공유

บทที่ 26

작가: อวี๋ปู้เหยียน
บทที่ 26

“ฉินเซียว!” สวีเหยียนซีตะคอกใส่เขาด้วยความโกรธ

เมื่อเผชิญหน้ากับสวีเหยียนซี เขาก็อ่อนลงทันที “ที่รัก ผมผิดไปแล้ว”

เมื่อคู่สามีภรรยาที่ยืนอยู่ตรงข้ามได้ยินชื่อก็มองหน้ากัน ราวกับว่านึกบางสิ่งบางอย่างออก และความหวาดกลัวก็ฉายชัดออกมาจากแววตาของทั้งคู่ในชั่วพริบตา

เพราะอย่างไรเสีย ในเมืองจิงแห่งนี้ มีคนที่ใช้นามสกุลฉินไม่มากนัก

สวีเหยียนซีเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ “จ่ายเงิน! ชดใช้!”

“ได้ครับ” ฉินเซียวรีบควักโทรศัพท์ออกมาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับพูดเร่งเร้าชายคนนั้นว่า “รีบเอาคิวอาร์โค้ดรับเงินมาสิ”

“จะ จริง ๆ แล้ว”

ชายคนนั้นเริ่มพูดติด ๆ ขัด ๆ สวีเหยียนซีจึงรู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นจึงพูดขึ้นอย่างเป็นมิตรว่า “เป็นความผิดของเราเองที่เริ่มก่อน สิ่งที่ควรชดใช้ก็ควรได้รับการชดใช้ หรือถ้าไม่สะดวกรับเงินโอน เดี๋ยวพวกเราไปกดเงินสดมาให้ได้นะคะ”

“ไม่ต้อง ๆ! โอนได้ครับ โอนได้เลย” ชายคนนั้นรีบเปิดโทรศัพท์ทั้งมือไม้สั่นไปหมดจนโทรศัพท์เกือบจะตกพื้นอยู่หลายครั้ง ฉินเซียวโอนเงินสามแสนบาทให้อีกฝ่ายทันที รวดเร็วจนแทบจะไม่ทันได้กะพริบตา

เมื่อชายคนนั้นเห็นเงินสามแสนที่ถูกโอนเข้ามา ซึ่งนั้นมากกว่าสองเท่าที่ควรจ่ายเสียอีก จึงถามขึ้นว่า “สามแสนนี่มันเยอะไปหรือเปล่าครับ? ”

“ไม่หรอกค่ะ” สวีเหยียนซียิ้มบาง จากนั้นหันไปคุยอะไรนิดหน่อยกับผู้จัดการนิติ และเรื่องก็จบลงตรงนี้ เธอจึงหันหลังกลับและเดินจากไป

สีหน้าของฉินเซียวแสดงถึงการยอมจำนนพร้อมกับรีบเดินตามหลังด้วยรอยยิ้มเจื่อน “ที่รัก คุณยังไม่ได้ทานข้าวใช่ไหมเอ่ย เดี๋ยวคืนนี้ผมทำข้าวผัดสับปะรดที่คุณชอบให้ทานดีไหม?”

สวีเหยียนซีไม่แยแสเหลียวแลมองอีกฝ่ายแม้แต่หางตา

ฉินเซียวเห็นดังนั้นจึงรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก “ที่รัก คุณช่วยพูดอะไรหน่อยสิ คุณเงียบแบบนี้ผมใจไม่ดีเลย”

เธอยังคงเงียบตลอดทั้งทาง ไม่มีคำพูดใด ๆ จนกระทั่งเข้าไปในห้อง ฉินเซียวรวบรวมความกล้าทั้งหมดของเขาแล้วยืนขวางหน้าเธอไว้ พร้อมกับคว้ามือของเธอมาตบหน้าตัวเอง “ทุกอย่างเป็นความผิดของผมคนเดียว เป็นเพราะช่วงนี้สมองผมเลอะเลือนไปหมด ทำเรื่องที่ทำร้ายจิตใจคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่า”

“ที่รัก คุณจะดุจะด่าจะตีหรือจะตบผมยังไงก็ได้ แต่อย่าทำเป็นไม่สนใจผมแบบนี้เลยนะได้ไหม ผมขอร้องล่ะ?”

