Semua Bab พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี: Bab 641 - Bab 650

908 Bab

บทที่ 641

หากเป็นปัญหาของนาง นางจะรับมืออย่างไรก็ย่อมได้ในกรณีเลวร้ายที่สุด ก็แค่ทำตามที่เคยคิดไว้ นั่นคือการสละชีพเพื่อแสดงจุดยืนแต่ครั้งนี้ ที่ฮ่องเต้ทรงเรียกนางมา เห็นชัดว่ามิใช่เพราะเรื่องสมรส หากแต่เป็นเพราะเรื่องท่านหมอ!เช่นนั้นนางจะปล่อยให้ท่านหมอต้องถูกลากมาเกี่ยวพันด้วยไม่ได้เด็ดขาด!ระหว่างที่กำลังคิดอยู่นั้น ฮ่องเต้ก็ทรงเอ่ยขึ้น “เราก็ไม่ใช่ไม่รู้ว่า บนโลกนี้ยังมีคนเก่งถึงเพียงนี้ จนแม้แต่ฮ่องเต้อย่างเราก็ยังไม่อาจได้พบหน้า”เห็นได้ชัดว่าฮ่องเต้ทรงเริ่มกริ้วแล้วเฉียวเนี่ยนรีบคุกเข่าก้มกราบลงกับพื้น “ขอฝ่าบาททรงคลายพิโรธ หมอเทวดานั้นไม่ประสงค์ข้องเกี่ยวกับโลกภายนอก จึงต้องปิดบังตัวตน ครั้งนั้น หม่อนฉันเคยสาบานด้วยชีวิตว่าจะไม่เปิดเผยร่องรอยของเขา เขาถึงยอมถ่ายทอดวิธีรักษาโรคขาให้ หากเขารู้ว่าหม่อมฉันได้เอ่ยถึงเรื่องของเขาต่อหน้าฝ่าบาท เกรงว่าเขาอาจจะจากไปโดยไม่หวนคืน ยิ่งหากถึงคราวคับขัน เขาอาจจะลุกขึ้นต่อต้านด้วยชีวิตเพคะ”อันที่จริงเฉียวเนี่ยนเข้าใจพระทัยของฮ่องเต้ดีพระองค์สนใจท่านหมอก็เพราะวิชาแพทย์อันสามารถชุบชีวิตฟื้นคืนกระดูกและเลือดเนื้อของเขานั่นเองคราวนี้นางจงใจ
Baca selengkapnya

บทที่ 642

เฉียวเนี่ยนเข้าใจความหมายของฮ่องเต้ดีสิ่งที่พระองค์ต้องการจะสื่อก็คือ โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน อนาคตจะเกิดอะไร ไม่มีใครล่วงรู้ได้แต่นั่นคือเรื่องของอนาคต ส่วนตอนนี้ นางยังไม่ต้องการเมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนกลับเข้าสู่ความเงียบ อีกครั้งฮ่องเต้ก็เริ่มรู้สึกเบื่อหน่าย กำลังจะรับสั่งให้ปล่อยนางกลับ แต่แล้วจู่ ๆ ขันทีคนหนึ่งก็เร่งเข้ามาจากนอกห้องทรงอักษร ทำความเคารพแล้วกล่าวเสียงดัง “ขอพระราชทานกราบทูลฝ่าบาท อ๋องผิงหยางขอเข้าเฝ้าพะย่ะค่ะ”สีพระพักตร์ของฮ่องเต้ก็พลันแสดงแววทรงจนปัญญาออกมาเล็กน้อยครั้งก่อน ฉู่จืออี้กล่าวชัดเจนแล้วว่าเขาจะปกป้องเฉียวเนี่ยน คราวนี้จึงเลือกช่วงเวลาที่ฉู่จืออี้ไม่อยู่ให้คนพานางเข้าวังแต่ไม่คิดว่า… เจ้าหมอนั่นจะรู้ข่าวรวดเร็วถึงเพียงนี้!ฮ่องเต้จึงโบกพระหัตถ์ “เจ้ากลับไปก่อนเถอะ! ให้อ๋องผิงหยางเข้ามาเข้าเฝ้าเรา”"พ่ะย่ะค่ะ"เฉียวเนี่ยนทำความเคารพแล้วถอยออกไปแต่ก่อนจะพ้นประตูห้องทรงอักษร นางก็แหงนหน้าขึ้นมองฮ่องเต้อีกครั้งเห็นอีกฝ่ายดูไม่ได้กริ้วมากนัก นางจึงค่อยเบาใจลงฉู่จืออี้ยืนรออยู่หน้าห้องทรงอักษร เมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนเดินออกมาก็กวาดตามองนางอย่างละ
Baca selengkapnya

