공유

บทที่ 29

작가: อวี๋ปู้เหยียน
บทที่ 29

จ้าวจวิ้นโจวสูบบุหรี่เข้าปอดอย่างสุขุม พร้อมเลิกคิ้วเล็กน้อย มองไปที่สวีเหยียนซีที่กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาทำโอทีอยู่บนโซฟาอย่างขะมักเขม้น ในดวงตาที่ลึกลับที่แสนยากจะหยั่งถึงของเขานั้น แท้จริงแล้วกำลังเดือนพล่านและปั่นป่วนมานานแล้ว ก่อนที่เขาจะตอบกลับอย่างส่งเดชไปว่า “ก็แค่มาทำงาน ยังจะอยากรู้รายละเอียดอะไรอีก”

“เชี่ยเอ๊ย ไอ้จ้าวจวิ้นโจว มึงจะมาตอแหลกับกูเพื่อ!” เพื่อนตัวแสบของเขาตะคอกดังลั่นจนลำโพงโทรศัพท์เสียงแทบแตก

“...” จ้าวจวิ้นโจวอยากจะไปบีบคอเขาซะให้ตายคาที่

“พอเธอจดทะเบียนเสร็จปุ๊บก็มาทำงานกับมึงปั๊บ คนอื่นอาจจะดูไม่ออก แต่กูรู้จักมึงดี! มึงมันเจ้าเล่ห์ร้ายเงียบ กูไม่เชื่อเรื่องสัญญาเดิมพันสามปีห่าเหวอะไรนั่นหรอกโว้ย! ถ้ามึงไม่ได้จะทำอะไรอย่างที่คิด กูยอมยืนกลับหัวสระผมสามเดือนเลย!”

จ้าวจวิ้นโจวได้ยินดังนั้นถึงกับหัวเราะออกมา แต่แฝงไปด้วยความโกรธ เขาอยากจะบีบคอไอ้เพื่อนคนนี้ตอนนี้ให้ตายจริง ๆ

“พูดดิวะ มึงจะไปเป็นชู้แย่งคนรักของคนอื่นจริง ๆ เหรอ! หรือมึงแค่อยากเล่นเกมแย่งชิงของรักของคนอื่นเอามาเป็นของตัวเองเฉย ๆ เพื่อแสดงอำนาจ!”

จ้าวจวิ้นโจวอัดบุหรี่เข้าไปอีกอึก ก่อนจะมองความงามบนใบหน้าของเธอที่ดูเยือกเย็น พลางนึกถึงผู้หญิงคนนี้ เมื่อสามปีก่อนตอนที่เธอกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา ในตอนนั้นเธอมีท่าทางที่ดูหวาดกลัว แต่แสร้งทำเป็นเข้มแข็งไม่ยอมแพ้

เขานึกอยากจะฉกชิงเธอมาโดยไม่สนอะไรทั้งนั้น

แต่ถ้าทำเช่นนี้คงน่าเบื่อไม่มีอะไรสนุก สิ่งที่เขาต้องการคือเธอต้องอยู่เคียงข้างเขาด้วยความเต็มใจ

สามปียังรอมาแล้ว แล้วจะอะไรกับเวลาเพียงแค่นี้ล่ะ เวลาน่ะ เขามีเยอะแยะจะตาย

“เชี่ยแม่ง! เงียบแบบนี้หมายความว่าไงวะ! มึงจะทำแบบนั้นจริงเหรอ!? ” เสียงเจ้าเพื่อนตัวแสบของเขาเริ่มสั่นเทา “เขาเพิ่งจะแต่งงานเองนะโว้ย”

จ้าวจวิ้นโจวถึงกับพูดไม่ออก “มึงอย่าคิดไปเองว่าคนอื่นเขาจะมีความคิดสกปรกแบบมึง”

“มึงไม่สกปรกหรือไง? มึงเองนั่นแหละที่หมายตาจ้องจะแย่งเขามาตั้งแต่สามปีที่แล้ว”

จ้าวจวิ้นโจวกำลังจะพูดอะไรบางอย่างออกไป แต่ทันใดนั้น สายตาเหลือบไปเห็นสวีเหยียนซีรับโทรศัพท์ และจู่ ๆ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป เขาหรี่ตามองพลางพูดขึ้นว่า “แค่นี้ก่อน ไว้คุยกันใหม่” เมื่อกดวางสายเสร็จ เขาดับบุหรี่พร้อมกับเดินเข้าไปที่ห้องนั่งเล่น

เมื่อสวีเหยียนซีเห็นเขาเดินเข้ามา จึงยืนขึ้นพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ท่านประธานจ้าวคะ ขอโทษนะคะ พอดีตอนนี้ฉันต้องกลับไปที่บ้านตระกูลสวีก่อนสักครู่หนึ่ง”

เขาถามต่อด้วยความรู้สึกสับสน “มีเรื่องด่วนเหรอ?”

