะไร”

“เพราะคุณองศาเป็นคนดีไงคะ” ฉันมองเขาด้วยสายตาที่ชื่นชม “ขอบคุณนะคะที่ไม่ปล่อยผ่าน ไม่งั้นป่านนี้ฉัน...”

“บอกแล้วไงว่าเลิกคิดเรื่องนี้” ร่างสูงเดินมาหยุดตรงหน้าฉันพลางโน้มใบหน้าลงมา วางมือทั้งสองข้างบนเตียงกักกันฉันไม่ให้ไปไหน ยามที่ลมหายใจของเราสองคนผสานกันไปมา หัวใจของฉันกลับเต้นแรงเป็นบ้า “ฉันจะให้เธอพักผ่อน ฉันต้องไปทำงาน”

“เออ วันนี้จะกลับมาไหมคะ?” เรียกรั้งแผ่นหลังกว้างไว้ ใบหน้าหล่อเหลาก็เอี้ยวมามอง “จะได้ทำกับข้าวไว้รอค่ะ”

“อืม กลับก็ได้”

พอคุณองศาตกลงจะกลับมาและบอกว่าในตู้เย็นมีของสดอยู่ เขาซื้อทิ้งไว้คงยังไม่เน่าหรอกมั้ง? ก็เลยต้องลุกขึ้นไปดู ดีนะที่ของสดไม่มีอะไรเน่าไม่งั้นคงต้องไปซื้อใหม่ ฉันเดินไปรอบๆ ห้องและมานั่งพิงหัวเตียง พร้อมเปิดโน้ตบุ๊คหาข้อมูลของคุณองศาว่าเขาเป็นใคร? มีอิทธิพลมากขนาดที่ว่าทั้งเขาและคนของเขามีปืนพกด้วย

“องศา โยคินวาณิชย์สกุล บุตรชายคนเดียวของท่านศาวิทย์และคุณหญิงอรอนงค์ ผู้มีอิทธิพลมากๆ และร่ำรวยมหาศาลจากธุรกิจมากมายทั้งในและต่างประเทศ...” ฉันกดเข้าไปดูรูปของคุณองศาที่มีแต่รูปเท่และแบดทุกรูป “คุณองศาเกิดวันที่ 1 มค. ปีพศ. ไม่ระบุ อายุ 32 ปี เป็นประธานบริษัทนำเข้ารถหรูและมีโชว์รูมรถที่ไม่ว่าใครก็มาซื้อรถที่นี่ ฉันอ่อนกว่าเขาสิบปีเลยเหรอเนี่ย”

อายุ 32 ปี ส่วนฉันก็ 20 ห่างกันตั้ง 12 ปีแหน่ะ แต่คุณองศายังดูหล่อเหลาราวกับว่าหนุ่มวัยนี้น่าค้นหาและน่าเกรงขามจริงๆ นั่นแหละ ประวัติของเขาไม่เชิงน่ากลัวนะ เป็นบุตรชายของคนที่มีอิทธิพลแบบสุดๆ มากกว่า

Rrr

ฉันสะดุ้งตกใจทันทีที่หันไปมองปลายสายคิดว่าป้าจะโทรมา มันเหมือนเป็นความระแวงและความกลัวทั้งที่ฉันบล็อกเบอร์พวกเขาไปจนหมด ทว่าเบอร์นี้ไม่ใช่ใครอื่นเลยนะ “ว่าไงนิว”

(“แพร วันนี้ทำไมเธอไม่มาเรียน เป็นอะไรหรือเปล่า ให้ไปหาไหม?”) คนในสายร้อนรนถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง ‘นิว’ เป็นเพื่อนในคณะเดียวกับฉันคือคณะอักษรศาสตร์ (“นั่นสิแพร เป็นอะไรมากไหม เป็นห่วงนะ”)

“ฉันไม่เป็นไรนิว ‘เอม’” เอมคือเพื่อนสาวอีกคนที่อยู่ในกลุ่มของฉันนะ

(“หรือยัยป้ามหาภัยทำอะไรเธออีก!”)

“เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ฉันจะไปเรียน ไว้ค่อยเล่าให้ฟัง แล้วก็ไม่ต้องไปที่บ้านนั้นแล้วนะ”

(“ได้ งั้นเจอกันพรุ่งนี้”) เป็นนิวที่ตอบรับไม่เซ้าซี้ถามซักไซ้อะไรอีก เพื่อนสองคนนี้เป็นห่วงเป็นใยฉันมาก เพราะสองคนนี้รู้ว่าฉันต้องเจอกับอะไรและรู้ว่าฉันโดนกระทำเยี่ยงสัตว์ป่าจากญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ ฉันเอานิ้วมือลูบไล้นิ้วนางขวาเนื่องจากที่ตรงนี้เคยมีแหวนของแม่ฉันอยู่... แต่มันกลับไม่อยู่บนนิ้วของฉันแล้วล่ะ

*-------------------------------------------*

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ์Nevermind ไม่เหลือทางที่จะรัก   Special episode :: ขอบคุณเธอที่เข้ามาในชีวิต / ขอบคุณเขาที่มอบทุกอย่างให้ Part.4 [จบบริบูรณ์]

    “รักมากที่สุด” ในที่สุดคำที่ฉันอยากฟังก็ออกมากจากริมฝีปากแดงคล้ำ ดวงตาของฉันเอ่อล้นไปด้วยน้ำตาทันที“แพรก็รักเฮียองศาค่ะ”====================เสียงคลื่นทะเลสาดซัดเข้าฝั่งเมื่อฉันยืนกอดอกมองสายน้ำและทรายที่เหยียบอยู่ บ้านพักริมทะเลของเฮียองศาเวลานี้เราได้มาพักผ่อนหลังจากที่ผ่านอะไรด้วยกันมามากมาย เคยบอกว่าคงจะไม่ได้ที่นี่อีกสุดท้ายฉันกลับยืนมองมันอยู่ตรงนี้ ขณะที่ยืนลูบแขนตัวเองเพราะลมทะเลในตอนเช้าค่อนข้างหนาว ผ้าแพรสีน้ำเงินก็ถูกคลุมจากด้านหลัง หันไปมองใบหน้าหล่อเหลาที่ถึงแม้อายุจะนับไปเรื่อยๆ ใบหน้าของเขาก็ยังคงหล่อเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ราวกับว่าสตาฟมันเอาไว้“เข้าไปข้างในดีไหม หนาวตัวเย็นเลย”“ไม่เป็นไรค่ะ แพรอยากอยู่ตรงนี้ก่อน เดี๋ยวลูกเผลอวิ่งลงทะเล” ฉันกับเฮียองศามองเด็กผู้ชาหนึ่งคนที่กำลังนั่งเล่นก่อกองทรายเป็นรูปปราสาท ‘เด็กชายพายุ โยคินวาณิชย์สกุล’ อายุ 5 ขวบ ลูกชายคนแรกของเราสองคนที่หน้าตาเหมือนฉันแต่นิสัยคล้ายพ่อ คิดดูว่าพายุเป็นเด็กฉลาดมากและก็มีมุมที่อ่อนโยนเหมือนกันฉันแค่นิดเดียวนะ นิดเดียวจริงๆ“งั้นเดี๋ยวเฮียไปดูลูกก่อน” พูดจบก็กึ่งวิ่งกึ่งเดินไปหาลูกชายที่พอเห็นพ่อก

  • ์Nevermind ไม่เหลือทางที่จะรัก   Special episode :: ขอบคุณเธอที่เข้ามาในชีวิต / ขอบคุณเขาที่มอบทุกอย่างให้ Part.3

    พูดจบก็จูงมือฉันขึ้นรถขับออกจากคาสิโน ไม่สิ ผับของเฮียก็ตรงมายังเส้นทางที่ไปบริษัทรถของเขานี่นา ฉันจำได้ดีเลยว่าเราเจอกันวันนั้นที่ฉันเก็บกระเป๋าเงินให้เฮียได้และหลังจากนั้นเราก็ได้เจอกัน ได้อยู่ด้วยกันจนมาถึงปัจจุบันนี้ รถของเฮียจอดลงที่หน้าบริษัทของเขาที่มีรถหรูราคาแพงโชว์เรียกลูกค้าระดับสูงๆ กันทั้งนั้น ฉันเดินตามเฮียองศามายังด้านข้างบริษัทมองเข้าไปข้างในก็ยิ่งมึนงงหนักไปอีกก็แค่ร้านกาแฟกับเค้กไม่ใช่เหรอ? เพิ่งจะรู้ว่าตรงนี้มีร้านกาแฟด้วย ตอนเจอกับเฮียยังเห็นเป็นร้านขายของที่ระลึกอยู่เลยมาตอนนี้กลับกลายเป็นร้านกาแฟและเค้กไปด้วย มีคนเข้าไปในร้านค่อนข้างเยอะอาจเพราะตรงนี้เป็นย่านติดกับการค้าหลากหลายไหนจะมหาลัยอีก ไหนจะบริษัทอีกทำเลตรงนี้คือดีมากเลยนะ“มองไปข้างบนสิ” เฮียองศาให้ฉันมองขึ้นไปด้านบนอีกครั้ง แน่นอนว่าความรู้สึกก็เหมือนกับตอนที่มองป้ายผับของเฮียองศา ฉันหันไปมองเฮียที่จูงมือพาฉันเข้ามาในตัวร้านและมีพนักงานสองคนเห็นเฮียก็รีบมาต้อนรับ “นี่แพรวา เมียฉัน”“ค่ะคุณองศา”“เมียฉันเป็นเจ้าของร้านกาแฟนี้”“ฮะ เฮียคะ มันไม่มากไปเหรอคะ?” ฉันบีบฝ่ามือหนาแน่นจนเฮียองศาหันมายิ้ม“ชื่อร้า

