All Chapters of แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย: Chapter 1401 - Chapter 1410

1410 Chapters

บทที่ 1401

เมืองฝานหลู จวนฉู่อ๋องเซียวม่อกลับมาถึงจวน ก็แทบไม่ได้ทำอะไรเลยหยวนตั๋วจัดการทุกอย่างไว้อย่างเรียบร้อย ไม่ต้องให้เขาเหนื่อยใจสักนิดเซียวม่อนอกจากกิน ดื่ม เล่นสนุก ก็มีแค่คอยถามหยวนตั๋วว่าคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว...หาเซียวอวี้เจอหรือยัง? เมื่อไหร่เขาถึงจะได้ขึ้นครองบัลลังก์?วันนี้ ฉวีเต้ายางกลับมาอย่างกะทันหันเซียวม่อกำลังหยอกล้อกับนกในกรง ถามโดยไม่แม้แต่จะเงยศีรษะขึ้นมา“ท่านฉวี เจอฝ่าบาทแล้วหรือยัง?”ฉวีเต้ายางยกมือประสานคำนับแล้วรายงาน“ข้าพบชาวบ้านหลายคนที่ยังไม่กลายเป็นมนุษย์โอสถ ตามที่พวกเขาบอกมา เมื่อไม่นานมานี้เห็นฝ่าบาทมุ่งหน้าไปทางใต้ น่าจะหลบหนีออกจากชายแดนไปถึงชายแดนเหนือเดิมของแคว้นหนานฉีแล้วขอรับ”“ว่าอะไรนะ!” เซียวม่อเผลอสะบัดกรงนกในมือ ดวงตาเบิกกว้างทันทีเขามองฉวีเต้ายางด้วยโทสะ“ข่าวนี้เชื่อถือได้หรือไม่?”บัดซบ!หยวนตั๋วบอกไว้ว่า มีมนุษย์โอสถเฝ้าตามชายแดน เซียวอวี้ไม่มีทางหนีไปได้ไม่ใช่หรือ!ฉวีเต้ายางข่มอารมณ์ให้มั่งคง“เรียนท่านอ๋อง ข้าน้อยคิดว่า ควรเชื่อไว้ก่อน ดีกว่าไม่เชื่อแล้วปล่อยให้หลุดมือไป“ขอท่านอ๋องให้ข้าออกไปติดตามขอรับ!”ตอนนี้ในใจของเซี
Read more

บทที่ 1402

หร่วนฝูอวี้เพิ่งคลอดลูกได้ไม่กี่วัน ก็รีบออกเดินทางไปเสียแล้วรุ่ยอ๋องอุ้มลูก คิดอยากไล่ตามความเร็วของนางนั้นไม่ง่ายอย่างไรลูกน้อยก็ร่างกายอ่อนแอ จะให้เดินทางไกลย่อมไม่เหมาะนักทันทีที่ถึงชายแดนแคว้นหนานฉี รุ่ยอ๋องก็ถูกหร่วนฝูอวี้ทิ้งห่างต่อให้เขาเรียกนางเสียงดังเพียงใด นางก็ไม่แม้แต่จะหันกลับมามองเขาอยากตามไป แต่ลูกน้อยในอ้อมแขนร้องไห้ไม่หยุดรุ่ยอ๋องมองลูกด้วยความสงสารน่าสงสารลูกคนนี้เพิ่งลืมตาดูโลก ยังไม่ได้แม้แต่จะตั้งชื่อเดิมเขาคิดจะคุยกับหร่วนฝูอวี้เรื่องการตั้งชื่อของลูก แต่เวลานี้คงไม่เหมาะสมกู่ราชาแห่งหนานเจียงถูกขโมยไป แคว้นหนานฉีก็มีมนุษย์โอสถก่อความวุ่นวาย เรื่องราวประดังเข้ามาในเวลาเดียวกัน ใครเล่าจะไม่รู้สึกหนักใจรุ่ยอ๋องได้แต่คิดว่า ลูกคนนี้เกิดมาในเวลาที่ไม่เหมาะเอาเสียเลยดูเหมือนลูกจะสัมผัสได้ถึงความรังเกียจของผู้เป็นพ่อ จึงร้องไห้เสียงดังกว่าเดิมก่อนหน้าหร่วนฝูอวี้ พวกตงฟางซื่อออกเดินทางไปก่อนแล้วรุ่ยอ๋องคิดว่า ในเมื่อมีคนมากพอแล้ว เขาจึงไม่จำเป็นต้องรีบร้อน หาสถานที่ปลอดภัยให้ลูกก่อน แล้วค่อยตามไปสมทบไม่เช่นนั้น หากต้องพาลูกเดินทางไปด้วย คงจะ
Read more