สวีเหยียนซีดึงมือตัวเองกลับมาพร้อมกับพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “คุณอายุยี่สิบหกปีแล้วนะ ไม่ใช่เด็กวัยรุ่นแล้ว หยุดทำอะไรหุนหันพลันแล่นอย่างกับเด็ก ๆ สักที คนที่โต ๆ กันแล้ว เมื่อทำผิด ก็ต้องแก้ปัญหาด้วยวิธีของคนที่โตแล้วสิ ไม่ใช่แค่พูดว่า ขอโทษ ผมผิดไปแล้วสองสามประโยคพวกนี้แล้วก็จบ”

ฉินเซียวตอบกลับด้วยสีหน้าเศร้าหมอง “แต่ความสัมพันธ์ของเราสองคนมันลึกซึ้งกว่านั้นนี่นา คุณจะบอกว่าไม่เอา ก็ไม่เอาได้ยังไงกัน? อีกอย่าง วันนี้คุณพ่อกับคุณแม่โทรมาหาผมถามว่าเมื่อไหร่จะกลับบ้าน ผมก็พูดได้แค่ว่าคุณเป็นหวัด รออีกสองสามวันค่อยกลับ แต่ถ้าเวลานานกว่านี้”

“งั้นก็บอกพวกท่านไปตรง ๆ เลยว่าคุณทำอะไรลงไป แล้วก็เรื่องที่ฉันจะหย่ากับคุณด้วย” สวีเหยียนซีพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“บอกไม่ได้!” ฉินเซียวหลุดปากออกมา “และเราก็หย่าไม่ได้ด้วย!”

เป็นดังคำกล่าวโบราณกล่าวไว้ไม่มีผิด ความรักทำให้คนตาบอด เพราะเหตุนี้ ในอดีตที่ผ่านมาเธอได้มองข้ามข้อบกพร่องทั้งหมดของเขาโดยไม่มีข้อแม้ เพียงเพราะรักคำเดียว แต่ตอนนี้ เธอกลับมองเห็นถึงความขี้ขลาดตาขาว และความปรารถนาอันป่าเถื่อนของเขาได้อย่างชัดเจน

เขาคงกลัวว่าการหย่าจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาของพ่อของเขา ซึ่งจะส่งผลต่อสิทธิในการสืบทอดมรดกของเขา หรือบางที เขาอาจจะเสียดายความสัมพันธ์นี้ของพวกเขาจริง ๆ ก็ได้ แต่เขารู้ดีว่าถ้าสวีหว่านหนิงใช้เล่ห์เหลี่ยมเล่นงานเขาอีกครั้ง ก็คงถูกทำให้หลงใหลเคลิบเคลิ้มอีกครั้งเช่นเดิม

เมื่อเกิดรอยแตกร้าวแล้ว อย่างไรซะมันก็จะยังคงเป็นรอยแตกร้าวอยู่วันยังค่ำ เธอไม่สามารถใจอ่อนได้อีก และถึง แม้ในตอนนี้ ที่เขาแตะต้องสัมผัสตัวเธอ เธอกลับเริ่มรู้สึกสะอิดสะเอียนจนคลื่นไส้อยากจะอาเจียน

เธอสูดอากาศเข้าไปเฮือกใหญ่ ก่อนจะเริ่มพูดต่อว่า “ฉันเคยบอกคุณแล้ว เส้นตายในความสัมพันธ์สำหรับฉันคือการนอกใจ แม้แต่การนอกใจทางความคิดก็ไม่ได้”

ฉินเซียวพูดขึ้นด้วยอาการใกล้จะสติแตก “ผมก็ไม่ได้ล้อคุณเล่นนะ ในชีวิตนี้ของผมอยากจะใช้มันไปกับคุณคนเดียวจริง ๆ ผมจะไม่หย่า ยังมีคำสัญญาตั้งเยอะแยะมากมายที่ผมรับปากแล้วยังไม่ได้ทำให้คุณเลย เรา...”

“เหรอ? คำสัญญาเรื่องการนอกใจ คุณไม่ได้เป็นคนทำลายมันก่อนหรอกเหรอ? แล้วคำสัญญาอื่น ๆ ของคุณมันจะมีความหมายอะไรอีก? ” สวีเหยียนซีพูดแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา และแฝงไปด้วยความประชดประชัน

“แต่เรื่องนี้มันก็ไม่ใช่ความผิดของผมคนเดียวทั้งหมด พ่อคุณวางแผนจัดการผม”

“อะไรนะ?”