  • ์Nevermind ไม่เหลือทางที่จะรัก   Special episode :: ขอบคุณเธอที่เข้ามาในชีวิต / ขอบคุณเขาที่มอบทุกอย่างให้ Part.2 [NC+]

    พูดจบก็โน้มมาบดขยี้จูบบนกลีบปากฉันราวกับห่างหายมานานจนมันทับถมกลายเป็นความต้องการอย่างมากล้น เฮียผละจูบออกให้ฉันได้หายใจอารมณ์เวลานี้พลุ่งพล่านจนฉันไปไม่เป็นได้แต่หอบหายใจหนัก ขณะที่มือของฉันก็เลื่อนไปกอบกุมความเป็นชายของเฮียองศาเวลานี้มันอยากออกมาสูดอากาศข้างนอกแต่เฮียก็ยังคงไม่ได้ยอมให้มันออกมาสักที ไล่จูบมาถึงทรวงอกพลางครอบครองยอดอกฉันด้วยอุ้งปากที่ร้อนระอุ นั่นทำให้ฉันเสียวจนจิกนิ้วเท้าบนพื้นกระเบื้องเย็นเฉียบแน่น ริมฝีปากร้อนไล่มาถึงหน้าท้องแบนราบจากนั้นก็ยกขาข้างหนึ่งของฉันพาดบ่าสิ่งที่เฮียกำลังทำฉันรู้ดีถึงได้จิกเส้นผมหนานุ่ม ณ เวลานี้เฮียกำลังตักตวงความหอมหวานจากกลางกายสาวอย่างมูมมาม พอทำจนพาฉันไปถึงสวรรค์ชั้นที่เท่าไหร่ฉันไม่อาจรู้ได้ ฉันก็มองสบตากับเขาพลางย่อตัวนั่งคุกเข่าตรงหน้าเขาพลางรูดกางเกงยีนส์ของเฮียลงมาพลางกางเกงในซึ่งท่อนเอ็นยาวใหญ่ตีโดนแก้มฉันเบาๆ“แพรกินเฮียบ้างนะคะ” ฉันมองสบตากับเฮียองศาที่กระตุกยิ้มมุมปากเมื่อฉันใช้มือประคองความเป็นชายที่ใหญ่ยาวของเขาซึ่งเวลานี้กำลังแข็งและดิ้นไปมาในมือของฉัน จากนั้นฉันก็ค่อยๆ โน้มใบหน้าลงไปสูดเอากลิ่นสาบเข้ามาในปดให้ได้มากที่สุ

  • ์Nevermind ไม่เหลือทางที่จะรัก   Special episode :: ขอบคุณที่เธอเข้ามาในชีวิต / ขอบคุณเขาที่มอบทุกอย่างให้ [Part.1]