บทที่ 1403

เมื่อได้ฟังคำบอกเล่าของจั่วเฟิง องค์หญิงใหญ่และรุ่ยอ๋องก็สบตากันอย่างรวดเร็วดูท่าแล้วจั่วเฟิงผู้นี้คงจะรับมือได้ไม่ง่ายพูดให้ชัดเจนก็คือ คนผู้นี้เป็นคนหัวแข็ง ยึดมั่นในหลักการจนเกินไป ไม่ยืดหยุ่นจั่วเฟิงเองก็มองคนทั้งสองอย่างระแวดระวัง“ท่านทั้งสองก็จะบุกฝ่าด่านไปเช่นกันหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เมื่อเขาพูดถึงขนาดนั้นแล้ว รุ่ยอ๋องและองค์หญิงใหญ่จะยอมพูดความจริงได้อย่างไรองค์หญิงใหญ่กล่าวด้วยใบหน้าที่จริงใจอย่างยิ่ง“มีทหารผู้ภักดีเช่นพวกท่านคอยปกป้องเมืองหลวงเช่นนี้ แคว้นหนานฉีคงไม่เกิดความวุ่นวายใหญ่โตเป็นแน่ ส่วนเรื่องการไปช่วยฝ่าบาทนั้น ย่อมมีเหล่าทหารกล้าเดินทางไปอย่างแน่นอน ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาสตรีผู้อ่อนแอเช่นข้าหรอก”รุ่ยอ๋องก็ร่วมวงโกหกหน้าตายเช่นกัน“ข้ามาเพื่อตามหาพระชายา”“จั่วเฟิง เจ้ารีบพาข้าไปพบพระชายาเดี๋ยวนี้”จั่วเฟิงคลายความระแวงต่อคนทั้งสองลงชั่วคราว“ข้าน้อยขอกล่าวไว้ก่อนว่า ความวุ่นวายเรื่องมนุษย์โอสถในครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย”“ท่านเจ้าเมืองมีคำสั่งให้เฝ้าระวังด่านประตูเมืองนี้อย่างเข้มงวด”“หลังจากที่ท่านทั้งสองได้พบกับพระชายาแล้ว ก็ขอให้รีบกลับเมืองห
Read more

บทที่ 1404

วิชาตัวเบาของตงฟางซื่อนั้นด้อยกว่าเฟิ่งจิ่วเหยียน แต่ด้านอื่น ๆ กลับเหนือกว่านางอยู่หนึ่งขั้นดังนั้นเขาจึงสามารถสลัดทหารของจั่วเฟิงหลุดและออกจากเมืองหรงโจวไปได้ก่อนแต่เพราะเขายึดมั่นในคุณธรรมเป็นหลัก ยังคงเป็นห่วงพี่น้องที่ติดอยู่ในเมือง จึงไม่ยอมจากไปก่อนหลายวันนี้ เขาเตร็ดเตร่อยู่บริเวณนอกประตูเมือง ครุ่นคิดว่าจะช่วยเหลือได้อย่างไรดีใต้เมืองหรงโจว มี 'ใยแมงมุม' อยู่ช่วงหนึ่งจริง ๆแต่มันไม่ได้พาดผ่านคุกหลวงของเมืองหรงโจวก่อนที่เขาจะคิดแผนการแหกคุกออก จะลงมือทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ในขณะที่เขากำลังลังเลอยู่นั้น ก็ได้เห็นสัญญาณของหร่วนฝูอวี้ในคืนวันนั้น เขาก็ลอบเข้าไปในเมืองผ่านทาง 'ใยแมงมุม'ภายในโรงพักแรม คนหลายคนมารวมตัวกันตงฟางซื่อยิ้มตาหยี มองสำรวจหร่วนฝูอวี้ “เจ้าหนีออกมาได้อย่างไร? แล้วเหล่าฝานกับคนอื่น ๆ เล่า?”หร่วนฝูอวี้เห็นเขาสภาพสมบูรณ์ดี ไม่มีร่องรอยบาดเจ็บแม้แต่น้อย ก็หัวเราะออกมาอย่างขุ่นเคืองนางพูดจาประชดประชัน “สมแล้วที่เป็นผู้นำพันธมิตรตงฟาง ยอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งยุทธภพ”ตงฟางซื่ออธิบายอย่างจริงจัง“ข้าไม่ได้ทิ้งพี่น้องหนีเอาตัวรอด...”“เลิก
Read more

