All Chapters of จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค: Chapter 91 - Chapter 100

102 Chapters

90

จิงซิงอี้ เริ่มต้นตรวจร่างกายของเจี่ยฉวน ด้วยการสังเกตสีหน้า ลิ้น การเคลื่อนไหว กล้ามเนื้อ และชีพจร หลังจากนั้น ก็สอบถามอาการที่เกิดขึ้นตั้งแต่ตอนตกจากหลังม้า ว่าตกลงมาในท่าไหน หัวหรือหลังถูกกระแทก และอาการตั้งแต่ช่วงแรกจนถึงปัจจุบัน  เขาใช้เวลาฟังและจดบันทึกลงในสมุดที่เขาทำขึ้นมาเอง ท่ามกลางสายตาของคนที่เฝ้าดูอย่างใจจดใจจ่อ โดยเฉพาะพ่อลูกเจี่ย ในที่สุดเขาก็สรุปว่า        “อาการของท่านเป็นผลกระทบที่เกิดจากการตกม้า จึงมีผลต่อเส้นเลือดในสมอง อาการหลักคือ จ้งจ้างฝู่ ที่มีอาการหมดสติ ร่างกายใช้งานไม่ได้ อาการข้างเคียงที่ คือ ปี้เจิ้ง ทำให้หมดสติไป แขนขาเกร็ง กัดฟันแน่น พอฟื้นขึ้นมา ก็ทำให้แขนขาไม่มีแรง มีอาการเกร็ง เคลื่อนไหวไม่สะดวก และพูดไม่ค่อยชัด  นั่นก็เพราะสมองถูกทำลายและอาจจะมีเส้นเลือดที่สมองบางส่วนถูกทำลายด้วย”        เขารู้ว่าบางอย่างถึงพูดไป พวกเขาก็ไม่เข้าใจ แต่เด็กชายก็ยังอธิบายต่อ “ข้าจะใช้วิธีฝังเข็ม กินยา และกายภาพบำบัด เพื่อให้อวัยวะส่วนต่างๆ ได้เคลื่อนไหวแล
last updateLast Updated : 2025-11-25
Read more

91

        เมื่อมาถึงบ้านของโม่หยวนหลิง ทั้งสามคนช่วยกันแบ่งของป่าที่หามาได้ และเริ่มต้นทำอาหารกลางวันกิน วันนี้พวกเขาไปที่ลำธารเพื่อจับปลาที่อยู่ใต้น้ำแข็ง ล่าสัตว์ และเก็บพืชบางอย่างที่เติบโตอยู่ใต้กองหิมะ หลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้า และกินข้าวด้วยกันในห้องที่อบอุ่นอยู่ เสียงตะโกนของผู้ใหญ่บ้านก็ดังมาจากหน้าบ้าน จิงซิงอี้จึงเดินไปเปิดประตูเขาเห็นผู้ใหญ่บ้านยืนรออยู่กับชายคนหนึ่ง ชายฉกรรจ์ที่เขาเพิ่งพบเมื่อไม่นานมานี้ ทำหน้าประหลาดใจเมื่อเห็นจิงซิงอี้ผู้ใหญ่บ้านรีบอธิบายว่า “ท่านหมอจิง ข้ามารบกวนให้ท่านช่วยไปดูอาการบาดเจ็บให้ใต้เท้าเหล่านี้ มีท่านหนึ่งได้รับบาดเจ็บมาก”เมื่อเห็นชายที่มาด้วยขมวดคิ้ว ผู้ใหญ่บ้านจึงหันมาพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจว่า  “นี่คือท่านหมอจิงซิงอี้ที่ข้าเล่าให้ฟัง เขาอายุน้อยก็จริง แต่เป็นหมออัจฉริยะที่มีชื่อเสียงในย่านนี้มากนะ”จิงซิงอี้จึงตอบตกลง ถ้ามีผู้ใหญ่บ้านมารับรองแล้ว พวกเขาคงไม่ลำบากอยู่แค่บ้านเดียวแน่ เขาจึงบอกให้โม่หยวนหลิงช่วยเตรียมอุปกรณ์ให้
last updateLast Updated : 2025-11-26
Read more

