All Chapters of จูบรักฮีลใจ: Chapter 1 - Chapter 10
73 Chapters
Chapter 1
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึกและอารมณ์ที่พวกเขาไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้ จะอย่างไรก็ตามแม้ว่าคุณจะจดจำได้เสมอว่าชีวิตได้ดึงคุณขึ้นมาในช่วงเวลาหนึ่งและโยนคุณลงไปสู่ชีวิตอีกรูปแบบ ฉันหายใจเข้าลึกและคิดทบทวนว่าชีวิตของฉันเปลี่ยนไปมากเพียงนี้ได้อย่างไร น้ำตาหยดไหลออกจากตาเมื่อฉันนึกถึงเหตุการณ์เมื่อสองปีก่อน“ฉันไม่อยากให้คุณไป ได้โปรดอย่าไปเลย ฉันกลัว" ฉันมองเข้าไปในดวงตาของเธอและกอดเธอไว้แนบอก จูบเธอเบาๆที่หน้าผาก ฉันสัญญาว่าฉันจะกลับมาเร็วๆนี้“อย่าร้องไห้เลยนะ พี่ต้องไปทำงานสำคัญ” เธอหยุดร้องไห้และใช้มือเล็กๆของเธอจับที่ใบหน้าฉันและสะอื้นไห้ ฉันรู้สึกลังเลอยู่ครู่หนึ่งและคิดว่าหรือฉันควรจะทิ้งงานนี้ไปและอยู่กับเธอ แต่แล้วฉันก็รู้ว่าฉันมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ เอาล่ะค่ะ ฉันจะรอค่ะ"เด็กดี" ฉันจูบเธออีกครั้งแล้วออกจากวอร์ดถอนใจหายใจลึกๆ ขณะที่ฉันมองออกไปจากรถอาวดี้ เอสาม คาบริโอเล็ต สีแดงของฉัน มองดูทิวทัศน์ที่เคลื่อนผ่านไป ชีวิตของฉันเปลี่ยนไปเช่นกัน ฉันได้ผ่านอะไรมามากมายในชีวิตที่ทำให้ฉันอยากจะลืมมันไปเสียอย่างยิ่ง เพียงแต่ทว่ายังทำไม่ได้เท่านั้นฉันมองไปที่กระจกมองหลังและพบว่
Read more
Chapter 2
ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้และปลดกระดุมเม็ดกลางของชุดสูทอาร์มานี่ ทุกคนที่อยู่ในห้องประชุมยืนขึ้นตามผม ผมพยักหน้าหงึกหงักซึ่งทำให้ทุกคนรู้ว่าผมเห็นด้วยกับข้อตกลง ทุกคนเริ่มจับมือกัน และคุณวิทมอร์วิ่งมาหาผมเพื่อจับมือ“ขอบคุณ ขอบคุณครับท่านบิชอป” เขาร้องไห้อย่างมีความสุขและสั่นศีรษะไปมาผมวางมือบนไหล่เขาครู่หนึ่ง แล้วเดินออกจากห้องไปพร้อมกับ เบลคผู้ซึ่งเป็นเบต้า และโคล ซึ่งเป็นนักรบของผมเดินตามผมมาเบลคและโคลเป็นเพื่อนของผมในวัยเด็ก เบต้าเป็นผู้มีพลังพิเศษบางอย่าง และโคลเป็นนักสู้ที่ดีที่สุดของผม มีทักษะในด้านพลังในการต่อสู้ที่ดีเยี่ยม พวกเขามักจะมากับผมด้วยในการประชุมทางธุรกิจ แม้ว่าพวกเขาจะรู้จักผมดีตั้งแต่ยังเด็ก แต่พวกเขาก็ยังมีความกลัวและยังให้ความเคารพต่อผม พลังหมาป่าของผมทำให้พวกเขายำเกรง“ผมไม่ได้คาดหวังว่าคุณจะตกลงกับดีลนั้นง่ายๆแบบนี้เลย...” เบลคพูดจากด้านหลังผมมองเขาแล้วตอบว่า "ฉันก็เหมือนกัน..."เขาเลิกคิ้วขึ้นแต่ไม่เอ่ยถามอะไรเพิ่มเติมโคลมากับรถแล้ว เราทุกคนก็ขับรถกลับไปที่โรงแรมเพนท์เฮาส์เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะเราต้องกลับไปที่บ้านช่วงก่อนค่ำ หลังจากเปลี่ยนเป็นกางเกงยีนส์เดน
