ลองคิดดูว่าซีรีส์ย้อนยุคข้ามเวลาที่พูดถึงกันมากและถูกยกให้มีบทดีที่สุดโดยนักวิจารณ์ ส่วนใหญ่จะชี้ไปที่ '步步惊心' (Bu Bu Jing Xin) ก่อนเสมอ เพราะมันจับจุดทุกอย่างที่บท
ละครย้อนยุคควรมี: ความละเอียดของตัวละคร ความสมเหตุสมผลของเหตุผลที่ทำให้คนต้องตัดสินใจ และการผสมระหว่างความรักกับการเมืองอย่างลงตัว การเดิน
เรื่องของซีรีส์นี้ไม่ใช่แค่ให้ตัวละครตกอยู่ในเหตุการณ์สำคัญแล้วเป็นเพียงผู้เห็นเหตุการณ์ แต่บทผลักดันให้ตัวละครต้องเผชิญทางเลือกที่เจ็บปวดและมีผลสะเทือนต่อชะตาชีวิตจริงจังจนคนดูรู้สึกว่าทุกฉากมีน้ำหนัก
การตัดสินใจของผมเองเมื่อมองในมุมผู้ชมพากย์ไทย คิดว่าเหตุผลที่นักวิจารณ์ยกย่อง '步步惊心' มากเพราะบทต้นฉบับมีโครงสร้างที่แข็งแรงและมิติของตัวละครชัดเจน ทำให้การแปลและพากย์ไทยสามารถถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างเต็มที่ เสียงพากย์ที่เลือกโทนให้เข้ากับน้ำเสียงตัวละคร ประกอบกับบทแปลที่รักษาน้ำหนักคำพูดเก่าแก่และการใช้ภาษาที่สุภาพยังช่วยให้คนดูไทยสัมผัสถึงบรรยากาศยุคสมัยได้ดีกว่าเรื่องอื่น ๆ ในประเภทเดียวกัน เมื่อเทียบกับงานอย่าง '三生三世十里桃花' ที่ได้รับคำชมเรื่องโลกทัศน์แฟนตาซีแต่บทมักจะเน้นฉากโรแมนติกและความเวิ้งว้างของชะตากรรมมากกว่าการขบคิดทางการเมืองหรือปมจิตวิทยาตัวละคร
อีกมุมที่นักวิจารณ์พูดถึงบ่อยคือการใช้รายละเอียดเชิงประวัติศาสตร์และการวางบทย่อยที่ทำให้แต่ละเหตุการณ์มีความจำเป็นต่อพล็อต ไม่ใช่แค่เครื่องมือเรียกน้ำตา เช่น การวางตัวละครรองให้มีเรื่องเล็ก ๆ ที่สะท้อนธีมหลัก ทำให้ภาพรวมไม่ดูสวยงามแต่ไม่มีเหตุผล ฉากที่ตัวละครต้องแลกความรู้สึกส่วนตัวกับความรับผิดชอบต่อครอบครัวหรือแผ่นดินถูกเขียนขึ้นมาอย่างละเอียด การพากย์ไทยที่ดีจึงต้องจับจังหวะหายใจของบทให้พอดี ถ้าแปลเพียงผิวเผิน น้ำหนักของคำพูดจะหายไปและอารมณ์สลายเป็นความคลุมเครือ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมบางเวอร์ชันพากย์ไทยของซีรีส์อื่น ๆ ถึงไม่ได้รับการยกย่องเท่า '步步惊心'
สรุปโดยส่วนตัว ความเข้มข้นของบทและการจัดวางอารมณ์ทำให้ผมยกให้ '步步惊心' เป็นตัวอย่างบทที่ดีที่สุดในหมวดย้อนยุคข้ามเวลาเมื่อพิจารณาทั้งเรื่องเขียนและการพากย์ไทย มันไม่ใช่แค่เรื่อง
รักข้ามเวลา แต่เป็น
นิยายชีวิตที่ถูกตัดต่อมาเป็นบทละครอย่างตั้งใจ จบลงด้วยความเหงาและความอิ่มเอมในเวลาเดียวกัน ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ยังคงติดอยู่ในใจผมทุกครั้งที่นึกถึง