“ใช่ค่ะ เรื่องด่วน” สวีเหยียนซีพูดพลางหยิบแท็บเล็ตขึ้นมา เธอไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มและเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

นัยน์ตาของจ้าวจวิ้นโจวคู่นั้นเต็มไปด้วยความเย็นชา

ตอนนี้บ้านตระกูลสวีจะมีเรื่องด่วนอะไรให้สวีเหยียนซีได้อีก นอกเสียจากเรื่องนั้น

-

ระหว่างทางที่กลับบ้านตระกูลสวี สวีเหยียนซีโทรหาโหยวฉี

เธอพูดสั้น ๆ อย่างกระชับเพียงแค่ว่า “ฉินเซียวขึ้นเตียงกับสวีหว่านหนิง”

และทันทีที่สิ้นเสียง โหยวฉีก็สบถออกมาเสียงดังลั่น

สวีเหยียนซีพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ใจเย็น “เมื่อกี้สวีกั๋วหมิงโทรมาบอกฉันว่าพ่อแม่ของฉินเซียวมาถึงที่บ้านตระกูลสวีแล้ว เลยเรียกฉันไปเพื่อปรึกษาหาทางแก้ไขเรื่องนี้”

โหยวฉีได้ยินดังนั้นจึงรู้สึกเหมือนมีอะไรไม่ชอบมาพากล “ซีเอ๋อร์ ฉันว่ามันแปลก ๆ นะ”

สวีเหยียนซีหัวเราะเยาะ “อืม สวีกั๋วหมิงไม่ยอมปล่อยฉันไป เขาเลยจงใจทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต แล้วให้ทั้งสองตระกูลมานั่งคุยกัน สุดท้ายผลลัพธ์คือ ฉันต้องหย่ากับฉินเซียว และให้สวีหว่านหนิงแต่งงานเข้ามา”

“เขาเจ้าเล่ห์ขนาดนี้ได้ยังไงกัน!” โหยวฉีโกรธมากจนเสียงที่เปล่งออกมาเป็นเสียงที่ลอดออกมาตามไรฟัน “เธอไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเขาสักหน่อย แล้วทำไมต้องกักเธอไว้ในตระกูลสวีด้วย!”

จากเรื่องนี้ ทำให้สวีเหยียนซีตระหนักได้อย่างลึกซึ้งว่า อย่างไรก็ตาม สวีกั๋วหมิงก็เป็นนักธุรกิจที่เคยฝ่าฟันและโลดแล่นในวงการมามาก ความคิดอันเล็กน้อยของเธอนั้นแทบจะไม่มีผลอะไรกับเขาเลย

เธอประมาทและเป็นฝ่ายพลาดไปเองจริง ๆ

การที่เธอจะใช้เรื่องนี้มาต่อรองกับสวีกั๋วหมิงเพื่อทำข้อตกลงนั้นคงเป็นไปไม่ได้แล้ว ตอนนี้เธอทำได้เพียงต้องแก้ไขไปทีละเรื่อง

“ฉีฉี ตอนนี้ฉันต้องรบกวนเธอช่วยฉันไปหาคนคนหนึ่งหน่อย”