Read more
Chapter 3
ฉันได้ยินเสียงผู้ชายซึ่งทำให้รู้สึกเสียวซ่านไปถึงกระดูกสันหลังของฉัน พูดสิ “อัลฟ่า แต่เราต้องการเธอ” ฉันได้ยินเสียงผู้ชายอีกคนพูด“ไม่” ชายที่น่าจะชื่ออัลฟ่าตะโกนลั่น"มองดูที่เธอสิ เธอไม่คู่ควรกับฉัน เธอดูน่าเวทนา คนอย่างเธอจะมาเป็นคู่ของฉันได้ยังไง”หา นั่นกำลังชี้มาทางฉันเหรอ? ทำไมฉันจึงรู้สึกเจ็บปวดเมื่อได้ยินเช่นนั้นนะ “อัลฟ่าได้โปรดพยายามเข้าใจหน่อย เท่าที่คุณพยายามจะปฏิเสธ เธอก็เป็นอีกครึ่งของคุณ และเท่าที่คุณต้องการเธอ พวกเราก็ต้องการเธอเช่นกัน”“ก็ได้ เอาเลย ทำสิ่งที่คุณต้องการ จะเก็บเธอไว้ หรือโยนทิ้งไป ฉันไม่สน เพียงแต่ให้แน่ใจว่าคุณเก็บเธอไว้ห่างจากฉัน”ฉันได้ยินเสียงฝีเท้าซึ่งหมายความว่าผู้ชายที่ชื่ออัลฟ่ากำลังจะจากไปประตูเปิดออกและเสียงฝีเท้าก็หยุดลง“เธอไม่มีความหมายสำหรับฉัน และเมื่อเธอมีสติสัมปชัญญะฟื้นคืนมา ฉันจะปฏิเสธเธอ จะไม่มีการอ้อนวอนใดๆทั้งนั้น และทั้งหมดจะเป็นการตัดสินใจครั้งสุดท้ายของฉัน”เสียงของพวกอัลฟ่าดังขึ้น ไม่เหลือที่ว่างสำหรับคำว่าไม่ ฉันนึกภาพออกเลยว่าคนอื่นๆคงพยักหน้าด้วยความหวาดกลัว“เธอดูอ่อนแรง” เขาพูดและจากไปฉันรู้สึกโกรธและเดือดดาลภายในเมื่
Read more
Chapter 4
“บอก ชื่อ ของ เธอ มา” เขาเอ่ยเน้นหนักในแต่ละคำ“ก็ได้” ฉันตอบแล้วก้มหน้าไม่พูดอะไร"พูด!" เขาตะคอก เสียงดังลั่นห้องโคลและเบลคดูเคร่งเครียด และมองมาที่ฉันอย่างอ้อนวอน ให้ฉันบอกชื่อของฉันกับเขาไปฉันแกล้งทำท่าสอดนิ้วเข้าไปอุดในหู แล้วเขย่าส่ายหัวอย่างแรง“ว้าวว มีอะไรอยู่ในกางเกงของคุณเหรอ? ไม่ต้องมาตะคอกหรอก” ฉันพูด เขากำหมัดแล้วทุบโต๊ะเสียงดังลั่นฉันได้ยินเสียงแตกหักดังมาจากโต๊ะ โอ้โห เขาทำโต๊ะหักเลยเหรอ? มันจะเป็นไปได้ยังไง?ถึงกระนั้นฉันก็แสดงท่าทางไม่สะทกสะท้านกับเขาและยิ้มให้เขา ทำกระพริบขนตาของฉันขึ้นลงอย่างไร้เดียงสาดูเหมือนเขาจะโกรธมากขึ้น เขากำลังจะเปิดปากพูด แต่ก็หยุดเมื่อฉันขัดจังหวะขึ้นมา“บอกชื่อคุณมาก่อน แล้วฉันจะบอก” ฉันพูดพลางทำเป็นมองที่เล็บมือตัวเองเขาเลิกคิ้วและเอนหลังพิงเก้าอี้แล้วยกแขนขึ้นกอดอก"ก็ได้! ฉันชื่อ ดีแลน แบลค บิชอป”“เอเดอริน บรูคส์” ฉันตอบเขาพยักหน้าและลุกขึ้นยืน ฉันทำตามเขาและยืนอยู่ต่อหน้าเขา เขาสูงมาก ส่วนสูงของเขาทำให้ฉันกลัว“คุณบรูคส์ ผมรู้ว่าคุณมีคำถามมากมายเกิดขึ้นในหัวของคุณ แต่ฉันเดาว่าพวกเขารคงได้พูดไปแล้วว่าคุณจะต้องอยู่ที่นี่อีกสักพัก
Read more
Chapter 5