ฉินเซียนสารภาพออกมาทั้งหมด “ก่อนหน้านี้ผมไม่สามารถปิดดีลกับลูกค้ารายหนึ่งได้สักที และเกือบโดนพี่ใหญ่แย่งไป ตอนนั้นพ่อคุณแอบเข้ามาช่วยผมเป็นการส่วนตัวจนสำเร็จ แต่เขาเสนอว่า ผมต้องไปทานข้าวกับสวีหว่านหนิง ตอนนั้นผมคิดว่าทานข้าวแค่มื้อเดียวเอง ทานเสร็จก็ค่อยรีบกลับ แต่ผมไม่คิดเลยว่า... ผมยอมรับว่าตอนนั้นผมไม่หนักแน่นพอ และมีความเลอะเลือนไปบ้าง”
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 44

    บทที่ 44จ้าวจวิ้นโจวเก็บมือกลับอย่างพึงพอใจ แล้วหันไปคุยเรื่องงานกับเหมารุ่ยเฟิงต่ออย่างเป็นธรรมชาติระหว่างนั้น เหมารุ่ยเฟิงก็เปลี่ยนหัวข้อมากล่าวถึงสวีเหยียนซี “สถาปนิกสวีมาที่เมืองไห่กับประธานจ้าวในครั้งนี้ ก็เพื่อเก็บข้อมูลนี่เอง แบบนี้ผมก็ยิ่งตั้งตารอแบบร่างเบื้องต้นของสถาปนิกสวีมากขึ้นแล้วสิ”สวีเหยียนซียิ้มอย่างสุภาพ “วางใจได้เลยค่ะ”เมื่อเหมาเจียนั่วได้ยินดังนั้นก็เข้าใจความหมายในทันที จึงเอ่ยถามว่า “พ่อคะ เธอสถาปนิกที่รับงานโปรเจกต์ก่อสร้างล่าสุดของพ่อเหรอคะ?!”“อืม” เหมารุ่ยเฟิงตอบห้วน ๆ พลางตำหนิลูกสาวของตัวเอง “ดูสถาปนิกสวีสิ ทั้งอายุน้อย ทั้งเก่งกาจขนาดนี้ แกควรจะเรียนรู้จากสถาปนิกสวีบ้างนะ เลิกเอาแต่เล่นเป็นเด็กไร้ประโยชน์ได้แล้ว”เหมาเจียนั่วหน้าแดง “พ่อคะ อยู่ข้างนอกไว้หน้าหนูหน่อยเถอะคะ”“แล้วแกเคยไว้หน้าฉันบ้างไหม?”“...”แม้จะดูเหมือนพ่อลูกทะเลาะกัน แต่ก็ไม่ได้ดูเหมือนโกรธกันจริงจัง สวีเหยียนซีมองแล้วก็อดรู้สึกอิจฉาไม่ได้ เพียงแค่ไม่กี่วินาทีที่เธอเผลอเหม่อ หากตอนนั้นเธอไม่ได้ถูกสลับตัวตั้งแต่แรก เธอกับพ่อแท้ ๆ ก็คงจะมีความสัมพันธ์ที่อบอุ่นแบบนี้เช่นกัน“เ

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 43

    บทที่ 43“เจ้าของของที่นี่เป็นเพื่อนกับผมเอง” จ้าวจวิ้นโจวอธิบาย พร้อมกับถามเธอกลับ “คุณมีเวลาหาข้อมูลในนี้เงียบ ๆ ชั่วโมงเดียวเท่านั้น แน่ใจเหรอว่าจะเสียเวลาถามคำถามนี้?”สวีเหยียนซีได้สติในทันที แล้วรีบหยิบกล้องขึ้นมา “ขอบคุณค่ะท่านประธานจ้าว”พูดจบ เธอก็เริ่มตั้งสมาธิทำงานทันทีจ้าวจวิ้นโจวเดินตามเธออยู่ไม่ห่างด้วยท่าทีที่สบาย ๆ ไม่นานนัก ในมือของเขาก็มีทั้งกาแฟที่เธอยังดื่มไม่หมด รวมถึงกระเป๋าของเธอสวีเหยียนซีไม่รู้ตัวเลยว่า ในขณะที่เธอเพลิดเพลินอยู่กับงาน เธอกลับส่งของพวกนั้นให้เขาไปโดยไม่รู้ตัวเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว สวีเหยียนซีเก็บข้อมูลครบทุกอย่างที่ต้องการแล้วก็รู้สึกเบิกบานด้วยความดีใจพอเธอหันกลับมาจะบอกจ้าวจวิ้นโจวว่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็ต้องอึ้งเมื่อเห็นกระเป๋าของตัวเองอยู่ในมือเขา!เธอแทบอยากจะสบถออกมา รีบคว้ากระเป๋าคืนจากมือเขา แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิด “ขอโทษค่ะท่านประธานจ้าว เมื่อกี้คุณควรเตือนฉันนะคะ”เพราะเมื่อก่อนตอนที่อยู่กับฉินเซียว เธอชินกับการส่งของให้เขาช่วยถือโดยไม่ทันคิดอะไร คราวนี้ก็เลยเผลอแสดงพฤติกรรมแบบเดิมออกมาโดยไม่รู้ตัวเพราะมัวแต่

