ยอมรับเลยว่าช่วงภาคแรกของ 'Naruto' มีฉากต่อสู้ที่ฝังใจมากมายจนเลือกไม่ง่าย แต่ถ้าต้องยกสักห้า ฉากต่อสู้ที่ผมคิดว่าโดดเด่นที่สุดคือการประสานระหว่างอารมณ์กับเทคนิคการต่อสู้ที่ทำให้ตัวละครเติบโต คนแรกที่ผมต้องพูดถึงคือการปะทะที่ทะเลสาบระหว่างทีม 7 กับซาบูซะและ
ฮาคุ เพราะมันไม่ใช่แค่การต่อสู้เพื่อชนะ แต่เป็นการเปิดเผยบาดแผลทางจิตใจของทั้งสองฝ่าย ฉากฮาคุสละชีวิตเพื่อปกป้องซาบูซะ และความพยายามไม่
ยอมแพ้ของ
นารูโตะในการเรียกคืนความเป็นมนุษย์ให้กับศัตรู มันทั้งเศร้าและยิ่งใหญ่อย่างไม่คาดคิด ฉากนี้ยังแสดงให้เห็นความหมายของการเป็นนินจาและมิตรภาพในรูปแบบที่ชัดเจน ทำให้คนดูรู้สึกผูกพันกับตัวละครอย่างรวดเร็ว
อีกฉากที่สะกดผมไว้คือการปะทะระหว่างรอกกุ ลี กับ กาอาระ ในรอบชิงของการคัดเลือกชูนนิน ฉากนี้เต็มไปด้วยพลังและจังหวะ ภายนอกมันคือการโชว์ท่าเตะหมุนและพลังจากการฝึกฝน แต่ด้านในคือเรื่องราวของความพยายามที่แสดงออกมาเป็นความหวังและความสิ้นหวัง การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของลีและการชะงักงันของกาอาระคือตัวแทนของความต่างทางบุคลิกภาพ การใช้เพซและมุมกล้องในฉากนี้ช่วยขับความรู้สึกได้เยอะ มันเป็นบทพิสูจน์ว่าการฝึกฝนและจิตใจสามารถท้าทาย
โชคชะตาที่ถูกตั้งไว้ได้
แมตช์ที่ทำให้ผมยืนขึ้นแน่นอนคือ นารูโตะ ปะทะ เนจิ ในรอบชิงชูนนิน นี่คือฉากที่ตัวเอกเติบโตแบบชัดเจน เนจิเป็นตัวแทนของโชคชะตาและปัญญาที่ยิ่งใหญ่ ส่วน นารูโตะ คือความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมจำนน การต่อสู้ที่ทั้งสองมีไม่เพียงแต่นับจังหวะคาถาและท่าไม้ตาย แต่ยังเป็นการปะทะของความคิดเรื่องชะตากรรมและเสรีภาพตอนจบเมื่อ นารูโตะชนะ มันให้ความหวังและเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ตัวละครทั้งหลายเริ่มมองนารูโตะด้วยสายตาใหม่ ๆ
สุดท้ายคือตอนบทสรุปของภาคแรกที่หุบเขาแห่งจุดจบ ซึ่งเป็นการประจันหน้าระหว่างนารูโตะกับซาสึเกะ ฉากนี้กินความยาวทั้งด้านอารมณ์และการต่อสู้ มีทั้งพลังแห่งมิตรภาพ ความแค้น และการตัดสินใจครั้งสำคัญ เสียงเพลงประกอบและการส่งผ่านพลังชินโนะคุจิช่วยผลักดันให้ฉากนี้กลายเป็นมรดกของซีรีส์ การหักเหของความสัมพันธ์ระหว่างสองคนนี้ถูกสื่อออกมาทางหมัดและรอยแผล จบด้วยความรู้สึกทั้งสูญเสียและหวัง
ซ่อนเร้น ซึ่งยังคงติดอยู่ในใจผมจนถึงทุกวันนี้
รวม ๆ แล้วฉากต่อสู้ที่ดีที่สุดของภาคแรกไม่ได้วัดแค่ว่าใครแรงกว่า แต่เป็นการผสานระหว่างบทเพลงอารมณ์ เทคนิครัวต่อสู้ และพัฒนาการของตัวละครที่ทำให้แต่ละการปะทะมีน้ำหนักแตกต่างกันไป ในฐานะแฟน ผมยังคงชอบกลับมาดูซ้ำเพราะทุกรอบจะเห็นรายละเอียดเล็ก ๆ ที่เคยพลาด และมันทำให้ความรักต่อเรื่องนี้ยังอบอุ่นเหมือนเดิม