“อาดี้?” เสียงเคาะประตูจากอีกฟากหนึ่งของประตูถาม"คะ?" ฉันตอบพลางนั่งลงบนเตียง“ฉันเองเบลล์ ฉันเข้าไปได้ไหมคะ”"แน่นอน เข้ามาได้เลยค่ะ"ประตูเปิดออกและเธอก็เข้ามายิ้มให้ฉัน"คุณหลับสบายดีไหมคะ?" เธอถามยิ้ม และนั่งลงบนเตียงของฉัน“ดีจ้ะ เตียงนี้นอนสบายมาก และฉันก็เหนื่อยมากด้วย” ฉันหาวและเหยียดแขนขึ้นบิดขี้เกียจ“นี่ก็เก้าโมงเช้าแล้ว และอัลฟ่าก็ขอให้คุณลงมากินข้าว” เธอพูดแล้วฉันก็พยักหน้าฉันลุกขึ้นจากเตียงเปิดกระเป๋าและสวมเสื้อสเวตเตอร์สีดำและกางเกงยีนส์ของฉัน ฉันหยิบชุดชั้นในและกางเกงชั้นในและเข้าไปในห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัวฉันอาบน้ำและแปรงฟันอย่างรวดเร็ว ถักเปียไว้ด้านข้างและสวมเสื้อผ้า เมื่อออกจากห้องน้ำก็พบว่าเบลล์กำลังถือกรอบรูปของครอบครัวฉันอยู่"คุณกำลังทำอะไรน่ะ?" ฉันถาม เสียงเย็นโดยเธอไม่ทันตั้งตัว“เอ่อ ฉันกำลังคิดจะช่วยเก็บของของคุณ และฉันก็เห็นกรอบรูปนี้ ฉันขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ต้องการเข้าไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของคุณเลย” เธอพูดด้วยความเสียใจและเก็บกรอบรูปไว้บนโต๊ะ“ไม่ ไม่เป็นไร” ฉันพูดแล้วเดินไปหาเธอและโบกมือให้เธอช่วยฉันเก็บของ เธอยิ้ม และภายใน 15 นาที เราก็เก็บของทุกอย่าง
Read more
Chapter 6
ขณะที่ผมมุ่งหน้าไปยังที่ทำงาน ผมก็ส่งกระแสจิตถึงเบลล์ ขอให้เธอพาบรูคส์ลงไปรับประทานอาหารเช้าด้วย ข่าวการปรากฏตัวของเธอในบ้านของผม และข่าวที่ว่าเธอคือลูน่า แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วเหมือนไฟป่า มนุษย์หมาป่าทุกตัวได้รู้ข่าวว่าเธอจะเป็นราชินีภายในชั่วข้ามคืนผมไม่สามารถโทษใครได้ เอเดอริน มีรังสีออร่าอยู่รอบตัวเธอ ซึ่งทำให้มนุษย์หมาป่าต้องสวามิภักต่อเธอ เธอถูกวางให้เป็นคู่กับราชามนุษย์หมาป่า ซึ่งนั่นจะทำให้เธอเป็นราชินีแห่งมนุษย์หมาป่าแม้ว่าเธอจะสวยมาก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับฉันคือเธอเป็นมนุษย์ มนุษย์ไม่มีทางเปรียบเทียบกับมนุษย์หมาป่าในแง่ใดได้เลย มนุษย์หมาป่าแข็งแกร่งกว่ามนุษย์มากทั้งในเรื่องความแข็งแรงทางกายภาพ พลัง อายุขัย หรือแม้กระทั่งสติปัญญาการแต่งงานกับมนุษย์หมายถึงความรับผิดชอบ มนุษย์ไม่ควรจะรู้เกี่ยวกับมนุษย์หมาป่า และในเมื่อผมจะต้องแต่งงานกับมนุษย์ ผมจะต้องดูแลเธอและชีวิตของเธอ เหมือนเธอเป็นอีกครึ่งหนึ่งของชิวิตผม และนี่เป็นเรื่องยากสำหรับผมและสำหรับเธอที่เป็นมนุษย์เธอไม่มีโอกาสที่จะต่อสู้กับมนุษย์หมาป่าและศัตรูของผม การเป็นราชา ผมจะต้องดูแลอาณาจักรและประชาชนของผมเอง แต่ผมก
Read more
Chapter 7
