แฟนๆ อยากรู้ว่า เด็กพันธุ์นรกสั่งลุย จะมีภาคต่อเมื่อไหร่

ตรงไปตรงมาว่าตอนนี้ยังไม่มีเลขวันตายตัวสำหรับภาคต่อของ 'เด็กพันธุ์นรกสั่งลุย' แต่มีสัญญาณที่ช่วยให้เราประเมินได้ว่าจะเร็วหรือช้า

1. แหล่งเนื้อหา: ถ้ามังงะยังไม่พอ ทีมงานต้องรอให้ต้นฉบับเดินหน้า ในหลายกรณีเช่น 'One Punch Man' การรอคอยสำหรับงานภาคต่อถูกขยายเพราะจังหวะการผลิตของมังงะ

2. ยอดขายและสตรีมมิ่ง: แพลตฟอร์มที่ซื้อสิทธิ์หรือยอดขาย BD/DVD เป็นตัววัดความคุ้มทุน ถ้าตัวเลขดี มีโอกาสประกาศเร็ว

3. ตารางสตูดิโอและคนทำ: ถ้าคนทำหลักติดงานอื่น เวลาจะล่าช้า เหตุการณ์คล้ายกันเกิดขึ้นกับหลายเรื่องใหญ่ ๆ อย่าง 'The Promised Neverland' ที่ช่วงเวลาระหว่างซีซันสะท้อนการจัดตารางงาน

โดยสรุป ผมมองว่าในกรณีปกติแฟน ๆ ควรเตรียมใจว่าถ้าภาคต่อจะมี มักจะเห็นการเคลื่อนไหวอย่างชัดเจนภายใน 1–3 ปีหลังจากซีซันก่อนหน้า หากมีข่าวดีปรากฏ มันจะเริ่มจากการต่อสัญญาแบบเป็นทางการหรือการประกาศทีมงานก่อนเป็นลำดับแรก ซึ่งนั่นแหละคือสัญญาณให้เฮแบบมีเหตุผล

พอเห็นชื่อ 'เด็กพันธุ์นรกสั่งลุย' ปรากฏในหน้าฟีดก็อดคิดไม่ได้ว่าสถานะภาคต่อจะเป็นอย่างไร เพราะงานหลายชิ้นที่ชอบมักถูกกำหนดโดยปัจจัยที่ซับซ้อนไม่ใช่แค่ความอยากของแฟนคลับเท่านั้น

ปัจจัยสำคัญอย่างแรกคือปริมาณและจังหวะของเนื้อหาต้นฉบับ ถ้ามังงะหรือไลท์โนเวลยังเดินหน้าไม่เร็วพอ สตูดิโอก็มักจะต้องรอให้มีเนื้อหาเพียงพอก่อนผลิตซีซันต่อไป ผมเคยเห็นกรณีแบบนี้จาก 'Made in Abyss' ที่การกลับมาของโปรเจกต์ถูกขยับเพราะต้องรอจังหวะทางเนื้อหาและการจัดสรรทรัพยากรการผลิต นอกจากนี้ยอดขายแผ่น บริการสตรีมมิ่ง และไลน์สินค้าที่ตามมามีผลต่อการตัดสินใจ ถ้าตัวเลขเหล่านี้ไม่โดดเด่น สตูดิโออาจเลือกไปชุบชีวิต IP ที่ให้ผลตอบแทนเร็วกว่า

อีกปัจจัยที่ผมให้ความสนใจคือทีมงานและตารางงานของสตูดิโอ บางทีผู้กำกับเดิมหรือทีมออกแบบตัวละครอาจไม่ว่าง ทำให้การต่อซีซันต้องชะงักไปเป็นปี ๆ อย่างกรณีที่ 'Kaguya-sama: Love is War' เคยมีช่องว่างระหว่างซีซันเพราะทีมเบื้องหลังต้องปรับตัวและรวบรวมทรัพยากรใหม่ เรื่องนี้สะท้อนว่าการขอภาคต่อไม่ได้หมายความว่าจะเกิดขึ้นทันทีแม้แฟน ๆ จะเรียกร้องหนักหนา

สรุปในเชิงเวลา ถ้ามีการประกาศอย่างเป็นทางการ มักจะเห็นระยะเวลาเตรียมการอย่างน้อย 6–12 เดือนก่อนประกาศผลิต และหลังประกาศอีกประมาณ 12–24 เดือนสำหรับการผลิตแบบคุณภาพปานกลางถึงสูง แต่ถ้าต้องรอเนื้อหาต้นฉบับหรือเผชิญอุปสรรคทีมงาน ระยะเวลาก็ยืดไปได้ถึงสองถึงสี่ปี ผมเองจึงมองว่าควรติดตามสัญญาณเช่นการต่อสัญญาสตรีม รายงานยอดขาย หรือข่าวว่าทีมงานเริ่มรวมตัว เพราะนั่นมักเป็นสัญญาณแรก ๆ ว่าภาคต่ออาจจะมา การรอคอยไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องน่าเบื่อเสมอไป เมื่อมีการประกาศก็จะสนุกและคุ้มค่ากว่าถูกผลักดันมาแบบรีบ ๆ