92

จิงซิงอี้นอนหลับยาวไปจนถึงตอนเย็น เมื่อสะดุ้งตื่นขึ้นมา เขาพบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องที่ไม่คุ้นเคย และอากาศยังหนาวยะเยือกต่างไปจากที่บ้าน เมื่อขยับตัวลุกขึ้น ท้องก็ร้องด้วยความหิว เขาสวมรองเท้าและเดินออกไปนอกห้อง        จิงซิงอี้เดินไปที่ห้องของคนเจ็บ ที่มีคนยืนเฝ้าอยู่หน้าห้อง เมื่อเห็นว่าเป็นจิงซิงอี้ ชายที่เฝ้าประตูจึงยิ้มให้ และรีบเปิดประตูห้อง พร้อมกับบอกคนในห้องเบาๆ ว่า หมอจิงซิงอี้มาแล้วเขาเดินเข้าไปในห้อง ก็พบว่าคนไข้ยังนอนหลับอยู่ ในห้องมีโม่หยวนหลิงนั่งอยู่ที่เก้าอี้ นางยิ้มและถามเขาว่าเป็นอย่างไรบ้าง  จิงซิงอี้ตอบเบาๆว่า เขาไม่เหนื่อยแล้ว และถามอาการคนไข้ หญิงสาวตอบว่า “คนไข้นอนหลับตั้งแต่ช่วงบ่าย ยังคงมีไข้อยู่ พี่คอยเช็ดตัวลดไข้ให้แล้วจ้ะ”        จิงซิงอี้เดินเข้าไปจับชีพจร สังเกตสีหน้าและการหายใจ รวมไปถึงบาดแผลที่ไหล่ โดยรวมแล้ว คนเจ็บหายใจสะดวกขึ้น และสีหน้าที่หมองคล้ำเปลี่ยนมาเป็นสีขาวซีด แสดงให้เห็นว่า ยาพิษที่อยู่ในร่างกายถูกขับออกมาเกือบหมดแล้ว
last updateLast Updated : 2025-11-27
Read more

93

“ข้าอยากเรียนรู้การแพทย์เพิ่มเติมในเมืองหลวง ไม่ทราบว่าจะต้องทำอย่างไรบ้างขอรับ” จิงซิงอี้พูดอย่างจริงจัง        โม่หยวนหลิงชะงักและหันมามองจิงซิงอี้  ผู้บังคับกองพันหลิวป๋อยิ้ม เขาเอามือทุบอกตัวเองเบาๆ และพูดด้วยความมั่นใจว่า “ไม่ต้องกังวลไปหมอจิง ข้าจะไปสอบถามข้อมูลให้ แล้วจะกลับมาบอกท่านอีกครั้ง”        จิงซิงอี้กล่าวขอบคุณเขาอย่างดีใจ จากนั้นทหารทั้งสามคนก็ลากลับ เด็กชายหันมาทางโม่หยวนหลิงและถามนางว่า  “พี่หลิง ถ้าข้าไปเรียนในเมืองแล้ว ท่านจะทำอย่างไร”        หญิงสาวนิ่งไปสักพัก ก่อนจะพูดว่า  “พี่ต้องอยู่ที่นี่เพื่อสานต่อสิ่งที่พวกเราช่วยกันสร้างเอาไว้ พื้นฐานของเรายังไม่มั่นคงมากพอ เจ้าไปเรียนก็ต้องใช้เงิน ทั้งค่าที่พัก ค่ากิน ค่าหนังสือ ค่าเรียนอีกมากมาย ถ้าพี่เข้าเมืองไปอยู่กับเจ้า ก็ไม่รู้จะทำงานอะไร มีแค่ค้าขายหรือรับจ้าง ซึ่งก็ไม่คุ้มค่า ถ้าอยู่ที่นี่ก็ยังทำงานเดิมต่อไป ไม่ต้องไปเริ่มใหม่ แ
last updateLast Updated : 2025-11-28
Read more