“ไปทานอาหารกันเถอะค่ะ” เบลล์พูดพร้อมกับจับมือฉันแล้วลากฉันไปที่ไหนสักแห่ง"เดี๋ยวสิ! เราจะไม่ไปทานร่วมกับพวกเขาเหรอ?” ฉันถามแล้วชี้ไปที่ผู้คนที่กำลังทานอาหารเช้าอยู่ในห้อง“ไม่ค่ะ เราจะไปทานกันในอีกห้องหนึ่ง” เธอลากฉันไป แล้วฉันก็สังเกตว่ามีคนมองเมื่อเราเดินผ่านพวกเขาเข้าไปในห้อง“ทำไมเราถึงแยกออกไปกินกันตามลำพัง ไม่นั่งรวมพวกเขาล่ะ” ฉันถาม“เบลค โคล และแม้แต่อัลฟ่าก็จะมาร่วมทานอาหารกับเราที่นี่ค่ะ” เธอพูดขณะที่เธอเริ่มวางจานลงบนโต๊ะฉันช่วยเธอ และทันทีที่เธอกล่าว ลิงสามตัวก็เข้ามาในห้องด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉย“คุณจะทานอะไรดีคะ ขนมปังหรือซีเรียล” เบลล์ถามจากอีกฟากหนึ่งของโต๊ะ“ขอขนมปังค่ะ” ฉันยิ้มให้เธอ และตลอดเวลาฉันรู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างร้อนรน เผาไหม้อยู่ข้างๆฉัน ฉันมองไปทางซ้าย แล้วพบว่าเหมือนมีคิงคองยักษ์กำลังมองฉันอยู่ กะพริบตาไปมาช้าๆ ราวกับว่าเขาพยายามจะอ่านใจฉัน“ไร้สาระน่า” ฉันคิดแล้วเอามือตบโต๊ะอย่างตั้งใจ นั่นทำให้เขาหลุดออกมาจากโลกใบเล็กๆของเขาตอนแรก เขาจ้องมองมาที่ฉันอย่างไร้อารมณ์ จากนั้นไม่กี่วินาทีต่อมา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทำหน้าบึ้ง และนาทีต่อมาเขาก็กินอาหาร“ผู้ช
Read more
Chapter 8
เป็นเวลาสามสัปดาห์แล้วที่ฉันมาอยู่ที่นี่ และจะบอกว่าฉันชอบที่นี่ ทุกอย่างเป็นเรื่องใหม่จริงๆสำหรับฉัน ฉันไม่เคยติดใจอะไรง่ายๆแบบนี้มาก่อนเบลล์ได้ใกล้ชิดกับฉันมากขึ้นในช่วงเวลานี้ และส่วนที่ตลกที่สุดคือฉันได้รับการดูแลจากผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่ ฉันชอบความรู้สึกนั้น เป็นความรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ นอกเหนือจากนี้ ก็มีเพียงสองคนเท่านั้นที่สามารถทำให้ฉันหงุดหงิดได้คนแรกคือ แม่สาวผมบลอนด์สุดชิค ลิลลี่ และคนที่สองคือตาบ้า ดีแลนฉันไม่รู้ว่าเขามีปัญหาอะไรกับฉัน แต่ทุกครั้งที่ฉันพบเขา เขาจะทำท่าเย็นชากับฉัน และเขายังดุฉัน เยาะเย้ยว่าฉันเป็นเด็กและอ่อนแอฉันเหนื่อยหน่ายกับสองคนนี้มาก ปัญหาคือลิลลี่ชอบดีแลน อย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่ฉันได้ยินมาจนถึงตอนนี้ ดังนั้น ฉันไม่เข้าใจว่าปัญหาอยู่ที่ไหน ลิลลี่ชอบดีแลน ดีแลนชอบงานและผู้คนของเขา คนของเขาชอบฉันเป็นเหมือนสามเหลี่ยม จะแปลกอะไร“รู้ไหมว่าทำไมตึกถึงกระโดดไม่ได้” เบลคชวนฉันเล่นเกมกับเขาฉันเกาคางครุ่นคิดแล้วยิ้มเมื่อพบคำตอบ “เพราะตึกไม่ใช่จิงโจ้” ฉันกรีดร้องทำให้เขาหัวเราะและเราทั้งคู่ก็แปะมือไฮไฟกัน จากนั้นก็หัวเราะออกมา“ไร้สาระอะไรกัน” ฉันได
Read more
Chapter 9