บทที่ 1405

นับตั้งแต่ที่ทรงทราบว่าองค์หญิงใหญ่หายตัวไป ไทเฮาก็ไม่เคยบรรทมหลับลงอย่างสนิทใจได้เลยสักคืนนางไม่คาดคิดเลยว่า แม้จะส่งคนไปมากมายเพื่อจับตาดูฉีเอ๋อร์ แต่นางก็ยังหนีไปได้อยู่ดีความรักที่ฉีเอ๋อร์มีต่อฮ่องเต้นั้นลึกซึ้งถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?ลึกซึ้งเสียจนไม่ห่วงแม้ความปลอดภัยของตนเอง?กุ้ยหมัวมัวเอ่ยปลอบใจอยู่ข้าง ๆ“ไทเฮาเพคะ อย่าทรงกังวลไปเลย องค์หญิงใหญ่เสด็จออกไปก็มีองครักษ์ติดตามไปด้วย พวกเขาย่อมปกป้ององค์หญิงได้เป็นอย่างดีแน่นอนเพคะ”“อีกทั้งหม่อมฉันได้ยินมาว่า เมืองต่าง ๆ ทางตอนเหนือล้วนปิดประตูเมือง ห้ามราษฎรเข้าออก”“จากการณ์นี้จะเห็นได้ว่า ต่อให้องค์หญิงใหญ่จะหนีออกจากเมืองหลวงไปได้ ก็คงไปไม่ถึงเมืองชายแดนเป็นแน่เพคะ”เมื่อได้ฟังดังนั้น สีพระพักตร์ของไทเฮาก็คลายลงเล็กน้อย“ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม จะต้องตามหาองค์หญิงใหญ่ให้พบโดยเร็วที่สุด!”จะปล่อยให้เด็กคนนั้นทำอะไรตามอำเภอใจต่อไปอีกไม่ได้แล้ว!อายุก็ปาเข้าไปสามสิบกว่าแล้ว ยังไม่มีความหนักแน่นเอาเสียเลย......ชาวบ้านในเมืองหลวงรู้เพียงว่าที่ชายแดนกำลังเกิดเหตุการณ์มนุษย์โอสถอาละวาด แต่หารู้ไม่ว่าสถานการณ์นั้นคับขันเพีย
Read more

บทที่ 1406

ถึงแม้เซียวอวี้จะไม่ค่อยได้พบหน้าจางฉี่หยาง แต่ก็ยังจดจำเขาได้ในทันทีเพียงแต่ไม่รู้ว่าเหตุใด จางฉี่หยางจึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้จากนั้น จางฉี่หยางจึงเอ่ยอธิบาย“พวกกระหม่อมได้เข้าเฝ้าฮองเฮาที่เมืองลี่หย่วนพ่ะย่ะค่ะ”“พระนางมีรับสั่งให้พวกเราตามหายาถอนพิษ เพื่อเตรียมพร้อมช่วยเหลือฝ่าบาท”“เดิมทีในแต่ละเมืองก็มีทหารปกติประจำการอยู่ พวกเราก็อาศัยขโมยยาถอนพิษจากพวกเขานี่แหละพ่ะย่ะค่ะ”“แต่หลายวันมานี้ แม้แต่ทหารเหล่านั้นก็กลายเป็นมนุษย์โอสถไปหมดสิ้น ทำให้ไม่สามารถหายาแก้ได้อีก”“นี่คือยาที่พวกกระหม่อมรวบรวมมาได้ ขอฝ่าบาทโปรดเสวยยา แล้วรีบเสด็จออกจากเมืองนี้ไปพร้อมกับกระหม่อมเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”เขายื่นกระบอกน้ำให้เซียวอวี้เซียวอวี้เพียงเอ่ยถาม “แล้วฮองเฮาเล่า? นางอยู่ที่ใด?”เขาต้องการยืนยันก่อนว่าจิ่วเหยียนปลอดภัยดีหรือไม่จางฉี่หยางทูลตอบตามความจริง“ฮองเฮาเสด็จไปตามหาตัวการผู้ควบคุมมนุษย์โอสถแล้วพ่ะย่ะค่ะ พระนางให้พวกกระหม่อมมาช่วยฝ่าบาทก่อน แล้วให้ไปพบกันที่เมืองฝานหลู”แต่ยาถอนพิษนี้เพียงพอสำหรับคนผู้เดียวเท่านั้น กระทั่งคนเดียวก็ยังแทบไม่พอจางฉี่หยางตั้งใจจะทิ้งพี่น้องคนอื่
Read more

