공유

บทที่ 27

작가: อวี๋ปู้เหยียน
บทที่ 27

เมื่อสวีเหยียนซีได้ฟังดังนั้น จึงรู้สึกราวกับว่าเลือดทั่วทุกส่วนในร่างกายกำลังแข็งเป็นน้ำแข็งไปหมด

เธอคิดว่าเป็นฝีมือของสวีหว่านหนิงมาโดยตลอด ใครจะไปคิดว่าสวีกั๋วหมิงก็ให้ความร่วมมือ แถมยังลงมือช่วยวางแผนด้วยตัวเองอีกต่างหาก

“ที่รัก ผมพูดความจริงนะ ถ้าเมื่อกี้ผมพูดโกหกแม้แต่คำเดียว ขอให้ผมโดนฟ้าผ่าตายเลย” เขาพูดพลางยกมือขึ้นสาบานเพื่อยืนยันความน่าเชื่อถือของตัวเอง

“ที่รัก?”

“อย่ามาแตะต้องตัวฉัน!”

ในขณะที่ฉินเซียวพยายามหาวิธีเข้าไปพูดดี ๆ ด้วย แต่แล้วโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาเสียก่อน

พอเห็นว่าเป็นสายจากสวีหว่านหนิง เขาก็ขมวดคิ้วขึ้นด้วยความรู้สึกรังเกียจ พร้อมกับเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงเข้าที่เดิม เมื่อเห็นดังนั้น สวีเหยียนซีจึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงประชดประชันว่า “รับสิ ไม่แน่ว่าเธออาจจะฆ่าตัวตายอีกก็ได้”

“ที่รัก คุณเชื่อผมเถอะนะ ผมเคลียร์กับเธอแล้วจริง ๆ เธอจะตายหรือไม่ตายมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับผม” ฉินเซียวมีท่าทีแข็งกร้าว แต่พอเห็นใบหน้าที่เรียบเฉยของสวีเหยียนซี เขาก็เริ่มทำอะไรไม่ถูก “ที่รัก คุณจะไม่เชื่อผมสักครั้งเลยเหรอ?”

เชื่อ?

สวีเหยียนซีรู้สึกว่าเมื่อคำนี้ออกมาจากปากของเขาแล้ว คำนั้นมันช่างดูแปดเปื้อนไม่เหลือชิ้นดี

“เรื่องที่สถานีตำรวจ หวังว่าคุณชายรองฉินคงจะยังไม่ลืมนะ”

ฉินเซียวได้แต่เงียบ

เธอจึงพูดต่อว่า “ตอนนั้นคุณยุให้ฉันทำอะไรนะ ให้ฉันอ่อนข้อพูดขอโทษ ใช่ไหม?”

“นั่นก็เป็นเพราะว่าผมรู้ว่าคุณแคร์ตระกูลสวี และไม่อยากตัดขาดความสัมพันธ์กับพวกเขาแน่นอน ผมกลัวว่าคุณจะเสียใจที่แม่ยายพูดแบบนั้น ก็เลยอยากให้คุณยอมอ่อนข้อและพูดขอโทษไปก่อน แต่ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะเข้าข้างสวีหว่านหนิง ทั้งหมดที่ผมทำก็เพื่อคุณคนเดียวจริง ๆ ” ฉินเซียนรีบอธิบาย

“เหอะ งั้นก็แปลว่าฉันควรขอบคุณคุณใช่ไหม? ” สวีเหยียนซีพูดขึ้นอย่างประชดประชัน

สวีเหยียนซีที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้ คืออีกร่างหนึ่งที่ฉินเซียวไม่เคยเจอมาก่อน เขาทั้งรู้สึกไม่คุ้นเคยและรู้สึกว่าคนตรงหน้านั้นช่างแสนเย็นชาเหลือเกิน ความรู้สึกกระวนกระวายภายในใจของเขากำลังขยับขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับสวีเหยียนซีที่กำลังออกห่างจากเขาไปไกลเรื่อย ๆ ด้วยเช่นกัน