ฉันนั่งบนเตียงมองออกไปนอกหน้าต่าง มันเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ฉันเห็นต้นไม้เริ่มผลิใบแล้ว ฉันรักฤดูใบไม้ผลิฉันดูเวลาและพบว่าเป็นเวลาเย็นแล้วฉันสวมแจ็กเก็ตสีดำทับเสื้อของฉันและเดินออกจากห้อง มันเป็นนิสัยของฉันตั้งแต่วัยเด็กที่จะไปเดินเล่นทุกเย็น มันช่วยทำให้จิตใจของฉันสงบลงฉันเดินออกจากบ้านและเดินไปตามเส้นทางเดิมที่ฉันใช้ทุกวัน เป็นพื้นที่ป่าไม้ที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ซึ่งขณะนี้กำลังผลิใบ ใบไม้สีเหลืองร่วงหล่นลงบนพื้นปกคลุมพื้นดินเหมือนกับผ้าปูที่นอน ฉันเดินย่ำบนใบไม้ ชมทิวทัศน์ที่สวยงามเมื่อเห็นแสงตะวันกระทบใบไม้ทำให้ดูเป็นสีทองฉันจำได้ว่าบางครั้งพ่อของฉันจะมาเดินเล่นด้วยกัน เขาจะพูดถึงวันเวลาเก่าๆของเขาและเราก็จับมือกัน เดินไปด้วยกันฉันกำลังเดินอยู่ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ แต่จู่ๆก็หยุดเดินเมื่อได้ยินเสียงกิ่งไม้หัก ฉันหันไปมองรอบๆไม่เห็นใครเลย แต่ฉันถูกฝึกมาให้เชื่อหูมากกว่าเชื่อสายตา“ฉันรู้ว่าคุณอยู่ที่นั่น ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม ออกมาซะ ไม่ต้องซ่อนตัว” ฉันพูดและรอให้บุคคลนั้นออกมาฉันแน่ใจว่าตาของฉันแทบจะหลุดออกจากเบ้าเมื่อเห็นบุคคลผู้นั้น ดีแลนเขาออกมาจากด้านหลังต้นไม้ ฉ
Read more
Chapter 10
ฉันร้องบ่น เมื่อพบว่าโทรศัพท์ส่งเสียงร้องดัง ฉันเหยียดแขนออกไปหยิบโทรศัพท์และเช็คดูว่าใครส่งข้อความมาข้อความมาจากหมายเลขที่ไม่รู้จักเหมือนเช่นเคย ข้อความแจ้งว่า "รอบต่อไปจะจัดขึ้นในเดือนหน้า ให้อยู่ที่นั่น เป็นงานที่ใหญ่มาก”ฉันลบข้อความแล้วนั่งลงเอนพิงหัวเตียงฉันช่างมีชีวิตที่ยอดเยี่ยมอะไรเช่นนี้ฉันสาปแช่งชะตากรรมของตัวเองที่ต้องมาใช้ชีวิตแบบนี้ แต่ในขณะเดียวกันฉันก็ดีใจที่ได้ใช้ชีวิตที่สวยงาม ฉันมองไปทางซ้ายของเตียงเพื่อดูรูปครอบครัวและเอื้อมมือไปหยิบกรอบรูป“ฉันคิดถึงแม่ พ่อและแนนซี่ ฉันอยากเจอทุกคนจัง” ฉันพึมพำและจูบลงบนกรอบรูปและเหลือบมองครั้งสุดท้าย ฉันวางเก็บมันไว้ข้างๆฉันลุกขึ้นจากเตียง จัดเตียงให้เรียบร้อยและเข้าไปในห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว ฉันใช้เวลาอาบน้ำอยู่นานเพราะฉันไม่มีอะไรต้องทำ และบรรจงเทแชมพูใส่มือและค่อยๆสระผม ฉันห่อผ้าเช็ดตัวไว้รอบตัว ยืนอยู่หน้ากระจกและใช้ฝ่ามือเช็ดละอองน้ำที่ก่อตัวบนกระจกออกอย่างอ่อนโยน“อืม ฉันคงต้องตัดผมซะแล้ว” ฉันกระซิบกับตัวเอง เอานิ้วมือสางผมที่เปียกไปมาฉันเดินออกจากห้องน้ำและเดินเข้าไปในตู้เสื้อผ้า ฉันเลือกใส่กางเกงยีนส์สีดำขาดๆ กับเส
Read more
PREV
123456
...
8
DMCA.com Protection Status