94

ในที่สุด ก็ได้เวลาที่จิงซิงอี้จะเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง เขานั่งรถวัวลากที่มีซัวซีเว่ยและโม่หยวนหลิงขี่มาส่ง พวกเขาเข้ามาในเมืองช่วงบ่ายหลังจากทำธุระที่บ้านเสร็จ ในตอนนี้ต้องหาโรงเตี๊ยมให้จิงซิงอี้พักก่อน เพราะไม่แน่ใจว่าจะได้พบกับหมอเฉินอี้เซิงเลยหรือไม่ การไปพบใคร โดยเฉพาะคนที่มีสถานะสูง ส่วนใหญ่จะต้องขอนัดพบล่วงหน้า หรือไม่ก็ต้องการไปเฝ้ารอเพื่อขอพบ ซึ่งพวกเขาก็ไม่แน่ใจเช่นกันว่า จะพบหมอเฉินอี้เซิงได้อย่างไร        หลังจากขนของเข้าที่พักแล้ว ทั้งสามคนเดินทางไปยังโรงหมอของหมอเฉินอี้เซิง เพื่อส่งจดหมายนัดพบและแนะนำตัว ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายคล้อยแล้ว จิงซิงอี้นั่งอยู่บนเกวียนที่ลากด้วยวัว ได้ยินเสียงล้อเกวียนดังเอี๊ยดอ๊าดตลอดทาง ผู้คนในเมืองไคเฟิงหลายคนกำลังเดินทางกลับบ้าน ร้านค้าข้างทางบางร้าน เริ่มเก็บของเตรียมตัวปิด บางร้านก็เริ่มต้นเปิดทำธุรกิจในช่วงเย็น        พวกเขาสอบถามทางไปโรงหมอกับชาวบ้าน เมื่อมาถึงหน้าโรงหมอซึ่งเป็นอาคารไม้ขนาดใหญ่ ตั้งตระหง่านอยู่ย่านธุรกิจสำคัญ ป้ายชื่อ “โรงหมอหมอเฉ
last updateLast Updated : 2025-11-29
Read more

95

ทั้งโม่หยวนหลิงและซัววีเว่ยยังอยู่กับจิงซิงอี้ต่อไป พวกเขาจะอยู่รอจนกว่าจะได้คำตอบว่า จิงซิงอี้จะได้เป็นลูกศิษย์หรือไม่ จากนั้นจึงค่อยกลับบ้านที่นอกเมือง        เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พวกเขาตื่นขึ้นมา และออกไปกินอาหารเช้าที่แผงขายอาหารใกล้โรงเตี๊ยม และเดินทางไปยังบ้านของเฉินอี้เซิง ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณชุมชนออกมา เมื่อไปถึงประตูบ้านหลังหนึ่งที่ตั้งห่างจากบ้านหลังอื่นๆ พวกเขาลงมาจากเกวียน เคาะประตูบ้าน คนรับใช้ชายวัยกลางคนเดินมาเปิดประตู เมื่อจิงซิงอี้แจ้งว่าเขาเป็นใคร คนที่มาเปิดประตูดูเหมือนจะรู้อยู่แล้ว  เขาบอกให้ทุกคนเดินตามเข้ามา   และให้โม่หยวนหลิงกับซัววีเว่ยนั่งรอที่ห้องรับแขก จิงซิงอี้หันไปบอกทั้งสองคนว่า ไม่ต้องกังวล จากนั้นเขาก็เดินตามคนรับใช้ชายไปหลังบ้าน        บ้านของเฉินอี้เซิงเป็นบ้านสองชั้นขนาดใหญ่ และมีบ้านอีก 3 หลังสร้างอยู่ในอาณาบริเวณเดียวกัน โดยแต่ละหลังมีทางเดินเชื่อมถึงกัน คนรับใช้นำเขาไปที่บ้านหลังใหญ่สุดที่อยู่ตรงกลาง  แต่แทนที่จะเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ คนร
last updateLast Updated : 2025-11-30
Read more