เขาอยากจะใช้ความทรงจำดี ๆ ที่เคยมีร่วมกันดึงเธอคนเดิมกลับมา แต่แล้วโทรศัพท์ที่เงียบไปเมื่อครู่ก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง

ฉินเซียวหงุดหงิดพร้อมควักโทรศัพท์ออกมาโดยตั้งใจว่าจะปิดเครื่อง

แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดคือ ครั้งนี้คนที่โทรมาคือ สวีกั๋วหมิง

เขาชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปพูดกับสวีเหยียนซีว่า “ไม่ใช่สวีหว่านหนิง แต่คือพ่อของคุณ”

สวีเหยียนซีหัวเราะเยาะพร้อมกับหันไปนั่งลงเก้าอี้โต๊ะทานข้าว ฉินเซียวไม่ได้เลี่ยงหลบไปไหน เขารับสายโทรศัพท์ต่อหน้าเธอ “พ่อครับ”

สองวินาทีต่อมา ฉินเซียวมีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว “อะไรนะครับ? ก่อนหน้านี้เซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ครับ เดี๋ยวผมไปเดี๋ยวนี้”

พอวางสาย ฉินเซียวมีท่าทางกระวนกระวายกว่าเมื่อครู่เป็นสิบเท่า พลางรีบอธิบายว่า “ที่รัก เมื่อกี้พ่อตาบอกว่าลูกค้าคนนั้นเปลี่ยนใจกะทันหัน ตอนนี้ผมต้องรีบกลับไปจัดการก่อน พอจัดการเสร็จ ผมจะกลับมาหาคุณทันที ได้โปรดนะ อย่าไปไหน รอผมกลับมาแล้วเรามาปรับความเข้าใจกันต่อนะ”

“ไปให้พ้น” เธอตอบกลับเพียงคำสามพยางค์สั้น ๆ ที่แสนเย็นชา ฉินเซียวไม่รับรู้ใด ๆ ทั้งสิ้น เขารับรู้เพียงแค่อีกฝ่ายตอบตกลงและรีบจากไปอย่างเร่งรีบ

สวีเหยียนซีรู้สึกเหน็บแนมในใจ ก่อนหน้าสวีหว่านหนิงโทรมา จากนั้นไม่นานสวีกั๋วหมิงก็โทรมาบอกลูกค้ามีปัญหา

แม้แต่คนโง่ยังดูออกว่ามันมีอะไรไม่ชอบมาพากล

เธอยืนที่ระเบียงเพื่อรอให้แน่ใจว่ารถของฉินเซียวได้ออกจากหมู่บ้านไปแล้ว เธอถึงเริ่มเดินออกมา

เมื่อกลับถึงว่านจิ่นฟุ เรสซิเดนซ์ เธอต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกินเองหนึ่งชาม แต่อาหารเพิ่งเข้าปากเธอได้เพียงสองคำ จู่ ๆ ก็ได้รับข้อความจากบุคคลนิรนามหนึ่งข้อความ

เธอเข้าใจผิดคิดว่าเป็นข้อความจัดส่งพัสดุทั่วไป จึงกดเข้าไปดู แต่เมื่อเห็นข้อความนั้นแล้วเธอถึงกับตกใจและเบิกตากว้าง จากนั้นรีบวางโทรศัพท์ลงพร้อมกับยกมือปิดตาและรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะอาเจียนออกมาอย่างบ้าคลั่ง

หลังจากเธออาการดีขึ้นมาหน่อย เธอถึงเดินออกมาด้วยสีหน้าซีดเผือดราวกับไก่ต้ม เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง

มันเป็นรูปถ่าย

ในรูปนั้นคือฉินเซียวกับสวีหว่านหนิงกำลังเปลือยกายนอนกอดกันอยู่บนเตียง

สวีหว่านหนิงมองกล้องและยิ้มอย่างมีความสุข นั้นเป็นรูปที่เธอถ่ายเซลฟี่เอง

ข้างล่างยังส่งคำบรรยายภาพมาด้วยว่า [สวีเหยียนซี คราวนี้ฉันอวดได้อย่างเต็มที่แล้วน้า ตอนนี้ฉันกลายเป็นคนของพี่ฉินเซียวอย่างสมบูรณ์แล้ว แกแพ้แล้ว!]