บทที่ 1407

เมื่อเห็นว่าเซียวม่อยังคงลังเลไม่ตัดสินใจ หยวนตั๋วจึงเอ่ยเตือน“เรื่องมนุษย์โอสถสร้างความเดือดร้อนที่ชายแดน บัดนี้เล่าลือไปทั่วแผ่นดินแล้ว”“อีกไม่นานราชสำนักจะต้องส่งคนมาช่วยเหลือฮ่องเต้เป็นแน่”“ท่านอ๋อง ยิ่งท่านยืดเยื้อต่อไป ก็ยิ่งไม่เป็นผลดีต่อท่าน”“โดยเฉพาะตอนนี้ที่เรายังหาตัวฮ่องเต้ไม่พบ”“ตัดสินใจไม่ได้ในยามที่ควรตัดสินใจ ย่อมมีแต่เสียหาย”เซียวม่อกัดฟันแน่น ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว“ดี! ทำตามที่เจ้าว่า เผาเมืองทิ้งเสีย!”ตราบใดที่เซียวอวี้ตาย ให้ตนเองได้ขึ้นครองบัลลังก์ การเผาเมืองชายแดนทิ้งเพียงไม่กี่แห่งจะนับเป็นอะไรได้?อีกอย่าง มนุษย์โอสถเหล่านั้น เดิมทีก็ต้องตายอยู่แล้วส่วนชาวบ้านที่เหลืออยู่ ก็ถือเสียว่าพวกเขาโชคร้ายที่ถูกเซียวอวี้ลากเข้ามาพัวพันเซียวม่อหาเหตุผลให้ตนเองจนได้ และมอบหมายเรื่องนี้ให้หยวนตั๋วไปจัดการทันทีในใจก็แอบมีความคิดเห็นแก่ตัวเผื่อว่าในอนาคตความลับเกิดแตกขึ้นมา เขาก็จะโยนความผิดทั้งหมดไปให้หยวนตั๋ว แล้วล้างมลทินให้ตัวเองหยวนตั๋วเริ่มลงมือเตรียมการทันทีเขารวบรวมคนของตน สั่งให้พวกเขาเตรียมน้ำมันเพลิงไว้สำหรับเผาเมืองส่วนเซียวม่อรออย
Read more

บทที่ 1408

พี่น้องร่วมสายเลือด ย่อมมีความแตกต่างกันทว่าเซียวอวี้คิดไม่ตก มีพ่อเดียวกันแท้ ๆ ไฉนเซียวม่อถึงได้โง่เขลาและชั่วร้ายเพียงนี้!เรื่องวางเพลิงเผาเมืองยังคิดออกมาได้ ตอนนั้นน่าจะฆ่าเขาทิ้งซะ!“ฝ่าบาท พวกเราไปที่เมืองฝานหลูก่อน เพื่อรวมตัวกับฮองเฮาก่อนเถอะพ่ะย่ะค่ะ!” จางฉี่หยางย้ำเตือนเขาจำภารกิจของตัวเองได้ขึ้นใจ นั่นคือปกป้องฝ่าบาทให้ดีเมืองฝานหลูยามรัตติกาลฉวีเต้าหยางมาหาเฟิ่งจิ่วเหยียนอีกครั้ง“ฮองเฮา ห้าวันที่ผ่านมา หยวนตั๋วหาน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากมาย วันวางเพลิง ต้องเป็นในสองวันนี้แน่ ๆ”มิใช่ว่าเขาเร่งรัด แต่เป็นเพราะทนเห็น ผู้คนหลายพันหลายหมื่นคนถูกเผาตายไม่ได้จริง ๆ แม้นจะเป็นมนุษย์โอสถเหล่านั้น เขาก็รู้สึกว่าไม่มีความผิดใด ๆเฟิ่งจิ่วเหยียนนิ่งสงบเช่นเคยนางถามเขา “เรื่องที่ข้าให้เจ้าทำ เป็นอย่างไรบ้าง”ฉวีเต้าหยางรีบพยักหน้า“ตามที่ท่านสั่งมา ของสิ่งนั้น ข้าหาเจอในร้านยามาไม่น้อย แต่ไม่รู้ว่า ของสิ่งนี้มีประโยชน์อย่างไรบ้าง?”เฟิ่งจิ่วเหยียนมองตรงไปยังเบื้องหน้า สายตาทอดยาว“นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าควรถาม“จำเอาไว้ คืนนี้จงกลับไปที่จวน พาแม่ของเจ้าออกมา พาไปซ่อน
Read more