“ได้ ว่ามาเลย”
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 44

    บทที่ 44จ้าวจวิ้นโจวเก็บมือกลับอย่างพึงพอใจ แล้วหันไปคุยเรื่องงานกับเหมารุ่ยเฟิงต่ออย่างเป็นธรรมชาติระหว่างนั้น เหมารุ่ยเฟิงก็เปลี่ยนหัวข้อมากล่าวถึงสวีเหยียนซี “สถาปนิกสวีมาที่เมืองไห่กับประธานจ้าวในครั้งนี้ ก็เพื่อเก็บข้อมูลนี่เอง แบบนี้ผมก็ยิ่งตั้งตารอแบบร่างเบื้องต้นของสถาปนิกสวีมากขึ้นแล้วสิ”สวีเหยียนซียิ้มอย่างสุภาพ “วางใจได้เลยค่ะ”เมื่อเหมาเจียนั่วได้ยินดังนั้นก็เข้าใจความหมายในทันที จึงเอ่ยถามว่า “พ่อคะ เธอสถาปนิกที่รับงานโปรเจกต์ก่อสร้างล่าสุดของพ่อเหรอคะ?!”“อืม” เหมารุ่ยเฟิงตอบห้วน ๆ พลางตำหนิลูกสาวของตัวเอง “ดูสถาปนิกสวีสิ ทั้งอายุน้อย ทั้งเก่งกาจขนาดนี้ แกควรจะเรียนรู้จากสถาปนิกสวีบ้างนะ เลิกเอาแต่เล่นเป็นเด็กไร้ประโยชน์ได้แล้ว”เหมาเจียนั่วหน้าแดง “พ่อคะ อยู่ข้างนอกไว้หน้าหนูหน่อยเถอะคะ”“แล้วแกเคยไว้หน้าฉันบ้างไหม?”“...”แม้จะดูเหมือนพ่อลูกทะเลาะกัน แต่ก็ไม่ได้ดูเหมือนโกรธกันจริงจัง สวีเหยียนซีมองแล้วก็อดรู้สึกอิจฉาไม่ได้ เพียงแค่ไม่กี่วินาทีที่เธอเผลอเหม่อ หากตอนนั้นเธอไม่ได้ถูกสลับตัวตั้งแต่แรก เธอกับพ่อแท้ ๆ ก็คงจะมีความสัมพันธ์ที่อบอุ่นแบบนี้เช่นกัน“เ

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 43

    บทที่ 43“เจ้าของของที่นี่เป็นเพื่อนกับผมเอง” จ้าวจวิ้นโจวอธิบาย พร้อมกับถามเธอกลับ “คุณมีเวลาหาข้อมูลในนี้เงียบ ๆ ชั่วโมงเดียวเท่านั้น แน่ใจเหรอว่าจะเสียเวลาถามคำถามนี้?”สวีเหยียนซีได้สติในทันที แล้วรีบหยิบกล้องขึ้นมา “ขอบคุณค่ะท่านประธานจ้าว”พูดจบ เธอก็เริ่มตั้งสมาธิทำงานทันทีจ้าวจวิ้นโจวเดินตามเธออยู่ไม่ห่างด้วยท่าทีที่สบาย ๆ ไม่นานนัก ในมือของเขาก็มีทั้งกาแฟที่เธอยังดื่มไม่หมด รวมถึงกระเป๋าของเธอสวีเหยียนซีไม่รู้ตัวเลยว่า ในขณะที่เธอเพลิดเพลินอยู่กับงาน เธอกลับส่งของพวกนั้นให้เขาไปโดยไม่รู้ตัวเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว สวีเหยียนซีเก็บข้อมูลครบทุกอย่างที่ต้องการแล้วก็รู้สึกเบิกบานด้วยความดีใจพอเธอหันกลับมาจะบอกจ้าวจวิ้นโจวว่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็ต้องอึ้งเมื่อเห็นกระเป๋าของตัวเองอยู่ในมือเขา!เธอแทบอยากจะสบถออกมา รีบคว้ากระเป๋าคืนจากมือเขา แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิด “ขอโทษค่ะท่านประธานจ้าว เมื่อกี้คุณควรเตือนฉันนะคะ”เพราะเมื่อก่อนตอนที่อยู่กับฉินเซียว เธอชินกับการส่งของให้เขาช่วยถือโดยไม่ทันคิดอะไร คราวนี้ก็เลยเผลอแสดงพฤติกรรมแบบเดิมออกมาโดยไม่รู้ตัวเพราะมัวแต่