บทที่ 643

ฉู่จืออี้จึงหันไปมองฮ่องเต้ น้ำเสียงหนักแน่น “เสด็จพี่ทรงอยากให้ข้านำทัพหรือ?”แม้จะเป็นคำถาม แต่ในน้ำเสียงไม่มีแม้แต่ความสงสัยฮ่องเต้ยังนึกว่า ฉู่จืออี้คงรู้สึกลำบากใจท้ายที่สุด ความวุ่นวายของกษัตริย์ทั้งห้าเคยฝากบาดแผลในใจฉู่จืออี้ไว้ ฮ่องเต้คิดว่า บางทีตลอดชีวิตนี้ ฉู่จืออี้อาจไม่อยากจับอาวุธออกรบอีกเลยฮ่องเต้จึงถอนพระปัสสาสะเบา ๆ “เดิมทีศึกครั้งนี้ ควรจะเป็นเซียวเหิงที่ออกไปจัดการ แต่เจ้าก็เห็นแล้วว่าสภาพของเซียวเหิงตอนนี้ อย่าว่าแต่ออกรบ แม้แต่จะลุกจากเตียงยังลำบาก”ส่วนเซียวเหอ นอนเป็นคนพิการมากว่าห้าปี เพิ่งจะฟื้นตัวได้ไม่นาน เขาจะใจดำส่งคนเช่นนั้นกลับสู่สนามรบได้อย่างไร?ถ้าเกิดได้รับบาดเจ็บอีกขึ้นมาจะทำอย่างไร?ในราชสำนักก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีขุนศึกคนอื่นเลยแต่มีสักคนหรือไม่ ที่พอออกศึกแล้วพวกชาวเตอร์กิกของเผ่าทูเจี๋ยได้ยินก็หนาวสะท้าน? ที่จะสามารถปราบพวกเผ่าทูเจี๋ยจนยอมศิโรราบ?คิดไปคิดมา ก็มีเพียงฉู่จืออี้เท่านั้นที่เหมาะสมที่สุดฉู่จืออี้ย่อมเข้าใจดี แต่กลับกล่าวว่า “ความหมายของกระหม่อมคือ เสด็จพี่กล้าให้กระหม่อมกุมอำนาจทัพหรือ?”ในปีนั้น ความวุ่นวายของกษัตริย์ทั
Baca selengkapnya

บทที่ 644

แสงสนธยาอ่อนจาง เส้นขอบของเมืองหลวงถูกแสงสุดท้ายของวันแต่งแต้มอย่างลางเลือนฉู่จืออี้ไม่คาดคิดว่าเฉียวเนี่ยนจะรอเขาอยู่หน้าวังหลวงตลอด หลังขึ้นรถม้าแล้วจึงอดไม่ได้ที่จะถามว่า “เหตุใดถึงไม่กลับไปก่อน?”จวนอ๋องผิงหยางอยู่ไม่ไกลจากวังหลวงนัก เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้วเฉียวเนี่ยนกลับยิ้มให้ฉู่จืออี้ “พี่ไป๋เป็นห่วงข้า ข้าย่อมต้องห่วงพี่ไป๋เช่นกัน”นางมองออกถึงแววจำยอมในสายตาของฮ่องเต้ในวันนี้ นางรู้ว่าฉู่จืออี้เข้าเฝ้าเพราะนางดังนั้นนางจึงสมควรรอเขาอยู่หน้าวัง!รถม้าเคลื่อนไปอย่างช้าๆ มุ่งสู่จวนอ๋องผิงหยางฉู่จืออี้มองเฉียวเนี่ยนอยู่ก่อน แล้ว จู่ ๆ ก็เอ่ยขึ้น “ข้าอาจต้องนำทัพออกศึก”เมื่อได้ยินดังนั้นเฉียวเนี่ยนก็สะดุ้ง “นำทัพ? ชายแดนเกิดศึกแล้วหรือ?”ฉู่จืออี้ตอบรับเบา ๆ “กลุ่มชนเตอร์กิกของเผ่าทูเจี๋ยล้ำแดนอยู่บ่อยครั้ง เสด็จพี่จึงอยากให้บทเรียนพวกมัน”เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว ก้มหน้าลงโดยไม่กล่าวอะไรการนำทัพออกศึกก็เพื่อปกป้องบ้านเมือง ดังนั้นนางจึงไม่รู้จะพูดอะไรดีในเวลานี้แต่นางก็อดห่วงไม่ได้จริง ๆดาบหอกไร้ตา เมื่อขึ้นสู่สนามรบแล้ว ย่อมมีโอกาสบาดเจ็บ หรืออาจเสียชี
Baca selengkapnya

