ดิฉันรู้สึกว่าการเล่าประวัติดันเต้เหมือนกำลังเล่าตำนานคนติดตลกที่มีบาดแผลลึกอยู่เบื้องใต้
เกิดจากสายเลือดที่ไม่ธรรมดา ดันเต้เป็นลูกชายของ 'Sparda'
ยมทูตผู้ทรงอำนาจและมนุษย์ชื่อ 'Eva' ซึ่งความสัมพันธ์นี้ทำให้ดันเต้กลายเป็นครึ่ง
ปีศาจที่มีพลังเกินมนุษย์ แต่ก็ต้องแบกรับความขัดแย้งระหว่างสองโลกในตัวเองตั้งแต่ยังเด็ก — พี่น้องฝาแฝดอีกคนคือเวอร์จิลที่มีแนวคิดต่างกันชัดเจน การแยกทางและการสูญเสียครอบครัวคือจุดเริ่มต้นที่ขึ้นรูปตัวตนของเขา
มุมมองของดันเต้ใน '
devil may cry 3' กับในเกมภาคแรกสุดต่างกัน ตรงที่ในภาคสามเห็นเขายังเป็นหนุ่มไฟแรง เอาแต่เล่นมุกแต่มีความเกรี้ยวกราดในฝีมือ ส่วนในภาคแรกจะเห็นความเป็นมืออาชีพมากขึ้น เรียกว่ามีซับพลอตเรื่องการยอมรับตัวตนและการปกป้องมนุษย์ซ่อนอยู่ การใช้อาวุธอย่างดาบ 'Rebellion' ปืนคู่ 'Ebony & Ivory' และท่า 'Devil Trigger' เป็นทั้งสัญลักษณ์และเครื่องเตือนถึงมรดกของพ่อ ที่ทำให้ฉากต่อสู้ของเขามีความเป็นละครครอบครัวผสมกับคอมเมดี้สุดโต่ง
บางครั้งการที่เขาพูดเล่นหรือชอบของอร่อยดูเหมือนไม่จริงจัง แต่การเผชิญหน้ากับเวอร์จิลหรือเหล่าปีศาจจะเผยมุมมองที่จริงจังและเศร้าซ่อนอยู่ ทำให้ดันเต้ยังคงเป็นตัวละครที่น่าสนใจเสมอ — คนที่ยิ้มได้ในวันที่ต้องแบกความทรงจำหนัก ๆ ไว้ข้างใน