สวีเหยียนซีคว่ำโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ พลางหลับตาลง หัวใจของเธอเจ็บปวดจนไม่สามารถรับรู้อะไรได้อีกแล้ว

เขาบอกว่ามันไม่ใช่ความผิดของเขา แต่ถ้าเข้าเด็ดเดี่ยวมากพอ จะโดนสวีกั๋วหมิงกับสวีหว่านหนิงฉวยโอกาสได้อย่างไรกัน? ภาพที่เธอเห็นกับตาตัวเอง ไม่ใช่มีแค่สวีหว่านหนิงฝ่ายเดียวที่เรียกร้อง เขาเองก็ดูมีความสุขและต้องการมันเช่นกัน

ไม่ใช่ว่าเธอไม่สนใจความรู้สึกที่ดี ๆ มีต่อกันมาตลอดระยะเวลา 22 ปี ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยให้โอกาสเขา แต่เป็นเขาเองต่างหาก ที่เลือกทำตามเสียงหัวใจตัวเองและผลักไสเธอออกไป

เธอบล็อกเบอร์นี้ทิ้งทันที และไม่มีกระจิตกระใจจะกินข้าวต่อ เธอจึงเก็บจานชาม จากนั้นหยิบแท็บเล็ตเดินมุ่งไปยังคฤหาสน์จวี๋ซานเพียงลำพัง

ราวกับว่าลุงโจวรับรู้ได้ถึงการมาเยือนของเธอ เธอยังไม่ทันได้กดกริ่ง ประตูก็ถูกเปิดออกเสียก่อนแล้ว ลุงโจวพูดทักทายเธออย่างเป็นกันเอง “คุณสวี สวัสดีตอนเย็นครับ”

“สวัสดีตอนเย็นค่ะลุงโจว” สวีเหยียนซียิ้มบาง “ท่านประธานจ้าวอยู่ไหมคะ?”
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 44

    บทที่ 44จ้าวจวิ้นโจวเก็บมือกลับอย่างพึงพอใจ แล้วหันไปคุยเรื่องงานกับเหมารุ่ยเฟิงต่ออย่างเป็นธรรมชาติระหว่างนั้น เหมารุ่ยเฟิงก็เปลี่ยนหัวข้อมากล่าวถึงสวีเหยียนซี “สถาปนิกสวีมาที่เมืองไห่กับประธานจ้าวในครั้งนี้ ก็เพื่อเก็บข้อมูลนี่เอง แบบนี้ผมก็ยิ่งตั้งตารอแบบร่างเบื้องต้นของสถาปนิกสวีมากขึ้นแล้วสิ”สวีเหยียนซียิ้มอย่างสุภาพ “วางใจได้เลยค่ะ”เมื่อเหมาเจียนั่วได้ยินดังนั้นก็เข้าใจความหมายในทันที จึงเอ่ยถามว่า “พ่อคะ เธอสถาปนิกที่รับงานโปรเจกต์ก่อสร้างล่าสุดของพ่อเหรอคะ?!”“อืม” เหมารุ่ยเฟิงตอบห้วน ๆ พลางตำหนิลูกสาวของตัวเอง “ดูสถาปนิกสวีสิ ทั้งอายุน้อย ทั้งเก่งกาจขนาดนี้ แกควรจะเรียนรู้จากสถาปนิกสวีบ้างนะ เลิกเอาแต่เล่นเป็นเด็กไร้ประโยชน์ได้แล้ว”เหมาเจียนั่วหน้าแดง “พ่อคะ อยู่ข้างนอกไว้หน้าหนูหน่อยเถอะคะ”“แล้วแกเคยไว้หน้าฉันบ้างไหม?”“...”แม้จะดูเหมือนพ่อลูกทะเลาะกัน แต่ก็ไม่ได้ดูเหมือนโกรธกันจริงจัง สวีเหยียนซีมองแล้วก็อดรู้สึกอิจฉาไม่ได้ เพียงแค่ไม่กี่วินาทีที่เธอเผลอเหม่อ หากตอนนั้นเธอไม่ได้ถูกสลับตัวตั้งแต่แรก เธอกับพ่อแท้ ๆ ก็คงจะมีความสัมพันธ์ที่อบอุ่นแบบนี้เช่นกัน“เ