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 42

    บทที่ 42สวีเหยียนซีกัดริมฝีปากด้วยความรู้สึกกระอักกระอวน ก่อนจะรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ท่านประธานจ้าวมาเจอลูกค้าแถวนี้เหรอคะ?”จ้าวจวิ้นโจวตอบตรง ๆ โดยไม่ปิดบัง “ในโทรศัพท์มีระบบแชร์พิกัดอยู่”“???” สวีเหยียนซีเบิกตากว้าง มองโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะตรงหน้าตัวเองอย่างเหลือเชื่อครู่หนึ่ง ก่อนพูดอย่างหงุดหงิดว่า “คุณ!”จ้าวจวิ้นโจวเลิกคิ้วขึ้น “โทรศัพท์ที่ผมให้คุณใช้ คุณไม่เคยเปิดดูเลยหรือไง?”เธออึ้งไปชั่วขณะ “นั่นเป็นโทรศัพท์ของคุณ ฉันจะกล้าไปค้นอะไรแบบนั้นได้ยังไง?”“ผมให้คุณใช้ ก็เท่ากับว่ามันเป็นของคุณชั่วคราว ถ้าคุณเปิดดูแล้วปิดระบบนี้ไป ผมก็คงหาคุณไม่เจอ แบบนี้จะโทษใครดีล่ะ?”สวีเหยียนซีชื่นชมสกิลปากของเขาจริง ๆ เธอฝืนยิ้ม “คุณบอกกันตรง ๆ ก็ได้ ว่ามีระบบนี้อยู่”ตอนแรกเธอก็รู้สึกว่าโทรศัพท์เครื่องนี้เป็นเหมือนตัวปัญหาอยู่แล้ว ตอนนี้เธอยิ่งมั่นใจว่าจะไม่ใช้มันอีกจ้าวจวิ้นโจวไม่ได้ต่อล้อต่อเถียง แต่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดหน้าจอให้เธอเห็น ก่อนจะกดปิดระบบแชร์พิกัดนั้นต่อหน้าเธอ “ทีนี้ก็สบายใจได้แล้ว รอบหน้าผมหาคุณไม่เจอแล้ว”สวีเหยียนซีปฏิเสธ “ขอบคุณสำหรับน้ำใจนะคะ แต่ไม่จำเ

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 41

    บทที่ 41สวีเหยียนซีไม่พูดอะไร เพียงแต่กดโทรออกสีหน้าของเหมาเจียนั่วค่อย ๆ ตึงเครียดขึ้น ชัดเจนว่าเธอไม่คิดว่าสวีเหยียนซีจะกล้าทำจริง!ไม่นาน เสียงของฟางห่าวก็ดังขึ้นจากปลายสาย “สถาปนิกสวี?”“ผู้ช่วยฟางคะ ฉันเจอคุณเหมาเจียนั่วที่ลานจอดรถใต้ดินของโรงแรม ดูเหมือนว่าเธอจะมีเรื่องด่วนอยากพบท่านประธานจ้าว แต่เพราะฉันขับรถของเขาออกมา เธอก็เลยตามมารังควานฉันอยู่ ตอนนี้ทำให้ฉันไม่สามารถทำงานได้ตามปกติค่ะ”เหมาเจียนั่วเบิกตากว้างทันที “???”ฟางห่าวพูดว่า “รอสักครู่นะครับสถาปนิกสวี เดี๋ยวผมจะจัดการให้”ทันทีที่วางสาย เหมาเจียนั่วก็ระเบิดอารมณ์ออกมาอีกครั้ง “เธอบอกว่าจะโทรแจ้งตำรวจไม่ใช่เหรอ! แล้วทำไมถึงโทรหาผู้ช่วยของจ้าวจวิ้นโจวแทนล่ะ!?”สวีเหยียนซียักไหล่เบา ๆ “ก็เธอบอกเองไม่ใช่เหรอว่าที่นี่คือเมืองไห่ไม่ใช่เมืองจิง? ฉันก็แค่ทำตามคำแนะนำของเธอ การโทรหาตำรวจก็ไม่มีประโยชน์กับฉันอยู่ดี”“...” ไม่ใช่! ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเชื่อฟังกันจริง ๆ ด้วย?!ขณะที่เหมาเจียนั่วเอียงคอพลางชี้ไปที่สวีเหยียนซี เสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น พอไม่มีทางเลือก เธอจึงหยิบขึ้นมาดูและเห็นว่าเป็นสายจากพ่อ หน้าขอ