บทที่ 645

พูดจบ นางก็โยนเงินให้พวกขอทานกลุ่มนั้นพวกขอทานรับเงินแล้วก็พากันแยกย้ายไปเฉียวเนี่ยนหันไปมองขอทานตัวเล็กที่ถูกล้อมทำร้ายอีกครั้ง ไม่ได้พูดอะไรอีก แล้วก็หันหลังจากไปพอกลับขึ้นรถม้า ฉู่จืออี้ก็เอ่ยถามว่า “เป็นคนรู้จักของเจ้าหรือไม่?”เฉียวเนี่ยนส่ายหน้า “ไม่ใช่ ข้าแค่จำผิดไป”ขณะพูด เฉียวเนี่ยนนึกถึงเรื่องที่หลินยวนถูกเนรเทศ ก็อดถามไม่ได้ว่า “พี่ไป๋รู้หรือไม่ว่าหนิงโจวอยู่ไกลจากเมืองหลวงแค่ไหน?”“อาจจะไกลกว่าหมู่บ้านเหอวานเล็กน้อย อีกทั้งทางไปหนิงโจวก็ไม่ค่อยดีนัก อีกอย่าง คนที่ถูกส่งไปที่นั่นส่วนมากก็เป็นพวกที่ถูกเนรเทศ คาดว่าคงต้องใช้เวลาเดินทางราว ๆ สามถึงสี่เดือนกระมัง!”สามถึงสี่เดือน…เฉียวเนี่ยนคิดในใจอย่างเงียบ ๆ หากคิดตามนี้ ตอนนี้หลินยวนก็คงยังเดินทางไม่ถึงหนิงโจว!ไม่ว่าหลินยวนจะเคยชั่วร้ายเพียงใด แต่นางก็ยังเป็นหญิงสาวที่ไม่มีแรงแม้แต่จะฆ่าไก่สักตัว ระหว่างทางที่ถูกส่งตัวออกไปก็มีขุนนางคอยคุมตัว ไหนเลยจะหนีกลับมาได้ง่าย ๆ?คิดดังนั้น เฉียวเนี่ยนก็ยิ้มบาง ๆ ไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจอีกแน่นอนว่านางก็ไม่อาจคาดคิดได้เลยว่า หลังจากนางจากตรอกนั้นมา ก็มีร่างเล็ก ๆ ร่
Baca selengkapnya

บทที่ 646

“เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?!”หลินเย่ว์เบาเสียงลงเอ่ยอย่างตกใจ ศีรษะพลันอื้ออึงไปหมด ไม่หลงเหลือความเมาอีกแม้แต่น้อยตอนนี้หลินยวนควรจะอยู่ที่หนิงโจวถึงจะถูก!แต่นางกลับปรากฏตัวอยู่ในเมืองหลวง!“ถ้าเจ้าถูกจับได้ เจ้าจะต้องโดนประหารล้างโคตร!”หลินเย่ว์กลัวว่าจะมีคนได้ยินเข้า แต่ก็โกรธจัดจนแม้จะพยายามกดเสียงให้เบาเท่าไหร่ มือที่กดลงบนไหล่นางกลับออกแรงหนักมากขึ้นเท่านั้นหลินยวนรู้สึกว่าไหล่ของนางแทบจะถูกหลินเย่ว์บีบจนแตกนางร้อง ‘ซี้ด’ ออกมาเพราะเจ็บ น้ำตาไหลพราก แต่สองมือกลับประคองบางสิ่งขึ้นมา เสียงเบาแผ่วอ่อน “สุขสันต์วันเกิดนะพี่ใหญ่”หัวใจของหลินเย่ว์พลันเต้นแรงขึ้นมาทันที เขาไม่คาดคิดเลยว่าหลินยวนจะยังจำวันเกิดของเขาได้คิ้วทั้งสองขมวดเข้าหากัน เขาก้มมอง “อะไรน่ะ?”“เป็นจี้ผิงอันโค่วที่ข้าแกะสลักด้วยมือตัวเอง” หลินยวนพูดเสียงอ่อนหวาน กลัวว่าหลินเย่ว์จะไม่ชอบ นางจึงร้องไห้พลางพูดว่า “ข้าไม่รู้ว่าจะให้อะไรพี่ใหญ่ดี แค่นึกถึงตอนที่พี่ใหญ่เคยแกะปิ่นปักผมให้ข้าด้วยตัวเอง ข้าก็เลยอยากแกะสลักอะไรสักอย่างให้พี่ใหญ่บ้าง ข้าไม่ได้หวังอะไรเลย เพียงแค่หวังให้พี่ใหญ่มีชีวิตที่ปลอดภัยและสงบสุข
Baca selengkapnya