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 43

    บทที่ 43“เจ้าของของที่นี่เป็นเพื่อนกับผมเอง” จ้าวจวิ้นโจวอธิบาย พร้อมกับถามเธอกลับ “คุณมีเวลาหาข้อมูลในนี้เงียบ ๆ ชั่วโมงเดียวเท่านั้น แน่ใจเหรอว่าจะเสียเวลาถามคำถามนี้?”สวีเหยียนซีได้สติในทันที แล้วรีบหยิบกล้องขึ้นมา “ขอบคุณค่ะท่านประธานจ้าว”พูดจบ เธอก็เริ่มตั้งสมาธิทำงานทันทีจ้าวจวิ้นโจวเดินตามเธออยู่ไม่ห่างด้วยท่าทีที่สบาย ๆ ไม่นานนัก ในมือของเขาก็มีทั้งกาแฟที่เธอยังดื่มไม่หมด รวมถึงกระเป๋าของเธอสวีเหยียนซีไม่รู้ตัวเลยว่า ในขณะที่เธอเพลิดเพลินอยู่กับงาน เธอกลับส่งของพวกนั้นให้เขาไปโดยไม่รู้ตัวเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว สวีเหยียนซีเก็บข้อมูลครบทุกอย่างที่ต้องการแล้วก็รู้สึกเบิกบานด้วยความดีใจพอเธอหันกลับมาจะบอกจ้าวจวิ้นโจวว่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็ต้องอึ้งเมื่อเห็นกระเป๋าของตัวเองอยู่ในมือเขา!เธอแทบอยากจะสบถออกมา รีบคว้ากระเป๋าคืนจากมือเขา แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิด “ขอโทษค่ะท่านประธานจ้าว เมื่อกี้คุณควรเตือนฉันนะคะ”เพราะเมื่อก่อนตอนที่อยู่กับฉินเซียว เธอชินกับการส่งของให้เขาช่วยถือโดยไม่ทันคิดอะไร คราวนี้ก็เลยเผลอแสดงพฤติกรรมแบบเดิมออกมาโดยไม่รู้ตัวเพราะมัวแต่