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 40

    บทที่ 40แต่ว่าจ้าวจวิ้นโจวกดตัดสายไปแล้วเอาไว้รับสายอย่างเดียว ส่วนเวลาอื่น ๆ ก็เก็บไว้ในกระเป๋าก็พอ สวีเหยียนซีบอกแบบนั้นเพื่อปลอบใจตัวเอง ก่อนจะคว้ากระเป๋าแล้วลงไปยังลานจอดรถชั้นใต้ดินเมื่อกวาดตามองไปรอบ ๆ ทั้งลานจอดรถ รถเบนท์ลีย์คอนติเนนทัลสีฟ้าโดดเด่นสะดุดตาเกินกว่าจะหาไม่เจอ เพราะมันมีอยู่เพียงคันเดียวเท่านั้นพอปลดล็อกด้วยกุญแจรถ สวีเหยียนซีก็แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้ชายอย่างจ้าวจวิ้นโจวจะมีรถหรูที่สีหวานละมุนราวกับรถของนางฟ้าแบบนี้หรือว่าในใจเขาเองก็อาจจะมีมุมความเป็นเด็กสาวแอบซ่อนอยู่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ขณะที่เธอกำลังจะเปิดประตูรถ จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งก้าวมาขวางตรงหน้า ยืนกอดอกพลางจ้องเธอตาไม่กะพริบ “นี่มันรถของจ้าวจวิ้นโจว! ทำไมกุญแจถึงอยู่ในมือเธอได้?”สวีเหยียนซีสะดุ้งเล็กน้อย ความคิดแรกคือนี่คงเป็นผู้หญิงที่ตามจีบเขาอยู่แน่ ๆเพียงแต่ใบหน้านี้ เธอไม่เคยเห็นมาก่อนที่เมืองจิง แต่ถ้าอีกฝ่ายรู้ว่านี่เป็นรถของจ้าวจวิ้นโจว ก็แปลว่าต้องรู้จักเขา เพียงแต่เธอไม่เคยเจอเท่านั้นเองเธอพูดว่า “ท่านประธานจ้าวให้ฉันยืมรถค่ะ”สิ้นคำพูดนั้น ผู้หญิงตรงหน้าก็ระเบิดอา

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 39

    บทที่ 39สวีเหยียนซีถึงกับอึ้งไปอีกครั้งจ้าวจวิ้นโจวรู้แม้กระทั่งรสนิยมเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเธอ!ยิ่งไปกว่านั้น เธอเพิ่งเริ่มชอบชาลี่ซานเมื่อปีนี้เองด้วยซ้ำ แม้แต่ฉินเซียวยังคิดมาโดยตลอดว่าเธอชอบลาเต้ ทั้งที่เธอเคยบอกเขาไปหลายครั้งแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยจำได้สักที ถึงอย่างนั้น เขายังอุตส่าห์ชงลาเต้มาให้ทุกวันไม่รู้เบื่อ เธอเลยไม่อยากทำให้ความตั้งใจของเขาเสียเปล่า สุดท้ายก็เลยไม่คิดจะเถียงให้มากความ ว่าเธอชอบชาลี่ซานหรือลาเต้กันแน่สวีเหยียนซีหลุบตาลงซ่อนความรู้สึกในแววตา ก่อนจะยกยิ้มบาง ๆ รับถ้วยชา พร้อมเอ่ยคำขอบคุณเธอก้มลงจิบชาหนึ่งอึก กลิ่นหอมหวานละมุนกระจายทั่วในปาก พอเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง สายตากลับเผลอทอดมองไปยังฝั่งตรงข้าม จ้าวจวิ้นโจวกำลังอ่านนิตยสาร แขนซ้ายพาดไว้บนที่วางแขนเป็นท่าทางสบาย ๆ ทุกครั้งที่เขาเปิดหน้าหนังสือ ก็พลอยทำให้เธอเห็นชัดเจนถึงมือเรียวยาวสวยสมบูรณ์แบบคู่นั้นหัวใจเธอเผลอไหววูบ ก่อนจะครุ่นคิด จ้าวจวิ้นโจวคนนี้รู้เรื่องของเธอมากแค่ไหนกันแน่?-สองชั่วโมงต่อมา เครื่องบินก็มาถึงเมืองไห่เพื่อความเงียบสงบ สวีเหยียนซีเลือกที่จะไม่ปิดโหมดเครื่องบิน ปล่อยให้มันเป็นแบ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status