บทที่ 647

หัวใจเจ็บจี๊ดขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ หลินเย่ว์ก้าวพรวดเข้าไปข้างหน้า ดึงหลินยวนกลับมาในทันที “เท้าของเจ้าเป็นอะไร?”หลินยวนรู้สึกยินดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็รีบข่มความรู้สึกนั้นลงแทบจะทันที แทนที่ด้วยความเศร้าและความน้อยใจอย่างไม่สิ้นสุดน้ำตาของนางไหลไม่หยุด ร้องไห้เบาๆ อย่างอัดอั้น เสียงเต็มไปด้วยความน้อยใจ “พี่ใหญ่… แม้ว่าคนเฝ้าประตูสองคนนั้นจะรับเงินของพี่ใหญ่ไปแล้ว แต่ระหว่างทางก็ยังกลั่นแกล้งยวนเอ๋อร์! พวกเขา พวกเขาไม่ให้ยวนเอ๋อร์กินข้าว แล้วยัง… ยังคิดจะล่วงเกินยวนเอ๋อร์อีก! ยวน ยวนเอ๋อร์กลัวมากจริง ๆ ยวน ยวนเอ๋อร์ได้แต่หนี! แต่ยวนเอ๋อร์ไม่รู้จะหนีไปที่ไหน ยวนเอ๋อร์เลยต้องขอทานตลอดทาง ตัวยวนเอ๋อร์เลอะเทอะสกปรกไปหมด ไม่ยอมให้ใครแตะตัว แต่ยวนเอ๋อร์ก็ยัง… ยังโดนพวกขอทานกลุ่มหนึ่ง… ฮือฮือฮือ พี่ใหญ่ ยวนเอ๋อร์ผิดไปแล้ว ไม่กล้าทำอีกแล้ว! พี่ใหญ่ช่วยอย่าทิ้งยวนเอ๋อร์เลย ยวนเอ๋อร์ไม่อยากโดนรังแกอีกแล้ว ฮือฮือฮือ…”เสียงร้องไห้ของหลินยวน แทบจะทำให้ใจของหลินเย่ว์แหลกสลายเขาไม่เคยนึกเลยว่าหลินยวนจะถูกกระทำถึงเพียงนี้!ทั้งตกใจ ทั้งโกรธ ทั้งสับสน ปะปนกันยุ่งเหยิงไปหมด จนหลินเย่ว์ไม่
Baca selengkapnya

บทที่ 648

จนกระทั่งกลับถึงจวนโหว สมองของหลินเย่ว์ก็ยังว่างคงเปล่าเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองกลับมาถึงเรือนของตัวเองได้อย่างไรเด็กรับใช้ในเรือนเห็นเขาเป็นเช่นนี้ ก็คิดว่าเขาดื่มมากเกินไป รีบนำชามะนาวแก้เมาเข้ามาให้หลินเย่ว์ดื่มรวดเดียวสามถ้วย ถึงค่อยรู้สึกตัวขึ้นมาบ้างเด็กรับใช้อยู่ข้าง ๆ อย่างเป็นห่วง “คุณชายใหญ่ ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหมขอรับ หรือจะให้หมอประจำจวนมาตรวจดูดี?”ท่าทางเช่นนี้ น่ากลัวจริง ๆ ว่าจะกลายเป็นบ้าเพราะเมา!หลินเย่ว์เอ๋อร์มองเด็กรับใช้ตรงหน้า แต่ในหัวกลับยังคงคิดถึงแต่เรื่องหลินยวนนางกลับมาแล้วนางกลับมาแล้วจริงๆ!นางหลุดรอดจากมือของคนเฝ้าประตูสองคนนั้นได้อย่างไร?นางระหกระเหินกลับมาได้อย่างไร?นางกลับมานานเท่าไรแล้ว?มีใครเคยเห็นนางบ้างหรือไม่?เหตุใดจวนโหวจึงไม่ได้รับข่าวเรื่องหลินยวนหลบหนีเลยแม้แต่น้อย?หรือว่า คนเฝ้าประตูสองคนนั้นไม่ได้รายงานเรื่องการหลบหนีของหลินยวน?แต่ว่าเมื่อคนถูกส่งไปยังหนิงโจวแล้ว ก็ต้องลงทะเบียนในบัญชีทาส คนเฝ้าประตูพวกนั้นจะรายงานพลาดได้อย่างไร?หลินเย่ว์ยิ่งคิดก็ยิ่งหวาดกลัวเขาเริ่มรู้สึกเสียใจที่ก่อนหน้านี้รีบพาหลินยวนไปซ่อนในเ
Baca selengkapnya