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 42

    บทที่ 42สวีเหยียนซีกัดริมฝีปากด้วยความรู้สึกกระอักกระอวน ก่อนจะรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ท่านประธานจ้าวมาเจอลูกค้าแถวนี้เหรอคะ?”จ้าวจวิ้นโจวตอบตรง ๆ โดยไม่ปิดบัง “ในโทรศัพท์มีระบบแชร์พิกัดอยู่”“???” สวีเหยียนซีเบิกตากว้าง มองโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะตรงหน้าตัวเองอย่างเหลือเชื่อครู่หนึ่ง ก่อนพูดอย่างหงุดหงิดว่า “คุณ!”จ้าวจวิ้นโจวเลิกคิ้วขึ้น “โทรศัพท์ที่ผมให้คุณใช้ คุณไม่เคยเปิดดูเลยหรือไง?”เธออึ้งไปชั่วขณะ “นั่นเป็นโทรศัพท์ของคุณ ฉันจะกล้าไปค้นอะไรแบบนั้นได้ยังไง?”“ผมให้คุณใช้ ก็เท่ากับว่ามันเป็นของคุณชั่วคราว ถ้าคุณเปิดดูแล้วปิดระบบนี้ไป ผมก็คงหาคุณไม่เจอ แบบนี้จะโทษใครดีล่ะ?”สวีเหยียนซีชื่นชมสกิลปากของเขาจริง ๆ เธอฝืนยิ้ม “คุณบอกกันตรง ๆ ก็ได้ ว่ามีระบบนี้อยู่”ตอนแรกเธอก็รู้สึกว่าโทรศัพท์เครื่องนี้เป็นเหมือนตัวปัญหาอยู่แล้ว ตอนนี้เธอยิ่งมั่นใจว่าจะไม่ใช้มันอีกจ้าวจวิ้นโจวไม่ได้ต่อล้อต่อเถียง แต่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดหน้าจอให้เธอเห็น ก่อนจะกดปิดระบบแชร์พิกัดนั้นต่อหน้าเธอ “ทีนี้ก็สบายใจได้แล้ว รอบหน้าผมหาคุณไม่เจอแล้ว”สวีเหยียนซีปฏิเสธ “ขอบคุณสำหรับน้ำใจนะคะ แต่ไม่จำเ

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 41

    บทที่ 41สวีเหยียนซีไม่พูดอะไร เพียงแต่กดโทรออกสีหน้าของเหมาเจียนั่วค่อย ๆ ตึงเครียดขึ้น ชัดเจนว่าเธอไม่คิดว่าสวีเหยียนซีจะกล้าทำจริง!ไม่นาน เสียงของฟางห่าวก็ดังขึ้นจากปลายสาย “สถาปนิกสวี?”“ผู้ช่วยฟางคะ ฉันเจอคุณเหมาเจียนั่วที่ลานจอดรถใต้ดินของโรงแรม ดูเหมือนว่าเธอจะมีเรื่องด่วนอยากพบท่านประธานจ้าว แต่เพราะฉันขับรถของเขาออกมา เธอก็เลยตามมารังควานฉันอยู่ ตอนนี้ทำให้ฉันไม่สามารถทำงานได้ตามปกติค่ะ”เหมาเจียนั่วเบิกตากว้างทันที “???”ฟางห่าวพูดว่า “รอสักครู่นะครับสถาปนิกสวี เดี๋ยวผมจะจัดการให้”ทันทีที่วางสาย เหมาเจียนั่วก็ระเบิดอารมณ์ออกมาอีกครั้ง “เธอบอกว่าจะโทรแจ้งตำรวจไม่ใช่เหรอ! แล้วทำไมถึงโทรหาผู้ช่วยของจ้าวจวิ้นโจวแทนล่ะ!?”สวีเหยียนซียักไหล่เบา ๆ “ก็เธอบอกเองไม่ใช่เหรอว่าที่นี่คือเมืองไห่ไม่ใช่เมืองจิง? ฉันก็แค่ทำตามคำแนะนำของเธอ การโทรหาตำรวจก็ไม่มีประโยชน์กับฉันอยู่ดี”“...” ไม่ใช่! ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเชื่อฟังกันจริง ๆ ด้วย?!ขณะที่เหมาเจียนั่วเอียงคอพลางชี้ไปที่สวีเหยียนซี เสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น พอไม่มีทางเลือก เธอจึงหยิบขึ้นมาดูและเห็นว่าเป็นสายจากพ่อ หน้าขอ