    ตอนพิเศษขอบคุณเธอที่เข้ามาในชีวิต / ขอบคุณเขาที่มอบทุกอย่างให้ ====================“เรามาแต่งงานกัน แพร”“...”“ฉันพูดจริงนะ” คุณองศาเดินมาหยุดตรงหน้าฉันพลางจับมือฉันที่วางอยู่ไปกุมไว้ กระทั่งพลุไฟเย็นหมดลงคุณองศาก็ดึงก้านมันออกวางไว้บนโต๊ะ บีบมือฉันแน่นพลางโน้มลงมากดจูบอย่างแนบแน่น “ฉันรู้แล้วว่าต้องทำยังไง ถึงจะมีเธออยู่ข้างๆ กันไปตลอดชีวิต”“ตะ แต่ว่าการแต่งงานมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้วแพรคิดว่าคุณองศาอาจจะเจอใครที่ดีกว่า...”“ไม่มีใครดีมากกว่าเธอ” เขาส่ายหน้าไปมาราวกับบอกว่าไม่มีใครดีเท่าฉัน “ฉันเลือกแล้ว”“แพรยังไม่พร้อมนี่คะ” ตอบคุณองศาซึ่งเขาก็ไม่ได้โกรธฉันหรอกนะ เขายังยิ้มเอ็นดูฉันอีกต่างหาก “แพรเพิ่งจะได้ใช้ชีวิตของตัวเองในแบบที่แพรไม่เคยได้ใช้ แล้วแพรกลัวว่าถ้าแต่งงานไปแพรอาจจะไม่ได้ใช้ชีวิตแบบนี้”“สองปีที่ผ่านมายังไม่พออีกเหรอ?” มันก็พอนั่นแหละ “หรือเธอไม่อยากแต่งกับฉัน”“ไม่ใช่นะคะ! แพรอยากแต่งกับคุณองศาค่ะ แต่ว่า...”“แต่อะไรอีกล่ะ เธอเนี่ยแต่ๆ บ่อยมาก”“แพรขอเวลาคิดได้ไหมคะ?” เอาจริงไม่ได้อยากปฏิเสธคำขอแต่งงานของคุณองศา ถึงตกใจพอตั้งสติได้ก็ดีใจเป็นบ้าเลยล

  • ์Nevermind ไม่เหลือทางที่จะรัก   Nevermind :: CHAPTER 38 Happy birthday & Happy new year ll Part.2 [100%] THE EHD

    เช้าของวันที่ 31 ธค. คุณองศาขับรถมาส่งฉันที่ร้านกาแฟซึ่งปานก็รออยู่พร้อมพี่วิทย์ พอให้หลังคุณองศาฉันก็ให้ปานกับแฟนหนุ่มกลับไป แค่ฝากซื้อของก็เกรงใจจะแย่ คุณองศามาส่งฉันบอกว่าจะแวะไปทำธุระให้พ่อของเขา เขาน่ะจำวันเกิดตัวเองได้จริงปะเนี่ย? วันเกิดคุณองศาจำง่ายสุดเลยนะดูเขาแบบไม่ได้สนใจเลย เหมือนลืมว่าเที่ยงคืนของวันที่ 1 มค. ฉันจะเซอร์ไพร์สวันเกิดเขา จะมาทำหน้างงไม่ได้นะขอบอก ฉันขอให้คุณองศาแวะซื้อพลุไฟเย็นมาด้วยทางบ้านพักอนุญาตให้จุดแบบไม่มีเสียงเพราะงั้นก็เลยต้องใช้พลุไฟเย็นแทน เอาจริงฉันอยากจุดตอนที่วันปีใหม่ได้เริ่มอะไรใหม่ๆ แต่เริ่มใหม่กับคนดีคนเดิมอะนะ ฉันเข้ามาในห้องครัวร้านพี่รันที่ตอนนี้ปิดวันหยุด ก็จัดการทำคัพเค้กเจ็ดชิ้นตกแต่งด้วยมาการองโยเกิร์ตสตอร์วเบอรี มีน้ำตาลแบบวงกลมสีทองและสีเงิน ส่วนตกแต่งหน้าคัพเค้กฉันก็จะทำเป็นครีมสีชมพูทำเป็นดอกกุหลาบ ซึ่งทำคัพเค้กใช้เวลาก็ประมาณบ่ายนิดๆ ก็คงเสร็จ“ปานซื้อเทียนเป่าไม่ดับมาด้วยเหรอเนี่ย?” ขืนให้คุณองศาเป่าไม่ดับบอกเลยว่าคัพเค้กคงไม่ได้กินแต่ถูกโยนทิ้งและกระทืบมากกว่า เขาน่ะคงไม่ชอบอะไรแบบนี้ดีนะที่สั่งซื้อเทียนแท่งยาวเรียวคล้ายเทียนเ

  • ์Nevermind ไม่เหลือทางที่จะรัก   Nevermind :: CHAPTER 38 Happy birthday & Happy new year II Part.2 [50%]