บทที่ 649

แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเหตุใดจวนขุนนางที่หนิงโจวถึงได้ยืนยันว่าหลินยวนตายแล้ว และยิ่งไม่รู้ว่าศพที่ถูกจัดการนั้นมาจากไหน แต่…เรื่องนี้เห็นได้ชัดว่ากำลังมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น!ท่านโหวหลินกลับค่อย ๆ ส่ายหน้า “พ่อรู้ ว่าเจ้ากับยวนเอ๋อร์ผูกพันกันลึกซึ้งในฐานะพี่น้อง แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เจ้าจะเศร้าโศก เจ้าต้องหาวิธีช่วยพ่อปลอบใจแม่ของเจ้า แล้วยังต้องหาวิธีไปหนิงโจว พาร่างยวนเอ๋อร์กลับมาอีก!”“ท่านพ่อ!” หลินเย่ว์เผลอขึ้นเสียงเล็กน้อย ในที่สุดก็ทำให้ท่านโหวหลินหันมามองเขาก็เห็นว่าใบหน้าของหลินเย่ว์เต็มไปด้วยความจริงจังและเคร่งเครียด “ตอนนี้ยวนเอ๋อร์อยู่ในเรือนพักแห่งหนึ่งของข้า!”ท่านโหวหลินมองหลินเย่ว์อยู่พักหนึ่ง ก็รู้สึกลังเลว่าที่ลูกชายของเขาพูดนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ลูกชายคนนี้ของเขา แน่นอนว่าเป็นคนไม่ได้เรื่อง หุนหันพลันแล่น ขาดสติ มักก่อเรื่องอยู่เสมอแต่ก็ไม่ถึงขนาดจะพูดเพ้อเจ้อในเรื่องอย่างนี้คิดได้ดังนั้นก็เริ่มรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมาเขาค่อยๆลุกขึ้นยืน มองไปที่หลินเย่ว์ ถามอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า “เจ้า เจ้าไม่ได้กำลังโกหกพ่อใช่ไหม?”“เรื่องแบบนี้ลูกจะโกหกได้อย่างไร!
Baca selengkapnya

บทที่ 650

หลินเย่ว์ขมวดคิ้ว “ในจวนคนหูตาสว่างเยอะ หากท่านพ่อยืนกรานจะให้ยวนเอ๋อร์อยู่กับท่านแม่ เกรงว่า คงมีแต่ต้องอ้างว่าพาไปพักฟื้น แล้วส่งท่านแม่ไปเรือนอื่น”ถึงตอนนั้น ค่อยจัดหามามาและสาวใช้ใหม่ไม่กี่คนไว้คอยดูแล อย่างไรเสียก็ใช้งานคนเก่าที่อยู่ในจวนโหวไม่ได้แล้วไม่อย่างนั้น แค่มีใครคนหนึ่งจำหลินยวนได้ จวนโหวก็จะตกอยู่ในอันตรายทันที!ท่านโหวหลินพยักหน้าเบา ๆ “พ่อก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ยังไงท่านหมอก็ว่าแล้ว อาการป่วยของแม่เจ้าเน้นพักฟื้นเป็นหลัก สักสิบวันหรือสักครึ่งเดือนกลับมาให้ท่านหมอตรวจชีพจรทีหนึ่งก็พอ”หลินเย่ว์ก็พยักหน้าด้วยเช่นกันเหมือนยกภูเขาออกจากอก พลันรู้สึกว่าร่างกายปลอดโปร่งขึ้นมากเขาหันไปมองท่านโหวหลิน พอเห็นว่าอีกฝ่ายเองก็คล้ายกับถอนหายใจโล่งอก ระหว่างคิ้วแม้แต่ยังมีความยินดีเจืออยู่ก็ชะงักไปครู่หนึ่งจู่ ๆ เขาก็นึกถึงเฉียวเนี่ยนขึ้นมาอารมณ์ประหลาดบางอย่างเริ่มฉีกทึ้งหัวใจของเขาเขาขมวดคิ้ว ถามท่านโหวหลินว่า “ท่านพ่อ พวกเราทำแบบนี้ จะไม่ผิดต่อเนี่ยนเนี่ยนหรือ?”ท่านโหวหลินเองก็ถูกคำถามกะทันหันนี้ทำเอานิ่งอึ้งไปเขาค่อย ๆ เงยหน้ามองหลินเย่ว์สายตาทั้งสองประสานกัน
Baca selengkapnya
Sebelumnya
1
...
6364656667
...
91
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status