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 42

    บทที่ 42สวีเหยียนซีกัดริมฝีปากด้วยความรู้สึกกระอักกระอวน ก่อนจะรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ท่านประธานจ้าวมาเจอลูกค้าแถวนี้เหรอคะ?”จ้าวจวิ้นโจวตอบตรง ๆ โดยไม่ปิดบัง “ในโทรศัพท์มีระบบแชร์พิกัดอยู่”“???” สวีเหยียนซีเบิกตากว้าง มองโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะตรงหน้าตัวเองอย่างเหลือเชื่อครู่หนึ่ง ก่อนพูดอย่างหงุดหงิดว่า “คุณ!”จ้าวจวิ้นโจวเลิกคิ้วขึ้น “โทรศัพท์ที่ผมให้คุณใช้ คุณไม่เคยเปิดดูเลยหรือไง?”เธออึ้งไปชั่วขณะ “นั่นเป็นโทรศัพท์ของคุณ ฉันจะกล้าไปค้นอะไรแบบนั้นได้ยังไง?”“ผมให้คุณใช้ ก็เท่ากับว่ามันเป็นของคุณชั่วคราว ถ้าคุณเปิดดูแล้วปิดระบบนี้ไป ผมก็คงหาคุณไม่เจอ แบบนี้จะโทษใครดีล่ะ?”สวีเหยียนซีชื่นชมสกิลปากของเขาจริง ๆ เธอฝืนยิ้ม “คุณบอกกันตรง ๆ ก็ได้ ว่ามีระบบนี้อยู่”ตอนแรกเธอก็รู้สึกว่าโทรศัพท์เครื่องนี้เป็นเหมือนตัวปัญหาอยู่แล้ว ตอนนี้เธอยิ่งมั่นใจว่าจะไม่ใช้มันอีกจ้าวจวิ้นโจวไม่ได้ต่อล้อต่อเถียง แต่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดหน้าจอให้เธอเห็น ก่อนจะกดปิดระบบแชร์พิกัดนั้นต่อหน้าเธอ “ทีนี้ก็สบายใจได้แล้ว รอบหน้าผมหาคุณไม่เจอแล้ว”สวีเหยียนซีปฏิเสธ “ขอบคุณสำหรับน้ำใจนะคะ แต่ไม่จำเ

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 41

    บทที่ 41สวีเหยียนซีไม่พูดอะไร เพียงแต่กดโทรออกสีหน้าของเหมาเจียนั่วค่อย ๆ ตึงเครียดขึ้น ชัดเจนว่าเธอไม่คิดว่าสวีเหยียนซีจะกล้าทำจริง!ไม่นาน เสียงของฟางห่าวก็ดังขึ้นจากปลายสาย “สถาปนิกสวี?”“ผู้ช่วยฟางคะ ฉันเจอคุณเหมาเจียนั่วที่ลานจอดรถใต้ดินของโรงแรม ดูเหมือนว่าเธอจะมีเรื่องด่วนอยากพบท่านประธานจ้าว แต่เพราะฉันขับรถของเขาออกมา เธอก็เลยตามมารังควานฉันอยู่ ตอนนี้ทำให้ฉันไม่สามารถทำงานได้ตามปกติค่ะ”เหมาเจียนั่วเบิกตากว้างทันที “???”ฟางห่าวพูดว่า “รอสักครู่นะครับสถาปนิกสวี เดี๋ยวผมจะจัดการให้”ทันทีที่วางสาย เหมาเจียนั่วก็ระเบิดอารมณ์ออกมาอีกครั้ง “เธอบอกว่าจะโทรแจ้งตำรวจไม่ใช่เหรอ! แล้วทำไมถึงโทรหาผู้ช่วยของจ้าวจวิ้นโจวแทนล่ะ!?”สวีเหยียนซียักไหล่เบา ๆ “ก็เธอบอกเองไม่ใช่เหรอว่าที่นี่คือเมืองไห่ไม่ใช่เมืองจิง? ฉันก็แค่ทำตามคำแนะนำของเธอ การโทรหาตำรวจก็ไม่มีประโยชน์กับฉันอยู่ดี”“...” ไม่ใช่! ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเชื่อฟังกันจริง ๆ ด้วย?!ขณะที่เหมาเจียนั่วเอียงคอพลางชี้ไปที่สวีเหยียนซี เสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น พอไม่มีทางเลือก เธอจึงหยิบขึ้นมาดูและเห็นว่าเป็นสายจากพ่อ หน้าขอ