96

เมื่อรู้ว่าจิงซิงอี้ผ่านการทดสอบ โม่หยวนหลิงและซัววีเว่ย จึงช่วยกันหาที่พักให้เด็กชาย แต่ก็ยังอดเป็นห่วงจิงซิงอี้ไม่ได้“เจ้าอยู่คนเดียวได้จริงหรือ พี่รู้ว่าเจ้าเก่ง ทำอะไรก็ได้ แต่ที่นี่เมืองหลวง ไม่มีใครมาช่วยเหลือเจ้า พี่เป็นห่วงมากนะ!” โม่หยวนหลิงพูดด้วยความกังวลใจจิงซิงอี้ต้องปลอบใจว่า “พี่หลิง ข้าอยู่ตัวคนเดียวได้จริงๆ แต่ตอนนี้ต้องหาที่พักก่อน”  ทั้งสองคนเสนอให้เขาไปพักอยู่บ้านเฉินอี้เซิง อย่างน้อยยังมีผู้ใหญ่อยู่ด้วยเด็กชายหัวเราะ การไปอยู่แบบนั้น ต้องทำงานแลกที่พักและอาหาร เขาไม่คิดว่าตัวเองจะต้องทุ่มเทและลำบากถึงขนาดนั้น เขามีความรู้อยู่แล้ว แค่ต้องการความรู้ด้านพิษอื่นๆ ที่จะช่วยเหลือจิงเซียวได้นอกจากนี้ เขาไม่อยากระมัดระวังตัวตลอดเวลา เขาจึงเลือกอยู่คนเดียว เพื่อให้มีเวลาศึกษาหาความรู้ โดยไม่ต้องปิดบังตัวตน เมื่อเห็นโม่หยวนหลิงและซัววีเว่ยยังไม่คลายกังวล เขาจึงตัดสินใจพูดตรงๆ ว่า“พี่หลิง พี่เว่ย ข้ารู้ว่าพวกท่านเป็นห่วงข้ามาก แต่ข้าขอพูดตรงๆก็แล้วกัน ข้ามีความรู้ทางการแพทย์อยู่แล้ว อาจ
last updateLast Updated : 2025-12-01
Read more

97

ในวันจันทร์แรกของการไปเรียน จิงซิงอี้ตื่นแต่เช้า เขาสะพายเป้หนังสีน้ำตาลที่มีข้าวของจำเป็นใส่หลัง เป้นี้เขาออกแบบเป็นพิเศษให้มีช่องเก็บของ ใส่ขวดน้ำที่ทำจากกระบอกไม้ไผ่เล็กๆ ขนม ผ้าเช็ดหน้า อุปกรณ์การแพทย์ขนาดเล็ก เขาแวะกินอาหารเช้าง่ายๆ ข้างทาง จากนั้นเดินไปที่บ้านของเฉินอี้เซิง ถึงอากาศจะเย็นในช่วงเช้า เพราะเป็นฤดูใบไม้ผลิ แต่ก็เหงื่อตกเพราะต้องเดินมาเองเมื่อมาถึงทางเข้าบ้าน เขาพบชายหลากหลายวัยเดินเข้าประตูไปอย่างคุ้นเคย จิงซิงอี้เดินตามเข้าไปเงียบๆ บางคนหันมามองเขาด้วยความสงสัย จนกระทั่งมีชายคนหนึ่งอายุประมาณ 28-29 ปี เรียกให้เขาหยุดและถามว่า “เจ้าหนู! หยุดก่อน! เจ้าเป็นใคร หลงทางกับพ่อหรือเปล่า”กลุ่มคนที่น่าจะเป็นลูกศิษย์ของเฉินอี้เซิงพากันหันมามอง จิงซิงอี้หยุดเดิน หันไปตอบนิ่งๆว่า “ข้าไม่ได้พลัดหลงกับใคร ข้าเป็นลูกศิษย์นอกสำนักของอาจารย์เฉินอี้เซิง”ทุกคนที่ได้ยินต่างขมวดคิ้ว พวกเขามองจิงซิงอี้ด้วยความสงสัย บางคนไม่เชื่อ และถามเขาด้วยความไม่พอใจว่า“เป็นเรื่องจริงหรือ!” “เจ้าอย่ามาเป็นเด็กเลี้
last updateLast Updated : 2025-12-02
Read more