    Nevermind : 38Happy birthday & Happy new year II Part 2“ส้มเต็มต้นเลยแหะ” คุณองศาเอ่ยขึ้นพลางเอื้อมมือไปจับลูกส้มที่สุกกำลังน่ากิน ฉันหยิบตะกร้าขึ้นมาเพื่อเลือกส้มกลับบ้านพักได้โดยชั่งตามน้ำหนัก ตอนนี้เราอยู่ตรงกลางสวนที่มีผ้าปูสำหรับไว้ปิกนิก คุณองศาสั่งเครื่องดื่มและเค้กส้มซึ่งที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องเค้กส้มเลยล่ะ “เปรี้ยวหรือเปล่า?”“เดี๋ยวแพรเก็บเอาไปชั่งจ่ายเงินแล้วค่อยลองชิมดูค่ะ” ตอบโดยไม่มองหน้าเขาฉันก็เลือกส้มเต็มตะกร้าก็เอาไปชั่งที่เขามีไว้สำหรับแพคส้มกลับบ้านซึ่งเป็นแพคเกจที่น่ารักมากๆ เมื่อได้ถุงกระดาษที่ติดโล้โก้ของสวนฉันก็เดินกลับมาที่ปิกนิกเห็นคุณองศามองผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นพนักงานของที่สวนเอาเครื่องดื่มกับเค้กมาเสิร์ฟ ผู้หญิงคนนั้นมองหน้าเขาและเอียงอายแถมยังคุยอะไรกันสักอย่างซึ่งฉันไม่ได้ยินหรอกนะ “มาแล้วค่ะ”“เค้กมาพอดี” พนักงานผู้หญิงมองฉันพลางเดินออกจากตรงนี้ ฉันมองเค้กส้มที่น่ากินกับชาเขียวเย็นที่คุณองศาสั่งให้ราวกับรู้ว่าเป็นของโปรดของฉัน “เสียค่าส้มไปเท่าไหร่ เอาเงินฉันไป”“ไม่เป็นไรค่ะ แพรมีเงิน” ตอบคุณองศาโดยไม่มองหน้าเขาตักเค้กส้มกินซึ่งอร่อยขึ้นชื่อจริงๆ“อยากถ

  • ์Nevermind ไม่เหลือทางที่จะรัก   Nevermind :: CHAPTER 38 Happy birthday & Happy new year [100%]

    “อื้ม พะ พอแล้วค่ะ” ดันใบหน้าหล่อเหลาให้ถอนจูบออก ให้ตายสิแพร! จะขาดใจจริงๆ นะ“คิดถึงเธอแทบบ้าแล้วแพร” คุณองศาเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่มากล้น ฉันเองก็เหมือนกันนั่นแหละแต่ว่าเล่นจูบจนเกือบจะพรากวิญญาณฉันมันก็ไม่ไหวนะ “ฉันจะตายจริงๆ นะถ้าเธอไม่ยอมให้สักที”“งั้นก็ตายไปเลยค่ะ” เค้นเสียงแข็งใส่เขาพลางเดินไปปิดแก๊สที่น้ำเดือดจนควันขึ้นแล้ว “ถ้าแพรอยาก แพรจะทำ”“...”“แต่ถ้าแพรไม่ แพรก็จะไม่ให้คุณองศาทำค่ะ”บอกเขาเด็ดขาดถึงจะมีเสี้ยวหนึ่งที่ดันอยากทำกับเขาเหมือนกับที่เขาคลั่งขนาดนี้ ฉันก็ไม่ยอมง่ายๆ หรอกนะบอกไว้ก่อน คุณองศาน่ะต้องโดนฉันทรมานเรื่องนี้ไปอีกสักพักจนกว่าฉันจะใจอ่อน อย่างน้อยก็ให้สมกับที่เขาเคยเผลอใช้คำพูดไม่ดีกับฉันมาตลอดที่เราอยู่ด้วยกัน ถึงจะมาง้อก็ใช่ว่าจะใจอ่อนเรื่องที่เขาอยากทำมันใจจะขาดตอนนี้ฉันเดินนำเขาอยู่นะ... หลังจากที่เดินตามเขามาตลอด ถึงเวลาที่คุณองศาต้องเดินตามกันบ้างเช้านี้ฉันนั่งเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองกับคุณองศาที่มีแค่ไม่กี่ชุด เขาคงไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมาค้างที่นี่เกือบครึ่งเดือนล่ะมั้งคงคิดว่าถ้าหากเจอฉันและฉันจะกลับไปกับเขามันก็ไม่

  • ์Nevermind ไม่เหลือทางที่จะรัก   Nevermind :: CHAPTER 38 Happy birthday & Happy new year [50%]