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 40

    บทที่ 40แต่ว่าจ้าวจวิ้นโจวกดตัดสายไปแล้วเอาไว้รับสายอย่างเดียว ส่วนเวลาอื่น ๆ ก็เก็บไว้ในกระเป๋าก็พอ สวีเหยียนซีบอกแบบนั้นเพื่อปลอบใจตัวเอง ก่อนจะคว้ากระเป๋าแล้วลงไปยังลานจอดรถชั้นใต้ดินเมื่อกวาดตามองไปรอบ ๆ ทั้งลานจอดรถ รถเบนท์ลีย์คอนติเนนทัลสีฟ้าโดดเด่นสะดุดตาเกินกว่าจะหาไม่เจอ เพราะมันมีอยู่เพียงคันเดียวเท่านั้นพอปลดล็อกด้วยกุญแจรถ สวีเหยียนซีก็แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้ชายอย่างจ้าวจวิ้นโจวจะมีรถหรูที่สีหวานละมุนราวกับรถของนางฟ้าแบบนี้หรือว่าในใจเขาเองก็อาจจะมีมุมความเป็นเด็กสาวแอบซ่อนอยู่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ขณะที่เธอกำลังจะเปิดประตูรถ จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งก้าวมาขวางตรงหน้า ยืนกอดอกพลางจ้องเธอตาไม่กะพริบ “นี่มันรถของจ้าวจวิ้นโจว! ทำไมกุญแจถึงอยู่ในมือเธอได้?”สวีเหยียนซีสะดุ้งเล็กน้อย ความคิดแรกคือนี่คงเป็นผู้หญิงที่ตามจีบเขาอยู่แน่ ๆเพียงแต่ใบหน้านี้ เธอไม่เคยเห็นมาก่อนที่เมืองจิง แต่ถ้าอีกฝ่ายรู้ว่านี่เป็นรถของจ้าวจวิ้นโจว ก็แปลว่าต้องรู้จักเขา เพียงแต่เธอไม่เคยเจอเท่านั้นเองเธอพูดว่า “ท่านประธานจ้าวให้ฉันยืมรถค่ะ”สิ้นคำพูดนั้น ผู้หญิงตรงหน้าก็ระเบิดอา

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 39

    บทที่ 39สวีเหยียนซีถึงกับอึ้งไปอีกครั้งจ้าวจวิ้นโจวรู้แม้กระทั่งรสนิยมเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเธอ!ยิ่งไปกว่านั้น เธอเพิ่งเริ่มชอบชาลี่ซานเมื่อปีนี้เองด้วยซ้ำ แม้แต่ฉินเซียวยังคิดมาโดยตลอดว่าเธอชอบลาเต้ ทั้งที่เธอเคยบอกเขาไปหลายครั้งแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยจำได้สักที ถึงอย่างนั้น เขายังอุตส่าห์ชงลาเต้มาให้ทุกวันไม่รู้เบื่อ เธอเลยไม่อยากทำให้ความตั้งใจของเขาเสียเปล่า สุดท้ายก็เลยไม่คิดจะเถียงให้มากความ ว่าเธอชอบชาลี่ซานหรือลาเต้กันแน่สวีเหยียนซีหลุบตาลงซ่อนความรู้สึกในแววตา ก่อนจะยกยิ้มบาง ๆ รับถ้วยชา พร้อมเอ่ยคำขอบคุณเธอก้มลงจิบชาหนึ่งอึก กลิ่นหอมหวานละมุนกระจายทั่วในปาก พอเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง สายตากลับเผลอทอดมองไปยังฝั่งตรงข้าม จ้าวจวิ้นโจวกำลังอ่านนิตยสาร แขนซ้ายพาดไว้บนที่วางแขนเป็นท่าทางสบาย ๆ ทุกครั้งที่เขาเปิดหน้าหนังสือ ก็พลอยทำให้เธอเห็นชัดเจนถึงมือเรียวยาวสวยสมบูรณ์แบบคู่นั้นหัวใจเธอเผลอไหววูบ ก่อนจะครุ่นคิด จ้าวจวิ้นโจวคนนี้รู้เรื่องของเธอมากแค่ไหนกันแน่?-สองชั่วโมงต่อมา เครื่องบินก็มาถึงเมืองไห่เพื่อความเงียบสงบ สวีเหยียนซีเลือกที่จะไม่ปิดโหมดเครื่องบิน ปล่อยให้มันเป็นแบ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status