98

เฉินอี้เซิงเฉลยอาการป่วยของคนไข้ชายว่า มีอะไรบ้างและควรจะรักษาอย่างไร เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า“คนไข้รักษาอาการมานานแล้ว ช่วงนี้มีอาการหนักขึ้น เพราะอากาศหนาวมีส่วนอย่างมาก แต่สิ่งที่จิงซิงอี้วิเคราะห์น่าสนใจมากเช่นกัน โดยเฉพาะกรรมพันธุ์และความเครียด ที่ทำให้อาการเป็นมากขึ้น การซักถามอย่างใส่ใจถึงชีวิตประจำวัน จึงเป็นหัวใจสำคัญ ที่ทำให้เราเห็นสาเหตุของโรคด้วย ที่สำคัญ การรักษาในองค์รวม ที่ต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจไปด้วย จึงจะช่วยให้โรคแบบนี้ดีขึ้นได้ในภาพรวมได้”หลังจากจบบทเรียนในวันนั้น เฉินอี้เซิงปล่อยให้ทุกคนกลับบ้านได้ จิงซิงอี้เก็บของ และเดินออกมานอกห้องพร้อมกับลั่วเป่ยและจี่หลิว คนที่ไม่พอใจเขาก็เริ่มเงียบไปบางคนเข้ามาทักทายและบอกว่า ไม่นึกเลยว่าเขาจะเป็นหมอเด็กอัจริยะ แต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียงแค่นหัวเราะของชายที่มีปัญหากับเขา หรือเค่อหลุน ที่เดินผ่านจิงซิงอี้และพูดว่า “ก็แค่เดาจนถูกนั่นละ!”ทั้งลั่วเป่ยและจี่หลิวขมวดคิ้ว ลั่วเป่ยจึงพูดออกมาว่า “คนอะไร หาเรื่องแม้กระทั่งกับเด็กไม่กี่ขวบ!”จิงซิงอี้มองตามเค่อห
last updateLast Updated : 2025-12-03
Read more

99

ลั่วเป่ยถอนหายใจ “ลูกชายของพี่อายุ 11 ปี ไม่ค่อยแข็งแรงมาตั้งแต่เกิด เวลาทำอะไรที่ต้องออกแรง จะเหนื่อยง่าย หายใจหอบ ซีดเซียว เวลาอากาศเปลี่ยนก็ป่วย เวลาป่วยที ก็ใช้เวลานานกว่าจะฟื้นได้ ยิ่งช่วงสองสามปีนี้อาการยิ่งหนักมากขึ้นไปอีก”ในระหว่างนั้น เด็กเสิร์ฟก็นำอาหารมาวางบนโต๊ะ ทั้งสองคนลงมือกินและคุยกันต่อ “พี่หาหมอมารักษาหลายคนก็ไม่ดีขึ้น ได้แค่ทรงๆ จนช่วงนี้ยิ่งแย่มากขึ้น มันน่าเจ็บใจไหม ที่พี่ขายสมุนไพร แต่ก็ไม่มีสมุนไพรไหนช่วยลูกได้เลย!”จิงซิงอี้ถามด้วยความสนใจว่า “ใครเป็นคนแนะนำให้ใช้โสมในการรักษาหรือ”“เป็นหมอที่เพื่อนของพี่แนะนำมา เขาเชี่ยวชาญโรคเด็ก และบอกว่าหยวนชี่พร่อง ซึ่งมักเกิดกับเด็ก เขาจึงสั่งยาและอาหารเพื่อบำรุงร่างกายให้แข็งแรง โดยเฉพาะโสมที่ให้เอามาตุ๋นไก่ทำเป็นยา จะต้องเป็นโสมที่มีคุณภาพสูงจริงๆ”เมื่อจิงซิงอี้ถามต่อว่า “หลังจากรักษากับหมอคนนี้แล้ว อาการดีขึ้นไหม”ชายหนุ่มตอบว่า “ดีขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ยังออกแรงหนักมากไม่ได้ จนเมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมา อากาศเปลี่ยนแปลงม
last updateLast Updated : 2025-12-04
Read more
PREV
1
...
67891011
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status