    Nevermind : 38Happy birthday & Happy new yearหลังจากที่คุณองศาเข้ามาในไร่กับฉันเพราะต้องการมาเป็นแมวเฝ้าเจ้าของ แถมเป็นแมวที่ดุเอามากๆ จนพี่รันเห็นยังขำเลยกระทั่งคุณองศาเดินเข้าไปในบ้านและเห็นรูปแต่งงานของพี่รันจากที่หน้าตาบูดบึ้งก็ยิ้มหน้าบาน แถมคุยกับพี่รันเรื่องไร่สตอร์วเบอรีอีกต่างหาก เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือได้อย่างรวดเร็วสมกับเป็นคุณองศาหลายร้อยหน้าเลิกงานฉันกับคุณองศาก็มาที่ตลาดนัดคนเดิน เพราะพรุ่งนี้ฉันไม่ต้องไปทำงานคุณองศาบอกว่าเช้าก็เก็บเสื้อผ้าไปที่บ้านพักรีสอร์ทบนเขาได้เลย เขาจองเรียบร้อยเห็นบอกว่าคืนหนึ่งก็ปาเข้าไปเกือบคืนจะสามหมื่นอะ คิดดูว่าต้องอยู่ที่นั้นอีกสามวันจนถึงวันเคาน์ดาวน์ปีใหม่และวันเกิดคุณองศาเลย ดูเหมือนเขาจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวันเกิดตัวเองหรือรู้ก็ไม่แน่ใจ คุณองศาดูไม่ได้สนใจว่ามันเป็นวันเกิดตัวเอง รู้แค่ว่าจะไปพักผ่อนกับฉัน ไหนจะพาไปเที่ยวอีกซึ่งฉันอยู่ที่นี่มาสองปียังไม่เคยไปเที่ยวทั่วจังหวัดเลยด้วยซ้ำ“อืม อันนี้อร่อยอะแพร” หันไปคุณองศาที่กำลังใช้ไม้จิ้มจิ้มไส้อั่วกินซึ่งเขาให้ชิม ไม่ได้ให้กินจนหมดถ้วยนะดูหน้าแม่ค้าสิทำหน้าจะร้องไห้แล้ว “ชิมจนอิ่มเล

  • ์Nevermind ไม่เหลือทางที่จะรัก   Nevermind :: CHAPTER 37 เราสองคน [100%]

    “เฮ้อ อยากจะบ้าตาย” คุณองศาเดินไปนอนบนเตียงต่อตามเดิม ฉันก็เลยพาตัวเองมานอนบ้างแต่ยังไม่ได้นอนหรอกนะเอาแต่จ้องตากันนั่นแหละ “ไม่อยากจะคิดว่าสองปีที่เธอหนีฉันมาจะต้องเจอกับเรื่องแบบนี้มากแค่ไหน”“แพรไม่เป็นไรหรอกค่ะ แพรน่ะป้องกันตัวเองเสมอ” ตั้งแต่คุณองศามาอยู่ด้วยกันมีดที่เคยใช้ป้องกันตัวก็ไม่ได้อยู่ใต้หมอนอีกต่อไป ราวกับว่าเขาคือที่พักพิงและคอยปกป้องฉันจากเรื่องที่มันไม่ดี สบายใจมากเลยล่ะ“ต่อไปนี้เธอไม่ต้องห่วงนะ ฉันอยู่ตรงนี้กับเธอ”“...”“จะอยู่กับเธอ ดูแลเธอไปจนวันตาย” คำพูดของคุณองศาทำให้ฉันเผยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ตื้นตันใจ “เราสองคนจะไม่มีวันพรากจากกันอีก”หลายวันผ่านไปเหลืออีกแค่ไม่กี่วันก็จะเป็นวันสิ้นปีที่คุณองศาหาที่พักเพื่อพาฉันไปพักผ่อน ตั้งแต่มีเขาเข้ามาในชีวิตบอกเลยว่าฉันกลับมามีความสุขอีกครั้งและเป็นความสุขที่เขาเป็นคนทำให้ด้วยนะ คุณองศาช่วงนี้เห็นบอกว่ามีธุระต้องไปจัดการแทนคุณพ่อของเขาที่โทรมาหาบอกว่าให้ทำธุระคือการไปดูแลรีสอร์ทแห่งหนึ่งที่ฉันเพิ่งจะรู้ว่าพ่อของคุณองศามีหุ้นส่วนอยู่เห็นว่ากำลังจะซื้อขาดเลย เขาก็เลยไม่ได้มานั่งเฝ้าฉันที่ร้านบ่อยๆ ซึ่งมันดีม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status