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 40

    บทที่ 40แต่ว่าจ้าวจวิ้นโจวกดตัดสายไปแล้วเอาไว้รับสายอย่างเดียว ส่วนเวลาอื่น ๆ ก็เก็บไว้ในกระเป๋าก็พอ สวีเหยียนซีบอกแบบนั้นเพื่อปลอบใจตัวเอง ก่อนจะคว้ากระเป๋าแล้วลงไปยังลานจอดรถชั้นใต้ดินเมื่อกวาดตามองไปรอบ ๆ ทั้งลานจอดรถ รถเบนท์ลีย์คอนติเนนทัลสีฟ้าโดดเด่นสะดุดตาเกินกว่าจะหาไม่เจอ เพราะมันมีอยู่เพียงคันเดียวเท่านั้นพอปลดล็อกด้วยกุญแจรถ สวีเหยียนซีก็แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้ชายอย่างจ้าวจวิ้นโจวจะมีรถหรูที่สีหวานละมุนราวกับรถของนางฟ้าแบบนี้หรือว่าในใจเขาเองก็อาจจะมีมุมความเป็นเด็กสาวแอบซ่อนอยู่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ขณะที่เธอกำลังจะเปิดประตูรถ จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งก้าวมาขวางตรงหน้า ยืนกอดอกพลางจ้องเธอตาไม่กะพริบ “นี่มันรถของจ้าวจวิ้นโจว! ทำไมกุญแจถึงอยู่ในมือเธอได้?”สวีเหยียนซีสะดุ้งเล็กน้อย ความคิดแรกคือนี่คงเป็นผู้หญิงที่ตามจีบเขาอยู่แน่ ๆเพียงแต่ใบหน้านี้ เธอไม่เคยเห็นมาก่อนที่เมืองจิง แต่ถ้าอีกฝ่ายรู้ว่านี่เป็นรถของจ้าวจวิ้นโจว ก็แปลว่าต้องรู้จักเขา เพียงแต่เธอไม่เคยเจอเท่านั้นเองเธอพูดว่า “ท่านประธานจ้าวให้ฉันยืมรถค่ะ”สิ้นคำพูดนั้น ผู้หญิงตรงหน้าก็ระเบิดอา

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 39

    บทที่ 39สวีเหยียนซีถึงกับอึ้งไปอีกครั้งจ้าวจวิ้นโจวรู้แม้กระทั่งรสนิยมเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเธอ!ยิ่งไปกว่านั้น เธอเพิ่งเริ่มชอบชาลี่ซานเมื่อปีนี้เองด้วยซ้ำ แม้แต่ฉินเซียวยังคิดมาโดยตลอดว่าเธอชอบลาเต้ ทั้งที่เธอเคยบอกเขาไปหลายครั้งแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยจำได้สักที ถึงอย่างนั้น เขายังอุตส่าห์ชงลาเต้มาให้ทุกวันไม่รู้เบื่อ เธอเลยไม่อยากทำให้ความตั้งใจของเขาเสียเปล่า สุดท้ายก็เลยไม่คิดจะเถียงให้มากความ ว่าเธอชอบชาลี่ซานหรือลาเต้กันแน่สวีเหยียนซีหลุบตาลงซ่อนความรู้สึกในแววตา ก่อนจะยกยิ้มบาง ๆ รับถ้วยชา พร้อมเอ่ยคำขอบคุณเธอก้มลงจิบชาหนึ่งอึก กลิ่นหอมหวานละมุนกระจายทั่วในปาก พอเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง สายตากลับเผลอทอดมองไปยังฝั่งตรงข้าม จ้าวจวิ้นโจวกำลังอ่านนิตยสาร แขนซ้ายพาดไว้บนที่วางแขนเป็นท่าทางสบาย ๆ ทุกครั้งที่เขาเปิดหน้าหนังสือ ก็พลอยทำให้เธอเห็นชัดเจนถึงมือเรียวยาวสวยสมบูรณ์แบบคู่นั้นหัวใจเธอเผลอไหววูบ ก่อนจะครุ่นคิด จ้าวจวิ้นโจวคนนี้รู้เรื่องของเธอมากแค่ไหนกันแน่?-สองชั่วโมงต่อมา เครื่องบินก็มาถึงเมืองไห่เพื่อความเงียบสงบ สวีเหยียนซีเลือกที่จะไม่ปิดโหมดเครื่องบิน ปล่อยให้มันเป็นแบ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status