บทที่ 1409

ณ จวนฉู่อ๋องหยวนตั๋วต้องการวางเพลิงเผาเมือง เซียวม่อจึงรีบเก็บข้าวของ เตรียมหนีไปอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัย เพื่อจะไม่ให้โดนผลกระทบไปด้วยในมุมมองของเขา หยวนตั๋วก็คือคนบ้าไม่แน่อาจจะฆ่าเขาไปด้วยพระชายาฉู่อ๋องยังไม่รู้ว่าสถานการณ์ภายนอกเป็นอย่างไร จู่ ๆ ต้องมาหนีตายเช่นนี้ นางจึงกังวล“ท่านอ๋อง ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น? หรือว่าฝ่าบาทพาทหารบุกเข้ามา?”“นังโง่! หยุดพูดได้แล้ว!” เซียวม่อทนฟังคำพูดอัปมงคลเช่นนี้ไม่ได้ เกือบจะฟาดฝ่ามือใส่ฉวีเต้าหยางอาศัยจังหวะชุลมุนพามารดาหนีไปนายหญิงฉวีรู้มาตลอดว่าบุตรชายของตนเองกำลังทำอะไร จึงถามอย่างไม่วางใจ“ฝ่าบาทออกไปจากเมืองชายแดนอย่างปลอดภัยแล้วหรือ?”ฉวีเต้าหยางตอบมารดาไปตามตรง“ตอนนี้ยังไม่รู้“แต่มีฮองเฮาอยู่ด้วย ฝ่าบาทต้องปลอดภัยแน่นอน”เพี้ยะ!เสียงฟาดฝ่ามือของนายหญิงฉวีดังขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้ฉวีเต้าหยางชะงักต่อมาผู้เป็นแม่ก็ตำหนิอย่างแข็งกร้าว“ฝ่าบาทกับฮองเฮายังไม่หนีออกมา แล้วเราจะหนีไปก่อนได้อย่างไร?“ลูกเอ๋ย แม่ไม่กลัวตาย กลัวก็แต่ว่าจะตายอย่างขี้ขลาด“หากเจ้าเป็นลูกของข้า ก็ไม่ควรทำเรื่องรักตัวกลัวตายเช่นนั้น!”ฉวีเต้า
Read more

บทที่ 1410

วันต่อมา ยามรุ่งสาง บนกำแพงเมืองมีเสียงตีกลองดังขึ้นมาทุกครั้งที่เสียงดังขึ้น ก็เหมือนทุบตีหัวใจของประชาชน ทำให้หวาดหวั่นอยู่ไม่สุขหยวนตั๋วยืนบนกำแพงเมือง มองไปยังที่ห่างไกลภายในเมืองมีการสาดน้ำมันเชื้อเพลิงไว้ทั่วบริเวณเหล่ามนุษย์โอสถมีสีหน้านิ่งค้าง แทบไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังทำอะไร และกำลังจะเผชิญกับอะไรกลุ่มที่ซ่อนตัวอยู่ในประชาชนทั่วไป พวกเขาได้กลิ่นน้ำมันเชื้อเพลิง ต่างหนีกระเจิง“อย่าเผา! อย่า!”ไม่ต้องคิดก็พอจะรับรู้ถึงจุดจบของพวกเขา ล้วนถูกมนุษย์โอสถข้างนอกกัด…แววตาของหยวนตั๋วเยือกเย็น ในสายตาของเขา ชีวิตของคนไม่ต่างอะไรกับผักปลายามฟ้าสางหยวนตั๋วคำนวนเวลา ขณะที่กำลังจะออกคำสั่งเผาเมือง เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมา“ช้าก่อน!”เสียงนั้นทำให้คนนิ่งงันหยวนตั๋วมองไปยังทิศทางของเสียง จึงเห็น ท่ามกลางแสงแห่งรุ่งอรุณ ในม่านหมอกจาง ๆ ฮ่องเต้เดินออกมาอย่างมั่นคง“คุณชาย นั่นฮ่องเต้ฉี!” คนสนิทของหยวนตั๋วกล่าวเตือนแน่นอนว่าหยวนตั๋วจำได้ดูเหมือนจะถูกขังไว้นาน เสียงของฮ่องเต้ฉีจึงแหบแห้งอย่างมากมุมปากของเขายกขึ้น“ฝ่าบาท ที่แท้ท่านอยู่ในเมืองฝานหลูนี่เอง ช่างเอื้อให้พว
Read more
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status